ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Yaoi is God..Yaoi Fiction

    ลำดับตอนที่ #70 : ยอมจำนนฟ้าดิน BLEACH BYAREN

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.56K
      2
      10 ต.ค. 52

    ยอมจำนนฟ้าดิน
    BLEACH FICTION
    BYAKUYA X RENJI 

    ใช่แล้วไม่ต้องขยี้ตา เบียเร็น!!!!
    แม้ข้าน้อยจะไม่เคยเห็นเศษเสี้ยววววววความเป็นเคะของเร็นจิก็เถอะ 
    แต่มีรุ่นน้องขอมา..ก็เลย..
    ขอแค่เป็นฟิคบลีช ข้าน้อยจะตั้งใจแต่งและสร้างสรรค์มันขึ้นอย่างเต็มที่..



    ****************************************************

    เพราะว่าดวงจันทร์ อยู่สูงเกินกว่าที่วานรจะไขว่คว้า..

    เพราะว่าดวงจันทร์ ส่องแสงให้ทุกสรรพสิ่งบนโลกได้มองเห็น 

    วานรจึงได้แต่คิดว่า

    อีกไม่นาน..ดวงจันทร์ก็จะยอมลงมาที่พื้นดิน

    แต่ทุกครั้งที่ดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้ายามราตรี..มักจะดูงดงามอยู่เสมอ..

    วานรจึงยอมรับว่า ไม่มีทางที่จะดิ้นรนและดันทุรังไขว่คว้าเอาสิ่งๆนั้นลงมา..




    ยอมจำนนต่อฟ้าที่ได้ครอบครองดวงจันทร์ 

    ยอมจำนนต่อดินที่ได้รับแสงจากดวงจันทร์แต่โดยดี..


    ถ้าเปรียบได้ว่า ท่านคือดวงจันทร์

    ข้าก็จะยอมเป็นวานรที่เฝ้ามองดวงจันทร์อยู่อย่างนี้..

    ข้าขอโทษครับ..ขอโทษที่หมายปองว่าจะอยู่เคียงกาย..ข้าขอโทษ


    "เจ้ามาทำอะไรตรงนี้ เร็นจิ"
    เสียงเข้มของหัวหน้าหน่วยดังขึ้น 
    ท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเหน็บของหิมะที่โปรยปรายไม่ยอมหยุดลง

    "ข้ามารอท่านครับ"
    เสียงหวานที่ตัดกับใบหน้าของคนพูด ซึ่งตอนนี้แดงระเรื่อเพราะว่าถูกอากาศหนาว

    "เจ้าก็น่าจะรู้ว่า ประชุมหน่วยมันนาน"
    เสียงที่ดูเหมือนจะต่อว่าร่างบางแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม 
    เมื่อเสื้อคลุมสีดำขลับถูกส่งลงมาบนไหล่มน

    "หัวหน้า..เดี๋ยวท่านจะหนาว คือ.."
    จะเถียงก็ทำไม่ได้ เมื่อร่างสูงเดินนำไปซะแล้ว เขารู้หน้าที่ 
    เร็นจิรู้ดีว่าหัวหน้าไม่ต้องการแบบนั้น

    "จะยืนอยู่ตรงนั้นรึไง"
    เบียคุยะเอ่ยเสียงเบา

    แม้ว่าดวงจันทร์นั้นจะดูงดงาม แต่ไม่หยิ่งในความงามของตน

    บางครั้ง...ดวงจันทร์ก็ยิ้มให้วานร แต่พอรุ่งสาง..รอยยิ้มนั่นก็ หายไป..





    ย้อนไปเมื่อ 1 ปีก่อน..


    ร่างบางผมสีเพลิงแดงงดงามเดินเข้ามาห้องทำงานของหัวหน้าในยามบ่ายของวันหนึ่ง

    "หัวหน้าคุจิกิ..ครับ"
    เสียงหวานเรียกหัวหน้าด้วยความสดใสร่าเริงผิดปกติ

    "มีอะไรเร็นจิ"
    เสียงที่ได้รับกลับมานั้นเรียบซะจนน่ากลัว แต่หาได้มีผลกับร่างบางไม่ 
    เพราะตอนนี้เรื่องดีๆที่คับอยู่ในอก

    "ผมรักท่านครับ.."
    เสียงที่เคยสดใสเนื่องจากเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ 


    กลับดูอ่อนลงเมื่อได้รับคำตอบกลับมา..

    "อย่าไร้สาระ เจ้ากับข้าฐานะต่างกัน..ไม่มีใครจะยอมรับได้หรอก 
    ทั้งคนในตระกูลของข้า รวมกระทั่งตัวข้าด้วย"

    เพียงเท่านี้ หัวใจของวานรเพลิงที่เคยพองโตก็หักลง 
    รอยร้าวเล็กๆเริ่มจะแตกแยกออกจากกัน





    อย่างน้อย ก็ขอให้ข้าได้หวังซักนิด..

    อย่างน้อยก็อย่ารังเกียจข้า

    อย่างน้อยก็อย่าห่างจากข้าไปเลย..






    ข้าจะไม่โทษว่านั่นเป็นความผิดของตระกูลคุจิกิ


    ข้าจะไม่โทษว่านั่นเป็นความผิดของท่าน





    อยากต่อว่าฟ้าดิน ที่ให้เราพบเจอ แต่ไม่ยอมจับเราคู่กัน





    หนึ่งปีที่ข้าทรมาณ..



    เพราะไปจากท่านไม่ได้

    เพราะขาดท่านไม่ได้



    ฟ้าดินจงใจแกล้งเรา ท่านว่ารึเปล่า..


    แสงแดดอ่อนๆของดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์บอกว่า..
    เช้าของวันเจ็บปวดได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

    ร่างบอบบางของเร็นจิยันตัวขึ้นจากที่นอนสีขาว ช่างเป็นเช้าที่ไม่โสภาเอาซะเลย

    หิมะที่ตกลงมาเรื่อยๆ ทำให้วันที่อยากให้สดใสกลับหมองหม่นอย่างช่วยไม่ได้

    "อ๊ะ..งานตอนเช้าของหัวหน้า"
    เร็นจิรีบเร่งทำกิจภาระส่วนตัว ก่อนจะไปหาหัวหน้า..ทันที


    ไม่สนว่าจะหนาวแค่ไหน

    ไม่สนว่าทุกคนจะมองยังไง

    ไม่สนว่า..ฟ้าดินจะปรามอย่างไร

    เพราะว่าวานรก็ยังต้องการดวงจันทร์อยู่ดี





    "ให้ตายเถอะ เจ้าอาบาราอิ ชักจะลามปามไปใหญ่แล้วนะ.."

    "นี่มันหวังว่าจะเคียงข้างหัวหน้าคุจิกิได้รึไง"

    "ไม่เจียมตัวเอาซะเลย"

    "แต่ก็นะ ปล่อยให้เจ็บเองเถอะ แล้วจะรู้เอง"

    "ห้ามก็ห้ามไม่ได้หรอก"

    "ถึงจะน่าสงสารก็เถอะ.."





    ข้ารู้..รู้สิว่าเจ็บแล้วมันเป็นยังไง..

    แต่ข้าตัดใจไม่ได้ต่างหาก

    ถึงแม้หัวหน้าจะไม่ต้องการข้าก็ตาม




    ทำไมนะ ต้องห้ามรักกัน ความเหมาะสมน่ะหรือ ที่ยืนยาว

    ถึงในใจมันค้าน สุดท้ายต้องยอมจำนน




    "หะ...หัวหน้าครับ..งานเช้าวันนี้ มีอะไรให้ข้าช่วย..."

    รอยยิ้มนั่นไม่ได้ต่างจาก หนึ่งปีก่อนเลย


    "ขอบใจเจ้ามากเร็นจิ..แต่งานข้าเสร็จแล้วล่ะ"


    เบียคุยะตอบเสียงเรียบ เขาดีใจที่ร่างบางมาแต่ก็แสดงออกมาไม่ได้

    เพียงเพราะว่า เมื่อปีก่อนนั้น เขาหักหลังร่างบางด้วยคำพูด

    มองจากสีหน้าตอนนั้น ก็รู้ว่า ร่างบางเจ็บปวดใจแค่ไหน


    อ้างถึงฐานะว่าแตกต่างกัน เพราะตอนนั้นเขายังสนใจสายตาของคนรอบข้างอยู่


    เจ้ากับข้าฐานะต่างกัน..ไม่มีใครจะยอมรับได้หรอก 
    ทั้งคนในตระกูลของข้า รวมกระทั่งตัวข้าด้วย



    เขารู้สึกดีใจ..

    ดีใจที่เร็นจิไม่ไปไหน

    ดีใจที่ยังพูดคุยได้อย่างเดิม


    แต่ก็เสียใจ ที่ไม่สามารถทำให้ร่างบางหายเจ็บปวดได้


    "งั้นหรอครับ.."
    ร่างบางตอบ ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่า ตัวเร็นจินั้นรู้สึกผิดที่มาช่วยอะไรหัวหน้าไม่ทัน


    "อย่าใส่ใจเลยเร็นจิ..งานเพียงเล็กน้อย ข้าแก้คนเดียวได้ ไม่ต้องมาช่วยข้าหรอก"
    เพียงแค่อยากจะปลอบด้วยคำพูดก็ทำไม่ได้

    "ครับ..งั้นข้าขอตัว"
    เร็นจิว่าเบาๆ ก่อนจะพาร่างบอบบางและชอกช้ำออกจากห้องไป..

    "เร็นจิ.."
    อยากจะรั้งไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว..ร่างสูงสบถเบาๆในลำคอก่อนจะมองเอกสารในมือ

    เอกสารการย้ายหน่วย..





    ก่อนถนนของเราแยกกัน

    ก่อนความฝันของเราสิ้นลง

    แค่อยากพบกับเธอสักหน สบตาอีกครั้ง..



    "ข้ารักเจ้า.."




    แค่ให้ชั้นได้บอกเธอซักคำ พูดในวันที่จำต้องจาก

    อยากให้รู้ว่ารักเธอมาก และจะรักรักเธอตลอดไป

    เกิดชาตินี้แค่ได้พบเจอ เกิดชาติหน้าค่อยฝันกันใหม่

    วันนี้ใจสลาย..ยอมจำนนให้ฟ้าดินแยกเราไกลกัน


    *โลกมนุษย์*

    "เห้ย! เร็นจิ แกจะทำหน้าเป็นหมาอดข้าวอีกนานมั้ยฟระ!!"
    ร่างสูงหัวสีส้มตวาดลั่นดาดฟ้าของโรงเรียน
     เรียกให้เพื่อนๆที่อยู่รายรอบเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    "อิจิโกะ นายว่าอะไรเร็นจิห๊ะ!"
    เสียงเข้มของสาวตัวเล็กตวาดกลับไปบ้าง

    "ก็ดูมันทำหน้าเด้!! อยากทำให้เพื่อนลำบากใจมากรึไง!"
    ไม่ลดละความพยายาม อิจิโกะตวาดคนที่อยู่ในภวังค์แห่งความเจ็บปวดอีกครั้ง

    "พอได้แล้วน่า อิจิโกะ"
    เสียงของแช๊ดที่ฟังอยู่เงียบๆมานานเอ่ยขึ้น

    "อย่ามาห้ามเลยแช๊ด ไอหมอเนี่ยใช่เร็นจิที่เรารู้จักซะที่ไหน!"
    อิจิโกะพาลเพื่อนอย่างอารมณ์เสีย

    "คุโรซากิคุง..คนเรามันก็ต้องมีเรื่องกลุ้มใจกันมั่งแหละ อย่าไปว่าเร็นจิคุงเลยนะ"
    เสียงของอีกหนึ่งสาวดังขึ้น ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำตาเล็กน้อย
     เนื่องจากทนเห็นเพื่อนทะเลาะกันไม่ได้..

    "มันทนไม่ได้เว้ย!"
    ว่าแล้วก็กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ก่อนจะง้างหมัดขึ้น

    "?"

    เสียงเปิดประตูดาดฟ้าทำให้ทุกอย่างหยุดลง 
    สายตาทั้งหมดจับจ้องไปยังกระดาษที่ปลิวตามสายลมอ่อนๆ
    หยุดที่ปลายเท้าของเด็กหนุ่มหน้าหวานสวยที่เพิ่งเดินขึ้นมา

    "เอ...เอกสารการย้ายหน่วย.."
    ร่างบางอ่านก่อนจะหยิบส่งคืนให้เจ้าของ

    "พอได้แล้ว คุโรซากิ.."
    ทั้งแช๊ด ลูเคีย อิโนะอุเอะ ต่างก็หวังว่า 
    คำพูดของคนๆนี้จะหยุดร่างสูงที่กำลังเกรี้ยวกราดได้

    มือเล็กๆเรียวขาวของร่างบางกุมมือที่จับคอเสื้ออยู่ก่อนจะพูดเบาๆ

    "นะ ขอร้อง.."

    เพียงแค่คำเดียว มือแกร่งก็ปล่อยคอเสื้อออก

    "เห๊อะ..เพราะนายขอร้องหรอกนะ อิชิดะ.."
    อิจิโกะสบถอย่างอารมณ์เสีย

    "อาบาราอิคุง..รู้รึเปล่าว่า บางครั้งการยอมรับความจริงก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป..
    เดินข้ามกฏเกณฑ์ที่ทำให้ลำบากใจซะบ้าง ถึงแม้มีใครด่าเราว่า 
    ไม่เจียม แต่ถ้ายอมรับคำนั้นแล้วไม่ทำอะไร
    คำพูดที่ถูกกล่าวหาก็เป็นจริง แต่ถ้าก้าวข้ามเส้นที่คนอื่นเป็นผู้ขีดเขียนไว้ 
    จะสมหวังหรือ ผิดหวัง คนที่พยายามก็คือเรานะ.."

    "ฮึก.."
    สิ้นคำพูดของอิชิดะ 
    ร่างของเร็นจิก็ทรุดตัวลงกับพื้นน้ำตาที่ยากจะเห็นก็หลั่งไหลลงมาเรื่อย
    พร้อมกับเสียงสะอื้น

    ไม่มีใครว่าอะไรทั้งนั้น บางทีความเงียบ..มันอาจจะทำให้ใจสงบลงได้



    พอใจแล้วใช่มั้ยฟ้าดิน

    ที่ได้เห็นว่าคนต้อยต่ำ มันต้องเจ็บต้องช้ำ ต้องน้ำตาตก

    โลกใบนี้มีคนมากมาย ทำไมต้องเป็นเราสองคน ยอมจำนนให้แล้วหวังว่าคงพอใจ






    เอกสารนั่น..เขาได้รับมาเมื่อเช้า หลังจากกลับไปที่บ้าน

    เอกสารที่มาพร้อมกับหัวใจที่แหลกสลาย

    ข้าเข้าใจแล้ว ขอข้าร้องไห้อยู่อย่างนี้เถอะครับ หัวหน้าคุจิกิ..

    ได้โปรดเถอะครับ รับรองข้าจะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ..

    ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของท่านอีกแล้ว

    ข้าจะยิ้ม..

    ข้าจะยิ้มให้ท่านเหมือนเดิมทุกอย่าง


    แต่ก่อนข้าจะจากท่านไป..ขอข้าพูดมันอีกซักครั้งได้มั้ย..

    เร็นจิวิ่งลงจากดาดฟ้าโดยไม่ร่ำราใดๆทั้งสิ้น

    จะสมหวังหรือ ผิดหวัง คนที่พยายามก็คือเรานะ




    ขอบคุณนะ..ทุกคน..

    ขอบคุณนะ ลูเคีย

    ขอบคุณนะ ชาโดะ

    ขอบคุณนะ อิโนะอุเอะ

    ขอบคุณนะ..อิจิโกะ

    ขอบคุณนะ.. อิชิดะ..


    เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น ทุกคนต่างแยกย้ายลงไปที่ห้อง

    ที่ดาดฟ้าเหลือเพียงคนสองคนที่ยืนอยู่ที่เดิม

    คนนึงเฝ้ามองร่างของเร็นจิจนลับตา

    อีกคนเฝ้ามองร่างบอบบางของคนรักอย่างเคืองๆ

    "นี่อิชิดะ..."

    "หืม.."

    "ชั้นรักนายนะ.."

    "เอ๊ะ..."

    "..."

    "อืม..ผมก็เหมือนกัน.."





    *โซลโซไซตี้*

    ข้าขอโทษ..เร็นจิ


    ครืด...

    เสียงเปิดประตูที่ไม่เบานักเล่นเอาเจ้าของห้องสะดุ้ง
     แต่สีหน้าและอาการยังนิ่งสนิทเช่นเคย

    "เร็นจิ มารยาท"
    น้ำเสียงฟังดูราบเรียบเช่นเคย แต่หัวใจตอนนี้ชุ่มชื้นที่ได้เห็นหน้าของร่างบางอีกครั้ง

    "หัวหน้าครับ..ข้า.."



    ก่อนถนนของเราแยกกัน

    ก่อนความฝันของเราสิ้นลง

    แค่อยากพบกับเธอสักหน สบตาอีกครั้ง..


    "มีอะไรรึ"

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าจะพูดว่าอะไร

    เร็นจิ...

    "ข้ารักท่านครับ"




    แค่ให้ชั้นได้บอกเธอซักคำ พูดในวันที่จำต้องจาก

    อยากให้รู้ว่ารักเธอมาก และจะรักรักเธอตลอดไป

    เกิดชาตินี้แค่ได้พบเจอ เกิดชาติหน้าค่อยฝันกันใหม่

    แต่ว่า..ข้าคงจะยอมรับมันไม่ได้อยู่ดี

    "เจ้านี่พูดไม่รู้ฟัง..ข้าเคยบอกไปแล้วว่า.."

    "เจ้ากับข้าฐานะต่างกัน..ไม่มีใครจะยอมรับได้หรอก 
    ทั้งคนในตระกูลของข้า รวมกระทั่งตัวข้าด้วย!!
    ข้ารู้..หัวหน้าครับ ฮึก.. ข้ารู้ดี ..ข้าขอโทษที่ก้าวข้ามฐานะนั่น 
    ข้าขอโทษที่หยุดหัวใจให้รักท่านไม่ได้..ฮึก..
    ก่อนที่เราจะแยกกันเท่านั้น..มีเพียงแค่ตอนนี้เท่านั้น..
    ข้าอยากจะบอกกับท่านว่า ความรู้สึกของข้า ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
    ฮึก..ข้ารัก..ข้ารักท่าน..รักจนโดนกล่าวว่าต่างๆนาๆ 
    แต่ข้าก็ไม่รู้สึกเจ็บ..ขอเพียงแค่ได้บอกท่านเท่านั้น
    ข้ายอมแล้ว ข้ายอมจำนนกับฐานะของเราทั้งคู่แล้ว ท่านน่ะเป็นถึงดวงจันทร์ 
    ไม่มีวันลงมาหาวานรผู้ต่ำต้อยอย่างข้าได้หรอก
    ข้าเข้าใจดี..ฮือ.. "
    พรั่งพรูไปด้วยความรู้สึก..คำพูดที่ออกมาอย่างยากเย็นเนื่องจากร้องไห้ 
    ทำให้ร่างสูงรู้สึกผิด..

    วันนี้ใจสลาย..ยอมจำนนให้ฟ้าดินแยกเราไกลกัน


    "เร็นจิ.."

    "อ๊ะ..ตายละ ข้าขอโทษ.."
    เร็นจิถอยออกจากห้องนั่น..เล็กน้อย..

    "เร็นจิ"

    เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ถึงอ้อมกอด

    บรรยากาศตอนนี้หนาวรึเปล่านะ?

    ข้าไม่รับรู้เลย ข้ารู้เพียงแต่ว่า..ตอนนี้ข้าอุ่น..อุ่นเหลือเกิน...

    "หัวหน้า.."
    เสียงอู้อี้ในอ้อมกอด

    "ข้าไม่ต้องการเห็นน้ำตาของเจ้า..ข้าขอโทษเร็นจิ.."

    เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ถึงจูบที่แสนหวาน..

    "ข้ารักเจ้า"



    แค่ให้ชั้นได้บอกเธอซักคำ พูดในวันที่จำต้องจาก

    อยากให้รู้ว่ารักเธอมาก และจะรักรักเธอตลอดไป

    เกิดชาตินี้แค่ได้พบเจอ เกิดชาติหน้าค่อยฝันกันใหม่

    วันนี้ใจสลาย..ยอมจำนนให้ฟ้าดินแยกเราไกลกัน


    "อรุณสวัสดิ์ครับหัวหน้า"

    "อืม..อรุณสวัสดิ์"

    "วันนี้มีประชุมหัวหน้าหน่วยด้วยนะครับ"

    "งั้นรึ ขอบใจเจ้ามาก อิซุรุ"


    *ห้องประชุมหน่วย*


    "กล่าวสรุปผลงานด้วย อาบาราอิ"

    "หัวหน้าหน่วยที่4 อาบาราอิ เร็นจิครับ ..............................................................."


    แม้ดวงจันทร์จะลงมาต่ำเรียบกับผิวน้ำ

    สุดท้ายก็ต้องขึ้นไปสูงบนนภาอยู่ดี..




    คนรักกัน ใยฟ้าดินถึงไม่เข้าใจ..

    END..

    BLEACH FICTION

    ยอมจำนนฟ้าดิน


    TALK: //หลบรองเท้าเหล่าแฟนคลับ- - เอิ๊กส์ ห้าห้าห้า
    (หัวเราะทำไมเค้าเศร้ากัน อินนี่นิ!- -+)
    นั่นสิ คนรักกันใยฟ้าดินถึงไม่เข้าใจ เอิ๊กส์ ข้าน้อยสาวกเร็นเบียนะ..แต่ว่า 
    อิรุ่นน้องคนนี้มันโรคจิต
    คิดดู มันจิ้น เบียเร็น โทชิโร่งิน- -+ เอาน่าๆ

    หญิง ธิติกานต์ - ยอมจำนนฟ้าดิน .
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×