ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are Family! (?) [คลังตัวละคร]

    ลำดับตอนที่ #5 : DIABOLIK LOVERS | 彼岸花 [โรเรนโซ่ อมอเรย์]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 59




    Maybe I want believe 
    I'm strong

    But look at me now 

    Just stop crying...

    I can't yet do it.

    [บางที ฉันก็อยากเชื่อว่า ฉันเข้มเเข็ง

    แต่ดูตัวฉันตอนนี้สิ

    แค่หยุดร้องไห้...

    ฉันยังไม่สามารถทำมันได้เลย]

    _______________________________
     
     
    REGISTRATION FORM
     
     
     
    "ถึงสิ่งที่ฉันเชื่อมันจะดูไร้สาระ แต่ขอร้องล่ะค่ะ ได้โปรด..อย่าเหยียบย่ำมันเลยนะคะ.."

     
     
    นามสกุล - ชื่อ : โรเรนโซ่ อมอเรย์ [Lorenzo Amore]
                             *เป็นชื่อภาษาอิตาลีค่ะ โดยคำว่า อมอเรย์ นั้นสามารถแปลได้ว่า ความรัก*

     
    ชื่อเล่น : เรนซ์ [Renz] 
     

    สัญชาติ : อิตาลี

     
    อายุ : 17 ปี

     
    ลักษณะภายนอก : โรเรนโซ่ หรือ เรนซ์ คือเด็กสาววัย17ปี เจ้าของใบหน้าหวานซึ้งราวกับตุ๊กตาตัวน้อยราคาเเพงที่ตั้งโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ และให้ความรู้สึกน่าปกป้องน่าถนุถนอมเป็นที่สุด โรเรนโซ่นั้นมีโครงหน้ารูปไข่มลสวยน่าหลงใหล ล้อมกรอบด้วยเส้นผมฟ้าอมน้ำเงินยาวสลวยถึงกลางหลังนุ่มมือคล้ายกับเเพรไหมชั้นเลิศ ดวงตากลมโตสีครามโดดเด่นบนเรือนหน้า ที่มักสั่นระริกมักเคลือบด้วยหยาดน้ำสีใสสื่อถึงความหวาดกลัวต่อสิ่งรอบข้าง ประดับด้วยแพขนตาหนางอนเรียงเป็นแพสวย คิ้วบางสีเดียวกับเส้นผมรับกับจมูกเล็ก ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่าจุมพิตสีชมพูระเรื่อ พวงแก้มเนียนขาวสีเนื้อนวลตาปรากฏเลือดฝาดอย่างพองาม ผิวกายราวกับน้ำนมล้ำค่า ทั้งยังนุ่มนิ่มน่าสัมผัสแต่กลับปรากฏรอยแผลเป็นจ้ำดวงใต้เรือนผ้า โรเรนโซ่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่หอมหวานราวกับดอกกุหลาบ เธอมีรูปร่างติดไปทางผอมบางเล็กกะทัดรัด กอดพอเหมาะมือ ด้วยส่วนสูง156ซม. กับน้ำหนัก40กก. เเละสัดส่วนความเป็นสาวที่ไม่มากเกินวัย รวมกันเป็นภาพลักษณ์ราวกับเจ้าหญิงบนยอดหอคอยแสนบอบบาง ที่หากว่าสัมผัสเธอเเรงเกินไป ร่างกายนั้นอาจเเตกสลายลงราวกับแก้วใสก็เป็นได้ 


     
    อุปนิสัย : 
                   โรเรนโซ่ อมอเรย์ คือเด็กสาวที่ดูแล้วมีบุคลิกเหมือนกับชิวาว่าตัวน้อย ผู้หวาดกลัวต่อสิ่งรอบข้างไปเสียหมด เธอเป็นสาวที่ดูขี้อาย ขี้กลัวมากกว่าคนไปหลายเท่าตัว ทั้งหน้าตาที่ชอบแสดงสีหน้าคล้ายจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ดวงตาที่มักเคลือบด้วยหยาดน้ำสีใสจวนเจจะหลั่งริน หรือแม้แต่ท่าทางไม่มั่นใจในอะไรเลยของเธอก็ตามที่ บางทีคุณอาจจะจินตนาการคิดถึงเด็กสาวน่ารักน่าหยิก แต่กับโรเรนโซ่นั้น ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียเถอะ เพราะนอกจากเธอจะไม่ได้น่ารักน่าหยิกแล้ว เธอยังออกเเนวสาวน่ารำคาญคนหนึ่งอีกด้วย เพราะตัวโรเรนโซ่นั้นขี้แยเป็นอย่างมาก เธอสามารถร้องไห้ได้ง่ายๆ กับเรื่องจิ๊บจ๊อยอย่างการโดนตะคอกใส่ หรือกดดันด้วยสายตา แม้แต่สะดุดล้มกลิ้งเป็นลูกขนุนโรเรนโซ่ยังเบะปากเตรียมร้องไห้ได้เลย คิดดูเถอะ ว่าผู้หญิงที่ขี้แยขนาดนี้ หากคุณไปอยู่ใกล้ๆ ตัวเธอแล้วจะรู้สึกเช่นไร
                   โรเรนโซ่เป็นสาวขี้กลัวอย่างมาก ของสยองขวัญ น่าเกลียด น่าขยะแขยง สัตว์มีพิษ ป่าช้า ผี เธอก็กลัวหมดนั่นแหละ เรียกได้ว่าสิ่งที่เธอกลัวมีมากมายจนเเทบลิสต์ออกมาเป็นรายการไม่หมดเลยทีเดียว แต่หากกล่าวถามว่าโรเรนโซ่นั้นหวาดกลัวคนจำพวกไหน เธอคงตอบว่าเธอกลัวคนท่าทางอันตราย เสียงดัง ใจร้าย ดูดุดันตลอดเวลานั่นแหละ โรเรนโซ่ไม่ถูกฉโลกกับเสียงอันดังกึกก้อง อย่างที่บอกว่าเธอสามารถร้องไห้ได้ง่ายๆ เพียงแค่เพราะว่าตะคอกใส่เธอ นั่นเพราะมันทำให้เธอตกใจกลัวไงล่ะ หล่อนเป็นพวกตกใจง่ายเป็นพิเศษ อย่าโผล่ไปทักทายเธอแบบเอ็ดวานซ์เลย นั่นมันไม่ดีต่อทั้งเธอและคุณเลยนะ เพราะนอกจากจะทำโรเรนโซ่ตกใจแล้ว เธอยังจะทำหูคนทักทายดับด้วยการกรี๊ดเต็มเสียง สะดุ้งโหยงเผลอฟาดมือใส่คุณเต็มแรงจนหน้าหันอีกต่างหาก โรเรนโซ่เห็นดูบอบบางแบบนี้แต่แรงเยอะมากเลยทีเดียว เพราะงั้นอย่าให้พูดถึงสภาพคนโดนฟาดเลยดีกว่านะ..
                   โรเรนโซ่แม้มือหนักเท้าหนัก แต่ว่าไม่ใช่พวกชอบใช้กำลัง ตรงกันข้าม โรเรนโซ่เป็นพวกชอบความสงบสุข เธอไม่อยากมีเรื่องกับใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม โรเรนโซ่ไม่สู้คน และไม่เถียงใคร เวลาโดนต่อว่าหรือขัดความคิด เธอจะทำเพียงก้มหน้ารับท่าทางเหมือนหมาหงอย แต่ถ้าต่อว่าอย่างแรงอาจจะเห็นน้ำตาคลอเบ้าได้ในเวลาต่อมา..นั่นเพราะเธอกลัวยังไงล่ะ โรเรนโซ่ไม่กล้าขัดใจคนอื่น เพราะเธอกลัวว่าถ้าเธอทำแบบนั้นเขาจะโกรธ แล้วมาทุบตีทำร้ายเธอ เด็กสาวไม่ชอบความเจ็บปวดดังนั้นจึงกลัวที่จะโดนลงโทษด้วยความรุนแรงเสมอ เธอเลยไม่อยากมีปากมีเสียงกับใคร พยายามทำตัวจืดจาง ไม่ให้เป็นที่สนใจและหลบเนียนๆ ไปอยู่มุมห้องคนเดียวประจำ นอกจากนี้เด็กสาวยังเป็นพวกห่วงชาวบ้านเขาเกินความจำเป็นด้วย เวลาเห็นใครเจ็บ ก็ชอบกระวีกระวายเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยสกิลแม่บ้านบวกความแรงเยอะ หากเห็นคนนอนสลบเหมือดเป็นลมอยู่ เธอก็สามารถเเบกเขาไปนอนพัก แล้วจัดให้นอนดีๆ ก่อนจะวิ่งไปตามคนมาช่วยได้อย่างรวดเร็ว
                     โรเรนโซ่ความจริงเป็นคนมีความสามารถในด้านงานบ้านงานเรือน งานฝีมือพวกนี้มาก เรียกได้ว่าเข้าขั้นระดับเซียน แต่หากให้เธอไปทำอะไรแบบนี้ให้ใคร โรเรนโซ่จะขอปฏิเสธไว้ก่อนเลย ไม่ใช่ว่าเธอขี้เกียจหรือไม่อยากทำอะไร เธอเพียงแค่ไม่มั่นใจในตัวเองเลยก็เท่านั้น โรเรนโซ่กลัวว่าเธอจะทำของของเขาพัง หรืออาจทำให้คนที่เธอดูแลอาการหนักลงกว่าเดิม กลัวว่าหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้น เธอจะต้องรับความซวยและผลลัพธ์อันเลวร้ายนั้นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เธอกลัวที่ผิดพลาด และต้องรับโทษนั่นเอง เพราะแบบนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรเองสักอย่างยังไงล่ะ เธอจำเป็นต้องปรึกษาคนอื่นก่อนเสมอ ถามทุกครั้งที่จะทำอะไร ว่าอย่างนี้ดีไหม? ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า? หรือต่อให้คุณบอกเธอว่าอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ โรเรนโซ่จะหายไปสักพัก เเล้ววิ่งกลับมาหาคุณว่า อย่างนี้ทำได้ไหมคะ? อยู่ดีนั่นแหละ..โรเรนโซ่เป็นสาวขี้ลืม ความจำสั้นพอตัวเลยทีเดียว ดังนั้นสั่งอะไรแล้วต้องคอยย้ำกับเธอบ่อยๆ ด้วยล่ะ
                   โรเรนโซ่แท้จริงแล้วเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์และหลากหลาย เธอเป็นคนช่างสังเกตแอบฉลาดเล็กน้อย เด็กสาวมักมองเห็นทางแก้ปัญหาที่คนอื่นมองไม่เห็นเสมอ จะบอกว่าเป็นพวกคิดแปลกแยกแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีก็ถือว่าถูกล่ะนะ แต่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้มากนักหรอก เพราะภาพลักษณ์ดูเป็นสาวหัวอ่อนเชื่อคนง่าย คล้ายจะโง่แบบแปลกๆ ทั้งนอกจากนี้ตัวโรเรนโซ่เองยังเป็นพวกไม่กล้าเสนอความคิดเห็นอีกด้วย เธอมักกลัวเสมอว่าความคิดของเธอมันจะผิด แล้วเธอจะต้องถูกต่อว่า เพราะงั้นเวลามีอะไร โรเรนโซ่เลยเก็บเงียบไว้กับตัว ไม่บอกใครเลยสักคน หากสังเกตหน่อยล่ะก็จะเห็นได้ว่าหล่อนกำลังทำสีหน้าลำบากใจ คล้ายมีเรื่องอยากจะพูด แต่ถ้ารอให้เปิดปากเอง รับรองว่าชาติหน้าก็ไม่ได้ฟังหรอก หากคาดคั้น ตอนแรกโรเรนโซ่จะปฏิเสธอย่างสุภาพแฝงความกลัวตามสไตล์ของเธอ แต่ถ้ากดดันเธอต่ออีกสักหน่อย มันจะหลุดออกมาจากปากของเธออย่างง่ายดายเช่นกัน 
                   โรเรนโซ่หัวอ่อนและเชื่อคนง่ายจริงๆ นั่นแหละ เธอจะทำตามที่คุณสั่งทุกอย่างหากคุณบอกว่ามันดี หรือถ้าไม่อยากทำอะไรแบบนั้น ก็ตะคอกสั่งไม่ก็บีบบังคับเธอซะสิ แต่แบบหลังอาจจะมีเรื่องให้หงุดหงิดใจเล่นสักหน่อยล่ะนะ..โรเรนโซ่ไม่ชอบความกดดันและการโดนบังคับ เเต่เธอไม่สามารถปฏิเสธทุกคำขอและคำสั่งของคนอื่นได้ กระนั้นก็มีเทคนิคท่วงเวลาทำท่าให้ชาวบ้านเขาเห็นใจเช่นกัน โรเรนโซ่เวลาโดนบังคับจะทำท่าอึกอัก คล้ายจะเถียงหรือปฏิเสธคำพูดนั้น ดวงตาคลอหน่วงด้วยหยาดน้ำตา มองรวมๆ แล้วดูน่ารักเหลือหลาย หากใจไม่แข็งพอจริงๆ คนสั่งคงยอมเปลี่ยนคำสั่งแทนไปแล้ว แต่แน่นอนว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับพวกใจเเข็งล่ะนะ..และถ้าหากว่าเธอทำท่าอึกอัก แล้วจู่ๆ โดนเร่งด้วยท่าทางหงุดหงิดขึ้นมา โรเรนโซ่จะเลิกอ้อยอิ่ง รีบทำตามที่บอกทันที
                   โรเรนโซ่ถึงจะไม่ขัดคำสั่งชาวบ้าน แต่ถ้าเรื่องที่จะทำให้เธอต้องเจ็บ เธอจะพยายามหนีสุดใจ..โรเรนโซ่ไม่สู้หรอก ถึงจะแรงเยอะมือหนักแต่เธอไม่รู้ศิลปะการต่อสู้สักอย่าง นอกจากนี้ยังไม่กล้าทำร้ายคนอื่นอีกต่างหาก เพราะงั้นสิ่งที่เธอทำได้คงมีแค่วิ่ง วิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่งสู้ฟัดมันอย่างเดียวนั่นแหละ โรเรนโซ่เวลาวิ่งต้องบอกว่าหยุดยากสุดๆ เธอวิ่งเร็วมาก แถมยังระมัดระวังตัวหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดีเยี่ยม เรียกได้ว่าถ้าพลังงานไม่พร้อมจะมาไล่จับกับเธอราวๆ 2-3 ชั่วโมง หรือไม่ได้ตีนผีจริงๆ ก็อย่าคิดวิ่งไล่เธอเลย กลับไปนอนตีขาอยู่ห้องรอโรเรนโซ่หายกลัวจะดีกว่าเยอะ เนื่องจากเด็กสาวต้องการเวลาในการทำใจ (?) พอสมควร ถ้าทำใจได้เเล้วเธอก็จะกลับไปหาคุณเองนั่นแหละ แม้ว่าจะเเสดงท่าทางหวาดกลัวอยู่เสมอก็ตามที..แต่เธอจะไม่ชินกับความเจ็บปวด ดังนั้นหากต้องเจออะไรแบบเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง โรเรนโซ่จะวิ่งเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
                   โรเรนโซ่ติดนิสัยชอบมองว่าตัวเองผิด แต่คนอื่นถูก ทั้งยังติดความคิดที่ว่า ถ้าเธอโดนโกรธ โมโห หรือหงุดหงิดใส่ เเสดงว่าเธอทำผิด ทำให้โรเรนโซ่เป็นพวกชอบขอโทษไปก่อนแม้ว่าตนจะไม่ได้ผิด หากเธอเห็นคุณนั่งหน้าบูด เเล้วพอเธอทักคุณดันหันมาตวาดใส่ เด็กสาวก็จะขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ กลายเป็นว่าทำคนอื่นงงเเทนเสียอย่างนั้น และเธอจะไม่หยุดพูดคำว่า ขอโทษ ง่ายๆ ด้วยหากคนที่เธอขอโทษยังไม่ยอมบอกว่าให้อภัยเธอ แม้จะตวาดด่าบอกให้หยุด มันก็ได้แค่เเป๊ปเดียว เพราะหลังจากนั้นเดี๋ยวเธอก็กลับมาขอโทษขอโพยคุณพร้อมขนม (?) อีกรอบ ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะบอกอภัยให้เธออะไรแบบนั้นนั่นแหละ ส่วนสาเหตุก็ง่ายมาก เพราะโรเรนโซ่กลัวคนอื่นจะโกรธจะเกลียดเธอยังไงล่ะ
                   โรเรนโซ่รักสันโดษสุดๆ เธอเป็นสายอยู่คนเดียวเเล้วสบายใจกว่าการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ นั่นเพราะเธอไม่คุ้นชินกับการทำความรู้จักสนิทสนม หรือพูดคุยเรื่องต่างๆ นั่นเอง ถ้าให้เด็กสาวไปนั่งคุยกับใครเขา คงเห็นเธอนั่งนิ่งไม่พูดอะไรเป็นตุ๊กตาอยู่คนเดียวตลอดเวลานั่นแหละ เป็นพวกถามคำตอบคำม่กล้าพูดอะไรมากมายสักเท่าไหร่นัก จนบางทีก็คิดว่านะว่าหล่อนเป็นใบ้หรือเส้นเสียงพังรึยังไงกัน..นอกจากนี้เธอยังกลัวทำให้คนอื่นลำบากเพราะเธออีกด้วย ดังนั้นเด็กสาวจึงคิดว่า การที่เธออยู่คนเดียว มันอาจจะดีกว่าสำหรับตัวเธอและใครหลายๆ คนก็ได้ แต่หากว่าคุณมาชวนเธอไปทำกิจกรรมอะไรด้วยสักอย่าง โรเรนโซ่จะไปกับคนอย่างง่ายดาย เพราะยังไงเสีย เธอก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่เหงาหงอยเป็นอยู่ดีนั่นเอง หากสนุกแล้วจะลืมความกลัวไปขณะหนึ่ง โรเรนโซ่ไม่ได้สนุกสนานกับอะไรได้ง่าย เพราะความกังวลมันทำให้เธอเกร็งไปหมด ดังนั้นเมื่อได้สนุกแล้ว เธอจะสนุกอย่างสุดเหวี่ยงจนลืมกลัวไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว
                   โรเรนโซ่ชอบเสียสละ แต่บางครั้งมันก็มากเกินไป เธอสามารถอดข้าวทั้งวันได้เพื่อให้คนอื่นได้อิ่มหนำ แม้จะไม่ได้สนิทชิดใกล้กันเป็นพิเศษ เธอยังสละให้ได้เลยด้วยซ้ำ โรเรนโซ่ใจอ่อนง่ายมาก อ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ยอมแล้ว โดยเฉพาะกับพวกสัตว์ตัวน้อยยิ่งแล้วใหญ่ เธอแพ้ของพวกนั้นมากๆ เลยล่ะ ถึงจะยุ่ง แต่ถ้ามีหมาแมวมาคลอเคลียขอเล่นด้วย โรเรนโซ่จะชอบใจอ่อนแล้วไปนั่งเล่นกับพวกมันประจำ (จากนั้นก็จะหน้าซีดเเล้วรีบบิ่งไปทำธรุะของตนต่ออย่างรวดเร็ว เมื่อระลึกชาติได้ว่าตัวเองยุ่งอยู่ หลักจากนั่งเล่นอยู่เเถวนั้นเกือบชั่วโมง) แต่กับคนนั้นจะมีบางประเภทที่เธอไม่ใจอ่อนด้วย นั่นคือคนที่ท่าทางอันตรายดุดันนั่นเอง เด็กสาวมักใจอ่อนกับคนที่มาขอเธออย่างจริงใจเท่านั้น ถ้ามาแบบกระโฉกโฮกฮากก็อย่าหวังเลย บางทีคุณอาจบังคับตัวเธอได้ แต่เรื่องของหัวใจ ยังไงก็บังคับไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
                   โรเรนโซ่ถึงจะขี้แย แต่ก็เกลียดนิสัยขี้แยของตัวเองด้วยเหมือนกัน เธอคิดว่ามันทำให้เธอดูอ่อนแอแถมไร้ค่ามาก เด็กสาวไม่อยากร้องไห้ ยามที่น้ำตาหลั่งริน มือเล็กๆ นั่นจะพยายามเช็ดมันออกอยู่ร่ำไป แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะทำยังไง น้ำตามันก็ยังคงไหลอาบแก้มไม่ยอมหยุดอยู่ดี..โรเรนโซ่เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่เธอกลับหลอกตัวเองด้วยเช่นกันว่าเธอนั้นเข้มแข็ง นั่นเพราะเธอยังยิ้มได้ยังไงล่ะ..แม้ว่าจะร้องไห้ หรือเศร้าโศกยังไง โรเรนโซ่ก็ยังคงแย้มยิ้มออกมาได้ ไม่ว่ารอยยิ้มนั้นจะฝืดเฝือนสักเพียงใดก็ตาม แม้ใจจะโศกเศร้า แต่ริมฝีปากนี้ก็ยังคลี่ยิ้มออกมาเสมอ ดังนั้นโรเรนโซ่จึงคิดว่าเข้มเเข็ง แม้ว่าความจริงแล้ว..หลักฐานที่ว่าเธออ่อนแอ มันจะยังคงไหลอาบหน้าเธอ และตอกย้ำมันอยู่เสมอก็ตามที
                   โรเรนโซ่มีความพยายามสูงมาก ถึงจะล้มลุกคลุกคลานอีกสักกี่ครั้ง เธอจะยืนขึ้นมาใหม่เเละพยายามทำในสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงให้ได้อยู่ดี บางครั้งก็พยายามจนเหมือนคนบ้า แม้ว่าใครจะมาบอกให้เธอหยุด โรเรนโซ่จะไม่หยุด สิ่งที่เธอมอบคืนไปให้ได้มีแค่คำว่า ไม่เป็นไร เท่านั้น เป็นพวกฝืนตัวอย่างมาก ดูดันทุรังสุดๆ เธอจะไม่หยุดง่ายๆ หากเธอยังทำสิ่งนั้นไม่สำเร็จ หรือว่าจะโดนขอร้องหนักมากเข้าเท่านั้นนั่นแหละ เธอไม่อยากล้มให้ใครเห็น..อย่างที่บอกว่าโรเรนโซ่ไม่อยากจะร้องไห้ให้ใครเห็น เพราะเธอไม่อยากให้ตนดูอ่อนแอในสายตาคนอื่น ถึงอย่างนั้นการกระทำแบบนี้กลับเป็นดาบสองคมที่ทำให้คนอื่นเวทนาในตัวเธอแทน แต่ว่าโรเรนโซ่ก็ยังคงฝืนตัวเองต่อไปแบบนี้อยู่ดี
                     โรเรนโซ่เชื่อมั่นว่าเธอสามารถมีความสุขได้ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรหรือหนักหนาแค่ไหน เพียงแค่เธออดทนกับมันแล้วยิ้มกว้างๆ ต่อไป เด็กสาวก็เชื่อว่ามันจะนำความสุขมาให้เธออย่างแน่นอน..อ่า รู้ดีน่าว่ามันไร้สาระและงี่เง่าขนาดไหน โรเรนโซ่รู้มาตลอดนั่นแหละว่ามันไม่มีทางเป็นจริงได้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับเลือกจะเชื่อเช่นนั้นต่อมาเรื่อยๆ โดยไม่เปลี่ยนความคิด และเธอยังไม่อยากให้ใครมาดูถูกความเชื่อมั่นของตัวเองอีกด้วย เพราะอย่างน้อย โรเรนโซ่ก็ยังอยากได้บางสิ่งไว้ยึดเหนี่ยวหัวใจของเธอที่กำลังหวาดกลัวต่อทุกสิ่งไปหมดนี่ ดังนั้นหากถามว่าคนแบบเธอจะกล้าตอบโต้ในเรื่องของอะไรบ้าง โรเรนโซ่คงตอบว่ามันต้องเป็นเรื่องนี้แน่นอนอยู่เเล้ว
                   โรเรนโซ่ไม่อยากให้คนอื่นไม่สบายใจเพราะเรื่องของเธอ เธอจะปลอบประโลมคนที่เธอเห็นว่าเศร้าหมองเพื่อกลับมายิ้มได้ทุกครั้ง ซึ่งตรงกันข้ามกับกรณีของเธอทุกอย่าง โรเรนโซ่บอกปัดทุกความปลอบประโลม และความเห็นใจ เห็นแบบนี้แล้วเกลียดการที่ต้องถูกปลอบเป็นเด็กเพื่อให้หยุดร้องสิ้นดี สาเหตุเพราะโรเรนโซ่มีมุมมองความคิดในตรงนี้ค่อนข้างแคบ เธอคิดว่าพวกเขาไม่ได้เข้าใจอะไรเธอหรอก เธอไม่ชอบการปลอบประโลมเพียงเพราะแค่อยากให้หยุดร้อง โรเรนโซ่อยากให้คนอื่นเข้าใจเธอให้ดีเสียก่อนที่จะมาพูดว่า ไม่เป็นไรนะ ก็พวกเขาไม่ได้เจอเรื่องมากมาย ทั้งยังต้องระแวดระวังตลอดเวลาแบบเธอนี่ พวกเขาจะมาเข้าใจอะไรกัน..นั่นแหละ ความคิดของเด็กสาวที่ชื่อ โรเรนโซ่ อมอเรย์
                        โรเรนโซ่เป็นคนจริงใจในทุกคำพูดและการกระทำ เธอโกหกคนไม่เป็น เพราะกลัวว่าถ้าโกหกไปแล้วเขาจับได้เธอจะซวยเอา เห็นแบบนี้แล้วห่วงตัวเองกับคนใกล้ตัวมากเอาเรื่องเลยทีเดียว โรเรนโซ่คิดวิเคราะห์ได้ดีในแง่ของการคิดที่ว่า ถ้าทำแบบนี้เธอจะซวยไหม หรือ ทำยังไงเธอถึงจะปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นพวกเอาตัวรอดเก่ง ระเเวงระวังตลอดเวลา เลยเป็นว่ารอบคอบมากจนแทบไม่เห็นโรเรนโซ่ผิดพลาดในอะไรสักอย่าง นอกจากเจ้าหล่อนจะลนจริงๆ เลยทีเดียว แต่บางทีกลับระแวงมากเกินไปจนทำให้เครียดเกินเหตุนี่สิ..โรเรนโซ่เคยคิดเล่นๆ กับตัวเองนะ ว่าถ้าเธอหายไปจากตรงนี้แล้ว เธอจะสามารถปล่อยวางตัวเองจากความหวาดระเเวงและความเจ็บปวดพวกนี้ได้หรือเปล่า? แต่เพราะกลัวที่จะเจ็บและไม่มีความกล้าพอ โรเรนโซ่จึงยังพยามฝืนอยู่ตรงนี้เรื่อยมาเสมอ
                        โรเรนโซ่เป็นบุคคลที่น่าแกล้งน่าหยิกอย่างมาก เพราะงั้นพวกที่ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนต้องทนกับอาการระแวงระวัง และกลัวไปเสียทุกอย่างแบบนี้มันทุกข์ขนาดไหน (หรือบางทีก็รู้ แต่ทำไมเมิน--) จึงมักแกล้งหยอกล่อเธอเป็นประจำ ไม่ว่าจะหยอกเเรงหรือหยอกค่อยก็ตาม กลายเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้โรเรนโซ่ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าอยู่รวมเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งยังทำให้เธอเปิดใจรับคนอื่นได้ยากอีกต่างหาก เรียกได้ว่า แกล้งเล่นในวันนั้น ทำซวยยันวันนี้ (?) เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นใช้ว่าจะปิดกั้นไปซะหมดหรอกนะ ถ้าใจดีและไม่ดุหรือทำร้ายเธอล่ะก็ โรเรนโซ่ก็อยากจะเป็นเพื่อนด้วยนะ!
                        โรเรนโซ่เป็นมนุษย์ที่มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนสูงปรี๊ดปรอทแตก โดยเฉพาะเรื่องทำอาหาร เด็กสาวทำเก่งสุดๆ แถมทำเป็นหลายอย่างอีกต่างหาก ไม่ใช่แค่อาหารบ้านเกิดตัวเองเท่านั้น โรเรนโซ่ยังทำอาหารจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา ไทย ฝรั่งเศสเป็นอีกด้วย (แต่แค่เมนูหลักๆ ที่ฮิตๆ กันนะ---) เอาจริงๆ ขอแค่มีสูตร โรเรนโซ่ก็ทำให้ได้แล้ว เป็นคนที่มีสมาธิกับการทำอาหารเป็นอย่างมาก หยิบจับอะไรคนเดียวคนอื่นห้ามยุ่ง นอกจากนี้ยังมีสกิลควงมีดสับผักแล่เนื้อ (?) ให้ชมระหว่างทำอีกด้วย แต่น่าเสียดายแม่คุณเป็นพวกมือไม้ปวกเปียกจับอะไรไม่ค่อยจะมั่นสักเท่าไหร่ เพราะงั้นถ้ายังไม่อยากโดนมีดปักหัว แนะนำอย่าเข้าไปในห้องครัวตอนโรเรนโซ่ทำอาหารอยู่จะดีที่สุดนะ
                             โรเรนโซ่ถนัดงานสตรีแทบทุกประเภท งานฝีมือเอย ภาพวาดศิลป์เอย ทำเป็นหมดนั่นแหละ ถ้านั่งทำคนเดียวจะออกมาดีงามอย่างมาก แต่ถ้ามีคนมาจ้องมาดูรับรองว่า เละ ควรปล่อยให้โรเรนโซ่หรรษากับเวลาว่างของเธอคนเดียวไปจะดีที่สุด ไม่งั้นเธอจะเกร็งมาก แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเครียดเเทนสนุกไปอย่างง่ายดาย---ชอบคิดว่าตัวเองทำอะไรไม่ค่อยได้ เวลามีคนสั่งให้ทำอะไรเลยพยายามปฏิเสธสุดแรงเกิด แต่ถ้าต้องทำจริงๆ แล้ว จะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้สุดความสามารถเลยล่ะนะ อนึ่ง แม่คุณไม่ถูกกับคนแแปลกหน้าสักเท่าไหร่ด้วยล่ะ เพราะงั้นอย่าแปลกใจล่ะถ้าเห็นโรเรนโซ่ทำตัวเหมือนโดนเย็บปากเวลาอยุ่กับคนไม่สนิทน่ะ และถึงจะรู้จัก เธอก็พูดน้อย พูดสุภาพ พูดตะกุกตะกัก และพูดเสียงเบาอยู่ดีนั่นแหละ    
                             โรเรนโซ่เป็นโรคกลัวที่กว้าง ชีวิตของเธอคุ้นชินอยู่กับการอยู่ภาพในห้องแคบๆ เล็กๆ มาโดยตลอด เพราะแบบนั้นหากต้องไปอยู่ในที่กว้างพลุ่กพล่านด้วยผู้คน โรเรนโซ่จะกลัวและตัวสั่นอย่างมาก แต่ถ้าหากว่ามีใครคอยจับมือเธอเอาไว้ และอยู่เคียงข้างเธอตลอดความกลัวของเธอจะลดลงมาหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะทนได้นานอยู่ดีนั่นแหละนะ..เป็นคนที่ไม่เคยแตะหรือพบเจอกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เขินอายง่ายกว่าชาวบ้าน แอบกุลสตรีหวงตัว ไม่อยากให้ใครมาแตะหรือสัมผัสมากเกินไปถ้าไม่จำเป็น นอกจากเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ โรเรนโซ่เป็นคนรักเพื่อนมาก เพราะหาคนที่ทนกับความขี้แยจนน่ารำคาญของเธอได้ยาก ทำให้มีเพื่อนน้อยเอาเรื่อง แต่เด็กสาวรู้จักวิธีการรักษาเพื่อนดี ถึงจะทำไม่ค่อยได้ในเรื่องการทำตัวให้ไม่น่ารำคาญก็เถอะ..ถึงแบบนั้นเรื่องความใส่ใจ ดูแล เป็นห่วง หรือจำเรื่องสิ่งที่เพื่อนชอบ วันเกิดเพื่อน หรือของสำคัญอะไรแบบนี้โรเรนโซ่ก็ทำให้ได้เต็มร้อยนะ และเเม้ปากจะบอกว่าเข้าได้กับคนสุภาพนิ่มๆ แต่เอาจริงแล้วเข้าได้กับคนที่ยอมคบเธอป็นเพื่อนและโดดเดี่ยวเหงาหงอยเหมือนกันต่างหากล่ะ..นอกจากนี้โรเรนโซ่ยังเป็นคนที่ตัดความสัมพันธ์ได้ยากมาก เธอจะเจ็บเจียนตายทุกครั้งที่ต้องแยกจากกับคนสำคัญ หรือยุติความรู้สึกมากมายเหล่านั้น จนบางทีเธอก็คิดนะ..ว่าถ้ามันเจ็บถึงขนาดนี้ การไม่เชื่อมสัมพันธ์กับใครเลยมันจะดีกว่ารึเปล่า..?      


              
     
    ประวัติเบื้องลึก : 

                             โรเรนโซ่ อมอเรย์..นั่นคือชื่อของเธอ

                              เธอเกิดในครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ ที่หากคุณเกิดในอิตาลี คุณต้องรู้จักพวกเขา ตระกูลอมอเรย์เป็นตระกูลของเหล่านักออกแบบ จิตรกร และช่างศิลป์ชื่อดังมากมายนับไม่ถ้วนบนโลก พวกเขาโด่งดัง มีชื่อเสียง ร่ำรวย เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ถือว่าเป็นตระกูลนักสร้างสรรค์ของเเท้ ไม่ว่าที่ใครที่ได้เกิดมาในตระกูลนี้ ล้วนแต่มีพรสวรรค์ในด้านศิลป์หัตถกรรมงานออกแบบกันทั้งสิ้น นอกจากนี้คนส่วนมากในตระกูลของเธอ พวกเขายังโด่งดังและมีชื่อเสียงก้องโลก เพราะการขัดเกลาเเละเลี้ยงดูที่ดีเยี่ยม
                             ซึ่งโรเรนโซ่..ไม่ใช่คนส่วนมากที่ว่านั้น
                             แม่ของโรเรนโซ่คือหญิงสาวที่แต่งเข้ามาในตระกูล นั่นหมายความว่าเธอไม่ได้เป็นคนของตระกูลอมอเรีย ตามความจริงมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะยุคนี้มันไม่ใช่ยุคที่คนในครอบครัวเดียวกันจะแต่งงานกันเองเพื่อรักษาเชื้อสายอะไรแบบนั้นเเล้ว โอเค..ยอมรับว่ามีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่กับอมอเรย์ พวกเราให้อิสระในการเลือกคู่ครองของแต่ละคน เช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อของโรเรนโซ่ เพราะงั้นเขาถึงเเต่งงานกับสตรีลึกลับไร้ชาติตระกูล ที่นับถือลัทธิแปลกประหลาด และแยกตัวออกไปใช้ชีวิตกันสองคนได้โดยไม่มีญาติคนใดคัดค้าน โดยที่เขาทั้งรักและเชื่อฟังภรรยาคนนี้ยังกับอะไรดี พวกเขามีลูกกันสองคน หนึ่งคือเด็กสาวมากพรสวรรค์ และอีกหนึ่งคือเด็กสาวผู้งดงาม
                             โรเรนโซ่ได้รับใบหน้างดงามจากมารดา ในขนาดที่พี่สาวมีพรสวรรค์มากมายเหมือนกับพ่อของเธอ ถามว่าตัวเธอไม่มีพรสวรรค์งั้นเหรอ? เปล่าหรอก..เธอมีมากกว่าพี่ของเธอเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะอะไรบางอย่าง พรสวรรค์ล้ำค่าจึงกลายเป็นแค่ของไร้ค่า อะไรบางอย่างที่เรียกว่า 'การเลี้ยงดู' จากแม่แท้ๆ ของโรเรนโซ่
                               เธอถูกเลี้ยงดูโดยระบบปิด..โรเรนโซ่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกบ้าน เธอเหมือนกับนกน้อยในกรง ถูกเลี้ยงภายในห้องแคบๆ ของตนที่อยู่ใต้หลังคา พื้นที่กว้างที่สุดที่เคยได้เหยียบมีเพียงแค่บ้านหลังน้อยไม่กี่ตารางวา วันๆ หนึ่งไม่มีสิทธิ์ทำอะไรตามใจตน ทุกอย่างในชีวิตคล้ายถูกกำหนดให้ก้าวเดินไว้ทุกก้าว และเด็กอย่างโรเรนโซ่ไม่มีสิทธิ์จะตัดสินใจอะไรเองเลย แม่ของเธอคือคนที่คอยคิด คอยบอก คอยสั่งให้เธอทำอะไรมากมายนับไม่ถ้วน ไม่เว้นแม้แต่การนอน กิน หรือกิจวัตรประจำวันอื่นๆ ก็ตาม และหากโรเรนโซ่ไม่ทำตามหรือทำอะไรผิดพลาด เธอก็จะถูกแม่ทุบตีและดุด่า มันทำให้เด็กน้อยกลัว..กลัวจนฝังใจว่า หากเธอทำอะไรที่มันไม่ดี เธอจะโดนลงโทษและทุบตี เพราะแบบนั้นโรเรนโซ่เลยไม่กล้าทำอะไรด้วยตนเอง และเป็นเด็กที่ขี้กลัวอย่างมาก
                                  แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกกลัวมากที่สุด ไม่ใช่เเม่ของเธอ แต่เป็นสิ่งที่ท่านเอื้อนเอ่ยออกมาต่างหากล่ะ..

                                   "ลูกเกิดมาเพื่อรับใช้เหล่าท่านผู้นั้น เข้าใจรึเปล่า?"

                                  คำตอบสำหรับคำถามที่ไร้หลักการณ์ มีเพียงแค่ 'ค่ะ' เท่านั้น..เมื่อไหร่ที่โรเรนโซ่ตอบผิดหรือเผลอตัวไป เธอก็จะถูกทำโทษ..เพราะงั้นทุกครั้งที่ได้ยินประโยคนี้ ความกลัวจะเกาะกุมหัวใจของเธอเสมอ โรเรนโซ่ไม่อยากได้ยินมัน เธอกลัว..กลัวไปหมด พอคิดว่าโตไปต้องทำอะไรแบบนั้นเธอก็รู้สึกกลัว เด็กน้อยไม่เคยได้รับการไขข้อสงสัยในใจว่าการ รับใช้ ที่ว่านั้นคืออะไร เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านผู้นั้นเป็นใคร ทุกสิ่งที่วนเวียนในหัวมีแค่ความคิดเลวร้ายมากมายนับไม่ถ้วน เพียงเพราะมันเป็นคำที่เอ่ยออกมาจากปากของมารดา..มารดาที่โรเรนโซ่หวาดผวา และเกรงกลัวจนถึงขั้นเคยคิดเรียกแม่ของตนว่า 'ปิศาจ'
                                  ทุกวันคืนถูกสอนให้ทำในเรื่องมากมาย ราวกับถูกฝังหัวไปว่าต้องทำตามที่ท่านบอกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ความคิดในหัวไม่เคยได้พูดออกไป หากขัดคำสั่งก็จะโดนทำโทษ..โรเรนโซ่ใช้ชีวิตราวกับนักโทษ อยู่อย่างสั่นกลัวเเละไร้ซึ่งความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่ ห้องใต้หลังคาแสนคับแคบทำให้ตัวเธอรู้สึกหนาวสั่น แม้บางครั้งคราจะได้ทำในสิ่งที่ชอบอย่างการทำอาหาร หรืองานศิลป์ มันก็ไม่อาจทำให้เด็กน้อยสดใสร่าเริงได้เลยแม้แต่น้อย แต่หากสิ่งใดจะคอยช่วยปลอบประโลมดวงใจดวงน้อยนั้นได้ล่ะก็ มันคงมีเพียงแค่พี่สาวแสนดีของโรเรนโซ่เท่านั้นแหละ 
                                  หากแม่ของเธอคือ ปิศาจร้าย พี่สาวแสนดีก็คงเป็น นางฟ้าผู้งดงาม สำหรับโรเรนโซ่
                                  "สวัสดี แม่ตัวน้อย"
                                  คำทักทายแสนหวานในทุกวันอาทิตย์สามารถทำให้ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มประดับได้อย่างง่ายดาย โรเรนโซ่ดีใจเสมอที่ได้พบกับพี่สาว ถึงแม้ช่วงเวลาที่ได้คุยกันจะมีแค่สามทุ่มถึงรุ่งสาง แต่แค่นั้นโรเรนโซ่ก็มีความสุขมากแล้ว เธอสามารถพูดในสิ่งที่อยากพูด ร้องไห้ หัวเราะ ขบขันไปกับเรื่องมากมายที่คุยกับพี่สาวของเธอของได้ ราวกับอีกฝ่ายเป็นยาใจชั้นเลิศที่ทำให้หัวใจของเด็กน้อยไม่พังทลายลงไป จากการบังคับของคนเป็นแม่
                                  แต่ก็ใช่ว่าโรเรนโซ่จะมีสิทธิ์พูดทุกอย่างออกไป พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องที่แม่ของพวกเธอกรอกหูโรเรนโซ่ทุกวันด้วยประโยคเดิมๆ สั้นๆ ที่ทำให้เด็กสาวหวาดผวากับมัน พี่สาวของเธอถูกแม่และพ่อโกหกว่าโรเรนโซ่ร่างกายอ่อนแอและมีอาการป่วย ทำให้ไม่สามารถออกไปไหนได้ ซึ่งเธอก็เชื่อแบบนั้นมาตลอด..เพราะถึงแม้โรเรนโซ่จะไม่ได้ป่วยจริงๆ ความกลัวที่สะสมจนก่อความเครียดมันก็ทำให้เด็กสาวเหมือนคนป่วยได้ไม่ยาก ซึ่งโรเรนโซ่อยากจะบอกเสมอว่าเธอไม่ได้ป่วย แต่สาเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้มันมาจากแม่ของเธอต่างหาก..ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็พูดไม่ได้ เพราะแม่ของเธอสั่งเธอเอาไว้ ว่าถ้าเธอพูดเรื่องนี้กับคนอื่น ทั้งเธอและคนที่เธอบอกไปจะเดือดร้อน
                                  โรเรนโซ่ไม่รู้ว่าทำไมทำเช่นนี้แล้วมันจะเดือดร้อน..แต่เพราะผลลัพธ์ของการขัดคำสั่งมันน่ากลัว และประสบการณ์ที่ผ่านมา มันก็เป็นตัวคอยช่วยฉุดรั้งเธอไม่ให้ทำอะไรลงไปเฉกเช่นทุกครั้งจนได้..และโรเรนโซ่คงคิดเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ หากวันหนึ่งพี่สาวของเธอไม่ได้เอ่ยทักขึ้นมาว่า
                                  "นี่เรนซ์ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?" ราวกับหัวใจถูกเขย่าเเละสั่นคลอนอย่างแรง ตอนแรกโรเรนโซ่เกือบหลุดปากพูดสิ่งที่เธอคิดไปเหมือนกับทุกครั้ง แต่เพราะคำสั่งของแม่ที่ติดอยู่ในหัวทำให้เธอพยายามนิ่งเงียบ ทว่าก็เป็นได้แค่ไม่นาน เพราะเมื่อร่างกายนั้นได้รับการโอบกอด โรเรนโซ่ก็ยอมบอกทุกอย่างเพียงแค่คำพูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น

                                  "พี่อยู่ข้างเธอนะเรนซ์ บอกพี่มาเถอะ..ไม่ว่าเรื่องอะไร พี่จะช่วยเธอเอง.."

                                  โรเรนโซ่เล่ามันไปหมดทุกอย่าง ทั้งวิธีการเลี้ยงดูจริงๆ ของแม่ ทั้งเรื่องที่เธอไม่ได้ป่วยทางกายภาพ แต่เป็นจิตใจที่ทำให้หวาดระเเวง เพียงเพราะคำพูดที่ถูกกรอกหูอยู่ทุกวันและทุกค่ำคืน ตอนแรกพี่สาวของโรเรนโซ่ตกใจมาก เธอรู้ว่าแม่นับถือลัทธิแปลกๆ และมีความคิดที่แตกต่างจากพวกเธอ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าหล่อนจากทำกับลูกสาวราวกับสัตว์เลี้ยงแบบนี้ เเน่นอนว่าหล่อนทนไม่ได้ พี่สาวของโรเรนโซ่ปลอบเธอและบอกจะจัดการทุกอย่างให้ ก่อนจะหายไปจากห้องใต้หลังคา เหลือทิ้งไว้เพียงความหวังเล็กน้อยในหัวใจของโรเรนโซ่ที่เชื่อว่า พี่สาวของเธอจะช่วยเธอได้ 
                                  เวลาผ่านไปถึงอีกหนึ่งอาทิตย์..ระหว่างนั้นไม่มีใครเข้ามาหาโรเรนโซ่เลยแม้แต่คนเดียว สิ่งเดียวที่มาถึงเด็กสาวมีเพียงข้าวและน้ำเท่านั้น โรเรนโซ่แปลกใจมาก แต่เด็กสาวกลับคิดว่าดีซะอีก เธอจะได้ไม่ต้องทนเจอปิศาจร้ายนั่นด้วย กระทั่งวันอาทิตย์มาเยือน โรเรนโซ่เฝ้ารอพี่สาวของเธออย่างใจจดใจจ่อ แต่ทว่า..แม้เวลานี้จะถึงรุ่งสางแล้ว แต่ประตูห้องนอนของเธอก็ยังคงปิดสนิท..
                                  เด็กสาวเริ่มความรู้สึกประหลาดใจ แต่เหนือความประหลาดใจนั้นคือความกลัว กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น กลัวว่าพี่สาวแสนดีจะเป็นอะไร และเธอกลัว..ว่าจะไม่ได้พบกับหล่อนอีกแล้ว สุดท้ายเด็กสาวก็ทนความหวาดกลัวของตนไม่ไหว โรเรนโซ่ลุกจากเตียงเดินไปยังประตูไม้ หมายจะลอบออกไปหาพี่สาวของเธอที่ห้อง เผื่อว่าเธอจะอยู่นั่น แต่เมื่อโรเรนโซ่หมุนลูกบิดประตู สิ่งได้กลับมากลับมีเพียงแค่เสียง แกร๊ก แกร๊ก...ดวงตาของหล่อนเบิกกว้าง รับรู้ความจริงได้ทันทีว่า 'เธอถูกขัง'
                                  พรึ่บ!..ไฟดับวูบลงอย่างรวดเร็ว ร่างน้อยสะดุ้งสุดตัว..โรเรนโซ่กลัวความมืด..ความหนาววาบที่แผ่นหลังทำให้มือน้อยๆ สั่นระริก โรเรนโซ่น้ำตาเอ่อคลอดวงตาทั้งสอง เธอใช้สองมือทุบประตูเรียกคนที่อยู่ข้างนอกอย่างแรง
                                  ปัง ปัง ปัง!
                                  "แม่!! แม่คะ!! เปิดประตูให้หนูที!! แม่!!!!" 
                                  ไร้ผล..ไฟในห้องยังคงดับสนิทอยู่เช่นเดิม โรเรนโซ่พยายามร้องพยายามตะโกนเรียก เธอเห็นเงาคนจางๆ ลอดผ่านช่องว่างประตู เธอรู้ว่าเเม่ของเธอยังยืนอยู่ตรงนั้น เพราะงั้นเธอจึงพยายามขอร้องเธอ แต่แล้วการกระทำทุกอย่างก็ต้องหยุดลง เมื่อผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

                                  "ฉันเคยบอกแกไปเเล้ว เรนซ์.." เสียงนั้นเงียบไปอึดใจ "ว่าถ้าแกขัดคำสั่งฉัน แกจะเป็นยังไง"

                                  คล้ายกับมีฟ้าผ่าลงกลางใจ โรเรนโซ่ตัวแข็งค้างกับประโยคนั้น ความทรงจำแย่ๆ ในอดีตคล้ายจะผุดขึ้นมาเต็มไปหมด น้ำตาค่อยๆ ไหลอาบย้อมพวงแก้ม ยิ่งได้ยินเสียงของเเม่เอ่ยบอก ใบหน้าของเธอยิ่งชุ่มโชกไปด้วยหยาดน้ำสีใสจากดวงตาแสนงามนั้น
                                  "คิดเหรอว่าถ้าแกบอกเรื่องนี้กับพี่แกแล้ว มันจะทำอะไรได้น่ะ? อย่าโง่นักเลยเรนซ์ ต่อให้เอาเรื่องนี้ไปบอกพวกญาติๆ ไร้หัวคิดที่วันๆ จมอยู่กับแต่ศิลปะไร้ค่านั่นพวกนั้นมันก็ช่วยอะไรแกไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะพวกแกมันโง่กันทั้งตระกูลไงล่ะ" เสียงหัวเราะแหลมบาดลึกเข้ามาในดวงใจ แม้ไม่ได้เห็นหน้า แต่โรเรนโซ่กลับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมองเธอด้วยสายตาสมเพชเวทนาขนาดไหน 

                                   แล้วหัวใจของเธอก็แทบหยุดเต้นเสียให้ได้กับประโยคต่อไปของคนเป็นแม่

                                  "พวกแกเองมันก็โง่ทั้งพี่ทั้งน้อง ถึงได้กล้าขัดคำสั่งฉัน" มารดาของเธอเอ่ยเช่นนั้น ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา "แต่ถ้า..ฉันแยกแสงสว่างของแกไปจากชีวิตแกตลอดไป แกจะยังกล้าถือดีขัดคำสั่งฉันอีกรึเปล่านะเรนซ์?"
                                  เพียงแค่นั้นดวงตาพลันเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยร่วงหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้าทันที...

                                  "ไม่! มะ ไม่เอาแบบนั้นนะ! แม่คะ หนูขอโทษ!! ได้โปรดเถอะค่ะ!! ย--อย่าทำแบบนี้! หนูผิดไปแล้ว..ฮึก! ฮืออ! หนูขอโทษ!! ฮือออ" โรเรนโซ่กล่าวทั้งสะอื้น เธอใช้สองมือของเธอทุบประตู การโดนขังในความมืดคล้ายจะไม่น่ากลัวเท่าเมื่อต้องแยกจากพี่สาวคนสำคัญเพียงหนึ่งเดียว เด็กสาวพยายามอ้อนวอน ขอร้อง ตะโกนด้วยเสียงทั้งหมดของเธอ แต่สุดท้ายเเล้วมารดาของเธอก็ยังเมินเฉยต่อเสียงนั้นอยู่ดี
                                  เงาหน้าประตูนั้นหายไปเสียแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงประโยคที่ทำให้โรเรนโซ่ต้องกรีดร้องออกมาทั้งน้ำตาที่กำลังไหลอาบใบหน้าแสนหวานนั่น

                                  "สำนึกผิดอยู่ในนั้นไปเถอะเรนซ์..แล้วแกจะได้ระลึกเสียที ว่าคนที่เป็นเจ้าของชีวิตของแกจริงๆ น่ะ มันไม่ใช่แก..แต่เป็นท่านผู้นั้น"



     
    สิ่งที่ชอบ : 
                   -ทำอาหาร [เพราะเป็นสิ่งที่ทำแล้วโรเรนโซ่รู้สึกมีความสุขอย่างหนึ่ง นอกจากนี้อาหารที่เธอมันยังทำให้คนอื่นรู้สึกมีความสุขด้วย เธอจึงชอบที่จะทำอาหารยังไงล่ะ!]
                   -จัดดอกไม้ [ดอกไม้น่ะสวยงามอยู่แล้ว แต่หากจัดแต่งมันให้งดงามมากขึ้น ความงามของมันก็จะมากตามไป วันว่างของโรเรนโซ่เลยชอบหมดไปกับการจัดดอกไม้นี่แหละนะ]
                   -เล่นเปียโน [มันทำให้หัวใจของโรเรนโซ่รู้สึกสงบมากขึ้น ทั้งทำนอง และสัมผัสจากตัวของเปียโนเอง]
                   -ความเป็นส่วน [ด้วยนิสัยขี้กลัวเลยไม่อยากอยู่ร่วมกับคนอื่นมากเกินไป เพราะกลัวว่าจะไปทำให้ใครเขาโกรธเอา]
                   -การนอนหลับพักผ่อน [ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน สามารถจางหายไปได้เพียงแค่การหลับตาลงพักผ่อน เพราะงั้นโรเรนโซ่จึงชอบเวลานอนของเธอมาก]
                   -ดวงดาว [สวยงาม..เหตุผลเดียวเท่านั้นสำหรับสิ่งนี้]

     
    สิ่งที่เกลียด : 
                   -ความเละเทะ [เนื่องด้วยมันมีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนอยู่ในสายเลือด เลยเกลียดความเละเทะพอสมควร หากเจออะไรเละเทะ โรเรนโซ่เลยชอบเผลอตัวไปเก็บให้ประจำ..หมายถึงถ้าเเถวนั้นไม่มีคนอยู่ แล้วไม่มีใครรู้น่ะนะ]
                   -ยา [มันขม...]
                   -นาฬิกาปลุก (?) [เวลามันดังเตือน..โรเรนโซ่แทบอยากจะจับไปโยนใส่อ่างอาบน้ำ---]
                   -แมลงสาบ [จินตนาการภาพตอนมันบินเข้ามาคุณสิ..แล้วจะรู้เลย]
                   -คนที่มาดูถูกสิ่งที่เธอเชื่อมั่น [เพราะเป็นสิ่งที่เลือกจะเชื่อ และเพราะสำคัญ ดังนั้นโรเรนโซ่เลยไม่อยากยอมให้กับคนที่มาดูถูกสิ่งที่เธอเชื่อมั่น]
                   -นิสัยขี้แยของตัวเอง [มันมักทำให้เรื่องหลายเรื่องวุ่นวายขึ้นเป็นกอง แถมบางทียังทำให้คนอื่นรำคาญและหมั่นไส้เธอด้วย]

     
    สิ่งที่กลัว : 
                   -คนเสียงดัง ท่าทางอันตราย น่ากลัว [โรเรนโซ่เป็นสาวขี้กลัวน่ะนะ เวลาเจอคนจำพวกนี้เลยมักกลัวจนทำอะไรไม่ถูก แถมเธอยังกลัวไปทำอะไรขัดใจเขา จนเขาอาจมาลงโทษเธออีกด้วย]
                                       {ปฏิกิริยา - มักก้มหน้าหนี น้ำตาคลอเบ้า พูดเบาๆ จนแทบไม่ได้ยิน}
                   -ที่กว้างเกินไป [เพราะเธอชินกับการอยู่ในที่แคบๆ มาตลอดทั้งชีวิต เมื่อต้องอยู่ในที่ที่กว้างเกินไป โรเรนโซ่จึงจะมีอาการไม่คุ้นชินและหวาดกลัวกับมันมากพอสมควร]
                                       {ปฏิกิริยา - จะเกร็งอย่างเห็นได้ชัด ตัวสั่น น้ำตาคลอ พยายามเลี่ยงหาที่แคบๆ อยู่สุดความสามารถ ไม่ก็นั่งเบียดกับชาวบ้านเขา (?)}
                   -ความมืด [โรเรนโซ่ไม่ถูกกับความมืดอย่างแรง เรียกได้ว่าขอโดนขังไปตลอดชีวิตดีกว่าต้องอยู่ที่มืดแม้เพียงนิดหน่อยก็ตาม เพราะงั้นเวลานอน ถ้าไม่เปิดไฟทิ้งไว้ โรเรนโซ่จะจุดเทียนไว้จนกว่าตัวเองจะหลับไป]
                                       {ปฏิกิริยา-โรเรนโซ่จะตัวสั่นอย่างมาก น้ำตาคลอเบ้า พยายามออกจากที่มืดนั้นสุดชีวิต หากถูกขังไว้ เธอจะทุบเเละร้องขอให้คนช่วยไปเรื่อยๆ แต่ถ้านานเข้ามากๆ โรเรนโซ่จะย้ายไปอยู่ตรงมุมแคบ นั่งกอดตัวเองสั่นๆ ไปแบบนั้น}
                    -อื่นๆ มากมายนับไม่ถ้วน---//แค่ก [โรเรนโซ่มีของที่กลัวเยอะมาก แต่เด่นๆ ก็คือสามอันข้างบนนั่นแหละค่ะ]
                                       {ปฏิกริยา - ตัวสั่น พูดเสียงค่อยและตะกุกตะกัก ชอบก้มหน้ามองพื้น}
                   

     
    งานอดิเรก : 
                   -เล่นเปียโน [ว่างๆ ก็ไปนั่งเล่นให้หัวโล่งใจสงบ สักพักเล่นเพลิน กลายเป็นว่านั่งเล่นมันทั้งวัน งานการไม่ทำ---]
                   -ทำงานบ้าน ทำอาหาร จัดดอกไม้ สารพัดงานแห่งความเป็นสาว [มีความสุขค่ะ (?)]
                   -แต่งเนื้อเพลง [สิ่งที่เธอทำได้ดีไม่กี่อย่าง และก็เป็นสิ่งที่เธอชอบพอตัว โรเรนโซ่เลยพกดินสอกับสมุดเดินไปไหนมาไหนด้วย เผื่อไอเดียมา เธอจะได้เขียนเนื้อเพลงลงไปได้โดยไม่ลืมไปเสียก่อน]
                   -จิบชาทานขนม [บางอารมณ์ก็แค่อยากผ่อนคลายตัวเองบ้างอะไรบ้างค่---]

     
    ความสามารถพิเศษ : 
                   -แต่งเพลง [สิ่งที่ทำได้ดีไม่กี่อย่าง----]
                   -ออร่าที่ทำให้ชาวบ้านสงสาร (?) [ถ้าใจไม่เเข็งเกินไป เห็นน้ำตาเธอก็อดไม่ได้ที่จะปลอบทั้งนั้นแหละ (และคาดว่าอายาโตะคงไม่ทำค่----(แค่ก)]
                   -การทำงานบ้าน งานฝีมือ [ฝึกมาแต่เด็ก ทำประจำ เป็นสิ่งที่ชอบ เลยชำนาญแบบชั้นเซียนไปโดยอัตโนมัติ]

     
    คู่ : ซาคามากิ อายาโตะ

     
    เพิ่มเติม : อยากเขียนคาร์ตะมุตะมิบ้างอ่---(?) แงงง

    }}เพิ่มเติมรายละเอียดตัวละคร{{

    -โรเรนโซ่เกิดวันที่ 23 ตุลาคม ราศีตุลย์ เวลา 00:01 น.ค่---

    -เป็นสาวเลือดกรุ๊ป A ผู้ถนัดขวา 

    -โรเรนโซ่กินผักไม่เป็น เนื่องด้วยมันขม ตอนเด็กๆ เลยไม่ค่อยแตะ

    -พี่สาวของโรเรนโซ่ชื่อ 'แอนนา อมอเรีย' ปัจจุบันนางโดนส่งตัวไปอยู่ต่างประเทศกับญาติฝ่ายแม่

    -โรเรนโซ่ได้รับการสอนเรื่องต่างๆ โดยแม่ของเธอ

    -เนื่องจากที่ดูโง่ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะความจำสั้นนั่นแหละค่---

    -โรเรนโซ่ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือ ความจริงจะต้องบอกว่าเป็นงานอดิเรกที่ชาตินี้ก็ไม่คิดแตะ

    -ไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียวค่ะ เพราะโดนเลี้ยงแบบระบบปิด

    -ถามหาพ่อของโรเรนโซ่ ต้องบอกว่าไม่มีบทบาทอะไรกับน้องเท่าไหร่ เพราะนาง (?) รักและฟังภรรยาตัวเองมาก พอหล่อนบอกจะดูลูกเอง ก็ปล่อยเลยค่---

    -สกุลฝ่ายแม่คือ อัคทาโค แปลว่า ทำร้าย ค่---(ตรงข้ามกับอมอเรียที่แปลว่า ความรัก นั่นเอง เอง เอง..)



    _______________________________
     
     
     
     
    ส่วนโรลเพลย์สำหรับตัวละคร
     

    นัยน์ตาสีแดงเลือดนกเหลือบมองเด็กสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆด้วยสายตาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยคำทักทาย "สวัสดียัยเหยื่อสังเวย เมื่อคืนเป็นคืนแรกที่ได้อยู่ร่วมห้องกับท่านผู้นั้นของเธอแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะหืม"
    ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงนั้น เธอกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ กับคำถามและสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียกขานตัวเธอ เด็กสาวกำมือชื้นเหงื่อแน่น เสตาหลบ ฉีกยิ้มแห้งๆ พร้อมพึมพำเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินด้วยน้ำเสียงสั่นระริกว่า "อะ เอ่อ..ไม่..ไม่รู้สิคะ"

     
    หญิงสาวในผ้าคลุมฮู้ดสีดำสนิทส่งเสียงหัวเราะน่าขนลุกเบาๆพลางไหวไหล่เหมือนจะบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้และมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอเสียหน่อย "แล้วยังไงล่ะ อยากจะหนีเหรอ" เธอถามแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น
    ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใบหน้าหวานซีดเผือดไร้สีเลือดในทันทีกับคำถามนั้น ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ โรเรนโซ่รีบสะบัดหัวส่ายหน้าปฏิเสธแรงๆ กับคำถามที่ทำหัวใจเธอแทบหยุดเต้นนั่นทันที แสดงออกว่าเธอกลัวขนาดไหนกับผลลัพธ์ของการกระทำแบบนั้น 

     
    "เอาน่า แรกๆก็แบบนี้นั่นแหละ อีกไม่นานก็คงจะชิน อีกอย่างจะหนีไปไหนได้ล่ะหืม" เสียงนั้นเจือความสงสารปนสมเพชอย่างชัดเจน รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นข้างริมฝีปาก "เธอก็เห็นด้วยใช่ไหมล่ะ เรามาเปลี่ยนหัวข้อกันดีกว่า อืม...ถ้าสมมตินะ ท่านผู้นั้นของเธอล่ามเธอไว้แค่ภายในห้องเท่านั้นล่ะ ไม่ให้อิสระเธอที่จะออกไปไหนหรือทำอะไรได้ เธอจะทำยังไงเหรอ"
    "ละ ล่าม แบบนั้นมัน.." น้ำตาเอ่อคลอหน่วงรอบดวงตากลมโต โรเรนโซ่แสดงสีหน้าหวาดกลัวปนลำบากใจอย่างชัดเจน ตอนนี้เธอชักอยากเดินหนีผู้หญิงประหลาดคนนี้ไปให้ไกลที่สุด แต่เพราะโดนสายตาน่ากลัวนั่นจดจ้องอยู่ โรเรนโซ่จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนสั่น เอ่ยตอบตะกุกตะกักทั้งน้ำตาคลอเบ้า แสดงสีหน้าคาดหวังออกมากสุดๆ "ไม่เอานะคะ..แบบนั้นน่ากลัวจะตาย คุณ..คุณพูดเล่นใช่ไหมคะ?"

     
    นัยน์ตาที่เคยกวนประสาทเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "ฉันว่าอีกไม่นานคงจะมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่ๆเลย หึๆ จะทนรอไม่ไหวแล้วสิ เอาล่ะ มาถึงคำถามสุดท้ายที่ควรถามเป็นคำถามแรกแล้วล่ะนะ ความประทับแรกของเธอที่ตื่นขึ้นมาโดยมีท่านผู้นั้นจ้องมองอยู่เป็นยังไงเหรอ"
    คราวนี้โรเรนโซ่ทำหน้าลำบากใจจะตอบมากขึ้นไปอีก เด็กสาวทำหน้าอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ พอหัวคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมายามค่ำคืนนั้น นึกถึงสายตา และน้ำเสียงของอีกฝ่าย ร่างน้อยพลันสั่นระริกขึ้นมาอีกรอบ พร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลอาบแก้ม แต่ถูกเธอใช้มือเช็ดไว้ได้ทัน "น่า..น่ากลัวค่ะ มากๆ ด้วย..ฮึก" 


     
    ส่วนตอบคำถามสำหรับผู้ปกครอง
     
    ก่อนอื่นเลย สวัสดีค่ะ ผู้ปกครองของว่าที่นางเอกของเอมฯ ขอทราบชื่อหน่อยได้ไหมคะ : เย้ พบกันอีกครั้งนะคะ--ท่านเอมเพรส รันรันเจ้าเดิม เพิ่มเติมคือเอาลูกสาวมาส่งปิดจ๊อบค่ะ 555

     
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์เสียเวลามานั่งพิมพ์ใบสมัครนะคะ : เเฮร่---ก็อปวาง #โดนตบ--

     
    ทำไมถึงเข้ามาสมัครเรื่องนี้คะ หรือว่าชอบใครในเรื่องเป็นพิเศษเอ่ย : ตอนแรกว่าจะปิดจ๊อบตัวเองเเล้วล่ะค่ะ แต่มองบทอายาโตะอยู่นานราวๆ ครึ่งชั่วโมง (?) แล้วไปเม้าท์มอยกับเพื่อนเเล้วไอเดียมันเเล่นมาก อยากเขียนรุนเเรง เลยเปิดเว็บจิ้มมันเลยค่---

     
    ว่าแต่ลบวงเล็บทั้งหมดออกแล้วใช่ไหมคะ อย่าลืมลบด้วยน้า : เรียบร้อยจ้าา รันซะอย่าง (หือ--?)

     
    เอ้อ เรื่องใบสมัครส่งตอนที่ 1 และส่งเป็นลิ้งค์เท่านั้นนะคะ ไม่งั้นเท : รับแซ่บ! //ตะเบะ//

     
    สุดท้ายและท้ายสุด อย่าลืมกดสับตะไคร้ เอ๊ย fav. แฟนพันธุ์แท้กันด้วยนะคะ บ๊ายบายจ้า! : สับเสร็จแล้วลงหม้อต้มยำเลยใช่ไหมคะ?-----//ผิดหนักๆ



    CR.SHL




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×