ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prison moon

    ลำดับตอนที่ #36 : hellfire

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 62



    ll dear goddess, I hope you fall from heaven to my embrace and die. ll

    ____________________________________________________

    Application

    ◣Profile


    “ถ้าอยากจะเจอกับพระผู้เป็นเจ้าที่แสนดีของคุณซะขนาดนั้น

    ก็ลองเอามีดในมือคุณเสียบคอหอยตัวเองดูสิครับ"


    บทบาท : [2] ปีศาจแห่งความโกรธเกรี้ยว (ซาตาน)

     

    ชื่อ/นามสกุล : วัลดัส โคลด์ l Valdus Colt

     

    ชื่อเล่น :

              วัลส์ l Valz [ ชื่อที่มีแค่แม่ของเขาเท่านั้นที่ใช้เรียกตัวเขา ] 

              (ความจริงแล้วพวกเพื่อน ๆ หรือคนรอบตัวชอบเรียกเขาด้วยชื่อมากมาย ทั้งเพื่อล้อเลียนหรือหยอกเล่น แต่วัลดัสน่ะ..ไม่นับชื่อพวกนั้นเป็นชื่อเล่นของเขาหรอกนะ ก็มันแสลงหูจะตายไปนี่นา จริงไหมล่ะ?)


    ความหมายของชื่อ : วัลดัส - ผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน l โคลด์ - ทรงอำนาจ l วัลดัส โคลด์ - { ผู้ทรงอำนาจอันเรืองรองท่านนั้นแข็งแกร่งและไร้เทียมทาน }

     

    สัญชาติ : American


    เชื้อชาติ : American

     

    เพศ : Male

     

    ลักษณะภายนอก : วัลดัส โคลด์ ชายหนุ่มคนนั้น ดวงตาของเขาที่เป็นสีส้ม มันดูหวานละมุนไม่ต่างจากรอยยิ้มบนใบหน้า บรรยากาศเย็นสบายของสายลม กับเสียงหัวเราะกลั้ว ๆ ที่ทำให้ดูง่าย ๆ สบาย ๆ อะไรก็ได้ไปซะหมด จนเหมือนกับว่าไม่ต้องเกรงใจอะไรอีกแล้ว เขาเป็นคนที่ดูเข้าถึงง่ายด้วยลักษณะท่าทางแบบนั้น หากก็เป็นคนที่ถ้าอยู่ลับหลัง ก็คงโดนนินทาได้ง่าย ๆ เพราะใบหน้าและเนื้อตัวนั้นที่มักปรากฎรอยฟกช้ำอยู่เสมอ เส้นผมสีพาวเดอร์ของเขายุ่งเหยิงไม่ใคร่จะเป็นทรงสักเท่าไหร่ และดวงตาข้างหนึ่งของเขาก็ถูกผ้าปิดตาคาดปิดไว้ เพื่อปกปิดแผลที่น่าเกลียดบริเวณนั้น ตาซ้ายของวัลดัสแทบจะใช้ไม่ได้แล้ว หรือต่อให้ใช้ได้ เขาก็มองเห็นแค่ในระยะห้าเซนติเมตรเท่านั้น วัลดัสมีแขนขาที่ยาวมาก และเขาก็ค่อนข้างจะผอมอยู่พอสมควรเลยด้วยล่ะ (182ซม. l 70กก.)

     

    อายุ : 22 - year - old

     

    อุปนิสัย : 

    • C L A M L Y

              ดั่งสายน้ำ ที่ไหลวนจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เป็นไปตามธรรมชาติและไร้ซึ่งสิ่งที่แปลกแยก วัลดัส โคลด์ มีภาพลักษณ์เช่นนั้นติดตัวอยู่เสมอ บรรยากาศรอบตัวให้ความรู้สึกเย็นสบาย เป็นเหตุให้เหล่าผู้คนกล่าวขานชายผู้นี้ว่า เป็นผู้ที่ใจเย็นเสียยิ่งกว่าน้ำลึก ท่าทีที่ดูไม่ทุกข์ร้อนกับอะไร และแม้สถานการณ์ตรงหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หรือเกิดเรื่องแปลกประหลาดมากมายสักแค่ไหน เขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีที่ดูหวั่นวิตกออกมาเลยสักนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเขาเติบโตขึ้นจนถึงป่านนี้ ประสบการณ์มากมายหล่อหลอมให้เขาดูนิ่งสงบตลอดเวลา แต่บางครั้ง..มันก็นิ่งมากเกินไป ถึงขนาดที่ชวนให้หวาดวิหวั่นเลยล่ะ

              เพราะเอาแต่ทำตัวผ่อนคลายสบายใจ ไม่ยีหระต่ออะไรเลยแบบนั้นนั่นแหละ ถึงได้เดาไม่ออก ผู้คนมักกล่าวบอกว่า พวกเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าวัลดัสกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว เพราะต่อให้จะเดามันไปในทางธรรมดาสามัญ ดั่งเช่นท่าทีที่เขาแสดงออกมา สิ่งที่อยู่ในหัวก็อาจจะก้าวไปไกลเกินกว่านั้นก็เป็นได้..มันไม่มีสัญญาณอะไรบอกหรอกว่า คนเรามันจะคิดแค่ตื้นเขิน หรือคิดล้ำลึกไปไกลกว่านั้น นั่นก็เพราะว่าสมองของมนุษย์น่ะเป็นสิ่งที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแบบ วัลดัส โคลด์ ที่ชอบทำอะไรให้มันดูง่ายดายแต่แท้จริงแล้วมีแต่ความซับซ้อนเต็มไปหมด

              นอกจากนี้แล้วท่าทีแบบนี้ก็ใช่ว่าจะถูกจริตใครต่อใครนักหรอก มันมีหลายครั้งกับที่เขาใจเย็นจนเกินไป จนกลายเป็นว่าไปยั่วโมโหคนอื่นเข้าเสียแทน แต่วัลดัสก็จะมักจะจัดการกับมันอย่างใจเย็นอีกครั้งและอีกครั้ง และมันก็น่าประหลาด ที่เขามักจะทำให้สถานการณ์รอบตัวมันเย็นลงมาจากเดิมได้อย่างง่ายดาย เหมาะสมกับการเปรียบตัวตนไว้ให้เป็นสายน้ำ ที่สามารถดับเปลวเพลิงร้อนระอุได้ไม่มีผิด

    • S M I L E

              ใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเมื่อใดก็ตาม ทั้งยังเป็นยิ้มที่มีอารมณ์ร่วมอยู่เสมอ ผู้คนจึงไม่รู้สึกขัดข้องหมองใจอะไรกับรอยยิ้มของเขา เหมือนกับว่านี่คือความเคยชินเสียมากกว่าจะเป็นการตั้งฉากหน้า กระนั้นแล้ว การที่วัลดัสยิ้มอยู่ตลอด มันก็ทำให้เขาดูเหมือนกับคนที่ไม่มีอารมณ์โกรธไม่น้อยเลยล่ะ บางคนก็ชอบเข้าใจผิดไปว่าเขาโกรธใครไม่เป็นหรอก..แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเป็นมนุษย์แล้วล่ะก็ ไม่มีวันละทิ้งความโกรธาไปได้หรอก

              ตัวเขาเองก็ด้วย วัลดัสไม่ใช่คนที่โกรธไม่เป็น แต่เขามีวิธีจะควบคุมมันและเก็บมันเอาไว้ในใจ เหมือนกับการตกตะกอนก้อนกรวดความโกรธเหล่านั้นเอาไว้ก้นโถ เเล้วโชว์เพียงผิวน้ำใสเบื้องบนเท่านั้น เขามีวิธีผ่อนคลายความโกรธมากมาย ยกตัวอย่างเช่นการฟังเพลงคลาสสิค นั่งมองท้องฟ้า และที่สำคัญก็คือรอยิ้ม รอยยิ้มจะเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการผ่อนคลายตัวเขาให้หายหงุดหงิด วัลดัสกล่าวกับตนเองเสมอว่า รอยยิ้มนั้นคือสัญลักษณ์ของความสุข เช่นนั้นแล้วเขาจึงยิ้ม กระนั้นแล้วถึงจะบอกแบบนั้น..มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเชื่อมันหรอกนะ

              เพราะชีวิตจริงตัวเขานั้นแทบจะไม่เคยได้พบกับความสุขดังกล่าวเลยสักครั้ง จึงเลือกจะยิ้มออกมาอยู่เสมอ เผื่อว่าสักวันหนึ่งอาจจะสัมผัสถึงมันได้บ้าง..แต่ก็นั่นแหละนะ ในโลกเส็งเคร็งพรรค์นี้ มันจะไปเอามาสร้างความสุขสรรค์ได้กันเล่า?

    • E A S Y - G O I N G

              อะไรก็ได้ สบาย ๆ ง่าย ๆ ไปเสียหมด ติดนิสัยชอบพูดคำว่า "แล้วแต่" กับคำว่า "ตามใจ" และ "ยังไงก็ได้" ยิ่งเสียกว่าคำว่าสวัสดีขอบคุณและลาก่อน เขาเป็นมนุษย์ที่ไม่ชอบออกความเห็นอะไรเลย เหมือนคนจำพวกที่จะคอยพยักหน้ารับว่า แบบนั้นก็ดีนะ แต่ถ้าให้ออกความเห็น ก็ทำแค่นั่งยิ้มมึน ๆ รอใครสักคนพูดขึ้นมาแทน ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าหัวเขามันหลวงหรอก วัลดัสก็แค่ขี้เกียจมาโต้เถียงกับใครหากว่าความคิดของเขามันไปขัดใจใครเข้า ดังนั้นเขาเลือกจะเป็นสายซัพพอร์ตมากกว่าเป็นหัวงานนำทัพใครเขาไงล่ะ

              แต่ก็ด้วยเพราะความอะไรก็ได้ของเขาก็ด้วยนี่แหละ ที่ทำให้ไม่ค่อยมีใครเกรงใจวัลดัสสักเท่าไหร่ ปกติเขาเป็นพวกที่ถึงมีเรื่องไม่ดีอะไรมากระทบตัว หรือคนเสียมารยาทใส่ ก็จะยังแค่ยิ้มแล้วเมินมันไปดื้อ ๆ หรือทำเป็นข้างคูเปลี่ยนเรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นถกเถียงกันขึ้นมา เพราะอย่างที่บอก ว่าเขาไม่ชอบการโต้เถียง ในที่นี้หมายถึงการทะเลาะกับคนอื่นด้วย วัลดัสมีความอดทนสูงลิบลิ่ว และสำหรับเขา ถ้ายอมได้เขาก็จะยอม มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้นหรอก และพอเป็นแบบนี้ หลายคนเลยเริ่มคิดว่า ถ้าอย่างนั้นจะทำอะไรกับเขามันก็ได้ทั้งนั้นสินะ?

              เป็นคนที่มักได้รับคำกล่าวล้อเลียนที่เอนเอียงไปทางค่อนแขวะบ่อยมากจนน่าตกใจ เหมือนปากคนมันเคยชินกันไปแล้ว ว่าถึงด่าก็ไม่เป็นไร เพราะเขาก็ไม่เห็นจะโมโหอะไรเลยนี่นา แถมพอมีคนมาเดือดร้อนแทน ก็ชอบพากันบอกว่าเจ้าตัวยังไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลยนี่ ซึ่งมันก็..อืม จะว่าไงดี ถึงวัลดัสจะยิ้มอยู่ก็เถอะ แต่ว่ารู้ได้ยังไงกันน่ะว่าเขาไม่หงุดหงิดเวลาโดนล้อเลียน? อ่า..แบบนั้นมันอันตรายนะนั่น..

    • W I T T Y

              ไหวพริบที่ดีเป็นเลิศ ปฏิกิริยาตอบสนองต่อทุกอย่างที่เฉียบคมประหนึ่งว่าไม่ใช่มนุษย์ ทั้งทางกายภาพ หรือทางบุคลิกภาพและส่วนสมองก็ตาม วัลดัสเป็นเซ้นส์ดีระดับพระกาฬ แถมมีสกิลในการเอาตัวรอดสูงจนน่ากลัวเลยทีเดียว อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่เคยตื่นกลัวกับสถานการณ์แปลกใหม่ ก็เพราะว่าเขาเป็นพวกมีไหวพริบนี่ล่ะ สกิลในการปรับตัวของเขายอดเยี่ยมจนน่าตกใจ มิหนำซ้ำวัลดัสยังเป็นยอดนักประยุกต์ นำสิ่งของในชีวิตประจำวันมาใช้ประโยชน์ได้เรื่อย ๆ จนบางทีก็น่าทึ่งในความสร้างสรรค์เขาอยู่เหมือนกัน

              การสนทนากับวัลดัสบางทีก็ดูจะลำบากนิดหน่อย หากคุณมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงมาล่ะก็ เพราะไหวพริบที่เขามี มักทำให้วัลดัสจับจุดแปลกประหลาดในบทสนทนาได้ง่าย ๆ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะโพล่งออกไปตรง ๆ หรอกนะว่ารู้ตัวแล้วว่ากำลังโดนหลอกถามหรือล่อลวง ส่วนมากแล้วเขามักจะใช้สกิลปลาไหลของตัวเองซะมากกว่า..วัลดัสน่ะ ลื่นจนจับไม่ทันเลยนะ ถ้าเขาไม่อยากคุยเรื่องไหน เผลอแป๊บเดียวก็ลากออกเรื่องได้ง่าย ๆ แล้ว แถมยังมีความมุสาหะในการลากออกนอกเรื่องอย่างเต็มที่เลยด้วย แบบว่าให้ตายยังไงก็ไม่คุย จนคนเข้ามาชวนคุยหวังอยากรู้เรื่องนั้นต้องคอตกคอพับ ยกธงขาวกลับไปถ้วนหน้าเลยล่ะ

              การมานั่งล้วงข้อมูลจากวัลดัสไม่ใช่สิ่งที่ควรทำนักหรอก สิ่งที่เก่งเป็นอันดับหนึ่งของเขาคือการสวมสีหน้า อย่างที่สองนั้นก็คือการเก็บความลับ ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัวย่อมต้องเป็นเรื่องส่วนตัว และนอกจากเขาจะสรรหาวิธีไม่คุณสามารถก้าวข้ามเส้นไปยังโลกของเขาได้แล้ว ตัวเขาเองก็จะไล่ต้อนคุณกลับไปเหมือนอสรพิษร้าย เข้าโจมตีคุณได้อย่างไม่ทันตั้งตัวเเละไม่อาจจะหลบหนีเบี่ยงเบนได้โดนง่ายเลยด้วยล่ะ

    • S T R O M

              ว่ากันว่ามีบางสิ่งเร้นซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มและท่าทีเย็นสบายเหล่านั้น..หากกล่าวว่าเขาคือน้ำลึก สิ่งที่ด่ำดิ่งอยู่เบื้องล่างก็อาจเป็นหลุมน้ำวนขนาดใหญ่ หรือพายุใต้ทะเลอันแสนน่าหวาดหวั่น อย่างที่บอกไว้ว่าวัลดัสเองก็เป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่โกรธเป็น และเเรงโกรธเกรี้ยวของเขายังมากมายมหาศาล ทั้งน่ากลัวและอันตรายกว่าคนทั่วไปเป็นสิบเป็นร้อยเท่า..เพียงแค่เขามักจะปกปิดมันไว้เสมอ คนอื่นเลยไม่ทันจะรู้ตัวเท่านั้นเอง ว่าความชิบหายมันอาจจะกำลังมาเยือนในเร็ว ๆ นี้ ถ้ายังไม่เลิกทำตัวน่าหงุดหงิดให้เขารำคาญแล้วล่ะก็นะ..

              ความโกรธของวัลดัสก็เหมือนกับสะเก็ดตะกอน ที่ค่อย ๆ ไหลลงไปกองอยู่ก้นขวด หากแต่ไม่เคยหายไปไหน และมันยังคังทับถมลงไปเรื่อย ๆ..รอวันที่ขวดแก้วขวดนั้นจะรับไม่ไหว และระเบิดออกมา กลายเป็นเกลียวสมุทรลูกมหึมาที่พร้อมกลืนกินทุกผู้คน..ความโกรธเกรี้ยวของวัลดัสไม่ได้ถูกเเสดงออกมาในรูปแบบของการอาละวาด แต่มันจะเป็นการตามเก็บย้อนแค้นบัญชีกันทีหลัง แบบที่เรียกได้ว่า ถ้าให้มาสักสิบ เขาก็จะให้คืนกลับไปสักร้อยเลยล่ะ

              และด้วยรอยยิ้มแสนหวานละมุนพวกนั้น คุณคงไม่ทันจะคิดหรอกใช่ไหม? ว่าแท้จริงชายคนนี้จะเลือดเย็นได้มากเท่าไหน สำหรับเขา สิ่งที่เรียกว่าน้ำตาและการสวดมนต์อ้อนวอนไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจเลยสักนิด..วัลดัสไร้ซึ่งความเมตตา นั่นเป็นแก่นแท้ที่สำคัญที่สุดแล้ว เขาสามารถหักนิ้วทั้งสิบของคุณทีละนิ้ว ทีละนิ้ว ได้โดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้าด้วยซ้ำ วัลดัสมิได้ชื่นชอบเสียงกรีดร้องของเหยื่อ หากแต่สำหรับเขา เขาก็ชอบให้มันแหกปากทรมานโหยหวน มากซะกว่ามาปากดีพ่นคำไร้สาระใส่เขา ทั้งที่ตัวเองกำลังตายอยู่แล้วแท้ ๆ เป็นไหน ๆ เลยล่ะ

    • S W E E T

              ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันภายในตัวของคน ๆ นี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งไปแล้วด้วยซ้ำ วัลดัสมักจะพูดสุภาพอ่อนหวานอยู่เสมอ ดูเป็นคนที่แทบจะไม่สบถคำหยาบคายอะไรออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ เช่นนั้น แต่บางทีกลับพูดถ้อยคำวาจารุนแรงออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่ยังยิ้มกว้างอยู่เช่นนั้น เล่นเอาคนเขาสะดุ้งกันเป็นแทบ สับสนงุนงงกันใหญ่ว่าอะไรมันไปกระตุ้นต่อมอารมณ์พ่อคุณเข้าหรือไง และก็แน่ล่ะ..ถ้าไม่หงุดหงิดมีหรือจะกล่าวด่ากันซึ่งหน้าแบบคำหวานอาบยาพิษแบบนี้ แต่คนบางคนนี่ก็งี่เง่าเนอะ..ด่าขนาดนั้นแล้วยังไม่รู้ตัวอีก สุดแสนจะไม่อยากเสวนาด้วยเลย ให้ตายสิ

              เขามักจะกล่าวขอโทษออกมากับเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่เสมอ ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย ยกตัวอย่างเช่น การที่เขาไม่สามารถหาอุปกรณ์ในการแล่เนื้อคนที่ตนต้องการมาได้ เขาก็จะขอโทษเหยื่อของเขา ที่ไม่สามารถแล่มันออกมาได้อย่างสวยงาม ดูราวกับคำแสนหวาน และมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าเขาไม่ได้พูดกับคนที่กำลังกลายมาเป็นดินเนอร์มื้อเย็นของในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั่น

              วัลดัสเป็นคนมีบุคลิกสุภาพบุรุษโดยพื้นฐาน เขาช่วยเหลือสุภาพสตรี และคอยดูแลทุกคนรอบตัวด้วยความเคยชิน และเขาก็ทำมันโดยไม่เคยบ่นด้วย แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถเหวี่ยงสุภาพสตรีแสนน่ารักเขากระแทกกับกำแพงจนสลบได้เหมือนกัน หากว่าอีกฝ่ายมีท่าทีไม่น่าไว้ใจหรือกระทำเรื่องที่มันไม่โอเคสำหรับเขาล่ะก็..เพราะงั้นระวังไว้ล่ะ เขาไม่สนหรอกนะ ว่าจะเป็น เด็ก ผู้หญิง หรือคนแก่ สำหรับวัลดัส คนเรามันก็แค่มนุษย์หน้าโง่เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ

    • B A R B A R I C

              ป่าเถื่อนและหัวรุนแรงมากกว่าที่ใครคิด มีความคิดที่อันตราย และเคยชินกับความรุนแรง ทั้งต่อตนเองและเป็นการกระทำต่อผู้อื่น วัลดัสถึงจะชื่นชอบการเจรจากันก่อน เขาก็ไม่เกรงใจจะฟาดคอคนปากมากให้มันหักพับได้เหมือนกัน ว่าก็ว่าเถอะ คน ๆ นี้น่ะมันไม่ปกติแต่แรกแล้วล่ะ..แค่ว่าเขามักเก็บซ่อนตัวตนพวกนี้เอาไว้เสมอเท่านั้นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่วัลดัสไม่เคยเก็บซ่อนมันไว้ได้เลยก็คือแววตาของเขา ว่ากันว่าดวงตานั้นคือหน้าต่างของหัวใจ และตัวเขาเอง ก็มักเผลอหลุดแสดงออกผ่านแววตาเสมอ ทั้งความรู้สึกประหลาดใจ ยินดี แปลกประหลาด หรือกระทั่งความรู้สึกหงุดหงิดก็ตาม แต่ร่องรอยอารมณ์เหล่านั้นจะอยู่เพียงแค่ไม่กี่วินาที จากนั้นจึงจะจางหายไปอย่างรวดเร็วด้วยการเก็บซ่อนของเขาเอง

              แต่เมื่ออยู่ใต้เงามืด และไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนความเป็นตัวของตัวเองอีก วัลดัสก็ไม่เคยยั้งมือตนอีกเช่นกัน ว่ากันว่าในหมู่เจ็ดปีศาจ เขาเป็นคนที่ชอบทำเอิกเกริกเกินกว่าเรื่องที่สุดเลยล่ะ..วัลดัสไม่ได้ชอบการสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเศษเนื้อและหยดเลือด แต่มันก็มักจะเผลอกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ จนร่างมนุษย์เหล่านั้นผิดเพี้ยนไปจากที่ควรเป็นมากซะจนชวนหน่ายใจตลอด และแน่นอนว่ามันเก็บกวาดยาก..เขาเองก็เหนื่อยกับนิสัยส่วนนี้ของตนเหมือนกันนะ

              และในท้ายสุด คนทุกคนย่อมมีจุกก๊อกเล็ก ๆ ที่ขัดขวางเครื่องยนตร์ชิ้นใหญ่ในหัว..หากมันหายไปสักอย่าง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็จะกลายเป็นสิ่งสามัญได้อย่างง่ายดาย และโปรดจำเอาไว้ เมื่อวัลดัสปราศจากจุกก๊อกนั้น เขาย่อมไม่คำนึงถึงความเหมาะสมใด ๆ อีก และมันก็คงกลายเป็นงานเลี้ยงเลือดขนาดใหญ่ที่น่าตื่นตาตื่นใจขั้นสุดยอดไปเลยล่ะ 

    • E P H E M E R A L

              สิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดก็คือตัวเขาเอง วัลดัสที่ปรับเปลี่ยนไปทางโน้นทีทางนี้ที เหมือนกับพวกที่ว่า ฉันไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรอก อันไหนดีฉันก็อยู่กับอันนั้นนั่นแหละ เขาไม่ใช่คนโลเลนะ ต้องเรียกว่าเป็นพวกปรับเปลี่ยนความคิดตามสถานการณ์ต่างหาก มีความยืดหยุ่นในตัวเองสูง ไม่ชอบการกำหนดแบบแผนที่ชัดเจนจนเกินไป เวลาทำอะไรก็ชอบด้นสดแล้วใช้ไหวพริบแก้ไขเอาหน้างานตลอด เป็นพวกที่ถ้าต้องทำงานเป็นทีมกับใคร คนเขาคงอยากเอาเชือกมาชิงผูกคอตายหนีกันถ้วนหน้าถ้วนตาเป็นแน่

              แต่ทั้งนี้มันก็ยังหมายถึงตัวตนของวัลดัสด้วย..เพราะอันตราย และไม่ใช่สิ่งที่จะควบคุมเอาไว้ได้ง่าย ๆ เขาจึงพยายามทำให้การมีอยู่ของเขาเจือจางมากที่สุด วัลดัสจะไม่ทำตัวให้โดดเด่น เขาหลบซ่อนอยู่ในเงามืด และปรับเปลี่ยนลักษณะกับรูปร่างไปมาอยู่เสมอเพื่อพรางตาคนรอบตัว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบบอกชื่อของเขากับใคร หากพบเจอในฐานะมนุษย์ เราก็จะเป็นแค่คนผ่านทาง หากพบเจอในฐานะของซาตาน เขาจะเป็นเพียงผู้มอบความปรารถนานั้นให้สมดั่งดี มิใช่ผู้ที่ควรผูกมิตร และย่อมไม่ประสานสัมพันธ์กับใครโดยง่ายเป็นแน่

              ผู้คนอาจคิดว่าเขาเข้าหาได้ง่าย ซึ่งมันก็ใช่..แต่การผูกติดสายน้ำให้อยู่ข้างกายนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ วันหนึ่งเขาอยู่ข้างกายคุณ วันรุ่งเขาอาจจะหายไปและไม่กลับมาอีก วัลดัสก็เป็นคนเช่นนั้น เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย..แต่ในขณะเดียวกันเขาเปรียบเสมือนกับฝันร้ายของผู้ได้พบพานความโหดเหี้ยมเหล่านั้น ไม่อาจจะจดจำได้ในทุกรายละเอียด แต่ภาพจำที่น่ากลัวที่สุดจะติดตรึงในหัว ไม่มีวันลบออกได้โดยง่ายเป็นแน่

    • A D O R E

              ผู้ที่จะเทิดทูนความรักของเขาไว้อย่างสูงสุด ในความเป็นจริงแล้ว การตกหลุมรักสำหรับวัลดัส คืออีกหนึ่งสิ่งที่แทบไม่มีวันวนเวียนมาพบเจอกันได้ โดยลักษณะนิสัย การกระทำ และบทบาทของเขา ย่อมไม่มีทางก่อเกิดสายสัมพันธ์เช่นนั้น แต่หากว่ามันเป็นสิ่งที่กำหนดมาให้ เขาก็สามารถกลายเป็นคนโง่งมได้ด้วยแค่การสบตาและร่วงหล่นลงไปในหลุมรักนั้น จนยากที่จะโงหัวขึ้น และในท้ายสุดเเล้ว ความรักสำหรับเขา มันก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากจริง ๆ

              มันไม่ง่ายที่จะเจอคนที่ทำให้หัวใจคุณเต้นเเรง และเกิดความรู้สึกยอมแม้กระทั่งตายได้เพื่อเขา วัลดัสที่คิดว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันพิเศษ ก็ย่อมอยากถนอมความรักและดูแลมันอย่างใกล้ชิด เขาไม่ใช่คนที่จะบังคับข่มขู่ให้ใครมาอยู่ข้างกาย แต่จะค่อย ๆ เข้าหาและเฝ้ามองไปเรื่อย ๆ หากได้รับรักตอบแทน แม้เพียงแค่ครั้งเดียว เขาก็จะรักษามันไว้ให้ดีที่สุดขนาดว่าไม่มีวันปล่อยให้หายไปไหน และถ้าหากว่ามีผู้ใดบังอาจมาแตะต้องความรักของเขา เขาก็จะทำให้พวกมันได้พบกับนรกขุมที่ลึกที่สุดเป็นการตอบแทนอย่างแน่นอน

              ทว่าความรักของวัลดัสก็มิใช่ในเชิงความใคร่ปรารถนา เพราะสำหรับเขามันเป็นสิ่งที่หอมหวานกว่านั้น วัลดัสเพียงอยากจะรักและถนอม ดังนั้นเขาอาจจะรักผู้คนในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เชิงรักใคร่ก็ได้ อย่าเช่นผู้คนในครอบครัวเช่นมารดาผู้นั้น แต่ก็นะ..มันยากที่จะทำให้ปีศาจอำมหิตตกหลุมรัก และมันก็ยากยิ่งกว่า..ที่จะทำให้เขาสามารถเข้าใจความหมายของคำว่ารักที่สามัญ..เพราะสำหรับชายคนนี้เเล้ว ทุกอย่างที่มากระทบกระเทืองผู้เป็นที่รัก หรือทำให้ต้องเสียน้ำตาแม้แค่หยดเดียว มันย่อมต้องสูญสลาย ถูกเผาไหม้จนไม่ให้เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว

     

    ประวัติ :

    [ the man who came from hell ]

     

    ลักษณะการพูด : น้ำเสียงที่รื่นหู ค่อยเป็นค่อยไป และเจือด้วยเสียงหัวเราะตลอดเวลา ตัวเขาที่พูดจาเช่นนั้นช่างชวนให้ร่วมสนทนาพาทีด้วยเสียเหลือเกิน ใคร ๆ ก็บอกว่าวัลดัสเป็นคนที่น่าคุยด้วยที่สุดเเล้ว เพราะนอกจากน้ำเสียงที่ฟังสบาย เขาก็ยังเป็นพวกที่ไม่คิดถกเถียง ไหลไปตามบทสนทนาได้อย่างง่ายดาย ถึงขนาดที่ทุกคนพร้อมใจกันคิดว่า จะพูดล้อเล่นอย่างไรกับเขาก็ยังได้เลยด้วยซ้ำ..แน่นอนว่าคุณก็คงรู้ว่าใช่ไหมล่ะ? ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิดน่ะ อย่างไรก็ตาม, วัลดัสมักแทนตัวว่า ผม เรียกคนอื่นว่า คุณ แต่ถ้าพูดกับคนอายุน้อยกว่า เขาจะเรียกอีกฝ่ายว่า เธอ ทั้งนี้วัลดัสลงหางเสียงเอาไว้เสมอ เขาชอบที่จะเรียกชื่อเล่นน่ารัก ๆ ของคนอื่นมาก ๆ เลยด้วยล่ะ แต่ว่านะ ถึงปกติเเล้วเขาจะมีเสียงที่น่าฟังแค่ไหน ในเวลาที่เขาแสดงความโกรธของเขาออกมา..คุณก็จะได้รู้เองเลยล่ะว่ามันไม่ใช่คำกล่าวพูดของมนุษย์ผู้อ่อนหวาน แต่เป็นซาตานร้ายขุมนรกที่จะกระชากคุณลงมาจากสวรรค์ต่างหากล่ะ

     }} ตัวอย่างประโยคสนทนา {{

    (สองสถานการณ์แรกคือตอนที่เขายังไม่สามารถระลึกชาติได้ แต่สามสถานการณ์ท้ายคือช่วงที่รู้อดีตชาติของตนเเล้ว)

    • first situation

              บรรยากาศนอกห้องเรียนให้ความรู้สึกร้อนระอุประหนึ่งไฟเผา แต่ไฟไหนล่ะ มันจะร้อนนรกไปกว่าไฟกลางวงสนทนายามนี้ได้ ผู้คนจำนวนหนึ่งพากันล้อมรอบกลุ่มคนราวสามสี่คนเอาไว้ สีหน้าของคนกลางวงมีท่าทีดูเอาเรื่อง สายตาจ้องฟาดฟันกันประหนึ่งจะฆ่ากันเสีย ในขณะที่ผู้ที่เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยแต่ดันซวยโดนลูกหลงเต็ม ๆ นั้น กำลังยืนยิ้มบางจนตาหยีเหมือนไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลยสักนิดอยู่ตรงกลาง

              "คือว่านะทุก ๆ คน.." วัลดัสเอ่ยขึ้นมาด้วยโทนเสียงเย็นสบายเหมือนอย่างเคย เขายกสองมือขึ้นวางลงบนบ่าสองข้างของคู่มวยในยามเช้าในวันนี้ "ก็รู้อยู่หรอกว่าหงุดหงิดน่ะ..แต่ว่าใจเย็นกันก่อนเถอะ นะ?"

              สายตาสองคู่ตวัดมามองเขา ด้านในนั้นยังมีประกายความหัวร้อนอยู่ไม่หาย แต่ก่อนที่จะเกิดการโต้เถียงอะไรอีก เขาก็แทรกขึ้นมาอีกว่า "อีกเดี๋ยวกริ่งก็จะดังแล้วนะครับ แยกย้ายกันดีกว่าเนอะ"

              แน่นอนว่านั่นเป็นความจริง เพราะหลังจากนั้นแค่วินาทีเดียว เสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น อาจารย์ประจำชั้นโผล่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นเหตุให้ทุกคนต้องเลิกรากันไป แล้วไม่นานความวุ่นวายยามเช้าก็จบลง เหลือเพียงเขาที่เดินยิ้ม ๆ กลับไปนั่งที่ ก่อนจะหันหน้ามองออกหน้าต่าง ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จนไม่มีใครจะสังเกตเห็นประกายความหงุดหงิดและเบื่อหน่ายที่หลบซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มของเขาเลยสักนิด

    • second situation

              วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนมาก

              วัลดัสคิดในใจเงียบ ๆ ขณะกดนิ้วลงเครื่องขายน้ำอัตโนมัติ เหงื่อไคลมากมายไหลย้อยสร้างความรำคาญให้กับเขาเป็นอย่างมาก เจ้าของดวงตาส้มสกาวยามนี้นั้นไม่มีรอยยิ้มเปรอะเปื้อนอยู่บนใบหน้าเหมือนทุกที สีหน้าดูตึงขึงอย่างที่ไม่ใคร่จะเป็นนัก

              ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าวัลดัสกำลังหงุดหงิด แม้ว่าเขาจะไม่แสดงออกมากสักเท่าไหร่ก็ตาม มือขาวหยิบเอาเครื่องดื่มกระป๋องขึ้นมา เปิดฝาออกแล้วยกมันขึ้นจรดริมฝีปากหวังดื่มดับกระหาย หากทว่า,

              พลั่ก!

              ลูกฟุตบอลลอยเข้ามากระแทกเข้ากับหลังศีรษะ ดันใบหน้าเขาให้ทิ่มเข้าหากระป๋องเครื่องดื่มในมือเต็มแรง น้ำโคล่าเหนียวเหนอะทะลักเปรอะเปื้อนผิวกายและยูนิฟอร์ม ดวงตาเบิกกว้างคว้างอยู่เช่นนั้น ในขนาดที่สองหูได้ยินเสียงหัวเราะลั่นสนั่นของเพื่อนร่วมคลาสสองสามคน ที่ดูตลกกันซะเหลือเกิน

              "โอ้โหแฮะ — โทษทีว่ะเพื่อน, ไม่คิดว่าจะเฮดช็อต ฮ่า ๆๆๆ"

              และในขณะที่เสียงหัวเราะพวกนั้นยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง เขาก็พบว่าตัวเองบีบกระป๋องในมือจนมันบิดเบี้ยวเสียรูปทรงไปหมดแล้ว..ถึงอย่างนั้น, เมื่อร่างของเพื่อนร่วมคลาสหลายคนเดินเข้ามาหา เขากลับเลือกจะซ่อนมันเอาไว้ พร้อมกับความโกรธที่พุ่งทะลัก ยกยิ้มขึ้นมาแล้วหัวเราะร่วมไปด้วยอีกคน

              "เล่นแบบนี้มันเจ็บนะ..ฮะ ๆ"

    • third situation

              ค่ำคืนที่หนาวยะเยือก และในราตรีนี้ พระจันทร์หลบซ่อนอยู่หลังเมฆหมอก วัลดัสลากเท้าเดินไปมาภายในโรงรถขนาดปานกลาง เขาพึมพำบางอย่างอยู่ในลำคอ ดวงตากลอกส่ายมองหาสิ่งต้องการ แต่ให้ตายอย่างไรก็ไม่เจอมันเสียที สุดท้ายแล้วก็พรูลมหายใจออกมา เดินย้อนกลับไปหาเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ไม่ไกล มือและเท้าถูกเชือกป่านเส้นหนารัดเอาไว้แน่น ขนาดว่าบาดเฉือนผิวกายจนเลือดอาบย้อมแดงฉานไปทั่ว

              เพียงแค่ปลายเท้าสืบเท้าเข้าใกล้ ร่างที่นั่งเงียบมาตลอดก็เริ่มแสดงปฏิกิริยา ลมหายใจติดขัด ไหล่ลาดสะดุ้งโหยง ดวงตาคู่นั้นสั่นระริกคลอนไหวยามที่เขายอบกายลงนั่งยอง ๆ เบื้องหน้า

              "ขอโทษนะครับ" วัลดัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นระรื่นเฉกเช่นทุกครั้ง ดวงตาฉาบแววเศร้าใจ "ผมหาของที่ต้องการไม่เจอ..เหมือนว่าคุณจะไม่ได้มีความทรงจำที่ดีเท่าที่ควรด้วยสิ" ปลายนิ้วเคาะลงตรงกลางหน้าผากอีกฝ่าย หัวเราะเบา ๆ ครั้นเห็นน้ำตาใสรื้นสะอื้นไห้ออกมา

              เขาหันกลับไปหยิบบางสิ่งที่วางทิ้งไว้ในคราแรกขึ้นมา ฝ่ามือรั้งสายเชือกเพื่อสตาร์ทเครื่องยนตร์เลื่อยตัดไม้ในมือ ดวงตาวาวแสงโรจน์ครั้นปลายเท้ากระแทกเหยียบลงไปบนลำคอ กดร่างอีกคนเอาไว้แทบเท้าตนด้วยสีหน้าเรียบสงบ

              "น่าเสียดายที่ค่ำคืนนี้จะจบลงเร็วกว่าที่คิดเสียหน่อย, แต่ว่าไม่ต้องห่วงหรอกครับ"

              เงื้อมันขึ้นจนสูง เสียงเลื่อยบาดลั่นคลอเคล้าเสียงกรีดร้องโหยหวน ดั่งโอเปร่าบทสุดท้ายแห่งห้วงชีวิต

              "เจ็บแค่เดี๋ยวเดียว..แล้วก็จะได้พบกับพระองค์ที่แสนดีเเล้วนะครับ"

    • fourth situation

              "เห..แย่เลยนะครับ แบบนั้นน่ะ"

              เสียงเอ่ยนุ่มหูกล่าวด้วยความเศร้าใจไม่น้อย ครั้นได้รับฟังเรื่องราวแสนเศร้าจากหญิงแปลกหน้า ทั้งสองนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาว ต่อหน้ารูปปั้นของพระเเม่มารีอาผู้ทรงมากด้วยอารีและความรัก แสงลอดผ่านกระจกแสตนกราซเข้ามากระทบผิวขาวสะอ้าน เผยให้เห็นชัดถึงหยดน้ำตาที่ไหลอาบดวงหน้างาม

              เธอกล่าวว่าตัวเธอนั้นถูกบิดาบังเกิดเกล้าข่มขืนเสียหลายต่อหลายครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็คอยปิดบังความจริงไว้เพราะหวาดกลัวว่าจะไร้ที่พักพิง แต่เมื่อพบว่าตนตั้งครรภ์ หญิงสาวก็ไม่อาจทนได้อีก เธอหมายอยากบอกเรื่องนี้แก่ผู้อื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ หากกลับถูกกล่าวว่าว่าส่ำส่อน และเมื่อบิดาผู้นั้นรู้เข้า ก็ถูกทุบตีเธออย่างสาหัสเสียจนต้องแท้งบุตรในครรภ์ไป

              "ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว.." หญิงสาวสะอื้น ก้มหน้าปล่อยให้หยดน้ำตาร่วงเผลาะกระทบฝ่ามือ "ทั้งที่วอนขอพระผู้เป็นเจ้าอยู่ทุกวัน ทั้งที่อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็ไม่มีความผิดอะไรเลยแท้ ๆ.."

              วัลดัสจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตานิ่งสงบ ก่อนเขาจะวางฝ่ามือลงบนมือเล็ก ๆ ที่กำขยำแน่นบนอยู่บนตัก ดวงตารื้นน้ำตาช้อนขึ้นสบมองกับเขา ก่อนที่หญิงสาวจะถูกดึงรั้งเข้าไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นนั้นอย่างแผ่วเบา

              "พระเจ้าที่คุณพูดถึง, มันก็แค่ไอ้บัดซบที่อยู่ได้ด้วยคำสวดภาวนาของผู้คนเท่านั้นนั่นแหละ.." ริมฝีปากกระซิบเอ่ยแผ่วเบา ลูบศีรษะของเธอไปมา "แต่ถึงเขาจะทอดทิ้งคุณไปแล้ว มันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ" สัมผัสได้ถึงฝ่ามือเล็ก ๆ ที่ขยุ้มเสื้อของเขาแน่นด้วยแรงโกรธา สัมผัสได้ถึงคำสาปแช่งที่พวยพุ่งขึ้นมาจนถึงขีดสุดจากเธอในอ้อมแขน

              รอยยิ้มเลือนลางหายไป, และดวงตาคู่นั้น วาวแสงที่เป็นดั่งเพลิงแห่งนรกโลกันต์ขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ

              "ถ้าไม่เหลืออะไรแล้ว..ก็ลากมันไปตายด้วยกันให้หมดซะก็สิ้นเรื่อง"

    • fifth situation

              คำสบถกล่าวด่าทั่วทั้งโคตรบุพการีหลั่งไหลออกมาไม่ยอมหยุด ร่างที่ถูกเขาสกัดการเคลื่อนไหวเอาไว้จ้องเขม็งมองด้วยสายตาอาฆาตแค้น และแม้ว่าน้องชายผู้แสนน่ารักคนนั้นจะกำลังสิ้นหนทาง วัลดัสก็คงเห็นความอวดดีฉายชัดอยู่ในแววตาของออสก้าไม่มีเปลี่ยน..

              "สารเลวเอ๊ย..ฉันจะฆ่าแก!"

              รอยยิ้มละไมราวกับว่าเอ็นดูเเย้มยิ้มขึ้นประดับใบหน้า วัลดัสขยับกายเข้าไปใกล้อีกฝ่าย พร้อมทั้งเพิ่มแรงบีบรั้งที่ฝ่ามือ จนใบหน้าของออสก้าแสดงท่าทีทุรนทุรายออกมา แม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามสกัดกลั้นมันไว้เท่าชีวิตก็ตาม

              "รู้อะไรไหม? ผมน่ะ แค่เธอขอร้องก็พร้อมจะกระโดดลงไปในนรกนั่นเลยนะ ออสซี่" เขาเอ่ยหยอกขบขันกับน้องชายตัวน้อยผู้เดียงสา จ้องมองความสับสนไม่เข้าใจในคำพูดของเขาที่ไหลวนอยู่ในดวงตาสีเงินวาว วัลดัสขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ อีกฝ่าย เอ่ยปากกระซิบข้างใบหู ทั้งกลั้วหัวเราะออกไปเบา ๆ

              "แล้วหลังจากนั้น..เราค่อยไปเล่นสนุกกันต่อในขุมนรกเนอะ"

              (P.s. ความหมายที่วัลดัสต้องการจะสื่อนั่นคือ หากการที่เขาตายคือความปรารถนาของออสก้า เขาจะทำให้มันเป็นจริง แต่ก็ต้องแลกกับดวงวิญญาณดวงนั้น ที่คงจะต้องถูกจองจำไปชั่วกัปชั่วกัลป์ อะไรประมาณนั้นค่ะ---)


    พลังพิเศษ :

             • ปรับปริมาตรมวลสาร [ เขาสามารถปรับขยายหรือลดขนาดสสารต่าง ๆ ได้ พลังของเขาจะเข้าไปจัดการถึงระดับอะตอม เมื่อเขาใช้พลัง มันจึงไม่เกิดความเสียหายกับสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเขาปรับเปลี่ยนขนาดไป เพียงแค่ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเท่านั้น ซึ่งนี่จะเป็นในกรณีของสิ่งของ แต่ถ้าหากเป็นผู้คนหรือสัตว์แล้ว พวกเขามีทั้งกระดูก เลือด และกล้ามเนื้อ ถ้าหากเขาปรับให้ร่างกายของคนเราขยายขึ้น น้ำหนักมวลกล้ามเนื้อและกระดูกจะเพิ่มขึ้นตาม เป็นผลให้ร่างกายที่ถูกปรับเปลี่ยนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปด้วย เช่นเดียวกับการลดมวลสาร กล้ามเนื้อจะหดฟีบ กระดูกเปราะและเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และในขณะเดียวกัน วัลดัสเลือกส่วนที่จะปรับเปลี่ยนได้ ยกตัวอย่างเช่น เขาต้องการให้แขนซ้ายใหญ่ขึ้น มันก็จะใหญ่ขึ้น หรือถ้าเขาอยากให้ขยายเพียงกระดูก..มันก็จะขยายและทะลุออกมาจากร่างเลยล่ะ แต่ว่าการใช้พลังของวัลดัสนั้น หากใช้กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง มันจะต้องเกิดผ่านการสัมผัสเท่านั้น ]


    ความสามารถพิเศษ : 

             • Poker Face [ การตีสีหน้าเป็นเรื่องถนัดของวัลดัส เขาซ่อนทุกอย่างไว้ใต้รอยยิ้ม และมันก็ไม่เคยบอกอะไรคุณออกมาตรง ๆ เลยสักครั้ง ]

             • เซ้นส์ชั้นยอด [ เป็นพวกเซ้นส์ดีจนน่ากลัว เวลาที่เลือกทางเลือกด้วยความรู้สึก ก็มักได้รับตำแหน่ง lucky player อยู่ตลอดเลยล่ะ ]

             • ฟุตบอล [ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาดูเป็นมนุษย์ นั่นคือการที่วัลดัสเล่นฟุตบอลเก่งมาก ๆ เรียกว่าเก่งระดับนักกีฬายังได้เลยด้วยซ้ำ ]

             • ลายมือ [ เขาเป็นคนลายมือสวย ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ แต่วัลดัสเป็นคนที่มีลายมือที่สองและสาม มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามความพอใจของเขา ]

             • ไวโอลิน [ เขาเคยเล่นมันได้ดีมาก ๆ เลยนะ..แต่พอเล่นแล้วคิดถึงหน้าแม่ ในตอนนี้ก็เลยกลับไปเล่นไม่ได้แล้ว.. ]

             • ทำขนม [ เพราะออสก้าน่ะชอบกินขนมมาก ๆ เลยน่ะสิ..แล้วคุณพ่อก็ชอบบอกให้เขาทำให้อีกฝ่ายกินตลอดเลย ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นเก่งไปแล้วซะอย่างนั้น ทั้งที่เขาน่ะไม่ชอบขนมหวานสักกะนิด ]

     

    สิ่งที่ชอบ : 

             • ห้องนอนที่สะดวกสบาย [ สมัยเด็กเขาได้อยู่แต่ห้องเก่า ๆ คับแคบ และเหม็นอับ การได้นอนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องทำความร้อน และมีเตียงนอนนุ่ม ๆ กับกลิ่นหอมในอากาศ มันจึงเป็นอะไรที่เขาชอบที่สุดเลยล่ะ ]

             • โกโกร้อน [ คุณแม่น่ะชงให้เขาดื่มบ่อย ๆ เลยล่ะตอนที่ท่านยังอยู่ ]

             • การถ่ายภาพ [ วัลดัสเรียนรู้การถ่ายภาพมาจากแม่ของเขา และความรักที่แม่มีให้มัน มันก็ส่งผ่านมายังตัวเขาด้วยเช่นกัน ]

             • เพลงคลาสสิค [ ตอนที่รู้สึกปวดหัว ก็จะเปิดฟังบ่อย ๆ วัลดัสถึงขนาดโหลดมันลงเครื่องเล่นเพลงเก็บไว้ฟังเพื่อคลายความหงุดหงิดตลอดเลยล่ะ ]

             • สตูเนื้อ [ ของโปรดที่ชอบมาก และถ้ายิ่งเป็นสตูเนื้อฝีมือคุณแม่ เขาก็จะยิ่งชอบมันที่สุดในโลกเลย ]

             • ฟุตบอล [ เพราะมันเป็นไม่กี่เรื่องที่ทำได้ดี แล้วก็สนุกมาก ๆ เลยล่ะมั้ง? ]

             • ฝันดี [ วัลดัสมักจะฝันร้ายตลอด..เขาไม่ค่อยได้สัมผัสกับคำว่าฝันดีเท่าที่ควรเลย แต่เขาก็จำได้ดีเลยนะ ว่าเขาชอบมันมากขนาดไหน ]

     

    สิ่งที่ไม่ชอบ :

             • แมว [ เจ้าวิลลี่บ้าบอนั่น มันเคยข่วนหน้าเขาซะยับ สาบานเลยสิว่าเขาจะไม่ญาติกับเจ้าสัตว์ชนิดนี้อีกแน่ ]

             • กลิ่นฉุน [ ทั้งกลิ่นของน้ำหอม เครื่องเทศ หรือจะพวกสารเคมีก็ตาม ]

             • ขนมเค้ก [ มันหวานเกินไปหน่อยน่ะนะ..สำหรับเขาน่ะ ]

             • วิดีโอเกม [ เล่นได้โคตรห่วย แถมตอนสมัยเรียนก็โดนเพื่อนบังคับให้เล่นด้วยบ่อย ๆ อีก แพ้แล้วก็หน้าม่านไปเลยไหมล่ะ ]

     

    สิ่งที่เกลียด :

             • การถูกเล่นสนุกใส่เหมือนเป็นตัวตลก [ คุณจินตนาการไม่ออกหรอก..ว่ามันเหมือนนรกขนาดไหน วัลดัสทนกับความเจ็บปวดพวกนั้นผ่านทั้งทางกายและทางใจมาโดยตลอด และเขาเกลียดมันสิ้นดีเลยล่ะ.. ]

             • พวกเหยื่อปากดี [ ถึงเวลาจะตายอยู่แล้ว ยังมีหน้ามาอวดดีปากเก่งใส่เขาอีก..แต่ถึงจะเกลียด เขาก็ชอบมันด้วยเหมือนกันนั่นแหละ เพราะว่าเราจะได้เล่นสนุกกันจนกว่าจะเช้าเลยยังไงล่ะ, ไหน ๆ ก็ปากดีซะขนาดนั้นแล้วนี่นา? เขาไม่ปล่อยให้ตายง่าย ๆ หรอกนะ ]


    สิ่งที่แพ้ : -

     

    สิ่งที่กลัว : 

             • ความฝันหลังจากวันที่แม่ตาย [ เขาไม่อยากเห็นเธอในสภาพเจ็บปวดแบบนั้นเลย วัลดัสกลัวมัน กลัวมันมาก ๆ จริง ๆ แต่ถึงจะพยายามหนีอย่างไร เขาก็ยังฝันถึงภาพของแม่เขาที่ร่างกายบิดเบี้ยวอยู่เสมอ และมันก็ทำให้เขาโกรธเสียจนแทบบ้าตายอยู่ทุกคืนเลยล่ะ.. ]

             • ฝน [ เพราะวันที่แม่ของเขาตาย สายฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อฝนตกลงมา ร่างกายของเขามักแข็งทื่อและขยับไม่ออก รู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงกลับไปอยู่ในวันเดิม ๆ อีกครั้งตลอดเลยล่ะ ]

     

    เพิ่มเติม : 

    • เวลาที่ออกล่าเหยื่อ วัลดัสมักใช้พลังเปลี่ยนแปลงขนาดรูปร่างของตนเองไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ใครจดจำเขาได้โดยง่าย

    • เพราะพลังที่ปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ วัลดัสจึงมักปรับให้ร่างกายเขาดูโตกว่าวัยบ่อย ๆ เพื่อใช้หลอกตาไว้หางานทำ แต่เพราะหน้าตาก็ยังคงเป็นหนุ่มอายุยี่สิบสอง บางครั้งก็เลยต้องมีสกิลปลาไหลคอยกลบเกลื่อนเรื่องหน้าเด็ก (?) เกินพอดีไว้ติดตัวซะหน่อย

    • ดวงตาสีส้มของวัลดัสโดดเด่นเสมอเมื่ออยู่ใต้เงามืด มันวาวประกายเหมือนอัญมณี และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขากลบมันด้วยคำว่าธรรมดาไม่ได้

    • หลังจากที่วัลดัสระลึกชาติได้ เขาตัดสินใจฆ่าและกินทุกคนที่อยู่ในตระกูลทิ้ง ยกเว้นเพียงแค่ออสก้าเท่านั้น, ทั้งคุณหญิงคนนั้นที่คอยด่าทอเเม่ของเขา พ่อที่หมางเมินไม่แยแสคนรักตน โรเซตต้าที่ไม่เคยเคารพเธอ หรือกระทั่งเหล่าคนใช้ที่เอาแต่ดูถูกเหยียดหยามเธอก็ตาม

    • ความจริงตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ก็มีบ้างบางครั้งที่บังเอิญเจอกับออสก้า เพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะไปไหนไกล..ยังคงวนเวียนอยู่ในเมืองโรเชสเตอร์กับพื้นที่รอบละแวกอยู่แทบตลอดเวลา และการได้พบว่าอีกฝ่ายเลือกเดินไปในเส้นทางผู้วิเศษเพื่อหมายจะฆ่าเขา มันก็ทำให้วัลดัสประทับใจไม่น้อยเลยล่ะ

    • เขาชอบเสื้อผ้าที่มีฮู้ดคลุม เพราะเวลาที่เดินไปมาท่ามกลางผู้คน จะได้เอามันมาปิดใบหน้าเอาไว้

    • วิลลี่ คือแมวเปอร์เซียของออสก้า แน่นอนว่ามันก็เกลียดวัลดัสไม่ต่างจากที่เจ้าของมันเกลียดเขานั่นแหละ เสียดายก็แต่มันตายไปแล้วนี่สิ..

    • หลังจากหลบหนีออกมาจากบ้าน เขาก็ใช้ชีวิตไปตามห้องเช่าเก่า ๆ หรือสถานที่สาธารณะบ้าง ด้วยเงินก้อนหนึ่งที่ได้มาจากค่าประกันชีวิตของมารดา รวมถึงเงินที่เขาได้เป็นผลพลอยได้จากเหยื่อบางคน และจากที่เขาทำงานพิเศษมาเองด้วย

    • วัลดัสไม่ได้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เขามีใบจบแค่ของระดับชั้นมัธยมปลายเท่านั้น

    • เขาเริ่มสูบบุหรี่ และเจาะหูขวาหลังจากวันที่แม่ตาย พฤติกรรมที่แย่ลงไปเรื่อย แต่ก็เหมือนว่าจะยังรักษาความไพเราะในวาจาสำหรับ 'บางช่วง' ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมล่ะนะ

    • สามารถติดตามเรื่องราวของตระกูลโคลด์ได้ที่นี่ >Click<

    ______________________________________________
    O T H E R  P R O F I L E

    ______________________________________________


    Ellene Colt [39 yrs.]
    Status :: Deceased
    { หญิงสาวผู้เป็นคนสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของวัลดัส
    น่าเสียดาย..ที่เขาทำไม่ได้แม้แต่ปกป้องเธอ เหมือนอย่างที่เธอเคยปกป้องเขามาตลอด }

    +

    Talk with parents

    แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย

    : ซาหวักลีค่าา รันรันเองน้า เจอกันอีกเเล้วเนอะคุณโน แฮ่

    ∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;

    : แบบเดียวกับที่เคยบอกไว้ในใบสมัครแรกเลยคั้บ

    ∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)

    : รับทราบค่ะ! ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ <3

    ∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;

    : คือรันน่ะนะ ไปอัพเกรดเกราะมา เพราะฉะนั้นบอกเลยว่าบ่หวั่นไหวแน่นวลค่ะนาทีนี้ 5555555555

    ∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ

    : คนนี้แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ ถ้าไม่ติดแล้วคิดว่ามีบทที่โอเคกว่า ก็จัดให้น้องลงตามบทได้เลย แต่ถ้าไม่ไหวก็ส่งน้องกลับบ้านมาก็ได้ค่ะ

    ∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=

    : อยากเห็นฉากต่อสู้ค่ะ! คิดภาพพลังน้องในหัวแล้วมันค่อนข้างว้าวเลย (แต่ไม่รู้คุณโนจะว้าวกะรันไหม แง้) ก็เลยอยากเห็นน้องใช้พลังสู้กับคนอื่นหน่อย อะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ!


    ขอบคุณที่สมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ!//เตรียมของเซ่นไหว้ให้(?)




            
    Z K T
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×