ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prison moon

    ลำดับตอนที่ #34 : who's hinding

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 62



    ll then I ask you for my god's sake. please take my soul run away. ll

    ____________________________________________________

    Application

    ◣Profile


    “เรามาเริ่มต้นงานเลี้ยงน้ำชาแสนสนุกของเรากันดีกว่าค่ะทุก ๆ ท่าน


    บทบาท : [6] ปีศาจแห่งความริษยา เลวิอาธาน

     

    ชื่อ/นามสกุล : เอลลี เซราฟิม บรู๊ค l Ellie Carmen Serafim Brooke

     

    ชื่อเล่น : 

               เอลล์ l Elle [ ใครจะเรียกก็เรียกเถอะ เธอไม่คิดมากอยู่เเล้ว ]


    ความหมายของชื่อ : เอลลี - การขึ้นสวรรค์ l เซราฟิม - ลุกเป็นไฟ l บรู๊ค - ลำธาร l เอลลี เซราฟิม บรู๊ค - { ลำธารศักดิ์สิทธิ์อันเป็นสถานนำพาสู่สรวงสวรรค์นั้นกำลังลุกเป็นไฟด้วยบาป }

     

    สัญชาติ : British


    เชื้อชาติ : English

     

    เพศ : Female

     

    ลักษณะภายนอก : งดงามดั่งตุ๊กตากระเบื้องราคาแพง ของสะสมชิ้นสำคัญที่มิอาจยอมให้มีรอยแปดเปื้อนได้ เส้นผมสีบลอนด์สลวย หยักศกน้อย ๆ ยาวจรดบั้นเอว เส้นผมหยักโค้งล้อมรอบกรอบหน้าทรงหัวใจได้พอดิบพอดี รอยยิ้มของเธอที่หวานละมุนดั่งน้ำผึ้ง เอลลี เซราฟิม บรู๊ค คือเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความหอมละมุนของดอกไม้ติดกายอยู่เสมอ ร่างกายเล็กจ้อย ดูบอบบาง และน่าถนอม เครื่องหน้าจิ้มลิ้มชวนเอ็นดู พวงแก้มแดงระเรื่อน่ารักน่าหยิก ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างอยู่เสมอ ชุดกระโปรงสีขาวสะอาดจับจีบสวยงาม ไม่ว่าอย่างไรก็เหมือนกับนางฟ้าเทพธิดาตัวน้อย ๆ หากทว่า, ดวงตาของเธอนั้น กลับเปรียบดั่งอสูรกาย สีทองคำที่ดำมืดลึกจนถึงขีดสุด ไม่มีสิ่งใดอยู่เลยเว้นเพียงความริษยาและสับสนที่ผสมปนเปกันจนเละเทะเท่านั้น (157ซม. l 40กก.)

     

    อายุ : 17 - year - old

     

    อุปนิสัย : 

    [ สี่ห้วงแรกอันเป็นเปลือกนอก

    สี่ห้วงหลังอันเป็นเนื้อแท้

    ไม่ว่าตัวตนใด, ล้วนเป็นนางทั้งสิ้น ]


    • P R I N C E S S

               คุณเคยเห็นเจ้าหญิงที่อยู่ในเทพนิยายรึเปล่า? หากจะให้พูดแล้วล่ะก็ เอลลี เซราฟิม บรู๊ค ก็คือตัวตนของเจ้าหญิงที่ว่านั่นแหละ ไม่ว่าจะบรรยากาศรอบตัวเธอ ที่ให้ความรู้สึกสว่างและอ่อนนุ่ม กิริยา ท่าที คำพูด ทุกอย่างที่ส่อออกมาถึงสกุลรุณชาติ เพียงครั้งแรกที่มองเห็น ก็ต้องต่างพากันเอ่ยปากต่อปากว่าได้เจอกับเจ้าหญิงจากแดนลึกลับเข้าเสียเเล้ว หรือบ้างก็ว่ากันว่า เธอนั้นเป็นตัวละครคุณหนูแสนหวานในหน้าหนังสือวรรณกรรมเลื่องชื่อที่มีอยู่จริง แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เว่อวังสักแค่ไหน ทุกสิ่งก็ล้วนกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงได้เมื่อเขาได้พบกับตัวจริงของเธอ

               เอลลีเป็นคนที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงกลิ่นหอมของดอกไม้ตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ ผู้คนมักผ่อนคลายตอนที่เห็นรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าของเธอ อาจจะมีอาการเคลิบเคลิ้มกันเสียบ้างกับความงามราวดั่งว่าเป็นตุ๊กตากระเบื้อง ซึ่งได้รังสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีตสวยงาม เธอเป็นคนที่มีมารยาทในตัวสูง และมันเป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่ได้ดูติดขัดแสร้งทำอะไรเลย เช่นนั้นแหละถึงทำให้ผู้คนคิดว่านี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเธอ และที่เป็นเช่นนั้น นั่นก็เพราะมันเป็นธรรมชาติพื้นฐานของเธออยู่เเล้วน่ะสิ..เพราะแต่เดิมเอลลีก็เคยมีชีวิตในฐานะ คุณหนูผู้งดงาม มาก่อนจริง ๆ นั่นแหละนะ

               กล่าวว่ากิริยางาม วาจาเองก็ไม่ได้ต่างกันนัก เอลลีมีการพูดจาที่ค่อนไปทาสุภาพอยู่ตลอดวลา มีบ้างที่ผ่อนคลายลงมายามอยู่กับเพื่อน ๆ ของเธอ มันมีความเป็นทางการเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มากเกินไป ลักษณะการแทนคำที่ดูเหมือนกับคำเอ่ยของเจ้าหญิง ทั้งนี้ทั้งนั้น เอลลีเป็นคนที่เคลื่อนไหวและเอ่ยแต่ละคำด้วยความเนิบนาบ ไม่เร่งรีบมากนักจนเกินไป เพราะเธอต้องการสร้างบรรยายผ่อนคลาย ไม่ให้ผู้คนรู้สึกเกร็งในการเข้าหาเธอนั่นเอง

    • F A I R Y

               เด็กสาวที่หลุดมาจากเทพนิยาย ร่างกายเล็กจ้อยนั้นดูราวกับว่าจะกอดจนจมหายไปในอกได้เลย เอลลีตัวเล็กมากถ้าเทียบกับพวกเด็กสาวรุ่นเดียวกันในทวีปยุโรป ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ทำให้ดูอายุน้อยกว่าความจริง มักสร้างความเอ็นดูแก่ผู้คนเสมอ รวมถึงรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ด้วย แม้จะไม่ได้แย้มกว้างมากนัก แต่ก็จะดันแก้มยุ้ยระเรื่อให้ยกขึ้นมาด้วยได้ ดูน่ารักน่าชัง ชวนให้อยากกอดฟัดขึ้นมาเลยล่ะ

               แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าแฟรี่น้อยก็ไม่ได้อนุญาตให้ใครมาแตะสัมผัสได้โดยง่าย แม้ยามปกติจะเชื่องช้า แต่ก็หลบหลีกอันตรายหรือความไม่ประสงค์ดีที่จะเข้ามาหาได้อย่างฉับไวเช่นกัน ตัวเธอนั้นจะรับรู้ได้ถึงจิตที่ไม่ดี หรือความรู้สึกแง่ลบจากผู้อื่น นั่นทำให้เอลลีพอจะเดาใจคนนั้น ๆ ออก และสามารถหลบหลีกได้ก่อนที่พวกเขาจะทำเรื่องไม่ดีอะไรกับเธอ เห็นตัวเล็กแค่นั้น แต่ก็แสบใช่หยอกเลยล่ะ

               มีความซุกซนน้อย ๆ อยู่ในตัว ไม่ใช่คนที่เชื่อฟังใครต่อใครอย่างเข้มงวด มักยิ้มรับมากกว่าขานตอบ ถือคติว่า รับฟังไปก่อน จะทำไหมไว้ค่อยว่ากันอีกที เอลลีมักแวบไปแวบมา หาตัวไม่ค่อยจะเจอนักกับเธอคนนี้ เพราะผู้คนไม่ค่อยรู้ว่าสถานที่โปรดของเธอคืออะไร หรือกิจวัตรประจำวันของเธอเป็นแบบไหน เนื่องจากเอลลีมักเก็บเงียบเอาไว้ตลอด ตัวตนของเธอมีสิ่งที่เรียกว่าความลับอยู่เยอะแยะ และเธอก็ดูจะพอใจเก็บมันไว้เป็นความลับต่อไปเรื่อย ๆ เสียด้วย

    • G E N T L Y

               สัมผัสอันนุ่มนวล ที่ไม่ว่าจะแตะหรือจับสิ่งใด ก็แผ่วเบา และถนอมไว้เหมือนกลีบดอกไม้ไปเสียหมด มืออันเนียนนุ่มของเธอมักแตะสัมผัสสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยความอ่อนโยนอยู่เสมอ เป็นเด็กสาวที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงอยู่มากในตัว เอลลีมีความละเอียดอ่อนสูง ทั้งในเรื่องของการกระทำและด้านอารมณ์ เธอมองออกว่าผู้คนนั้นชื่นชอบในสิ่งไหน และเกลียดในสิ่งไหน โดยเลือกสังเกตมันจากท่าทางอย่างไรล่ะ

               สำหรับเอลลี โดยปกติแล้ว จะกระทำเฉพาะในสิ่งที่ผู้อื่นชอบ และไม่ปฏิบัติต่อเขาด้วยการกระทำที่พวกเขาไม่ชอบ อาจเห็นได้ว่าความเอาใจใส่ แต่แท้จริงแล้ว กลับเป็นสิ่งที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น เอลลีมีความปรารถนาในรักและเอ็นดู เธอชอบที่คนรอบข้างจะมองเธอด้วยสายตาชื่นชม และรู้สึกรักใคร่ในตัวเธอ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม และผู้ที่สามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ ก็ย่อมได้รับความชอบพออยู่แล้ว

               มีความเจ้าเล่ห์อยู่ในตัวบ้าง ไม่ได้มากหรือน้อยจนเกินไป แต่พอจะรู้ว่าควรทำอย่างไรในสถานการณ์แบบไหน เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อันตรายไปได้ เอลลีรักษาภาพลักษณ์ของเธอเสมอ เธอไม่ใช่คนความอดทนต่ำที่ตบะแตกง่ายอะไร มีแต่จะยิ้มหวานหยดตอบแทนให้คนที่เข้ามาก่อกวนอารมณ์ของเธอกลับคืนไปก็เท่านั้นแหละ

    • S T R I V E 

               มีความมุ่งมั่นในตนเองสูง มีความคิดที่ว่า ถ้าเธอพยายาม เธอจะสามารถทำได้ทุกอย่าง เอลลีเป็นคนขวนขวาย และมีความพยายาม ทุกงานและทุกสิ่งในชีวิตเธอ เธอมักลงทุนลงแรงกับมันจนเกือบเต็มร้อยเปอร์เซนต์ เพื่อให้มันได้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมกลับมา เอลลีไม่ต้องการคำว่าพอใช้ หรือดีแล้ว แต่เธอต้องการคำว่าดีที่สุด สำหรับเธอ เธอขวนขวายในสิ่งที่เรียกว่าที่หนึ่ง และเธอก็ไม่ต้องการให้ใครได้มันไปนอกจากตัวเธอด้วย

               ความมุ่งมั่นที่กลายเป็นความทะเยอทะยาน อารมณ์ใต้ผืนรอยยิ้มเหล่านั้น สามารถก่อกวนเป็นก้อนขมุกขมัวได้ง่าย ๆ หากว่าผลลัพธ์ไม่ได้ออกมาเป็นดั่งใจนึกแล้วล่ะก็ เอลลีไม่ใช่ชอบการเอาชนะหรอก เธอก็แค่ชอบที่จะได้ยืนท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์พวกนั้นเท่านั้นเอง..สิ่งไหนไม่สนใจ ก็จะหมางเมินมันไป แต่สิ่งไหนที่อยากได้ ต่อให้ตายอย่างไร ก็ต้องเอามาให้ได้ แม้ว่าจะต้องลงทุนไปมากมายแค่ไหนก็ตาม

               คำว่ามนุษย์ทำได้ทุกอย่างเพื่อความปรารถนานั้น มิได้เกินจริงไปกว่าพูดเลยแม้แต่น้อย ตัวอย่างที่ดีที่สุดก็คือตัวของเอลลีเอง แม้เธอจะเเย้มยิ้ม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจิตใจของเธอคือความดีงาม และทุกสิ่งนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย..ซึ่งถ้าความปรารถนาของเธอ เป็นสิ่งที่เธอใช้สิ่งที่ตนมีจ่ายไปจนหมดแล้วก็ยังไม่ได้มา เธอก็ไม่ลังเลหรอกที่จะหยิบยื่นสิ่งอื่นของผู้อื่นมาจ่ายค่าความปรารถนานั้นด้วย

    • K I L L E R

               เหล่านักฆ่าที่จะคอยตามล่าคุณไปทุก ๆ ที่ไม่ว่าไปที่ไหน เปรียบเสมือนเอาไว้ดั่งเงาตามตัว เพราะรูปลักษณ์ภายนอกไม่อาจบอกได้ถึงจิตใจทั้งหมดของผู้คน เอลลีที่ดูเหมือนเจ้าหญิงไปเสียหมดคนนั้น ก็มีความรู้สึกแค้นฝังลึกที่น่ากลัวมากเช่นกัน และเรื่องตลกร้ายนั่นคือ การที่เธอจะเกิดไม่พึงพอใจขึ้นมา มันมักเกิดมาจากเหตุผลง่ายดายต่างนา ยกตัวอย่างเช่น การที่เธอถูกแขวะแซะทางอ้อม หรือโดนกดเพื่อใช้เป็นการอวดฐานะของใครสักคน เพียงเท่านี้ มันก็มากพอจะปลุกปลั่นอารมณ์ของเธอให้ขุ่นคลั่กได้แล้ว

               ตัวของเอลลีในปัจจุบันนั้น ไม่มีความลังเลที่จะฆ่าคนอยู่อีกแล้ว แต่ก่อนที่จะฆ่า เธอก็มักจะคิดให้รอบคอบซะก่อนว่า จะทำอย่างไรเพื่อกลบความผิดนี้ให้ฝังดินไปจนตายได้กันนะ?..ถ้าฆ่ามันแล้วก็คงพอใจ และถ้าได้เงินหรือสิ่งของติดไม้ติดมือกลับมาด้วย มันก็คงดีไม่น้อย จากนั้นก็คงเอามันไปฝังดิน..หรือทิ้งลงทะเลสาบกลางป่า แต่ที่แน่ ๆ ก็คือห้ามหลงเหลือร่องรอยของผู้ฆ่าเอาไว้

               เธอเตรียมตัวอย่างดีก่อนที่จะลงมือเสมอนั่นแหละ ถุงมือ การปกปิดใบหน้า เวลา สถานที่ หรือการตรวจเช็กกล้องวงจรปิด ที่เอลลียังใช้ชีวิตได้ต่อมาเรื่อย ๆ โดยที่ยังไม่ถูกจับได้สักที ก็เพราะเธอมีความรอบคอบในตัวของเธอเองสูงมาก แต่ก็เอาเถอะ..ต่อให้ถูกจับได้ไปก็ไม่เป็นไรหรอก แค่ทำให้คนที่รู้พวกนั้นพูดหรือบอกใครไม่ว่าจะทางใดไม่ได้อีกก็พอนี่นา..ใช่ไหมล่ะ?

    • T R U E - E V I L

               ความเพลิดเพลินที่เกิดขึ้นจากการกัดกินก้อนเนื้อในอกซ้าย ความรู้สึกรื่นเริงและผ่อนคลายที่ได้จากการสังหารคนที่เกลียด สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ไม่สมควรจะมีในตัวตนของมนุษย์ แต่เธอที่มีปีศาจสถิตไว้ในกาย กลับถูกอารมณ์เหล่านั้นครอบครองไปจนหมด เอลลีไม่ได้มีสำนึกที่จะระลึก ว่าการฆ่าคนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำ เหมือนกับว่าเธอลืมมันไปนานมากแล้ว..และเธอก็ไม่คิดว่ามันผิดด้วย ในเมื่อคนเรายังด่าทอ ทุบตี และเสียดสีทำร้ายกันทางอ้อมเพื่อระบายความโกรธแค้นในใจได้ แล้วทำไมเธอจะฆ่าพวกมันเพื่อสิ่งนั้นไม่ได้กัน?

               ปีศาจตนอื่นอาจฆ่ามนุษย์เพื่อกิน แต่เอลลีกลับฆ่าพวกมันเพื่อความพึงใจ บางครั้งเธอต้องการเงินทอง เธอก็ฆ่าคนที่ดูร่ำรวย บางครั้งเธอเห็นเด็กสาวสะสวย มากด้วยอนาคต และดูราวกับว่าเป็นตัวเธอในยามที่ยังคงอาศัยอยู่ในโลกชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร เอลลีก็ฆ่าเพราะเธอเกลียดนักที่มันทำให้เธอนึกถึงอดีต หรือเพียงแค่อยากจะลิ้มรสหัวใจดวงน้อยในอกซ้ายขึ้นมาดื้อ ๆ เธอก็จะฆ่า..เพื่อเติมเต็มความต้องการของเธอ

               นับวันความเป็นมนุษย์ของเธอยิ่งเลือนหาย สำนึกผิดชอบที่ทดถอยลงคลองไปจนมองหาไม่เจอแล้ว..ยากนักจะทำให้ดวงตามืดบอดต้องรับแสงขึ้นมาได้อีกครั้ง เพราะนั่นก็เป็นความพึงพอใจของเธอที่เลือกเองทั้งนั้น

    • H A T E

               ความเกลียดชังสามารถแผดเผาในอกซ้ายได้มากมายเพียงใดกันนะ..เอลลีมีสิ่งของที่เกลียดอยู่แยะเยอะ และมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามกาลเวลา ยกตัวอย่างเช่น เธอเกลียดการที่มีใครมาเด่นเกินหน้าเกินตาเธอ หรือการที่เธอเกลียดการโดนถูกดูถูกโดยผู้อื่น แต่เอลลีก็ใช่ว่าจะสักแต่ฆ่าไปเสียทุกครั้งหรอก บางครั้งเธอก็มีอารมณ์เหนื่อยหน่ายเข้าแทรกด้วยเช่นกัน..ดังนั้นเด็กสาวจึงเลือกใช้วิธีหลบเลี่ยงเสียบางในบางกรณี ซึ่งมันก็ไม่ควรจะยุ่งยากไปกว่าการฆ่าด้วย อย่างเช่นการที่เธอย้ายโรงเรียนเพื่อหลบให้พ้นจากดูถูกฐานะใหม่ของเธอ หลังจากบ้านล้มละลาย แน่ล่ะว่ามันง่ายกว่าการไปไล่ฆ่าคนทั้งห้อง หรืออาจจะทั้งโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ

               และกับผู้คนที่รู้สึกไม่ถูกชะตาด้วย เอลลีจะเลือกหลบเลี่ยงไม่พบปะกับอีกฝ่าย แทนการฆ่าอีกเช่นกัน เพราะการจะรู้สึกไม่ถูกชะตาขึ้นมาสำหรับเธอ มันก็เซ้นส์ประหลาด ๆ ที่ร้องเตือนขึ้นมาตั้งแต่เห็นหน้ากันครั้งแรก ว่าอย่าไปยุ่งกับคน ๆ นี้เลย มันจะต้องมีอะไรที่ทำให้เธอหงุดหงิดตามหลังมาได้อีกแน่ ๆ แล้วหลังจากนั้น เอลลีก็จะทำการเมินอีกฝ่ายทันที เรียกได้ว่าแทบจะกลายเป็นทาสอากาศไปเลยล่ะ

               ดังคนเขาว่า เกลียดอะไรก็อย่าพาตัวไปเกลือกกลั้วกับสิ่งนั้น เดี๋ยวมันจะระคายสายตาทำให้หงุดหงิดซะเปล่าปลี..และสกิลการเมินของเอลลี บวกกับหลบหลีกหนีให้พ้นหน้าคนที่ไม่ถูกชะตานี่ก็สุดเเสนจะเก่งกาจอย่าบอกใคร แค่เห็นแวบ ๆ มาตรงหางตา ก็รีบหาเรื่องเผ่นหนีออกไปได้อย่างไวแล้วล่ะ

    • E N V Y

               บ่อกำเนิดของทุกความผิดปกติทั้งมวลให้จิตใจอันบิดเบี้ยวไร้รูปทรงของเด็กสาวผู้นี้ แท้จริงแล้วมันก็คือความริษยาในตัวเธอนั่นเอง เอลลีบอกตนเองเสมอว่าเธอก็เพียงแต่ต้องการให้ตนโดดเด่นที่สุด แต่ทว่าในความจริง ตัวเธอที่ไม่ได้โดดเด่นมาเสียแต่แรกเริ่มนั้น ก็เพียงอิจฉาผู้อื่นจนรู้สึกว่าอกมันจะมอดไหม้ ถึงขนาดต้องพยายามพาตัวเองเพื่อให้เทียบเทียม, ไม่สิ..เหนือยิ่งกว่าคนใด ๆ ก็ตาม และเพราะมันเป็นความรู้สึกที่ทรมานสำหรับเอลลี เธอถึงได้ต้องการจุดสูงสุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องอิจฉาใครอีกเลยไงล่ะ

               หากแต่บนโลกนี้ก็มีสิ่งที่หล่อนก้าวข้ามมันไปไม่ได้เช่นกัน เมื่อต้องอยู่ใกล้กับตัวตนที่ส่องสว่างจนกลบแสงของตนมิดไป ก็มักทำให้เกิดอาการไม่พึงใจ และเมื่อไม่สามารถดับแสงนั้นลงได้สักที ก็จะกลายเป็นความกระวนกระวาย เอลลีติดนิสัยชอบขบกัดเล็บมือของตนยามที่ไม่สบายใจ เธอยั้งแรงไม่ค่อยได้นักในตอนที่เกิดภาวะเครียดกับสมอง นั่นทำให้เล็บของเธอค่อนข้างดูแย่ไม่น้อย ครั้งหนึ่งเธอกัดและฉีกมันออกมาทั้งเล็บเลยด้วยซ้ำ

               และไม่ใช่ว่าเอลลีจะไม่ยอมรับว่าตนเป็นหญิงสาวที่ขี้อิจฉาอะไรด้วย หากเธอก็เพียงแค่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง..สิ่งหนึ่งที่เธอเก่ง นั่นคือการหลอกตัวเอง และเธอก็ทำได้อย่างแนบเนียน ถึงขนาดที่ไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าเธอกำลังหลอกตัวเองอยู่น่ะ..เป็นตัวตนที่ดูสับสนในตัวเองจนน่าสงสารอย่างน่าประหลาดเลยใช่ไหมล่ะ?

     

    ประวัติ : 

    [ my carmen ]

     

    ลักษณะการพูด : คำกล่าวที่ดูสุภาพอยู่เสมอ สมกับฐานะอดีตลูกสาวตระกูลผู้ดีของเธอ เอลลีมีโทนเสียงที่นุ่มและค่อนข้างช้า เพื่อเน้นชัดคำแต่ละคำที่เธอพูด แต่ก็ไม่ได้เป็นการลงน้ำหนักเสียงมากจนเกินไป ลักษณะการพูดของเธอจะค่อนข้างมีความเป็นทางการมากกว่าคนทั่วไป เอลลีมักแทนตัวว่า ฉัน หรือ ดิฉัน และเรียกผู้อื่นว่า คุณ หากจะเรียก ๆ รวม เธอก็ชอบเรียกว่า ทุกท่าน สำหรับคนอื่น การพูดจาที่ดูเหมือนหลุดมาจากยุโรปสมัยวิคตอเรียแบบนี้ อาจชวนให้รู้สึกขบขัน แต่สำหรับเอลลี มันกลับเข้ากับเธอได้อย่างน่าประหลาด ทั้งนี้เธอมักจะลงหางเสียงอยู่เสมอ และไม่เอ่ยคำหยาบออกมา ไม่ว่าจะเป็นในกรณีไหนก็ตาม 

    {{ ตัวอย่างประโยคการสนทนา }}

    frist situation

               ในขณะที่กำลังเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า ฝีเท้าที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินนั้นกลับทำให้ไหล่เผลอไปกระแทกชนเข้ากับร่างของใครเข้าซะก่อน และเธอคงไม่ว่าอะไรเลย หากคนที่หล่อนชนจนหงายหลังล้มไปนั้น ไม่ใช่เด็กสาวตัวน้อยที่สูงเพียงอกเธอเท่านั้น

               "ปะ เป็นอะไรไหม!?" หญิงสาวลนลาน รีบย่อกายลงไปช่วยพยุงตัวเธอขึ้นมาทันที แต่แล้วตอนที่สัมผัสได้ถึงผิวอันนุ่มนิ่มนั้น ก็เริ่มได้กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยออกมา เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มอย่างน่าประหลาด

               ดวงตาสีทองงดงามเงยขึ้นมาสบมองกับเธอ ก่อนเด็กสาวนั้นเผยรอยยิ้มน่ารักลงบนใบหน้าของเธอ ได้ยินเสียงหวานเอ่ยออกมาเพียงว่า "ไม่เป็นไรค่ะ" ก่อนที่เด็กสาวจะขยับตัวลุกขึ้นยืน ปัดกระโปรงด้วยสองมือเล็กจ้อยของเธอ โค้งศีรษะให้เล็กน้อย แล้วจึงย่ำเท้าเดินห่างออกไป

               "อ่า.."

               เหมือนกับตุ๊กตาเลยแฮะ..น่ารักชะมัด

    second situation

               เสียงฮือฮาดังไปทั่วเมื่อมีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในห้อง แม้ว่าครูประจำคลาสจะกล่าวบอกให้พวกเขาเงียบ ๆ กัน มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทุกคนยังดูตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ดวงตาสีทองคำนั้นกวาดมองไปรอบ ๆ ตัวห้องด้วย

               "เอลลี เซราฟิม บรู๊ค..ย้ายมาจากลอนดอนค่ะ" เด็กสาวกล่าวเสียงเนิบนาบเชื่องช้า ฉีกยิ้มหวานแล้วเอียงคอน้อย ๆ "จะเรียกว่าเอลล์ก็ได้..หวังว่าทุกท่านจะอยากสนิทกับฉันนะคะ"

               สิ้นคำ ทุกคนก็ยิ่งส่งเสียงจ้อกแจ้กกันมากยิ่งกว่าเดิม ไม่นานหลังจากนี้ ข่าวเรื่องที่มีสาวน้อยผมบลอนด์ ที่น่ารักและอ่อนหวานเหมือนกับคุณหนูตระกูลผู้ดีที่หลุดมาจากนิยายวรรณกรรมชื่อดังสักเรื่องหนึ่ง ในขณะเดียวกัน เด็กสาวคนนั้นก็ยังคงยิ้มและยิ้มกว้างออกมาเสียยิ่งกว่าเดิม ดวงตาเป็นประกายระยับ หากแต่ลึก ๆ ลงไปแล้ว กลับหลุมดำที่กำลังก่อตัวหมุนวนไปมาอยู่ด้านในนั้น

               "ดีจังเลยนะคะ.." กระซิบแผ่วเบากับตัวเอง หรี่สายตามองคนทั่วห้อง ไม่เห็นใครสักคนที่โดดเด่นเสียจนเกินไป

               ถ้าเป็นที่นี่..คงจะไม่เป็นไรแล้วล่ะ

    third situation

               "ดูนี่สิ กระเป๋าใบใหม่ที่คุณพ่อฉันซื้อให้ล่ะ"

               เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจค่อนไปทางตั้งท่าอวด เธอเชิดหน้าขึ้นและกระหยิ่มยิ้มในตอนที่ทุกคนรุมเข้าไปดูกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงระยับ ยกเว้นก็เพียงแต่เด็กสาวคนหนึ่ง ที่ยังเพลิดเพลินกับชารสอร่อยของเธออยู่อย่างไม่สนใจอะไรเลย

               "นี่เอลลี" เสียงที่ค่อนข้างแหลมเอ่ยเรียก ดึงให้เจ้าของชื่อนั้นหันไปมองได้เล็กน้อย "เธอน่ะ ช่วงนี้ได้ซื้อของอะไรใหม่ ๆ เหมือนกับเขาบ้างรึเปล่าน่ะ?"

               เอลลีเอียงคอมองคนที่เอ่ยพูดออกมาเช่นนั้น เธอกดสายตาต่ำลงมองกระเป๋าแบรนด์เนมอีกฝ่าย ก่อนจะส่ายศีรษะเบา ๆ โดยไม่พูดอะไร ตอนแรกเด็กสาวว่าจะหันกลับไปเพลิดเพลินกับชายามบ่ายของเธอต่อ แต่เหมือนว่าเพื่อนคนนั้นจะไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลย ยังเอาแต่พูดอวดต่อไม่หยุดซะอย่างนั้น

               จนกระทั่งตอนที่เอลลีวางแก้วชาลง "มิรันด้าคะ" เอ่ยปากเรียกเพื่อนสาว แล้วยกยิ้มหวานละมุนขึ้นมาตอนที่หล่อนหลุดสีหน้าพึงใจที่ทำให้เธอสนใจได้สำเร็จ หากไม่นาน ความประหลาดใจก็ฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น เมื่อเอลลีเอื้อมมือไปลูบกระเป๋าของเธอเบา ๆ

               "เป็นกระเป๋าที่ดีจังเลยนะคะ"

               "อะ เอ๋--ก็..ใช่น่ะสิ.."

               เอลลียกยิ้ม ดวงตาของเธอเป็นประกายเบา ๆ ในขณะที่ยังไม่ละปลายนิ้วออกมาจากมัน "ฉันเอง..ก็อยากได้ขึ้นมาบ้างแล้วสิ"

               'แต่ว่าเจ้าของเก่าของมันเนี่ย..คงต้องจับเย็บปากแล้วโยนลงทะเลสาปไปก่อนซะล่ะมั้งคะ..'

    fourth situation 

               ภายในตรอกแคบในซอกหลืบแห่งหนึ่ง ท่ามกลางแสงไฟสลัวไม่อาจจะมองเห็นใบหน้าของกันและกันได้อย่างชัดเจน แต่เด็กสาวเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์หยักศกกลับยกยิ้มอย่างน่ารัก จ้องมองไปยังเหยื่อของเธอ และเห็นว่าหล่อนกำลังพยายามดิ้นให้หลุดบางสิ่งที่มีลักษณะยืดยาว เลื้อยขดเคี้ยวอยู่โอบรัดอยู่รอบลำตัวหล่อน ผิวของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำมันวาว เหมือนกับอสรพิษยักษ์ไม่มีผิด

               "น่าสงสารจังนะคะ" เธอเอ่ยอย่างเชื่องช้า ดวงตาหรี่ลงคล้ายกับขบขัน "..ตอนนี้ก็ไม่เห็นปากดีเหมือนตอนที่ดูถูกฉันเลยด้วยสิ"

               เสียงหัวเราะขบขันดังในลำคอของเธอ เอลลีเอียงคอมองอีกฝ่ายกับสงสารและเวทนาเสียเหลือเกิน เธอคลายท่อนแขนที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปของเธอลงเล็กน้อย ในยามที่อีกฝ่ายทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร ก่อนรอยยิ้มทั้งมวลจะหายไปทันที เมื่อได้ยินเสียงนั้นเอ่ยตะโกนออกมาว่า

               "นังสัตว์ประหลาด! น่าขยะแขยง — !"

               กร็อบ!!

               ส่วนที่เป็นหางงูนั้นขยับตัวบีบรัดเข้ากันด้วยความรวดเร็ว และใบหน้าส่วนล่างของหล่อนก็ถูกบีบด้วยแรงมหาศาลจนเกิดเสียงของกรามที่แตกหัก ดวงตาเหลือกขึ้นด้วยความทรมาน และมันก็เพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อร่างกายของเธอถูกบีบรัดอย่างรุนแรงจนบิดเบี้ยวผิดรูปร่างไปจนหมด

               เอลลีจ้องมองร่างที่แหลกเละด้วยฝีมือของตน ก่อนเธอจะเปลี่ยนให้แขนของตนกลับมาเป็นเหมือนเดิม คว้าเอาร่างไร้ลมหายใจนั้นขึ้นมา อ้าปากออกกว้าง เผยเขี้ยวแหลมที่ค่อย ๆ งอกออกมาริมฝีปาก และก่อนที่ฝังคมเขี้ยวลงไปเพื่อฉีกกระชากเอาหัวใจออกมาจากร่าง เธอก็เอ่ยพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า

               "ใจร้ายจังเลยนะคะ..คุณเนี่ย"

    fifth situation

               "ค่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ หนูสบายดี อื้อ..คุณแม่ก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ"

               น้ำคำหวานระรื่นหูเอ่ยกล่าวตอบโต้กับผู้อยู่อีกฝากของสายสนทนาด้วยความรื่นไหล ลักษณะน้ำเสียงที่ราวกับยามนี้ตนเพียงกำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องพักของตนเท่านั้น..อันที่จริง, เรื่องที่ว่าเอลลีกำลังนั่งอยู่ในห้อง มันก็ไม่ได้ผิดไปจากความจริงนักหรอก..แค่ว่าเธอมีแขกคนสำคัญเท่านั้นเอง

               ดวงตาเหลือบไปมองเด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นที่ตัวสั่นระริก ร่างกายของหล่อนถูกแขนข้างหนึ่งของเธอซึ่งกลายสภาพไปเกี่ยวพันรัดไว้แน่นหนาจนเลือดแทบไม่สามารถไหลเวียนได้ ใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนน้ำตา ได้แต่คิดว่าทำไมเรื่องถึงได้กลายเป็นแบบนี้..ทั้งที่เธอก็แค่แอบตามเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ เพียงเพราะอยากจะรู้เรื่องของหล่อนมากกว่านี้เท่านั้นเอง

               "ขอร้อง ขอร้องล่ะนะ — แค่ก!!"

               แรงบีบรัดเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ปลายหางยาวเลื้อยเข้าพันรัดรอบริมฝีปากของอีกฝ่ายไว้ในเวลาต่อมา ทบกันจนไม่เหลือช่องว่างให้ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมา เอลลีหันไปมองอีกฝ่าย ละโทรศัพท์ออกจากใบหูชั่วขณะ เเล้วลากนิ้วชี้มาจรดริมฝีปากเป็นเชิงบอกให้เงียบ พร้อมกับยกยิ้มบาง

               "อ่า..ไม่มีอะไรค่ะ พอดีหนูกำลังดูหนังสยองขวัญอยู่น่ะ"

               ก่อนที่เธอจะหันกลับไปตอบปลายสายสนทนาของเธอ ทิ้งให้เหยื่อผู้น่าสงสาร ได้แต่นั่งร่ำไห้ทรมานเจียนตาย จำต้องน้อมรับชะตากรรมตนในยามหน้าไปทั้งเช่นนั้น

     

    พลังพิเศษ : 

               • Evil form [ เอลลีสามารถปรับเปลี่ยนร่างกายให้มีลักษณะคล้ายกับเลวิอาธานได้ในเบื้องต้น คุณสมบัติของเธอเป็นไปได้ตามสัตว์วิปลาศตนนั้น อันได้แก่ การขึ้นเกล็ดที่แข็งแกร่งดุจเกราะเหล็กทั่วร่างกายของเธอ เขี้ยวที่งอกยาวมากขึ้นจนเหมือนกับจระเข้ และมีแรงกัดกับแรงบีบมหาศาล แขนทั้งสองข้างสามารถกลายเป็นลำตัวถึงส่วนหางงูที่เลื้อยยืดยาวออกไปได้ ดวงตาที่สามารถมองเห็นในความมืด แต่การจะขึ้นรูปทั้งหมดอย่างพร้อมกันนั้นเป็นอะไรที่แทบเป็นไปไม่ได้ โดยอย่างมากแล้ว เธอก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างของตนได้แค่สองรูปแบบเท่านั้นในปัจจุบัน มิหนำซ้ำเอลลีเองก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ด้วยสิ..ก็มันอัปลักษณ์จะตายไปนี่นา ]


    ความสามารถพิเศษ : 

               • การจัดเตรียมเซ็ทดื่มชายามบ่าย [ ในที่นี้พูดรวมถึงการอบขนม การชงชา การจัดวางจาน และการตกแต่งอื่น ๆ เพื่อความสวยงาม เอลลีมีความสามารถในด้านนี้เพราะสมัยที่บ้านของเธอยังไม่ล้มละลาย การดื่มชายามบ่ายเป็นสิ่งที่บ้านของเธอชอบทำที่สุด ]

               • ภาษา [ มีความรู้ด้านภาษามาก เธอพูดได้สี่ภาษา, อังกฤษ (สำเนียงบริติช), จีน, รัสเซีย และ ภาษาญี่ปุ่น แต่เธอสามารถอ่านภาษาอิตาลีได้ด้วย แค่ว่าไม่สามารถ พูด เขียน หรือฟังได้ในตอนนี้ ]

               • แต่งหน้า [ ไม่ใช่แค่แต่งหน้าออกมาได้สวย แต่ยังหมายถึงสามารถแปลงโฉมใบหน้าให้แตกต่างจากเดิมจนจำแทบไม่ได้อีกด้วย ]

                • คาดเดาจิตใจผู้คน [ มันเป็นทักษะที่ควรมีนะ..ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะเป็นที่รักของทุกคนล่ะก็ ]

     

    สิ่งที่ชอบ : 

               • ได้อยู่ในจุดที่โดดเด่นที่สุด [ ..ไม่รู้สิ สำหรับเธอ, มันก็แค่เป็นสิ่งที่ปรารถนามาตลอดเท่านั้นเอง ]

               • คำชม [ ทำให้รู้สึกดีใจ และคิดว่าที่ผ่านมาก็พยายามได้ดีอยู่นะ ]

               • รองเท้าส้นสูง [ ค่อนข้างฝังใจความตัวเล็กของตัวเอง เลยชอบใส่รองเท้าส้นสูงมาก ๆ ]

               • การดื่มชายามบ่าย [ ประเพณีในประเทศบ้านเกิดของเธอ เธออยู่กับมันมาแต่เด็กแล้ว จะชอบก็ไม่แปลกหรอก ]

               • ผีเสื้อ [ เพราะปีกของมันสวย และงดงามมาก ๆ ]

               • ซุปร้อนในวันที่อากาศหนาว [ เธอมักป่วยในวันที่อากาศเย็นลง การได้กินซุปร้อน ๆ ทำให้รู้สึกอุ่นและรู้สึกดีที่สุด 

               • สีแดง [ สีสันที่โดดเด่นสะดุดตา และเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่อันตรายไปพร้อม ๆ กัน ]

               • หัวใจ [ เธอชอบทานหัวใจมากที่สุดจากทั้งหมดของทุกส่วนในร่างกายมนุษย์ ยิ่งหัวใจที่ยังเต้นอยู่ยิ่งชอบเลยล่ะ ]

     

    สิ่งที่ไม่ชอบ : 

               • กระรอก [ ไม่น่ารัก..ไม่เลยสักนิด.. ]

               • ฤดูหนาว [ เธอจะป่วยได้ไงในช่วงนี้ เอลลีรู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องคอยนอนซมอยู่บนเตียงตลอด ]

               • ของเผ็ด [ มันทำให้รู้สึกแสบปากและหายใจลำบากนะ ]

               • ถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว [ เอลลีมีความลับที่ไม่อยากให้คนนอกรู้ เพราะฉะนั้นการโดนล้ำเส้นเลยไม่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่น่ะสิ..และถ้าใครคิดจะเอาความลับของเธอ หรือเรื่องส่วนตัวไหน ๆ ไปปากโป้งบอกคนอื่นล่ะก็..เธอจะบีบปากมันให้กรามแตกเลยเชียว.. ]

               • การสารภาพรัก [ จริงอยู่ว่าการได้รับความรักเป็นเรื่องดี แต่เอลลีไม่ได้สนใจจะมีสัมพันธ์เชิงสู้สาวกับใคร การถูกสารภาพรักเลยกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ ที่พาลแต่จะพาไปเจอความน่าปวดหัวเท่านั้นน่ะสิ ]

     

    สิ่งที่เกลียด : 

               • การถูกพูดถึงอดีตหรือข้อผิดพลาดของตน [ ถ้าจะเป็นตัวตนที่โดดเด่นและโด่งดังที่สุด ก็ไม่สามารถมีตำหนิผิดพลาดตรงไหนทั้งสิ้นบนตัวเธอ การที่มีคนมาขุดคุ้ยเรื่องอดีตของเธอ แล้วเอามันมาพูด มันจะทำให้เธอโกรธมาก ๆ เลยล่ะ ]

               • พวกที่ทำตัวเด่นเกินหน้าเกินตามากจนเกินไป [ รำคาญ..เห็นแล้วอยากจะพังทิ้งให้หมด ไอ้คนพรรค์นั้นน่ะ.. ]

               • การโดนดูถูก [ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาย่ำหัวเธอทั้งนั้น..ไม่มีวัน ]


    สิ่งที่แพ้ : 

               • นมวัว [ นี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เธอตัวไม่สูงสักทีก็ได้นะ..อย่างไรก็ตาม เอลลีเเพ้นมขั้วขั้นรุนแรง มันจะเกิดอาการแพ้ในระบบทางเดินอาหารร่วมกับทางเดินหายใจและระบบหัวใจและหลอดเลือด เมื่อดื่มหรือกินสิ่งมีส่วนผสมของนมวัวเข้าไป หลังจากนั้นประมาณสิบนาที (อย่างต่ำ) เธอจะเกิดอาการอาเจียนอย่างหนัก ไอออกมาเป็นเลือด และอาจช็อกจนหมดสติ นั่นทำให้เกิดอันตรายที่สามารถถึงแก่ชีวิตได้ง่าย ๆ ]

               { วิธีการรักษา - นำตัวไปพบแพทย์ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ }

     

    สิ่งที่กลัว : 

               • การที่ไม่สามารถทำอะไรได้ดีเลยสักอย่าง [ มันก็หมายถึงการที่จะไม่มีวันอยู่ในความสนใจของใครนั่นแหละ..คนที่โหยหาสายตาและตำแหน่งที่ได้รับความรักอย่างที่สุดอย่างเธอ สิ่งนี้น่ะมันไม่ได้ต่างอะไรจากฝันร้ายเลยสักนิด ]

     

    เพิ่มเติม : 

    • จริงอยู่ที่ว่าเอลลีเรียนเก่ง แต่นั่นก็ไม่สามารถนับเป็นความสามารถพิเศษอะไรได้หรอก..เธอแค่ขยันมากจนเกินไปเท่านั้นเอง

    • ความรู้ด้านภาษานั้นเธอได้รับการสั่งสอนจากผู้เป็นแม่ ส่วนภาษาอิตาลีนั้นศึกษาด้วยตนเอง

    • เธอมักทาริมฝีปากของเธอด้วยสีแดงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโทนไหนก็ตาม

    • แม่ของเอลลีมีชื่อว่า อเดลิน่า บรู๊ค (47) และเธอไม่เคยรู้เลยว่า ลูกสาวที่แสนน่ารักของเธอ ทำเรื่องเลวร้ายอะไรลงไปบ้าง

    • เอลลีมักฆ่าเพื่อชิงทรัพย์มากกว่าที่จะกิน..ที่ทำไปแบบนั้นก็เพราะว่าทุกครั้งที่เห็นพวกเขามีความสุขกับเงินทอง มันก็ทำให้เธอคิดถึงอดีต แล้วก็ต้องเกิดคำถามเสียขึ้นมาทุกที ว่าทำไมมันถึงเป็นเธอที่ต้องสูญเสียทุกสิ่งไปด้วยนะ? และเงินพวกนั้นก็ทำให้เธอใช้ชีวิตได้ดีขึ้นมากเลยด้วยล่ะ

    • ปัจจุบันศึกษาอยู่ในระดับชั้นไฮสคูล เกรด11 ในโรงเรียนวิชาการแห่งหนึ่ง

    • แต่เดิมเอลลีอาศัยอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หากในปัจจุบัน แต่หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เธอก็ตัดสินใจสอบชิงทุนต่างประเทศ (ระยะเวลา2ปีจนจบไฮสคูล) และบินมาศึกษาต่อที่เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาแทน

    • ในตอนนี้เอลลียังไม่ได้รับสัญชาติอเมริกา เนื่องจากเพียงแค่มาเรียนต่อเป็นระยะเวลาไม่มากเท่านั้น

    • อาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในเมืองโรเชสเตอร์ เป็นห้องเช่าราคาถูก เอลลีไม่เคยพาใครไปที่นั่น และก็ไม่มีใครรู้ฐานะจริง ๆ ของเธอด้วย

    • แต่เดิม กิจการทางบ้านของเอลลีคือธุรกิจชาชื่อดังในลอนดอน ทว่าล้มละลายเนื่องจากถูกโกงจากบริษัทคู่ค้า

    • ส่วนที่ชอบกินที่สุดก็คือหัวใจ บางครั้งเธอก็ชอบที่จะควักมันออกมาทั้งที่อีกฝ่ายยังมีชีวิต แล้วก็เอาร่างไปทิ้งในบึงน้ำสักที่

    ______________________________________________
    O T H E R  P R O F I L E

    ______________________________________________


    Karina Lera [ 17 yrs.]
    Status :: Deceased
    { เด็กสาวที่เปรียบเสมือนกับสิ่งสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า เอลลีอยากจะเป็นเช่นเธอในสักวัน
    แต่เมื่อฝันไม่มีวันเป็นจริง, สิ่งเดียวที่ทำได้ก็มีแค่กระชากหล่อนลงมาจากสวรรค์เท่านั้น }

    +


    Talk with parents

    แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย

    : รันรันคนเดิม คนเดวคนนิ๊ทิรักเทอ---/แค่ก./ หยอกนะคะ 5555

    ∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;

    : เหมือนกับใบแรกเรยคั้บ

    ∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)

    : รับทราบค่ะ! ยังไงก็สู้ ๆ นะคะ

    ∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;

    : โอ๋เอ๋ ลูบ ๆ เลยค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ เราอัพเกรดเกราะมาเเร้ว

    ∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ

    : รับกลับดีกว่าค่ะคนนี้

    ∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=

    : อยากเห็นตอนน้องหลอน ๆ (?) กับตัวเอง อาการประมาณคล้าย ๆ กับในประวัติ ที่น้องจะเริ่มไม่รู้ตัวว่าตัวเองชอบอะไร อยากได้อะไร อยากเป็นแบบไหนกันแน่น่ะค่ะ แหะ

    ขอบคุณที่สมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ!//เตรียมของเซ่นไหว้ให้(?)



            
    Z K T
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×