คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : take me so higher.
' please do it so that i can't even breathe '
your taste like an alcohol. i'm going higher.
more and more, give me more love.
_____________________________________________________________
PROFILE
“ ที่ไหนมีเงิน ที่นั่นมีฉันค่ะ ฮันนี่ ♥ ”
|| บท || คู่หมั้นเมฆา
|| ชื่อ || ไคโย เก็นเคย์อิ / Kaiyo Genkei
|| ชื่อเล่น || เก็นเคย์ / Genkei (คนไม่สนิทห้ามเรียก!)
|| ความหมาย || ไคโย - ท้องทะเลลึก / เก็นเคย์อิ - ที่ได้รับเกียตริ
|| อายุ || 18-year-old
|| ส่วนสูง || 164cm.
|| น้ำหนัก || 50kg.
|| ลักษณะภายนอก || สาวสวยหุ่นปราดเปรียว อกเป็นอก เอวเป็นเอว รูปร่างกระชัดเข้าสัดส่วนที่น่าหลงใหล ไม่ได้ผอมบางเพรียวๆ หากแต่มีกล้ามเนื้ออยู่บ้างให้พอชื่นใจ ผิวของเธอขาวสะอาด แต่ก็ไม่ถึงกับซีดเผือดอะไร ใบหน้าที่คมจัดประดับคู่ไว้กับดวงตาคู่สวยสีลาเวนเดอร์ เสน่ห์เหลือร้ายเเต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากบาง จมูกเล็กแต่โด่ง คิ้วสวยๆ เข้ากันได้ดีกับหน้าม้าของเธอ เส้นผมสีม่วงยาวเหยียดละเอวคอด มักมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแฮนด์ครีมอยู่บนฝ่ามือเรียวติดสากนิดหน่อย จากการสมบุกสมบันเเบกกล้องไปตะลอนทั่วเมือง เก็นเคย์เป็นผู้หญิงที่เหมาะกับเครื่องแต่งกายสีดำมาก ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันจะทำให้เธอมีเสน่ห์แบบสุดๆ เลยล่ะ
|| อุปนิสัย ||
•so, please call me the lady.
สาวงามมั่นโหนก ผู้พกความมั่นใจมาเต็มร้อย กับจริตจกร้านอีกเต็มล้าน ไคโย เก็นเคย์อิ คือผู้หญิงที่แสนจะผู้หญิ๊งผู้หญิง แต่ก็ดูไม่ใช่ผู้หญิงแบบต้นตำรับพื้นเมืองสักเท่าไหร่ เธอมักทำให้ผู้คนแปลกใจ เซอร์ไพรส์ และหัวใจจะวายตายอยู่บ่อยครั้ง กับการแสดงออกที่ดูไปในทางกะตือรือร้น รวดเร็ว และกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา
เก็นเคย์ไม่ใช่คนที่ความกุลสตรีในตัวสูง สิ่งที่ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง ก็คือความพูดจา คะ/ขา จีบปากจีบคออีกหน่อย กับการแสดงออกที่มีความจริตจกร้านสูง บางทีก็แอบดูน่าหมั่นไส้ แต่โดยรวมแล้วก็ตลกดี มองได้เพลินตาไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญอะไรแต่อย่างใด ยกเว้นก็แต่จะรวมเข้านิสัยประหลาดพวกนั้น ที่อาจทำให้อาจจะยกมือกุมขมับเสียที
เตะสูง เตะอก เสยหน้า หรือขัดขา แม้ว่าจะใส่กระโปรงหรือจิกส้นสูง เก็นเคย์ก็ไม่เคยกลัวที่จะยกขาขึ้นมาเตะก้านคอคน แต่ก็ใช่ว่าเธอจะเที่ยวไปหาเรื่องใคร ก็แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นแหละค่ะสุดหล่อ ♥ เป็นคนฝีเท้าไวมาก บวกกับรักตัวและกลัวตาย แต่ก็มีความกล้าบ้าบิ่นผสมอยู่ด้วย เมื่อถึงเวลาจวนตัวเเล้วจริงๆ ก็จะซัดให้มึนไปหนึ่งดอก จากนั้นก็สับเท้าวิ่งหนีไปอย่างไว
ถึงกระนั้นเเล้ว แม้ว่าจะมีท่าทีเหล่านี้ดังที่ได้กล่าวไป เก็นเคย์ก็ยังพร้อมนำเสนอว่าตนนั้นคือ เลดี้สาวแสนสวย ผู้มากพร้อมด้วยความสามารถ (ในด้านที่เธอถนัด) อยู่ดี อย่างที่บอกว่าเธอมีความมั่นอกมั่นใจในตัวเองสูงมาก รักและชอบความตัว ในระดับที่ไม่มีใครสามารถมาบั่นทอนความมั่นใจของเธอลงได้ เธอมั่นถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นโรคเจ้าหญิง ใครชมมาก็จะยิ้มรับแล้วพูดว่า ขอบคุณค่าา พร้อมยิ้มหวานๆ ให้จบแม้ว่านั่นจะเป็นการประชด แต่ว่าก็ไม่ได้หลงตัวเองขนาดเป็นนาร์ซิสซัสหรอกนะ!
•why I need to cear about this guys.
โนสน และโนแคร์ เธอผู้ไม่เคยจะเเยเเสเสียงนกเสียงกา ใครนินทามา ก็เมินใส่ ใครเขาว่าอะไร ก็ทำหูหนวก มั่ยลับลู้อะไรทั้งสิ้น แต่ส่วนมากแล้วอากัปกิริยาพวกนี้ ก็มักจะเป็นเฉพาะตอนที่ถูกกล่าวว่าสาดเสียเทสีเสียๆ หายๆ ใส่ อันไหนไม่จริงเธอจะไม่สน ยิ้มรับเเล้วถามกลับว่า เหรอ? รู้ดีจังเนอะ ไปแค่นั้นพอเป็นอันจบประเด็น
ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่าเก็นเคย์เป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ต่อให้ถูกอะไรพุ่งชน คำด่าสาดเสีย สายตาจิกกัด หรือโดนดักตบ เธอก็ยังไม่ตาย---ขั้นพื้นฐานคือเก็นเคย์จะเมินใส่คนพวกนั้น การเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ คือการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายที่สุด พอเกิดหงุดหงิดขึ้นมาก็ท่องพุทโธไปซะ ยิ้มกว้างๆ แล้วบอกว่าไม่เป็นไรค่า ทั้งที่ตาแทบจะยิงเลเซอร์บีมใส่หน้าได้อยู่เเล้วด้วยซ้ำ ทว่าเมื่อเอาไปบวกกับการที่เก็นเคย์มักจะยิ้มยียวน ชวนเข้าใจผิด (?) อยู่เสมอ มันเลยกลายเป็นว่า เหมือนเธอกำลังกวนโอ๊ยใส่ฝ่ายตรงข้ามเสียแทน จนต้องกลายเป็นประเด็นให้สาวงามทำหน้าเอ๋อ แล้วกะพริบตาปริบเอียงคอถามว่า เป็นบ้าเหรอคะ ใส่คนโวยวายประจำ
แท้จริงแล้วเก็นเคย์ไม่ได้ไม่รู้ว่าพวกเขาหงุดหงิดเรื่องอะไร แต่ว่า เธอเป็นของเธอแบบนี้นี่นา แล้วทำไมต้องแคร์ด้วยว่าการที่เธอเป็นแบบนี้จะทำให้ใครหนักใจ? ถ้ารับไม่ได้กันนักก็ไม่ต้องมาใส่ใจก็พอแล้วไม่ใช่รึไง อีกอย่าง..ทำแบบนี้มันสนุกดีนี่นา : )
•many guys don't like me? oh..I think I'm already know this.
หน้าด้าน หน้าทน ไม่มีใครอีกแล้วจะหน้าหนาไปกว่าเธอคนนี้ เหมือนเอาปูนมาโบกฉาบไว้ประมาณล้านชั้น ความหน้าด้านอันดับแรก ต่อให้โดนด่าไปยันโคตร ก็ยังคงด้อนแคร์และยิ้มแป้นแล้นได้อยู่ไปหน้าตาเฉย แถมยังมีสายเลือดของลูกแม่ช่างฉอด แม่สาวช่างเถียง โดนด่าน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดมันคันปากขึ้นมา เก็นเคย์ก็พร้อมจะตบโต๊ะ ลุกฮือขึ้นมาเถียงฉอดๆ เป็นปลาไหลตกช่อ เเร็บออฟก็อดโต้ใส่อีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อนตลอดเช่นกัน!
เป็นคนที่มีสำนวนคำจาฟังเเล้วรื่นหู แต่ความหมายโคตรจะไม่จรรโลง เถียงเก่งเกินจะบรรยาย แล้วถามว่าไอ้ที่เถียงมานั่นคืออะไร? ก็..เอาเป็นว่าไม่ใช่หลักเหตุผล เป็นพวกเถียงตามอารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ ค่อนข้างมีความมีย์ธิปไตยสูงมาก เชื่อมั่นในความคิด รักในคติของตน ดังนั้นใครที่เห็นแย้งไม่ต้องกัน ย่อมเป็นอะไรที่ผิด! (ทหารเอามันประหารหัว!!---/มรั่ย.) ล้อเล่นน่า ก็แค่เถียงไปงั้นเพราะหมั่นไส้แค่นั้นเเหละ ไม่ได้กะคิดจริงจังเอาชนะอะไรหรอก แต่เพราะพูดเร็ว พูดรัว แถมยังไม่ยอมลงง่ายๆ ก็เลยกลายเป็นว่า ชนะมันทุกยกที่เถียงไปเลย เพราะคนเถียงด้วยเขารำคาญเกินจะทนเเล้วน่ะสิ เฮ้อ
ด้วยลักษณะนิสัยแบบนี้ ย่อมมีคนที่ไม่ชอบเธออยู่อย่างหลากหลาย แน่นอนอีกว่า เก็นเคย์หาได้แคร์ต่อเหล่าชนกลุ่มน้อย (ในสายตาเธอ) นั่นเลยสักนิด ถือคติว่า ถ้าเธอรักตัวเอง ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดเธอ มันก็ยังแปลว่าเธอคือคนที่ดจีย์อยู่ดี นั่นแหละ เป็นพวกคิดเองเออเอง มโนแจ่มสุดๆ ไปเลย แต่ว่านะ เก็นเคย์จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก เธอแค่เป็นพวกนิสัยแปลกๆ ยากจะเข้าใจเเล้วก็ทำตามใจตัวเองไปสักหน่อยเเค่นั้นเอง
•I love these men because they make me so rich. (?)
เวลามีคนถามว่าเก็นเคย์ชอบผู้ชายแบบไหน เธอจะตอบไปว่า ชอบคนหล่อ ใครๆ ก็ชอบคนหล่อได้ แต่คนแบบเก็นเคย์คือคนที่ไม่ควรจะชอบคนหล่อที่สุดเเล้ว เพราะความชอบของเธอ ไม่ได้หมายถึงในเชิงรักใคร่เลยสักนิด เก็นเคย์มักมองหนุ่มหล่อด้วยสายตาวาววับ มองไปมองมาก็น่าจะเข้าข่ายคุกคามได้ แต่นั่นก็เป็นเพราะเธอกำลังจดจ้องเเหล่งเงินของเธออยู่ต่างหาก!
งานอดิเรกของเธอคือการแชะรูปหนุ่มๆ ไปขายทำกำไรให้ตัวเอง ด้วยสกิลมือถ่ายชั้นโปร ใครจะคิดล่ะว่าแม่เธอจะเอาพรสวรรค์มาละลายน้ำเล่น กับงานเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง ย่องไปแอบถ่ายรูปหนุ่มหล่อๆ ทั่วนามิโมริแบบนี้ และเพราะมันเสี่ยง เก็นเคย์เลยต้องระมัดระวังตัว ใส่ฮู้ด ใส่แว่นปิดหน้า แล้วไปเเอบถ่ายในที่ลับๆ ซะเเทน บอกตามตรงว่าลงทุนมาก แต่ถ้าถ่ายคนรู้จัก รับรองเลยว่าแค่หันมามองหน้า ก็รู้เเล้วว่านั่นเก็นเคย์
เธอเป็นคนที่รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นมาก ความสวยของเก็นเคย์คือที่เลื่องลือในโรงเรียน เป็นเอกลักษณ์สุดๆ ด้วยปากจัดจ้าน ปาดแดงตลอดเมื่อเดินออกนอกโรงเรียน ผู้หญิงผมม่วง ปาดลิปแดง ใส่ชุดสีดำ นั่นแหละคือ ไคโย เก็นเคย์อิล่ะ
•I can do anything because it's mine.
ขี้หวงมากกกก หวงมันทุกอย่างที่เป็นของๆ ตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องเงินทอง เก็นเคย์เป็นคนขี้งกระดับพระกาฬ เงินซักแดงไม่ให้พลาด เยนเดียวก็ไม่มีตกหล่น ใบหน้ายิ้มแย้มลั้ลลาตลอดเวลา สามารถกลายเป็นยักษ์ขมูขีได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณก้าวเท้าไปยืมเงินเธอ หรือเกิดคิดเบี้ยวเงินขึ้นมา เก็นเคย์จริงจังกับเรื่องนี้มากเลยนะ เธอเคยตามไปทวงเงินเพื่อนยันบ้านอีกฝ่ายตอนสี่ทุ่มด้วยซ้ำ
ปกติเเล้วจะไม่ให้ใครยืมเงินเลย เพราะกลัวว่าให้ไปแล้วจะไม่ได้คืน ความจริงแล้วก็เป็นทั้งเรื่องเงินและเรื่องสิ่งของเลยล่ะ เก็นเคย์ทะนุถนอมของๆ เธออยู่เสมอ เก็บเงินอย่างดี เจียดใช้อย่างประหยัด ไม่เอาไปเปย์เรื่องไร้สาระไม่จำเป็น อดทนอดกลั้นขนาดนี้เเล้ว ทำไมเธอถึงยอมยกมันให้คนอื่นยืมง่ายๆ ด้วยนะ? แต่บางครั้งพอช่วยไม่ได้จริงๆ ก็จะกระวนกระวายไปหมด อย่างให้อาจารย์ยืมกล้อง เธอก็จะงึกๆ งักๆ กังวลเป็นหนูติดจั่น คอยดูอย่างใกล้ชิด ชนิดที่ว่าสุดท้ายคนยืมก็นึกสงสาร จนต้องคืนเองในที่สุด
ความขี้หวงนี้เป็นได้ทุกทาง เว้นอย่างเดียวคือกับผู้คน เพราะเก็นเคย์คิดว่า เธอหวงได้เฉพาะสิ่งที่เป็นของเธอโดยสมบูรณ์ แต่มนุษย์นั้นมีจิตใจ พวกเขาจึงไม่มีทางเป็นของใครโดยสมบูรณ์ เธอถึงไม่อยากไปแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่บางครั้ง ถ้าหลงรักหรือได้ครอบครองไปแล้ว มันก็คงมีบ้างล่ะนะที่ไม่พอใจ เมื่อคนๆ นั้นไปอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่น เธอไม่เเสดงมันออกมาชัดนักหรอก ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้ม แต่ดวงตาก็แค่เริ่มแต่งเเต้มความไม่ชอบใจเจือลงไปเท่านั้นเอง
•just happy with your life.
ตลกโปกฮา ชอบเผลอทำตัวโก๋ะๆ ออกไปให้คนเขาฮาเล่น เก็นเคย์เป็นผู้หญิงขี้ลืม บวกกับชอบทำท่าโอเวอร์แอคติ้งเกินไปในบางหน พอจับมาผสมกัน เลยได้เป็นอะไรที่ทำให้หลุดขำพรืดไปกับท่าทีเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเสเเสร้งแบบนั้นไปในที่สุด ตัวเก็นเคย์เอง จะงงไปพักหนึ่งว่าเขาขำอะไร แต่เธอน่ะ เป็นพวกไหลไปกับเสียงหัวเราะนะ ในเมื่อคนรอบตัวรู้สึกสนุก เธอก็จะยิ้มแย้มและหัวเราะไปด้วยตลอดเลย
ถึงจะแอบถามตัวเองในใจว่า เขาจะขำกันทำมะเขือเผาอะไรนักหนา บ่อยๆ ก็เหอะ..
เป็นพวกเส้นตื้น หัวเราะให้กับทุกอย่างกระทั่งใบไม้ร่วง ความบ้าบอคือเก็นเคย์เป็นคนหัวเราะได้โซเครซี่มาก ทั้งอ้าปากกว้าง หัวเราะก้องกังวาล เเถมยังหัวเราะมากเกินพอดีตลอดจนปวดท้องตัวงอไปหมด บางทีมุกมันไม่ตลกด้วยซ้ำยังจะหัวเราะ หรือแค่แมวเดินชนเสา เธอก็ดันหลุดหัวเราะพรืดออกมาซะอย่างนั้น
ไคโย เก็นเคย์อิ is ระเบิดหัวเราะ เมื่อเธอเปล่งเสียงหัวเราะขึ้นมา คนรอบข้างจะต้องหัวเราะตามเธอไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะท่าทีพวกนั้นมันเเสนจะตลกเกินไป และใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของเก็นเคย์ ก็ช่างมีความสุขเสียจนทำให้อดยิ้มตามเสียไม่ได้เลย เธอเป็นคนแบบนั้นเเหละ สดใสและเปล่งประกาย เป็นสิ่งที่เหมือนกับพลังงานฟื้นฟูหัวใจชั้นดีไง
และเวลาที่เธออารมณ์ดี เก็นเคย์ก็จะมีท่าทีแอคทีฟกว่าเดิมเยอะมาก เเบบที่ว่าเหมือนโด้ปเอ็มร้อยไปสองขวด ไม่ก็จะฮัมเพลง ยิ้มแก้มปริตลอดวันไปเลยล่ะ
•learn by yourself not from their thought.
การเรียนรู้คือสิ่งสำคัญ และมนุษย์จะเข้าใจรวมถึงเติบโตได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ทดลองได้ด้วยตนเอง คนที่เคยแต่ฟังว่าการทอดไข่ต้องทำยังไง ย่อมทำได้ไม่ดีหรือคล่องแคล่วไปกว่าคนที่ทอดมันมาทั้งชีวิต เก็นเคย์ชอบที่จะเรียนรู้ เธอทำทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่เกี่ยงงานอะไรเลยแม้ว่าบางเรื่องจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำ แค่เพราะเธออยากจะหาประสบการณ์เยอะๆ มาใส่ตัว บางทีอาจารย์ก็ขอให้ขึ้นไปเป็นพิธีกรงานโรงเรียน หรือไม่บางครั้งก็โดนลากไปเป็นแขกรับเชิญรายการงานเฉยเลย
อย่างไรก็ตาม เก็นเคย์เป็นคนเต็มที่กับชีวิตตนเอง ถ้าเรื่องอะไรได้ลงมือทำก็ขอลุยให้สุดขอบเขตชีวิต ถึงเเม้ตอนแรกจะเด๋อๆ ด๋าๆ ไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่พอจับทิศได้แล้ว ก็จะลงมือทำอย่างอย่างเต็มที่ทันที ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอยู่ๆ ก็โดนเชิญขึ้นไปกล่าวความในใจแก่บ่าวสาวในงานแต่ง เก็นเคย์ก็เล่นเบอร์ใหญ่ บิ้วอารมณ์อวยพรกันสุดฤทธิ์ไปเลย
เป็นคนที่เรียนรู้ไวจนน่าตกใจ ศึกษาและเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ ได้ง่ายมาก แต่ก็ลืมง่ายมากเช่นเดียวกัน อย่างที่เคยบอกว่าหล่อนขี้ลืมเว่อ เพราะงั้นถ้าไม่ทำบ่อยๆ ความรู้ส่วนนั้นก็จะฝ่อออกไปจากสมองเอง เก็นเคย์ติดนิสัยที่ชอบลืมเเต่ยังมีบางส่วนค้างคาในหัว มันจะเหมือนนึกออกแต่ก็นึกไม่ออก ซึ่งมันจะทำให้เธอหงุดหงิดใจสุดๆ สุดท้ายเมื่อทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว เลยต้องลงทุนลงแรง ไปดั้นด้นหาอ่านศึกษามาอีกรอบอยู่ดี
เวลาที่มีคนมาขอให้ช่วยงาน เก็นเคย์จะยอมช่วยพวกเขาในกรณีที่คิดว่าน่าจะช่วย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องของเธอก็ตาม แต่เธอก็มักเตือนเสมอว่า ถ้าทำแบบนี้ ผลเสียจะอยู่ที่เธอเองนะ สรุปง่ายๆ ก็คือ เก็นเคย์มักจะทิ้งคำเตือนแบบไม่จำเพาะเจาะจงไว้ให้ตลอด สุดท้ายเเล้วจะเชื่อหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่เเต่กับบุญกรรมของเเต่ละคน ทว่าร้อยละเเปดสิบ เมื่อเจอยิ้มเขย่าขวัญของเก็นเคย์เข้าไป ก็ต้องพร้อมใจกันกลืนน้ำลาย แล้วทำตามด้วยความเสียวไส้ไปในที่สุดอยู่ดี
•hello everyone, I am the matrix.
หลบเก่งมากเว่อ โคตรเทพเซียนเดอะแมทริกซ์ สกิลความตัวอ่อนคล่องแคล่วเป็นเลิศ แถมสัณชาตญาณยังคมกริบ พอมีคนปาอะไรมาก็หลบเฟี้ยวฟ้าวได้อย่างโคตรคล่อง เรียกได้ว่าตีเบสบอลใส่หัวเธอไปแล้วร้อยลูก ก็ไม่เข้าเป้าเลยสักอัน ทั้งนี้เกิดมาจากสกิลในการวิ่งหลบหนีข้าวของหนุ่มๆ ที่พร้อมใจกันปาใส่เธออย่างไรล่ะ! เก็นเคย์หนีเก่ง ให้ปืนต้นไม้ไปหลบ หรือมุดลงไปซ่อนในถังน้ำ เธอทำได้ทั้งนั้น เก่งนักเรื่องซ่อนแอบ เวลาคนอื่นมาเห็นเธอหลบนี่ บอกเลยว่าอย่างอึ้ง (ตัวอย่าง) /หยอกล้อ.
หลบในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการหลบหมัดมวยเเต่อย่างเดียว มันยังหมายถึงการหลบเหลี่ยงด้วย ใครจะรู้ว่าหน้าอย่างนี้ ดันเป็นปลาไหลชั้นยอด เก็นเคย์สามารถหลบเหลี่ยงเปลี่ยนเรื่องได้เก่งมาก แค่ว่าไม่ได้แนบเนียนอะไรขนาดนั้นเท่านั้นเอง พอเกิดเหตุการณ์กระอักกระอ่วนขึ้นมาเเล้ว ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเรื่อง แล้วด้วยความเร็วในการพูดนั่น มันจึงยากมากที่จะหยุดการเปลี่ยนเรื่องแบบฉับพลันนั้นได้ เเถมเจ้าตัวยังตีเนียนเอาหน้าด้านๆ บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นไปซะอย่างนั้นอีกต่างหาก โคตรน่าเตะเลย ให้ตาย
แต่ว่าถึงจะขยันหลบยังไงก็ตอบโต้ได้เช่นกัน บอกไว้ก่อนเลยนะว่าเก็นเคย์น่ะดีกรีอัจฉริยะคาราเต้เชียวล่ะ ถึงจะไม่ได้โชว์ให้ใครดูบ่อยๆ แต่ถ้าทำให้เธอหัวเสียมากๆ หรือบีบคั้นเธอนักเขา คุณอาจจะได้กระดูกคอเคลื่อนเอาได้นา..ระวังไว้ด้วยล่ะ
•violent is so bad. let's talk man!
เอาผองเรามาคุยกันเถอะ อย่าสู้รบตบมือให้เหนื่อยกันเลย เจรจามาก่อนการวางมวย ความรุนเเรงคือเรื่องไม่น่าอภิรมย์ เก็นเคย์มักจะบอกกับคู่กรณีของเธอว่า อย่าเครียดเลย เรามาปรับความเข้าใจกันดีกว่าน้า เป็นจำพวกว่าสามารถจับมือเป็นมิตรกับศัตรูได้ง่ายๆ ขอแค่ว่าเรามีผลประโยชน์ร่วมกัน อาฮ่า! ใช่เเล้ว ทั้งหมดที่ทำไปนั่นก็เพื่อการสร้างทางเลือกให้กับตัวเองไงล่ะ!
ด้วยความหน้าเลือดและหน้าเงินของเธอเเล้ว เก็นเคย์จะเป็นแม่ค้าชั้นยอดที่พยายามตักตวงผลกำไรเข้ามาให้ตัวเองได้ที่สุด กล่าวได้กลิ่นเงินนั้นหอมหวนตรึงใจสุดเเล้วในชีวิต การชีวิตกับคอนเซปต์ ถ้าน้องมีเงิน พี่ก็ว่าดีทุกคนอย่างค่ะ (?) เก็นเคย์ไม่เกี่ยงงาน ขอแค่แลกกับงานมาพอคุ้มค่าเสี่ยง เธอก็โอเคหมด แต่เพราะเป็นการคำนวณชั่งผลลัพธ์เสมอ เก็นเคย์จึงจะไม่ยอมทำงานที่ทำให้เธอเหนื่อยฟรี หรือรู้สึกไม่คุ้มค่าเด็ดขาด เป็นเหตุให้บางครั้ง ก็โดนคนจ้างด่าว่าไอ้พวกขูดรีดทรัพย์สิน (?) บ่อยๆ เลยทีเดียว
พูดตามตรงแล้ว เก็นเคย์เจ้าเล่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว จริงอยู่ว่าไม่ได้ฉลาดนัก ถึงอย่างนั้นเเค่เรื่องตลบพลิกพลันให้สถานการณ์มันเข้าทาง มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธออยู่เเล้วล่ะนะ..เวลาเห็นท่าไม่ดี ถึงได้รีบเปลี่ยนท่าทีแล้วบอกให้ใจเย็นลงก่อนไง การทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการติดเป็นนิสัย กลายเป็นพวก หงุดหงิดยากหายยาก แต่ก็ไม่ได้แสดงออก แล้วทำทีเหมือนโอเคเเสร้งหัวเราะโง่ๆ มองโลกแง่ดีไปทั้งอย่างนั้น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองไปแค่นั้นแหละ
และเพราะเป็นแบบนั้น ทุกคนจึงมักคิดเสมอว่า ถึงเก็นเคย์จะโกรธ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างไรท้ายสุดเเล้วเธอก็จะยิ้มออกมาเเล้วพูดว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก อยู่ดี ซึ่งช่างน่าเสียดายเหลือเกิน ที่ว่าในความเป็นจริงเเล้ว มันตรงกันข้ามกันอย่างมากเลยทีเดียว..
• well, you think me is a angel, didn't you?
ผู้คนมักคิดว่าสาวน้อยคนนี้โกรธใครไม่เป็น ทว่านั่นมันแสนจะตรงกันข้าม ให้พูดเเล้ว คงไม่มีมนุษย์หน้าไหนโกรธใครไม่เป็น และคนเเบบไคโย เก็นเคย์อิยามโกรธนั้น ก็น่ากลัวเสียจนยากต่อการอธิบายได้ว่า ก่อนหน้านี้นั้นเธอเคยยิ้มและหัวเราะตลกๆ ออกมาแบบไหนกันแน่
เก็นเคย์ประดับใบหน้าของเธอด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของเธอมีเอเนอร์จี้ มันไม่เคยยืดยาน หรือฟังดูโกรธเคือง กระทั่งขีดความอดทนของเธอถึงขีดสุด เก็นเคย์อดทนต่อคนๆ หนึ่งได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ตลอดไป มันเหมือนตะกอน สะสมทับถมไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็ถูกหย่อนตะกอนที่ใหญ่กว่าทุกๆ ครั้งลงไป แล้วมันก็แตกกระพือ กลายเป็นกลิ่นเหม็นหืนไปในที่สุด
น้ำเสียงที่เย็นจัดกับสายตาแบบนั้น ทำให้เสียวสันหลังและนึกกลัวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด มันเป็นแค่ชั่วขณะที่เก็นเคย์แสดงท่าทีก้าวร้าว ราวกับจะเข้ามาเตะคอคุณให้หักตายมันเดี๋ยวนั้น เธอจะกล่าวคำพูดที่ร้ายกาจออกมา สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้คน ก่อนฉาบหน้าตัวเองไว้ด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง เเล้วบอกคุณว่า ล้อเล่นค่ะ เสมอเลยล่ะ
มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่รู้ว่านั่นคือที่สุดเเล้วสำหรับเธอ หากเข้าไปก่อกวน ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงเมื่อไหร่ล่ะก็ เก็นเคย์ก็ไม่สามารถรับประกันได้เลย..ว่าเธอไม่พุ่งเข้าไปเตะคุณได้รึเปล่า..
•silent is killing me.
ความเงียบงันไม่ใช่สิ่งที่คู่ควรกับเก็นเคย์ เธอคือคนที่เหมาะจะอยู่กับเสียงหัวเราะเเละความโหวกเหวก เมื่อใดก็ตามที่ริมฝีปากของเธอปิดนิ่ง ไม่ได้รัวคำพูดมากมายออกมาเหมือนแต่ก่อน นั่นเท่ากับว่าเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งเเล้ว ว่าความเศร้ากำลังกลืนกินเธอช้าๆ เก็นเคย์มีหัวใจที่เเข็งแกร่ง ถึงจะหงุดหงิด หรือโกรธเคืองใครอะไรอย่างใด มีแต่ความเศร้าเท่านั้นที่ทำอะไรเธอไม่ได้ ต่อให้โดนเพื่อนทิ้ง หนุ่มหักอก หรือหมากัด เธอก็คิดแค่ว่ามันคือสัจธรรมของชีวิตเท่านั้นเอง
ปลงเก่ง โนแคร์เก่ง เรื่องอารมณ์นอยน์ๆ น่ะหาแทบไม่ได้เลย แต่พอเป็นแล้ว ดันอาการโคม่าระดับว่าจะเฉาตายได้ในอีกสามนาทีข้างหน้าก็ไม่ปาน เก็นเคย์ตอนเศร้าน่ะเหมือนกับพืชที่ไม่ได้น้ำไม่ได้แสงมาสองวัน เหี่ยวแห้งไร้อารมณ์ นั่งนิ่งไม่ยิ้มไม่พูดไม่จา แล้วก็เอาแต่มองฟ้ามองนก ไม่คุยกับใครเลยสักคน เหมือนกำลังโคฟเวอร์เป็นฝุ่นละอองเลยล่ะ
เก็นเคย์เกลียดอารมณ์เศร้าหมอง มันหดหู่ และน่ารำคาญ..มันจะเหมือนโดนใครจิ้มเข้มใส่กลางอกซ้ำๆ ซากๆ อยากจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด..ตลกสิ้นดีเลยให้ตาย
•love isn't fit with me.
ขั้วเเม่เหล็กขั้วเดียวกันเข้าใกล้กันไม่ได้ฉันใด ความรักกับเก็นเคย์ก็เป็นเช่นนั้น ไม่รู้ว่าเพราะส่องหนุ่มหล่อมาจนชิน มาตรฐานเลยสูงขึ้น หรือจริงๆ แล้วไม่สนผู้ชายมาแต่แรกกันแน่ เก็นเคย์ถึงได้ไม่มีความใจเต้นตึกตักกับหนุ่มหน้าใสที่ไหนเลย แค่อารมณ์โดคิ โดคิแบบตอนเผลอแตะตัวกันหรือสบตา ก็ยังไม่มี สำหรับเธอความรักนั้นเข้าใจยาก มันไม่น่าสนใจขนาดนั้นหรอก
เก็นเคย์ไม่เคยนึกถึงภาพตัวเองตอนจะมีเเฟนเลย เธอมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว พอใครบอกว่า ไม่คิดมีแฟนเลยเหรอ เธอก็ตอบว่า ยังเด็กอยู่เลยทั้งที่ป่านนี้ก็สิบแปดเเล้ว เป็นพวกโกหกกับเรื่องที่ไม่ควรจะโกหก แถมไม่เนียนเเละไม่คิดจะทำให้เนียน ความจริงแล้วแค่โกหกไปอย่างนั้นเองเพื่อเปลี่ยนเรื่อง การสนทนาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับเก็นเคย์ จะไม่ได้อะไรเลยนอกจากรอยยิ้มโง่ๆ กลับไป
รักเดียวที่รู้จัก ก็มีแต่การรักครอบครัวเท่านั้น เก็นเคย์รักพ่อของเธอ (แต่ก็เกลียดเช่นกัน--/เอ๊ะ?) นอกเหนือจากนั้นเหรอ..ไม่รู้สิ บางที เธอคงจะรู้ได้ก็ต่อเมื่ออนาคตข้างหน้านี้ ได้ลองมีความรักกับเขาดูบ้างเท่านั้นเองล่ะมั้ง?
|| ประวัติ ||
ไคโย เก็นเคย์อิ เกิดเเละเติบโตในบ้านที่เต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวก..จากผู้ชายคนเดียว
"เตะให้สูงกว่านั้น! ตั้งท่าให้มั่นคงด้วย!"
พ่อของเธอคือผู้ชายน่ารำคาญ เขาตัวสูงใหญ่หนาเตอะตะ มีกลิ่นเหงื่อเหม็นตลอดเวลา และมักทำเสียงดังหนวกหู แต่นั่นก็คงว่าอะไรไม่ได้ ในเมื่อนั่นคือการทำงานหาเรื่องชีพพวกเราสองคน ด้วยการเป็นอาจารย์ฝึกสอนคาราเต้ให้กับเหล่านักเรียนผู้ฮึกเหิมทั้งหลาย โดยมีเก็นเคย์ เด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาสะสวยคอยเป็นลูกมือช่วยอยู่ไม่ห่าง
นอกจากนี้เก็นเคย์ยังได้รับตำแหน่งกิตติมศักดิ์ นั่นคือตัวชูโรงของสำนัก เธอเป็นอัจฉริยะทางคาราเต้ ผู้ใหญ่หลายคนบอกกันมาแบบนั้น อายุเเค่สิบสี่กลับได้รับขั้นสายแดงมา เธอชนะเลิศการเเข่งขันมามากมาย เป็นเกียตริเป็นศรีให้กับครอบครัว ที่ไม่มีใครเลยนอกจากเธอกับพ่อ แถมเขายัง..ไม่เคยจะชมอะไรเธอซะด้วยสิ
ว่ากันตามตรงเเล้ว ชีวิตของเก็นเคย์มันไม่มีอะไรวุ่นวายนักหรอก..เธอเเค่เติบโตมา เรียนรู้ เเละฝึกซ้อม เอนจอยกับชีวิตไปเรื่อยๆ และเหนื่อยจนหลับน็อคทุกทีตอนหัวถึงหมอน เพราะกิจวัตรประจำวันอันเเสนตื่นเต้น พูดง่ายๆ เก็นเคย์ไม่เคยสนใจเลยว่าพ่อของเธอจะชมเธอหรือว่าให้กำลังใจอะไรเธอไหม
สิ่งเดียวที่เด็กสาวสนในตอนนั้น ก็มีแค่การใช้ชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ
ตั้งเเต่เด็กแล้ว เก็นเคย์มักจะออกไปจากบ้านแต่เช้า กลับมาก็เกือบค่ำ พ่อไม่รู้ว่าเธอไปไหน และเธอก็ไม่เคยคิดจะบอก ว่าเธอแอบหนีไปช่วยคุณยายเซ็ทสึโร่ เจ้าของร้านโซบะตรงข้ามโรงฝึกของเราขายของ เพื่อแลกกับค่าแรงงานเล็กๆ น้อยๆ มาเก็บออมเอาไว้ เพราะบ้านของเราไม่ได้ร่ำรวย พวกเราถึงต้องขวนขวายมากกว่าคนอื่น
เก็นเคย์ไม่เคยได้รับของขวัญจากพ่อ เธอได้รับเงินน้อยนิดในแต่ละวัน สาวน้อยไม่เคยบ่นอะไรเลย แม้แต่โตขึ้นเเล้วก็ยังไม่คิดบ่น เพราะทั้งเธอและพ่อ ต่างเข้าใจตรงกันดีอยู่เเล้วว่าถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องพยายามเอามาให้ได้เอง
พ่อของเธอเหมือนจะเลี้ยงเก็นเคย์แบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ใส่แยแสเท่าไหร่ จนเพื่อนบ้านเอ่ยปากด่าบ่อยครั้ง ทว่ากับเก็นเคย์ เด็กสาวเติบโตมากับเขา เธอรู้ดีที่สุดว่าผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นเป็นยังไง แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นแบบที่พวกเพื่อนบ้านว่ากันเลย..แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเขาถึงได้ต้องพูดอย่างใจอย่างขนาดนั้นด้วยนะ..
บางทีพ่อของเธออาจเป็นพวกซึนเดเระ? (พวกปากเเข็ง)
อะไรก็ช่าง เก็นเคย์ไม่ได้ใส่ใจมันขนาดนั้น เธอยังคงใช้ชีวิตของเธอต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ใส่เรื่องรอบตัวให้ปวดหัว แต่เราก็มีหลายเรื่องให้ปวดหัวใส่กันบ่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่เก็นเคย์เริ่มละเลยคาราเต้ เธอหันไปใส่ใจงานอดิเรกของเธอ เริ่มจับกล้องมากว่าผูกสายรัด เริ่มจะปืนต้นไม้ถ่ายรูป (?) มากกว่ายกขาเตะคอคน ความสัมพันธ์พ่อลูกถึงเริ่มแปลกขึ้นทุกที
โอ้ ไม่ต้องห่วง มันไม่ใช่เรื่องร้ายเเรงอะไรหรอก เราแค่เริ่มปั้นหน้าบึ้งใส่กัน จากตอนแรกที่คุยกันบ้างไม่คุยบ้าง ก็กลายเป็นมาจิกกัดใส่กัน เป็นพริกกับเกลือ เด็กโง่กับตาลุงไปแบบงงๆ มันเริ่มขึ้นตอนไหน? นั่นสิ อาจเป็นตอนที่พยายามแอบด่ากันเพราะเก็นเคย์เลือกลาออกจากชมรมคาราเต้ที่โรงเรียน แล้วเอาเวลาไปเดินถ่ายรูปเล่นในเมืองด้วยมือถือแทนก็ได้
"เด็กโง่ ทำแบบนั้นมีแต่จะเสียเวลาชีวิต"
"สมัยนี้ก็มีแต่ตาลุงไม่เจริญพัฒนาตามปีนั่นแหละค่ะที่คิดงั้น"
เปรี๊ยะ---!
อ่า..หรือจริงๆ พวกเธอพ่อลูกจะเกลียดกันแต่แรกล่ะเนี่ย?
พอโตขึ้นก็เริ่มจะทำความเข้าใจความสัมพันธ์แบบนี้ได้มากขึ้นอีกหน่อย
ถึงแม้ว่า ทั้งคู่จะทะเลาะกันบ่อย จิกกัดกันมากขึ้น มันก็ไม่ใช่อะไรที่แย่ขนาดนั้น..ตรงกันข้าม เก็นเคย์เริ่มสังเกต เธอเห็นว่าพวกเราคุยกันบ่อยขึ้น พ่อก็ยิ้มมากขึ้น ดูอารมณ์ดีกว่าแต่ก่อน เว้นเพียงเรื่องเดียวคือการที่ตัวชูโรงแบบเธอ ดันถอดชุดคาราเต้ทิ้งกันดื้อๆ จนกิจการแอบเป๋ไปหน่อย แต่ก็กลับมาทรงตัวได้รวดเร็วเพราะฝีมือของพ่อเองนี่แหละ
มันเป็นความสัมพันธ์ที่แบบว่า ทั้งรักทั้งเกลียด แต่ถ้าพูดกันรวมๆ แล้ว ก็คือรักมากกว่าอยู่ดี..อืม..อะไรแบบนั้นแหละ ถึงจะบ่นว่าเดี๋ยวนี้ชักจะกินเยอะจนตัวบวมแล้วนะตาลุง หรือโดนด่ากลับมาว่า ก็ดีกว่าพวกหุ่นตันๆ ล่ำๆ เกินหญิงแบบเด็กโง่แถวนี้ล่ะว้า เธอก็จะยังรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เกลียดอะไรเขาอยู่ดี
..รึเปล่าหว่า?..
เมื่อพ่อเริ่มปรับความเข้าใจได้ เก็นเคย์ก็เริ่มจะเต็มที่กับงานอดิเรกที่กลายมาเป็นความฝันของเธอได้มากขึ้น เด็กสาวก้มกราบพร้อมยื่นข้อเสนอให้กับพ่อเธอ ว่าจะยอมเป็นทาสรับใช้สองปี หากว่าพ่อช่วยออกเงินซื้อกล้องราคาครึ่งเเสงให้เธอล่ะก็ และสุดท้าย เก็นเคย์ก็สอยกล้องตัวดังกล่าวมาได้อย่างงดงาม บวกกับค่าขนมทั้งชีวิตเเล้ว ก็เรียกได้ว่าคุ้มทั้งน้ำตาไหลเป็นเลือดนั่นแหละ
ขึ้นม.ปลายมาแล้วก็เริ่มมีเรื่องแปลกๆ สนุกๆ ให้ทำมากขึ้น เก็นเคย์เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเเถวบ้าน ย้ายเข้าไปเป็นเด็กใหม่ในระดับชั้นมัธยมปลาย ก่อนจะกรี๊ดแทบสลบเมื่อเจอเเหล่งทำเงิน (?) หน้าตาหล่อเหลามากมายให้ขาเซเป็นปูนาขาเก โอ้สวรรค์ทรงโปรด หล่อขนาดนี้ อยากจะวิ่งเข้าไปสัมภาษณ์จริงๆ ว่าตอนเด็กพ่อแม่เอาอะไรให้กินเป็นอาหารเหรอคะคุณพี่---
และปฏิบัติการปาปารัส---แค่ก หมายถึงปฏิบัติการคืนความสุขให้ประเทศชาติก็เริ่มต้นในที่สุด เก็นเคย์เริ่มเรียนรู้จะ (แอบ) ถ่ายภาพหนุ่มหล่อทั้งหลาย ไปทำการเปิดขายเก็งกำไรให้ชื่นปอด รวมถึงการที่เธอมักจะโดดเรียนออกมาเดินเตร่ เที่ยวหารูปหนุ่มหล่อมาเสมอ ก็ทำให้ได้ข่าวดีๆ มาอีกเพียบ
เวลาต่อมา เก็นเคย์เปิดเว็บไซส์ 'Okeino' ขึ้นมา (อย่าถามว่าใครตั้งชื่อ../เหล่ตาลุงแถวนั้น) เพื่อให้มันสะดวกต่อการทำงานของเธอมากขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าใครที่เป็นเจ้าของเว็บ ที่มักจะอัพเดทข่าวและรูปภาพหนุ่มหล่อให้เข้ามาจับจ่าย สั่งซื้อเป็นเซ็ทอัลบั้มกันเเบบนี้ แต่ถ้าหากคุณอยู่ในโรงเรียนนามิโมริ พวกคุณก็ต้องรู้ดีเลยล่ะว่า สาวน้อยสวมชุดสีดำทาปากแดงที่ถือกล้องติดตัวไว้ตลอดคนนั้น ก็คือ ไคโย เก็นเคย์อิ คนนี้นี่เอง
__TBC?__
(เสริม - เก็นเคย์เจอฮิบาริตอนย้ายเข้ามาในโรงเรียนใหม่ๆ จัดว่าทั้งสองคนค่อนข้างเป็นไม้เบื่อไม้เมากันพอตัว เมื่อเก็นเคย์เป็นนักแหกกฎที่ชอบโดดเรียนตัวยง แถมยังชอบปืนไปแอบถ่ายรูปของฮิบาริที่ห้องทำงานบ่อยๆ จนเกิดเป็นประเด็น ที่จะเห็นเธอวิ่งหอบกล้องตัวโต หนีทอนฟาคู่สุดเหี้ยมนั่น ด้วยเสียงหัวเราะก๊ากกับความวี้ดว้ายสุดเฟค แล้วก็หันมาบอกเซย์ชีสได้ทุกเมื่อเชื่อวันเลยนั่นเอง)
|| ต่อสู้เป็นหรือไม่ ? || เป็น ; คาราเต้ (สายแดง)
|| ความสามารถพิเศษ || ถ่ายรูป, ตัดต่อได้พอใช้, วิ่งเร็วมาก, สกิลคำนวณ, สายตาดีสุด ๆ, สแกนผู้หล่อ (?), หลบเก่งประหนึ่งเเมทริก, คาราเต้ขั้นสูง, ยิมนาสติก, บาลานซ์ร่างกายดีมาก
|| งานอดิเรก || ถ่ายภาพ, ทำเว็บไซต์, ตัดต่อภาพที่ถ่ายมาได้, ซ้อมยิมนาสติก, เข้าฟิตเนส (ไปส่องผู้), เปิดแผงขายออนไลน์ภาพและของสะสมสกรีนรูปหนุ่มๆ ในเว็บไซต์
|| ชอบ ||
-ลิปสติก ; ปกติจะชอบโทนสีแดงเป็นพิเศษ
-เครื่องแต่งกายสีดำ ; เธอก็ว่ามันเข้ากับเธอดี
-ถ่ายภาพ ; ชอบมากๆ เปรียบเหมือนเป็นความฝันอย่างหนึ่ง
-ผู้ชายหล่อ (?) ; เเหล่งทำเงินชั้นยอดของดิช้อล---
-เงิน ; กลิ่นหอมของเงินได้กลิ่นกี่ทีก็ชื่นใจ (..)
-เที่ยวเล่น ; มีความสุข
-โซบะเย็น ; อร่อยมาก!!!
-ยิมนาสติก ; สนุกดี
|| เกลียด ||
-ความเศร้า ; น่ารำคาญ..
-อาหารร้อนจัด เผ็ดจัด ; ลิ้นแมวเกินไป กินไม่ได้
-การบ้าน ; ไม่อยากทำ!!!
-สุนัข ; ไอ้พวกนี้มันชอบเห่าใส่เธอนี่..
-คนที่ยืมเงิน ; ไม่ให้ เดี๋ยวมันไม่คืน
-คนที่ไม่คืนเงิน ; ก็ถึงได้บอกไงว่าไม่อยากให้ยืม!
-พวกงอมืองอเท้า ; ไม่ต้องมาแบมือขออะไรทั้งนั้นแหละ ไม่แบ่งว้อย!
|| เเพ้ ||
-nothing
|| กลัว ||
-สุนัข ; ทั้งเกลียดทั้งกลัว พ่อ!! มันจะกัดหนู!!!
|| ลักษณะการพูดจา || เก็นเคย์เป็นผู้หญิงที่มีน้ำเสียงฟังดูกังวาน รวดเร็ว และฉับไวอยู่เสมอ มันค่อนข้างแหลมเมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดเสียดแก้วหูอะไร ลักษณะโทนเสียงจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ทุกสิบวิ (?) ลักษณะคำพูดจะมีความดัดๆ นิดหน่อย ทำให้ฟังดูน่าหมั่นไส้ และมันยังฟังดูสุภาพ แต่ก็หน้าด้านอย่างมาก (..) มักจะลงหางเสียงไว้ในรูปประโยคตลอดเวลา และเเทนตัวเองว่า ฉัน สรรพนามแทนตัวอีกฝ่ายมักเป็นสรรพนามแปลกๆ อย่าง สุดหล่อ คนสวย หนูจ๋า (เรียกรุ่นน้องค่ะ..) พ่อ แม่ (ไม่ใช่พ่อแม่จริงๆ ก็เรียกได้! /แถมยังเรียกพ่อตัวเองว่าตาลุงอีกต่างหาก..) เอาง่ายๆ ก็คือไม่มีหลักการอะไรเป็นพิเศษ อยากเรียกใครแบบไหนก็เรียก ไม่ก็ทางการหน่อยจะเรียก คุณ ไปเลย ไม่ค่อยจะได้เห็นเก็นเคย์เรียกใครว่า เธอ หรือ นาย เท่าไหร่นัก นอกจากนี้ เธอยังไม่ยอมเรียกชื่อต้นใคร เว้นแต่จะสนิทกันระดับไปนอนค้างบ้านกันได้อีกด้วย
Ex.
(1) - อารมณ์ปกติ
♠ "สวัสดีค่าา ไคโย เก็นเคย์อิ ถ้าเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย ท่านสามารถโทรมาที่เบอร์นี้ได้เลยนะคะ!" สาวสวยผมม่วงเอ่ยออกมาด้วยความแอฟทีค ก่อนยัดนามบัตรทำมือใส่มืออีกฝ่าย ไม่วายขยิบตาให้เป็นการหว่านเบ็ด-- "บอกเลยว่าราคาเป็นกันเองสุดๆ เลยล่ะค่ะ"
♠ "อุ๊ย.." สาวสวยที่ถือกล้องถ่ายรูปอยู่สะดุ้งนิดหน่อยตอนถูกหันมามอง เธอยิ้มแห้ง กล่าวออกมาว่า "ลมเย็นเนอะสุดหล่อ" ว่าจบก็ขยับตัวลุกพรวด สับเท้าวิ่งไปเลยแม่ยอดหญิง!
♠ ถึงแม้ว่าจะโดนต่อว่าอย่างหนักหน่วงเรื่องการแอบถ่าย เก็นเคย์อิก็ไม่ได้ยอมแพ้เเต่อย่างใด "นี่ไม่ได้เรียกว่าการแอบถ่ายนะคะ!" เธอเถียงอย่างจริงจัง ทำสายตามุ่งมั่นมากๆ "เขาเรียกว่าการเผื่อแผ่บุญบารมีแก่เพื่อนร่วมโลกต่างหากค่ะ!"
♠ เสียงสูดปากดังเบาๆ จากหญิงสาวที่กำลังยืนถือกล้อง ทำท่าลับล่ออยู่มุมเสาใกล้โรงยิมบาสฯ "แซ่บเด้อพ่อ" เธอพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะรัวชัตเตอร์อย่างเมามัน ไม่สนสายตาประชาชีสักนิด
♠ "ถ้าพูดถึงอาหารเส้น ก็ต้องเส้นโซบะ" กล่าวเปรยขึ้นมา ก่อนจะทุบหมัดลงบนมือดังปุ "เเละพูดถึงโซบะ ก็ต้องโซบะเย็นค่ะ!" จากนั้นก็บังคับคนข้างๆ ให้ไปกินโซบะเย็นด้วยกันเลย ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกันซ๊ากกกคำ
♠ "เงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่มันซื้อของที่ทำให้ฉันมีความสุขได้ค่ะ" กรีดยิ้มพรายหวานหยดย้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาทำตาเหี้ยมทันที "เพราะฉะนั้น จ่ายส่วนที่ค้างไว้มาเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!!" กระชากเสื้อ---/เดี๋ยว.
(2) - อารมณ์ไม่ดี / เสียใจ
♠ คิ้วบนใบหน้าขมวดมุ่นเป็นปมขนาดใหญ่ แต่เก็นเคย์กลับระบายยิ้มอ่อนๆ ออกมา "ไม่เป็นไรหรอกค่า" แล้วก็หัวเราะออกมาสมทบ ประมาณว่าไม่ได้เป็นอะไรเร้ยย ทั้งที่เเทบจะยิงบีมออกจากตาได้อยู่เเล้ว
♠ รอยยิ้มบนหน้าเลือนหายไปจนหมด เหลือแต่สายตาเย็นจัดที่ปรายใส่คู่กรณีของตัวเองนิ่งๆ "พล่ามบ้าอะไรนัก?" ก่อนเก็นเคย์จะกลับมายิ้มเหมือนเดิม เอ่ยปากบอกไปว่า "ล้อเล่นน่ะค่ะ อย่าคิดมากนะ" ทั้งยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิดอีกต่างหาก
♠ ไร้เสียงตอบรับใดๆ จากหญิงสาว เก็นเคย์ทำเพียงแค่นั่งนิ่งกับตัวเอง ผินใบหน้าไร้รอยยิ้มเหม่อออกไปในทิศทางที่ไม่มีใคร
(3) - เขิน
♠ ...... / เคยเขินใครเขาด้วยเหรอ ถามก่อน..
(4) - ดีใจ
♠ "จริงๆ เหรอคะ!?" มือขาวตะครุบฝ่ามืออีกฝ่ายเเล้วกอบกุมเอาไว้แน่น ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับตื่นเต้นดีใจสุดๆ เก็นเคย์ยิ้มแก้มแทบปริ ดีใจหน้าชื่นตาบานสุดๆ "น่ารักที่สุดเลยย" ว่าแล้วก็กระโดดกอดใส่อีกฝ่ายอย่างลืมตัวอีกสักที---
♠ วันนั้นทั้งวันไม่มีใครรู้ว่าเธอไปเจออะไรมา แต่เสียงฮัมเพลง รอยยิ้มที่ยกขึ้น นัยน์ตาอันหยีเป็นจันทร์เสี้ยว ก็บอกได้ดีว่าเก็นเคย์กำลังอารมณ์ดีเบิกบานใจสำราญตาขนาดไหน
|| อาชีพเสริม || นักเรียน / ช่างถ่ายภาพอิสระ
|| เพิ่มเติม ||
- เกิดวันที่ 28 July, ราศีกรกฎ, ถนัดมือขวา, กรุ๊ปเลือด B
- เพราะเป็นลูกสาวเจ้าของสำนักคาราเต้ เลยโดนฝังหัวเรื่องนี้มาเยอะมากๆ รวมถึงเจ้าตัวยังเป็นอัจฉริยะในด้านนี้ แต่เพราะขี้เกียจ+ยุ่งอยู่กับการตามถ่ายรูปผู้ชาย เลยไม่ได้ไปศึกษาต่อ ทำให้จบอยู่เเค่ขั้นสายแดงเท่านั้น
-เป็นผู้หญิงที่ติดลิปสติก แต่ไม่อยากโดนฝ่ายปกครองฟาด เลยจะทาสีเข้มเฉพาะตอนอยู่นอกรั้วโรงเรียนเท่านั้น
-ทั้งนี้มันก็กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเธอไปด้วย เหมือนจะพูดว่า ปากไม่แดงแล้วมันไม่มีแรงจะเดิน (?)
-ชอบใส่ส้นสูง เรื่องตลกคือเคยกระโดดเตะก้านคอคนทั้งส้นสูงมาเเล้ว (แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ส้นสูงปรี๊ดอะไรมาก แค่สี่นิ้วอย่างมาก)
-กล้องที่เธอใช้คือรุ่น DSLR canon 70D / len 18-135 STM ใช้มาตั้งเเต่ตอนขึ้นม.ปลายปี1
-เงินที่ใช้ซื้อกล้องคือเงินเก็บทั้งชีวิตของเก็นเคย์ (+เงินสมทบจากคุณพ่อนิดหน่อย) ดังนั้นเธอจึงหวงกล้องมากกกก
-ความจริงแล้ว เงินที่พ่อช่วยออกนั้น เเลกกับการเป็นแรงงานทาสสามปีจนกว่าจะจบม.ปลาย..
-เป็นคนญี่ปุ่น ที่ทั้งบ้านนับถือคริสต์ (คุณตาเป็นคนอังกฤษ เท่ากับว่าเก็นเคย์มีเชื้อสายอังกฤษในตัวอยู่เสี้ยว)
-เข้าใจภาษาอังกฤษ แต่พูดไม่ได้ เพราะสำเนียงญี่ปุ่นจ๋ามากๆ จนคนต่างชาติฟังไม่ออก
-เพราะคุณพ่ออยากได้ลูกชาย ก็เลยตั้งชื่อผู้ชายให้ (..)
-สัญลักษณ์รูปคลื่นเป็นตราสัญลักษณ์ของค่ายฝึกสอนคาราเต้ประจำบ้านเธอ
-จริงๆ แล้วกิจการฝึกสอนคาราเต้มีมาตั้งเเต่สมัยรุ่นคุณปู่โน่นแล้ว แต่เพิ่งจะมาดังเอาตอนรุ่นพ่อเธอนี่แหละ (แถมมีเเววจะดับเอาในรุ่นเก็นเคย์ซะด้วย)
-ข้างๆ โรงฝึกเป็นโรงเรียนสอนยิมนาสติก เก็นเคย์จะเเวะเข้าไปเรียนในทุกวันเสาร์ช่วงเก้าโมงเช้าถึงเที่ยง
-เว็บไซต์ของเธอแบ่งออกเป็นสองโซน คือโซนข่าวสาร และโซนหนุ่มหล่อบอกต่อด้วย (?)
-เริ่มสนใจการถ่ายภาพจริงจังตอนมัธยมต้นปีที่สาม
-พ่อของเก็นเคย์รู้ว่าลูกสาวมักจะเอารูปหนุ่มๆ ไปขายเสมอ แต่เขาก็คิดว่าเป็นพวกงานถ่ายแบบฟรีแลนซ์ มากกว่าจะคิดว่าเก็นเคย์ไปแอบถ่ายชาวบ้านมา เลยไม่ได้ห้ามอะไร (แน่นอนว่าถ้ารู้เขาก็ห้ามอยู่เเล้ว นั่นมันผิดกฎหมายนะ! เขายังไม่อยากให้ลูกสาวเข้าซังเตหรอก ไม่มีเงินประกัน)
-ความสัมพันธ์พ่อลูกคู่นี้คือ love-hate relationship
{ OTHER Profile }
ll Miyuhara Komaeda ll
16 yrs. , student, japanese
( innocent (?), puppy dog and softy )
*she always obey every kenkei's word*
______________________________________________________
Talk with me ; Tsuyune
|| Q || สวัสดีค่ะ เรามีชื่อว่าสึยุเนะ นะคะ มิทราบว่าผคป.ชื่ออะไรคะ ?
|| A || รันรันค่า ยาวไปเรียกรันก็ได้น้า
|| Q || ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้เอ่ย ~ ?
|| A || ช่วงนี้รับสมัครโหวงใจมากค่ะu__u พอเห็นเรื่องของคุณสึยุเนะก็ปักแบบไม่คิดชีวิตเลย แหะ ๆ
|| Q || ทำไมถึงเลือกบทบาทนี้คะ ?
|| A || ความจริงอยากลงยามะ แต่นั่งงมฟรีสไตล์มาตั้งเเต่เปิดเรื่อง ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เลยค่ะ 55555 /ซับน้ำตา.
พอไปๆ มาๆ ก็เจออิมเมจที่ถูกใจ มันเลยปิ๊งไอเดียขึ้นมา คิดสักพักก็เลยตัดสินใจลงคุณฮินี่แหละค่ะ
|| Q || เเล้วถ้าไม่ติดจะโกรธหรือตามมาฆ่าไรท์มั้ยคะ ?
|| A || ไม่เป็นไรหรอกค่า เราก็เฟลบ้างตามประสา แต่เก็ทนะว่าต้องเลือกคนที่โอเคที่สุด 55555
|| Q || ถ้าสึยุดองนิยายล่ะ ?
|| A || เป็นกันหมดค่า (?) จริงๆ ยังหาเรื่องที่ไม่ดองไม่เจอเลย../ปาดน้ำตา./ แต่ยังไงก็อยากบอกไว้ว่า เราจะรอเสมอนะคะ <3
|| Q || ค่ะ ๆ งั้นก็ขอให้โชคดีนะคะคุณรันรัน ขอให้ผ่านฉลุยนะคะ
|| A || สาธุบุญ99เลยค่ะ /พนมมือไหว้ท่วมหัว. (?)
ความคิดเห็น