คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : AU :: Make a Wish [KNB] [แครอลลีน่า เฟริซิตี้]
Your smile is better than their smile
And it's smile the best in the world for me
[รอยยิ้มของคุณดียิ่งกว่ารอยยิ้มของพวกเขา
และมันเป็นรอยยิ้มที่ดีสุดในโลกสำหรับฉัน..]
"ฉันน่ะอยากเห็นรอยยิ้มของพี่จริงๆ นะ..อยากให้พี่ได้มีความสุข อยากให้พี่ได้ยินดีที่เขาประสบความสำเร็จกับร้านของเขา.."
"และถึงฉันจะเป็นเด็กดื้อ..แต่ขอร้องล่ะซานต้า.."
"ถ้าเกิดเด็กดื้ออย่างฉันจะขอพรจากซานต้าได้ล่ะก็..ได้โปรดช่วยให้ร้านของพี่ฉันมีชื่อเสียงขึ้นมาทีจะได้ไหม?"
ใบสมัคร
รูป ::
"พี่น่ะเป็นคนสำคัญสำหรับฉันมากๆ นะ..ฉันเลยอยากจะเห็นรอยยิ้มของพี่ยังไงล่ะ.."
"แต่ถึงอย่างนั้น..น--นายเอง..ก็สำคัญกับฉัน..อ่ะ ไม่สิ..ช่างเถอะ! ลืมๆ มันไปดีกว่าเรื่องเมื่อกี้น่ะ!"
คู่ :: ผีฟ้าเอย----//ไม่ใช่!!// ผีปาติชิเย่ผู้เเสนจืดจาง คุโรโกะ เท็ตสึยะ คุงคนดีย์ของรั---#มุขนี้ยังไม่จบ..
ชื่อ :: แครอลลีน่า เฟริซิตี้ [Carolina Felicity]
*ความหมายพาเพลินอลเวงพางง (?)* เเครอลีน่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษที่สามารถแปลได้ว่า บทเพลงแห่งความสุข ค่ะ ส่วนเฟริซิตี้นั้นมีความหมายว่า ความปลื้มปิติ (แต่ก็สามารถแปลได้ว่า มีความสุขอย่างมากเช่นกันนะคะ) ซึ่งหากรวมความหมายทั้งสองเข้าด้วยกันก็ได้ว่า [บทเพลงแห่งความสุขอันเปี่ยมด้วยความปลื้มปิติ] นั่นเองค่ะ!
ชื่อเล่น ::
-แคลร์ [Care] >ชื่อที่เพื่อนรักนัมเบอร์วัน ไดสุเกะ มักใช้เรียกเธอ ซึ่งเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เรียกชื่อเธอเเบบนี้ ส่วนสาเหตุเหรอ..ไม่มีหรอก แค่พอไดสุเกะเรียกเเบบนี้ คนอื่นก็ไม่กล้าเรียกตามแค่นั้นเอง..
-แครอล [Carron] >เป็นชื่อที่ไว้ให้คนสนิทกันเรียกเท่านั้น
-แครอท [Carrot] >เป็นชื่อที่พี่ชายเธอใช้เรียกค่ะ เอาไว้เเหย่น้องสาวเล่นๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ชอบเวลาโดนเรียกแบบนั้นเลยสักนิด แต่ก็ไม่เคยโกรธแรงๆ เวลาโดนเรียกเลยค่ะ เพราะในใจเธอรู้สึกดีเหมือนกันค่ะ ที่พี่ชายเรียกตนอย่างสนิทสนม ดังนั้นชื่อนี้จึงมีไว้ให้พี่ของเธอเรียกคนเดียวเท่านั้นค่ะ---
*คนอื่นนอกเหนือจากสามจำพวกข้างต้น ต้องเรียกเธอว่า แครอลลีน่า เท่านั้นค่ะ ยกเว้นแต่เจ้าตัวจะอนุญาตให้เรียกชื่ออื่น ถ้าไปเรียกชื่อเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จะโดนเเครอลมองเเรงแล้วด่าว่าไร้มารยาททันที (?)*
อายุ :: 18 ปี
อาชีพ :: นักเรียนมัธยมปลายปี3
ลักษณะรูปร่าง :: แครอลลีน่า เฟริซิตี้ เด็กสาวเเสนน่ารักผู้เป็นดั่งตุ๊กตาเจ้าหญิงราคาเเพงในตู้โชว์ล้ำเลิศของเหล่านักสะสม เธอผู้มีเกศาสีทองอมน้ำตาลหยักศกเป็นลอนคลื่น ยาวสลวยละเอวอย่างพอเหมาะพอดีเข้ากับดวงหน้าน่ารักจิ้มลิ้ม เรียวสวยรูปไข่ได้ทรงดั่งเช่นที่สตรีหลายคนปรารถนาอยากจะมี หน้าผากเนียนมลปกปิดด้วยหน้าม้าบางๆ จัดให้เข้ากับรูปหน้าเสริมความน่ารักมากขึ้นไปอีก ประกอบกับเครื่องหน้าเเสนวิเศษ เช่นดวงตากลมโตสองข้างสีน้ำเงินอ่อนจางจนเเทบกลายเป็นสีฟ้า โดดเด่นด้วยจุดแต้มสีสันประกาย อย่างสีม่วงจางและชมพูหวานในแก้วตาระยิบระยับคู่นั้น แพขนตาหนางอนยาวสวยดูลงตัวยิ่ง คิ้วโก่งเด่นดั่งจันทร์เสี้ยวบนฟากฟ้าสีเดียวกับเรือนผมยาวสวย จมูกน้อยๆ โด่งรั้นเชิดสื่อความดื้อรั้นภายในตัว ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูอ่อนชุ่มฉ่ำมักงอลงเสมอยามเมื่อถูกขัดใจ และยกยิ้มอย่างรื่นเริงเช่นกันยามเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ผิวพรรณนวลเนียนสีไข่ไก่เนียนนุ่มน่าสัมผัสชวนหลงใหล แก้มยุ้ยนุ่มปรากฏเลือดฝาดน้อยๆ แต่พองามดูสุขภาพดี รูปร่างทรวดทรงอรชรได้สัดส่วนผอมบางน่าหลงใหล แต่ขนาดร่างกายนั้นใคร่มองเเล้วดูเล็กกะทัดรัดราวตุ๊กตาเสียมากกว่าจะสูงโปร่งใดๆ กับส่วนสูง158ซม. และน้ำหนักเบาๆ เพียง40กก.ของเธอ
ลักษณะนิสัย ::
แครอล เด็กสาววัย18ผู้ครอบครองนิยามของคำว่า เด็กดื้อที่ไม่สมควรได้รับของขวัญจากซานต้า มากติดอันดับต้นๆ กล่าวคือ หากว่าซานต้ามีแบล็กลิสต์เด็กดื้อเเล้ว ชื่อของเธอคงติดอันดับท็อปได้อย่างง่ายดาย เด็กสาวเป็นคนจำพวกที่ผู้ปกครองมักกุมขมับเสมอเวลาที่คนอื่นๆ วิ่งมาหาพวกเขาและพูดชื่อของเธอ นั่นเพราะเธอนั้นทั้งดื้อรั้นเเละเอาแต่ใจเป็นที่สุด แครอลเเม้อายุอานามจะล่อเข้าไป18แล้ว แต่นิสัยนี่มันเด็กประถมชัด ๆ! เธอดื้อมาก..มากถึงมากที่สุดเลยล่ะ เเครอลนั้น บอกให้ทำอย่างนี้ เธอจะทำอีกอย่าง ห้ามอะไรเธอจะทำ บ่นอะไรเธอไม่สน มีกฎมากมายก็แหกมันไปเสียหมด สร้างเรื่องปวดหัวให้ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งยังยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ กล่าวคือเป็นคนจำพวกที่ใช้คำพูดด้วยไม่ได้ บังคับก็ไม่ได้ จะหาอะไรมาล่อยิ่งไม่ได้ เพราะนิสัยที่แสนเอาแต่ใจนั่น มันจึงทำให้แครอลเป็นพวกที่ทำอะไรตามใจตนเองเป็นที่สุด เธอทำอะไรเเต่ละอย่างนั้น มันจะยึดจากหลักความชอบเเละความอยากจะทำในตอนนั้นทั้งสิ้น แต่หากไปบังคับเเล้ว นอกจากเธอจะไม่ทำตามที่คุณบอก แครอลอาจจะปั้นหน้าบึ้งแล้วสะบัดบ๊อบ เชิดหนีใส่อย่างแรงอีกด้วย (ยกเว้นก็แต่คนพูดจะเป็นพี่ชายคนดีน่ะนะ---) ถึงอย่างนั้นใช่ว่าจะรั้นไปเสียหมดทุกอย่าง แครอลอาจจะทำตามใจและปฏิบัติเฉพาะสิ่งที่ชอบ แต่เรื่องที่หากไม่ทำเเล้วจะทำคนเดือดร้อนอย่างมาก จนเกิดผลกระทบย้อนกลับไปหาเธอเเละคนรอบตัว เจ้าตัวจะฝืนทนสกัดกั้นทำไปล่ะนะ เเต่ว่าสิ่งที่ไม่ควรทำที่สุด ก็คือการไปเยาะเย้ยเธอที่ต้องจำใจไปทำเรื่องที่เธอไม่ชอบ เพราะมันจะทำให้เส้นความอดทนของแครอลขาดสะบั้น..คราวนี้แหละ ต่อให้พี่ชายมาเอง เธอก็จะไม่ทำเด็ดขาดเลย!
แครอลเป็นมนุษย์อยู่สุขไม่ได้ เธอมักหาเรื่องอะไรมาทำเสมอ จะเป็นการเล่นสนุกกับเพื่อน เมาท์มอยกับคนอื่น เดินไปเดินมา โยนลูกบอลเล่น หรือการนั่งทำงานบ้านแก้เบื่อก็ได้ ขอแค่มีเรื่องให้ทำถือว่าเป็นโอเค เเครอลนั่งนิ่งไม่ได้ นั่นเเหละคือประเด็นหลัก มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังชอบความสนุกสนานเเละความรื่นเริงเป็นอย่างมากด้วย เป็นเหตุให้การนั่งเฉยๆ สำหรับเธอถือเป็นเรื่องน่าเบื่อที่ไม่น่าทำเป็นที่สุด เช่นเดียวกัน แครอลไม่ชอบคนน่าเบื่อ และกิจกรรมน่าเบื่อเช่นกัน เธอไม่ชอบอะไรที่มันคาดเดาได้ง่ายๆ หรือเรื่องธรรมดาพื้นบ้าน เเครอลชอบความตื่นเต้นเเละแปลกใหม่ แอบชอบลองของนิดๆ ด้วยล่ะนะ..แต่เรื่องผิดกฎหมายหรือสิ่งอันตรายนี่แครอลละไว้เช่นกัน เพราะเธอยังมีหัวคิดวิเคราะห์ได้น่ะสิ ว่าอะไรที่มันผิดและถูก อะไรที่เข้าไปยุ่งเเล้วชีวิตจะพัง ถึงจะขี้เบื่อและอยากหาอะไรสนุกๆ ทำประจำ แต่เเครอลไม่ได้บ้าขนาดหาเรื่องให้ชีวิตและอนาคตตัวเองพังหรอกนะ
แครอลไม่ชอบคนที่เรียบร้อยหรืออ่อนหวานจนเกินไป สายตาเธอ คนพวกนี้ใช้ชีวิตได้ไม่คุ้มกันเอาซะเลย (?) เวลาต้องอยู่ใกล้กับบุคคลจำพวกนี้จะเเอบหงุดหงิดและอึดอัดอย่างน่าประหลาด แครอลไม่ชินกับคำสุภาพเท่าไหร่นัก เพราะปกติไม่ค่อยมีคนมาพูดแบบนั้นกับเธอยกเว้นเพื่อนสาวคนเดียว ดังนั้นเลยขนลุกซู่เป็นประจำเลยล่ะ..ความเรียบร้อยเป็นกุลสตรีดั่งผ้าพับไว้ไม่สามารถหาได้จากตัวเเครอล เธออาจจะไม่ได้กระโตกกระเตกราวทอมบอย รวมถึงมีความเป็นหญิงที่ดูสะบัดสะดิ้งอยู่ในตัวบ้าง แต่ก็ไม่ได้เรียบร้อยอะไร นั่นเพราะเธอไม่ชอบการทำตัวน่ารักอ่อนหวานยังไงล่ะ! ซึ่งมันพาลไปหาสิ่งรอบข้างด้วยเช่นกัน เวลาเจอคนน่ารักอ่อนหวานทีไร เเครอลจะเฟตตัวหนีและทำหน้าบึ้งใส่อย่างไร้เหตุผลประจำเลยล่ะ..
แครอลนั้นหนา ไม่ใคร่จะเอาใจเขามาใส่ใจเราเท่าไหร่นัก เธอคือบุคคลจำพวกมองโลกเพียงแค่ในความคิดของตน มุมมองและทัศนคติที่ใช้ตัดสินใจคนรอบข้างเเละสิ่งรอบข้างล้วนเเต่ใช้ของตนเองทั้งสิ้น หากว่าแครอลทำสิ่งใดได้ เธอจะคิดว่าคนอื่นเองก็ต้องทำได้เหมือนกัน มีความคิดที่ว่าคนเรามันมีมือมีเท้าเท่ากันเหมือนกัน ดังนั้นก็ต้องเหมือนกันได้สิ! เวลาที่ทำอะไรไม่ได้แบบชาวบ้านเขาเลยแอบงุนงงและหงุ่นหง่านอยู่ในใจหน่อยๆ ด้วยล่ะนะ และเจ้าตัวยังมีสายตาที่เเคบพอตัว เลยยังไม่ค่อยเข้าใจจิตใจอารมณ์ของผู้อื่นมากนัก..เรียกได้ว่าตัวแครอลนั้น เป็นผู้หญิงความรู้สึกช้าพอสมควรเลยทีเดียว เวลาถูกโกรธหรือโมโหใส่ เธอจะงุนงงเสมอเพราะไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายต้องโกรธเธอด้วย เช่นเดียวกับอารมณ์อื่นๆ เช่นกัน หากว่าไม่ใช่คนจำพวกเดียวกับแครอล เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าสาเหตุที่อีกฝ่ายเป็นแบบนั้นมันคืออะไร..แครอลโดยปกติเเล้ว ถ้าการกระทำของเธอมันไม่ได้ผิดแบบร้ายกาจจนเจ้าตัวเองจะยังสัมผัสได้ จะไม่รู้เลยว่าผิด และนั่นเป็นเหตุให้เวลาเธอโดนโกรธ เเครอลจะสะบัดหน้าหนีและบ่นประมาณว่า ฉันไม่ได้ผิดอะไรซะหน่อยนี่..เป็นประจำ เเครอลไม่ชอบการเอ่ยคำขอโทษ เพราะถือว่าถ้าตนไม่ผิดจริงๆ จะไม่ขอโทษให้ทำร้ายความรู้สึกตนเองเล่นเด็ดขาด เธอยอมให้เรื่องมันใหญ่ดีกว่าต้องขอโทษทั้งที่ตนไม่ได้ผิดเลย!
แครอลในกรณีที่ไม่ได้ผิดจริงๆ จะไม่ยอมขอโทษและโต้เถียงอย่างสุดฤทธิ์ว่าตนไม่ได้ผิด จะไม่ยอมเป็นแพะรับบาปของใครอย่างเด็ดขาด หรือหากต้องรับจริงๆ ก็อาจเป็นเพียงแค่การประชดเพียงแค่เพื่อทำให้เรื่องมันจบ และไม่บานปายไปมากกว่านั้นเท่านั้นเอง แต่หากกรณีที่ผิดจริงๆ และมีคนเข้าไปอธิบายให้เธอรู้เเละเข้าใจว่ามันผิดแล้วล่ะก็ ตัวเธอจะรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เถียงเเละเข้าข้างตัวเองไปขนาดนั้น เเต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่อยากเอ่ยคำขอโทษออกไปอยู่ดี เธอกระอักกระอ่วนเสมอ และไปไม่ถูกบอกไม่ได้ประจำตอนต้องเอ่ยคำว่าขอโทษ มันเหมือนหนักๆ อยู่ที่ปาก กระอักกระอ่วน และรู้สึกผิดไปพร้อมๆ กันที่ต้องขอโทษหลังจากทำตัวงี่เง่าไปขนาดนั้น แต่ใดๆ ก็ตาม แค่อายกับการกระทำตัวเองจนไม่กล้าพูดหรือแม้กระทั่งสู้หน้าเท่านั้นแหละ..แครอลปากไม่ตรงกับใจ หรือจะเรียกเธอว่าสาวซึนก็ได้ไม่ผิด มิหนำซ้ำยังซึนอย่างร้ายกาจเลยด้วย..นี่แหละคือสาเหตุใหญ่หลวง ที่ทำให้เจ้าตัวปากหนักมากเวลาต้องขอโทษใครเขาน่ะ แครอลมักอายหน้าแดงและเเสดงท่าทีหลุกหลิกเสมอเวลาที่ต้องพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป อ่า ทำไงได้เล่า ให้พูดเรื่องที่คิดออกไปแบบนั้นมันน่าอายนี่นา! ตอนที่ต้องเอ่ยคำพูดในใจตนเองออกมาน่ะนะ เสียงของเธอจะเบาเเบบสุดๆ ไปเลยล่ะ และหากไปแกล้งให้เธอพูดซ้ำอีกรอบด้วยเหตุผลประมาณว่าไม่ได้ยิน หรือแม้แต่ว่าจะไม่ได้ยินจริงๆ แม่คุณจะเขินหนักกว่าเก่าหลายเท่า เเล้วรีบเปลี่ยนเรื่องบอกปัดไปทันที ไปๆ มาๆ จากตอนแรกที่เธอต้องขอโทษคุณเพื่อให้คุณหายโกรธ มันดันกลายเป็นเธองอนคุณ ที่ไปแกล้งเธอแบบนั้นเอาแทนน่ะสิ..
แครอลไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องที่อยู่ในใจออกไปเท่าไหร่ เธอเกลียดตอนโดนหยอกล้อและโดนคนอื่นเข้ามาแกล้ง โดยเฉพาะตอนที่เธอกำลังเขินอายหรือร้องไห้ หากไปพูดว่าเธอกำลังเเสดงอาการแบบนั้นอยู่เเล้วล่ะก็ เธอจะงอนจนอาจจะกลายเป็นโกรธคนพูดได้เลยทีเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ..เพราะมันน่าอายน่ะสิ! เพราะงั้นเเครอลถึงได้ไม่ชอบยังไงล่ะ! มิหนำซ้ำ..ถ้าก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้ด้วยว่าตัวเองเป็นพวกซึน และหน้าเเดงฉ่าขนาดไหน เพราะพอพี่ชายเธอรู้ เขาก็เอาแต่หยอกเธอประจำจนแครอลอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีอยู่นี่เเล้วไงเล่า..เเละเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย เธอจะไม่ยอมแสดงท่าทางแบบนั้นออกไปต่อหน้าคนอื่นเด็ดขาด! แต่ถึงพูดเเบบนั้น..ไอ้อาการซึนเดเระนี่ก็มักหลุดออกมาเป็นประจำซะนี่สิ..แครอลเป็นคนที่ตอนร้องไห้หรือหน้าแดงเขินอาย จะดูน่ารักน่าแกล้งอย่างมากเลยล่ะ ใบหน้าแดงฉ่ากับท่าทางหลุกหลิกรีบบอกปัดเปลี่ยนเรื่องนั่นน่ะ มันดูน่ารักจนชวนหัวใจละลายสุดๆ ไปเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะเวลาปกติ ภาพลักษณ์ของเเครอลดูเป็นเด็กหัวดื้อน่าปวดกระโหลก บวกกับหน้าตาน่ารักมาแต่ไหนแต่ไรเเล้วด้วยล่ะนะ เวลาเขินเลยทำชาวบ้านหัวใจกระตุกได้อย่างง่ายดายสุดๆ ไปเลย..แต่ถึงอย่างนั้น เเม่คุณก็มีลิมิตที่ต่ำเหมือนกันนะ..ถ้าแหย่มากเกินพอดีเเล้วล่ะก็..น้ำตาเธอหล่นแหมะๆ ขึ้นมา ระวังเธอจะเกลียดขี้หน้าเเล้วหลบหน้าคุณแบบสุดๆ เอาล่ะ..
แครอลด้วยนิสัยเสียๆ ข้างต้นมากมายนั้น จึงถือว่ามีเพื่อนคบน้อยมาก ชนิดที่ว่าคุณสามารถเอานิ้วมือขึ้นมานับได้เลยล่ะ เเต่ถึงงั้นใช่ว่าจะไร้เพื่อนขาดมิตรโดยสมบูรณ์ แครอลยังมีเพื่อนรักเพื่อนซี้ของตนเองอยู่ร่วมด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อนทั้งสามของเธอนี้นั้นเป็นเพื่อนที่คบกันมาตั้งเเต่สมัยประถมเเล้ว ดังนั้นเเล้วเพื่อนของเธอจึงเปรียบเป็นคนสำคัญอย่างมากของเธอ เเครอลนั้นจะช่างสังเกตเมื่อเป็นเรื่องของคนสำคัญ ดังนั้นเเล้ว ข้อมูลส่วนตัวจำพวกวันเกิด ของที่ชอบ ของที่เกลียด หรือเรื่องที่เพื่อนไม่ชอบ แครอลจะรู้หมด รู้ละเอียดระดับที่ว่าเจ้าตัวได้ยินแล้วเกิดอาการเงิบน้อยๆ เลยด้วยซ้ำล่ะ เธอใส่ใจในคนสำคัญของเธอและเต็มที่กับพวกเขาเสมอ หากว่าเขามีท่าทีที่แปลกไปแล้วล่ะก็ แครอลจะสังเกตเห็นได้ทันที แต่ด้วยเพราะความซึนจึงไม่อยากจะเอ่ยไปตรงๆ ว่าเป็นห่วง เพียงแต่จะเปลี่ยนเป็นการถามกันอ้อมๆ เสียแทน ว่าเป็นอะไรรึเปล่า? หากอีกฝ่ายปฏิเสธเธอจะไม่เซ้าซี้ให้หงุดหงิด แต่เพราะอย่างนั้น เเครอลจะกลายเป็นฝ่ายกังวลใจเสียแทน แครอลมีนิสัยที่เจ้าตัวไม่ชอบแต่แก้ไม่หายอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือแครอลเป็นพวกชอบโทษตัวเอง เด็กสาวนั้นมักโดนคนรอบกล่าวโมโหใส่เป็นประจำ พอถามว่าเป็นอะไรก็ชอบบอกว่าเธอไปทำผิดต่อเขา บ้างก็จริง บ้างก็แค่การพาล แต่เพราะเด็กสาวนั้นเจอเหตุการณ์แบบนี้มาตั้งเเต่ตัวเธอยังไม่สิบขวบดี มันเลยฝังเข้าหัวไปเสียว่าสาเหตุที่คนรอบข้างมีท่าทีเปลี่ยนไปในทางเศร้าหมองนั้น มันเป็นเพราะว่าเธอไปทำอะไรไม่ดีเข้ายังไงล่ะ
แครอลชอบโทษตัวเองเมื่อคนสำคัญแสดงท่าทางที่แปลกไป และเพราะเธอเป็นพวกย้ำคิดวนไปมาแต่กับเรื่องเดิมๆ มันจึงทำให้ยิ่งเวลาผ่านไปมันยิ่งกวนใจแครอล แครอลน่ะรู้ดีว่าตัวเองเป็นพวกความรู้สึกช้า เลยไม่ค่อยรู้ตัวเวลาทำอะไรเเย่ๆ พอคนอื่นดูหมองเลยตีโพยตีพายว่า เธอไปทำอะไรแย่ๆ ไว้อีกแล้วรึเปล่านะ..จนรู้สึกเครียดตุบๆ อยู่ในหัว นอกจากนี้ตัวเเครอลเองยังไม่ชอบเห็นคนสำคัญของตัวเองเศร้าอีกด้วย แต่เธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เพราะแครอลปลอบคนไม่เก่งเอาซะเลย นิสัยปากโป้งของเธอมันทำให้คำปลอบกลายเป็นคำตอกย้ำได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเเล้วเเครอลจึงเลือกวิธีอื่น..วิธีอื่นที่เรียกว่า การเอาของหวานไปให้อีกฝ่ายกิน ยังไงล่ะ! (?) แครอลถือคติว่าของหวานจะทำให้คนเราหายเครียด บวกกับกลัวว่าตนเองเผลอไปทำอะไรผิดๆ ไปไหม เลยเป็นการเนียนขออภัยโทษด้วยการทำของหวานไปไถ่โทษให้อีกฝ่ายทานยังไงล่ะ แต่น่าเศร้า..นอกจากจนมหวานพวกนั้นจะไม่ช่วยให้หายเศร้าเเล้ว ยังอาจทำพวกเขาน้ำตาลในเส้นเลือดทะลุปรอท หรือลิ้นพังเข้าน่ะสิ---
แครอลมือหนักและมีนิสัยตามใจมือตนอย่างร้ายกาจ ตอนเธอทำขนม เธอทำตามตำรานั่นเเหละ..แต่แค่อาจจะเพิ่มสัดส่วนส่วนผสมอะไรเข้าไปอีกนิดหน่อย (นิดหน่อย?) แบบมองสีเเล้วทำไมมันเข้มจัง ใส่น้ำตาลเพิ่มหน่อยเนอะ แล้วทำไมมันดูอ่อนๆ อ่ะ งั้นใส่เนยอีกนิดละกัน บางทีโรยหน้าไม่ถูกใจสักที ก็โรยไอซิ่งเพิ่มแบบไม่บันยะบันยัง สรุปแล้วคือมือหนักในเรื่องของการใส่ส่วนผสมนั่นเอง เป็นเหตุให้ของหวานของแครอลนั้น มีหน้าตางดงามน่ารับประทานเป็นที่สุด แต่หากถามกันในเรื่องของรสชาติเเล้วล่ะก็นะ..ถ้าไม่หวานคอพังเเล้วล่ะก็ มันจะต้องมีสักรสนั่นแหละที่โดดขึ้นมามากกว่าชาวบ้านเขาแบบไม่น่าให้อภัยน่ะ แครอลเป็นคนที่ไร้สกิลในการทำขนมให้อร่อยอย่างถึงที่สุดเลยล่ะ เธอเป็นน้องสาวเจ้าของร้านเบเกอรี่ เลยรู้วิธีทำที่ถูกต้อง แต่เป็นพวกชอบเเหวกแนว (?) และชอบตามใจมือที่อยากจะเติมนู่นเติมนี่ไปเสียหน่อย มันเลยกลายเป็นการสร้างขีปนาวุธอันร้ายกาจไว้ทำร้ายลิ้นคนชิมไปทางอ้อมนั่นเอง ยังดีที่สกิลศิลป์แครอลนั้นเป็นเลิศระดับพรสวรรค์สูงส่ง การแต่งหน้าเค้กหรือจัดการกับรูปทรงของมันจึงเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถเอามาหลอกตาชาวบ้านที่ไม่รู้ฝีมือการทำขนมของเธอ หยิบมันเข้าปากไปได้ง่ายๆ ล่ะนะ (จากนั้นเเล้ว..จะจบที่โลงหรือโรงพยาบาลนี่ว่ากันทีหลังนะ..(เอ๊ะ?))
เเครอลเป็นมนุษย์ที่ลิ้นจระเข้อย่างมาก กินอะไรก็ได้ ไม่ตาย (?) รสชาติบาดคอยังชมว่าอร่อยได้หน้าตาเฉย คนอื่นเขากินแล้วบ้วนทิ้ง เธอดันเคี้ยวงับๆ เเล้วกลืนลงคอพร้อมเงยหน้ามาบอกว่า จืดไปหน่อยนะ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางทีหวานคอพังสำหรับคนอื่น อาจจะพอดีสำหรับเธอล่ะนะ แหม..แครอลเป็นพวกทานหวานนี่นา นั่นล่ะ..ด้วยเหตุนี้เอง มันเลยทำให้ตัวเเครอลไม่สามารถชิมรสเเบบปกติที่มนุษย์ทั่วไปรับรสได้ และไม่เคยรู้เลยว่าขนมของตนเองรสชาติมันเพี้ยนขนาดไหนนั่นเอง พอผนวกกับหน้าตาที่ออกมาดูดีซะขนาดนั้น เเครอลเลยแอบหวังลึกๆ ว่ามันจะอร่อยอยู่บ้าง เวลาเอาไปให้ใครเขาเลยเเอบคาดหวังว่าจะโดนชมว่าทำอร่อยบ้างอะไรบ้าง ด้วยหน้าตาขนมบวกกับความยัดเยียดใต้รอยยิ้มหวานเจี๊ยบของแครอลเเล้ว มันจึงทำให้ท่านทั้งหลายมีเหตุให้ต้องหยิบขนมเข้าปากไป แม้จะแอบไม่ไว้ใจหรือว่ารู้อยู่เเล้วว่ารสชาติมันเป็นยังไงก็ตามทีนั่นเอง..
แครอลมักคาดหวังกับสิ่งที่ตนทำเสมอ เพราะเธอเคยชิมขนมของพี่ชาย มันทั้งอร่อยและรสเป็นเลิศอย่างถึงที่สุด เธอนับถือที่เขาทำได้เเบบนั้นถึงได้อยากเป็นแบบนั้นบ้าง ดังนั้นเลยคาดหวังเป็นพิเศษว่าจะได้ยินคำว่า อร่อย จากปากของคนชิม ด้วยสายตาคาดหวังอันเป็นประกายอย่างหาได้ยากยิ่งของเเครอล ในตอนที่เธอรอให้คุณทานมันเข้าไป และลุ้นถึงผลลัพธ์อยู่นั้น จึงไม่มีใครกล้าปฏิเสธหรือบอกว่ามันไม่อร่อยเลยสักคนเดียว ซึ่งแรกๆ ตัวเเครอลเชื่อนะว่ามันอร่อยจริงอย่างที่พวกเขาว่า (เพราะมัวแต่ดีใจน่ะ..) แต่สักพักเมื่อเริ่มสังเกตสีหน้าสุดซีดเซียวทั้งตอนก่อนกินและหลังกินเเล้ว ถึงได้พอตีความได้ว่ามันไม่อร่อยอย่างที่ปากว่ากันหรอก แครอลอาจจะเอาแต่ใจนะ แต่เธอไม่ชอบการบังคับคนอื่นเช่นเดียวกับที่ไม่ชอบให้คนอื่นมาบังคับเธอ ดังนั้นเเครอลเลยมักชอบโพล่งออกมาประมาณว่า 'โธ่ ไม่อร่อยอีกแล้วเหรอเนี่ย? แต่ช่างเถอะ! ก็แค่ของทดลองล่ะน้าา' เป็นประจำ ทว่าสายตาของเธอนั้นกลับเเตกต่าง อาจจะเก็บซ่อนได้ดีในสีหน้าเเละน้ำเสียง แต่สายน่ะเเฝงด้วยความเสียดายเเละหมองๆ อยู่เต็มที่เลยล่ะ..แต่ถึงอย่างนั้น ก็หมองไม่ได้นานนักหรอก ตัวเเครอลเป็นคนที่มีความพยายามเป็นเลิศ เธอไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ เช่นกัน เเม้ว่าเธอจะมือหนักทำขนมไม่อร่อย แครอลก็ยังคงพยายามเสมอ ดังนั้นเธอจึงปัดเรื่องน่าเศร้าออกไปแล้วฝึกทำแบบไม่ลดละ เเละหมายมาดปั้นใจอยู่กับตัวเองคนเดียวว่า สักวันหนึ่งมันจะอร่อย และเธอจะได้ช่วยพี่ชายของเธอทำงานอื่นนอกจากคิดเงินได้เสียที!
แครอลรักพี่ชายมาก รักยิ่งกว่าใครทั้งหมด มากกว่าพ่อที่ไม่รู้เป็นใคร หรือแม่ที่ไม่รู้หนีหายไปไหนแล้ว และมากยิ่งกว่าเจ้าเหมียวน้อยตัวโปรดของเธออีก! หากพูดกันตรงๆ เเล้วล่ะก็นะ เเครอลน่ะคือบราค่อนล่ะ! จะเรียกว่า พี่ชายลิซึ่ม ไปเลยก็ได้ ไม่ผิด---เธอติดพี่ชายสุดๆ อวยพี่ชายสุดๆ และบูชาพี่ชายสุดๆ ไปเลยล่ะ (?) สำหรับเเครอลเเล้ว โลกใบนี้คือพี่ชาย พี่ชายคือทุกๆ สิ่งในชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตล้วนแต่เป็นพี่ชาย ไม่ว่ายังไงพี่ชายต้องมาก่อนเสมอ เหตุเพราะตั้งเเต่เด็กๆ แล้ว ที่พี่ชายของเธอจะเป็นบุคคลอันน้อยนิดที่ใจดีกับเธอ และตามใจเธออยู่เสมอๆ ตัวเเครอลจึงให้ความสำคัญกับพี่ชายมาก คนเดียวที่สั่งให้เธอทำทั้งที่ไม่อยากได้ก็คือพี่ชายของเธอนี่แหละ สายตาของเเครอลแล้ว พี่ชายของเธอนั้นช่างใจดีและเเสนเท่ห์ ไอดอลในดวงใจของเธอก็คือพี่ชาย แครอลใฝ่ฝันอยากจะเป็นช่างทำขนมแบบพี่ชายล่ะ ก็ตอนที่พี่ชายอยู่ในครัวน่ะ มันดูเท่ห์มากเลยนี่นา! และเเรงบันดาลใจที่ทำให้เธอยังฝึกฝนการทำขนมอยู่ทุกๆ วันนี้ ก็คือพี่ชายของเธอนี่แหละ เรียกได้ว่าเขาเป็นทุกอย่างบนโลกของเธอเลยล่ะนะ!
เเครอลมีสาเหตุที่ไม่ได้ซีเรียสมากนักกับการที่ตนไม่ใคร่จะมีใครอยากผูกมิตรด้วย นั่นเพราะว่าข้างกายเธอมีพี่ชายอยู่เเล้วยังไงล่ะ (แน่นอนว่ารวมถึงซี้อีกสามท่านด้วยนะ---) เวลาโดนคนตอกหน้าว่านิสัยเธอมันแย่ ระวังจะไม่มีคนคบเอาล่ะ เธอเลยไม่ค่อยสนใจนักยังไงล่ะ (พี่ชายหนักใจเรื่องนี้พอควร..เพราะมันทำให้น้องเขานิสัยเสียน่ะสิ! ถึงส่วนหนึ่งจะมาจากที่เขาตามใจแครอลเกินเหตุก็เถอะ..) พี่ชายนั้นเป็นคนที่เเครอลแคร์มากที่สุดในชีวิต และห่วงใยมากที่สุด เวลาที่พี่ของเธอไม่สบายใจ แครอลเองจะไม่สบายใจไปด้วย เวลาเขายิ้ม เธอเองก็จะยิ้ม เรียกได้ว่าอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ตามความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยล่ะ เเครอลชอบรอยยิ้มของพี่ เธอชอบเห็นเขามีความสุข นั่นเพราะมันทำให้หัวใจเธอผ่อนคลายจากทุกสิ่ง ทั้งยังรู้สึกดีด้วยที่พี่ชายได้มีความสุขเหมือนกับคนอื่นเขา ดังนั้นเธอจึงไม่อยากให้ใบหน้านั้นมีความหม่นหมองปะปนอยู่..ถึงจะแค่นิดเดียวก็ตามทีเถอะ..
แครอลนั้น กับเรื่องของพี่ชายเเล้วจะกระฉับกระเฉงและเอาใจใส่มากกว่าเรื่องอื่นๆ เธอเป็นห่วงสุขภาพของเขาเสมอ เวลาพี่ชายทำทีท่าเหมือนจะป่วย เธอจะไล่เขาไปทานยาเเละนอนพักทันที พออีกฝ่ายทุกข์เธอก็พยายามทำให้เขายิ้มแย้มและมีความสุข เเต่พอทำไม่ได้ก็หน้าหมองตามเรื่อยเลยเชียว นอกจากนี้ ตัวเเครอลยังรู้ด้วยว่าเขาหนักใจกับนิสัยของเธอ และกิจกรรมต่างๆ ที่ทำในแต่ละวันขนาดไหน เพียงแค่เขาไม่ยอมพูดมันออกมาเท่านั้นเอง ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเเละรู้สึกแย่พอตัวเลยนะ ที่ทำให้พี่ตนเองเหนื่อยแบบนั้นน่ะ ถึงอย่างนั้นแครอลไม่สามารถปรับนิสัยตนเองให้ดีได้ เธอไม่เก่งเรื่องการปรับตัวน่ะนะ..แต่ว่าถ้าเเค่ทำตามที่พี่บอกล่ะก็ เเครอลทำได้นะ เพราะงั้นเวลาที่พี่ชายสั่งหรือห้ามอะไร เเครอลจะยอมรับเเละทำตามมัน แม้ว่าบางครั้งคราว เธอจะไม่อยากยอมรับมันก็ตามทีเถอะ และด้วยเพราะอาการติดพี่ขั้นร้ายกาจนี่เลยทำคนอื่นเปรยๆ บ่อยว่าเกินเลยมากกว่าพี่น้องรึเปล่าเนี่ย แน่นอนว่าเเครอลทำแค่มองอย่างงงๆ แล้วเบะปากใส่กับความคิดเเบบนั้นทันใด ตัวเธอนั้นมีเพียงแค่ความรู้สึกของน้องสาวที่มีให้พี่ และแฟนคลับที่ปลาบปลื้มในไอดอลของตนมอบให้พี่เธอเท่านั้น เธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกว่าคำว่าพี่น้องสักนิด ดังนั้นหากพี่ชายจะมีคนรัก เเครอลไม่ว่า ขอแค่คนรักที่ว่านั่นดีพอจะเป็นแฟนของพี่เธอเป็นอันโอเค แน่นอนว่าตัวเเครอลจะไม่ยอมรับพี่สะใภ้ที่ห่วยหรือมีแววจะพาชีวิตพี่เธอล่มจมเด็ดขาด ขนาดเดียวกัน พี่ชายของเธอเองก็ตามใจเธอในเรื่องนี้พอสมควร จึงกล่าวได้ว่า จะได้เป็นสะใภ้บ้านเฟริซิตี้ไหม มันก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแครอลนั่นเเหละ! (แล้วไหนบอกว่าไม่ว่าไง..)
แครอลเป็นผู้หญิงปากร้าย ที่มีวาจาเรียกได้ว่าร้ายกาจพอตัว สัมมาคารวะเธอไม่ค่อยจะมี คำสุภาพหวานๆ แบบหญิงนางอื่นนี่แทบไม่เคยหลุดจากปาก คำพูดคำจาเรียกได้ว่าไม่ใคร่จะลื่นหูเสียเท่าไหร่นัก แถมไม่รักษาน้ำใจใครมากอีกต่างหาก หากไม่ใช่พี่ชายและเพื่อนรักเเล้วก็สามารถกระอักเลือดตายกับคำพูดของแครอลได้ง่ายๆ เลยล่ะ..แครอลนอกจากตัวจะอยู่ไม่สุขเเล้ว ปากเองก็ไม่ได้ต่างจากตัวเลยสักนิด นอกจากจะปากโป้ง เเล้วยังเป็นคนที่คำพูดไปไวกว่าความคิดอีกต่างหาก อยากโพล่งอะไร ไม่ทันจะได้ตรอง เสียงดังนำหน้าออกไปก่อนแล้วซะอย่างนั้น บางทีเผลอหลุดปากไป มือจะตระครุบขึ้นปิดเเล้วทำเนียนเหมือนไม่ได้พูดอีก มองดูกวนประสาทแบบแปลกๆ ทำชาวบ้านมือกระตุกกันเป็นแทบๆ เลย..แครอลติดนิสัยช่างวิจารณ์ มิหนำซ้ำหากไม่ใช่เรื่องของตนเอง ยังพูดตรงสุดๆ เลยด้วย หากเธอมองเเล้วมันไม่สวย เธอจะบอกว่าไม่สวยชัดๆ ไม่อ้อมค้อม บางทีอาจจะหลุดซ้ำเติมเพิ่มอีกต่างหาก--จากนั้นพอพูดเสร็จ เเม่คุณจะต้องวิ่งหลบข้าวของและรองเท้าจ้าละหวั่นเลยล่ะนะ แน่นอนว่าเจ้าตัวจะทำหน้างงเเละโวยวายใส่ ว่าตนพูดอะไรผิด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักๆ อันเป็นเหตุให้เพื่อนไม่คบของเเครอลเลยล่ะ
แครอลถึงจะปากร้ายยังไง ที่พูดไปนี่เธอเห็นแก่คนอื่นทั้งนั้นนั่นเเหละ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนเธอใส่ชุดนั้นเเล้วมันไม่สวย จะให้เธอโกหกไปว่ามันสวย เกิดเพื่อนเธอดันใส่ออกไปเดินด้านนอก ไม่โดนคนเขามองเเล้วนินทาว่าเซนส์ห่วยเอาเรอ--แครอลไม่ชอบการโดนนินทา เพราะงั้นเลยไม่ชอบใจไปด้วยเวลาคนรอบตัวโดนนินทา ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากช่วยให้พวกเขาลดเปอร์เซนต์ที่จะโดนนินทาซุบซิบเอาล่ะนะ แครอลน่ะ รักเพื่อนดีนะ ไม่ชอบให้ใครมาทำร้ายหรือว่าร้ายเพื่อนเธอด้วย เธอจะแสดงท่าทีหงุดหงิดเเละมองแรงใส่บุคคลที่มานินทาว่าร้ายเพื่อนของเธอเสมอ และด้วยสายตาสุดจะหาเรื่องนั่นเอง คนพวกนั้นจึงมักหุบปากฉับแทบจะทันทีตอนเเครอลหันสายตาใส่ เนื่องด้วยกลัวจะโดนตบเอา--เเครอลหูดีสุดๆ เลยล่ะ ตาดีด้วย..เพราะงั้นอย่าคิดว่าจะนินทากันได้ง่ายๆ เชียว แล้วก็ เธอตบได้จริงๆ นะ ไม่ได้มีดีเเค่ขู่ เพียงแต่เจ้าตัวไม่ค่อยชอบใช้กำลังเท่าไหร่นัก ถึงคราวต้องบวกจริงๆ จะด่าเอาเสียมากกว่าเข้าไปตบตีกับคนอื่น แต่ถ้าเพื่อปกป้องตัวเองเเละคนรอบตัวเเล้วล่ะก็ แครอลพร้อมลุย---! (?)
เเครอลเป็นมนุษย์จำพวก อยู่ด้วยเเล้วจะหาความสงบสุขให้ชีวิตไม่ได้ ตัวเธอเป็นพวกประหลาดที่มีออร่าดึงดูดเรื่องน่าปวดหัวและภาระงานมาหาเสมอ แน่นอนว่าแครอลแอบชอบหน่อยๆ นะ แต่คนรอบตัวนี่คือหัวใจจะวายตายเเทน แต่ละเรื่องใช่ธรรมดาที่ไหน..ยกตัวอย่างก็ล่าสุดเลย ดันโดนเรียกไปช่วยงานสภาไถ่โทษที่ดันทำเผลอสาดน้ำใส่หน้าประธานนักเรียน อกสั่นขวัญแขวนกับแทบตาย กลัวเเครอลจะทำไม่ได้เพราะงานสภามันยาก แต่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างอัศจรรย์ใจล่ะนะ..มิหนำซ้ำแม่คุณยังมีสกิลกระจายความซวยให้คนรอบตัวอีกต่างหาก..ตัวเองดวงดี ชาวบ้านเขาซวย เป็นแบบนี้ประจำจนเพื่อนๆ แทบจะร้องไห้ได้แล้ว---
แครอลเกลียดบรรยากาศที่เป็นพิธีรีตรอง และการต้องนั่งนิ่งๆ เฉยๆ ปานตุ๊กตาเป็นที่สุด เธอชอบของสวยๆ งามๆ อย่างชุดกระโปรงกับตุ๊กตานะ เเต่เธอชอบดูมากกว่าจะเป็นของสวยงามที่ว่านั่นเอง เพราะเธอขี้เบื่อและความอดทนต่ำ การต้องนั่งนิ่งเเต่งสวยเป็นชั่วโมงเเบบที่ผู้หญิงคนอื่นทำ เลยเป็นสิ่งที่แครอลไม่ปลื้มเอาเสียเลย ตรงกันข้าม ถ้าให้เธอไปนั่งทำผมหรือจับเพื่อนสาวเเต่งตัว รับรองว่าแครอลจะเเฮปปี้อย่างยิ่งยวดเลยล่ะ และด้วยเจ้าตัวค่อนข้างเอาแต่ใจพอตัว เพราะโดนพี่ชายสปอยล์ (?) มาตั้งเเต่ยังเล็ก เลยอดไม่ได้ที่จะหน้าบึ้งตึงอย่างถึงที่สุดเมื่อถูกขัดใจขึ้นมา เช่นเดียวกัน เวลาที่ได้ตามดั่งใจนึก เธอจะยิ้มกว้างอย่างมาก แครอลชอบคนที่ตามใจเธอ ยิ่งตามใจมากยิ่งติด ยิ่งเอาใจใส่ยิ่งชอบ และยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนเธอสำคัญกับเขามากเท่าไหร่ เเครอลก็จะยิ่งให้ความสำคัญคืนกลับไปมากเท่านั้นเลยล่ะ
แครอลจะงอนคนที่ขัดใจเธอเสมอ และหากว่าเธองอนแล้วคนทำงอนไม่รีบมาง้อเเล้วล่ะก็ มันจะกลายเป็นโกรธเอาน่ะสิ..ตอนที่เเครอลโกรธ ต้องบอกว่าแอบน่ากลัวและน่าปวดหัวพอสมควรเลยล่ะ เธอเป็นคนที่โกรธเเล้วจะพาลกับทุกสิ่งรอบตัว เหวี่ยงวีนโมโหพ่นไฟ (?) ใส่มันไปเสียทุกอย่าง ทั้งยังสะบัดใส่คนอื่นเป็นว่าเล่น ทำหน้าบูดปล่อยออร่าหงุดหงิดออกมาไม่หยุด เเครอลตอนโกรธจะหนีไปอยู่คนเดียวประจำ ต้องการสถานที่สงบใจคนเดียว อาจจะเอามีดเคาะเคียงในครัวเล่น หรือไกวชิงช้าเล่นคนเดียวก็ได้ แต่ถ้าใครเข้าใกล้เเม่คุณจะหันไปขู่ฟ่อใส่ทันใด โกรธทีคนรอบตัวเเทบจะร้องไห้ เพราะตอนแครอลโกรธจะให้อารมณ์คล้ายเสือมาก (?) ดุสุดๆ ใครเข้าใกล้เป็นฟาดเป็นขู่ น่ากลัวมากมายมหาศาลเลยทีเดียว--
แครอลนั้นหนา จะไม่หายโกรธหากคนที่ทำเธอโกรธไม่มาง้อและขอโทษอย่างจริงใจ แรกๆ จะหงุ่นหง่านเป็นอย่างมาก แต่ถ้านานเข้าเเล้วไม่มีทีท่าจะมาขอโทษ ความน้อยใจมันจะเริ่มแทรกแซงไปตามใจ สุดท้ายเเล้วเสือตัวร้าย พลันเปลี่ยนเป็นหมาหงอยได้อย่างง่ายดาย แปรปรวนเสียชาวบ้านเขาตามกันไม่ทันเลยทีเดียว..เรียกได้ว่าน่าปวดหัวสุดๆ เลยล่ะ และหากคนที่ขอโทษมาขอโทษเธอแล้วล่ะก็ แครอลจะหูผึ่งรีบชะเง้อหาทันที แต่พอเขามาจริงๆ แล้วเล่นตัวทำงอนต่อซะอย่างนั้น ประมาณว่า ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ หรอกย่ะ! แต่พอเขาตั้งท่าจะเดินหนีเมื่อไหร่ จะกลายเป็นพุ่งเข้าไปเกาะเเล้วน้ำตาคลอใส่เสียแทน สรุปแล้วก็แค่เรียกร้องความสนใจ และอยากให้รู้ว่าเธอโกรธแค่นั้นเเหละ..ก็ดูเป็นมุมที่ทั้งน่าปวดหัวและน่ารักไปพร้อมๆ กันอยู่ล่ะนะ..?
แครอลมีสกิลงานบ้านที่สูงลิบมากๆ เธอเป็นคนอยู่ไม่สุขชอบหาเรื่องทำมาแต่ไหนแต่ไร และหากว่าไม่สามารถออกจากบ้านได้เเละต้องอยู่คนเดียวล่ะก็ แม่คุณจะหาอะไรทำแก้เบื่อด้วยการคว้าไม้กวาด ไม้ถูพื้นขึ้นมา จากนั้นไล่ทำความสะอาดสถานที่รอบด้านตนเเทน แครอลนั้นไม่ชอบสถานที่ที่สกปรก บวกกับตนเป็นภูมิเเพ้ฝุ่น เลยมักจะเคลียร์ฝุ่นและทำความสะอาดประจำยามว่าง ซึ่งเจ้าตัวนั้นทำได้เนี้ยบและงานดีอย่างมาก เรียกได้ว่าโคตรเซียน แต่ถามว่าปกติเเล้วใครทำ..ก็พี่เธอนั่นเเหละ--ถึงอย่างนั้นมันก็มีอยู่ช่วงที่แครอลจะลุกไปทำงานบ้านงานเรือน ได้โดยที่ไม่ต้องว่างหรือเบื่อล่ะนะ..ถามว่าช่วงไหน ก็ช่วงจะเดดไลน์สอบหรือต้องส่งงานครูไง! ทำมันได้ทุกอย่างยกเว้นงานกับอ่านหนังสือนั่นเเหละ--//แค่ก!//แต่เรื่องทำอาหารนี่ละไว้นะ..บอกไว้เเล้วไง ว่าฝีมือทำอาหารของเเครอลน่ะ มันขีปนาวุธทำลายล้างชัดๆ
แครอลเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเฉพาะเรื่อง เธอเก่งภาษา พูดได้หลายภาษาเลยล่ะ ทั้งอังกฤษที่เป็นภาษาบ้านเกิด ภาษาอิตาลี่ เยอรมัน และญี่ปุ่น ถือว่าเก่งมากจริงๆ สำหรับอายุเท่านี้ ตัวเเครอลนั้นมักได้เกรดสวยงามและเหรียญทองในการประกวดงานภาษาประจำ อีกหนึ่งวิชาที่ดีเยี่ยมนั้นคือประวัติศาสตร์และวรรณกรรม แครอลความจำดีเอาเรื่องเลยล่ะ! แต่เรื่องเลขน่ะ..ไม่ได้ความเลยสักนิด..หากว่าเเครอลไม่มีพี่ชายคอติวก่อนสอบให้ ป่านนี้เธอคงต้องไปเรียนซ่อมตอนปิดเทอมฤดูร้อนวิชาคณิตไปแล้ว (ว่าแล้วก็ก้มกราบพี่ชายที่รักงามๆ หลายรอบ--) เกรดวิชาอื่นนั้นถือว่าดูดีอยู่ ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากมาย แต่ไม่ได้ดีเลิศติดท็อปแบบภาษาและประวัติศาสตร์ ในเรื่องวิชาพละนั้น..จะถือว่าร่วงก็ไม่ร่วง จะบินก็ไม่บิน..(?) เล่นขำๆ เธอเล่นได้นะ แต่ถ้ายึดกฎกติกาขึ้นมานี่ตายอนาถเเน่นอน แครอลไม่ชอบการปฏิบัติในกรอบตามกฎมาแต่ไหนแต่ไร เลยไม่ใคร่จะจำและปฏิบัติตามกติกาเท่าไหร่น่ะนะ แน่นอนว่ารวมถึงเกมทั้งหลายที่ต้องยึดหลักกติกามากมายกองเท่าภูเขาด้วย จะเรื่องใดๆ หากว่ามันต้องยึดหลักกติกามากมายเเล้วล่ะก็ แครอลก็พร้อมจะส่ายหน้าเเละเดินหนีอย่างไม่ลังเลเลยล่ะ---
ประวัติ ::
แครอลลีน่า เฟริซิตี้ แต่เดิมนั้นเกิดเเละเติบโตอาศัยอยู่ภายในเมืองทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เธอมีมารดาเพียงหนึ่งเดียวที่คอยดูเเลมาแต่วัยเยาว์ แครอลไม่มีพ่อ เธอมีแค่เเม่เท่านั้น กระนั้นสองแม่ลูกก็อยู่กันได้ด้วยกันสองคนภายในบ้านหลังน้อยตรงเขตชนบท และแม้ว่าจะลำบากยากเข็ญขนาดไหน แม่ของเธอก็จะคอยดูเเลเเละเอาใจใส่เธอเสมอโดยไม่ขาดตกบกพร่อง แครอลอยากได้อะไร เธอจะหามาให้ เป็นเช่นนี้เสมอมา..ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งเเต่เกิดจนวัยเยาว์ ชีวิตของเด็กน้อยนั้นมีความสุขเฉกเช่นคนทั่วไป แม้ว่าตัวเธอจะไม่ได้มีพ่อเหมือนกับเด็กคนอื่นก็ตามที..
ก่อนที่ความสุขนั้นจะเปลี่ยนไป..ไม่ใช่ว่าเลวร้ายลงหรอกนะ..เพียงแค่ เปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่งมันก็เท่านั้น..
ในตอนที่แครอลอายุได้ห้าขวบ ค่าใช้จ่ายของเด็กน้อยนั้นเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกับมารดาที่อายุเพิ่มขึ้น การเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวเริ่มเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเธอ หญิงสาวนั้นเหน็ดเหนื่อยมากกว่าเเต่ก่อนมากโข เป็นเหตุให้เธอตัดสินใจติดต่อญาติเพียงคนเดียวที่พอนึกออกในตอนนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา
ผลออกมาว่า สองแม่ลูกจะย้ายออกไปจากประเทศอังกฤษ..
"เเม่จ๋า เราจะไม่อยู่บ้านเราเเล้วเหรอ" เด็กน้อยถามด้วยสีหน้าหมองเศร้านิดหน่อย เเครอลผูกพันธ์กับสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างมาก แม้กระทั่งตอนที่รถขับห่างออกมาไกลจากตัวบ้านมากพอตัวเเล้ว เธอก็ยังชะเง้อคอมองไม่เลิกอยู่ดี..กระทั่งฝ่ามือบางทว่าหยาบกระด้างจากการทำงานนั้นเอื้อมมาลูบศีรษะเธอเบาๆ รอยยิ้มเเสนอบอุ่นคลี่ออกบนใบหน้าของผู้เป็นมารดาอย่างอ่อนโยน เช่นเดียวกับเสียงของเธอที่อ่อนโยนและอบอุ่นเช่นวันก่อนหน้า
"ไม่ต้องห่วงนะเเครอลลีน่า..เราจะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่มันดีกว่าเดิมนะ" ดวงตาสีน้ำเงินจางจนแทบกลายเป็นสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของครอบครัวเฟริซิตี้นั้นทอดสายมองมาที่เธอ มารดาของเเครอลหัวเราะ ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ ว่า "ที่นั่นหนูจะมีเพื่อนให้คอยเล่นตอนแม่ไม่ว่างด้วยนะ ดีใช่ไหมล่ะคะ? เพราะงั้นยิ้มเข้าไว้ดีกว่าเนอะ"
กลีบปากน้อยเม้มเเน่น ก่อนจะคลี่ยิ้มตอบมารดาของเธอไป "อื้อ!!"
แครอลเเละผู้เป็นแม่เดินทางออกจากประเทศบ้านเกิดด้วยสัมภาระน้อยนิด พวกเขาเหยียบย่างเท้าเข้าสู่ดินแดนอุทิตย์ทัย แน่นอนว่าตัวเเครอลนั้นชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นมาแต่ไหนแต่ไร พอได้รู้ว่าบ้านใหม่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น เด็กน้อยก็อารมณ์ดีอย่างมาก เพลิดเพลินไปกับการเที่ยวเล่นรอบเมืองกับมารดาของตนในสองสามวันเเรก กระทั่งญาติคนนั้นติดต่อกลับมา เเม่ของเธอจึงหยุดพาเธอตะลอนเที่ยวไปเรื่อยๆ เเละพาไปที่บ้านหลังใหม่หลังหนึ่งในเมืองโตเกียว
"เด็กนั่น" ผู้ชายวัยราวยี่สิบต้นๆ เปรยอย่างแปลกใจยามเมื่อเห็นหน้าของเธอ แน่นอนว่าเเครอลก็แปลกใจที่เห็นเขา แต่เพราะสีตานั้นทำให้เด็กน้อยพอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเครือญาติของตน เธอยิ้มเเละเอ่ยทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น สร้างความแปลกใจแก่ผู้ชายคนนั้นอย่างมาก "ลูกเธอ..สินะ? ว่าแต่เรียนรู้ไวดีจริงๆ อายุเเค่นี้พูดภาษาที่สองได้เเล้ว"
"แครอลชอบภาษาน่ะ"
แม่ของเธออธิบายเรียบๆ ก่อนจะพาเด็กน้อยเข้าไปในตัวบ้าน เธอบอกให้เเครอลไปเล่นรอที่สวนก่อน จากนั้นหญิงสาวก็เดินหายเข้าไปคุยอะไรบ้างอย่างกับญาติคนนั้นในห้องรับแขก เเครอลรับปากแม่ของเธอแม้จะอยากอยู่กับเเม่ และด้วยอารามความเป็นเด็กที่ซุกซนและช่างดื้อ เด็กน้อยมองซ้ายขวา ก่อนจะตัดสินใจเมินสวนญี่ปุ่นข้างบ้านเเสนสวยแต่เเดดร้อนเปรี้ยงไปในทันที แต่เลือกจะไปอีกทางที่ตรงกันข้ามเสียเเทน..
กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยเข้ามาในจมูก เด็กน้อยเดินตามกลิ่นหอมนั้นไปเรื่อยๆ ด้วยความสงสัย กระทั่งเดินไปถึงห้องครัวของบ้าน ประตูสีขาวเเง้มอยู่เบื้องหน้า แครอลชะเง้อใบหน้าและมองเข้าไปด้านใน อาจเพราะเด็กน้อยนั้นยังไม่รู้ว่าการกระทำของเธอที่เรียกว่าการแอบดูนี้มันไม่ดี บวกกับความอยากรู้ที่ท่วมถ้น เธอจึงค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปด้านในมากขึ้นเพื่อให้เห็นภาพด้านในนั้นได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
ดวงตาคู่โตเบิกกว้าง ภาพเบื้องหน้าทำให้เด็กหญิงรู้สึกหัวใจเต้นโครมคราม..เธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน และมัน..ดูสุดยอดมากจริง ๆ..
เด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะตัวหนึ่ง มันมีวัตถุดิบมากมายวางเรียงรายบนนั้น มือขาวๆ นั่นคว้าวัตถุดิบขึ้นมาจัดใส่ลงไปในชามสเเตนเลสสีเงินด้วยกรมวิธีที่แตกต่างกัน ทุกกรมวิธีนั้นทำได้อย่างคล่องแคล่วและไม่มีตกหล่น ขนาดเดียวกันดวงตาคู่นั้นเหลือบมองเตาอบข้างๆ เป็นระยะ เขาดูคล่องเเคล่วเเละคุ้นชินกับการสร้างสรรค์อาหารเบื้องหน้าเป็นอย่างดี และรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของเขา..มันทำให้เขาดูเท่ห์สุดๆ ไปเลย..เด็กน้อยยืนนิ่งราวกับต้องมนต์สะกดกับภาพเบื้องหน้านั้น เช่นกันเด็กหนุ่มตรงหน้าที่คล้ายกับตกอยู่ในมนต์สะกดอันน่าดึงดูดของกรมวิธีเบื้องหน้าเขา คงไม่รู้เเม้แต่การมาเยือนของแครอลเลยด้วยซ้ำกระมัง..
กระทั่ง..เตาอบนั้นส่งเสียง..อาการเหม่อลอยของแครอลยุติลงพร้อมเสียงอุทานแผ่วผานจากริมฝีปากหวาน
"อ๊ะ!"
"หือ?"
ดวงตาสองดวงสบกันนิ่ง หนึ่งคือความสงสัยมากล้นวนเวียนในนัยน์เนตรสีเทาเรียว อีกหนึ่งคือดวงตาอันเลิกหลักสีสันเเปลกตาของเด็กหญิงตัวน้อย..ไม่มีใครพูดอะไร แครอลยืนนิ่ง มองร่างสูงนั้นแบบคนไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่เด็กหนุ่มนั้นแตกต่างออกไป เขาเดินไปเปิดเตาอบและยกถาดคุกกี้ออกมาก่อนจะเดินมาหาเเครอลพร้อมคุกกี้หลายชิ้นในมือเขา
รอยยิ้มมุมปากกระตุกขึ้นแผ่วเบาบาง เสียงนุ่มนั้นเอ่ยกับเธอว่า
"ลองกินดูไหม?"
และนั่น..คือการพบกันครั้งแรก..ของเธอและพี่ชายที่แสนใจดี..
"วัลดัส ต่อไปนี้ก็ดูแลเเครอลลีน่าดีๆ ล่ะ"
"อย่าดื้อกับพี่เขานะคะเเครอลลีน่า..เข้าใจใช่ไหมคะ?"
ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างเอ่ยบอกกับเด็กทั้งสอง เด็กหนุ่มร่างโปร่งในห้องครัวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มมุมปากเหมือนกับทุกที ขนาดเดียวกัน แครอลยิ้มกว้างเต็มใบหน้าน่ารักนั้นเเละพยักหน้าเเรงเสียพวกผู้ใหญ่อดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงขำ หลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องครัวเพื่อนั่งทานขนมของเด็กหนุ่มคนนั้น หรือ วัลดัส เฟริซิตี้ พี่ชายต่างบิดาของเเครอล และมองเขาทำขนมไปพลางพูดคุยกันไปพลาง แครอลก็ติดวัลดัสเสียหนึบหนับราวกับเติบโตขึ้นมาด้วยกันยังไงยังนั้นเลยทีเดียว
แม้ว่ามารดาของเธอจะแปลกใจอยู่บ้าง..แต่นั่นก็ดีเเล้ว เธอยังกังวลใจเลยด้วยซ้ำว่าเด็กสองคนนี้จะเข้ากันได้ดีรึเปล่า..เป็นแบบนี้ค่อยวางใจหน่อย..
หลังจากนั้น สองแม่ลูกจากต่างแดนย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่เเสนสวยนั้นอย่างเต็มตัว เพิ่มเติมคือพวกเขามีสมาชิกร่วมบ้านด้วยอีกคนก็คือวัลดัส เด็กหนุ่มเป็นเด็กดีและเขาเองก็เอ็นดูเเครอลเหมือนกับน้องแท้ๆ ที่เกิดและเติบโตมาด้วยกัน ทำให้ดาร์เลเน่หรือมารดาของแครอลสามารถออกไปทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลใจอะไรมากนัก และเพราะได้รับการช่วยเหลือจากญาติที่เเม้อายุยังไม่มากแต่กลับมีธุรกิจสปาที่รุ่งเรืองดี สามแม่ลูกจึงไม่เดือดร้อนขัดสนเงินทองอะไรกันมากนัก
ชีวิตของแครอลช่วงนั้นสนุกสนานเเละเปี่ยมด้วยรอยยิ้มเป็นที่สุด เวลาหนึ่งปีหลังจากวันแรกที่พบกันสร้างความผูกพันธ์ของเด็กน้อยกับพี่ชายได้มากมาย ความเอ็นดูของวัลดัสทำให้เด็กหนุ่มคอยดูเเลเอาใจใส่เเครอลเสมอ ด้วยใบหน้าน่ารักที่ยามคลี่ยิ้มนั้นช่างชวนให้รู้สึกโลกสว่างสไว วัลดัสผู้หลงในน้องสาว (?) ในช่วงแรกยอมทำตามที่แครอลขอแทบทุกอย่าง เธออยากได้ตุ๊กตาเขาก็หาให้ เธออยากเรียนภาษาเขาก็สอนให้ คอยทำขนมให้ทานและสอนทุกอย่างที่เธอไม่เคยรู้ให้อยู่ตลอด วัลดัสเเทบจะกลายเป็นผู้ปกครองแครอลอย่างเต็มรูปแบบไปแล้วในตอนนี้ เพราะนอกจากเด็กหนุ่มจะคอยดูเเลและเอาใจใส่เเครอลทุกๆ อย่าง แม่ของทั้งสองยังไม่ค่อยจะกลับบ้านเท่าไหร่นักในช่วงนี้ เธออ้างว่ามีงานการล้นมือในที่ทำงานให้ทำจนแทบหาเวลาว่างไม่เจอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเวลาสำหรับครอบครัวอยู่บ้าง..มันเป็นช่วงเวลาที่แครอลชอบมากที่สุดเลยล่ะ..
เด็กสาวตัวน้อยกล้าบอกอย่างเต็มปากเลย..ว่าเธอรักพวกเขาทั้งสองมากจนหมดหัวใจเลยล่ะ..
วันเวลาหมุนวนผ่านไปเรื่อยๆ กับกิจวัตรประจำวันเดิมๆ ที่ยังคงเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ทว่าเมื่อตัวเเครอลนั้นอายุได้สิบปี บางสิ่งบางอย่างก็ได้เปลี่ยนไป..เด็กสาวนั้นดื้อรั้นมากว่าเดิมเสียมากมายจากการสปอยล์ของพี่ชายคนดี และการเอาใจของมารดา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่แครอลและคนรอบตัวให้ความสนใจมันมากที่สุด นั่นเพราะเมื่อตอนเด็กน้อยยังเยาว์วัย อาของเธอได้ลองดัดนิสัยเธอเเล้ว ทว่ากลับไม่เกิดประโยชน์อะไร พวกเขาจึงปล่อยวางและขอแค่เเครอลไม่ไปยุ่งกับเรื่องอันตรายและสิ่งผิดกฎหมายก็พอแล้ว..
แครอลเองก็ใช่จะสนว่าเธอนิสัยเเย่ไม่น่าคบอะไร..ตราบใดที่ยังมีพี่ มีแม่ มีเพื่อนซี้ทั้งสาม กับคุณอาผู้น่าแกล้ง (?) แครอลก็โอเคหมดนั่นเเหละ..
แต่ว่านะ..เหมือนหนึ่งในนั้น..จะเริ่มถอยห่างเธอออกไปมากกว่าก่อนเเล้วรึเปล่านะ..?
"พี่ชาย พี่ชายคิดเหมือนน้องไหมอ่ะ..ว่าเดี๋ยวแม่ไม่ค่อยมาทานข้าวเย็นพวกเราเลย" เด็กสาววัยสิบขวบเปรยขึ้นมาขนาดที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้นกำลังขบเคี้ยวขนมหวานของผู้เป็นพี่อยู่ สร้างอาการชะงักงันแก่วัลดัสได้อย่างดี
เขาหันมามองเธอ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ขนาดเดียวกันมือก็บีบวิปครีมตกแต่งหน้าเค้กไปด้วยเช่นกัน "เพราะเเม่ยุ่งน่ะสิ แครอทก็อย่าไปกวนแม่เขามากล่ะ"
"แต่ว่านะพี่ชาย..เล่นไม่แม้แต่จะกลับบ้านเป็นอาทิตย์ขนาดนี้ ไม่เกินไปหน่อยเหรอ"
"..ช่วยไม่ได้หรอก..แม่เขายุ่งนี่นา"
"ยุ่งตลอดอาทิตย์ ไม่สนใจลูกสาวผู้น่ารักกับลูกชายคนดีเเบบนี้เนี่ยนะ?" ว่าแล้วก็เบะปากด้วยความน้อยใจผสมขุ่นเคือง ก่อนเเครอลจะหลุดสะดุ้งเบาๆ เมื่อสตอเบอร์รี่ลูกโตที่ควรถูกตกแต่งบนหน้าเค้ก ถูกส่งเข้ามาในปากเธอพร้อมกันสองลูก ดวงตาโต้ค้อนมองคนเป็นพี่ทันใด ทว่าฝ่ายนั้นกลับหัวเราะร่าเสียนี่
ฝ่ามือหนาลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยนเฉกเช่นทุกครั้ง ความอบอุ่นจากฝ่ามือของวัลดัสยังทำให้หัวใจของเด็กน้อยสงบลงได้เช่นทุกๆ ครั้ง รอยยิ้มของพี่มอบให้กับเธอ เขายิ้ม และเอ่ยปลอบใจเธอเช่นทุกครั้ง
"เดี๋ยวแม่ก็ว่างเเล้วล่ะ ถึงตอนนั้นมากินเค้กด้วยกันสามคนเหมือนเมื่อก่อนกันเถอะนะ"
เด็กสาวหน้ายู่ลงเล็กน้อย ทว่ากลับยอมเคี้ยวเเละกลืนสตรอเบอร์รี่ลูกโตสองลูกลงคอไป ก่อนจะหรี่ตาเเล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทางเเม้ว่าจะไม่อยากยอมรับ แต่ถ้าหากพี่ชายของเธอพูดเเบบนั้น..เธอจะไม่โกรธเเม่ที่ไม่มีเวลาให้เธอกับพี่เลยเเล้วกัน..
ผ่านไปครึ่งเดือนเเล้ว..เเม่ก็ยังไม่กลับบ้าน
เด็กสาวคิดอย่างเหม่อลอยยามนั่งนิ่งอยู่ตรงบันไดหน้าบ้านโดยไม่กลัวว่าฝุ่นจะเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของตน เเครอลแสดงสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด..เพราะมารดาที่เธอเฝ้ารออยู่ทุกวันไม่ยอมกลับบ้านเสียที พอโทรไปหาก็เอาแต่บอกว่างานยุ่งมากตลอดเวลา แล้วไม่บอกอะไรมากกว่านี้เลยสักนิด..อะไรกัน เเย่ชะมัด..แย่สุดๆ ไปเลย ทำไมแม่ถึงเอาแต่สนใจงานมากกว่าเธอล่ะ? แล้วไหนพี่วัลดัสบอกว่าอีกเดี๋ยวแม่ก็ว่างเเล้วกัน..
"..แย่ชะมัด.."
กลีบปากพึมพำบ่นเเผ่วเบาด้วยสีหน้าบึ้งตึง ดวงตานั้นวูบไหวราวกับอยากจะร้องไห้ด้วยความน้อยใจ เด็กสาววัยสิบขวบรีบปาดน้ำสีใสคลอหน่วงรอบดวงตาออกไป ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน หมายมาดอยู่ในใจว่าหากพรุ่งนี้แม่ยังไม่ยอมกลับบ้าน เธอจะให้พี่ชายพาไปตามตัวถึงที่ทำงานเลย!
คิดถึงจนจะบ้าตายเเล้วนะ..แม่ใจร้าย..
คืนนั้น..เเครอลตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึก เด็กสาวเดินสะลึมสะลือออกจากห้องนอนของตนเองไปยังห้องครัว เพื่อหาน้ำดื่มแก้คอแห้ง ปลายเท้าเหยียบย่างไปตามทางเดิน ด้วยความง่วงซึมเธอจึงเดินไปอย่างไม่มั่นคงเท่าไหร่นัก แต่แล้ว..ความง่วงซึมทั้งหมดพลันต้องจางหายไป เมื่อภาพเบื้องหน้านั้นปรากฏแก่สายตา
ภาพ..ของใครคนหนึ่งที่ไม่ได้เห็นมานาน..กับกระเป๋าเดินทางข้างกายเธอ
"..แครอลลีน่า..?"
หญิงสาวคนนั้นพึมพำด้วยสีหน้าเเละท่าทางที่เต็มเปี่ยมด้วยความตกใจ ความสับสนฉายชัดในดวงตานั้นเเวบหนึ่ง ก่อนมันจะจางหายไปอย่างรวดเร็วและเหลือเพียงความรู้สึกผิดจางๆ ผิดกับแครอลที่สับสนไม่หาย..เด็กสาวมองแม่ของเธอสลับกับกระเป๋าเดินทางข้างกายหล่อนไปมาด้วยอารามงุนงง อะไรกัน?
"แม่..กระเป๋าเดินทาง..จะไปไหนกันน่ะ?" เด็กสาวถาม หัวสับสนไปหมด เท้าเล็กๆ ก้าวไปหาอีกฝ่ายทีละก้าว ทีละก้าว "กลับบ้าน..ก็ไม่กลับ..แล้วนี่ จะหนีพวกหนูไปไหนอีกกัน..?"
ถ้อยคำตัดพ้อหลุดออกมา ไม่ว่าจะด้วยเพราะยังง่วงซึมอยู่บ้าง หรืออาการน้อยใจมันมากเกินกว่าจะหยุดรั้งได้อีกต่อไป แครอลพูดมันออกไปด้วยสีหน้าราวกับจะร้องไห้ ทำให้เเม่ของเธอเกิดสีหน้าสลดบนใบหน้ามากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เธอเดินเข้ามากอดเด็กสาวแน่นๆ กระซิบบอกข้างใบหูของเด็กน้อยว่า
"ขอโทษนะ.."
"แม่ขอโทษ.."
"แม่ขอโทษจริงๆ .."
ถ้อยคำขอโทษเอ่ยออกมาจากปากของมารดาไม่หยุดหย่อน เเครอลไม่รู้จะทำยังไง เธอทำได้แค่ยืนนิ่งๆ ให้มารดาเอ่ยคำขอโทษเเละเปล่งเสียงร้องไห้ครือครางน่าสงสารออกมา ไหล่ของเธอเปียกชุ่มด้วยน้ำตาของมารดา มันทำให้หัวใจในอกซ้ายวูบเขว ความคิดโกรธรู้สึกขุ่นเคืองน้อยใจทั้งหลายมลายหายไปจนแทบสิ้น อย่างไรเสีย แครอลก็รักแม่ของเธอมากอยู่ดี..
แม้ว่าก่อนหน้าจะคิดงอนใส่เพื่อให้รู้ว่าเสียใจที่ไม่สนใจกันขนาดนี้ ทว่าเมื่อได้รับคำขอโทษมากมายเพียงนี้..หัวใจก็อ่อนยวบไปหมด
มือน้อยๆ ยกขึ้นกอดตอบมารดาอย่างแผ่วเบา.. "แม่ไม่ต้องขอโทษแล้วน่า.." แครอลว่า เสียงของเธอสั่น เช่นเดียวกับหัวใจที่สั่นไหววูบวาบไม่ยอมหยุด..
เธอบอกตัวเอง ว่าไม่เป็นไร เเม่ขอโทษเธอเเล้ว..ไม่จำเป็นต้องโกรธหรอก
ทว่าแม้ความคิดจะบอกกับตัวเองเช่นนั้น หัวใจกับเอ่ยบอกด้วยถ้อยคำที่แตกต่าง..
แม่ไม่ได้ขอโทษเรื่องที่ไม่กลับบ้านเลยตลอดครึ่งเดือนมานี้..แม่..กำลังพูดถึงเรื่องอื่น
เรื่องอื่น..ที่บอกกับเธอตรงๆ ไม่ได้
"แครอลลีน่า.."
เสียงนั้นเรียกชื่อเธอ ความอ่อนโยนในน้ำเสียงและสัมผัสนั้นยังมากล้นไม่เปลี่ยนแปลง..ทว่ากลับสั่นเครือและเปี่ยมด้วยความรู้สึกผิดจนน่าใจหาย หญิงสาวผู้เป็นมารดาค่อยๆ ละออกไปอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วปาดน้ำตาที่ไหลซึมขอบตาออกไป ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอเหมือนเมื่อก่อน
"ขอโทษนะ..แต่แม่ต้องไปเเล้ว.."
"......."
"โชคดีนะเเครอลลีน่า..อย่าดื้อกับวัลดัสมากนักล่ะ"
"......."
แครอลไม่ได้พูดอะไรเลยเเม้แต่คำเดียว เธอทำเพียงแค่มองตามร่างของมารดาค่อยๆ ผละออกไป และเดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของหล่อนช้าๆ หัวใจในอกซ้ายเต้นโครมคราวรัวเร็วและบีบเเน่นอย่างหวาดกลัว ความกลัวมากมายบีบคั้นเธอ ในที่สุด เสียงหวานก็ตะโกนออกไป
"แม่!!" ร่างนั้นหยุดลง..ทว่าไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง มันทำให้แครอลหวาดกลัว ถึงอย่างนั้นแครอลก็ยังพูดต่อไปว่า "จะกลับมาอีก..ใช่ไหม?"
ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ ..มีเพียงแค่นัยน์ตาแสนงามที่เหลือบกับมาสบมองเพียงเสี้ยววิ รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้างดงามนั่น..ก่อนร่างนั้นจะหายไปจากคลองสายตาของเด็กสาว พร้อมกับบานประตูที่ปิดลง..แครอลมองตามบานประตูนั้นไปด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง เเม่ไม่ตอบเธอ..ทำเพียงแค่ยิ้มจางๆ แค่นั้นเอง..แต่ถึงอย่างนั้น..ถึงอย่างนั้นเเครอลก็อยากจะเชื่อว่า..แม่จะกลับมาอีก..
จะกลับมาพร้อมรอยยิ้ม และโอบกอดพวกเธอที่เป็นลูกด้วยอ้อมกอดเเสนอบอุ่นอีกครั้ง..
ทว่า..หลังจากวันนั้น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืน กี่วัน กี่เดือน และกี่ปี..
แม่..ก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านอีกเลย..
ชอบ ::
>>พี่ชาย [รักที่สุดเลยค่ะ! (?) ll เวลาเจอมักจะยิ้มเเย้มทำหน้าตาสดใส และลืมเรื่องเศร้าหมองใดๆ ไปจนหมดสิ้น จากนั้นก็จะวิ่งเข้ากอดแบบไม่ลังเล--]
>>ปาร์ตี้และความสนุกสนาน [เพราะมันไม่น่าเบื่อและสนุกยังไงล่ะ ll ชอบหาเรื่องสนุกเล่นเสมอ หากเจอเเล้วจะทำหน้าชอบใจ แล้วก้าวเท้าไปหาเรื่องสนุกที่ว่าทันใด]
>>ช็อกโกแลต ขนมหวาน [อร่อยมากกกก ยิ่งเป็นขนมหวานของพี่ชายยิ่งอร่อยยยย (ไม่อวยพี่เลยค่ะ..ไม่อวยเลย---) ll กินอย่างมีความสุข และสำราญจรรโลงใจ]
>>ของสวยๆ งามๆ [สำหรับเเครอล เธอมักรู้สึกว่าเวลาดูของสวยงามเเล้วมันจรรโลงใจดี ll เวลาพบเจอมักจะจ้องด้วยดวงตาเป็นประกายระยับ และจ้องนานมากเลยทีเดียวล่ะ---]
ไม่ชอบ ::
>>พวกเรียบร้อยอ่อนหวาน [เห็นแล้วเเครอลรู้สึกหงุดหงิดเเละอึดอัดในใจ..ไม่มีอะไรมากเลยจริง ๆ---ll มักจะพยายามเลี่ยงถ้าเป็นไปได้ แต่ถ้าต้องอยู่ด้วยกันจริงๆ หน้าจะติดบึ้งนิด ๆ]
>>คนที่มาซุบซินนินทาตน เพื่อน เเละพี่ชาย [ระคายหู ฟังเเล้วมันขึ้นอยากจะเข้าไปด่ากลับมากเลยค่ะ (?) ll สายตามองแรงก่อนไปเป็นอันดับแรก ถ้ายังไม่หยุดปากก็พร้อมเดินเข้าไปด่าตอบนะ--]
>>การต้องนั่งอยู่เฉยๆ [มันอึดอัดในอก..คนที่วันๆ ไม่เคยจะอยู่สุขแบบเธอ ให้ไปนั่งนิ่งๆ เป็นตุ๊กตา มีหวังได้อึดอัดตาย ll จะหน้าบูดขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ต้องนั่งอยู่เฉยๆ ถ้านานเกินสองชั่วโมงเเละจะตบะเเตก ลุกหนีเลยล่ะค่ะ---]
>>พี่ชายเศร้าหมอง อมทุกข์ ทุกข์ใจ หรือโกรธเคือง [รักพี่มากมายเกินกว่าจะหาคำมาบรรยาย เวลาเห็นพี่ชายมีอารมณ์แย่ๆ หรือหน้าตาอมทุกข์ เลยทุกข์ใจตามไปติด ๆ..ll มักทำหน้าหมอง ท่าทางกังวลใจและครุ่นคิดไม่หยุดว่าทำยังไง พี่ถึงจะหายเศร้าได้]
แพ้/กลัว ::
[เเพ้]
-ฝุ่น [เป็นอาการแพ้แบบกลางๆ ค่ะ มันจะครั่นเนื้อตัวเวลามีฝุ่นมากๆ อยู่รอบตัว หากไปคลุกฝุ่นมา จะมีผื่นเเดงเป็นตุ่มๆ ขึ้นตามตัวเเละเกิดอาการคันยิบๆ ยิ่งเก่ายิ่งคัน และจะยิ่งเเสบ แนะนำคือทายาแก้แพ้ที่คุณหมอให้มาจะดีที่สุดค่ะ]
[กลัว]
-โดนพี่ชายทิ้ง [เพราะรักพี่มาก และตอนนี้ีตัวเธอเองก็เหลือแค่ผู้เป็นพี่เท่านั้นที่สามารถนับเป็นครอบครัวเดียวกันมาก ดังนั้นเเล้วการถูกพี่ชายที่รักมากทอดทิ้ง จึงเปรียบดั่งฝันร้ายที่หวาดกลัวเป็นที่สุด]
{ปฏิกิริยา - หากว่าพี่ชายหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวนานเกินอาทิตย์ จะมีอาการกระสับกระส่าย กระวนกระวายใจอย่างมาก ยิ่งนานยิ่งรู้สึกกลัว อาจตระหนกจนไปแจ้งตำรวจได้เลยด้วยซ้ำ}
-สุนัขตัวโต [เคยโดนสุนัขตัวใหญ่แบบใหญ่มากๆ กระโดดงับ..ยิ่งดีแค่หวิดๆ โดนเขี้ยวมันถาก ก่อนพี่ชายที่รักจะหาหินมาปาไล่ได้ทัน จึงไม่เป็นอะไรมาก ถึงอย่างนั้น แครอลก็ยังกลัวฝังเข้าหัวอยู่ดี นอกจากนี้ยังได้เเผลเป็นเป็นรอยถากยาวสองนิ้วตรงฝ่ามือซ้ายอีกต่างหาก..]
{ปฏิกิริยา - เวลาเจอน้องหมาตัวโตๆ จะเกิดอาการชะงักแบบเเข็งค้าง และจะเหงื่อแตกมากขึ้นตามระยะ ยิ่งใกล้ยิ่งเหงื่อแตกและขาสั่น ถ้าเข้ามาประชิดตัวเมื่อไหร่..เอาเป็นว่า หมามา ขามี (?) โกยสิคะรออะไร---]
เพิ่มเติม :: ความเวิ่นเว้อขั้นMax....(กราบขอขมาท่านชมพู่หนักมาก------)
}}เพิ่มเติมรายละเอียดตัวละคร{{
-แครอลเกิดวันที่28กรกฏาคม เวลา14:44น. เป็นคนกรุ๊ปเลือดO ราศีกรกฏ ซึ่งถนัดเขียนหนังสือมือขวาค่ะ
-เเครอลมีสกิลพิเศษคือ เขียนหนังสือได้สวยมากๆ ลายมือปกติของเธอนี่ราวกับคนอื่นนั่งคัดเเบบเเทบเป็นแทบตาย มิหนำซ้ำยังเขียนเร็วอีกด้วย
-แครอลเก่งทัศนศิลป์..แค่กับการตกแต่งหน้าเค้กหรือขนมหวานเท่านั้น ถ้าให้วาดรูปหรือออกแบบอะไรพวกนี้นี่คือไม่รอดค่ะ---
-แครอลเล่นเปียโนได้เพราะมาก แต่ไม่ได้เล่นมานานหลายปีเเล้วตั้งเเต่ตอนอายุได้13
-เเม่ของแครอลเป็นคนสอนเธอเล่นเปียโน เพราะงั้นเเครอลเลยไม่อยากเล่นมัน เพราะมันจะทำให้เธอคิดถึงผู้หญิงใจร้ายคนนั้น
-เเครอลรักเเม่ของเธอ รักมาก ๆ..รักรองลงมาจากพี่ชายเลยด้วยซ้ำ แต่ใจหนึ่งก็โกรธที่เขาทิ้งพวกเธอไปเช่นกัน..
-แครอลเป็นผู้หญิงกินจุ แต่ระบบเผาผลาญดีมาก ๆ----
-สาเหตุที่เพื่อนทั้งสามยังคบเเครอลมาได้นานหลายปีขนาดนี้ นั่นเพราะพวกเขายังเห็นด้านดีในตัวเเครอล รวมทั้งรู้ด้วยว่าตัวเด็กสาวนั้นเเทบไม่เหลือใครอีกเเล้ว ดังนั้นจึงไม่คิดจะจากไปให้หัวใจน้อยๆ นั่นต้องเจ็บช้ำเพิ่มไปอีก..
-แม่ของเธอชื่อ ดาร์เลเน่ เฟริซิตี้ ปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนนามสกุลไปแล้ว หรืออาจสิ้นไปแล้ว (?) ก็ได้..อืม..ใครจะรู้---
-ทั้งเเครอลและพี่ชายนั้นไม่รู้ว่าพ่อของเธอคือใคร แต่อาที่เป็นญาติห่างๆ รู้ค่ะ เขาเป็นคนญี่ปุ่นเเท้ๆ ปัจจุบันทำอาชีพนักธุรกิจชื่อดังที่ใครได้ยินชื่อก็ต้องร้องอ้อ ชื่อ ทาคิซาวะ ไทสึมะ แต่ที่ไม่คิดจะไปเรียกร้องเรื่องของเด็กทั้งสอง เพราะว่าเห็นว่าเด็กทั้งสองไม่ได้ต้องการพ่อ ทั้งถ้าเรียกร้องจริงๆ ล่ะก็ คนที่เรียกร้องได้ก็มีแค่แครอลเท่านั้น..
-หรือเอาง่ายๆ ก็คือ แครอลกับคุณพี่ชายเป็นลูกคนละพ่อกันนั่นเเหละค่ะ---พี่ชายรู้ความจริงข้อนี้ค่ะ แต่แครอลไม่รู้ ถึงอย่างนั้นพี่ชายก็ไม่ได้สนใจ ยังดูเเครอลเหมือนเธอเป็นน้องสาวแท้ๆ อยู่ดี
-ที่มักติดต่อทางเมลกับคุณอา นั่นเพราะว่าบางครั้งก็เจอปัญหาเรื่องเงินทองน่ะค่ะ เขาเลยช่วยบ้างในกรณีที่จำเป็นจริงๆ
-คุณอาเป็นคนอังกฤษเเท้ๆ แต่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น ทำธุรกิจสปา ค่อนข้างจะรุ่งเรืองดี ชื่อ สเวน เฟริซิตี้ ปัจจุบันยังโสด และมีเเววจะเกาะคานไปจนแก่ตายค่ะ (?) llคุณอาอายุ36เเล้วค่ะ---
-คุณพี่ชายเป็นหนุ่มอังกฤษเเท้ๆ แต่โตมาในประเทศญี่ปุ่นเลยรู้วัฒนธรรมเเละภาษาที่นี่ดี ตอนแรกอาศัยอยู่กับผู้เป็นอา ก่อนจะย้ายไปอยู่กับเเม่และน้องสาว ตอนที่พวกเขาย้ายมาญี่ปุ่น (ตอนนั้นแครอลอายุ5ปี ส่วนพี่ชายอายุ12ปีค่ะ)
-แครอลเป็นลูกครึ่ง อังกฤษ-ญี่ปุ่น
-คุณพี่ชายมีตาสีเทา และผมสีทองค่ะ แต่พ่อคุณไฮไลท์ผมสีดำด้วย (น้องสาวอยากเห็น..ไม่มีอะไรมากมายเลยค่--(?))
}}เพิ่มเติมเนื้อหาตัวละคร{{
[ลักษณะการพูดจา] : ถ้อยคำวาจาของแครอลนั้น ค่อนข้างจะไร้สัมมาคารวะเเละร้ายกาจมากพอตัว เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสียงแหลมสะบัดๆ น้อยๆ ความเอาแต่ใจเต็มเปี่ยมในน้ำเสียงแบบสัมผัสได้ทันทีเพียงแค่อุทาน (?) มักพูดด้วยเสียงกึ่งดังเล็กน้อย ชอบแทนตัวเองว่า ฉัน และเรียกผู้อื่นตามอายุ หากเท่ากันมักเรียก เธอ หรือ นาย มากกว่าก็เรียก พี่ ไม่ก็ ลุง ป้า น้า อา แล้วแต่ใบหน้า (?) เด็กกว่าจะเรียกอีกฝ่ายว่า เจ้าหนู เป็นประจำ ติดนิสัยไม่ลงหางเสียงในประโยคคำพูด ยกเว้นคุยกับคนใหญ่คนโต (ซึ่งเเครอลไม่เคยคุยกับคนจำพวกนั้นสักคน---) บางทีก็พูดจาปากไม่ตรงกับใจ ซึนเดเระทีล่ะเสียงเบาหวิวปานใบไม้ตก แต่ปกตินั้น..คำพูดคำจาของเธอ พูดได้ประโยคเดียวเลยว่า ไม่น่าฟังเลยสักนิด..ยกเว้นก็แต่จะคุยกับพี่ชายที่รัก ที่เสียงจะหว๊านหวาน และคำพูดจาจะดูไพเราะขึ้นเป็นกอง แทนตัวคุณพี่ว่า พี่ชาย และแทนตัวเองว่า น้อง จนดูมุ้งมิ้งอย่างมากน่ะนะ---
Ex.
"พี่ชายยยย น้องหิวจังเลยอ่ะ ทำขนมให้กินหน่อยสิ!" เข้าไปเกาะเเขนเเล้วตาวิ๊งๆ ใส่คนเป็นพี่แบบออดอ้อนสุดฤทธิ์
"น่ารำคาญอ่ะ" พูดด้วยสีหน้าสุดเบื่อหน่าย กับคนที่มาบ่นๆ แล้วชี้นิ้วใส่เธอไม่ยอมหยุด จากนั้นก็เดินหนีไปเลย..
"ฉะ ฉัน แบบ..คือ.." อ้ำอึ้งพูดตะกุกตะกัก ดวงหน้าร้อนฉ่าแดงแปร๊ด เหลือบนัยน์ตาแสนสวยหลบอีกฝ่ายไป ก่อนจะพึมพำเสียงเบาหวิวด้วยท่าทางอายสุดฤทธิ์ "ชะ..ชอบ..ชอบที่สุด.."
[การแต่งตัว] : แครอลค่อนข้างเบื่อหน่ายกับการเเต่งเนื้อแต่งตัว เพราะงั้นจึงเน้นเเต่งง่าย สบายๆ มากกว่าสวยงาม แต่ปกติเเล้ว เจ้าตัวใคร่จะใส่เสื้อยืดสีขาวกับเอี๊ยมยีนส์ขาห้าส่วน กับรองเท้าผ้าใบเป็นพิเศษ---เเครอลไม่นิยมทำผมมากนัก แต่เพราะผมยาวเลยมักจับมัดหางม้าลวกๆ มีปอยคลอเคลียลำคอและดวงหน้าเล็กน้อย แม้จะดูเเอบยุ่งเหยิง ทว่าก็น่ารักเป็นอย่างมาก ดวงหน้าเเต่งเติมเพียงครีมกันแดดเท่านั้น นอกจากนั้น ธรรมชาติล้วน แม่ให้มา (?)
[การศึกษา] : เรียนโรงเรียนรัฐบาลมาตั้งเเต่อ.หนึ่งยันม.ปลายปีสาม---การเรียน..บางวิชาก็ดี บางวิชาก็ห่วย แล้วแต่ความถนัดของเจ้าตัว ซึ่งหากให้ยกตัวอย่างเเล้ว แครอลจะได้วิชาที่เกี่ยวกับภาษาและประวัติศาสตร์ ส่วนที่ห่วยก็คือเลข กลางๆ ส่วนมากเเล้วจะเป็นวิทย์กับวิชาเพิ่มเติมเสียส่วนมาก
[งานอดิเรก] : ฝึกทำขนม [ใฝ่ฝันว่าสักวันมันจะอร่อย เลยทำเป็นประจำน่ะค่ะ--] ll หาอะไรทำ [จะงานบ้าน วิ่งเล่น หรือแกล้งหยอกชาวบ้านก็ได้ ขอแค่ไม่ต้องนั่งเฉยเป็นพอ (?)] ll นั่งมองพี่ตัวเองทำขนม [ดูเเล้วมีความสุข..] ll เล่นกับเเมวที่บ้าน [ชอบขนฟูๆ และพุงอันนุ่มนิ่ม มักเล่นกับน้องแมวจนเหนื่อย และพากันนอนงีบไปด้วยกันเป็นประจำ (เเม้ว่าบางทีที่ที่งีบหลับนั่นจะคือระเบียงตรงสวนก็เถอะ..เดือดร้อนพี่ชายมาอุ้มไปนอนห้องทุกทีเสียนี่..)]
[การกีฬา] : เรียกว่าห่วยได้ไม่เต็มปาก แต่บอกว่าดีไม่ได้เช่นกัน เอาเป็นว่าหากตัดเรื่องการจดจำและปฏิบัติตามกติกาไปแล้ว แครอลจะทำได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว ตอนนี้หากถามว่าเล่นอะไรได้โอเคสุด คงต้องบอกว่าเป็นฟุตบอล (?) ล่ะนะ
[ประวัติกิจกรรม] : ปกติแล้วไม่ค่อยไปแข่งอะไรเท่าไหร่นักเนื่องด้วยเพราะเจ้าตัวบ่นบ่อยๆ ว่าน่าเบื่อ แต่พอพี่ชายชมว่าเก่งมาก ตอนได้เหรียญทองในการเเข่งขันตอบปัญหาวรรณกรรมที่โดนครูบังคับไป เเครอลก็ชอบลงสมัครไปกวาดเหรียญทองกิจกรรมตอบคำถาม ทำข้อสอบ และเเข่งขันวิชาการอื่นๆ หมวดภาษาและประวัติศาสตร์ประจำ----
//เหรียญที่ได้จากการเเข่ง พออวดพี่เสร็จ แครอลก็ชอบเอาไปหย่อนใส่กล่องเก็บไว้รวมๆ กันประจำ..เดือดร้อนพี่ชาย (อีกแล้ว..) ให้ย่องมาเอาเหรียญไปแขวนให้ดีๆ ในอีกห้องที่ว่างอยู่เสมอๆ จนห้องๆ นั้นกลายเป็นห้องเก็บเหรียญและถ้วยรางวัลของแครอลไปเสียเเล้ว--//
[มิตรสหาย] : ไม่ค่อยมีมาก แต่ก็มีมิตรรักถึงสามท่านด้วยกัน คบกันมาตั้งเเต่ประถมและยิงยาวมาจนถึงปัจจุบัน คำนวนเเล้วคาดว่าคงคบกันไปอีกยาวนานจนคนในกลุ่มเเต่งงานมีสามีภรรยากันเลยทีเดียว--//กลุ่มของแครอลนั้นประกอบด้วย ชายสอง หญิงสองรวมแครอลด้วยค่ะ ทั้งสี่อายุเท่ากันหมด โดดเด่นกันไปคนละด้าน แครอลนั้นคือหน้าตา (?) และสกิลภาษา เพื่อนสาวคืองานฝีมือและการทำอาหาร เพื่อนชายคนแรกคือกีฬา คนสุดท้ายคือทัศนศิลป์จำพวกวาดรูปแกะสลัก //*ดูเพิ่มเติมได้ที่โปรไฟล์นะคะ!
[ความรัก] : เคยมีเเฟนเป็นตัวเป็นตนเมื่อตอนม.ต้นปีสอง คบกันยาวนานถึงสี่ปี และรักกันหวานซึ้งจนช่วงที่คบกัน พี่ชายกลัวใจจนเครียดไปหลายวัน ว่าแฟนน้องสาวจะพาเเครอลออกนอกลู่นอกทางหรือไม่ สรุปแล้วคือ มิหนำซ้ำยังคอยช่วยเเครอลเสมอ เรียกได้ว่าเป็นว่าที่เขย (?) ที่พี่ชายชอบมาก และแครอลก็รักมาก แต่กลับต้องมาเลิกกันในวันที่ทั้งคู่ขึ้นมัธยมปลายปีที่สาม เพียงเเค่เพราะว่าเเม่ของฝ่ายนั้นไม่ยอมรับตัวเเครอลเพียงเเค่นั้นเอง..ช่วงที่เลิกกันนั้น เเครอลมีอาการซึมเเละหมองอย่างรุนเเรง เศร้าไปหลายเดือนจนเพื่อนเเละพี่ชายพากันหมองตาม กว่าจะกลับมาเป็นแครอลดังเช่นทุกวันนี้ ก็ยากพอตัวเลยทีเดียว..และลึกๆ เเล้วเเครอลก็ยังแอบคิดถึงแฟนเก่าของเธออยู่เช่นกัน เเม้ว่ามันจะผ่านมาเกือบปีเเล้วก็ตามทีเถอะนะ..
[ครอบครัว] : อาจเพราะตระกูลนี้ญาติน้อยและดวงซวย..ดังนั้นเเล้ว เฟริซิตี้ จึงมีคนร่วมตระกูลเหลือแค่สองพี่น้อง กับญาติห่างๆ ที่เปรียบเหมือนอาของทั้งสองคน ซึ่งมักส่งเมลหากันกับพี่ชายถามไถ่ทุกข์สุขกันบ้างหนึ่งท่านเท่านั้นเอง พ่อเองก็เป็นใครก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นไม่นับ (?) ส่วนมารดาของพวกเขา..ตั้งเเต่ที่เธอเลือกจะไปกับรักใหม่ของเธอ เธอก็ไม่ถือว่าเป็นคนตระกูลนี้อีกเเล้ว..
Profile her Brother
"ต้องใส่ตามสูตรสิเเครอท ใส่เยอะขนาดนั้นเดี๋ยวเดี๋ยวหวานตา---อ่า..โอเค เอาเป็นว่าเราเอาขนมที่ทำไปฝากคุณป้าข้างบ้านกันนะ?"
วัลดัส เฟริซิตี้ [Valdus Felicity]
Age : 25 ปี
Status : Alive / เจ้าของร้านเบเกอรี่
}คุณพี่เจ้าของรอยยิ้มบางๆ เบาๆ แค่มุมปากแสนหล่อเหลาของเเครอล ฝีมือทำอาหารเป็นเลิศ ทั้งยังเป็นผู้นำที่ดี ฉลาดมีไหวพริบ กีฬาก็ดีงาม มองแล้วบอกเลยว่าพ่อของลูกชัดๆ เสียอย่างเดียว..ดันชอบสปอยล์น้องมากไปหน่อยซะนี่..{
Profile her Friend
"หาหมอไหมเเคลร์?"
อิจิ ไดสุเกะ [Eiji Daisuke]
Age : 18 ปี
Status : Alive / นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปี3
}หนุ่มนักกีฬาเจ้าของใบหน้าดุดัน หล่อเหลา แต่ตายด้านจนน่ากลัว หน้าตาท่าทางดูคล้ายอันธพาล แต่เอาจริงแล้วเป็นคนที่ติดจะมึนๆ พอสมควร ชอบคิดว่าหน้าแดงๆ ของแคลรอลตอนโดนหยอกนั้นคืออาการป่วยประจำ #คู่หูความรู้สึกช้าของเเคลรอลเลยล่ะ--{
"พี่ชายบันไซค่ะ!!"
อากิโกะ อากาเนะ [Akiko Akane]
Age : 18 ปี
Status : Alive / นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปี3
}สาวสวยสกิลแม่บ้านสูงส่ง ผู้มีฝีมืองานบ้านงานเรือนและสกิลทำอาหารเป็นเลิศ และใต้รอยยิ้มขี้เล่นนั้น คือความบราค่อนขั้นสุดยอดของเธอ #ผู้ร่วมขบวนการพี่ชายสุโค่ย (?) ของแครอล--{
"เป็นบ้าอะไรกันวะ..?"
ฮาจิเมะ อาราตะ [Hajime Arata]
Age : 18 ปี
Status : Alive / นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปี3
}หนุ่มหล่อสกิลศิลป์เป็นเลิศ แต่นิสัยเเสนเถื่อนเเละดุดันจนสาวไม่เเล (?) มักทำหน้าหงุดหงิดเป็นประจำ และปัจจุบันนี้กำลังคิดกับตัวเอง..ว่าเพื่อนเขามันเป็นบ้ากันไปหมดเเล้วใช่ไหม..#บุคคล (อาจจะ) ปกติเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่ม---{
Profile her Old Boyfriend
"ขอโทษนะ..แครอล"
ฟุมิโอะ ไดจิ [Fumio Daichi]
Age : 18 ปี
Status : Alive / นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปี3
}รักเก่าของแครอลที่จากลากันไปด้วยเหตุผลที่ไม่อาจรับได้..ปัจจุบันนี้เขายังคงรักเเละคิดถึงเธอเสมอ ทว่ากลับไม่อาจพบเจอได้เพียงเพราะเเค่มันคือความต้องการของมารดาของเขาเท่านั้น..{
บทสัมภาษณ์ลูกสาว
“สุขสันต์วันคริสมาส” เสียงหนึ่งทักขึ้นเมื่อเธอกำลังเดินอยู่ แม้จะเป็นประโยคทั่วไปในคืนวันคริสมาสแบบนี้ แต่ราวกับมีมนต์ให้เธอหยุดและสนใจเจ้าของเสียงนั่น ภาพที่เธอเห็นคือคุณลุงตัวอ้วนจนพุงแทบจะปลิ้นออกมาจากเสื้อสีแดง จมูกโตๆที่แดงก่ำนั่นทำให้เธอคิดว่าเขาต้องผ่านการดื่มมาอย่างหนักแน่นอน เขามองมาที่เธอแล้วแย้มยิ้มอย่างใจดี
:: "ห๊ะ?" เสียงหวานหลุดอุทานออกมาจากริมฝีปากโดยไม่ตั้งใจ จู่ๆ กลับโดนทักทั้งที่กำลังเดินเล่นในเมืองแบบคนไม่รู้จะทำอะไรดีแบบนี้ มันทำเอาเธองงแบบสุด ๆ..เเครอลหันไปมองหน้าคนทักตาปริบๆ ด้วยความที่ตนไม่คุ้นหน้าอีกฝ่ายเลยทำให้เด็กสาวขมวดคิ้วใส่ไปแทนที่จะโค้งศีรษะขอโทษ แม้ว่าท่าทางเเละคำพูดของเธอมันจะแอบไร้มารยาทก็ตามทีเถอะ
“เธอเชื่อในปาฏิหาริย์ในวันคริสมาสไหม?” เขาว่าแล้วก็เบนสายตามองไปยังต้นคริสมาสที่ถูกประดับด้วยไฟตกแต่งอย่างสวยงาม “ปาฏิหาริย์วันคริสมาสน่ะ มีอยู่จริงนะ”
:: "คริสต์มาส.." กลีบปากบางพึมพำ เรื่องที่ตาลุงตัวอ้วนพูดทำให้เด็กสาวเกิดใคร่สนใจขึ้นมาหน่อย เอาจริงๆ เธอเองใช่ว่าจะรีบกลับบ้านนี่นา คุยด้วยหน่อยก็ได้มั้ง แต่ว่านะ..คริสต์มาสงั้นเหรอ.. "ไม่รู้สิลุง แล้วแต่อารมณ์ล่ะมั้ง?" เเครอลว่าพร้อมกับเลิกคิ้วและกลอกตาไปมาน้อยๆ ท่าทางของเธอทำเอาอีกฝ่ายถึงขั้นหลุดเสียงหัวเราะออกมาเลยทีเดียว
“โฮ่ๆๆ ซานต้าน่ะมีอยู่จริงนะ แล้วเขาก็ฟังคำขอของทุกคนเลย” เขาหัวเราะร่วนกับปฏิกิริยาของเธอ
:: "อ่าหะ" เธอว่าพร้อมพยักหน้ารับเบาๆ ดวงตาคู่โตสีน้ำเงินจางจนแทบเป็นสีฟ้าหรี่มองดวงหน้าอูบอวมของอีกฝ่าย ชักเริ่มคิดว่าอีกฝ่ายนี่สติไม่ดีหรือว่าเมาจัดจนเพ้อกันเเน่นะ?..แต่ถึงกระนั้น เเครอลกลับยังยืนอยู่โดยไม่เดินหนีไปไหนเสียก่อน เหมือนกับว่าลึกๆ เเล้วในตัวเธอมันกำลังบอกว่า ถ้าเธอเดินหนีไปตอนนี้ เธอคงได้พลาดอะไรสักอย่างไปแน่ ๆ..
“ถ้าเธอขอพรได้หนึ่งข้อ เธอจะขออะไรล่ะ?”
:: เด็กสาวชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "ซานต้าน่ะ คงไม่สนใจคำขอของเด็กดื้อแบบฉันหรอกมั้ง?" เธอว่าพร้อมยิ้มจางๆ ทว่าดวงตากลับวูบไหว ผ่านไปนานหลายนาที แครอลยังคงนิ่งเเละอีกฝ่ายยังคงไม่เอ่ยคำใดๆ ออกมายกเว้นเพียงรอยยิ้มบนใบหน้า มันทำให้เด็กสาวจิ๊ปากแล้วเม้มกลีบปากแน่น ดวงตาหลุกหลิกพร้อมสีชาดเริ่มเเต่งเเต้มใบหน้าช้าๆ เด็กสาวอึกอักพอสมควร ก่อนริมฝีปากนั้นจะค่อยๆ เปล่งเสียงเบาหวิวทั้งดวงหน้าแดงฉาดออกไปว่า "ถ้าเกิดเด็กดื้ออย่างฉันจะขอพรจากซานต้าได้ล่ะก็..ได้โปรดช่วยให้ร้านของพี่ฉันมีชื่อเสียงขึ้นมาทีจะได้ไหม?"
“อย่างนั้นเหรอ ฉันจะไปบอกซานต้าให้นะ” เขายิ้มก่อนจะลูบพุงโตๆนั่นอย่างอารมณ์ดี จนเธออดนึกว่าพิลึกคนในใจไม่ได้
::ท่าทางเเปลกๆ นั่นทำให้แครอลชะงักไป ก่อนเธอจะสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อรู้สึกตัวว่าแสดงท่าทางหน้าอายออกไป ดวงตาหลบหลีกหนีเเละหลับลง พร้อมเรียวคิ้วขมวดมุ่น เเครอลเอ่ยตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักว่า "อะ อ่า..ขอบใจเเล้วกันนะลุง.."
“ยังไงก็สุขสันต์วันคริสมาสนะ ขอให้มีความสุขกับของขวัญของเธอ” หญิงสาวรู้สึกว่ารอยยิ้มของลุงสื้อแดงคนนั้นดูมีอะไรชอบกล แต่เธอก็เลือกที่จะเมินต่อมันไป
:: "สุขสันต์..วันคริสต์มาส" กลีบปากบางพึมพำตอบกลับไปเบาๆ เเครอลเอียงคอด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อยกับรอยยิ้มนั้น ก่อนเธอจะปัดมันทิ้งไปอย่างรวดเร็วแล้วอุทานร้องลั่นด้วยสีหน้ากระวนกระวาย ก่อนร่างบางๆ นั้นจะวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งให้คู่สนทนาของตนยืนมองและหัวเราะตามไปอย่างรื่นเริงไปกับเสียงอุทานที่ว่า
"พี่ชายรอฉลองคริสต์มาสอยู่ที่บ้านนี่นา!!!!"
บทสัมภาษณ์คุณแม่ (ให้คุณแม่ตอบนะคะ)
สวัสดีค่ะ J ชื่ออะไรเอ่ย?
::รันรันค่าาา มาส่งทันก่อนเดดไลน์ใช่ไหมเนี่ย--55555
ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้เหรอ? (คำถามยอดฮิตไปแล้ว 555)
::เพราะชอบน่ะค่ะ! (แค่นี้เหรอลูก---)
รู้ใช่ไหมว่าไรต์จะแต่งแบบ One shot อาจจะมีตอนเดียวหรือสองตอนนะคะ รับได้ใช่ไหม?
::รู้เเละรับได้เเน่นวลค่ะ! ไม่งั้นลูกสาวคงไม่เกิด--//แค่กๆ
ถ้าไม่ติดอย่าโกรธไรต์น๊าTT
::ไม่เป็นไรค่าา ถ้าไม่ติดคงเสียใจนิดหน่อย แต่ไม่โกรธหรอกนะคะ!
ขอบคุณที่มาสมัครนะคะ แล้วก็สุขสันต์วันคริสมาส J
::ตอนนี้ขอเป็นสุขสันต์ตรุษจีนย้อนหลังแทนนะคะ---! (?)
ความคิดเห็น