ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark world Box **Close

    ลำดับตอนที่ #26 : NUMBER27 [ออมพรีสเซอนี่ ริเบทีค]

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 59


    Application




    “คำว่า อิสรภาพ สำหรับตัวผม มันเป็นได้เพียงแค่ ภาพมายา เท่านั้น..”

    __________________________________________________________________




    บทที่สมัคร : ตัวร้าย



    ชื่อ-นามสกุล : ออมพรีสเซอนี่ ริเบทีค [Emprisonné Liberté]


    ความหมายของชื่อ : ออมพรีสเซอนี่ แปลว่า กักขัง / ริเบทีค นั้นเพี้ยนมาจากคำว่า รีเบคเทะ ซึ่งเเปลได้ว่า อิสรภาพ พอรวมๆ แล้วก็เป็น การกักขังอิสรภาพ ค่ะ! #อนึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสค่---


    ชื่อเล่น / ชื่อเรียก : ออมพรีส [Empris]


    อายุ : 17 ปี


    เพศ : ชาย


    ชนชั้น : เวิร์น


    กลุ่ม : โอปอล


    ที่อยู่เดิม : ฝรั่งเศส


    รูปของรอยสลัก : นกที่ถูกกระชากปีก


    ตำแหน่งรอยสลักบนร่างกาย : สะบักไหล่ข้างซ้าย


    ชื่อเรียกของรอยสลัก : ทอมเบย์ (แปลว่าร่วงหล่นค่---)


    อาวุธ :  สไนเปอร์สีขาวทุกสัดส่วน มีน้ำหนักค่อนข้างมาก และมีขนาดลำตัวปืนยาวเกือบเท่าตัวของออมพรีส 


    ความพิเศษของอาวุธ : สามารถแยกชิ้นส่วนออกมาเป็นปืนชนิดอื่นๆ ได้แก่ ปืนสั้น ปืนลูกซอง และปืนคู่ ได้ แต่ผู้ใช้ต้องมีทักษะการประกอบปืนพอสมควร / นอกจากนี้ยังเป็นอาวุธเก็บเสียง เหมาะแก่การใช้ซุ่มยิงมหาศาล


    ความสามารถพิเศษ : 

    ความรู้และทักษะการประกอบปืนอย่างว่องไวและคล่องแคล่ว 

    ทักษะการใช้ชีวิต

    ความรู้เรื่องภูมิประเทศต่างๆ

    ความรู้เกี่ยวกับสัตว์และพืชพรรณในป่า


    รูปร่างหน้าตาโดยสังเขป : ออมพรีสนั้นเป็นเด็กหนุ่มร่างเล็กบางกว่าคนวัยเดียวกัน ด้วยสัดส่วน สูงเพียง 164 ซม. และหนักเพียง 39 กก. เท่านั้น เขามีเส้นผมสีทองซีดจนเเทบกลายเป็นสีขาว ดวงตาสีน้ำผึ้งหวานกลมโตประดับแพขนตาหนา ใบหน้าจิ้มลิ้มดูน่ารักขัดเพศ ริมฝีปากสีอ่อนดูสุขภาพดีมักคลี่ยิ้มประดับใบหน้าไว้อย่างอ่อนโยน จมูกโด่งรับกับคิ้วบางสีเดียวกับเส้นผม สรุปแล้วออมพรีสนั้น หากให้เปรียบเปรย ก็คงเป็นเหมือน พระอาทิตย์อันอ่อนโยน ของสรรพชีวิต กระนั้นเองก็ยังมีความเศร้าหมองเคลือบทับไว้อย่างเบาบางเช่นกัน


    ลักษณะที่ชอบทำหรือมักเห็นเป็นประจำ : ยิ้มตลอดเวลา และ ชอบยกมือขึ้นกำแน่นแล้วนิ้วโป้งถูกันไปมาเวลาครุ่นคิดอะไรสักอย่าง


    นิสัย : ออมพรีสเซอรี่ รีเบทีค หรือ ออมพรีส คือเด็กหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มน่ารักและความสดใสราวกับพระอาทิตย์ เขาเป็นคนน่ารัก อารมณ์ดี ยิ้มง่าย และชวนให้ความรู้สึกเหมือน น้องชาย ตัวน้อยๆ ที่แสนน่าทะนุถนอม และน่าเอ็นดู ออมพรีสมักมีรอยยิ้มประดับใบหน้าอยู่เสมอ มันเป็นรอยยิ้มกว้างๆ สื่อถึงความร่าเริงสดใสของเจ้าตัวแบบสุดๆ เขาหัวเราะได้กับเรื่องง่ายๆ ต้องบอกว่าเป็นพวกเส้นตื้นขั้นร้ายแรง ใครเล่นมุขอะไรมาก็หัวเราะไปเสียหมด ขนาดมุขแป้กเจ้าตัวยังหัวเราะได้ลงเลย เป็นคนที่เปรียบเหมือนน้ำเย็นชโลมใจ หากคุณมีเรื่องเศร้า ออมพรีสก็พร้อมจะรับฟังคุณและนั่งอยู่ข้างๆคุณเสมอ รอยยิ้มของเขาสามารถทำให้คนอื่นยิ้มตามได้เสมอๆ ทั้งรอบตัวออมพรีสยังมีออร่าแบบแปลกๆ ที่หากใครได้อยู่ใกล้เเล้วก็ต้องรู้สึกโล่งสบายเป็นประจำ ออมพรีสเหมือนแม่เหล็กดึงดูดผู้คน ทั้งรอยยิ้มและนิสัย อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแสงแดด ทำให้ผู้คนมากมายอยากอยู่ใกล้เขา ประกอบกับการที่เขาเป็นคนอัธยาศัยดี ออมพรีสจึงมีเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน

         ออมพรีสเข้าได้กับคนทุกประเภท เขาเป็นคนใจเย็น โกรธยาก และมีเมตตาสูง ออมพรีสมักยิ้มรับกับเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้อย่างง่าย เขามักพูดกับคนที่ทำร้ายเขาว่า ไม่เป็นไร เสมอ ออมพรีสจะไม่ถือโทษโกรธใครหากไม่จำเป็น ออมพรีสจะช่วยเหลือผู้อื่นเสมอหากว่าเขาทำได้ แต่บางครั้งเขาก็ไม่ยอมช่วยเหลือในเรื่องบางเรื่อง..กฏเกณฑ์ในการช่วยเหลือสำหรับออมพรีสคือ หากเขาทำแบบนั้น จะต้องไม่มีคนมาเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับรอบข้างสูง ออมพรีสรักธรรมชาติ เขาชอบกลิ่นหอมของดอกไม้และแสงแดด เด็กหนุ่มมักยิ้มกว้างๆ ได้เมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และเขาเองก็ไม่ชอบการทำลายธรรมชาติด้วย หากออมพรีสเห็นใครทำลายธรรมชาติ เขาก็จะพยายามตักเตือนอีกฝ่าย แต่ไม่ได้ตักเตือนด้วยการดุด่าหรอกนะ ออมพรีสมักพูดด้วยคำสุภาพ โน้มน้าวใจคนอื่น ด้วยบุคลิกนิสัยเเละรอยยิ้ม เขาจึงเป็นคนที่เจรจากับชาวบ้านได้ดีมากๆ

         ออมพรีสมีดวงตาที่อ่อนโยนและสดใส คนส่วนมากมักใจอ่อนกับสายตาของเขา ไม่ค่อยมีคนปฏิเสธออมพรีสได้นัก เวลาออมพรีสอยากได้อะไร ก็มักมีคนคอยหามาให้เสมอๆ แต่ออมพรีสไม่ได้เป็นเด็กเอาแต่ใจแต่อย่างใด เขาอึดอัดหน่อยๆ เสียด้วยซ้ำเวลามีคนเอาอะไรมาให้ ออมพรีสไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร ถ้าเป็นไปได้เขาอยากทำทุกอย่างด้วยตัวเองเท่านั้น ออมพรีสเกลียดเวลาที่ตนไปติดหนี้บุญคุณใครเเล้วชดเชยให้ไม่ได้ แต่เกลียดมากกว่าคือพวกทำความหวังผล เวลาโดนช่วยแล้วร้องหาของตอบแทน ออมพรีสจะหงุดหงิดไม่น้อย เขาว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่น่ารัก (?) เลยสักนิด..แต่สุดท้ายเเล้วออมพรีสก็มอบของตอบแทนให้ไปเท่าที่จะทำได้อยู่ดีนั่นแหละ และต้องเป็นครั้งเดียวจบด้วย ออมพรีสไม่ชอบอะไรที่มันค้างคา เขารู้สึกไม่โอเคเลยต้องเจอกับคนโลเล สองจิตสองใจ ออมพรีสเป็นคนใจเด็ด กล้าเลือกและกล้าเสี่ยงผิดกับภาพลักษณ์นิ่มๆ นั่น เห็นแบบนี้แล้วลางสังหรณ์แม่นอย่างกับจับวาง แต่ดันเป็นคนโชคร้ายสุดตู่ ลางสังหรณ์ของออมพรีสเลยจะเเม่นเฉพาะกับเวลาเจอเรื่องร้ายๆ เท่านั้น..

         ออมพรีสนั้นเเม้จะอัธยาศัยดี แต่กลับรักสันโดษและไว้ใจคนยากเสียอย่างนั้น เขายิ้มให้ทุกคนก็จริง แต่ออมพรีสไม่เคยบอกกับคนอื่นว่า มาเป็นเพื่อนกันเถอะ หรือ พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ สำหรับออมพรีสนั้น คำว่าเพื่อนมีความหมายมาก แต่เขาไม่ขัดหรอกหากมีคนมาเรียกเขาว่าเพื่อน ออมพรีสจะทำเพียงยิ้มรับเท่านั้นแหละ ยังไงสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้บอกว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนของตนอยู่ดี ออมพรีสจะนับคนที่สนิทด้วยมากๆ เป็นเพื่อนเท่านั้น สำหรับคนอื่นนั้นถือเป็นบุคคลร่วมโลกที่เราควรให้ความช่วยเหลือ ออมพรีสไม่ชอบบอกเรื่องของตัวเองให้คนอื่นฟัง มักปิดเรื่องในใจไว้ด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะทุกข์ เศร้า โกรธ หงุดหงิด หรืออะไรก็ตาม สุดท้ายเเล้วออมพรีสก็จะยิ้มออกมาเพื่อให้คนอื่นไม่ต้องมาสนใจเขา เเละเพื่อให้คนสำคัญของเขาไม่ต้องมาหนักใจกับตัวเองนั่นเอง และนิสัยชอบยิ้มกลบเกลื่อนความเจ็บปวดของออมพรีสนั้น มันจะมีผลมากเป็นพิเศษเมื่อเขาต้องใช้มันกับคนสำคัญของเขา

         ออมพรีสเป็นคนจำพวกเเบกรับความผิดทุกอย่างไว้กับตัวเอง เห็นเป็นคนร่าเริงเสียขนาดนี้ แต่กลับโทษว่าตัวเองคือคนผิดในทุกๆ เรื่อง สายตาออมพรีสมองโลกนั้นค่อนข้างไปทางลบเสียมาก เวลาเกิดเรื่องร้ายแรงหรือเรื่องผิดพลาด แล้วมีตัวเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย ออมพรีสก็จะโทษตัวเองไปก่อนด้วยความผิดเล็กน้อยที่เคยก่อ เป็นคนความจำดีมากเมื่อเกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ และเรื่องที่เขาเป็นคนก่อ ออมพรีสเป็นพวกแปลก เขาไม่จำความดีงามที่ตนเคยจำไว้ เขาจำเพียงแต่ความผิดพลาดเท่านั้น ทั้งตัวเขายังไม่ใช่พวกที่ล้มแล้วสามารถลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ ออมพรีสเป็นคนจิตตกง่าย แต่ไม่มีใครรู้ นั่นเพราะเขาปกปิดมันไว้ด้วยรอยยิ้มของเขานั่นเอง..ออมพรีสมักรู้สึกกังวลและกระสับกระส่ายกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ง่ายเป็นพิเศษ เขาจะเครียดจัดเมื่อทำอะไรผิดพลาดไป ออมพรีสชอบตอกย้ำตัวเองด้วยความรู้สึกผิด เป็นพวกประหลาด ที่หากตนล้มก็จะเหยียบย่ำ ตัวเอง ซ้ำเติมลงไปอีกด้วยความผิดมากมายนับไม่ถ้วนเท่าที่จะทำได้ เหมือนจะเป็นคนเข้มเเข็งที่มาพร้อมแสงสว่างแห่งกำลังใจแก่ผู้คน แต่กลับเป็นคนที่อ่อนแอเเละเปราะบางราวแก้วใสเสียอย่างนั้น

         ออมพรีสมีความรู้เรื่องธรณีวิทยา พืชพรรณ และสัตว์ป่าสูงมาก ออมพรีสรักสัตว์ทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่แมลง6ขา8ขา เขามอบความอารีให้พวกมันมากกว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองเสียอีก ออมพรีสสามารถอดข้าวหนึ่งมื้อ เพื่อเเบ่งปันอาหารของตนให้แก่พวกสัตว์ด้วยซ้ำ เป็นคนมีเมตตาสูง เปรียบแล้วราวกับแม่พระมาโปรด (?) เเน่นอนว่ากับบุคคลร่วมโลกทั้งหลายก็ไม่ต่างกันนัก (แค่เมตตาน้อยกว่าสัตว์..) ช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็แนะนำ ออมพรีสเป็นคนที่มักทำให้คนชั่วกลับใจเป็นคนดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยออร่าเเม่พระมาโปรดของเขา แต่ว่าเฉพาะกับพวกที่ไม่ได้ชั่วแบบฝังรากลึก (?) เท่านั้นนะ..ออมพรีสเป็นเด็กขยัน เขาชอบช่วยงานคนอื่น ไม่มีใครเห็นออมพรีสนอนขี้เกียจหรือตื่นสายเลย เขาเชื่อฟังผู้อาวุโสกว่า พูดจาไพเราะ ไม่ชอบทำให้คนอื่นหนักใจ เรียกได้ว่าเป็นเด็กดีแห่งชาติเลยก็ว่า ตัวออมพรีสยึดติดกับคำว่า เด็กดี มากๆ เลยล่ะ..เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนอื่นมองเขาเป็น เด็กดี ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตามทีเถอะ..

         ออมพรีสเป็นโรคจิตอ่อนๆ เขาเป็นโรคผวาคำว่า เด็กดื้อ แปลกใช่ไหมล่ะ? แต่ออมพรีสก็เป็นมันจริงๆ ชีวิตตลอดชีวิตของเขาถูกปลูกฝังด้วยคำว่า ต้องเป็นเด็กดี ออมพรีสไม่มีสิทธิ์ดื้อ เพราะการเป็นชนชั้นเวิร์นนั้นไม่ได้สุขสบายเหมือนชนชั้นอื่นๆ ชีวิตของเขามันไร้ค่ามาเเต่เกิด เขาต้องทำตัวเป็นเด็กดีเท่านั้นคนอื่นจะได้ไม่ทอดทิ้งเขา ออมพรีสกลัวการถูกทอดทิ้งจากคนสำคัญมาก เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเหนี่ยวรั้งคนสำคัญของเขาเอาไว้ เพราะแบบนั้นเเล้วเขาจะเชื่อฟัง และทำตามทุกอย่างที่อีกฝ่ายบอก..ขอเพียงแค่ยังอยู่ข้างๆ เขาต่อไป ออมพรีสก็พอใจเเล้ว..ออมพรีสขวนขวายอยากได้ อิสระ แต่เพราะโรคที่เขาเป็นเเละความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งมันเหนี่ยวรั้งตัวเขาเอาไว้เอง ออมพรีสเหมือนจะทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ความจริงเขาไม่กล้าทำในสิ่งที่อยากทำมากมาย มีหลายสิ่งที่สนใจ แต่ไม่ได้ทำ นั่นเพราะออมพรีสกลัวว่าถ้าทำไปแล้วมันจะทำให้เขากลายเป็นเด็กไม่ดี ออมพรีสมักปกปิดความต้องการของตัวเองไว้ให้ลึกที่สุด ความปารถนาของผู้อื่นนั้นต้องมาก่อนเสมอ เขาจะเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้ ออมพรีสมีความเชื่อที่ยึดติดและตอกย้ำตัวเอง เพราะแบบนั้นเเล้วภายใต้ความสดใสนั้น จึงเต็มไปด้วยหวาดกลัว เศร้าหมอง และความรู้สึกอีกมามายนับไม่ถ้วนที่ถูกเจ้าตัวฝังเอาไว้นั่นเอง

         ออมพรีสเป็นคนที่ไม่มี ความอาลัยอาวรณ์ ต่อชีวิต ตัวเขานั้นไม่คิดว่าชีวิตของตนมีคุณค่ามาแต่ไหนแต่ไร เวลาทำอะไรสักอย่างออมพรีสจะทำสุดแรง เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้งานสำเร็จ ทุ่มเทกับสิ่งที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างมาก เพราะเขาคิดว่าหากทำมันไม่ได้ เขาคงถูกดุด่าอย่างแน่นอน..เพราะแบบนั้นออมพรีสจึงใส่ทุกอย่างที่มี เขาเต็มที่กับทุกงาน และนับถือผลสำเร็จเป็นสิ่งสูงสุด..จะวิธีไหนก็ได้ ขอแค่สำเร็จ และตัวเขาไม่ต้องถูกครหาว่าเป็นเด็กดื้อ ออมพรีสยอมทำได้หมดนั่นแหละ..ออมพรีสมักคิดเสมอว่า แม้เขาตายไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี เป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกคนอื่นมากมาย แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีความสำคัญต่อคนอื่นเลยเเม้แต่น้อย ทุกความห่วงใยที่ได้รับมาล้วนเป็นสิ่งเสเเส้รง ทุกอย่างคือเรื่อง หลอกลวง ออมพรีสมองคนอื่นเป็นคนสำคัญของตัวเอง แต่เขาไม่ได้มองตัวเองเป็นคนสำคัญของคนอื่น เพราะแบบนั้นเเล้วหากให้เลือกระหว่างชีวิตตัวเอง กับ คนสำคัญ ออมพรีสจะไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะตอบว่า เขาเลือกคนสำคัญของเขา 

         ออมพรีสนั้นเเม้ว่าจะเปี่ยมด้วยความสดใส ที่ภายในเปราะบางราวแก้วใส แต่กลับเป็นคนที่ร้ายลึกกว่าที่คิด ภายนอกที่ทุกคนเห็นนั้น ออมพรีสจะทำเพื่อช่วยเหลือแต่ละคน และเกลียดการทำความหวังผลที่สุด แต่ที่จริงเเล้วมันก็เป็นเเค่ ฉากหน้า เพื่อหลอกลวงคนอื่นว่าเขาเป็นเด็กดีเท่านั้น..แท้จริงเเล้วออมพรีสไม่ใช่เด็กดีอะไรเลย เขาเป็นคนที่มีจิตใจสับสนอย่างรุนเเรง ออมพรีสนั้นมีความอยากได้และความปารถนาใคร่ครวญต้องการจะครอบครองสูงมาก ทว่าเขากลับไม่ได้เเสดงมันออกไปเลยแม้แต่น้อย ตัวเด็กหนุ่มนั้นไม่ว่าจะเป็น ความโกรธ ความเศร้า ความปารถนา หรือแม้แต่แรงอิจฉานั้น เขามีมันทุกอย่าง และทุกอย่างที่ว่านั่นก็รุนเเรงมากๆ เสียด้วย..เพียงแค่เขาปกปิดมันเอาไว้ก็เท่านั้นแหละ ออมพรีสเป็นนักสวมหน้ากากชั้นยอด เขาสามารถเป็นเด็กหนุ่มที่เปี่ยมด้วยเเสงตะวัน หรือเป็นคนบอบบางที่ต้องให้คนอื่นมาปลอบประโลม หรือแม้แต่คนที่สามารถอภัยให้ได้แก่ทุกความผิด เพียงเพื่อตัวเองจะได้เป็น เด็กดี ก็เท่านั้น สายตาของออมพรีสที่มองไปยังตัวเองนั้น สิ่งเดียวที่เห็นมีแค่ ความโสมม เท่านั้น ออมพรีสไม่เคยเห็นดีงามในตัวเองเลย เขามักนอนกอดตัวเองและร้องไห้เงียบๆ ในทุกค่ำคืน เขารู้สึกผิดที่ตนทำตัวตีสองหน้าหลอกลวงคนอื่นเสมอ แต่ออมพรีสหยุดไม่ได้ ออมพรีสรู้ดีว่านิสัยที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกแง่ลบของเขามันไม่ดี และเขาเชื่อว่าไม่มีใครชอบมันแน่ๆ เพราะเเบบนั้นออมพรีสเลยเลือกจะเก็บมันเอาไว้ กดลงไปให้ลึกที่สุด ไม่ต้องให้กลับขึ้นมาอีกเลย หรือหากว่ามัน หายไป ได้ ออมพรีสเองคงจะดีใจมากเลยล่ะ..

         ออมพรีสมีส่วนที่ไม่เคยบอกคนอื่น..ก็ด้านร้ายๆ ของเขานั่นแหละ ตัวออมพรีสนั้นมีแรงความรู้สึกแง่ลบสูงมาก เขามักมองคนที่เปี่ยมด้วยอิสรภาพ และสามารถทำทุกอย่าง หรือได้ทุกอย่างมาครอบครองด้วยความอิจฉาที่คับอกเสมอ เด็กหนุ่มเป็นคนหลอกลวง..เป็นเหมือนกับหมาป่าชั่วร้ายที่ห่มหนังแกะ หากเขาเกลียด เขาจะบอกว่ารัก หากเขาขยะแขยง เขาจะบอกว่าเขาชอบ หรือหากเขาโกรธ เขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไร ออมพรีสปกปิดทุกสิ่งด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตาม เขาจะต้องเป็นคนดี เป็นเด็กดี เป็นที่พึ่งของทุกคน ทุกความผิดที่เขาก่อ ออมพรีสจะปกปิดมันด้วยรอยยิ้มเสม แม้ว่าภายในของเขาจะกระสับกระส่ายและรู้สึกผิดมากขนาดไหนก็ตาม  ความอาลัยต่อชีวิตนั้นไม่ได้มีแค่ตัวออมพรีสคนเดียว ขอแค่ไม่ใช่คนสำคัญของเขา จะตายไปอีกกี่คนก็ไม่เป็นไร..ออมพรีสนั้นไม่อาจครอบครองสิ่งที่เขาต้องการได้ แต่เขาก็สามารถขัดขวางให้คนอื่นไม่สามารถครอบครองมันได้เช่นเดียวกัน ใช่ไหม? อ่า..นั่นน่ะ เลวร้าย งั้นเหรอ? ไม่เป็นไรหรอก..ของแค่นั้นน่ะไม่เป็นไร

         เพราะยังไงออมพรีสที่เป็นเด็กดีมาตลอด ก็จะไม่ถูกทอดทิ้งอยู่เเล้วใช่ไหมล่ะ?


    ประวัติ : ออมพรีสเป็นเด็กที่เกิดในชนชั้นเวิร์น ซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นที่ต่ำที่สุด..ในตอนเกิดมานั้น เขาเกือบถูกแม่แท้ๆ ของตนทิ้งไว้ที่ข้างถนน แต่สุดท้ายท่านก็ทำไม่ลงและเลือกจะเลี้ยงเขาเอาไว้ ออมพรีสจึงยังคงมีชีวิตอยู่ต่อมาได้โดยที่ไม่ต้องไปนอนตายอยู่ข้างถนน ถึงอย่างนั้นชีวิตของเขากลับเต็มไปด้วยเรื่องเลวร้าย เพียงเพราะเเค่ว่าเกิดมาในชนชั้น เวิร์น ที่ต่ำที่สุด เขาถึงต้องถูกลดทอนสิทธิ์ต่างๆ มากมาย ทั้งยังถูกเด็กในวัยเดียวกันรังแกกลั่นแกล้งตลอดเวลา ออมพรีสไม่มีความสุขเลย..แต่เขาก็ยังยิ้มเสมอ นั่นเพราะเขาอยากให้แม่ของเขามีความสุขมากๆ ไม่ต้องมาเครียดกับเรื่องของเขา แม่มักสอนเขาเสมอว่าห้ามทำตัวแย่ๆ ต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังแม่ เพราะเเบบนั้นออมพรีสจึงพยายามทำตัวไม่ให้เป็นปัญหาของแม่ เพราะเขากลัว..กลัวว่าถ้าเกิดเขาเป็นเด็กไม่ดี เขาจะถูกเเม่ทิ้ง..

         ในวันเกิดครบรอบอายุ5ปี นั่นคือวันที่เขาต้องจากกับแม่ของตนเองอย่าง ถาวร มีผู้ชายคนหนึ่งมาที่บ้านของพวกเขา ผู้ชายคนนั้นคุยอะไรกับแม่ของเขา เเล้วแม่ก็บอกกับออมพรีสว่า 'ไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นซะ' ตอนแรกออมพรีสไม่เข้าใจ..ทำไมเขาถึงต้องไปอยู่กับคนแปลกหน้าคนนั้นด้วย? ออมพรีสพยายามถามแม่ของตน แต่สุดท้ายท่านก็ทำเพียงมองเขาและบอกเพียงว่า 'อย่าดื้อสิ' คำพูดเพียงสามคำทำให้ออมพรีสเลิกเซ้าซี้ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะไม่อยากจากแม่ของตนไป แต่เขาก็ไม่อยากเป็นเด็กดื้อที่อาจโดนทิ้งขว้างได้ ก่อนจากกัน เขาถามแม่ของเขาว่า 'แม่จะไปเยี่ยมผมไหมครับ?' แม่ของเขาลูบหัวเขามอบผ้าพันคอสีแดงให้เขาผืนหนึ่ง และจากไปทั้งๆ แบบนั้น ออมพรีสไม่รู้ว่าทำไมแม่ของเขาถึงแบบนั้น แต่เขาก็ขอเชื่อว่ามันคือ คำสัญญา ที่แม่มอบให้กับเขา..ถ้าเขาเป็นเด็กดื้อ แม่จะต้องมาเยี่ยมเขาแน่ๆ

         ผู้ชายแปลกหน้านั้นบอกให้ออมพรีสเรียกเขาว่า พ่อบุญธรรม เขาพาออมพรีสไปยังประเทศที่ตัวออมพรีสไม่รู้จัก ไปยังบ้านที่อยู่บนยอดเขาและเต็มไปด้วยหิมะ พ่อบุญธรรมให้เขาเปลี่ยนไปเสื้อผ้าหนาๆ ตัดผมรกๆ ให้เขาใหม่ และเปลี่ยนชื่อของเขา จากชื่อที่เเม่ได้ตั้งให้ก็กลายเป็น ออมพรีสเซอรี่ ริเบทีค ดังปัจจุบัน แรกๆ ออมพรีสไม่ไว้ใจอีกฝ่าย แต่ผู้ชายคนนั้นก็เลี้ยงดูเขาอย่างดี สอนเขาในเรื่องต่างๆ ทั้งยังสอนความรู้เกี่ยวกับปืนให้แก่ออมพรีส ชีวิตผ่านไปอย่างเรียบง่ายและผ่อนคลาย เด็กน้อยวัน5ขวบในตอนนั้นโตขึ้นจนเป็นเด็กหนุ่มอายุ14 ออมพรีสกลายเป็นคนที่เปี่ยมด้วยความสามารถหลายๆ ด้าน เป็นคนร่าเริงที่เปี่ยมด้วยเสียงหัวเราะและเป็นที่รักของผู้อื่น..นั่นคือสิ่งที่คนภายนอกได้สัมผัส แต่ใครจะรู้..ว่าเขาต้องทนเหงาอยู่ลำพังพร้อมความหวังที่เริ่มพังทลายไปทีละนิด ออมพรีสยังรอแม่ของเขาอยู่เหมือนเดิม..แม้ว่า..มันจะผ่านมานานถึง9ปีแล้วก็ตาม

         ชีวิตของออมพรีสก็ยังคงเป็นแบบนั้นต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่ง..พ่อบุญธรรมเรียกเขาเข้าไปในห้องห้องหนึ่งในบ้าน ท่านยื่นปืนกระบอกหนึ่งมาให้ และสั่งให้ออมพรีส 'ยิง' หญิงชราที่ถูกมัดอยู่ในห้องนั้นด้วยมือของเขา แน่นอนว่าออมพรีสต้องปฏิเสธอยู่เเล้ว ใครมันจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ลง..แต่พ่อบุญธรรมก็ยังคงบอกให้เขาทำแบบนั้น ท่านมองออมพรีสเหมือนกับกำลังจะบอกเขาว่า 'อย่าดื้อ' ออมพรีสมือสั่น ความจริงคือเขาสั่นไปทั้งตัว เด็กหนุ่มน้ำตาคลอเบ้า แต่สุดท้ายแล้ว..เขาก็ลั่นไกปืน กระสุนเจาะเข้าศีรษะของหญิงชรา กลิ่นของเลือดทำให้ออมพรีสพะอืดพะอมจนต้องสำรอกออกมา แต่เสียงหัวเราะเเละเสียงตบมือจากพ่อบุญธรรมนั้นทำให้เขาหวาดผวายิ่งกว่า ท่านกอดเขา ลูบหัวเขา แล้วพร่ำบอกตัวเขาว่า 'ดีเเล้ว..เด็กดีของพ่อ' ซ้ำไปซ้ำมา..วนเวียนแบบนั้นไปไม่รู้จบ

         หลังจากที่เขายอมทำตามที่พ่อบุญธรรมสั่งก็ผ่านไปอีกสองปี..คำว่า อย่าดื้อ คล้ายจะเป็นสวิตซ์ที่ทำให้ออมพรีสสั่นผวา และยอมทำตามอีกฝ่ายในทุกๆ อย่าง ราวกับว่าระบบบ้าๆ นั่นฝังลึกเข้าไปในหัวของเขาก็ไม่ปาน วันหนึ่งออมพรีสได้รับคำสั่งให้ฆ่าคนอีกครั้ง และก็เป็นอีกครั้งที่เขาอยากจะหายตัวไปจากโลกเสีย ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี แต่..เมื่อออมพรีสเห็นชื่อในกระดาษนั่น หัวใจของเขาก็แทบหยุดเต้น 'เอเรียล เฟย์ช่า' มัน..คือชื่อของแม่เขา ออมพรีสสับสนไปหมด เสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูตลอดเวลาว่า 'อย่าดื้อ' นั่นก็ทำให้เขาประสาทแทบหลอน ในกลางดึกคืนนั้นออมพรีสไปยังที่ที่ระบุไว้ในจดหมาย เขาเดินไปเคาะประตูห้องนอนของอีกฝ่าย และคืนนั้น..เขาก็ได้เจอกับเเม่ของเขา ออมพรีสยังจำเเม่ของเขาได้ดี แต่..ท่านจำเขาไม่ได้ ถึงอย่างนั้นออมพรีสก็ยังดีใจ เขาแกล้งทำเป็นเด็กหลง แล้วขอเข้าไปพักในบ้าน และถามเธอว่ามาทำอะไรที่ประเทศนี้ หล่อนตอบเพียงว่ามาทำงาน นั่นทำให้ออมพรีสรู้เหมือนโลกดับ เพราะแค่นั้นก็พอบอกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาหาเขา ทั้งยังเหมือนจะลืม ตัวเขา ไปจนหมดเเล้ว

         ความจริงที่โหดร้ายทำเขารู้สึกจุกไปหมด ออมพรีสมองกระดาษที่อยู่ในมือ เขาตัดสินใจจะทำตามที่พ่อบุญธรรมบอก เเม่ของเขากรีดร้องเมื่อเขาหยิบปืนขึ้นมาจ่อหัวอีกฝ่าย ออมพรีสเหนี่ยวไกปืน เพื่อที่จะจัดการเรื่องนี้ให้จบๆ ไป แต่เมื่อแม่ของเขาเรียกชื่อเก่าของเขาออกมา พลางครวญครางว่า 'เกลียดแม่เหรอ' มันก็ทำให้เขาทิ้งปืนลงได้ง่ายดาย ออมพรีสถาม..เขาถามแม่ของเขาว่าจำเขาได้ด้วยเหรอ หล่อนพยักหน้าแล้วลุกขึ้นมากอดเขา แล้วเอาแต่บอกว่าขอโทษเป็นร้อยๆ คำ ออมพรีสร้องไห้ออกมาเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าควรใช้มือสกปรกของเขากอดแม่ของเขาหรือไม่ เขาได้ซบหน้าลงกับไหล่ของมารดา ทั้งคู่กอดและร้องไห้อยู่เเบบนั้นหลายนาที จนออมพรีสเป็นฝ่ายผละออกมาเอง เขาปาดน้ำตาให้แม่ ออมพรีสเลือกจะละทิ้งคำสั่งของพ่อบุญธรรม เขาอยากอยู่กับแม่ของเขา..เด็กหนุ่มมองใบหน้านั้นเเล้วยิ้มทั้งน้ำตา แล้วในขณะที่เขากำลังบอกว่า 'คิดถึง' แก่อีกฝ่าย สีแดง..ก็สาดกระเซ็นใส่ใบหน้า

         ปัง!

         กระสุนหนึ่งนัดฝังลงบนขมับของมารดา ร่างนั้นเบิกตาโพล่งแล้วล้มลงไปต่อหน้าต่อตา ออมพรีสช็อกจนพูดไม่ออก เขาตัวสั่นสะท้าน และยิ่งสั่นมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อบุญธรรม ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ปืนในมือของพ่อบุญธรรมก็บอกได้ว่าเขาเป็นคนลั่นไก ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามากอดเขาเหมือนในครั้งแรก ออมพรีสตัวสั่น ดวงตาของเขาจดจ้องเพียงแค่ร่างไร้ชีวิตของแม่ เหมือนเสียงของเขาหายไปชั่วขณะ ก่อนออมพรีสจะได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูว่า

         "โธ่..ออมพรีส..ออมพรีสของพ่อ..ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะลูกรัก.."

         "ทั้งที่บอกไปแล้วแท้ๆ ว่า อย่าดื้อ.."

         "ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ ลูกรัก.."

         "เห็นไหมลูก? นั่นน่ะ..ผลของการที่ลูกดื้อกับพ่อไงครับ คนเก่ง"

         ถ้อยคำมากมายกรอกอยู่ข้างหู ยิ่งได้ยินน้ำตายิ่งเอ่อคลอ ออมพรีสตั่วสั่นสะท้านราวกับลูกนกน้อยๆ พ่อบุญธรรมกอดเขาแน่น ก่อนจะพูดกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเดินออกไปพร้อมเสียงหัวเราะอันดังก้อง

         "เด็กไม่ดี..ก็ต้องถูกลงโทษ..เข้าใจใช่ไหม ลูกรัก.."

         ..ทิ้งให้เด็กหนุ่มได้แต่กรีดร้องออกมา พร้อมกอดร่างไร้วิญญาณของมารดาไว้แนบอกเพียงลำพัง ในห้องที่แสนหนาวเหน็บเช่นนั้น..


    ลักษณะการพูด : เรียกเเทนตัวเองว่า ผม เเละเรียกคนอื่นว่า คุณ ลงท้ายว่าครับ ถ้าอายุมากกว่า ออมพรีสจะเรียกว่า พี่ชาย หรือไม่ก็ พี่สาว น้ำเสียงหวานนุ่มฟังดูอบอุ่นเเละร่าเริงราวกับเเสงตะวัน


    ชุดที่ใส่ประจำ : ออมพรีสชอบใส่เสื้อกล้ามสีขาวไว้ข้างใน และทับด้วยเสื้อเชิ้ตไร้กระดุมสีฟ้าแขนสั้น เขามักพันผ้าคอสีแดงเก่าๆ หลุ่ยๆ แบบทักมือเองไว้ตลอดเวลา กางเกงสั้นเหนือเข่าคืบสีน้ำตาล กับรองเท้าผ้าใบเรียบๆ ออมพรีสมักมีกระเป๋าคาดเอวใบใหญ่ สำหรับบรรจุซองกระสุนและมีดสั้น พกติดตัวเอาไว้เสมอ พอๆ กับสไนเปอร์คู่ใจที่พ่อคุณชอบแบกเดินไปไหนต่อไหนไปทั่ว


    ชอบ : สัตว์ทุกชนิด อากาศอบอุ่น ชาร้อนหรือโกโก้ร้อน หนังสือประวัติศาสตร์ ทุ่งหญ้าสีเขียว เเสงแดด

    เกลียด : หิมะ การเจ็บไข้ได้ป่วย

    แพ้ : หิมะ และ อากาศหนาว

    กลัว : พ่อบุญธรรมของตนเอง


    ความลับ : ไม่มีใครรู้ว่าออมพรีสป่วย..อย่างน้อยก็ทางจิตใจ และเพราะเเบบนั้น ออมพรีสจึงไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง หมายความว่าเขาอาจจะกลายเป็น บ้า เข้าสักวัน เพราะไม่อาจทนกับอาการประสาทหลอน ที่มักได้ยินเสียงของพ่อบุญธรรมที่คอยกรอกหูตลอดเวลานั่นเอง

    สิ่งที่ฝังใจ : เสียงของพ่อบุญธรรมที่เอาแต่พร่ำบอกเขาว่า 'อย่าดื้อ' อยู่ตลอดเวลา 


    งานอดิเรก : นั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์พร้อมจิบชาหรือโกโกร้อนไปด้วย


    บทบาท : เคะใสๆ ที่ภายในร้ายกาจ (?)


    เพิ่มเติม : ชื่อเก่าของออมพรีสคือ ไลท์ เฟย์ช่า ค่ะ



    _______________________________________________________________________________________


    บทสัมภาษณ์ตัวละคร [สมาชิกผู้ร่วมเล่นเกม]




    คิดยังไงกับรัฐบาลนี้?

    -"รัฐบาลเหรอครับ?" ดวงตากลมโตเบิกขึ้นน้อยๆ "เอ---ในสายตาผม พวกเขาเป็น คนใจร้าย น่ะครับ แหะๆ" 

    คิดยังไงกับระบบชนชั้นทั้ง 3 ชนชั้น

    -"ก็..ให้ความรู้สึกเหมือนระบบชนชั้นทาสดีครับ" ออมพรีสกล่าวพร้อมกับแย้มยิ้มอ่อนโยนขัดกับรูปประโยคโดยสิ้นเชิง

    คิดยังไงกับผู้ร่วมเล่นคนสุดท้าย ที่ได้รับนาม 'มูนสโตน'?

    -เด็กหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อยคล้ายกับกำลังใช้ความคิด สักพักจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า "ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเป็นเพื่อนด้วยครับ แต่ถ้ามาขวางทางผม ก็คงต้องกำจัดล่ะนะครับ"

    หากหยุดยั้งและจบเกมนี้ได้ จะทำมันมั้ย แล้วทำไมกันล่ะ?

    - "......" ไร้เสียงตอบรับไปขณะหนึ่ง ออมพรีสขมวดคิ้วคิดตามหาสาเหตุดีๆ ที่ต้องทำอะไรแบบนั้น สุดท้ายเขาก็เลือกจะยิ้มและตอบว่า "ไม่ล่ะครับ"

    อยากได้ความทรงจำในอดีต หรือความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองรึเปล่า? แล้วทำไมถึงอยากได้/ไม่ได้มันล่ะ?

    - "ไม่ค่อยอยากได้เท่าไหร่น่ะครับ ส่วนเหตุผลก็..ผมคิดว่ามันคงไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่หรอก" ประโยคสุดท้าย เด็กหนุ่มกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบามากเสียจนเเทบไม่ได้ยิน ก่อนจะเลือกยิ้มกว้างกลบเกลือนทุกอย่างไป

    คิดยังไงเกี่ยวตัวตนของตนเองในอดีต

    -  มือสองข้างยกขึ้นมากำจนแน่น นิ้วโป้งสองข้างถูกันไปมาอย่างเคยตัว ออมพรีสนิ่งคิดไปนานหลายนาที แล้วจึงขยับปากตัวเสียงเบาหวิวว่า "คงจะโสมมไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่หรอกครับ.."

    อยากได้รางวัลของเกมนี้รึเปล่า แล้วทำไมถึงตอบอย่างนั้นกันล่ะ?

    - "อยากครับ" คราวนี้ออมพรีสตอบโดยทันที นัยน์ตาดูประกายมุ่งมั่นอย่างสูงสุด "เพราะบางที ถ้าผมมี ทุกอย่าง ที่พวกเขาเหล่านั้นมี ผมเองก็อาจจะไขว่คว้า อิสรภาพของจริง มาไว้ได้ ใช่ไหมล่ะครับ?"

    ข้อสุดท้ายแล้ว 'ชื่อ' น่ะ คุณคิดว่ามันสำคัญรึเปล่า?

    - คำถามข้อสุดเรียกอาการงุนงงของออมพรีสได้ไม่ยาก เด็กหนุ่มเอียงคคอเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ขยับปากตอบ แม้จะยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ก็ตามว่าทำไมต้องถามคำถามนี้ "สำคัญสิครับ ก็มันเป็นชื่อที่คนสำคัญตั้งให้นี่นา"



    _______________________________________________________________________________


    คุยกับผู้ปกครอง


    แนะนำตัวให้รู้จักหน่อยสิคะ อยากให้เรียกแบบไหน อะไรแบบนี้---

    -รันรันเจ้าเก่า (?) เพิ่มเติมคือพาลูกชายมาเสิรฟ์อีกคนค่---


    ทำไมถึงมาสมัครคะ? (ถามมันแทบทุกเรื่อง 555)

    -ก็อปวาง---


    อ่านรายละเอียดครบแล้วเนอะ //ยิ้มสวยๆ(?)

    -ก็อปวางอเกน----


    ใบสมัครยาวเนอะ //โดนตบ

    -ก็อปวางอเกนอเกน----//แค่กๆๆ


    อยากให้ลูกมีคู่รึเปล่าคะ ถ้าไม่จะได้ไม่ต้องค่ะ #ผิด 

    -รอบนี้ไม่ก็อป ตอบปากเปล่า (?) //อยากค่ะ!!



    ถ้าไม่ติดอยากรับคืนหรือให้ยัดคะ? (อาจจะพิจารณาให้นะคะ ถ้าบอกว่ายัด แต่ถ้าหาบทให้ไม่ได้ก็หาให้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ)

    -ยัดเลยค่ะ มีความขี้เกียจรีเมคสูงสุดมาก 5555


    อาจมีแก้ไขในบางส่วนนะคะ แต่เดี๋ยวจะหลังไมค์ไปบอกก่อนค่ะ

    -ได้เสมอค่าาา



    เอาล่ะค่ะ ยังไงก็ขอบคุณที่มาสมัครกันนะคะ ทีนี้ที่เหลือก็รอแค่มุมความคิดเห็นแล้วก็รอดูว่าจะได้แก้ไขอะไรยังไงก็พอแล้วค่ะ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาสมัครอีกครั้งนะคะ //กราบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×