ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark world Box **Close

    ลำดับตอนที่ #25 : Wing blood survive [คริสเตียน่า อันเม่]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 59


    Application Frowzy



    "พ่อแม่ฉันเคยบอกว่า..คนเราไม่ควร จุ้น เรื่องของชาวบ้านเขา..เห็นด้วยไหม?"

    บทที่ต้องการ :: Wing blood คนที่6


    ชื่อ-นามสกุล :: คริสเตียน่า อันเม่ [Cristeiana Unme]

    ชื่อเล่น :: คริสเตีย [Cristeia]



    เพศ :: หญิง

    อายุ :: 29 ปี

    รูปร่างหน้าตา :: เรือนร่างสะโอดสองค์ทรงนาฬิกาทรายแบบที่สาวๆ หลายๆ ท่านปารถนา เจ้าของเส้นผมสีขาวออกเงินยาวสยายถึงข้อพับขานุ่มสลวยหน้าสัมผัส ล้อมกรอบโครงหน้าหวานสวยดูราบเรียบเสมอต้นเสมอไป ดวงตาสีเงินขุ่นเฉยเมยประดับแพขนตาสีขาวหนางอน ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัส จมูกโด่งรั้นเชิด รับกับคิ้วเรียว ผิวขาวติดซีดราวกับไม่เคยต้องแสง ทุกส่วนของเธอนั้นเปรียบราวกับภาพวาดสีขาวของนักวาดชั้นเลิศก็ไม่ปาน
    ส่วนสูง/น้ำหนัก :: 175 / 50 



    ลักษณะนิสัย :: คริสเตียคือสาวหน้านิ่งที่เน้นการกระทำมากกว่าคำพูด หล่อนเป็นสาวสายรุก (?) กล้าได้กล้าเสีย เลือกที่จะเสี่ยงมากกว่านั่งหลบอยู่หลังใครสักคน คริสเตียเป็นคนที่มักมอบความเท่าเทียมแก่ผู้อื่นเสมอ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงเธอก็จะปฏิบัติต่ออีกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ด่าอย่างเท่าเทียม เย็นชาใส่อย่างเท่าเทียม และเมินเฉยอย่างเท่าเทียม (?) เพราะในสายตาเธอ ชีวิตทุกชีวิตก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ดูเป็นข้อดีแต่ก็ไม่ใช่ข้อดีเช่นกัน นั่นเพราะมันหมายความว่าหากต้องลงมือแล้ว คริสเตียจะไม่มีการออมแรงหรือปราณีเด็ดขาดไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใครก็ตาม ยึดมั่นในการตัดสินใจของตนเอง คริสเตียเป็นคนที่ฉลาดและรอบคอบมากๆ การตัดสินใจแต่ละครั้ง แม้จะกล้าได้กล้าเสียแต่เปอร์เซ็นต์ในการเสียจะต้องไม่สูงเกิน30%เด็ดขาด คริสเตียจะเลือกความปลอดภัยมากกว่าผลสำเร็จ เธอจึงจำเป็นต้องคิดคำนวนให้รอบคอบ และด้วยอุปนิสัยที่ชอบคิดอะไรทบทวนไปมาตลอดเวลา ทำให้คริสเตียกลายเป็นคนช่างคิดวิเคราะห์ และมีแผนทางเลือกสำหรับหนึ่งสถานการณ์มากกว่าสิบ เรียกได้ว่าหากแผนแรกไม่สำเร็จ หล่อนก็จะหาแผนสำรองมารองรับไว้เสมอ
         คริสเตียนั้นเป็นผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกหนาวยะเยือกไปเสียหมด ทั้งภาพลักษณ์ที่ดูขาวสว่างไปทั้งตัวราวกับหิมะ หรือแม้แต่นิสัยของเธอก็ตาม คริสเตียพูดน้อยมาก เอาที่จริงคือเรียกว่าแทบไม่พูดเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากสาวเจ้าเป็นคนเจ็บคอง่าย ทั้งยังเกลียดการสนทนาเกินเหตุเป็นที่สุด ทำให้นานๆ ทีจะได้ยินคริสเตียพูดกับใครได้เกิน5ประโยคสักที หรือแม้จะพูดครั้งหนึ่ง ก็แทบนับคำได้อยู่ดีนั่นเเหละ..และเนื่องจากพูดน้อยเลยต้องพูดให้รู้เรื่อง คริสเตียนั้นมีทักษะในการพูดสั้นๆ ให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายๆ สูงมาก เธอค่อนข้างพูดตรงไม่น้อยเลยล่ะ ในที่ประชุมเธอมักเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ นอกจากจะขัดใจอะไรสักอย่าง คริสเตียจับประเด็นเก่ง ถ้าเธอเห็นอะไรแปลกๆ หรือดูไม่เข้าเค้าก็จะขัดออกไปทันที เป็นคนมีเหตุผลมารองรับคำพูดเสมอ ทำให้มีคนเชื่อถือมากเอาการ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนอยากพูดด้วยนัก (คริสเตียเองก็ไม่อยากพูดเหมือนกันนั่นเเหละ---) เนื่องจากคริสเตียเป็นคนพูดตรงๆ เธอไม่นิยมรักษาน้ำใจใคร เนื่องด้วยเห็นเป็นเรื่องไม่จำเป็น สิ่งไหนที่คิดว่าไม่สำคัญก็จะไม่เก็บมาคิดให้รกหัว เรียกได้ว่าหัวของคริสเตียมีแต่เรื่องเครียดๆ และเรื่องจริงจังทั้งนั้น
         คริสเตียเป็นคนที่มีทัศนคติค่อนข้างเอาแต่ใจ เธอทำอะไรได้มากมายหลายอย่างตั้งแต่งานบ้านงานเรือน งานวิชาการ ยันฝ่ายงานบู้ตะลุย นั่นเพราะเมื่อก่อนถูกฝึกมาอย่างโชกโชนนั่นเอง..และเนื่องจากตัวเองทำได้ทุกอย่าง แถมยังมีความคิดที่ว่าไม่ว่าใครก็เหมือนกันหมด คริสเตียเลยคิดเสมอว่าถ้าตนทำได้ คนอื่นก็ต้องทำได้เช่นกัน ถ้าใครทำไม่ได้ คริสเตียจะค่อนข้างรู้สึกรำคาญใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการยืนมองเฉยๆ หืม..อะไรนะ? ไม่เข้าไปช่วยงั้นเหรอ?..ช่วยทำไม? ทำไมต้องช่วย? คนเราก็มีสองมือสองเท้าเหมือนกัน เพราะงั้นเรื่องของตัวเองก็ต้องทำด้วยตัวเองสิ---นั่นแหละ ความคิดของเเม่คุณเขา คริสเตียไม่ชอบยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้าน ยึดหลักหน้าที่ใครหน้าที่มัน เป็นสาวลุยเดี่ยวแบบหมาป่าเดียวดาย ไม่ชอบทำงานเป็นทีมเท่าไหร่นัก คริสเตียมีความสามารถสูงในหลายๆ ด้าน เวลาเห็นคนอ่อนมาถ่วงแข้งขาเลยอดหงุดหงิดไม่ได้ สำคัญเลยคือไม่ค่อยชอบการถูกซักถาม หรือทำความสนิทสนมด้วยเท่าไหร่ ดังนั้นเลยไม่แปลกนัก หากจะเห็นเธอตะลุยงานอยู่คนเดียวประจำ
         คริสเตียไม่สนเรื่องฐานะหรือยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ในกลุ่มเธอจะฟังเฉพาะคนที่เธอเคารพเท่านั้น (ก็หัวหน้ากับท่านรองนั่นแหละ---) โดยส่วนตัวไม่ชอบพวกที่ใช้อำนาจสั่งการชาวบ้าน ก็อย่างที่บอก คริสเตียมองคนทุกคนเท่ากันหมด..ฉะนั้นเเล้ว ใหญ่มาจากไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาเบ่งต่อหน้าเธออยู่ดี คริสเตียเกลียดพวกขี้โอ้ ขี้อวด และทำตัวเด่นเกินเหตุมาก เห็นแล้วมันหงุดหงิด รู้สึกอยากจะจัดการซะให้ได้..แต่เนื่องจากค่อนข้างมีความอดทนสูง เลยมักจะเห็นแค่สายตาเอาเรื่องกับรังสีทะมึนจากคริสเตีย เวลาที่หล่อนเจอคนจำพวกนี้เท่านั้น นอกเสียจากจะโดนโม้โดนอวดใส่หน้ากันจริงๆ เธอถึงจะทนไม่ไหว แล้วเอาง้าวฟาดปาก---อะแฮ่ม ด่ากลับพอเป็นพิธีให้หน้าแตกน่ะนะ 
         คริสเตียเป็นคนที่ยอมรับในผลของการกระทำได้อย่างง่ายดาย แม้ภายนอกจะดูนิ่งๆ หยิ่งๆ (แต่ความจริงแล้วคือเย็นชาล้วน ๆ--) แต่กลับไม่มีทิฐิในตัวมาก เธอรู้ดีว่านิสัยใจเด็ดกล้าเสี่ยงมันค่อนข้างนำพาเรื่องร้ายๆ มาหาตัวได้ง่ายเอาการ แต่กระนั้นคริสเตียก็ยังไม่ยอมเลิกนิสัยแบบนี้อยู่ดี นั่นเพราะเธอเป็นพวกที่ค่อนข้างปล่อยวาง คริสเตียทำอะไรไปแล้วรับผิดเสมอ..หมายถึงถ้ามีคนถามน่ะนะ ถ้าไม่ถาม เธอก็ไม่ยอมรับหรอก ขี้เกียจจะพูด แต่เพราะคริสเตียเป็นคนฉลาดมากๆ มีความระมัดระวังตัวสูง แผนการของเธอเลยรัดกุมมากตามไปอีกระดับ การจะเห็นเธอผิดพลาดเลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างหาได้ยาก โดยเฉพาะแผนดักจับใครหรืออะไร (?)  ตัวคริสเตียอาจพูดว่าเป็นอัจฉริยะได้ แต่ก็แค่อาจจะนั่นแหละ..เพราะมันก็มีบางเรื่องที่คริสเตียทำไม่ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างก็เช่น การทำอาหาร..เป็นข้อด้อยร้ายกาจของเธอเลยล่ะ งานบ้านอันอื่นทำได้ชะลุย แต่ดันตกม้าตายกับการทำอาหาร..เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากท้องเสียนอนซดน้ำเกลือทั้งอาทิตย์ ก็อย่าให้เธอเข้าครัวเลยเถอะนะ..อนึ่ง เป็นพวกสามัญสำนึกทางเพศต่ำเตี่ยเรี่ยดิน ต่ำชนิดฉุดกลับขึ้นมาไม่ได้เลยทีเดียว ให้ถอดเสื้อต่อหน้าผู้ชายคริสเตียก็ไม่หวั่น..หวั่นทำไม ก็คนเหมือนกัน (..)
         คริสเตียเจ็บแล้วจำ แค้นฝังลึกไปจนถึงรากหัวใจ ถือคติ ทำมา ทำตอบ แฟร์ๆ แต่ใครดีมา คริสเตียไม่ดีตอบหรอกนะ หล่อนไม่ชอบการผูกมิตรนัก..มันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นสำหรับคริสเตียสักเท่าไหร่ ยังไงคริสเตียก็ชอบใช้ชีวิตแบบเดี่ยวๆ อยู่เเล้วด้วย ส่วนใครที่ร้ายมา คริสเตียจะร้ายกลับเป็นสอง..หรืออาจจะสิบเท่า แล้วแต่กรณี คริสเตียนั้นเห็นหน้านิ่งแต่ความจริงคือร้ายลึกกว่าที่คนอื่นเห็น เธอเป็นที่มองโลกกลางๆ ไปทางร้ายหน่อยๆ เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไม่หยอก ไม่ชอบหน้าใครก็จะตามรังควานอีกฝ่าย คนไหนทำให้หงุดหงิดก็รังควานเช่นกัน ทำเรื่องร้ายแรงได้ง่ายดายคล้ายปอกกล้วยเข้าปาก ไม่สนไม่แคร์อะไรเสียเท่าไหร่ ไม่กลัวว่าใครจะด่าหรือดุ..ยกเว้นสองท่านที่เคารพอย่างรองและหัวหน้า..คริสเตียมีแผนกลั่นแกล้ง (?) คนสารพัดแผนอยู่ในหัวมากพอกับแผนในการพาไปสู่ความสำเร็จ คริสเตียแแกล้งแรงหยอกแรง แต่ไม่ได้เอาให้ถึงตาย..หมายถึงถ้าคนโดนแกล้งมีความสามรถพอๆ กับเธอน่ะนะ คริสเตียมักใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใครสักคน เพราะงั้นคนรอบๆ ตัวเธอในสายตาคริสเตียเลยค่อนข้าง..อ่อนด๋อย อืม..ว่างั้นก็ได้ คริสเตียบอกไม่ผิด (?)
         คริสเตียรู้ว่าตัวเองทำชาวบ้านเขาไว้เยอะ เลยระมัดระวังตัวตลอดเวลาเพราะกลัวว่าเวลาเผลองีบ จะมีใครโผล่มาทุบหัวหรืออะไรเทือกนั้น เห็นชีวิตสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น คริสเตียมีความฝันจะได้ใช้ชีวิตสบายๆ แบบคนธรรมดา..ไม่ใช่ในฐานะของอาชญากร หรือขี้ข้าใครเขา เธอคาดฝันกับความฝันนั้นไว้มากพอตัว คริสเตียสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมตายเด็ดขาดจนกว่าความฝันของเธอจะเป็นจริง ดังนั้นชีวิตของเธอจึงสำคัญมากในสายตาคริสเตียนั่นเอง อีกอย่างที่สำคัญสำหรับคริสเตียคือ คนสำคัญของเธอ เห็นรักสันโดษหมาป่าเดียวดายขนาดนี้ หากมีเพื่อนรัก คนรัก คนสำคัญก็จะพยายามรักษาเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเช่นกัน และใครที่ทำร้ายพวกเขา คริสเตียเองก็จะเอาคืนให้คนสำคัญของเธอเช่นกัน..คริสเตียสนิทกับคนอื่นได้ยาก แต่เธอชอบคนที่เข้าใจในตัวเธอ และรับได้กับนิสัยร้ายๆ เย็นๆ ไม่สนโลกของเธอ แต่เอาเข้าจริงเเล้วเรื่องคนรักน่ะไม่มีอยู่ในหัวหรอก แค่เกริ่นไปงั้นๆ แหละ----
         คริสเตียเป็นคนคนดูเครียดและจริงจังตลอดเวลา เธอไม่มีงานอดิเรกเพื่อผ่อนคลายแบบชาวบ้านเขา หญิงสาวเป็นคนประหลาดที่แอบโรคจิตเบาๆ (?) คริสเตียมักรู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์เวลาคนอื่นจิตตก ท่าทางกระวนกระวายแบบนั้นในสายตาเธอมันเป็นอะไรที่..น่ารักดี (?) คริสเตียไม่มอบความช่วยเหลือให้ใครง่ายๆ ดังนั้นหากเห็นเธอช่วยเหลือใครก็ขอให้คิดไว้สองทาง หนึ่ง..เขาคนนั้นคือคนสำคัญสำหรับคริสเตีย ซึ่งแน่นอนว่า ยาก ส่วนสอง..ก็คือคริสเตียอยากจะแกล้งคนเล่นเพราะเครียดจัดนั่นเเหละ เวลาที่จะแกล้งคนอื่น คริสเตียจะใจดีขึ้นมานิดหน่อย (ย้ำว่า นิด-หน่อย) บอกใบ้ทางรอดหรือแนะนำหนทางการเอาตัวรอดเล็กๆ น้อยๆ ไปให้อีกฝ่าย จากนั้นก็หักดิบทิ้งกันดื้อๆ ในโค้งสุดท้าย ให้ดิ้นรนกระเสือกกระสนกันเอาเองโดยมีเธอคอยนั่งชมอย่างสบายอารมณ์ อนึ่งเป็นคนที่ไม่ชอบเก็บกวาดอะไรให้เรียบร้อยในทีเดียว คริสเตียมักเลือกทำตัวอ่อน ปล่อยให้คนอื่นตายใจแล้วจัดการฟาดเรียบทีหลังให้หมด บางทีอาจมีผู้โชคดีเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย..ให้หนีสักพัก สุดท้ายก็จัดการทิ้งอยู่ดี เป็นสาวแอบจิตที่ใจร้ายสุดๆ เลยล่ะ..คริสเตียน่ะ
         คริสเตียเป็นคนหน้านิ่ง ทว่ากลับดูลึกลับมากเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ เธอเป็นคนที่สวยมากๆ คนหนึ่ง ทั้งรูปร่าง หน้าตา เรียกได้ว่าระดับท็อปฟอร์มเลยล่ะ ทำให้ผู้ชายหลายๆ คนมักหลงเสน่ห์เธอได้ง่ายๆ แต่ยิ่งเข้าหาคริสเตียก็จะยิ่งถอยห่าง เธอขีดเส้นกั้นทุกคนที่คิดจะเข้าใกล้เธอเสมอ เรื่องของตัวเองคนอื่นจะไม่มีสิทธิ์รับรู้ถ้าไม่มีค่าพอ แต่ก็นั่นแหละ..ยิ่งได้มายากขนาดไหน ก็ยิ่งอยากได้มากขึ้น..คริสเตียรู้ตัวดีว่าเป็นคนสวย และเธอก็รู้ดีว่าสามารถใช้ประโยชน์จากเสน่ห์แปลกๆ ของเธอและความเซ็กซี่เหล่านี้ได้ยังไง คริสเตียเป็นคนไม่เรื่องมากในการหาเส้นทางไปสู่ผลสำเร็จ ขอแค่มันมีความปลอดภัยเเละเปอร์เซ็นต์ล้มเหลวไม่เกิน30% ต่อให้ต้องใช้เสน่ห์ของเธอ คริสเตียก็ทำได้ รู้มารยาหญิงเยอะมาก แต่เรื่องทำเป็นปวกเปียกอ่อนแอน่ะทำไม่เป็นหรอกนะ..คริสเตียชอบใช้เสน่ห์แบบผู้ใหญ่มากกว่า เดี๋ยวนี้น่ะเขาไม่ชอบกันเเล้ว ไอ้เทรนด์สาวน้อยหน้าใสบอบบางน่าทนุถนอมน่ะ ลึกลับและเซ็กซี่แบบเธอดีกว่ากันเป็นไหนๆ 
         คริสเตียเกลียดการโดนกักตัวไว้ เธอไม่ชอบการคุมขัง และยิ่งไม่ชอบหากต้องอยู่ในที่แออัด หรือที่แคบมากๆ จนขขยับตัวไม่ได้ อันที่จริง..อย่างหลังต้องบอกว่ากลัวเลยล่ะ คริสเตียไม่ชอบการนั่งเฉยๆ ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ จนคล้ายกับตุ๊กตาที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ คริสเตียไม่ชอบการที่ต้องโดนล่ามหรือทำอะไรสักอย่างจนเธอเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แม้แต่การที่ต้องนอนนิ่งๆ ไปไม่ขยับเขยื้อนใดก็เช่นกัน เพราะเธอกลัวว่ามันจะเหมือนแม่ของเธอ..เหมือนกับที่แม่เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนใดๆ ได้จากโรคร้าย จนกระทั่งสุดท้ายก็ต้องตายไปทั้งๆ แบบนั้น..เพราะแบบนั้นจึงไม่มีวันไหนเลยที่คริสเตียจะหลับตาลงได้สนิทใจ และนอนพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม



    ลักษณะการพูดจา :: ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่นัก มักแทนตัวว่าฉัน เรียกคนอื่นว่านายเธอ ไม่มีหางเสียง น้ำเสียงฟังดูราบเรียบไร้อารมณ์แต่ดูจริงจัง มักพูดตรงๆ ไม่ค่อยอ้อมค้อม ยกเว้นก็แต่เวลาคุยกับรองหรือหัวหน้าที่จะเสริมหางเสียงเข้าไป เรียกอีกฝ่ายว่าคุณ นอกจากนั้นก็เหมือนเดิม---



    ประวัติ :: คริสเตียน่า อันเม่..นั่นคือชื่อของเธอ คริสเตียเป็นลูกสาวของแม่บ้านในตระกูลใหญ่แห่งหนึ่งในแพนดัสต์ เธอโตขึ้นมาในฐานะ คนรับใช้ ของบ้านนั้น คริสเตียถูกผู้เป็นแม่อบรมสั่งสอนเรื่องต่างๆ มากมาย และได้ผู้เป็นพ่อช่วยสอนเรื่องการต่อสู้ให้ คริสเตียมีพี่ชายถึงสามคน ชีวิตรอบตัวเธอส่วนมากรายล้อมไปด้วยผู้ชายทำให้เธอรู้สึกชินชาไปเสียหมด..คริสเตียนั้นถูกปลูกฝังเรื่องต่างๆ ในหัวว่าให้รับใช้เจ้านายด้วยชีวิตทั้งชีวิตของเธอ แต่การที่เธอได้มองพ่อแม่ และพี่ๆ คอยรับใช้คุณหนูคุณนายทั้งหลายทำให้คริสเตียรู้สึกไม่ชอบใจ คริสเตียมีความคิดที่ว่าคนทุกคนเท่าเทียมกันตั้งแต่เด็กมาแต่ไหนแต่ไรเเล้ว และยิ่งโตขึ้นความคิดนั้นก็ยิ่งรุนแรงจนเห็นได้เด่นชัด แม้คนเป็นแม่จะเอ่ยสอนเท่าไหร่ คริสเตียก็ไม่เคยจำ มันไม่เคยมีปัญหาเลย จนกระทั่งเธอมีอายุ18ปี..คริสเตียถูกสั่งให้ไปรับใช้คุณหนูใหญ่ ตัวคริสเตียกลับรู้สึกแย่สุดๆ เธอในตอนนั้นไม่อยากจะทำตัวเป็นขี้ข้าใคร โดยเฉพาะพวกคุณหนูพวกนั้น ก่อนจะเข้าไปในคฤหาสน์คริสเตียถูกย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทำตัวให้ดี ก่อนตัวเธอจะถูกส่งเข้าไปรับใช้คุณหนูใหญ่ในคฤหาสน์
         และพระเจ้า..วันแรกมาเธอก็ก่อเรื่องเสียเเล้ว คุณหนูใหญ่ไม่ชอบเธอเนื่องจากแค่ว่า เธอสวยกว่าหล่อน หล่อนเลยกลั่นแกล้งคริสเตีย เเต่คริสเตียเเตกต่างจากคนอื่น เธอโต้กลับไป และนั่นทำให้เธอทำโทษและด่าทออย่างหนัก พอถูกทำโทษจนช้ำไปทั้งตัว เธอก็ถูกส่งกลับไปรับใช้แม่คุณหนูนั่นอีก คราวนี้คริสเตียนั้นปฏิเสธไม่ยอมท่าเดียว เธอทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรง จนถึงขั้นฝ่ายมารดาต้องกล่าวว่า หากยังรั้นไม่เลิกจะตัดแม่ลูกกับเธอ แม้จะเกลียดงานรับใช้ขนาดไหน แต่คริสเตียรักแม่มากกว่า สุดท้ายเธอก็ยอมกลับไปเป็นกระสอบทราย ให้ยัยคุณหนูใหญ่นั่นกลั่นแกล้ง โดยที่ไม่อาจตอบโต้อะไรได้เลย..วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมกับความรู้สึกเกลียดชังในตัวคุณหนูใหญ่ในใจของเธอที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบระเบิดออกมา จนกระทั่งผ่านไปถึงสองปี คริสเตียได้กลับไปบ้านของเธออีกครั้ง แต่เหตุผลที่ได้กลับไปนั้นช่างน่าเศร้า..ทางคฤหาสน์อนุญาตให้เธอกลับบ้านไปเพื่อ เยี่ยมแม่ ที่กำลัง ป่วยหนัก ของเธอนั่นเอง..
         คริสเตียกลับไปบ้านในรอบสองปี บ้านที่เคยอบอุ่นไม่มีอีกแล้ว พ่อของเธอเสียไปตั้งแต่ครึ่งปีก่อน ในขนาดที่พี่ชายทั้งสามไม่ได้รับสิทธิ์ให้กลับบ้านมาเยี่ยมแม่เหมือนเธอ แม่ที่ป่วยหนักนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง หล่อนมีอาการผิดปกติทางสมอง ทำให้ไม่สามารถบังคับร่างกายได้ดั่งใจ เมื่อก่อนก็แค่หลงลืมหรือมือลื่นบ้างบางครั้งคราว แต่ตอนนี้..แม่ของคริสเตียทำไม่ได้แม้กระทั่งขยับปลายนิ้ว คริสเตียรู้สึกเหมือนโลกแตกเป็นเสี่ยงๆ หญิงสาวในตอนนั้นพยายามช่วยดูแลแม่ของเธอทุกอย่าง เธอให้แม่กินยารักษาที่ได้มาจากหมอสามัญ แต่อาการของเเม่กลับไม่ดีขึ้นเลย..มันเเย่ลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายแม้กระทั่งกินข้าว แม่ก็ทำไม่ได้อีกแล้ว คริสเตียไม่รู้จะทำยังไง เธอไม่มีความรู้ทางการแพทย์ หญิงสาวกลับไปคฤหาสน์หลังใหญ่อีกครั้ง เธอบากหน้าไปหาคุณหนูใหญ่ที่เธอคิดว่ารู้จักอีกฝ่ายมากที่สุด หญิงสาวยอมแม้กระทั่งก้มกราบอีกฝ่าย ขอให้หล่อนตามหมอมาให้แม่เธอ แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมานั้นมีแค่สายตาสมเพช และคำถามเพียงอย่างเดียวที่ว่า
         "ทำไมฉันต้องช่วยคนที่เกลียดขี้หน้าด้วย?"
         คริสเตียพูดไม่ออก..เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงเมินเฉยต่อชีวิตได้เพียงเพราะว่า ไม่ชอบขี้หน้าลูกสาวของเขา  ตัวเธอในตอนนั้นได้แต่กลับบ้านไปทั้งเเบบนั้น คริสเตียไม่ได้อะไรกลับไปเพื่อช่วยเหลือแม่เธอเลยสักอย่าง เธอกลับไปนั่งเฝ้ามองแม่ของเธอที่นอนอยู่บนเตียง และกุมมือผอมแห้งนั่นเอาไว้ตลอดเวลา สิ่งที่ทำได้มีแค่นั่งมองเเม่ของเธอเอาไว้..ราวกับความรู้สึกของแม่ถ่ายทอดมาที่เธอได้ ความกลัวเกาะกุมไปทั้งหัวใจ คริสเตียได้แต่นั่งตัวสั่นกุมมือของแม่ไว้ เธอมองผู้เป็นแม่ส่งเสียงครางฮือในลำคออย่างทรมานจากการขาดน้ำและอาหาร คริสเตียพยามยามจะป้อนข้าวหรือน้ำให้แม่ เเต่แม่ของเธอไม่สามารถกินอะไรได้เลย..สุดท้าย ท่านก็ต้องจากไปอย่างทรมานโดยที่ไม่สามารถดิ้นรนอะไรได้เลย คืนนั้นคริสเตียเอาแต่นอนกอดร่างของแม่เอาไว้และร้องไห้เงียบๆ จนกระทั่งหมดเวลาที่จันทราในค่ำคืนนั้นได้ฉายแสง
         คริสเตียตื่นมาอีกครั้ง เธอนั่งคิดอยู่กับตัวเอง..อยู่ๆ ความคิดมันก็แวบเข้ามาในหัว ว่า ที่คุณหนูใหญ่ไม่ช่วยแม่เธอ เพราะว่า เกลียด เธอนั่นเอง คริสเตียรู้สึกโกรธ..แต่เธอไม่ได้โกรธ เธอโกรธคุณหนูใหญ่ที่เอาความเกลียดนั่นไปลงกับแม่เธอ ถ้าเกลียดเธอ ก็ลงกับเธอคนเดียวก็ได้ไม่ใช่รึไง? การนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวทั้งวันข้างๆ ศพของแม่ทำให้สภาพจิตใจคริสเตียด้านชาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งยังสุมเต็มไปด้วยความโกรธ คริสเตียโกรธมาก..แต่สีหน้าของเธอกลับเรียบเฉย แล้วเวลาต่อมา หญิงสาวก็กลับไปที่คฤหาสน์อีกครั้ง เธอนั่งรออยู่ด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมกับวาดรูปเล่นลงไปบนหิมะ รอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคุณหนูใหญ่ออกมาจากคฤหาสน์ อีกฝ่ายเเสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าเธอ คริสเตียมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะขอร้องให้เธอไปที่ที่หนึ่งด้วยกัน 
         คริสเตียพาคุณหนูใหญ่ไปที่ สุสาน ตอนแรกที่ไปถึงหล่อนทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก ด่าทอคริสเตียที่พาเธอมาที่แย่ๆ แบบนั้น เธอโวยวายจะกลับบ้าน แต่เมื่อหันไปพบกับผู้ติดตามที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น หน้าของหล่อนก็ซีดเผือด ก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบไปเมื่อคริสเตียฟาดศีรษะเธอด้วยก้อนหิน หญิงสาวลากร่างแสนงดงามนั่นเข้าไปในชั้นใต้ดินในบ้านสัปเหร่อที่ใช้เก็บอุปกรณ์และโลงศพ จัดการพับเเขนขาและยัดหล่อนเข้าไปในกรงขังอันเล็กแบบที่ว่าไม่สามารถขยับไปไหนได้ คริสเตียนั่งเฝ้ากรงขังนั่นตลอดเวลา จนคุณหนูใหญ่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของคริสเตียราบเรียบ มันไม่ขยับแม้ว่าคุณหนูใหญ่ของเธอจะโวยวายกรีดร้องขนาดไหน เวลาผ่านไปสามวัน จากเสียงร้องโวยวายกลายเป็นเสียงอ้อนวอน ทว่าใบหน้าของคริสเตียกลับยังคงราบเรียบนิ่ง กระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตอีกฝ่าย เสียงแหบแห้งนั้นวิงวอนขอร้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย คริสเตียทำเพียงแค่มองคุณหนูใหญ่ของเธอนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยกลับไปครั้งแรกในรอบสามวัน
        "คุณหนูใหญ่เคยถามฉัน..ว่าทำไมถึงต้องช่วยคนที่เกลียด ถ้างั้นฉันขอถามคุณหนูใหญ่กลับบ้างนะคะ.."
         คริสเตียสัมผัสใบหน้าที่เปื้อนด้วยคราบฝุ่นหลังซี่กรงนั่นเบาๆ ก่อนจะกระซิบถามเบาๆ ด้วยเสียงเย็นเยียบ ที่ทำให้น้ำตาของอีกฝ่ายหลั่งไหลออกมาว่า
         "เเล้วทำไมฉันต้องช่วยคนที่ฉันเกลียดแบบแกด้วย?" 

    ความผิดที่เคยก่อ :: ขังร่างของคุณหนูใหญ่ไว้ในกรงขังขนาดแคบๆ แบบที่ไม่สามารถขยับตัวได้ไว้ จนอีกฝ่ายตายไปจากการอดอาหารและน้ำ


    แคลร์มิโอ :: ง้าวยาวประมาณ2เมตร20เซนฯสีขาวโพลน ที่ส่วนคมเป็นสีเงินวาวคมกริบ

    อัญมณี :: พลอยโทเเพซสีขาว

    ความสามารถพิเศษ :: 
    ความใจเด็ดกล้าได้กล้าเสีย 
    มันสมองที่ฉลาดกว่าคนทั่วไปพอสมควร




    ชอบ :: เห็นคนอื่นจิตตก,อ่านหนังสือ,ดื่มชาตอนอากาศเย็น ๆ,ได้ผ่อนคลายจากงานอดิเรกแปลกๆ ของเธอ

    ไม่ชอบ :: พวกชอบทำตัวเด่น/ทำตัวน่าหมั่นไส้ , ตะขาบ , การถูกซักถามเรื่องส่วนตัว

    แพ้/กลัว :: กำมะถัน / การที่ไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย

    เพิ่มเติม :: สารภาพว่าตอนกำลังปั่นลูกสาว ให้ความรู้สึกเหมือนปั่นตัวร้ายเลยค่----//แค่ก//




    ----------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×