✿ Application ✿
[FanArt : Enoshima Junko]
"ไอ้รอยยิ้มฝืดๆ เฝือนๆ บ้าบอนั่นมันอะไรกัน"
"นี่ ที่พูดออกมาน่ะ รู้สึกแบบนั้นจริงๆ เหรอห๊ะ
นายน่ะ..อยากให้ฉันไปกับหมอนั่นจริงๆ งั้นเหรอ“"
คู่ :: อาโอมิเนะ ไดกิ
ชื่อ :: โคโตเนะ มากิ [Kotone Maki]
ชื่อเล่น :: มากิ [Maki]
ความหมายของชื่อ :: โคโตเนะ ในภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความหมายว่า 'เสียงพิณ' ในขนาดเดียวกันตัวของคำว่า มากิ นั้นจะมีความหมายว่า 'ความหวัง' เมื่อนำชื่อของเธอมารวมกันก็จะได้ความหมายที่ว่า 'เสียงพิณแห่งความหวัง' นั่นเองค่ะ
{สาเหตุที่ได้ชื่อนี้ นั่นเพราะมากิคือความหวังของสึมิเระผู้เป็นแม่นั่นเองค่ะ นั่นเพราะสึมิเระรักผู้เป็นบิดาของมากิเอาเสียมากๆ เธอจึงฝากความหวังไว้ว่าเด็กน้อยนี้จะทำให้เขาอยู่กับเธอตลอดไป..แต่ท้ายที่สุดเเล้ว..ชีวิตน้อยๆ นี้ก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งผู้ชายคนนั้นไว้ได้อยู่ดี..}
อายุ :: 24ปี
ลักษณะรูปร่างหน้าตา :: โคโตเนะ มากิ หญิงสาวรูปร่างสะโอดสองค์งดงามราวกับนาฬิกาทรายล้ำค่าที่มิอาจตีราคา สัดส่วนความเป็นหญิงอันเด่นชัดโดดเด่นล่อลวงใจชายมากมาย ผิวพรรณอันขาวผ่องดูมีเสน่ห์ที่ทำให้สตรีมากมายริษยาในความขาวนวลเเละเนียนนุ่มนั่น ดวงหน้ามลเรียวรูปไข่สมบูรณ์แบบปานภาพวาดของจิตรกรมือเอก ดวงตากลมโตมีเสน่ห์สีม่วงลาเวนเดอร์อ่อนจางดูเจ้าเล่ห์และซุกซนไปในเวลาเดียวกัน แพขนตาอันหนางอนยาวสีดำขลับล้อมกรอบนัยน์เนตรแสนงามไว้อย่างลงตัว ทั้งยังดูโดดเด่นด้วยการขับเน้นจากสีสันประทินโฉมแต่งเเต้มขนตาล่างและหางตาด้วยสีส้มแดงอันสวยงาม เรียวคิ้วที่โก่งโค้งราวพระจันทร์เสี้ยวบนฟากฟ้ายามราตรีสีเดียวกับเรือนผม จมูกอันโด่งโค้งและปลายรั้นเชิดขึ้นสื่อความดื้อรั้นกลายๆ ในตัว ริมฝีปากที่มักคลี่ยิ้มซุกซนสนุกสนานเสมอสีชมพูอวบอิ่มสุขภาพดี พวงแก้มใสเนียนมีเลือดฝาดอย่างพอเหมาะ องค์ประกอบทุกอย่างบนดวงหน้านั้นเหมาะเจาะเเละลงตัวอย่างสวยงาม ทั้งยังถูกล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีชมพูอมส้มสว่างเด่นหยักศกเป็นลอนคลื่นเส้นเล็ก ซึ่งมักถูกเจ้าตัวรวบมัดเป็นทวินเทลไว้เสมอๆ ทำให้มากินั้นเป็นผู้หญิงที่มีลุคแบบสาวซ่าเปรี้ยวแสบสันถึงรสถึงชาติสุดๆ
ลักษณะคำพูด :: มากิเป็นผู้หญิงเปิดเผยแอบตรงไปตรงมานิดหน่อย ทั้งด้วยนิสัยไม่แคร์สื่อของเธอ มากิเลยมักหลุดคำพูดออกมาตามใจตนบ่อยครั้งไม่ดูสถานการณ์อะไรเลยสักนิด ทำให้บางครั้งเองก็มีเรื่องทะเลาะเบาะเเว้งขัดใจกันจากคำพูดของเธอได้เช่นกัน น้ำเสียงของเธอนั้นออกเเนวสดใสร่าเริงและค่อนข้างดัง และโทนเสียงที่หวานเพราะราวกับเสียงของเด็กสาววัย16-18 มากกว่าจะเป็นหญิงสาววัย24ปี มากิเป็นผู้หญิงที่มีวาจาไม่ได้น่ารักหรือสุภาพตามลักษณะกุลสตรีไทยอะไรเลย เธอมักแทนตัวว่า ฉัน เรียกผู้อื่นว่า เธอ หรือ นาย เป็นประจำ หากเรียกผู้สูงอายุกว่าจะเติมสรรพนามตามเเต่อายุให้ราวกับสนิทสนมกันมาสามชาติ อย่างเช่นคำว่า ลุง หรือ อา อะไรพวกนั้น เจ้าตัวไม่ใคร่จะลงหางเสียงในประโยคคำพูดของตนเองเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะสนทนาพาทีกับใครอยู่ก็ตามทีเถอะ แต่ถึงอย่างนั้นก็บอกได้ว่าคำพูดของเธอมันจริงใจและออกมาจากใจแท้ๆ ไร้ซึ่งคำโป้ปดโดยสิ้นเชิงได้อย่างเต็มปาก เรียกได้ว่าเป็นข้อดีของวาจาไม่สนโลกนี่ก็ว่าได้
}}ตัวอย่างประโยคสนทนา{{
"ไปเที่ยวกับฉันสองคนก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ นายก็อยากไปไม่ใช่เหรอ“ อืมมม..หรือว่านายเขินที่มันคล้ายไปเดทกันล่ะห๊ะ“" พูดด้วยสีหน้าครุ่นคิดเเละจริงจังเอาเรื่อง ไม่สนเลยว่าคำพูดเธอจะทำคู่สนทนาหน้าแดงไปเรียบร้อย
"หิวเเฮะ..ไปหาอะไรกินดีกว่า" บ่นเบาๆ หลังตื่นจากการเเอบงีบ (อู้) ในขณะกำลังนั่งทำงานอยู่ ก่อนจะลุกเดินออกไปหาอะไรใส่ท้องตามปากว่า โดยไม่สนใจกองงานเลยเเม้เเต่น้อย
"โง่เหรอเจ้าบ้า เสียงดังแบบนี้เดี๋ยวก็โดนจับได้พอดีน่ะสิ" หันไปฟาดคนข้างๆ แรงๆ เมื่ออีกฝ่ายทำเสียงดัง ในขนาดที่กำลังลักลอบ (?) เผ่นออกจากงานประชุมน่าเบื่อ หรือกิจกรรมไม่น่าสนใจ
"ทำไมฉันต้องทำด้วยอ่ะ?" เลิกคิ้วมองหน้าคนที่มาขอให้เธอช่วยอะไรสักอย่าง และแน่นอนว่าเจ้าหล่อนหาเหตุผลที่ตัวควรจะช่วยไม่เจอ บวกกับขี้เกียจนั่นเอง
"ไปเที่ยวกันเถอะน่า ใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่าหน่อยซี่!" พยายามงัด เเงะ ลาก คนเเถวนั้น (?) ให้ไปเที่ยวกันเเบบสุดความสามารถ สักพักพอลากไม่ไปก็โยนไว้ตรงนั้น เเล้วไปเที่ยวคนเดียวแทน คติ ไม่ง้อ ไม่แคร์หนักมาก---
ส่วนสูง :: 171 ซม.
น้ำหนัก :: 55กก.
อาชีพ :: นักแต่งเพลง
{ในวงการมากิดังมาก เขาบอกว่าเพลงของเธอล้วนแต่มีความหมายที่ลึกซึ้งเเละมีเสน่ห์ ส่วนมากเเล้วนักร้องที่อัลบั้มบทเพลงโด่งดัง ก็มักใช้ทำนอง เนื้อเพลง หรือบทเพลงทั้งเพลงที่มากิเป็นคนแต่งกันทั้งสิ้น แต่เจ้าตัวไม่ได้เปิดเผยหน้าตาหรือชื่อให้คนนอกรู้ มากิทำงานโดยใช้นามแฝงค่ะ เเละมีผู้จัดการส่วนตัวคอยดูเเลรับงานติดต่อประสานเรื่องให้ ll นามเเฝงของมากิคือ 'little girl' ค่ะ สื่อถึงนิสัยของเธอที่ช่างรักอิสระไม่สนโลกราวกับเด็กน้อยที่ไม่มีภาระหน้าที่อะไรนั่นเอง }*บทเพลงส่วนมากของมากิ มักเป็นเพลงรักค่ะ แต่เเนวอื่นเธอก็เเต่งได้เช่นกัน เพียงเเค่ถนัดเเนวรักเป็นพิเศษเท่านั้นเอง*
{เอาจริงเจ้าค่อนข้างทำงานแบบกึ่งฟรีเเลนซ์นะ..ด้วยเพราะถือคติว่า จะทำงาน อารมณ์ต้องมีร่วมด้วย ดังนั้นจึงไม่รับงานเเต่งบทเพลงที่ไม่อยากรับ ต้องรอเธอมีอารมณ์ร่วมกับคอนเซปต์ หรือเกิดถูกใจนักร้องคนนั้นขึ้นมาเสียก่อน ไม่งั้นเจ้าตัวจะไม่เเต่งให้เด็ดขาด---ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนติดต่อเข้ามาขอทำงานกับเธอจำนวนมาอยู่ดีล่ะนะ..}
วันเกิด :: 14 ธันวาคม
กรุ๊ปเลือด :: B
ลักษณะนิสัย ::
โคโตเนะ มากิ หญิงสาววัย24ปีเจ้าของฉายาอัจฉริยะนักแต่งเพลง ผู้ที่มีความโดดเด่นสะดุดตา เเละตรึงตราใจผู้คนด้วยความมีเอกลักษณ์ของเจ้าตัว ตั้งเเต่หน้าตางดงามกลบรัศมีสาวอื่นข้างกายจนคล้ายแสงจันทร์สาดกลบเเสงดาว แสงอาทิตย์บดเบือนแสงจันทร์อย่างไรอย่างนั้น มากิเป็นผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องของการเเต่งกายที่แม้จะดูธรรมดากลายๆ แต่พอมาสวมใส่บนร่างกายของเธอกลับโดดเด่นและลงตัวเสียอย่างนั้น หรือจะการพูดจา การวางตัว การแสดงออก ทุกอย่างแทบจะพูดได้ว่าขัดเเย้ง เเละเเปลกแยกจากชาวบ้านเขาอย่างมาก เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้นน่ะเหรอ“ อืมมม..นั่นสินะ เพราะอะไรหว่า“ อาจเพราะโคโตเนะ มากิคือผู้หญิงที่ขึ้นชื่อเรื่องความโนสน ด้อนแคร์ ที่สุดเเสนจะไม่แคร์สื่อและโลกมากเป็นอันดับต้นๆ ในสายตาชาวบ้านรอบตัวเธอล่ะมั้ง!
มากิเป็นที่มีนิสัยเสียๆ อยู่อย่าง นั่นคือเธอมักนิยมทำตามใจตนเอง มากิมักคิดถึงตัวเองมาก่อนเป็นอันดับเเรก จะทำ จะพูด หรือจะอะไรก็ตามแต่ มากิจะคิดก่อนเสมอว่าตัวเองอยากทำหรือชอบที่จะทำมันหรือไม่ เธอไม่ปรารถนาจะบังคับให้ตัวเองทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ ดังนั้นเเล้วหากไม่ชอบมากิก็จะไม่ทำ และเเม้ว่าการกระทำของเธอ จะทำให้ได้รับสายตาไม่พึงพอใจจากคนรอบข้าง มากิก็หาได้สนใจไม่ นั่นเพราะความไม่สนด้อนแคร์ของเธอน่ะ มันเป็นที่หนึ่ง! หนังหน้านี่จะสวยเนียบเรียบไร้รูขุมขนยังไง เเต่เรื่องความหนาหน้าทนด้านนี่ไม่เป็นรองใครเขาหรอกนะเออ เผลอๆ บางทีหน้าผาหินอาจอายในความหนาไม่เท่าเลยก็เป็นได้ (..) เอาเป็นว่ามากิหน้าหนามาก เพราะงั้นจะซุบซิบว่าอะไรเธอก็ เชิญเลยค่ะ เชิญเลย เมาท์กันไปให้เต็มที่ เพราะยังไงเเล้วเสียงพวกนั้นสำหรับมากิ มันก็คือๆ กับเสียงนกกานั่นแหละ
มากิเป็นคนไม่แคร์สื่อสังคม เอาจริงเธอไม่นิยมแคร์ใครนอกจากตัวเองกับคนสนิทหรอห การจะทำตัวให้ได้ดั่งใจชาวบ้านมันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญสำหรับเธอมากๆ เลยนะ ยิ่งมากิเป็นพวกมีความชอบ ความคิด และการใช้ชีวิตสไตล์ตัวเองที่แตกต่างจากชาวบ้านเขาพอตัว การจะทำตัวให้กลมกลืมและแคร์โลกมากๆ เข้า มันก็ดูเหมือนจะทรมานตัวเองไปหน่อยอ่ะ เพราะงั้นถ้ามากิไม่อยากทำ มากิก็ไม่ทำ ไม่อยากไป ก็ไม่ไป จะงานเลี้ยงหรู งานกาล่า หรือคนเชิญเป็นเซเลปรวยล้นฟ้าเป็นคนเชิญ ถ้าเธอไม่อยากไป (หรือโดนหม่อมแม่จ้องด้วยสายเย็นยะเยือกเป็นคำสั่ง..) มากิก็จะไม่ไป แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่กลัวเรื่องอิทธิพลอะไรพวกนี้หรอก เพราะนอกจากจะมีนิสัยใจกล้าในตัวเองเอาเรื่องแล้ว บ้านมากิก็รวยไม่แพ้ชาวบ้านเขาเหมือนกันนั่นเเหละ (..) มากิถือคติ ไม่อยากไม่ชอบไม่ทำ ฟิลลิ่งจะต้องมาก่อนความจำเป็นและเหตุผลทุกประการนานาอย่างเสมอ เพราะว่ามากิน่ะเป็นพวกแปลก ถ้าเกิดว่าไม่มีอารมณ์จะทำ แล้วไปบังคับเธอเข้าล่ะก็ มากิจะทำออกมาได้ห่วยแตกสุดๆ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ถนัดก็ตาม นั่นเพราะฟิลลิ่งมันไม่มา หัวเลยไม่เเล่นยังไงล่ะ!..แต่เอาจริงๆ ก็แอบผสมความหมั่นไส้ส่วนบุคคลไปหน่อย เลยทำเกรียนมือไม้ปวกเปียกทำไม่ได้ขึ้นมาน่ะ..
มากิไม่ได้สนว่าจะมีใครด่าว่าเธอเป็นพวกแปลกแยก โลกส่วนตัวสูง ไม่เอาเพื่อน หรืออะไรก็ช่างมันสิ เเคร์ป่ะล่ะ“ ยังไงซะถึงเเม้คนส่วนมากจะด่าว่าเธอยังไงมากแค่ไหน มากิเชื่อเสมอเเหละว่ามันต้องมีสักคนหรืออาจจะสองคนที่เข้าใจเธอบ้าง มากิอาจจะคิดเเปลกแยก แต่มันก็ไม่ใช่ความคิดนอกโลก ดังนั้นมันต้องแน่นอนอยู่เเล้วว่าต้องแอบมีคนคิดเหมือนเธอบ้างแหละ แค่ไม่ได้เเสดงโจ่งเเจ้งเท่ามากิเท่านั้นเอง อีกอย่าง คนเรามันไม่ชอบ ไปแล้วจะอึดอัด จะไปให้โง่ทำไมล่ะ แม้แต่งานที่ทำอยู่ เเม่คุณยังตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่โดยยึดอารมณ์เป็นที่ตั้งเลย ทำไงได้เล่า ก็มากิน่ะ ถ้าไม่มีอารมณ์ร่วมแล้วพอตอนทำ มันจะออกมาได้ไม่ดีนี่นา เพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าเเละชิ้นงานที่ดีมีคุณภาพ รวมถึงตัวเองจะได้ไม่โดนไม่เกรนกินหัวเพราะนั่งงงนึกไม่ออก ฟิลไม่มา ปฏิเสธไปเถอะ เป็นศรีบุญแก่ตัว และเรื่องนี้ถือเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งที่ไม่เคยแก้หายตั้งเเต่มากิเด็กๆ เเล้ว เพราะงั้นถ้าอยากจะให้เธอเลิกนิสัยตรงนี้ เห็นทีไปโดดตึกตายเเล้วเกิดใหม่น่าจะง่ายสุดล่ะนะ
มากิเคารพผู้อาวุโส แต่ถ้าทำตัวไม่น่าเคารพก็จะไม่เคารพไปเลย และถ้าเธอไม่เคารพ เธอก็จะไม่ค่อยเกรงใจด้วยเท่าไหร่นัก เวลาพูดอะไรเลยหาหางเสียงไม่ค่อยจะเจอ รวมถึงถ้อยคำวจีที่เรียกได้ว่าบางทีก็น่ากระโดดถีบปากสักที มากิเป็นคนที่อยากพูดอะไรก็พูดออกไปเลย บางครั้งคำบางคำที่ไม่ได้กรองเลยทำคนอื่นระคายหูได้ แต่นั่นเเหละ มากิยังคงไม่สนใจอยู่ดียกเว้นแต่จะมีคนเดินมาสะกิดบอกว่า นั่นมันเกินจะรับได้จริงๆ มากิจะรีบกลับไปขอโทษทันที เพราะเป็นคนไม่สนโลก เลยไม่ค่อยรู้เท่าไหร่นักว่าคำเเบบไหนที่สังคมส่วนมากเขาไม่ชอบน่ะ มากิเป็นคนที่ไม่ชอบเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเองในใจ นั่นเพราะมันอึดอัดมากๆ เธอคิดกับตนเองเสมอว่า มีอะไรต้องพูดออกไปเลย อย่าไปเก็บไว้ให้ยุ่งยาก ในสายตามากิ การเก็บงำคำพูดไว้นั้นมันจะทำให้เรื่องยุ่งยากเเละซับซ้อนมากขึ้น เเต่บางครั้งคราว นิสัยที่โพล่งออกไปโดยไม่สนอะไรนี่ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาน้ำเกลือสาดใส่เเผลชาวบ้าน ให้รู้สึกใจร้าวรานกับคำพูดของเธอเท่าไหร่นัก
มากิเวลามีเรื่องหนักอกหนักใจจะกระวนกระวายกระสับกระส่าย และจะหาคนมานั่งฟังเธอระบายความหนักอกหนักใจนั้นเสมอๆ แต่ถ้าหากไม่มีใครพร้อมจะฟังเธอ มากิจะไปดราม่าใส่กระถางต้นไม้ในสวนหลังบ้านเธอเเทน (?) เวลาที่เธอระบายเรื่องหนักอก มากิจะใส่ฟิลลิ่งลงไปอย่างแรงกล้า พูดเล่าปานนักเล่านิทานมือฉมังเลยทีเดียวเชียว และบางทีถ้าเรื่องมันเศร้ามากๆ เข้าล่ะก็ พูดไปถึงช่วงท้ายๆ มากิอาจจะบ่อน้ำตาแตกขึ้นมาแบบไม่มีปี่ขลุ่ย เเล้วคว้าคนที่ตนระบายอยู่ไปกอดร้องงอแงใส่ก็เป็นได้ ถือเป็นเวรกรรมของอีกคนที่ต้องปลอบเจ้าตัวไปตามระเบียบ มากิเวลามีอะไรจะพูดกันตรงๆ ต่อหน้า เธอไม่ชอบการโกหกและเอ่ยอ้อมค้อมให้มันเมื่อยปากลิ้น อีกอย่าง การโกหกถือเป็นอะไรที่ไม่จริงใจ เเละทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายอย่างมาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ไม่ว่ายังไง มากิจะไม่ทำมันเด็ดขาด ดังนั้นในเรื่องข้อดีของมากิ นั่นคือเธอเป็นคนที่จริงใจอย่างมาก พูดคำไหนคำนั้นเสมอ มากิไม่ใช่คนกลับกลอกหรือสองหน้า ก่อนหน้านี้เธอพูดอะไรไป เธอก็จะทำแบบที่เธอพูด เรื่องดีคือคำพูดของเธอนั้นจะไม่เป็นที่น่าสงสัย แต่เรื่องแย่คือบางครั้งคราว เราก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่าคำพูดที่เธอบอกกับเรานั้น เป็นเรื่องโกหก นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นคนรักษาสัญญามากๆ เลยด้วย และมากิค่อนข้างเกลียดพวกผิดสัญญาเอาเรื่องเลยล่ะ ดังนั้นก่อนจะสัญญาอะไร เธอจะดูก่อนเสมอว่าทำได้จริงไหม เพื่อที่จะได้ไม่เผลอไปผิดสัญญาใครเข้ายังไงเล่า
มากิเป็นถึงจะดูแหวกโลกผ่าทะเล ก็ยังเป็นคนที่มีนิสัยเฮฮา ขำๆ และขี้เเกล้งเอาเรื่องเลยทีเดียว เคยมีคนกล่าวว่า มีมากิอยู่ที่ใด ที่นั่นย่อมมีเสียงหัวเราะเสมอ เธออาจจะเเปลกแยกจากพวกเขา แต่ใช่ว่าคนอื่นจะเกลียดเธอ มากิมีข้อเสีย แต่เธอก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะเป็นคนที่มีรอยยิ้มและนิสัยจริงใจเอาเรื่อง รวมถึงการรักสนุกจนเป็นเหตุให้มักทำตัวร่าเริงและร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เสมอ ทำให้เสียงหัวเราะไม่เคยสร่างจากไปจากรอบตัวของมากิเลย แต่บางครั้งคราว เสียงหัวเราะเริ่งร่าพวกนั้นก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะเเห้งๆ ได้เหมือนกันล่ะนะ..นั่นเพราะเเม่คุณน่ะ เป็นพวกอยู่ไม่สุขน่ะสิ หันหน้าหนีไปทางอื่นแวบเดียว ก็วิ่งเเจ้นหนีไปหยอกชาวบ้านเขาเล่นที่อีกฝากเสียเเล้ว มากิเป็นคนที่มีฝีเท้าดีเเละวิ่งได้ไว การวิ่งไล่จับเธอค่อนข้างจะสิ้นคิดพอสมควร เพราะนอกจากจะวิ่งไวเเล้ว มากิยังมีร่างกายที่สมรรถภาพดีกว่าชาวบ้านเขาอีกด้วย เธอน่ะวิ่งเเจ้นไปทั่วได้เป็นชั่วโมงเลยนะเออ
มากิมีความเกรียนในกระเเสเลือดสูงมาก กิจกรรมยามว่างแสนรักคือการเเกล้งเหล่าเพื่อนฝูงทั้งหลาย ด้วยความแปลกใหม่และพิสดารสไตล์มากิ (?) สำหรับมากินั้น เรื่องแกล้งคนมันคือเรื่องถนัด มันคือของชอบ เป็นสิ่งดีงามต่อใจที่เรียกได้ว่า ใช่เลย โคตรจะโดนใจ! อะไรแบบนี้ มากิมีความสุขในตอนที่โดนเพื่อนแว้ดใส่หลังโดนเธอเเกล้งเสมอ คิดไปมาชีน่าจะประสาทกลับก็เป็นได้ แต่ก็นะ เขาก็พูดกันให้ได้ยินอยู่ ว่าอัจฉริยะกับคนบ้าน่ะมันห่างกันเเค่ขีดเส้น มากิเองก็ไม่พ้นคำกล่าวนี้เช่นกัน เพราะนอกจากเรื่องนี้เเล้ว ยังมีความบ้าของเธอเกิดขึ้นได้อีกหลายๆ อย่าง เช่นบางครั้งคราวมันเกิดอารมณ์สมองตันเเต่งเพลงไม่ออก มากิก็จะหยิบกระดาษมานั่งตัดเป็นรูปต่างๆ แล้วโปรยเล่น ก่อนจะเอามาทากาวเเล้วเอามาใช้เขียนเนื้อเพลงเสียเฉยชิบ เรียกได้ว่าโคตรจะมีความติสท์แตกในกระเเสเลือดสูงมากเลยทีเดียว
มากินั้น คนนอกบางคนเห็นความไม่สมกุลสตรีแล้วอาจจะคิดว่าเธอคงมีมุมเเมนๆ แน่เลยอะไรเเบบนี้ แต่เปล๊าาา มากิไม่มีของแบบนั้นหรอก เธอแค่เถื่อนเล็กน้อยเท่านั้นเเหละ! (?) ในตัวของโมกินั้นจะมีโมเมนต์บางอย่างที่มันไม่สมหญิงอยู่บ้าง เอาจริงก็มีเยอะเเหละ เเต่ที่โดดเด่นที่สุดฉไนเลยจะพ้นไอ้ความขี้เเกล้งของเธอเนี่ยแหละ! มากิเป็นพวกไม่ชอบเดินตามรอยเท้าชาวบ้านเขา มีแนวทางและจุดยืนเป็นของตัวเองชัดเจน ตอนแกล้งคนเลยต้องคิดหาวิธีพิสดารเสียหน่อย..อย่างเช่น ในตอนที่อากาศหนาวสุดขั้วหัวใจ มากิจะโผล่มาจากบ้านของเธอพร้อมถังน้ำ เเละต้อนรับคุณด้วยการสาดน้ำเย็นๆ นั่นใส่หน้าโดยไม่กลัวคุณเป็นหวัดนั่นเอง แต่สิ่งที่เจ้าตัวชอบทำที่สุด เห็นจะไม่พ้นการกระโดดเข้าไปเกาะชาวบ้านเขาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงนี่แหละ เล่นเอาชาวบ้านเขาร้องกรี๊ดกันลั่น ทำมากิหัวเราะร่าไปได้อีกหลายก๊อกเลยทีเดียว
แต่ถึงจะแกล้งเเรงยังไง เจ้าตัวก็พอจะรู้ลิมิตอยู่บ้าง มากิจะไม่แกล้งคนที่กำลังหัวร้อนและทำอะไรที่มันจริงจังๆ อยู่ เธออาจจะชอบแหย่ไปเรื่อย แต่ไม่ได้คิดอยากจะไปทำงานหรือของสำคัญใครเขาพังหรอกนะ ปกติเเล้วตัวมากินั้น มักจะเเกล้งแต่คนที่ท่าทางกำลังอยู่ในโหมดอารมณ์ดี ลั้ลลา ชีวิตมีสุขไร้ทุกข์ โลกสดใสอยู่ พวกที่หน้าตายิ้มๆ หรรษาๆ มักเป็นเป้าล่อให้มากิเข้าไปแกล้งเล่นเป็นประจำ เปล่า ไม่มีอะไร แค่เปอร์เซ็นต์ในการโดนบาทามันน้อยดีน่ะ (..) และคนที่ทำหน้าตาอมทุกข์ จะเป็นอีกรายที่มากิจะไม่เข้าไปยุ่งด้วย เพราะถือว่าคนเขาเศร้าเราไม่ควรไปเผือกหรือวุ่นวายอะไรมากนั่นเอง ยิ่งมากิปากไม่ค่อยจะดีอยู่ เกิดไปพูดอะไรกระทบกระเทือนใส่ขึ้นมาจะทำไงล่ะ และนอกจากนี้ มากิยังเป็นคนที่มีความรับผิดชอบในการรังเเกของตัวเองด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นก่อนหน้า หากว่าการที่คุณโดนเธอสาดน้ำเย็นใส่ เเล้วเกิดเป็นหวัดขึ้นมา มากิก็จะขนข้าวของซื้อวัตถุดิบไปดูเเลนั่งเฝ้าไข้เเละทำอาหารให้อย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมขอโทษแบบจริงใจสุดๆ แต่..หากเป็นกรณีนี้จริงๆ คงต้องบอกว่าคนป่วยนี่ซวยเเล้วล่ะนะ..
มากิเป็นคนจำพวกที่ ฝีมือทำอาหารบัดซบอย่างมาก และเจ้าตัวก็ไม่เคยรู้ด้วยว่ามันบัดซบขนาดไหน เพราะไม่เคยกินของที่ตัวเองทำ (ปกติให้ชาวบ้านเขากินแทนหมด--) ดังนั้นจึงถือเป็นโชคร้ายของคนกินไปตามระเบียบ ส่วนตัวเเล้วมากิค่อนข้างเอาแต่ใจพอสมควร ดังนั้นถ้าเธออยากให้อีกฝ่ายกิน แล้วอีกฝ่ายไม่กิน มากิก็จะยิ้มหวานเเล้วเล่นมุขทีเผลอ จับช้อนยัดเข้าไปเลย (..) ปกติเเล้วจะป้อนส่งถึงปากจนกว่าจะหมดชาม แต่ว่าถ้าเกิดอีกฝ่ายเกิดหน้าเขียวกับรสชาติทำท่าเหมือนจะตาย มากิจะหยุดป้อนเป็นกรณีพิเศษ แล้วเปลี่ยนไปนั่งเฝ้าไข้เงียบๆ แทนล่ะนะ เห็นแบบนี้เเล้วดูเเลคนเก่งเอาเรื่องเลยล่ะนะ
มากิเป็นผู้หญิงที่เรื่องเขินอายนั้นเกิดได้ยากพอตัว เจ้าตัวไม่ค่อยมีอารมณ์โดคิโดคิ ใจเต้นตึกตักกับเหล่าเพศตรงข้ามเสียเท่าไหร่นัก นั่นเพราะตั้งเเต่เล็กยันโตวัยเท่านี้ มากินั้นสนิทได้หมดกับทั้งชายเเละหญิง รวมถึงคุ้นชินกับการใกล้ชิดอยู่กับเพศตรงข้ามดี แค่นั่งใกล้กันหรือกอดน่ะ ไม่ได้ทำให้เธอเขินอายได้หรอก หรือบางทีจะเปลือยท่อนบนต่อหน้าเธอ ก็ไม่ทำมากิเขินอะไรอยู่ดี ฟิลแบบมองขึ้นลงล่างแล้วหาของปาใส่หน้า ด่าเรียบๆ ว่า วิตถาร แล้วทำหน้ายี๋ใส่เท่านั้นเอง (?) มากิไม่ใช่สาวอินโนเซนต์เรื่องรักใคร่นะ มากิเคยมีเเฟนมาก่อนนะเออในชีวิตนี้ เรื่องจูบเธอก็เคย (แต่มากกว่านี้ก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ..) แต่ก็ไม่ได้หลายใจหรือมั่วอะไรแต่อย่างใด มากิเป็นคนรักเดียวใจเดียว เพิ่มเติมคือรักคนอื่นยากพอสมควร นานๆ ทีจะรู้สึกว่าชอบใครเข้าสักที มากิไม่ใช่คนสเป็คสูงอะไรหรอก เเค่ชินชากับเบ้าหน้าหล่อๆ เพราะทำงานในวงการคนหน้าตาดีมาพอสมควร เลยรู้สึกเฉยๆ ไม่ใจเต้นอะไรไปกับสาวๆ ส่วนมากน่ะนะ หากถามว่าผู้ชายเเบบไหนจะทำให้มากิใจเต้นได้เเล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่รู้ เจ้าตัวนั้นให้สัมภาษณ์มาว่า แล้วแต่ชะตานำพาไปเองแล้วกัน เจอใครสบตาด้วยเเล้วใจมันโครมคราม ก็คนนั้นเเหละที่ทำเธอใจเต้นได้ (..)
มากิไม่ใช่สาวกินพืช แต่กินเนื้อ---ปกติเเล้วมักจะเป็นฝ่ายเริ่มเข้าไปจีบผู้ชายก่อนที่เขาจะมาจีบตนเอง เธอไม่สนว่ามันจะดูไม่งาม เพราะคิดเสมอว่า ชอบแล้วไม่บอก เท่ากับนก รักเเล้วไม่จีบ นกมันจะกินหัวเข้าให้สักวันในไม่ช้าก็เร็วนั่นเเหละ ดังนั้นถ้าเจ้าตัวมั่นใจเมื่อไหร่ว่าความรักที่รู้สึกได้นั่นเป็นของจริง เขาก็จะเข้าไปขายขนมจีบใส่คนที่รักทันทีโดยไม่ต้องห่วงอะไรอีก เหลือแค่พุ่งชนให้เต็มที่ก็เท่านั้นแหละ! แต่..ก็อย่างที่เคยบอกๆ ไป แม่นางคนนี้หน้าตาดีมาก..แต่นิสัยนี่ไม่ค่อยจะผ่านเท่าไหร่ บางทีเลยนกบ้าง ติดบ้าง และแต่รายและบุญวาสนาของนางไป ซึ่งเหมือนบุญจะน้อย เลยนกเสียเป็นส่วนมาก..แน่นอนว่านกเเล้วย่อมผิดหวัง ในตอนที่มากิผิดหวังนั้น เจ้าตัวจะมีอาการโซเซดเอาเรื่อง วันๆ ไม่ทำอะไรนอกจากนั่งงุ่นหง่านกับตัวเองแล้วพึมพำบ้าบอคอแตกอะไรไม่รู้อยู่ได้ แต่พอมีคนลากคุณเธอไปหาของกินยัดใส่ปากและเที่ยวจนช่ำปอด เดี๋ยวก็ฟื้นกลับมาวิ่งเเจ้นต่อได้เองเเหละ
มากิเป็นคนมีพลังงานในการใช้ชีวิตในแต่วันสูงเอาเรื่อง ดังนั้นเเล้วการหมกตัวอยู่ในบ้านหรือที่ใดที่หนึ่งนานๆ จึงไม่ถูกโฉลกกับเจ้าหล่อนสุดๆ หากว่าไม่ติดงานอะไรสำคัญๆ เเล้วล่ะก็ มากิจะลากพื่อนหรือคนรู้จักออกไปเที่ยวตะลอนไปทั่วกับเธอเสมอ เธอเป็นสายเที่ยว แต่ ไม่ไม่ไม่ ไม่ใช่เที่ยวกลางคืน รายนี้เขาเที่ยวสถานที่ ไม่รู้ว่าทำไมหรืออะไร มากิถึงได้ชอบไปสวนสนุกเอาเสียมากๆ มาตั้งเเต่เด็ก โตมาก็ยังหาเวลาว่างเเวะเวียนลากเพื่อนไปนั่งรถไฟเหาะ กับลากเข้าบ้านผีสิงเป็นประจำอยู่บ่อยๆ เลย ประเด็นคือบางทีนางนั่งรถขับไปตั้งไกลนี่คือแค่จะไปเล่นไอ้สองอย่างนั้นเเหละ เล่นเสร็จเเล้วเดินออกเลย เปลืองตงเปลืองตังค์อะไรคือนางไม่แคร์เลย มิชชั่นคอมพลีสเล่นสมใจอยากเเล้วก็กลับบ้านเลยค่ะ มากิเป็นคนที่มีเป้าหมายเเละจุดมุ่งหมายชัดเจนเสมอ เเละเธอมักจะทำเป้าหมายให้สำเร็จลุล่วงเสมอ ไม่งั้นมันจะค้างคาใจ และทำมากิงุ่นหง่านไปอีกเป็นเดือนเลยล่ะ
มากินั้นค่อนข้างจะใช้เงินตามใจอยาก อยากเที่ยวก็เที่ยว อยากกินก็กิน อยากช้อปก็ช้อป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ้นเดือนเธอก็หาได้กินแกลบไม่ จริงอยู่ที่ว่ามากิซื้อของเยอะเเยะเต็มไปหมด แต่มากิเป็นคนแบ่งรายการเงินแยกไว้เสมอ อันไหนเที่ยว กิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ฝากบัญชี และอื่นๆ อีกเยอะเเยะ เธอจะเเยกเก็บไว้เป็นส่วนๆ ประจำ เวลาใช้ส่วนไหนหมดจะไม่มีการตอดไปเอาส่วนอื่นมาใช้เด็ดขาดถ้าไม่จำเป็น ที่เห็นผลาญเงินได้เยอะกว่าชาวบ้านเขานี่ไม่มีอะไรมาก แค่รวย และหาเงินได้เยอะ เลยเเบ่งเงินมาส่วนซื้อของท่องเที่ยวเปย์ของกินได้มาก แค่นั้นแหละ--มากินั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นมนุษย์ที่เลือกกินมากๆ เจ้าตัวไม่ค่อยชอบอาหารขยะ หรือพวกอาหารกระป๋องเท่าไหร่นัก ยิ่งอาหารจานไหนมีไขมันสูงเจ้าตัวยิ่งหน้าเบ้ รวมถึงของหวานที่รสชาติไม่ถูกปากเธอเท่าไหร่ด้วย กินเเล้วชอบทำหน้าปูเลี่ยนใส่ประจำ ดังนั้นเจ้าตัวเลยมีร้านประจำเป็นของตัวเอง ไม่ก็มักกลับไปทานข้าวที่บ้านเสมอๆ นั่นเอง
มากิเป็นคนติดธรรมชาติมากกว่าความสบายของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ชาวบ้านเขาชอบนอนตากแอร์ แต่มากิชอบไปนอนตากลมธรรมชาติเย็นๆ ใต้ต้นไม้เสียแทน เช้าๆ มักจะเห็นมากิออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะรับลมเล่นเป็นประจำ เธอชอบลมเย็นๆ กับบรยากาศสบายๆ ของธรรมชาติเอาเสียมากๆ เวลาเหนื่อยจัดหรือเครียดทีไร มากิจะจรลีหนีเที่ยวไปพักผ่อนแผ่กายตามสถานที่ธรรมชาติพวกนี้เสมอ ราวกับว่าสายลมนั้นคือพลังกายของเธอ เเม้จะเหนื่อยขนาดไหน ถ้าได้สูดกลิ่นลมสดชื่นๆ กับนั่งพักคลอลมสักพักเเล้วล่ะก็ เจ้าตัวก็ฟื้นเเรงกำลังใจกลับมาได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ
มากิเป็นคนที่ไม่นิยมเก็บความลับ เเละทำมันได้ไม่เก่งเสียด้วย น้อยเรื่องนักที่เธอจะยอมปิดปากเงียบปิดบังมันเอาไว้จากคนรอบตัว และเพราะเธอเป็นคนที่เปิดเผยขนาดนี้ มันจึงทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบไปด้วยเมื่อมีคนที่สนิทสนมกันดันมีความลับกับเธอ มากิมักอารมณ์เสียเสอ เวลาคนรอบข้างปิดบัง โกหก หรือพยายามไม่บอกอะไรกับเธอ หญิงสาวถือว่า ถ้าสนิทกันเเล้วจะต้องไม่มีความลับและโกหกกัน แต่ถ้าบางเรื่อง ขยั้นขยออย่างไรให้ตายเจ้าตัวเขาก็ไม่เอ่ยออกมา มากิก็โอเค ไม่บอกก็ได้ เพราะถึงเธอจะไม่ชอบแต่ก็เข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกย่อมมีเรื่องที่อยากจะเก็บเป็นความลับเช่นกัน มากิเป็นคนที่แบบที่ว่า ต่อหน้าเป็นยังไง ลับหลังก็ยังเป็นแบบนั้น เธอสวมหน้ากากไม่ได้เรื่องเลย มากิไม่เคยเก็บอารมณ์ทางสีหน้า รู้สึกอย่างไรมักฉายออกมาจากดวงตาและสีหน้าจนหมดปลอกเปลือก เเละตัวมากิเองก็ไม่คิดอยากจะปิดบังหลบซ่อนความรู้สึกของเธอด้วย เธอจึงไม่ซีเรียสอะไรกับเรื่องนี้เท่าไหร่นักน่ะนะ
มากิเป็นพวกโนสนด้อนแคร์เป็นส่วนมาก เลยแอบมีนิสัย อะไรก็ได้ ยังไงก็ช่าง แล้วแต่เลย อยู่ในตัวพอสมควร กล่าวๆ เเล้ว แม่คุณโกรธยากมาก นั่นเพราะแม่นางไม่ได้สนใจอยู่เเล้วตั้งเเต่เรก เลยไม่รู้จะโกรธไปทำไมนั่นเอง รวมทั้งเห็นแบบนี้ เจ้าตัวมีความใจเย็นอยู่บ้างเช่นกัน มากิคิดว่าคนเรามีสิทธิ์จะทำตามใจตนเอง เพราะงั้นถ้ามีคนทำให้เธอไม่พอใจ มากิก็แค่ไม่พอใจเท่านั้นเเหละ ไม่โกรธอะไรหรอก เธอจะโกรธเฉพาะตอนที่เธอโดนบังคับ โดนผิดสัญญา หรือถูกโกหกเท่านั้นเอง กับอย่างแรกนั้น สาเหตุเพราะมากิบอกว่ามันน่ารำคาญมากๆ ในสายตาเธอ รวมถึงเจ้าตัวเองก็มีอดีตไม่ใคร่จะดีเท่าไหร่กับการโดนบังคับ มากิจึงฉุนกึกเป็นประจำเวลาโดนชี้นิ้วสั่งหรือบังคับข่มขู่ เเละพอเจ้าตัวเป็นพวกนิสัยปากตรงกับใจอยู่เเล้ว พอไม่พอใจก็เลยด่าโพล่งใส่มันไปเสียเลย เลยมักทำให้เกิดเรื่องปากเสียงขนาดย่อยขึ้นมาประจำ และไปๆ มาๆ อาจจะมีการตบตีเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีใครคิดเข้าไปห้ามมากิน่ะนะ ตบคือตบ ด่าคือด่า นั่นเเหละมากิเลยล่ะ หากจะหาวิธีทำให้เธอหายโกรธเเล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างง่าย แต่กว่าจะหายต้องใช้เวลาพอตัว วิธีนั้นคือปล่อยมากิไว้ ไม่ไปยุ่งกับเธอ และขยันแอบช่วยเหลือเธอบ้าง ทำไมถึงต้องแอบ..นั่นก็เพราะถ้าไปเจอหน้ากันจะๆ จะโดนมากิตบคว่ำตั้งเเต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดเอาน่ะสิ..
มากิเป็นคนเซ้นส์ดี มักเข้าใจอารมณ์จริงๆ ของคนอื่นได้ดีกว่าคนทั่วไปเสมอ แต่ถึงจะเข้าใจว่ารู้สึกยังไง ก็ใช่ว่าเธอจะเข้าไปยุ่งมั่วซั่วหรอก ต่อให้เห็นใครเศร้าจนแทบขาดใจ เธอก็จะไม่ทำตัวเป็นแม่พระเดินเข้าไปปลอบ ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของตน เเล้วทำไมเธอถึงจะต้องเข้าไปยุ่งด้วยล่ะ..อาจดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่นั่นคือปัญหาของเขา เขาก็ต้องแก้กันเอง มนุษย์ทุกคนเองก็มีปัญหากันทั้งนั้น อีกอย่างถ้าไม่แก้ด้วยตนเองเเล้วจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมากล่ะ นี่แหละนะคือทัศคติของมากิ เพราะงั้นเวลาโดนขอให้ช่วยส่วนมากเลยปฏิเสธไปล่ะ..แต่เอาเข้าจริง สาเหตุหลักนี่คือขี้เกียจล้วน ๆ..(..)
มากิค่อนข้างมือไวพอตัว สกิลปากว่ามือถึงสูงส่งมากจนน่าหวั่นใจ ถ้าอารมณ์ไม่ดีเเล้วมีคนมากวนประสาท หรือพูดจาทะเเม่งๆ ไม่เข้าหู เธอก็พร้อมจะหันยกเท้าถีบหรือยกมือฟาดผลั๊วะเข้าให้สักเปรี้ยงเหมือนกัน มากิเป็นคนที่ค่อนข้างเลือดเย็นนิดหน่อยเวลาตบตีกับใครเขา รวมถึงถือว่า จะลง (ไม้) มือทั้งที มันต้องใส่ให้เต็มที เวลาฟาดสักทีเลยใส่เต็มแรงกะให้คอหันไม่ก็หน้าแหกไปเลยนั่นเอง บวกกับเจ้าตัวเป็นคนมือเท้าหนัก มันเลยทำชาวบ้านเขาเเขนส้น หน้าช้ำ ตาเขียวไปตามระเบียบ แต่พอจัดการฟาดไปตุ้บสองตุ้บเเล้ว มากิก็จะเดินไปหาพลาสเตอร์กับยาแก้ปวดไปโยนให้ แล้วเดินออกไปเงียบๆ เป็นการรับผิดชอบการกระทำของตนเองอยู่ดีนั่นแหละ
มากิไม่ใช่อันธพาลที่ใช้เเต่เเรงหัวไม่คิด หากเกิดเรื่องโดนรุมหรือทำร้ายร่างกายอะไรพวกนี้ขึ้นมา เธอมักไม่ใช่เเรงหนักๆ เเละมีเท้าไปตบตีกับใครเขา แต่มักจะมองหาทางหนีทีไล่กับทางรอดเอาเสียมากกว่า ส่วนสาเหตุ..ไม่ใช่ว่ากลัวเป็นเรื่องหรือกลัวอีกฝ่ายเจ็บหนักคาเท้า (?) อะไรนะ นางยังคงขี้เกียจเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือกลัวหน้าสวยๆ จะมีริ้วรอย เลยไม่อยากตบตีให้เล็บพังเเละเสี่ยงหน้าเยินเท่านั้นเองเเหละ--มากิเป็นคนที่ขี้เซามากๆ เธอเป็นคนพลังงานสูง แต่หลับได้ง่ายมาก หากได้นั่งเฉยอยู่คนเดียวไม่ได้ทำอะไรพักหนึ่งราวๆ ครึ่งชั่วโมง มากิก็นั่งหลับวืดคอตกโดยอัตโนมัติเเล้ว เธอมีสกิลพิเศษส่วนบุคคลคือ จะยืนอยู่ นั่งอยู่ นอนอยู่ หรือโหนรถเมล์อยู่ มากิก็สามารถหลับได้ตลอดเวลา ดังนั้นเเล้วเจ้าตัวเลยมักหากิจกรรมยามว่างให้ตัวเองทำเสมอนั่นเอง---หือออ อะไรกัน“ อย่ามองแบบนั้นสิ นี่ไม่ใช่ข้ออ้างหาเรื่องแกล้งกับไปป่วนชาวบ้านเขานะเออ จริงจริ๊งงงงง : )
ประวัติส่วนตัว ::
ชื่อของเธอคือ โคโตเนะ มากิ
เเละเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่..ลูกสาวเพียงคนเดียวของ โคโตเนะ สิมึเระ..
..และเป็นความหวังอันเจิดจรัสเพียงหนึ่งเดียวของหล่อน..
โคโตเนะ มากิ หญิงสาวผู้ไม่แคร์สื่อใดๆ เลยทว่ากลับมากไปด้วยความสามารถที่แพรวพราวหาตัวจับได้ยาก จนถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็น 'อัจฉริยะ' สายตาที่คนนอกเห็นเเละมองมา เธอนั้นช่างโชคดีเสียจริงๆ นอกจากจะเกิดมามีพรสวรรค์ด้านการแต่งเพลงสูงเเล้ว เจ้าตัวยังมีฐานะทางบ้านที่ร่ำรวยอย่างมาก ทั้งยังมีความสามารถเรื่องของการวาดรูป และทัศนศิลป์ประเภทต่างๆ บวกกับความสามารถในการเล่นไวโอลินที่ไพเราะเอาเรื่อง หน้าตาหุ่นองค์เอวยังงามพร้อมราวกับนางเเบบโมเดล ผู้ชายมาหลงมาชอบก็มากแม้นิสัยจะไม่ได้นางฟ้าหรือดีงามอะไรนัก แต่ก็ยังเป็นที่รักเพราะภายนอกที่ดูจริงใจเเละเปิดเผยนั่นอยู่ดี สรุปแล้วก็เปรียบราวกับเป็นพวกที่สุ่มของดีได้ตั้งเเต่เริ่มเกมส์อะไรแบบนั้นนั่นเเหละ
ไม่ว่าใครล้วนแต่รู้สึกอิจฉาเธอ แน่ล่ะ ผู้หญิงที่มีแทบทุกสิ่งที่ทุกคนต้องการแบบมากิ จะให้อยู่สวยๆ โดยไร้คนเกลียดคนอิจฉาเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก พวกเขามักอิจฉาเธอที่มีทุกอย่างทั้งความสามารถ หน้าตา เเละเงินทอง แต่หากว่าสนิทกับมากิขึ้นมาหน่อยเเล้วล่ะก็ ความอิจฉานั้นจะเกิดได้เพียงครู่เเละเเปรเปลี่ยนความรู้สึกสงสารในใจเบาๆ ทั้งสิ้น
แม้ว่ามากิจะมีมันแทบทุกอย่าง..แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเธอนั้นเเสนสุขมาโดยตลอด..
หรืออย่างน้อยคำว่าเเสนสุขนั่น ก็คงจะใช้กับตัวเธอเมื่อก่อนไม่ได้ล่ะนะ..
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น }}เด็กน้อยผู้เติบโตมาในกรงขังแห่งความหวังของมารดา{{
หิมะสีขาวนวลตาโปรยปรายลงมาในวันที่เธอเกิด พร้อมกับรอยยิ้มเเละน้ำตาของพ่อแม่ที่เผยออก เพียงเเค่ได้เห็นหน้าเด็กน้อยพวกเราล้วนชื่นใจ ที่เธอรอดพ้นจากอากาศอันหนาวเหน็บนี้มาได้ เด็กหญิงตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับใบหน้างดงามที่คล้ายคลึงกับบิดาอันเป็นที่รักยิ่งของมารดา วันเเรกที่เสียงหัวเราะของเธอได้แผ่วผ่านจากกลีบปาก มารดาของเธอแย้มยิ้ม ปลายนิ้วเกลี่ยลงใบหน้าอันนุ่มนิ่มเเละได้มอบชื่อให้แก่เธอ
"ชื่อของเด็กคนนี้คือมากิ..โคโตเนะ มากิ..ความหวังของแม่.." ความอ่อนโยนถ่ายทอดจากริมฝีปากนั้นสู่เด็กน้อย แม้ไม่รู้ความทว่าสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากมารดา มากิเเย้มยิ้มเเล้วหัวเราะในอ้อมกอดของท่าน เรียกรอยยิ้มจากพ่อและแม่ของเธอ
เธอคือ ความหวัง ของพวกท่าน
หรืออย่างน้อย..ความหวังนั้นก็ถูกคาดหวังโดยมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างหมดใจ
ว่าลูกน้อยในอ้อมแขน จะทำให้ผู้ชายข้างๆ เธอ อยู่กับเธอตลอดไปโดยมิจากลา..
อ่า..เพียงแค่ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา..ก็โดนคาดหวังในเรื่องที่ไม่รู้จะเป็นจริงหรือไม่เสียแล้ว..
และในที่สุดก็ได้รู้..ว่านั่นคือความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริง..
ห้าปีผ่านไป เด็กน้อยเติบโตขึ้นพร้อมกับรักของบิดาที่หมดลง วันคืนเเสนสุขของครอบครัวจบสิ้นด้วยการจากลา มากิตอนนั้นสับสนเหลือเกินจะกล่าว เธอทำได้เพียงร้องไห้ในตอนที่เสียงของพ่อแม่ตวาดโต้กันไปมาภายในห้อง เด็กน้อยน้ำตาคลอ บรรยากาศในบ้านไม่เหมือนเดิมเสียเเล้ว รอยยิ้มจางหายและหลงเหลือเพียงความโกรธกับความโศก มารดาผู้แก่ตัวลงและเข้มงวดร่ำไห้ปานจะขาดใจ แรกเริ่มนางด่าทอสามีอย่างหนักหนากับใจที่เขาปันไปให้หญิงอื่น ทว่าเมื่อไม่อาจเหนี่ยวรั้งอะไรไว้ได้ จากเสียงด่าทอพลันกลายเป็นเสียงคร่ำครวญอ้อนวอน
"ได้โปรด อย่าไป..ฉันขอโทษ อย่าไปเลยนะ ไม่มีคุณฉันอยู่ไม่ได้จริงๆ ฮึก..ฮือ"
มารดาของเธออ้อนวอนเเละหลั่งน้ำตา ทว่ามือนั้นกลับถูกสะบัดทิ้งจากบุรุษที่เคยเอ่ยคำหมั่นสัญญา จะรักเเละดูเเลเธอตลอดไป ในวันเเต่งงานนั้นอย่างไม่ไยดี
เขากำลังจะจากไปแล้ว ไปพร้อมกับคนรักใหม่ของเขา
แต่ก่อนที่เขาจะไป เขากลับถูกฉุดรั้งด้วยคำพูดของคนรักเก่า
"คุณไม่สงสารลูกบ้างเหรอ! คุณจะทำให้แกกำพร้ารึยังไง!“"
ดวงตาคู่นั้นเหลือบมาสบกับดวงตาสีม่วงลาเวนเดอร์ที่กำลังหลั่งน้ำตา เสียงสะอึกสะอื้นของเธอทำให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายพากันรู้สึกโศกเศร้าในอก สิมึเระเฝ้าวอนในใจขอให้เขาเมตตาเเม้ลูกน้อย แต่ท้ายสุดเเล้ว..เด็กน้อยผู้ที่เธอคาดหวัง ก็ไม่อาจทำให้เธอสมหวังได้
เขาจากไปแล้ว จากไปไกลเสียเเล้ว..
น้ำตาร่วงพรูไม่ขาดสาย มากิไม่ได้พูดอะไรสักคำ เด็กน้อยเพียงแค่ร้องไห้ อยู่นิ่งๆ ภายในอ้อมกอดของมารดา และเฝ้าฟังคำพูดจากริมฝีปากนั้นด้วยหัวใจที่ร้าวราน
"หนูคือความหวังของเเม่..ความหวังของแม่"
"ขอร้องล่ะมากิ ได้โปรด อย่าทำให้แม่ผิดหวัง..ฮึก"
"ได้โปรด..อย่าทำร้ายแม่เหมือนกับผู้ชายคนนั้น--ฮึก..ฮือ.."
น้ำตาของมารดาหยดลงบนไหล่เล็ก มือน้อยไม่กล้าแม้แต่ยกกอดตอบมารดา มากิรู้ว่ามารดาเจ็บปวดเหลือเกินกับเหตุการณ์นี้ แต่ว่า..
เธอไม่อาจะปฏิเสธได้เลย ว่าหัวใจเธอมันอึดอัดเเละเจ็บแปล๊บเบาๆ ในอกกับการตั้งความคาดหวังพวกนั้นเหลือเกิน..
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น }}ยิ่งปรารถนา ยิ่งห่างไกลจากสิ่งที่ต้องการ{{
หลังจากวันนั้นที่บิดาของเธอจากไป แม่ของมากิเปลี่ยนไปมาก รอยยิ้มที่เคยมอบให้ลูกน้อยลดเลือนหายไปจนแทบไม่มีอยู่ อ้อมกอดอบอุ่นที่คอยปลอบประโลมหายไปเสียแล้ว มารดาของเธอเข้มงวดมากขึ้น ดุมากขึ้น เเละเริ่มจะบังคับเธอให้ทำตามในเเบบที่หญิงสาวต้องการ เธอพร่ำบอกมากิว่าเธอคือความหวังของท่าน..อย่าทำให้ท่านผิดหวัง พยายามอีกสิ เหนื่อยก็ต้องอดทน อย่าดื้อกับท่านนะ..ร้อยแปดถ้อยคำที่พรั่งพรูไม่เคยมีซึ่งกำลังใจ และนับวันสายตาที่สองแม่ลูกนั้นมอบให้กันก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ..
วันหนึ่งเคยมองมารดาด้วยความรักใคร่และใฝ่ถวิลหา..หากยามนี้กลับอยากผลักไสและวิ่งหนี ทั้งน้อยอกน้อยใจ เหตุใดเล่าถึงต้องบังคับกันเพียงนี้
วันหนึ่งเคยมองลูกรักด้วยความรักความคาดหวังเเละห่วงหาอาทร..หากยามนี้กลับผิดหวังเเละเจ็บร้าวในอก เสียงด่าทอยังหลุดจากริมฝีปากของเธอเสมอ เหตุใดเล่าจึงไม่พยายามเพื่อเธอให้มากกว่านี้
สองแม่ลูกที่ความคิดย้อนเเย้งเเละไม่ไปทางเดียวกัน เติบโตขึ้นเรื่อยๆ กับความห่างเหินที่พอกพูน เด็กน้อยผู้ไร้ซึ่งความรักคอยกอดปลอบให้เติบโต ไม่รู้เมื่อไหร่กันที่พวกเขาเดินผิดพลาดก้าวเดินไปในเส้นทางที่ไม่ควร สิ่งที่มารดาผู้นั้นคาดหวังคือสตรีผู้สมบูรณ์แบบและมากด้วยความสามารถ เป็นสตรีแบบที่เธอใฝ่ฝันจะเป็นและชายใดต้องรักใคร่ เป็นสตรีแบบที่ไม่ว่าอย่างไรจะไม่มีวันได้เจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้งเช่นเธอแน่ ๆ..
ทว่าสิ่งได้รับนั้นช่างแตกต่าง ความดื้อรั้นและไม่ชอบใจเริ่มฉาดเเสงกร้าวออกมาจากดวงตาทิ่มแทงไปจนถึงขั้วหัวใจ อ่า..ปรารถนาให้นางนั้นเป็นดั่งเทพธิดาชั้นฟ้าพยาดา เหตุใดจึงเติบโตเป็นหนามแหลมทิ่มแทงอกผู้เป็นแม่จนแทบแหลกหลานเช่นนี้..
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น }}ความคาดหวังที่มากเกินไป อิสระที่กลายเป็นกรงขัง{{
มากิเติบโตเป็นเด็กสาวที่มากความสามารถ ทว่ากลับบกพร่องในเรื่องของนิสัย เเม้เธอยิ้มแย้มอย่างจริงใจและเข้าหาผู้อื่นอย่างเปิดเผย ทว่ากลับเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตนมาก่อนอันดับหนึ่งเช่นกัน ราวกับว่ามันคือพรและคำสาปที่ได้มาพร้อมๆ กัน..ผู้เป็นมารดาพยายามแก้ไขในนิสัยเสียเหล่านั้น เเต่ราวกลับยิ่งพยายามยิ่งเหมือนผลักลงก้นเหวให้ตกต่ำลงไปอีก ท้ายสุดเเล้วจึงได้เเต่ตัดใจเเละพยายามหมางเมินมันไปแทน
อาจดี แต่ไม่เลยสำหรับมากิ..
เมื่อไม่อาจมีนิสัยที่สมบูรณ์ตามที่มารดาคาดหวังได้ หล่อนจึงเปลี่ยนมาเข้มงวดกับสิ่งที่คาดหวังให้มากิได้เป็นแทน มากิมีพรสวรรค์ด้านการเเต่งเพลงเเละรักเสียงดนตรี ผู้เป็นแม่นั้นมองเห็นและรับทราบความจริงข้อนี้ดี สิมึเระจึงเขี่ยวเค็ญและพยายามให้มากิเอาดีในด้านนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตัวมากินั้นหากให้ไปเรียนเรื่องดนตรีแน่นอนย่อมไม่ปริปากบ่นอะไร เธอชอบ และรักมัน เสียงดนตรีพวกนั้นมันล่องลอยเเละสื่อความรู้สึกของเธอมากมายออกไปได้อย่างอิสระ และเพราะมันเป็นอิสระ เธอจึงหลงรักมันมาก ๆ..
ทว่าความเป็นอิสระนั้นกลับถูกตีกรอบไล่เข้ามาอย่างมิควรจะทำ ด้วยการบังคับเข็ญเคี่ยวของมารดาที่พยายามอยากให้เธอทำในแบบที่หล่อนต้องการ..
หากมากิอยากจะเเต่งเพลงที่แหวกกฎทำนองเพื่อผ่อนคลาย เธอจะถูกสั่งห้ามเเละกล่าวดุ หากมากิไม่ปรารถนาจะฝึกเเละต้องการพักผ่อน สายตาผิดหวังเเละถ้อยคำอันทำร้ายใจจะหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากนั่น สุดท้ายเเล้วแม้จะอยากดื้อรั้นปิดหูเมินหนี อย่างไรเสียก็ทำได้แค่คิดในใจและปฏิบัติตามเท่านั้น
อ่า แม้แต่สิ่งที่ชอบยังไม่ใช่อิสระที่งดงามดั่งที่เคยคาดหวังไว้..
ตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน..ที่เธอกลายเป็นหุ่นเชิดที่ต้องเต้นไปตามการควบคุมของมารดา..
แล้ว..มันจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันนะ..?
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น }}ความฝันของเธอเเละความคาดหวังของผู้เป็นแม่ สองสิ่งที่แตกต่าง และความในใจที่ไม่อาจกักกั้นได้อีก{{
ในตอนที่มากิเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่สอง มีการจัดประกวดการเเสดงไวโอลินขึ้น ตัวของเธอนั้นหลงรักเเละชื่นชอบในการบรรเลงไวโอลินอยู่เเล้ว ทั้งก่อนหน้ายังเคยแอบไปฝึกซ้อมเเละขอเรียนจากครูที่ชมรมดนตรีเป็นประจำ อ่า ใช่ ความฝันของมากิคือการได้เป็นนักบรรเลงไวโอลินชื่อดัง ดังนั้นเเล้วเมื่อได้เห็นโอกาสที่อาจทำให้ฝันของเธอเป็นจริง มากิย่อมไคว่ขว้ามันเอาไว้ทันที
เธอไปขออนุญาตผู้เป็นแม่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงแค่คำว่า ไม่
"นึกถึงพรสวรรค์ของลูกเข้าไว้ มีดีด้านใดก็เอาดีเอาเด่นด้านนั้นไปซะ อย่าไปจมปลักกับความฝันที่ไม่อาจพาลูกไปสู่จุดสูงสุดได้เลย"
ท่านพูดด้วยสีหน้าเเสนราบเรียบ กล่าวตัดรอนอย่างไม่ไยดี และทำให้เด็กสาวตัวเเข็งทื่อ มากิเม้มปากเเน่นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ของเธอถึงพูดออกมาเเบบนั้น..เเค่นี้..ของแค่นี้จะให้เธอไม่ได้เลยรึ..? อีกอย่าง ถึงมันจะไม่อาจจะพาเธอไปสู่จุดที่สูงที่สุดได้ เเต่มันก็คือความฝันของเธอนะ..จะให้เธอทิ้งมันไปได้ยังไงล่ะ..
ไม่สิ ไม่ใช่ว่าเพราะมันพาเธอไปสู่จุดสูงสุดไม่ได้หรอก..
มันเป็นเพราะผู้หญิงตรงหน้าไม่ต้องการให้เธอทำแบบนั้นต่างหาก..ใช่ไหมล่ะ“..
"หนูไม่ใช่หุ่นเชิดของแม่นะ.."
หัวใจร้าวรานยามนึกคิด ความน้อยอกน้อยใจเกาะกินจนเอื้อยเอ่ยถ้อยคำที่บาดลึกถึงหัวใจของคนเป็นเเม่ ดวงตาของมารดาเบิกกว้างเเละตกตะลึง สิมึเระพูดไม่ออกและนิ่งงันไป ยิ่งได้ฟังคนเป็นลูกเอ่ยความในใจมากมายออกมา ใบหน้านั้นยิ่งนิ่งงันมากขึ้นเรื่อยๆ
"ทำไมต้องเอาแต่บังคับกันด้วย..แม่บอกให้หนูอย่าทำร้ายแม่ เเล้วทำไมแม่ถึงทำร้ายหนูแบบนี้ล่ะ หนูรู้ว่าหนูมันดื้อเเละนิสัยไม่ดี แต่ถึงอย่างนั้นก่อนหน้านี้หนูก็พยายามเพื่อแม่อย่างเต็มที่เเล้วไม่ใช่รึไงกัน หนูขอแค่นี้เองนะ..ทำไมถึงให้กันไม่ได้ล่ะ"
สิมึเระเงียบ เธอไม่ได้พูดอะไรเลย
ความเงียบราวกับเป็นการบอกว่าเจ้าหล่อนไม่สนใจ เด็กสาวผู้พลีพลามเม้มปากและทอดสายตามองมารดาอย่างตัดพ้อ ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาเลยเเม้แต่น้อย
จนไม่ทันได้เห็นสีหน้าอันเศร้าหมองของผู้เป็นมารดาเธอ..
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น }}ความมุ่งมั่นที่เเสดงออกไป อ้อมกอด เสียงหัวเราะ ความสุข เเละรอยยิ้มที่ได้รับกลับคืนมา{{
วันแข่งขันมาถึงเเล้ว..ตั้งเเต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เธอและแม่ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย นั่นเพราะมากิเอาแต่หนีหน้าคนเป็นแม่ พยายามจะหลบเลี่ยงเท่าที่จะทำได้ ยิ่งฝ่ายนั้นไม่ได้กะตือรือร้นอยากเจอหน้าเธอมันยิ่งเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ตื่นเช้าๆ เเล้วกลับบ้านให้ดึก แค่นั้นก็จบเเล้ว แต่..วันนี้ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปนิดหน่อย..
มากิชะงักเมื่อเห็นแผ่นหลังของคนเป็นแม่ ผ้ากันเปื้อนที่สวมใส่และเสียงช่าของปลาทอดในน้ำมันทำให้สงสัย ยิ่งทอดมองอาหารมากมายบนโต๊ะยิ่งรู้สึกแปลกใจ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมีสักหนที่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้ลุกมาทำกับข้าวกับปลาให้เธอแบบนี้
"ทานข้าวเช้าก่อนสิ" สิมึเระเอ่ย น้ำเสียงนั้นนุ่มนวลมากขึ้นจนทำให้แปลกใจ ความอุ่นวาบเเล่นวาบไปทั่วอกเมื่อได้ฟังถ้อยคำเเละน้ำเสียงที่คล้ายกับห่วงใยตัวเธอ..
แต่ถึงอย่างนั้น มากิกลับเลือกจะมองข้ามความสงสัยเเละความรู้สึกอุ่นวาบประหลาดในอกไป..ด้วยเพราะความโกรธเเละน้อยใจนั้นมีมากกว่าเหลือเกิน..
"ไม่ล่ะค่ะ"
เด็กสาวบอกปัดปฏิเสธไปอย่างรวดเร็ว ก้าวเท้าเดินไปหมายจะออกจากบ้าน แต่บางอย่างเหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้ เเละสั่งให้พูดมันออกไปในท้ายที่สุด
"มาดูหนูเเข่งด้วยนะ.."
แม้จะรู้ว่า..อีกฝ่ายคงไม่มาตามที่เธอชวนก็ตามที
เสียงปรบมือดังทั่วเมื่อการแสดงจบลง ถ้อยทำนองเงียบลงและถูกกลบเสียงปรบมือของเหล่าผู้ชมทั้งหลาย มากิย่อกายรับความชื่นชมเหล่านั้น รอยยิ้มของเธอแย้มกว้างประดับบนใบหน้า ความสุขชโลมย้อมยามได้อยู่กับสิ่งที่ชอบ ทว่าไม่นานนักกลับลางเลือนหายไป ทิ้งไว้เพียงความผิดหวังเเละความเศร้าหมองบนดวงหน้า เมื่อไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้เป็นแม่
ถึงจะรู้อยู่เเล้ว..ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมรับ..แต่ยังไงก็ยังคาดหวัง
ทว่าความคาดหวังนั้นช่างไร้ค่าเหลือเกิน เมื่อสิ่งที่คาดหวัง มันเป็นไปไม่ได้อยู่เเล้วมาตั้งเเต่แรก..
ชัยชนะที่ได้รับมาช่างน่ายินดี ทว่ากลับน่าเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อคนที่อยากให้ยินดีไปกับเรานั้น ไม่แม้แต่จะเฉียดกายมาทอดมองความมุ่งมั่นของเธอในวันนี้
มากิกลับบ้านไปด้วยความเหนื่อยล้า ความเพลียที่สะสมชวนให้อยากจะกลับไปล้มนอนใส่เตียงเเล้วหลับไปทั้งแบบนี้เสียให้ได้ เด็กสาวเดินกลับบ้านเงียบๆ ไฟในบ้านทุกดวงปิดสนิท ราวกับจะบอกว่าอีกสองชีวิตในบ้านนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ แม้จะแอบแปลกใจที่แม่บ้านคนเก่งไม่อยู่บ้าน แต่ตัวมากิที่อ่อนล้าไม่สนอะไรมากนัก เธอไขกุญแจ เดินเข้าไปด้านใน หมุนลูกบิดเเล้วเปิดประตูเข้าไปพร้อมเอ่ยเเผ่วเบา
"กลับมาเเล้ว"
ปุ้งง!!
สิ้นคำพูดอันเเผ่วเบาของเธอ เสียงราวกับมีใครจุดประทัดดังขึ้นแบบไม่ปี่ขลุ่ย เด็กสาวแทบล้มโครมและเหวอไปหลายจังหวะ ยิ่งตอนที่แสงไฟทั่วบ้านสาดแสง และทอดมองเห็นสีสันประดับประดามากมาย กับกระดาษสีที่ปลิวว่อนจากพุกระดาษในมือของคนตรงหน้า หัวใจที่เต้นโครมครามเพราะความตกใจยิ่งเต้นเเรงมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
รอยยิ้มของคนเป็นแม่คลี่ออกมอบให้บางๆ ทว่าอ่อนโยน "ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ มากิ" เธอว่า ก่อนจะขยับตัวเข้ามาจูงมือลูกสาวไปยังโต๊ะตัวกว้าง ที่ประดับประดาด้วยอาหารที่เป็นของโปรดของเด็กสาวเต็มไปหมด พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มแบบางบนใบหน้า "ฉลองที่ชนะมา กินให้เต็มที่เลยนะ"
มากินิ่งงัน ลำคอของเธอคล้ายมีก้อนอะไรจุกอยู่จนพูดไม่ออก กระนั้นเเล้วก็ยังกระซิบออกมาด้วยเสียงแหบพร่า
"ไม่ได้..ไปดูไม่ใช่เหรอ..?"
"ใครว่าล่ะ"
"........"
ดวงตาสองคู่สบกัน ก่อนจะเป็นฝ่ายสิมึเระที่เสหลบไป หญิงวัยกลางที่ความงามไม่สร่างไปตามวัยหน้าขึ้นสีจางๆ กระแอมไอราวกับเก้อเขิน
"ก็แค่อายที่ได้ไปดูลูกสาวเเข่งเป็นครั้งเเรก เลยนั่งฟังอยู่ข้างนอกแค่นั้นเอง"
.......
"อุ๊บ! ฮะฮะ..ฮ่าๆๆๆ!"
คำสารภาพของมารดาเรียกเสียงหัวเราะลั่นให้กับเด็กสาวทันใด ริ้วเเดงเเล่นตามหน้าสิมึเระ พอเเม่บ้านคนเก่งกลั้วหัวเราะหยอกล้อขึ้นมาบ้างก็หน้านิ่วคิ้วขมวด รู้สึกอายเเละเก้อเขินไม่น้อย เธอกระแอมอีกหลายรอบกว่าสองสาวต่างวัยจะเงียบเสียงหัวเราะได้ สิมึเระยิ้มให้ลูกสาวแบบที่เคยยิ้มให้เมื่อหลายปีก่อนหน้า..หลายปีก่อนหน้าที่พวกเรายังอยู่กันครบทั้งสามคน พ่อ แม่ และเธอ..ก่อนริมฝีปากนั้นจะสารภาพความรู้สึกทุกอย่างออกไปจนหมดสิ้น
"ขอโทษนะมากิ..อึดอัดมากเลยสินะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา.." ปลายนิ้วเกลี่ยบนดวงหน้าของเธออย่างอ่อนโยน เหมือนกับตอนที่เด็กน้อยลืมตาดูโลก
"แม่พยายามเขี่ยวเข็ญลูก เพื่อให้ลูกเก่ง พยายามทำทุกอย่างและยัดเยียดสิ่งต่างๆ มากมายให้ลูกเพราะคิดว่ามันดีต่อลูกเเล้ว เอาความคาดหวังทุกอย่างไปลงที่ลูก ทั้งๆ ที่ลูกไม่จำเป็นจะต้องแบกรับมันเลยด้วยซ้ำแท้ ๆ.."
"แม่อยากจะให้มากิมีความสุขเเละไม่ต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ แบบเเม่ ถึงได้อยากให้หนูโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เก่งกาจเเละมีคนรักมากมาย"
"แม่เฝ้าคิดเสมอ ว่าเเม่ต้องทำให้มากิมีความสุขมากๆ เพื่อชดเชยกับส่วนที่พ่อเขาไม่มีวันทำให้ลูก.."
"แต่ดูสิ..แม่ทำอะไรลงไปกันนะ.."
"ทั้งที่อยากให้หนูยิ้มเเละมีความสุขมากๆ แท้ ๆ..แต่คนที่ทำร้ายลูกมาตลอด..กลับกลายเป็นแม่คนนี้เสียได้.."
ยิ่งพูด เสียงของสิมึเระยิ่งสั่นเครืออย่างน่าสงสาร น้ำตาที่ไม่เคยหลั่งรินอีกเลยเพราะอยากจะเข้มเเข็งเพื่อลูกน้อยค่อยๆ ไหลอาบหน้า มือหยาบกร้านจากการทำงานหนักเพื่อให้ลูกน้อยได้มีเงินใช้สอยไม่ขาดเเละไม่ต้องยากลำบาก ค่อยๆ ไล้ไปตามผิวหน้าเนียนนุ่มนั้น สัมผัสทุกอย่าง ถ้อยคำเเละน้ำเสียงนั่น ค่อยๆ ซึมซับเข้าไปในหัวใจของเด็กสาว
ความน้อยอกน้อยใจและโกรธเคืองค่อยๆ จางหาย แทนที่ด้วยความรู้สึกผิดมากมายที่ก่อเกิดขึ้นในใจของมากิ ตลอดเวลา..ตลอดเวลาเธอเอาแต่เฝ้าโทษผู้หญิงตรงหน้า กล่าวโทษว่ามารดาไม่เข้าใจอะไรในตัวเธอเลย กล่าวโทษว่าทำไมถึงเห็นแก่ตัวเเบบนั้น ทำไมถึงเอาแต่บังคับเธอ..และอีกหลากหลายคำกล่าวโทษที่มากมายเกินกว่าจะให้อภัยได้..ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังถูกไขข้องให้ได้รู้ ด้วยความในใจของหญิงสาวตรงหน้าตลอดเวลาที่ผ่านมา
น้ำตาหยดรินไหลจากดวงตา เจ็บเหลือเกินที่ได้ทำร้ายใจมารดาไปมากถึงเพียงนี้..
เเขนเล็กสวมกอดมารดาเเน่น น้ำตาไหลอาบและสะอื้นเอ่ยออกไปอย่างไม่คิดอายใดๆ อีกเเล้ว
"ขอโทษ..ขอโทษนะคะ..หนูขอโทษ ฮึก ขอโทษจริงๆ .."
สิมึเระเป็นผู้หญิงที่เก่งกาจ เธอมีความสามารถ ร่ำรวย และสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยลำเเข้งของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร กระนั้นก็เติบโตมาในตระกูลคุณหนูสูงส่ง ถูกสอนเรื่องต่างๆ มามากมายเเละถูกเข้มงวดใส่ไม่ได้ต่างจากมากิเลย แม้เด็กน้อยจะเกิดจากความรัก หากไม่นานชายที่รักกลับจากลาไป สร้างแผลใจให้แก่หญิงสาวจนร้าวรานแทบแตกสลาย เหลือเพียงลูกน้อยในอ้อมแขนที่คอยฉุดรั้งเธอเอาไว้ไม่ให้จมจ่อมไปในความเศร้าหมองมากกว่าตอนนั้น..
เพราะเเบบนั้นจึงอยากให้ลูกน้อยได้สุขสบายและเต็มไปด้วยความสุข..
ทว่าเพราะเติบโตมาอย่างคุณหนูสูงศักดิ์ ชีวิตถูกกำหนดก้าวเดินไว้มากมาย จึงไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้มอบให้ไปด้วยความหวังดีนั้น มันทำร้ายเด็กน้อยของเธอถึงเพียงใด..
ย้อนเวลากลับไปก็ไม่ได้ อับอายในฐานะแม่ที่ล้มเหลวเกินกว่าจะกอดลูกน้อยให้ชื่นหัวใจ ทว่ายามที่อ้อมกอดนั้นกลับถาโถมคืนมาสู่ตัวเธอ หยาดน้ำตามากมายยิ่งพรั่งพรู มืออันสั่นระริกโอบตอบกลับไปแน่น
"แม่เองก็ขอโทษ..ขอโทษนะที่เอาแต่บังคับ ยกโทษให้แม่เถอะนะมากิ.."
"อื้อ.."
เสียงขานรับเเผ่วเบาเเละอู้อี้จากริมฝีปากของคนที่ซุกหน้าลงกับไหล่ผู้เป็นแม่ นานเหลือเกินที่ห่างหายไปจากอ้อมกอดนี้ สัมผัสอันอ่อนโยนช่างบีบเค้นหัวใจของเธอเสียเหลือเกิน มากิร้องไห้ออกมาเงียบๆ พร้อมกับเอ่ยปลอบแม่ของตนทั้งที่กำลังร้องไห้อยู่เเบบนั้นเเท้ๆ
ในวันที่เหมือนสายสัมพันธ์อันห่างเหินนั้นจวนเจจะขาด แสงแห่งรักของมารดาได้ทักทอมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
เข้าใจเเละยอมรับ กล่าวขอโทษให้อภัยซึ่งกันเเละกันด้วยหัวใจ..
แม้นจะไม่อาจมองหน้ากันติดเเละสนิทสนมกันมากขึ้นด้วยเวลาอันเร็ว แต่ก็จะทักถอมันต่อไปเรื่อย ๆ..
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมากับการทุกข์ใจที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ย ท้ายสุดก็จบลงพร้อมกับอ้อมกอด เสียงหัวเราะ ความสุข และรอยยิ้มที่ได้รับกลับคืนมาแก่คนทั้งสอง..
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น }}ความสุขที่คงอยู่ เเละรอยยิ้มที่งดงาม{{
หลังจากวันนั้น สิมึเระเริ่มจะตามใจลูกสาวเเละใส่ใจมากขึ้นกว่าเเต่ก่อนหลายเท่าตัว การใช้เวลาว่างของแม่ลูกมีเพิ่มมากขึ้นจากแต่ก่อนมาก หญิงสาวนั้นให้โอกาสมากิได้เรียกเส้นทางของตน เลิกบังคับ เลิกเข็ญเคี่ยวจนเกินกว่าเหตุ ให้ลูกสาวเพียงคนเดียวได้เรียกทางเดินชีวิตของตนเอง
"ก่อนหน้านี้แม่บังคับลูกมาเยอะเเล้ว เพราะงั้น..วันนี้ เลือกสิ่งที่ลูกต้องการจริงๆ เถอะมากิ"
ราวกับกำลังบอกว่า เดินไปตามฝันของลูกเถอะ แม่จะคอยดูเเลและเอาใจช่วยอยู่ตรงนี้เอง
สิมึเระมั่นใจว่ามากิจะตัดสินใจเดินตามฝัน เพราะในวันที่เธอได้ไปฟังการบรรเลงไวโอลินของมากิในตอนนั้น มันมีความมุ่งมั่นอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในแบบที่เธอไม่เคยได้ฟังหรือเห็นมาก่อนเลย แต่ทว่าเด็กสาวกลับทำให้แปลกใจ มากิส่ายหน้าเมื่อเธอยื่นไวโอลินสีสวยให้กับเจ้าตัว ยิ้มกว้างเสียจนตาหยี่แบบที่กุลสตรีที่ดีไม่ควรจะทำ หัวเราะร่าเเล้วกล่าวว่า
"เเล้วที่หนูอุตส่าห์เรียนแต่งเพลงไปตั้งหลายปีนั่นเล่า ทิ้งได้ไง เสียดายตังค์นะเเม่"
"แต่..ลูกไม่ชอบ.."
ริมฝีปากของมารดาปิดลงตอนได้เห็นประกายระยิบระยับ รอยยิ้มซุกซนบนหน้าของลูกสาว พร้อมกับถ้อยคำเอ่ยเสียงร่าเริงแบบที่ไม่มีให้เห็นได้มากนักต่อหน้า "หนูชอบเสียงดนตรี ชอบท่วงทำนอง ชอบไวโอลิน ชอบทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับตัวโน๊ตเหล่านั้น" ดวงตาคู่งามสีลาเวนเดอร์หรี่ลง มากิบีบมือของมารดาเบาๆ เเล้วเอ่ยเสียงเบาหวิว "แค่พอต้องมาแต่งเพลงโดยต้องคิดถึงกฎเกณฑ์มากมาย และทำในตอนที่ไม่มีอารมณ์ร่วม มันทำให้อึดอัดเลยทำดื้อใส่ต่างหากล่ะ"
"งั้นเหรอ..ถ้างั้น จะเอายังไงต่อล่ะ"
คำถามที่ถามออกไปหาได้ต้องการคำตอบ เพียงแค่ถ้อยคำก่อนหน้าเเละรอยยิ้มบนใบหน้านั่น สิมึเระก็รู้ว่าลูกสาวของเธอ..จะเลือกเดินไปในเส้นทางความฝันของเธออย่างแน่นอน
"โตขึ้น..หนูจะเป็นนักแต่งเพลงชื่อดัง!" เสียงหวานกล่าวอย่างหมายมาด นัยน์ตาวาวแสงแบบการตัดสินใจที่เเน่วเเน่เด็ดเดี่ยวยิ่ง "แต่ไม่เรียนพิเศษเเล้วนะเเม่ เหนื่อยจะตายชักเลยนะเมื่อก่อนน่ะ" ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายแซะคนเป็นแม่อีกต่างหาก
สิมึเระหัวเราะเบาๆ ในลำคอเล็กน้อย เธอกอดมากิแน่นและลูบศีรษะเบาๆ เอ่ยอวยพรเสียงหวานดั่งเช่นน้ำเสียงที่เคยได้เอ่ยมอบชื่อแก่เด็กน้อยว่า
"ไม่ว่ามากิจะเลือกอะไร..ต่อไปนี้ แม่จะคอยช่วยเเละสนับสนุนลูกในทุกๆ อย่างเอง.."
ผ่านไปได้หลายปี มากิเรียนจนจบปริญญาตรีในสาขาและคณะที่เธอได้เลือกเอง วันรับปริญญาของเธอ แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยวจีถ้อยคำอวยชัยยินดีใดๆ แก่เด็กน้อยที่เติบโตจนถึงตอนนี้ แต่รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าอันจริงจังนั้นก็บอกได้ว่าสิมึเระภูมิใจในตัวลูกสาวมากเพียงใด ภาพถ่ายของคนทั้งคู่ในวันสำคัญถูกถ่ายเก็บไว้เเละใส่กรอบอย่างดี รอยยิ้มเเละความสุขในวันนั้น ช่างตราตรึงเเละอ่อนหวานเสียเหลือเกิน
หือ“ อะไรนะ“ เเล้วปัจจุบันน่ะเหรอ“ แหม..ก็มีความสุขดี เงินทองเหลือใช้ ชีวิตแฮปปี้ปาร์ตี้ มีเเม่คอยบ่นตอนกลับบ้านมืดค่ำทุกวันเลยน่ะซี่!!
งานอดิเรก ::
>>เเต่งเพลงเล่น<< [ด้วยงานที่ทำเลยทำให้เจ้าตัวติดนิสัยชอบนั่งเเต่งเพลงเล่นประจำในเวลาที่ว่าง หรือไม่ก็เกิดอาการไม่อยากไปเที่ยวไปซ่าไปป่วนใครที่ไหนเข้า]
>>เที่ยวเล่นไปเรื่อย ๆ<< [ปกติงานของเธอแทบจะเป็นอะไรที่กึ่งจะฟรีเเลนซ์อยู่เเล้ว ขอแค่ทำให้เสร็จเวลาว่างก็มีให้พอเที่ยวไปได้เรื่อย ตัวมากิเป็นพวกไม่อยู่กับที่เท่าไหร่ แถมยังชอบอะไรสนุกๆ เสมอ เจ้าตัวเลยเป็นขาเที่ยวขาประจำนั่นเอง]
>>นอน<< [เป็นมนุษย์ที่ใช้พลังงานคุ้มค่ามาก..เพราะงั้นเลยเพลียง่าย ปล่อยให้นั่งว่างไม่มีอะไรทำสักพักคอก็พับเเล้ว..]
>>ฟังเพลง<< [สามารถใช้สร้างเเรงบันดาลใจในการทำงานได้น่ะนะ]
>>เล่นไวโอลิน<< [มากิชอบเสียงของไวโอลิน เเละเธอมักจะเล่นมันเป็นประจำเพื่อคลายเครียด หรือมีเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจ ปกติเเล้วเพลงที่เธอเล่นมักสื่ออารมณ์ของเธอออกมาได้เสมอ]
>>แกล้งเพื่อนฝูง<< [It's fun!!! (...)]
ชอบ ::
>>การนอน<< [การพักผ่อนเป็นสิ่งที่ดี เพิ่มเติมคือมากิชอบเวลาที่ได้สัมผัสกับความนุ่มนิ่มของเตียงและหมอน ยิ่งถ้ามีแอร์กับผ้าห่มหนาๆ ยิ่งดี๊ดี! (?)]
>>โกโก้ครั๊นซ์<< [พูดจริงไม่หลอก..มากิชอบกินมาตั้งเเต่เด็กแล้วล่ะ มันอร่อยดีนะ..ไม่คิดงั้นเหรอ?]
>>ธรรมชาติ ความร่มเย็น สายลม<< [เวลาอยู่กับสามสิ่งเหล่านี้เเล้วหัวใจมันผ่อนคลาย ส่วนมากเเล้วชอบเฟตไปนั่งในสวนสาธารณะ หรือข้างทะเลสาบในตอนหัวใจมันสับสนว้าวุ่น---]
>>งานเลี้ยง<< [ก็เพราะมันสนุก และเต็มไปด้วยรอยยิ้มน่ะสิ!]
>>เที่ยวเล่น<< [ความสุข! (..)]
>>ชาร้อน<< [มากิชอบกินชาร้อนในช่วงฤดูร้อน..เธอว่ามันคลายเครียด กับทำให้หายหัวร้อนได้ดีน่ะ //?]
>>เพลง<< [เธอชอบ..มันเพราะดีน่ะ..]
>>ไวโอลิน<< [เป็นเครื่องดนตรีที่สนใจมาตั้งเเต่เด็ก ทั้งยังฝึกเล่นจนชำนาญในระดับหนึ่ง เป็นเครื่องผ่อนคลายอารมณ์ชั้นยอด ทั้งเสียงของมันยังไพเราะมากอีกด้วย]
ไม่ชอบ ::
>>พวกชอบบังคับ<< [น่ารำคาญ]
>>คนผิดคำสัญญา<< [เวลาพบเจอคนพวกนี้มันจะทำให้เธอเสียใจและโกรธมากๆ อารมณ์ตอนนั้นทั้งหม่นหมองและบูดบึ้ง ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิด เพราะงั้นเลยไม่ชอบมากๆ เลยยังไงล่ะ..]
>>ช็อกโกแลต<< [เกลียดรสหวานของมัน..แต่ถ้าดาร์คช็อกโกแลตก็พอว่า]
>>น้ำเเข็ง<< [ตอนเด็กๆ เเม่เธอเคยบอกว่าน้ำเเข็งมันสกปรก..ตั้งแต่นั้นมา มากิก็ไม่เคยกินน้ำเเข็งอีกเลย ส่วนมากเเล้วจะชอบกระดกน้ำเย็นเพรียวๆ มากกว่า..พวกน้ำเเข็งไส หรือไอติมที่ชอบมีเกล็ดน้ำเเข็งเกาะนี่ก็พาลไม่กินไปด้วยซะอย่างนั้น---]
>>แดดร้อน ๆ<< [เหงื่อออกเหนียวเหนอะ ทั้งยังชวนหน้ามืดจะเป็นลมอีกต่างหาก]
>>คนโกหก<< [น่าตบมาก..จริง ๆ...]
แพ้ ::
>>กระเทียม<< [กินเเล้วแม่คุณจะไอค่อกแค่ก เเละมีไข้ขึ้นสูงค่ะ..ดังนั้นอย่าแปลกใจเลยค่ะ หากว่ามากิจะมีความเรื่องมากในการทานอาหารสูงมาก ฮาาา]
เพิ่มเติม :: ใบสมัครนี้เกิดได้จากการกรีดร้องสครีมในหน้าคาร์ หากผิดพลาดประการใด ขอโปรดรู้ไว้..ผปค.เขินจนนิ้วจิ้มไม่ถูกเเล้วค่ะ (“) ฮาาาาา ///////
เพิ่มเติมรายละเอียดตัวละคร
-มากิเป็นสตรีที่นอนได้ยาวปานซ้อมตาย..เธอเคยนอนยาวติดกัน20ชั่วโมงด้วยซ้ำ..
-และแน่นอนว่าหลังจากนอนมาราธอนรอบนั้นไป..มากิป่วยค่ะ (?) เฮ้! สรุปคือถ้านางนอนนานเกิน12ชม. นางจะป่วยหน้าซีดไข้สูงปรี๊ดแบบไม่มีสาเหตุเลยค่ะ..
-มากิกินผักสีเขียวทุกชนิดไม่ได้..แต่ถ้าส้มแครอท แดงมะเขือเทศ หรือม่วงกระหล่ำม่วงนี่ได้อยู่นะ (?) [สาเหตุคือเจ้าตัวบอกว่ามันขม--]
-อาหารปกติที่มากิกินประจำ คืออาหารจำพวกซุปค่ะ (เปอร์เซนต์นอนกระเทียมมันเยอะ--)
-เจ้าตัวมีอาหารเช้าที่หน้าตาเหมือนเดิมทุกวันคือ โจ๊กกุ้งใส่ไข่ กับ น้ำส้มคั้น เเละ น้ำเปล่าค่ะ--
-เป็นสมาชิกฟิตเนสตรงย่านการค้าใกล้บ้านต่อเนื่องกันมาได้สามปีแล้ว
-คุ้นหน้าคุ้นตากับพนักงานร้านฟิตเนสดีมาก เเน่นอนว่าผู้จัดการก็ด้วย เลยได้ส่วนลดมากเป็นพิเศษ (?)---
-ปกติแล้วไม่ออกงานสังคมค่ะ ถึงจะดังเเต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากินัก เพราะเจ้าตัวใช้นามเเฝงเเล้วก็ไม่เปิดเผยหน้าตา คนที่รู้ว่าเธอคือนักเเต่งเพลงชื่อดังเลยมีแต่คนดังในวงการด้วยกันที่สนิทๆ กับผู้จัดการส่วนตัวที่คอยบริหารรับงานรับเงินให้ และเพื่อนร้ากกกเท่านั้นค่ะ--
-มากิรู้จักมักจี่กับคนเยอะมาก และรู้จักในหลายสายงานด้วย เพราะงั้นเลยตามทันข่าวสารรอบโลก และมักได้รับส่วนลด (?) เวลาเข้าออกร้านในย่านการค้าเเถวบ้านหรือเครือเดียวกันบ่อยๆ
-มีสกิลในการเเต่งหน้าทำผมที่สูงเอาเรื่อง ค่อนข้างเซียนเลยทีเดียว นั่นเพราะเเม่เธอทำงานเป็นช่างเสริมสวยมือโปรให้กับพวกเซเลบดังๆ จนรู้จักทรงสวยๆ งามๆ และเทคนิคการเเต่งหน้ามากมาย ท่านจัดการสอนให้มากิรู้จักการแต่งหน้าทำผมตั้งเเต่ตอนอายุ18 เเม้จะไม่เก่งเท่าเเม่ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาด
-แต่ถึงงั้นเอาจริงมากิก็ไม่แต่งอะไรมากอยู่ดี ผมก็ทำแต่ทรงทวิลเทล ไม่เปลี่ยนทรงสักทีด้วยเหตุผลง่ายๆ แค่ว่า ชอบ แค่นี้เอง..
-ว่างๆ ก็มีรับจ็อบแต่งหน้าทำผมให้คนอื่นเขาบ้างตามเเต่โอกาส และช่วงเงินช็อตงานไม่เดิน---//คิดราคาคนกันเอง เบาๆ ถูกๆ เอาให้พอมาเลี้ยงข้าวตัวเองได้ เลยค่อนข้างเป็นที่ถูกอกถูกใจสาวๆ เขา เวลาเปิดจ็อบเลยมีลูกค้าเข้าไม่ขาดสาย--
}}เพิ่มเติมรายละเอียดตัวละคร{{
[การแต่งตัว] : มากิเป็นคนขี้ร้อนและค่อนข้างรักสบายในการเเต่งตัวพอตัว เจ้าตัวเลยชอบสวมใส่เสื้อผ้าง่ายๆ อย่างยีนส์ขาสั้นเเละเสื้อเชิ้ตสักตัวเสื้อกล้ามสีเข้มด้านใน มาพร้อมกับรองเท้าผ้าใบสักใบหิ้วด้วยกระเป๋าสะพายเก๋ๆ สักใบ เป็นลักษณะที่บอกได้เลยว่าเรียบง่ายเเละธรรมดามาก แต่ของพวกนั้นล้วนเเต่เป็นของมีราคาเเละเนื้อผ้าดีทั้งสิ้น รวมถึงเจ้าตัวเป็นคนสวยมากอยู่เเล้ว ถึงไม่ต้องเเต่งมากก็ออกมาดูดีสะกดสายตาได้เช่นกัน ประเด็นอยู่ที่ชอบสวมต่างหูอันใหญ่ไว้ข้างซ้ายข้างเดียว เเละใส่ที่คาดผมอันใหญ่ไว้ตลอดเวลา ชวนให้กะพริบตามองตามแปลกๆ
เวลาไปงานปาร์ตี้หรืองานที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ อาจจะหยิบเดรสมาใส่แล้วเเต่งหน้าเเต่งตา สวมเครื่องประดับสักนิด เเต่ก็ไม่ได้มากพะรุงพะรังอยู่ดี ll เรื่องการเเต่งหน้า จะเเต่งแบบสวยงามเฉพาะตอนออกงานใหญ่ แต่ถ้าเวลาปกติก็แค่ทาครีมกันเเดดกับลิปกลอสแค่นั้นเเหละ (ขี้เกียจเเต่ง..)
[การศึกษา] : ตั้งเเต่อนุบาลจนถึงมัธยมต้นเรียนโรงเรียนนานาชาติที่เน้นเรื่องการดนตรีโดยเฉพาะ เกรดดีงามโดยเฉพาะวิชาดนตรีเเละการกีฬา ส่วนวิชาการถือว่าไปรอดไม่ร่วงแต่ก็ไม่ดีเด่อะไรมาก ดีเด่นอีกด้านคือศิลปะ พอขึ้นมัธยมปลายย้ายไปเรียนโรงเรียนทั่วไป เกรดทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ขึ้นไม่ลง ไม่ดีไม่เเย่แต่อย่างใด มหาลัยเธอเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หากถามว่า ทำไมคณะที่เรียนถึงได้เเตกต่างจากอาชีพของเธอและเเนวทางในปัจจุบันของเธอ ต้องบอกว่า มากิคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนสายการดนตรีโดยเฉพาะค่ะ จบคณะอะไรมา หากอยากจะเป็นและมีความพยายามจริงๆ อาชีพไหนมันก็เป็นได้ค่ะ บวกกับตอนนั้นเกิดอารมณ์อาร์ทเเตก เลยไปลองสอบดู ไปๆ มาๆ ดันฟลุ๊คได้เสียอย่างนั้น เจ้าตัวก็เลยตามเลยไปเลยค่---[เอาจริงๆ มากิทำงานเป็นนักเเต่งเพลงมาตั้งเเต่ช่วงเรียนมหาลัยด้วยซ้ำค่ะ เรียนไปทำงานไป อย่างไรเสียถ้าเเบ่งเวลาเป็นมันก็ไม่มีปัญหาอยู่เเล้ว แต่ชื่อเสียงของเธอจะเริ่มมาดังเอาช่วงที่เธออยู่ปีสี่ค่ะ]
[การกีฬา] : มากิได้การกีฬารองลงมาจากดนตรีเเละศิลปะค่ะ เจ้าตัวเป็นมนุษย์ที่มีพลังงานล้มหลามและมีเเรงเยอะพอสมควร ความซ่าป่วนไปทั่วเเละหาเรื่องเล่นเที่ยวไม่เว้นเเม้เเต่ละวันของมากิ ก็เป็นตัวยืนยันได้ดี สำคัญคือมากิเป็นคนที่มีร่างกายยืดหยุ่นเเละตัวอ่อนมาค่ะ แต่กีฬาที่เจ้าตัวชอบคือว่ายน้ำ (เห็นเขาว่าเย็นดี (..))
[ประวัติกิจกรรม] : รางวัลที่ประดับประดาล้มหลามในตู้ส่วนมากเเล้วเป็น รางวัลเกี่ยวกับดนตรี ค่ะ เป็นการเเข่งแต่งเพลงเล็กๆ ในโรงเรียนและระหว่างโรงเรียน ช่วงที่เรียนมัธยมต้น พอขึ้นมัธยมปลายก็ได้รางวัลเเสดงไวโอลินมาครั้งหนึ่ง กับวาดภาพสีน้ำมันหัวข้อ ความหวัง มาหนึ่งรางวัล ช่วงมหาลัยไม่ได้มีรางวัลอะไรโดดเด่น จบมาเเล้วก็มีรางวัลนักเเต่งเพลงยอดเยี่ยมอีกสองสามอันค่ะ ll สาเหตุที่ไม่มีเกี่ยวกับการกีฬาเลยนั่นเพราะมากิเก่งเเต่ไม่คิดเเข่งค่ะ เล่นๆ ชิลๆ ไปงั้นเเหละ สบายดี
[มิตรสหาย] : ช่วงก่อนมัธยมปลายไม่มีคนที่สนิทมักจี่เป็นอย่างดีเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันนี้เพื่อนเยอะมากเเละล้มหลามสุดๆ ตอนเรียนมหาลัยก็ชอบไปร่วมกิจกรรมระหว่างคณะ เลยได้เพื่อนต่างสายงานสายเรียนมาอีกเพียบ มีเพื่อนสนิทสุดที่เลิฟอยู่คนหนึ่ง ซึ่งซี้กันมาตั้งเเต่ตอนม.ปลายปี3 ลักษณะนิสัยใจคอค่อนข้างฮาเฮ ร่าเริง และบ้าเที่ยวไม่ต่างจากมากิเท่าไหร่ แค่พลังงานน้อยกว่าเท่านั้นเองค่ะ [สามารถดูรายละเอียดคร่าวๆ ได้ที่ส่วนโปรไฟล์เพื่อน]
[ความรัก] : เคยมีเเฟนหนุ่มอยู่คนตอนช่วงมหาลัย เเต่คบกันได้เดือนกว่าก็เลิกไปเพราะเหตุผลที่ฝ่ายชายให้ว่า มากิดูจะไม่รักเขาเหมือนที่เขารักเธอ ซึ่งมากิก็ยอมรับเเละไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนั้นมันก็ให้ความรู้สึกไม่ใช่จริงๆ พอขึ้นปีสี่ก็คล้ายจะได้มีคนรักอีกครั้ง แต่ตอนนั้นสาวเจ้าเกิดอินดี้รุกเขาเเรงเกินไป (“) พ่อหนุ่มที่เป็นหนุ่มกินพืชเลยผวา ปฏิเสธรักเเละหลบหน้าไปไม่ยอมมาเจอมากิอีกเลย..(สวดอาเมนให้แม่นางสามจบถ้วน..)
[ครอบครัว] : นอกจากเเม่ของตัวเองเเล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในตระกูลโคโตเนะมันยังมีเหลืออยู่อีกกี่คน เพราะคุณแม่ที่รักดันไม่คิดติดต่อกับญาติๆ เลยสักนิด ส่วนครอบครัวของเธอ..ก็นั่นเเหละ มีแค่ตัวเธอและเเม่เท่านั้น หล่อนชื่อว่า โคโตเนะ สิมึเระ เป็นช่างเสริมสวยฝีมือดีเด่น ซึ่งมักมีลูกค้าเป็นเซเลบคนดังเสมอๆ เป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกภาพนิ่งๆ ดูจริงจัง เเละเข้มงวดในตัว เมื่อก่อนเจ้ากี้เจ้าการขู่เข็บมากิหนักมากๆ แต่หลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกันในตอนนั้น หล่อนก็เข้าใจในตัวมากิ ใจดีและอ่อนโยนกับมากิมากขึ้น รวมถึงยังตามใจลูกสาวมากกว่าเเต่ก่อนมากๆ แม้จะไม่ค่อยเเสดงออกทางวาจาแต่ก็เห็นได้ชัดจากการกระทำ ปัจจุบันสองแม่ลูกไม่ค่อยเจอหน้าเเละพูดคุยกันมากนักเพราะการงาน เเต่ก็รักกันดีกว่าเมื่อก่อนมากๆ สิมึเระมีผมและดวงตาสีเดียวกับมากิ แต่มีรูปหน้าเเละความรู้สึกดูสุขุมนิ่งเย็นกว่ามาก คาดว่าหน้าสวยๆ ของมากิคงได้รับมาจากพ่อของเธอ..ส่วนคำถามที่ว่าเขาเป็นใคร? อืม..นั่นสิ ใครก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าช่างหัวผู้ชายบ้าๆ นั่นไปเถอะ มากิน่ะลืมไปหมดเเล้วล่ะ ในด้านฐานะทางบ้านถือว่า รวยเอาเรื่อง เนื่องด้วยทั้งเเม่เเละลูกต่างมีงานการที่โกยเงินเข้าตัวได้มาก เเละมีนิสัยชอบเจียดเงินไปใส่บัญชีออมทรัพย์ไว้เสมอ มีสินสำรองเผื่อฉุกเฉิน เลยไม่ต้องเครียดว่าจะแกลบกินหัวมากนัก
[ที่อยู่อาศัย] : มากิอาศัยอยู่กับแม่ของเธอ บ้านของเธอเป็นบ้านสไตล์แนวโมเดิร์น }Click{ ขนาดพื้นที่เรียกได้ว่าค่อนข้างใหญ่พอสมควร ปัจจุบันมีห้องว่างให้มากิยึดไปทำห้องเเต่งเพลงของเจ้าตัวเล่นๆ ได้ห้อง กับอีกห้องไว้ใส่อุปกรณ์ทำผมเเต่งหน้าของขุ่นเเม่เขา รวมถึงชุดราตรีเเสนสวยของสิมึเระด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากห้องนอนของทั้งคู่เเล้ว ยังมีห้องว่างๆ ที่ตกแต่งเป็นห้องนอนไว้อีกห้องเผื่อมีแขกมาด้วยหนึ่งห้อง บ้านของมากิมีสวนหญ้าเล็กๆ ให้นอนเผล่รับลมได้ หน้าบ้านมีสระน้ำไว้ให้มากิกระโดดลงไปว่ายตอนร้อนๆ เรียกได้ว่าบ้านหรูมากก็ว่าได้เลยเชียว---//อนึ่งห้องรับรองเเขกชั้นล่าง โดนมากิแปรสภาพเป็นห้องพักแม่บ้านไปเรียบร้อย และคนใช้ที่ว่านี้คือหญิงวัย50ปีซึ่งดูเเลสองแม่ลูกมาโดยตลอด ได้รับความเคารพรักปานผู้ใหญ่ในบ้าน แต่เจ้าตัวยังมีความเคารพต่อเจ้านายทั้งสองเช่นกัน มีหน้าที่คือทำความสะอาด (ซึ่งบางทีสิมึเระก็มาเเย่งงาน (?) แม่บ้านคนเก่งเหมือนกัน) บ้านและดูเเลเรื่องอาหารการกิน (และคุณนายสิมึเระก็มาแย่งงานเธออีกตามเคย..เฮ้อ..) นั่นเองค่ะ
Profile her ฺBest friend
"ที่เธอเห็น มันก็แค่ภาพลวงตาา <3"
มินากะ โฮซุเรน {Minaka Hozuren}
Age : 24 ปี
Status : Alive / สไตล์ลิสคนเก่งของแบรนด์เสื้อผ้าสตรีชื่อดังแห่งหนึ่ง
}เพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของมากิ ที่คบกันมันตั้งเเต่ตอนมัธยมปลาย ภายนอกดูสุขุม เย็นยะเยือก และโคตรดุ (ราวกับหมา--) แต่ความจริงเเล้วเรื่องบ้าบอ เฮฮา และสายเที่ยวนี่ไม่ได้เเพ้เพื่อนตัวเองเลยสักนิด{
Talk To Me
✿ สวัสดีค่ะ..เราไดอาน่าเองง จะเรียกไดอาก็ได้นะ! แล้วผปค.ชื่ออะไรเอ่ย“
::สวัสดีค่าท่านไดอาา รันรันเจ้าเดิม (?) เพิ่มเติมเรียกรันก็ได้น้าาา
✿ ใบสมัครกับคำถามเราอาจจะเยอะไป(ไม่)หน่อย ขออภัยด้วยนะคะ! *กราบงามๆ*
::ไม่เป็นไรหรอกค่า ความจริงเคยกรอกที่ยาวกว่านี้มาเยอะเเล้ว..เพราะงั้นสตรองค่ะ ไม่หวั่น 5555
✿ ทำไมถึงเลือกคู่กับคนนี้คะ“
::สารภาพว่าตอนแรกไม่ได้อยากลงคู่นี้หรอกค่ะ..แต่ดูสิ ดูหน้าคาร์นั่นค่ะ ดูรอยยิ้มเขา ดูความชวนกรี๊ดนั่นนน! ฟสหกาวฟส-----////// (..) คือเอาเป็นว่าเจอหน้าคาร์ไปทีเดียว ก็สไลด์ไปเกาะขาร้องวี้ดว้ายเลยค่---จะอาวววว จะอ๊าววววววววววววววววววว----#โดนตบหนักมาก#
✿ ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้ค---แค่ก
::อืม ถ้าพูดตรงๆ ก็เพราะสนใจนั่นแหละค่ะไม่มีอะไรมากหรอก (?) แต่เอาแบบจริงจังอีกนิดคือ รันชอบภาษาดอกไม้อยู่เเล้วน่ะค่ะ เลยเลือกลง 555
✿ เรื่องนี้อาจจะมีการดองหรือลงช้าเป็นบ้างครั้งนะคะ รอได้รึเปล่าเอ่ย“
::รอได้สิคะ เอาจริงเจอดองมาเยอะจนทำไตได้ละ--ฮาาา (เพิ่มเติมคือตัวเองก็ดองเหมือนกัน---(..))
✿ ถ้าไม่ติด..เราขอโทษนะคะ ,_, ))
::ไม่เป็นไรหรอกค่าาา ถึงจะเสียใจที่ปั่นเเล้วนก แต่ทุกชีวิตบนโลกล้วนหนีไม่พ้นความนกหรอกนะคะ! อีกอย่างรั่นรั๊นเคารพการตัดสินใจของได๋น้าาา
✿ สุดท้ายนี้ มีอะไรจะบอกเรามั้ยคะ“ รักนะ ❤ 。◕‿◕
::จะบอกว่ารักยูเซมนะค----วร๊ายยยย ///// (..)
Look around yourself.
Now , Fly in to your sky.
-By Maki-
ความคิดเห็น