ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : DIABOLIK LOVERS | 彼岸花 [เลติซา สการ์เล็ต เลอร์มาเน่]
Why do I have to do as you say everything?
You aren't owner my life
My life is mine
Who can ordered me do anything. Have just me only one
[ทำไมฉันต้องทำตามที่นายสั่งทุกอย่าง?
นายไม่ใช่เจ้าของชีวิตฉัน
ชีวิตของฉันมันเป็นของฉัน
คนที่ออกคำสั่งกับฉันได้..มีแค่ตัวฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น]
_______________________________
(โปรดระวังเพลงลั่น)
REGISTRATION FORM
"คิดจะมาออกคำสั่งกับฉัน กลับไปส่องกระจกดูหนังหน้าตัวเองก่อนดีไหม?"
นามสกุล - ชื่อ : เลติซา สการ์เล็ต เลอร์มาเน่ [Letiza Scarlet Lerrmane]
*เลติซา กับสการ์เล็ตเป็นชื่อนะคะ ส่วน เลอร์มาเน่นั่นเป็นนามสกุลค่ะ!
ชื่อเล่น : เลติซา [Letiza] ll สการ์เล็ต [Scarlet]
*สการ์เล็ตเป็นชื่อเรียกสำหรับคนที่เลติซา รักมากที่สุด เท่านั้น เมื่อก่อนคนคนนั้นคือแม่ของเธอ แต่ปัจจุบันนี้..nonค่--
สัญชาติ : อเมิรกัน-รัสเซีย
อายุ : 18 ปี
ลักษณะภายนอก : กล่าวถามว่า เลติซา สการ์เล็ต เลอร์มาเน่ นั้นรูปร่างหน้าตาเช่นไร คงต้องบอกว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีองค์ประกอบดูเผ็ดร้อนและมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น เลติซามีเรือนร่างสมส่วนได้รูปทรวดทรงองค์เอวงามพร้อมราวกับนาฬิกาทราย ด้วยส่วนสูงถึง174ซม. และน้ำหนัก56กก. เธอจึงเป็นสาวหุ่นนางแบบที่แฝงด้วยกล้ามเนื้อสวยไม่ได้น่าเกลียดแต่อย่างใด ด้วยอกอิ่มรับขนาดตัวเเละสมช่วงอายุ หน้าท้องเเบนราบไร้ซึ่งไขมันส่วนเกิน เอวคอดกิ่วเหมาะมือสวนกับสะโพกที่ผายออกอย่างพองาม เรียวขาเรียวสวยได้รูปน่าสัมผัส ผิวขาวเนียนนุ่มติดซีดเผือดเห็นเลือดฝาดจางๆ ชวนให้ฝังคมเขี้ยวลงไปบนร่างกาย โครงหน้าสวยเฉี่ยวติดหวานเฉกเช่นสตรีคนหนึ่ง ดวงตาสีแดงอมชมพูประกายวาวงดงามเปี่ยมด้วยความมั่นอกมั่นใจ ล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนางอนยาว เครื่องหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา ทั้งจมูกโด่งเป็นสันดั่งกรรมพันธุ์พ่อให้มา รับกับเรียวคิ้วโก่งคล้ายคันศรสีเดียวกับเส้นผม แก้มเนียนปรากฏเลือดฝาดแบบสาวสุขภาพดี ริมฝีปากอวบอิ่มระเรื่อชมพูน่าลิ้มลองที่แม้ยามปกติจะราบเรียบ แต่เมื่อเธอกระตุกมุมปากขึ้นเเล้ว มันจะชวนให้คุณรู้สึกอยากครอบครองเธอเพราะเสน่ห์อันล้นเหลือของเธอเอง และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดบนเรือนร่างของเลติซา ต้องบอกว่าเป็นเส้นผมนุ่มสลวยตัดสั้นระต้นคอบ๊อบสไลด์ สีแดงแรงร้อนเสริมให้เลติซาดูมีบุคลิกเป็นสาวเซ็กซี่อมหวาน ที่สามารถทำให้คุณคลั่งตายได้อย่างง่ายดาย
อุปนิสัย :
เลติซา สการ์เล็ต เลอร์มาเน่..สาวงามมากเสน่ห์สุดร้อนแรง ผู้ที่ไม่ว่าใครหากได้เข้าใกล้หรือสัมผัสลิ้มลองตัวเธอแล้ว จะต้องหลงในเสน่ห์อันแสบร้อนเเรงของเธอจนรู้สึกแทบอยากจะคลั่งเสียให้ได้ เลติซาเป็นผู้หญิงที่ถ้าหากมองเพียงแค่ภายนอก คุณจะรู้สึกว่าเธอช่างเป็นคนที่เซ็กซี่เสียจริงๆ แต่นั่นไม่ใช่เพราะแค่หน้าตารูปร่างของเธอที่ดูร้อนแรง และไม่ใช่สีแดงเเรงร้อนบนร่างกายของเธอด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งที่ทำให้ทุกคนหลงใหลในความเร่าร้อนนั้น คือหนึ่ง..บุคลิกภาพ เลติซาเป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าจะนั่ง เดิน วิ่ง หรือทำอะไรอยู่ก็ชวนให้รู้สึกเหมือนภาพศิลป์ และแฝงด้วยความเซ็กซี่ทุกท่วงแบบธรรมชาติ และสอง..ดวงตา ดวงตาของเลติซานั้นแม้จะดูดุคม แต่สีของมันก็สวยเสียจนชวนให้ไม่อาจละสายตาจากดวงตาคู่นั้นได้เช่นกัน สุดท้าย..นิสัย แม้นิสัยของเธอจะออกไปทางดิบเถื่อนเล็กน้อย แต่ความเจ้าเล่ห์เจ้ากลที่แฝงอยู่นั้น มันก็ช่วยเสริมเสน่ห์ของเธอได้อย่างน่าประหลาดใจมากเช่นกัน..
เลติซาเป็นผู้หญิงที่ฉลาด ภายใต้ภาพลักษณ์ร้อนแรงนั้นคือความคิดที่หมุนวนตลอดเวลา ไม่มีใครเดาได้หรอกว่าช่วงเวลาหนึ่งเธอคิดอะไรอยู่ เพราะเลติซาไม่ได้คิดอะไรอยู่ในหัวเพียงเเค่อย่างเดียว เธอคิดถึงสิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้ และคิดเส้นทางต่อยอดจากนั้นไปอีกหลายเส้นทาง เป็นสาวนักวางแผน เลติซาไม่ชอบอะไรที่ควบคุมไม่ได้ เธอชอบที่จะเห็นทุกอย่างตกอยู่ในความควบคุมของเธอ เพราะมันจะทำให้เธอเป็นราวกับ ราชินี ที่สามารถสั่งการหรือบังคับควบคุมอะไรก็ได้ตามใจชอบไงล่ะ นอกจากนี้เลติซายังเป็นคนที่ตลบหลังคนเก่งมากอีกด้วย เธอเป็นพวกไม่เเสดงความฉลาดออกมาพร่ำเพื่อ แต่มักเก็บมันไว้ในหัวให้คู่ต่อสู้ตายใจ และเมื่อถึงวินาทีสุดท้ายที่อีกฝ่ายคิดว่าชนะเเล้ว เธอก็จะจัดการตลบหลังเเล้วคว้าชัยชนะมาครองได้ง่ายดาย โดยที่พวกนั้นยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวอะไรเลยยังไงล่ะ
เลติซาไม่ใช่ผู้หญิงใจดี อ่อนหวาน อ่อนโยน เธอไม่ได้มีความสงสารแจกจ่ายให้คนอื่นไปทั่ว หญิงสาวอาจจะถูกจัดอยู่ในหมวดพวกเลือดเย็นได้เลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นเวลาที่มีใครล้ม เธอจะไม่ช่วย แต่เธอจะซ้ำเติม ไม่ใช่ว่าเลติซาเป็นพวกมีความสุขกับความทุกข์ของชาวบ้านเขาหรอกนะ แต่เพราะเธอมีความคิดที่ว่า ความโกรธเป็นแรงผลักดันอันสำคัญให้คนเราเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้า เพราะงั้นเธอจึงซ้ำ เพื่อให้พวกเขาลุก และกล้าที่จะเดินต่อไปไม่ใช่เอาแต่ร้องไห้ครวญครางโทษทุกสิ่งรอบตัวหรือเเม้แต่ตัวเอง แต่ที่ทำไปไม่ใช่เพราะความเห็นใจอะไรหรอก เลติซาก็แค่รู้สึกสมเพชจนไม่อยากจะมอง แต่ครั้นจะให้ลงไปช่วยเต็มตัว เธอก็รู้สึกหงุดหงิด..เพราะแบบนั้น เธอจึงเลือกที่จะสุมเชื้อเพลงให้แทนยังไงล่ะ..เห็นไหม? บอกเเล้วว่าเลติซาน่ะเป็นพวกที่ อาจจะ จัดอยู่ในหมวดพวกเลือดเย็นจริงๆ
เลติซาเป็นสาวหน้านิ่ง ใบหน้าหวานเฉี่ยวของเธอยามปกตินั้นจะราบเรียบไร้รอยกระตุก เเต่ก็ใช่ว่าเธอจะเป็นคนไร้อารมณ์ เลติซาก็รู้สึกปกติเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ แค่ไม่ชอบแสดงออกมาเกินความจำเป็นก็เท่านั้น หากอยากรู้ว่าเลติซานั้นรู้สึกอย่างไร ให้คุณมองที่ดวงตาของเธอสิ มันจะสื่อทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจนเลยล่ะ เหมือนกับคำว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ยังไงล่ะ เลติซานั้นจะมีการเคลื่อนไหวบนใบหน้าไม่มากนักในเวลาปกติ แต่ที่สิ่งที่เธอชอบทำเป็นประจำนั่นคือการ กระตุกยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เพราะเวลาที่เธอรู้สึกชอบหรือถูกใจในอะไร เลติซาจะเเสดงความอยากได้ออกมาด้วยการกระตุกริมฝีปาก เผยความเจ้าเล่ห์ออกมาทางสีหน้าจางๆ ให้รู้สึกหวั่นเล่นกันไปตามๆ กัน เลติซาเป็นพวกชอบความท้าทาย ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ และยิ่งได้มากยากเย็นเท่าไหร่..ก็ยิ่งชอบ
เลติซามีนิสัยไม่ยอมคน ถือคติว่า ชีวิตของฉันมันก็คือของฉัน ไม่ว่าใครก็มาสั่งการ บงการเธอไม่ได้ ชีวิตเธอเธอใหญ่สุด อย่ามาลองดีอย่ามาชี้นิ้วสั่ง เลติซาไม่ชอบ และยิ่งไม่ชอบหากมีใครพยายามบังคับจิตใจเธอ เลติซานั้นหากไม่อยากทำอะไรเธอก็จะไม่ทำ หากไม่อยากบอกอะไรเธอก็จะไม่บอก อยากทำอะไรก็ทำ ทำตามอารมณ์ตามใจของตนเองเป็นที่สุด กฏเกณฑ์สำหรับเลติซาเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะเธอคือกฏยังไงล่ะ หรือต่อให้พูดบ่นเธอจนปากจะฉีกยังไง เลติซาก็ไม่คิดจะฟังอยู่ดีนั่นเเหละ หากอยากให้เธอทำตามก็มีแค่ต้องใช้กำลังเท่านั้นล่ะนะ แต่ระวังไว้ล่ะ ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ศิลปะการต่อสู้เลติซาเองก็พอมีติดตัวไว้เหมือนกันนั่นแหละ
เลติซาเป็นพวกปากจัด..มากถึงมากที่สุด วาจาของเธอนั้นทั้งกระแทกแดกดัน จิกกัดสารพัด แสบทรวงไปถึงกลางใจ เธอไม่ได้สนว่าคำพูดของเธอมันจะทำให้ใครโกรธหรือร้องไห้รึเปล่า เพราะงั้นเธอจึงพูดแต่ในสิ่งที่เธอคิด มีความคิดในหัวค่อนข้างรุนแรงไม่หยอก เพราะเติบโตมาในสังคมที่เรียกได้ว่า เถื่อนพอควร ของบ้านเกิดในรัสเซีย เลติซาเป็นคนมองตรงจุด เธอไม่ชอบการอ้อมค้อมเสียเวลา สิ่งที่มองคือใจความสำคัญเท่านั้น เพราะงั้นคำพูดของเธอจึงไม่มีใครเถียงได้สักที นั่นเพราะถึงแม้เธอจะพูดแรงพูดตรงจนอีกฝ่ายควันออกหูขนาดไหน พวกเขาก็เถียงไม่ออก เพราะนั่นคือความจริง แต่เธอไม่ได้พูดตลอดเวลาหรอกนะ เวลาปกติเลติซาจะชอบปิดปากเงียบ ถึงจะไม่แคร์จิตใจชาวบ้าน แต่บางครั้งคราวกับคนบางคนเธอก็รู้ตัวว่าพูดด่าด้วยมากไม่ได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายมาทำให้เธอหงุดหงิด และรุกเร้าอยากจะพูดกับเธอเสียให้ได้ เลติซาก็ไม่ทำให้เสียน้ำใจ ทุกความคิดจะได้ถ่ายทอดออกไปจากปากของเธออย่างแน่นอน
เลติซาเป็นพวกพูดตัดบท ในขนาดที่คนอื่นกำลังสาธยายร่ายยาวอะไรก็ไม่รู้ เธอสามารถโพล่งแทรกขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังบ่นสักคนให้เธอฟัง เมื่อทนไปสักพัก เลติซาก็โพล่งออกมาประมาณว่า 'แล้วมาบอกฉันทำไม ฉันเป็นพ่อนายเหรอ?' ก่อนจะหันไปสนใจกิจกรรมของตัวเองต่ออย่างไม่คิดใส่ใจว่าคนพูดอยู่จะหน้าชาขนาดไหน หากถามว่าเลติซาพูดแบบนี้ไม่กลัวโดนดีบ้างเหรอ?..อันที่จริงก็นิดนึงล่ะนะ เพราะงั้นเธอถึงได้ปิดปากเงียบในเวลาปกติยังไงล่ะ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เพราะเลติซาเป็นพวกปากไว..ไปไวกว่าความคิด ราวกับว่าเธอใช้สัญชาตญาณในการพูดมากกว่าจะตรองก่อนพูด ดังนั้นคำพูดของเลติซาจึงเป็นถ้อยคำที่ออกมาจากใจจริงของเธอเสมอ อนึ่ง แม้จะปากไว แต่ถ้ามีแผนในหัวก็สามารถเก็บงำความคิดปิดปากเงียบได้เช่นกัน แต่ถ้าเธอฟอร์มหลุดหรือเอาง่ายๆ ว่า โกรธ เลติซาจะไม่มีกั๊กอะไรทั้งนั้น รู้สึกอะไรพูดไปหมดนั่นน่ะแหละ
เลติซามีความเป็นสาวเถื่อนในตัวเองพอประมาณ เธอไม่ใช่คนพูดจาอ่อนหวานคะขาแต่อย่างใด มารยาทน่ะรู้จัก แต่ไม่ชอบใช้ เลติซาชอบความเป็นตัวเองมากกว่าจะมาฉีกยิ้มหวาน หัวเราะปิดปากแบบที่ลูกผู้ดีคุณหนูทั้งหลายเขาทำกัน เธอเป็นสายฮาร์ดคอร์ ทั้งวาจาและการกระทำนั่นแหละ ถ้าเกิดว่าสายสัมพันธ์มันยุ่งยากเหมือนด้ายพันกันไปมานัก ก็ตัดมันไปทิ้งไปซะเลยสิ? และกับคนที่พูดแล้วไม่ฟังคิดจะลองดีกับเธอ เลติซาก็พร้อมที่จะใช้กำลังทำให้อีกฝ่ายมันรู้สำนึกเช่นกัน ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ ท่าทางอย่างไรที่ควรแสดงออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคนขีดความอดทนสูงพอตัวเหมือนกัน เพราะวัยเด็กเลติซาอดทนต่ออะไรมามากกว่านี้เยอะ แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยพวกนี้มันไม่คณาใจเธอเท่าไหร่หรอก แต่อย่าคิดว่าเลติซาความอดทนสูงแล้วจะมากวนประสาทเธอได้ล่ะ เพราะถึงไม่ได้โกรธ เลติซาก็สามารถเอาหนังสือเล่มโปรดในมือเธอฟาดหัวคุณได้เหมือนกัน
เลติซาเป็นพวกรักสันโดษ เธอไม่ชอบการเข้าหาผู้อื่น เธอเกลียดสังคมใหญ่ เลติซาเป็นพวกหมาป่าเดียวดาย ทำงานคนเดียว รับประโยชน์คนเดียว ไม่ชอบแชร์งานกับใครเพราะมันยุ่งยาก นอกจากนี้อาจทำงานเธอเสียได้อีกด้วย เลติซาเป็นคนมีความสามารถมากหลายทางและรอบด้าน เพราะวัยเยาว์นั้นเรียนมาไม่รู้กี่อย่างแล้วยังไงล่ะ เเละเพราะความเก่งจัดของเธอนี้ ทำให้เลติซาเป็นสาวมั่นหน้าที่ไม่ได้หลงตัว เธอมีความมั่นใจสูงดังนั้นจึงกล้าท้าทายคนอื่นไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้คิดว่าทำได้ทุกอย่าง เพราะงั้นจึงได้บอกว่าเธอไม่ใช่พวกหลงตัวเองอย่างยังไงล่ะ และด้วยความมั่นหน้ามั่นใจที่พกพามาแบบเต็มร้อยนี้ เวลาที่ความคิดของเลติซาหรือสิ่งที่เธอทำมันผิดพลาด สาวเจ้าจะออกอาการเสียศูนย์ค่อนข้างหนักเลยทีเดียว อ๊ะ จะบอกว่าเลติซาน่ะ ถึงจะชอบความเป็นตัวของตัวเอง แต่ถ้าให้เธอสวมหน้ากากปิดบังความรู้สึกของตัวเอง เลติซาก็ทำได้เหมือนกัน
แหม..ของแบบนี้น่ะมันง่ายจะตายไป ก็เธอมันมาจนชินตั้งแต่เด็กๆ แล้วนี่นา
เลติซาไม่ใช่พวกสายปลอบคนอื่น แต่เป็นสายด่าจิก ไม่ค่อยมีใครเห็นเธอพูดดีๆ กับชาวบ้านเขานักหรอก เลติซาพูดดีๆ แบบคนอื่นไม่เป็น หาเรื่องแขวะมันทุกทีนั่นแหละ จะชมทั้งทียังต้องแฝงคำด่าเข้ามาด้วยเลย เป็นพวกด่าเเรงมาก แถมด่าตรงจุดสุดๆ เธอชอบรุกไล่คนอื่นด้วยคำพูด เถียงมาเถียงกลับ โต้มาโต้กลับ แต่เลติซาจะโต้คืนเป็นสองเท่า ไม่ได้น่ารักมาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่ห่วงว่าปากมันจะพาลให้คนมาเกลียด เพราะงั้นเลติซาจึงไม่คิดจะยั้งวาจายามด่าเลยเเม้แต่น้อย เรียกได้ว่าใครคิดจะมาประชันฝีปากกับเธอนี่มันสิ้นคิดชัดๆ เเละระวังด้วยล่ะ เลติซาไม่ใช่พวกรักษาน้ำใจใคร เพราะงั้นถ้ากล้ามาเถียงกับเธอแล้ว ต่อให้คุณขอให้เธอหยุด เลติซาก็ไม่หยุดอยู่ดีนั่นแหละ
เลติซานอกจากจะวางแผนเก่งแล้ว ยังฉลาดพูด..เฉพาะงานสำคัญเท่านั้นนะ หากอยากให้เธอเจรจากับใคร เลติซาก็โอเค แต่มันไม่ใช่การเจรจาอย่างสันติวิธี เนื่องด้วยเลติซานั้นมองคนเก่ง แถมยังลักไก่เก่งยิ่งกว่าอะไรดี เธอจึงชอบทำเหมือนกับว่ากุมความลับของคนๆ นั้นเอาไว้ แล้วใช้คำพูดกดดันไล่ต้อนให้อีกฝ่ายจนมุมจนต้องยอมให้เธอยังไงล่ะ ซึ่งส่วนมากก็สำเร็จซะด้วย..นั่นหมายความว่าเลติซาเป็นฝ่ายไล่ต้อนเสมอ และไม่เคยถูกไล่ต้อนจนตัวเองต้องจนมุมเลยสักครั้งเดียว เลติซารับมือกับสถานการณ์ได้หลายอย่าง แต่กับอะไรที่ไม่เคยพบเคยเจอมาเลยสักครั้งเดียวนั้นต้องบอกเลยว่า ยาก สิ่งเดียวในชีวิตที่เลติซาทั้งกลัวทั้งเกลียด นั่นคือการถูกต้อนให้จนมุม และเธอไม่สามารถรับมือกันมันได้ แต่เพราะเลติซาเป็นพวกมีประสบการณ์ในหลายๆ เรื่อง จึงหาได้ยากนักที่จะเห็นเธอจนมุม
เลติซาไม่ได้มีดีแค่ฉลาด ถึงได้คุมชาวบ้านเขาได้ แต่เธอมีความเจ้าเล่ห์อยู่ในกระแสเลือดด้วยเช่นกัน เลติซาก็เหมือนหมาจิ้งจอกนั่นเเหละ มันรู้แรงกำลังของมันว่าสู้ราชสีย์ไม่ได้ เพราะงั้นมันจึงใช้ความเจ้าเล่ห์ของมันหลอกล่อราชสีย์ แล้วขโมยเหยื่อมาเป็นของตัวเอง แต่เลติซาไม่ใช่พวกงูพิษ ที่เจ้าเล่ห์แกมโกงคิดแว้งกัดชาวบ้านเขาตลอดเวลาหรอกนะ ตรงกันข้าม เลติซายึดถือเรื่องความนับถือเชื่อใจมาก อย่าคิดทรยศเธอ ถ้าคุณยังไม่อยากให้เธอโกรธจนแทบคลั่ง และถ้าเมื่อไหร่ที่คุณคิดทรยศเธอ เลติซาก็พร้อมจะทำให้คุณรู้ว่า นรกบนดิน มันเป็นยังไง อย่าลืมล่ะว่านอกจากคำพูดและความฉลาดเจ้าเล่ห์ของเธอเเล้ว เลติซายังเป็นผู้หญิงเถื่อนที่เก่งเรื่องต่อยตีอีกด้วย
เลติซาแถเก่งมาก ถ้าพูดผิดเธอก็สามารถแถให้ตัวเองกลายเป็นคนถูกได้ ไหลลื่นยังกับปลาไหล เพราะสมัยก่อนเธอไม่สามารถพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูดได้ พอหลุดปากไปก็ต้องรีบแถให้ความหมายมันเปลี่ยน จะเรียกว่าสกิลที่สั่งสมมาเเต่เด็กก็ได้ ไม่ผิดนัก ส่วนปัจจุบัน..ไม่ชอบก็ไม่ทำ อยากพูดอะไรก็พูดไง จบป่ะ?
เลติซาไม่ใช่คนมนุษย์สัมพันธ์ย่ำแย่อะไร แค่เพราะความเถื่อนเธอมันกลบความเป็นมิตรอันน้อยนิดในก้นบึ้งหัวใจเธอไปจนหมดเเล้วต่างหากล่ะ หากมีเพื่อนสนิทสักคน เลติซาก็พร้อมจะทุ่มใจ เเละเชื่อเพื่อนของเธอจนหมดหัวใจ เลติซาหาคนเชื่อใจและสนิทด้วยยากจากหลายๆ เหตุผล แน่นอนว่านิสัยเธอคือส่วนหนึ่ง รักสันโดษแต่ก็แอบเหงาบ้างบางเวลาที่ไม่มีอะไรให้ทำ เพราะงั้นถ้าเธอมีสิ่งที่เรียกว่า เพื่อนสนิท เลติซาจะถนอมความสัมพันธ์เอาไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าหากมันมาถึงจุดที่ว่า ไม่ไหวจริงๆ แล้ว เธอก็พร้อมจะตัดความสัมพันธ์ลงเช่นกัน..ไม่ใช่ว่าไม่อาลัยอาวรณ์อะไรหรอก เธอก็แค่คิดว่าคนเราถ้ามันไม่ได้เกิดมาเพื่อสนิท หรือเคียงข้างกันจริงๆ พยายามให้ตายยังไง มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมาหรอก
เลติซาโกรธยากหายยาก ปกติจะเห็นแต่เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียมากกว่า มีไม่กี่อย่างหรอกที่ทำให้เธอโกรธได้ แต่อย่างหลักๆ เลยคือการที่คุณไม่ได้เข้าใจอะไรในตัวเธอ หรือสิ่งที่ได้รับและรู้สึกเลย และพยายามยัดเหยียดความคิดของคุณให้กับเธอทุกอย่าง เลติซาจะผิดหวังกับคนจำพวกนี้มาก แต่สิ่งที่มากกว่าความผิดนั้นคือความโกรธ เลติซาจะโกรธมาก..โกรธถึงขั้นที่ว่าเธอไม่อาจให้อภัยกับคนพวกนี้ได้เลย และตัวอย่างก็ยังคงมีให้เห็นกันอย่างชัดเจน นั่นคือพ่อแม่ของเธอ ที่ต่อให้ตายยังไง เลติซาก็ไม่คิดจะกลับไปเรียกท่านสองว่าพ่อและแม่อีกต่อไป
เลติซาเขินอายยาก เพราะเกิดโตมากับผู้ชาย แต่ไม่ใช่พวกสามัญสำนึกทางเพศต่ำ เลติซายังคงเขินอายและใจเต้นกับผู้ชายหล่อๆ เหมือนชาวบ้าน แค่รสนิยมเธอจะสูงปรี๊ดเป็นพิเศษเท่านั้นแหละ หรือไม่ถ้าอยากเห็นเธอเขิน..ก็ลองเดินเปลือยอกไปหาเธอ เเล้วเอามือเธอไปวางลงบนซิคแพคเธอสิ เขินแน่นอน (?) เเต่เนื่องด้วยไม่ค่อยมีคนมาหวานอ่อนโยนใส่เท่าไหร่ ดังนั้นหากเธอได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างอ่อนโยน เธอก็เขินได้เช่นกัน แต่ถ้าถามว่าชอบไหม..ต้องบอกว่าไม่ ก็เลติซาชอบความร้อนเเรงมากกว่าอ่อนหวานนุ่มนิ่มนี่นา ถึงจะเขินแต่ก็รู้สึกแปลกๆ ล่ะนะ ส่วนตัวเจ้าตัวไม่ได้อินโนเซนต์เรื่องความรักหรือเรื่องอย่างว่า รู้นะว่าทำไง แต่ไม่เคยลอง----จะสวยเซ็กซี่ขนาดไหนแต่ปากจัดขนาดนี้ชาวบ้านเขาก็ทนไม่ไหวกันทั้งนั้นเเหละ (แน่นอนว่าอีกเหตุผลคือเกณฑ์วัดความหล่อของเลติซาเอง) แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีคนหลงมาจีบเธออยู่เรื่อยๆ เพราะเสน่ห์ของเธอเองล่ะนะ
เลติซามีกิจกรรมยามว่างคือการอ่านหนังสือ..ไม่ใช่นิยายรักหวานแหวว แบบที่พวกสาวๆ ทั่วไปชอบอ่านแต่อย่างใด เลติซาชอบความตื่นเต้นเร้าใจและลุ้นระทึก หนังสือที่เธออ่านจึงออกไปทางแนว สยองขวัญ ระทึกขวัญ เอาตัวรอด ฆาตกรรม หรือเรทอาร์--เสียมากกว่า นอกจากนี้แล้วถ้าไม่มีหนังสือให้อ่าน เลติซาจะชอบไปออกกำลังกายเล่น เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อมันล้าแล้วไขมันมาปรากฏบนร่างของเธอได้ยังไงล่ะ แต่บางครั้งก็ขี้เกียจ ขอไม่ทำมันทั้งสองอย่าง แต่ล้มตัวลงนอนแทนเลยก็แล้วกันนะ ตัวเลติซาถึงจะเถื่อนขนาดไหน แต่ก็ยังมีความเป็นสาวที่รักสวยรักงามอยู่ เเฟชั่นของเธอน่ะระดับนำยุคทั้งนั้น นอกจากนี้ยังรักอนามัยมาก ไม่ชอบของสกปรกทุกประการ แน่นอนว่าคนซกมกด้วยเช่นกัน แค่คุณไม่อาบน้ำสองวันต่อครั้ง เลติซาก็บอกว่าไม่อยากจะเข้าใกล้เเล้ว และด้วยเหตุนี้ เลติซาจึงไม่ชอบไปตะลุยป่า หรือที่ไหนๆ ที่มันทำให้ตัวเธอสกปรก สิ่งเดียวที่ยอมคือการออกกำลังให้ได้เหงื่อเท่านั้นแหละ
เลติซาปกติเถื่อนอยู่ ถ้าหงุดหงิดหรือโกรธขึ้นมาจะยิ่งเถื่อนเป็นพิเศษ และแน่นอนว่ามีช่วงที่ระดับความเถื่อนของเธอจะลดลง สองช่วงเวลานั่นคือ หนึ่ง เวลาที่เธอง่วงนอน เลติซาเป็นสายการนอนคือพระเจ้า หากได้นอนเเล้วเธอจะหลับลึกหลับยาวจนกว่าจะนอนเต็มอิ่ม ถ้ากำลังงัวเงียง่วงนอน เธอจะพยายามหาเตียงนุ่มๆ หรือหมอนหนุนมานอนเสียให้ได้ แถมพอหลับเเล้วยังชอบละเมอคว้าของข้างตัวมากอดอีกต่างหาก ทำไงได้ล่ะ ก็คนเขาติดหมอนข้างนี่นา เรียกได้ว่าดูน่ารักขึ้นมานิดหน่อย (หน่อยเดียวจริง ๆ..)..อีกกรณีคือเวลาที่เธอเมา อ่า..ไม่ ไม่ได้ขี้ยั่ว หรือขี้อ้อนขึ้น เลติซาแค่เมาเเล้วจะพูดแบบปกติสามัญโลกมนุษย์เท่านั้นแหละ หรือก็คือพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจด้วยภาษาปกติโดยไม่แขวะไม่ด่ายังไงล่ะ
เลติซานั้นแอบขี้เเกล้งและรักสนุกในเรื่องความรัก ปกติคนรักกันจะชอบเเสดงความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รู้ แต่เลติซาไม่ใช่ เธอชอบทำเป็นเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร เก็บความรู้สึกจริงๆ ไว้ข้างใน ให้อีกฝ่ายรู้สึกคลั่งหงุดหงิดหรือกระวนกระวายใจเล่น เลติซาไม่ชอบพูดคำว่ารัก แต่เธอชอบแสดงความรักในแบบของทางด้านการกระทำมากกว่า ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดที่เธอสามารถมอบมันให้แก่คนรักของเธอได้ ก็คือจูบแสนอ่อนหวานที่เต็มไปด้วยความรักจากเธอยังไงล่ะ..บางคนอาจจะบอกว่านั่นมันธรรมดามาก แต่สำหรับคนหวงเนื้อหวงตัวเเบบเลติซา คุณไม่คิดบ้างเหรอว่ามันเป็นอะไรที่วิเศษน่ะ?
เลติซาแม้จะไม่แสดงออกว่ารักมากนัก แต่เรื่องความใส่ใจดูแลเอาใจใส่อีกฝ่ายและความจริงใจ เธอให้เต็มร้อยนะ เลติซาไม่ใช่พวกทำในสิ่งที่ไม่ถนัดเพื่อชาวบ้าน แต่ถ้าเพื่อคนที่เธอรักมากๆ เลติซาก็จะยอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบขึ้นมาบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การที่เธอฟังคำเตือนคำบ่นของคนรัก หรือการที่เธอยอมละมือจากอะไรที่อยากได้ เพียงเพราะอีกฝ่ายไม่ชอบ แต่พีคสุดคงต้องเรื่องงานบ้านงานเรือน เลติซาเกลียดมาก..เกลียดเข้ากระดูกดำจริงๆ กับงานบ้านงานเรือน เธอไม่ใช่สาวแม่บ้านน่ะสิ เพราะงั้นการที่เธอลุกมาทำอะไรแบบนี้เพื่ออีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องพีคจริงๆ แต่ทางที่ดีคนรักของเธอควรมีความรู้ด้านนี้และมาช่วยเธอทำด้วย มิเช่นนั้นอาจเห็นเลติซาลากถุงดำถุงโตไปทิ้ง เนื่องด้วยทำเครื่องเรือนพังไปเป็นกองก็ตาม แต่..เลติซาทำอาหารเก่งนะ ต้องบอกว่าชั้นเซียนเลยทีเดียว แค่ขี้เกียจก็เลยเนียนว่าทำไม่เป็นแค่นั้นแหละ แต่ถ้าถามว่าทำให้คนรักทานไหม ก็นานๆ ทีแล้วแต่โอกาสพิเศษกันไป..คนมันขี้เกียจ ต่อให้เอาช้างทั้งฝูงมาชุดยังไงก็ยังขี้เกียจอยู่ดีนั่นแหละ
เลติซาเกลียดพวกขี้บ่น จู้จี้ บงการมาก อย่างที่บอกว่าเป็นพวกไม่ยอมคนอย่างร้ายกาจ นอกจากนี้คือเธอเกลียดพวกที่เหมือนตัวเอง เพราะสำหรับเลติซา ตัวเธอเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ยาก แม้เเต่เจ้าของร่างกายและจิตใจอย่างเธอบางครั้งยังงงกับตัวเองเลย ว่าทำไมถึงต้องทำอะไรแบบนั้น (ซึ่งถ้าให้บอก มันก็คงเพราะสัญชาตญาณของเลติซานั่นแหละ) เพราะงั้นเวลาเจอคนที่คล้ายกับตัวเอง เลติซาจะรู้สึกรับมือยากเป็นพิเศษ ดังนั้นเลยเกลียดมากเป็นพิเศษเช่นกันยังไงล่ะ เป็นพวกยึดอำนาจ Meธิปไตย ยึดตนเป็นศูนย์กลาง อย่ามาสั่ง อย่ามาบังคับ ไม่งั้นมีโกรธ และคนที่สามารถดุเธอ เตือนเธอได้ ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นคือตัวเธอเอง (....) แต่..นั่นก็เป็นแค่ตอนนี้ที่เธอไร้ซึ่งคนสำคัญที่สุดในชีวิต เป็นแค่ตอนนี้ที่เธอรู้สึกว่าคนที่ห่วงใยเธอมันมีแค่เธอเองเท่านั้น..หากอยากจะบงการชีวิตของผู้หญิงแบบเธอล่ะก็ คุณก็ลองเข้าไปอยู่ในหัวใจเธอ แล้วทำให้เธอขาดคุณไม่ได้ดูสิ
ประวัติเบื้องลึก :
เลติซา สการ์เล็ต เลอร์มาเน่ นั้นเป็นเด็กสาวที่ในตระกูลแสนโด่งดังของรัสเซีย แม่ของเธอเป็นนักการทูตของอเมริกาที่มีชื่อเสียง ส่วนผู้เป็นพ่อก็เป็นถึงเจ้าของกิจการสปอร์ทกีฬาขนาดใหญ่ ที่เบื้องหลังเป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนรายใหญ่ของรัสเซีย เธอเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของบิดาและมารดา เป็นผู้สืบทอดทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลที่มีอยู่ นั่นทำให้เลติซาถูกบังคับให้เรียนรู้เรื่องต่างๆ และทำในสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ก็ตาม ทั้งเลี้ยงดูเธอราวกับเลติซาเป็นบุตรชายหาใช่บุตรสาว กำจัดอิสรภาพในการคิดและลดทอนเสรีภาพในการเลือก ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุผลมีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือขัดเกลาให้เธอกลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลต่อจากพ่อได้ แม้ว่าจะเป็นสตรีก็ตามที...
เลติซาในวัยเด็กไม่มีเพื่อนเลยเเม้แต่คนเดียว นั่นเพราะพ่อของเธอเกรงว่าเพื่อนสนิทที่ว่านั้น จะทำให้เธอเกิดอันตรายใดๆ ได้ เลติซาไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนคนอื่น ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้เล่น ไร้ซึ่งที่ปรึกษาและคนระบาย ต้องอยู่คนเดียวอยู่เสมอ ชีวิตวัยเยาว์เลติซานั้นอาศัยอยู่ภายในคฤหาสน์หลังงามตลอดเวลา มีคนมากมายเดินเข้ามา และสั่งสอนวิชาความรู้เธอมากเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งควรจะรู้ ก่อนจะเดินจากไปไม่ต่างกัน ส่วนตัวเลติซานั้น ก็ทำได้เพียงเเค่เรียน เรียน เรียน และทำตามที่พ่อของเธอสั่ง อยู่ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นไปเรื่อยๆ ทุกวัน..ทุกวัน วนเวียนไปอย่างไม่รู้จบ และเมื่อผ่านไปนานเข้า นานเข้า จากความรู้สึกที่เคยเหงา และอยากมีเพื่อนกลับกลายเป็นความเคยชิน เลติซาเคยชินกับการอยู่ตัวคนเดียว แต่ที่หนักกว่านั้นคือเด็กน้อยไม่อยากพบปะผู้คน ไม่คบหาสมาคม และรักสันโดษมากกว่าจะร่าเริง และเล่นซนอย่างคนวัยเดียวกัน และเมื่อพ่อของเธอรู้ ท่านก็พาเธอไปออกงานสังคมทั้งๆ ที่เธอไม่อยากไป เอ่ยสั่งว่า 'แกต้องทำให้ได้ เพราะแกเป็นลูกของฉัน' เลติซาวัยเด็กได้แต่นิ่งเงียบ รับคำเบาๆ และไปงานเลี้ยงที่พ่อเธอต้องการให้ไป แต่ถึงแม้พ่อของเธอจะพยายามดัดนิสัยไม่อยากพบปะผู้คนของเลติซายังไง มันก็ทำไม่ได้เเล้ว เพราะมันฝังลึกเข้าไปในเส้นเลือดของเลติซาแล้วยังไงล่ะ
เลติซาไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าความส่วนตัว ทุกเรื่องของเธอ ผู้ชายคนนั้นรู้มันหมดทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม..แต่..มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้..นั่นคือการที่เลติซา ไม่ใช่ เด็กดี ที่เชื่อฟังและซึมซับทุกอย่างที่อีกฝ่ายสั่งให้เธอทำ พวกเขาพลาดที่ไม่ยอมให้เลติซาพบกับสังคมภายนอก ตัวเลติซานั้นเกิดมาก็มีแต่บอดี้การ์ดผู้ชายรายล้อม สังคมเถื่อนของรัสเซียในคฤหาสน์ และการเลี้ยงดูแบบชายหนุ่มขัดเกลาให้เลติซาเป็นเด็กหัวแข็ง แม้ภายนอกเธอจะพยักหน้ารับรู้และทำตาม แต่ในใจของเลติซานั้นกลับเถียงและโต้เเย้งมันทุกอย่าง ไม่มีใครมาสอนเรื่องการพูดจาสุภาพกับเลติซา ไม่มีใครสอนมารยาทให้แก่เธอ ไม่มีใครสอนเรื่องจรรณยาบรรณแก่เด็กน้อยวัยเพียง6ปี ไม่แปลกเลยสักนิดที่เมื่อโตมาแล้วเลติซาจะกลายเป็นพวกหัวรุนเเรง ปากเสีย ดื้อรั้น และไม่ยอมคนถึงขนาดนั้น
พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาว่าเธอไม่ดี..เพราะคนที่ทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ มันก็คือพวกเขาเอง..
เมื่อเลติซาอายุได้11ปีเกือบ12 เธอเกิดความคิดที่ว่าไม่อยากจะทำในสิ่งที่พ่อให้เธอทำแล้ว เลติซาอยากจะใช้ชีวิตในแบบของเธอ เด็กสาวเบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างมันน่ารำคาญน่าหงุดหงิดไปเสียหมด เธอคิดอยากให้ชีวิตประจำวันบ้าๆ นี่เปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง อ่า..ใช่ เธอแค่คิด แต่ใครจะรู้ว่ามันจะเปลี่ยนไปตามที่เธอคิดจริงๆ เปลี่ยนไปในทางที่..เลวร้าย..ในวันเกิดอายุ12ปีของเลติซา แม่ของเธอได้ย้ายมาอยู่ร่วมกับเธอและพ่อ ในตอนแรกเลติซานั้นดีใจมาก เพราะในขนาดที่ชีวิตมีแต่การถูกบังคับตลอดเวลา แม่ของเธอเป็นคนเพียงคนเดียวที่เข้าใจในตัวเลติซา ท่านเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมากทั้งยังรักเลติซาจริงๆ หากเลติซาอยากได้อะไร ถ้ามันไม่ยากเย็นเกินไป ท่านก็จะหามาให้..ดังนั้นการที่แม่ของเธอมาอยู่กับเธอจึงเปรียบเหมือนพระเจ้าประทานพรให้แก่เลติซา เธอคาดหวังว่าชีวิตของเธอ มันจะดีขึ้นจากเดิม ไม่มากก็น้อยก็ตาม และมันก็ดีขึ้นจริงๆ พอมีแม่อยู่พ่อก็ไม่กล้าบังคับเธอมากเกินไป เพราะเเม่ขอร้องว่าให้เธอได้พักผ่อนบ้าง การเรียนเองก็ลดลงไปมาก เลติซายิ่งรู้สึกรักแม่ของเธอมากขึ้นไปอีกเท่าตัว เด็กน้อยติดแม่เสียยิ่งกว่าอะไรเลยเชียว แต่เพราะแบบนั้น นิสัย ไม่ยอมคน ของเลติซาเลยยิ่งเด่นชัดและฝังรากลึกมากขึ้นไปอีกเท่าตัว..
แต่แล้ว ความรู้สึกของเลติซาที่มีต่อแม่ก็เริ่มเปลี่ยนไป..
คืนหนึ่ง..แม่ของเลติซามาหาเธอที่ห้องนอน เลติซาดีใจที่ท่านมาหา เธอเชิญท่านเข้ามาในห้องของเธอ ไม่กล่าวว่าแม้ว่านั่นจะเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้วก็ตาม เธอนั่งคุยกับแม่ของเธอสารพัดอย่าง ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเงียบเสียงไปจนรู้สึกแปลก เลติซาหันไปมองใบหน้าของแม่ด้วยความมึนงง ปลายนิ้วเย็นนั้นสัมผัสข้างแก้มเธอ หญิงสาวเอ่ยบอกกับร่างเล็กด้วยเสียงแผ่วเบา เอ่ยพร่ำถามคำถามที่ทำให้เลติซาขยับตัวไม่ได้ไปชั่วขณะว่า
"สการ์เล็ต..หนูรู้ไหม? ว่าชีวิตของหนูมีเพื่ออะไร"
..เพื่อตัวเอง..
"รู้ไหมว่าหนูเกิดมาเพื่ออะไร?"
..เพื่อตัวเอง..
"รู้ไหมว่า หนูต้องเก่ง หนูต้องดีที่สุดไปเพื่ออะไร?"
..เพื่อตัวเอง..
เพียงแค่คนเป็นแม่เอ่ยออกมาเช่นนั้น เสียงในหัวของเลติซาพลันดังขึ้นในทันที เหมือนเช่นทุกครั้งที่พ่อของเธอพยายามกรอกหูเธอให้ทำทุกๆ อย่าง เลติซานิ่งเงียบ ในใจเกิดก่อเกิดความรู้สึกขุ่นมัว เพราะประโยคพวกนั้น เธอได้ยินมาจากพ่อของเธอจนเอียนแล้ว หากครั้งนี้คนที่เอ่ยนั้นคือพ่อของเธอ เด็กสาวคงสะบัดหน้าหนีแล้วเดินหนีออกไปแล้ว แต่เพราะว่าคนตรงหน้าคือแม่ แม่ที่เธอรักมา เด็กสาวจึงเลือกที่นิ่งงันไม่เอ่ยคำพูดในหัวของตนออกไปเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงฟังแม่ของเธอพูดนิ่งๆ ท่านสวมกอดเธอ ลูบหลังราวกับกำลังปลอบประโลม พร่ำเอ่ยถามคำถามมากมายที่ไม่รู้ว่า เหตุใดจึงต้องถามเธอเช่นนั้น และแน่นอน..คำตอบทุกอย่างที่เลติซาอยากจะมอบให้กับคำถามเหล่านั้นคือ 'เพื่อตัวเอง'
"เพื่ออะไร..หรือคะ?"
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดออกไป เลติซาฝืนกลืนความคิดทั้งหมด เอ่ยถามเบาๆ ก่อนร่างของเธอจะเเข็งค้างเมื่อผู้เป็นแม่แย้มยิ้มกว้าง ลูบศีรษะเธอเบาๆ เเละเอ่ยว่า
"ลูกเกิดมาเพื่อรับใช้เหล่าท่านผู้นั้น เข้าใจรึเปล่า?"
..หลังจากนั้น..เลติซาก็ไม่อาจเอ่ยบอกได้ว่าเธอรักแม่ของเธอที่สุด เหมือนที่เคยเอ่ยบอกมาตลอดได้อีก
ทุกคืน ทุกคืน แม่ของเธอจะมาที่ห้องเธอ เอาแต่พร่ำพูดประโยคเดิมซ้ำๆ ถามเธอกับคำถามเดิมๆ อยู่ตลอดเวลา เลติซาจำต้องตอบอีกฝ่ายไปว่า เข้าใจค่ะ หรือไม่ก็ เพื่อท่านผู้นั้น อย่างที่แม่ของเอาแต่พูดกรอกหูเธอตลอดเวลา แม้ว่าตัวเธอจะรู้สึกไม่ชอบใจเลยแม้แต่น้อยก็ตาม..วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ กิจวัตรประวัติแสนน่ารำคาญเฉกเช่นวัยเยาว์ย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันกลับดูเลวร้ายมากกว่าเดิม เมื่อมาผนวกกับแม่ของเธอที่ชักจะเหมือนคนโรคจิตเข้าไปทุกวี่ทุกวัน อ่า..ไม่อยากยอมรับเลยจริงๆ แต่ตอนนี้เลติซาคงต้องบอกเเล้วล่ะ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่เธอรักที่สุดอีกแล้ว แม่ของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมจนไม่น่าเชื่อ กลายเป็นผู้หญิงที่คล้ายจะป่วยเป็นโรคอะไรไม่รู้ทางจิต เอาแต่เข้าไปหาลูกสาวของเธอและพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ วนไปวนมาตลอดทั้งปี ไม่ได้สนเลยว่าคนที่เธอกำลังยัดเยียดอนาคตบ้าๆ หาหลักประกันอะไรไม่ได้สักอย่างนั่น อย่างเลติซาจะรู้สึกหงุดหงิด รำคาญ และเบื่อหน่ายขนาดไหนก็ตาม..
แต่ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิดขนาดไหนก็ตาม..เลติซาก็ไม่อาจคัดค้านหรือปฏิเสธมันได้ นอกจากแม่ที่พยายามยัดเยียดความคิดพวกนั้นเข้ามาในหัวเธอแล้ว แม้แต่พ่อของเธอเองก็เช่นกัน..พวกเขาทั้งสองเอาแต่พร่ำเรื่องงี่เง่าพวกนั้นกรอกหูเธอตลอดเวลา จนเลติซาเกิดความคิดที่ว่า หากตัวเธอไม่ได้เติบโตมาในสังคมเถื่อนแบบนี้ จนใจด้านชา..บางทีเธออาจกลายเป็นบ้า เพราะคำพูดที่พวกเขาพร่ำกรอกหูเธออยู่ตลอดเวลาก็ได้
วันเวลาล่วงเลยผ่านไป เลติซาย่างก้าวเข้าสู่วัย15 เด็กสาวเติบโตขึ้นจากเดิมมาก เเละเพราะชีวิตไม่ได้รายล้อมแต่เพียงบุรุษอีกต่อไป ตัวเลติซาเลยมีความเป็นสาวมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เธอกลายเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ แต่กระนั้นวาจาอันจัดจ้านและความเถื่อนในกระแสเลือดก็ไม่ได้ลดลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย เลติซาจึงเป็นผู้หญิงที่ทั้งเถื่อน เซ็กซี่ หัวรั้น และปากเสียปากจัดปากไวไปพร้อมๆ กัน แต่ช่างเรื่องนั้นไปเถอะ..วันหนึ่ง หลังจากที่เลติซากลับมาจากการไปฝึกซ้อมยิงปืนประจำอาทิตย์แบบที่เธอชื่นชอบบ่อยๆ เด็กสาวก็ได้รับ ข่าวดีที่สุด ในชีวิตนี้..
"คุณผู้หญิงคลอดลูกชายค่ะ"
สารภาพเลยเถอะ..เลติซาไม่ได้รู้ว่าแม่ของเธอท้อง..เธอรู้แค่ว่าช่วงนี้เธอยุ่งมากจนแทบไม่ได้พักผ่อนเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งมารดาของเธอยังหายหน้าหายตาไปนาน เมื่อราวๆ ต้นปีก่อนก็พอมาเห็นหน้าค่าตากันบ้าง แต่หลังๆ กลับหายเงียบ เธอคิดว่าแม่ของเธออาจป่วยหนัก (ทางจิต) จนต้องเข้าโรงพยาบาลไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ใครจะคิดล่ะว่าท่านท้อง แถมยังเป็นลูกชาย..พระเจ้า! นี่มันข่าวดีที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลย! เลติซาดีใจมาก ยิ่งได้เห็นหน้าน้องชาย เธอยิ่งดีใจ..ดีใจจนถึงขั้นที่น้ำตาไหลคลอดวงตาแสนงามของเธอ
ไม่..เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่น้องชายเกิดมา
แต่เธอร้องไห้เพราะดีใจที่ตัวเธอ จะหลุดพ้นจากกรงขังที่เรียกว่า ผู้สืบทอด ตระกูลแล้วต่างหากล่ะ
ผู้ชายย่อมดีกว่าผู้หญิง ผู้นำที่ดีที่สุดไม่ว่าใครล้วนแต่คิดว่าต้องเป็นผู้ชาย และการที่น้องชายของเธอเกิดมาเช่นนี้ นั่นหมายความว่าผู้สืบทอดจะไม่ใช่ตัวเลติซาอีกต่อไป แต่เป็นน้องของเธอที่เกิดมาเป็นชาย ภาระ การงาน กรงขัง และทุกสิ่งทุกอย่าง คนที่ต้องรับมันไว้ต่อคือน้องชายของเธอ..เลติซาดีใจ ดีใจที่สุดในชีวิตเลยด้วยซ้ำ เธอไม่สนหรอกว่าความคิดของเธอมันจะเลวร้าย หรือความจริงข้อนี้มันจะโหดร้ายต่อน้องชายที่เกิดมาไม่รู้อะไรเลยขนาดไหน เพราะความรู้สึกอัดอั้นทรมานตลอด15ปีของเธอ มันมากเกินกว่าความสงสารต่ออีกฝ่ายมากนัก และนั่นทำให้เธอกล้าที่จะเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตนคิดออกไปเป็นครั้งแรก
"พวกเราจะเปลี่ยนผู้สืบทอดตระกูลใช่ไหมคะ?"
เลติซาคาดหวังกับคำตอบดีๆ จากคนเป็นพ่อ รอยยิ้มงามประดับหน้าของเธอ แต่เมื่อได้รับคำตอบจากคนเป็นพ่อ ความหวังและความยินดีทั้งหมดกลับป่นปี่ไปอย่างง่ายดาย
"ไม่" น้ำเสียงนั้นมันช่างเย็นเยียบและบาดลึก จนเลติซาได้ยืนตัวสั่นอยู่กับที่.. "ไม่ว่าแม่ของแกจะคลอดเด็กออกมาอีกสักกี่คนก็ตาม คนที่สามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้มีแค่แกเท่านั้น แค่แก แค่แกเพียงคนเดียวเท่านั้น"
เสียงของพ่อดังก้องในหัว..มันดังพอๆ กับคำว่า ทำไม ที่วนเวียนไปมาอยู่ในหัว ราวกับเส้นสติของเธอมันใกล้จะขาดอยู่รอมร่อ เธอตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องว่า
"ทำไมล่ะคะ? ฉันน่ะไม่เหมาะกับตำแหน่งหรอกค่ะ! ไม่สิ..ผู้ชายน่ะ มันดีกว่าผู้หญิงอยู่เเล้วไม่ใช่เหรอคะ? แต่ว่าฉัน..แต่ว่าฉันน่ะ---!" เลติซาอยากบอก เธออยากบอกว่าเธอไม่ใช่ผู้ชาย แต่สายตาที่ส่งมาให้เธอนั้นทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก เพราะสิ่งที่เธอกำลังพูดมันเป็นสิ่งที่พวกเขารู้ดีอยู่เเล้ว และเพราะเเบบนั้น พวกเขาจึงเลี้ยงดูเลติซาให้เหมือนกับ ผู้ชาย เพื่อที่จะเป็นผู้สืบทอดตระกูลเลอร์มาเน่นี้ต่อไป..
มันเป็นบาปกรรมแต่ชาติไหนของเธอกัน? ที่แม้ฟ้าจะเข้าข้าง สุดท้ายก็ไม่อาจหนีพ้นได้อยู่ดีน่ะ..
เลติซากล้ำกลืนทุกอย่างลงไป เธอรู้สึกโกรธ..โกรธเสียจนตัวสั่น ความจริงงี่เง่ากระแทกเข้ากลางใจทำเอาเธอพูดอะไรไม่ออก เธออยากจะเถียง อยากจะตอบโต้ อยากจะละทิ้งทุกอย่างไปซะ แต่เลติซาทำไม่ได้..เพราะยังไงเสีย ทั้งสองก็ยังคงเป็นมารดาและบิดาของเธอ เลติซาได้แต่ทำใจยอมรับกับสิ่งที่ได้รู้ แม้ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม เด็กสาวพาร่างของตนออกมา ทว่าก้าวขาเพียงกลับมาเพียงแค่ก้าวเดียว แม่ของเธอก็เอ่ยขึ้นอย่างเลื่อนลอย..เอ่ยคำเลื่อนลอยเพ้อเจ้อมากมาย ที่ทำให้สติและความอดทนทั้งหมดของเลติซาขาดผึงลงอย่างง่ายดาย
"ใช่แล้วล่ะ..ไม่มีใครมาแทนที่สการ์เล็ตได้หรอก"
"สการ์เล็ตลูกของแม่น่ะ..เหมาะสมกับหน้าที่นี้ที่สุด"
"และเพราะมันเป็นหน้าที่ที่ทรงเกียรติ ลูกของแม่จึงต้องมีฐานะมากพอจะรับมัน"
"หน้าที่ที่จะต้องรับใช้เหล่าท่านผู้นั้----"
"พอ!! พอได้แล้ว!!!!"
เด็กสาวตะโกนเสียงดังจนแม้แต่พ่อและเเม่ของเธอยังสะดุ้ง เลติซากรีดร้องแผดเสียงลั่น เมื่อผู้เป็นแม่ลุกมาหาเธอเพื่อถามอย่างห่วงใย เลติซากลับถอยหนีแล้วปัดป่ายทุกสัมผัสของมารดาออกจนหมดสิ้น เลติซาโกรธจนสั่นไปหมด เธอไม่สนอีกแล้วว่าคนตรงหน้าจะเป็นแม่เธอหรือใครก็ตาม
"ฉันไม่ใช่หุ่นเชิดของพวกคุณนะ! แล้วฉันก็ไม่ได้บ้าแบบพวกคุณ!" เด็กสาวตะโกนลั่น ความรู้สึกมากมายที่อัดอั้นอยู่ในใจมาตลอด กำลังถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้รู้ "ท่านผู้นั้น ท่านผู้นั้น ท่านผู้นั้นบ้าอะไร!? แม้แต่หน้าฉันยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ! ทำไมฉันต้องเอาชีวิตไปผูกติด หรือพยายามแทบตายเพื่อคนที่ฉันไม่รู้จักด้วยเล่า! แล้วที่ฉันทำมาตั้ง15ปีนี่มันยังไม่พอใจพวกคุณอีกเหรอไง!? จะบังคับกันไปถึงเมื่อไหร่กัน!!?"
เลติซาพูดความคิดของเธอออกไปด้วยน้ำเสียงดังก้อง เธอยืนนิ่งไป ไหล่สั่นเทิ้ม ดวงตาแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความเหลืออดเหลือทน ริมฝีปากถูกขบเม้มจนห่อเลือด ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและแหบแห้ง "พวกคุณจะช่วยมองฉัน..เป็นแค่เด็กธรรมดา..เป็นแค่เด็ก..เด็กที่เป็นลูกของพวกคุณ ไม่ใช่ หุ่นเชิด ที่มีเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกคุณ หรือมีเพื่อใครที่ไหนก็ไม่รู้ที่มีตัวตนรึเปล่าก็ไม่รู้นั่น..จะได้ไหม?" เลติซาคาดหวัง..เธอคาดหวังเหลือเกินว่าความรู้สึกตลอด15ปีของเธอจะถูกส่งไปถึงพ่อและแม่ของเธอ แต่สุดท้าย..พวกท่านก็ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
เพี๊ยะ!!
"นังลูกชั่ว! แกรู้ตัวไหมว่าแกพล่ามอะไรออกมาน่ะ ท่านผู้นั้นน่ะคือคนที่แกต้องเทิดทูนเอาไว้เหนือสุด ลมหายใจของแกต้องอุทิศให้แก่พวกท่าน ฉันไม่ได้เลี้ยงแกให้แกมาด่าว่าท่าน ชีวิตนี้มันไม่ใช่ของแก แกเกิดมาเพื่อรับใช้พวกท่าน เข้าใจไหม!?"
ฝ่ามือที่เคยลูบหลังเธออย่างแผ่วเบา..ฟาดกระทบเข้ามาที่ข้างแก้มอย่างแรงจนเด็กสาวหน้าหัน คำพูดร้ายกาจราวปิศาจร้ายตวาดดังลั่นก้องหู เลติซาหน้าชาและนิ่งงันไปหลายนาที ก่อนเธอจะหัวเราะออกมาเบาๆ ดวงตาคมมองเเม่ของเธออย่างผิดหวังและเปี่ยมด้วยความเกลียดชัง เธอไม่เคยคิดเลยว่าแม่ของเธอจะมองเธอเเบบนี้ แม้ว่าหล่อนในตอนนี้จะดูเสียสติ แต่เลติซาไม่เคยคิด..ไม่เคยคิดเลยว่าความรัก ความเอ็นดูเหล่านั้นที่ท่านมอบให้ มันไม่ได้ได้มาเพราะสายสัมพันธ์แม่ลูก แต่มันการเลี้ยงดู สัตว์เลี้ยง ให้เชื่องและเชื่อฟังในสิ่งที่พวกเขาสั่งต่างหากล่ะ
มือสั่นไหวสัมผัสข้างแก้มของตนเบาๆ เลติซาสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนของน้ำตาที่อาบแก้ม ความเจ็บช้ำกำลังแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง แม่ของเธอยังคงด่าทอเธอต่อไป แต่สุดท้าย..เลติซาก็ไม่อาจทนฟังเสียงเหล่านั้นได้อีก เด็กสาวปลดสร้อยคอที่เป็นเหมือนสมบัติล้ำค่า ที่แม่ของเธอให้เป็นของขวัญวันเกิดตอน7ขวบออกมา..ก่อนจะเขวี้ยงมันใส่ร่างนั้นที่กำลังพร่ำพูด แล้วตะโกนลั่น
"ชีวิตฉันมันเป็นของฉัน!! ไม่ว่าใครหน้าไหนมันก็ไม่มีสิทธิ์มาบงการฉันทั้งนั้น!!!"
หลังจากนั้น..เลติซาหนีออกจากบ้าน เธอไม่กลับไปที่คฤหาสน์หลังนั้นอีกเลย ตอนแรกเธอรอนเร่ไปมาตามถนน เจอเรื่องต่างๆ ที่เลวร้ายในเมืองเถื่อนนั่นเต็มไปหมด แต่เหมือนเธอยังมีโชคเหลืออยู่บ้าง อาของเธอพบเธอเข้า ชายหนุ่มปลอบเธอเเละพยายามเกลี่ยกล่อมให้เธอลับบ้าน แต่ตอนนั้นเลติซาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เธอไม่ยอมกลับบ้านลูกเดียว สุดท้ายอาของเธอต้องบังคับให้เธอกลับไปยังบ้าน ถึงอย่างนั้นท่านก็เข้าใจเลติซา เขาคุยกับพ่อแม่ของเธอว่าอยากให้เลติซาไปอยู่กับเขา และบอกให้ยกเลติซาให้มาอยู่ในความดูแลของเขาแทน ตอนแรกแม่ของเธอนั้นไม่ยอมท่าเดียว แต่เมื่ออาของเธอยกเรื่องที่ว่าพวกเขาทำร้ายจิตใจเธอมากเกินไป และเธออาจจะเป็นบ้าเข้าได้สักวัน แม่ของเธอกลับปิดปากเงียบเเละยอมอย่างง่ายดาย เลติซาไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงยอมได้ง่ายเพียงนั้น..แต่เธอไม่สนหรอก เพราะสิ่งเดียวที่เธอสนน่ะ คือการไปให้พ้นจากปิศาจสองตัวนั่นต่างหาก..
เลติซาใช้เวลาถึงครึ่งปีในการปรับสภาพจิตใจของตนเอง ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นไปได้ด้วยดี เพราะอาของเธอไม่ได้บงการอะไรเลติซา เขาเข้าใจเธอ และเลี้ยงดูเธอเหมือนลูก มันคือสิ่งที่เลติซาไม่เคยได้รับ และความอ่อนโยนนั้นเยียวยาแผลในใจเธอจนเกือบหายสนิท..ใช่ มันก็แค่เกือบ เพราะยังไงเสียนิสัยเเข็งกร้าวและนิสัยเสียส่วนอื่นๆ ของเลติซามันก็ฝังรากลึกจนเกินกว่าจะแก้ไปแล้ว และที่ไม่สามารถแก้ได้อีกแล้ว..มันก็คือความเกลียดชังในตัวของมารดาและบิดาของเธอ ที่แทรกแซงอยู่ทุกส่วนของหัวใจเธอนั่นเอง..
สิ่งที่ชอบ :
>>สีแดง [เลติซาคิดว่ามันเร่าร้อนดี..เหมือนกับเธอไง : )]
>>อาหารเลิศรส [การจะใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่จำเป็นต้องมีพลังงาน เลติซาเป็นสาวกินเก่ง แต่เลือกกินพอควร เพราะงั้นอาหารเลิศรสจึงเป็นสิ่งที่เธอชอบมากพอควร]
>>การพักผ่อน [บางครั้งเลติซาก็รู้สึกว่าเธอเครียดกับชีวิตเกินไป เวลาพักผ่อนเลยเป็นช่วงเวลาสวรรค์ของเลติซา ที่เธอจะเลิกเครียดและปล่อยวางมันทุกสิ่ง]
สิ่งที่เกลียด :
>>การโดนเหยียดหยาม [ด้วยความเป็นสาวมั่น เลติซาจึงรู้สึกหงุดหงิดเเละเกลียดมากเวลามีคนมาหยามเธอ ยิ่งเรื่องเพศนี่จะยิ่งเกลียดเป็นพิเศษเลยทีเดียว]
>>คนที่มาออกคำสั่งกับเธอตลอดเวลา [หงุดหงิด อารมณ์เสีย เจอแล้วอยากจะเข้าไปบวกมากค่---แน่นอนว่าสาเหตุมันเรียบง่ายมาก นั่นเพราะคนพวกนี้คือคนจำพวกเดียวกับคนที่เธอเกลียด อย่างพ่อและแม่ของเธอ]
>>พวกที่เหมือนตัวเอง [รับมือด้วยได้ยาก เลติซาไม่ชอบ]
>>พวกสกปรก [เลติซาเป็นสาวอนามัย เพราะงั้นจึงเกลียดคนไร้ความสะอาด แน่นอนว่าสถานที่รกๆ ซกมกเธอก็เกลียดพอกัน]
>>พ่อและแม่ [สิ่งที่พวกท่านทำไว้กับเลติซา..มันมากเกินกว่าเธอจะอภัยให้ได้จริง ๆ]
สิ่งที่กลัว :
>>การถูกต้อนให้จนมุม [เลติซาเคยชินแต่การยอกย้อนและตอกคนอื่น เธอไม่เคยโดนต้อน ใครก็สู้วาจาอันเผ็ดร้อนของเธอไม่ได้ เพราะงั้นการถูกต้อนให้จนมุมจึงเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยเจอ เลติซาจึงไม่สามารถรับมือกับมันได้]
{ปฏิกริยา = เมื่อถูกต้อนให้จนมุม เลติซาจะสงบปากสงบคำลงจนแทบไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้ เธอยังพูดเเจ้วๆ จิกกัดชาวบ้านเขาอย่างเจ็บแสบ นัยน์ตาเธอจะล่อกแล่กกระวนกระวาย ใบหน้าจะปรากฏหยาดเหงื่อชื้นตัว และมีอาการปลายนิ้วสั่นเล็กน้อย]
งานอดิเรก :
-ฝึกยิงปืน [เลติซาพกปืนเดินไปมา---ปืนอัดลม (?) ค่ะ เห็นแบบนี้แต่รู้กฏบ้านกฏเมืองดีนะคะ ฮา--อนึ่ง เวลาหมั่นไส้ใครก็ชอบหยิบปืนมายิงของเเถวนั้นเล่นค่ะ ส่วนมากชอบยิงใบไม้ที่กำลังร่วงจะต้นเล่น โดนไม่โดนเเล้วแต่อารมณ์ ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งแม่น--(?)]
-จิกกัดคนอื่น + ประชันฝีปาก [เลติซาเป็นพวกอยู่ไม่สุขและปากไวมาก เพราะงั้นเวลาหลุดอะไรออกไปแล้วไม่เข้าหูใคร มันจึงกลายเป็นการสงครามประชันฝีปากกันในเวลาถัดไปนั่นเอง]
-อ่านหนังสือคนเดียวเงียบๆ [เลติซาไม่ชอบที่ที่คนพลุ่กพล่าน เวลาอยู่คนเดียวจึงต้องหาอะไรทำแก้เบื่อ การอ่านหนังสือจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากอย่างหนึ่ง]
-นอน [เพราะง่วงเลยนอ---หมายถึงว่าไม่มีอะไรทำ แล้ววางจัดแถมขี้เกียจ เลติซาก็จะหาที่ร่มๆ เย็นๆ เงียบเอนกายนอนค่ะ]
-ออกกำลังกาย [จะได้ไม่อ้วนไง!]
ความสามารถพิเศษ :
-สกิลยิงปืน [เนื่องด้วยคุณแม่ห่วงลูกสาว เลยสอนเลติซาให้รู้จักการใช้อาวุธ แน่นอนว่าเลติซานั้นเลือกปืนอย่างไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ เพราะเธอโตมากับปืนยังไงล่ะ]
-พูดได้สามภาษา อังกฤษ รัสเซีย ญี่ปุ่น [ลูกครึ่งทั้งที ก็ต้องพูดให้เป็นสิ---//ภาษาญี่ปุ่นนั้นความชอบส่วนตัวน่ะค่ะ เลติซาชอบสำเนียงภาษาญี่ปุ่นมาก ทั้งยังชอบวัฒรธรรมของที่นี่เอามากๆ เธอเลยเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ]
-การวางแผน [เนื่องด้วยเลติซาเป็นสาวฉลาดรู้จักคิด ทั้งยังชื่นชอบพวกเกมส์ที่ต้องวางแผนอย่างมาก พรสวรรค์ส่งเสริมด้วยการขัดเกลา ทำให้เลติซาเป็นคนที่วางแผนได้รัดกุมเเละเยี่ยมยอดคนหนึ่ง]
-วาจาเผ็ดแสบกระแทกใจ [เลติซาปากจัดมาก แถมยังสาวสายฮาร์ดคอร์ที่ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกชาวบ้านนัก หากให้เถียงกันล่ะก็ ไม่ว่าใครก็ต้องยอมแพ้และสะอึกหน้าม้านกันถ้วนหน้า]
คู่ : ซาคามากิ เรย์จิ
เพิ่มเติม : เถื่อนเกินไปพลีสเทลมีย์ (?)---แก้ให้ได้เรื่อยๆ นะจ๊ะ--//ส่งบีมใจ (?)
}}เพิ่มเติมรายละเอียดตัวละคร{{
-เลติซาเกิดวันที่ 7 กรกฏาคม เวลา23:34น.
-เลติซาเป็นสาวราศีกรกฏ เลือดกรุ๊ปAB
-เลติซาถนัดซ้ายมากกว่าขวา แต่ใช้ทั้งสองมือเขียนหนังสือได้
-ศิลปะการต่อสู้ที่เลติซาถนัดที่สุด คือศิลปะเเบบซิสเตมาของรัสเซียค่ะ
-เลติซาเคยมีแฟนอยู่คนหนึ่งตอนอายุ16ค่ะ แต่คบได้สองเดือนก็เลิก หลังจากนั้นก็ไม่ได้คบใครอีกเลย
-เลติซาเก่งรอบด้านค่ะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ถนัดเลยคืองานศิลป์ทุกประเภท ทั้งวาดรูป จัดดอกไม้ แกะสลัก etc.
-เลติซานางก็ชอบช็อปปิ้ง แต่งหน้าแต่งตัวเหมือนสาวๆ ทั่วไปนะคะ แค่แสดงออกมาน้อยกว่าความเถื่อน ชาวบ้านเลยไม่ค่อยรู้
-เป็นสาวแต่งหน้าไม่จัดค่ะ ทาบางๆ พอโอเค..ไม่ต้องแต่งมากก็แซ่บและสวยได้ (?)
-ตั้งแต่เด็กจนอายุ12 เลติซาเรียนที่บ้านเอาค่ะ แต่หลังจากนั้นเริ่มไปเรียนนอกบ้านบางรายวิชา อย่างยิงปืน ต่อสู้ หรือมารยาทการเข้าสังคม (อันสุดท้ายนี่เรียนเฉยๆ แต่ก็ไม่จำเอามาใช้อยู่ดีค่ะ)
_______________________________
ส่วนโรลเพลย์สำหรับตัวละคร
นัยน์ตาสีแดงเลือดนกเหลือบมองเด็กสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆด้วยสายตาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยคำทักทาย "สวัสดียัยเหยื่อสังเวย เมื่อคืนเป็นคืนแรกที่ได้อยู่ร่วมห้องกับท่านผู้นั้นของเธอแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะหืม"
หญิงสาวเจ้าของใบหน้างดงามเลิกคิ้วขึ้น เธอยกมือกอดอกก่อนกระตุกยิ้มมุมปากประดับใบหน้า ผิดกับนัยน์ตาที่ไม่ได้ยิ้มตามเลยแม้แต่ แถมยังปรากฏเปลวไฟคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าหล่อนนั้นกำลังหงุดหงิดอยู่ก็ไม่ปาน และ..ใช่ เลติซากำลังหงุดหงิด หญิงสาวสบตากับผู้ถามเอ่ยตอบชัดถ้อยชัดคำ "บอกตามตรงนะ..นั่นน่ะ เป็นคืนแรกที่เลวร้ายสิ้นดี"
หญิงสาวในผ้าคลุมฮู้ดสีดำสนิทส่งเสียงหัวเราะน่าขนลุกเบาๆพลางไหวไหล่เหมือนจะบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้และมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอเสียหน่อย "แล้วยังไงล่ะ อยากจะหนีเหรอ" เธอถามแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น
"หนี?" หญิงสาวทวนคำเล็กน้อยพร้อมมุ่นคิ้ว ใบหน้าแสดงออกถึงความครุ่นคิดชั่วขณะ ก่อนเส้นผมสีแดงดั่งโลหิตจะพลิ้วไหวไปมาตามแรง เมื่อเธอส่ายศีรษะปฏิเสธ "ไม่ล่ะ ฉันหาความจำเป็นที่ต้องทำอะไรงี่เง่าเเถมไร้ค่าแบบนั้นไม่ได้เลยสักนิด"
"เอาน่า แรกๆก็แบบนี้นั่นแหละ อีกไม่นานก็คงจะชิน อีกอย่างจะหนีไปไหนได้ล่ะหืม" เสียงนั้นเจือความสงสารปนสมเพชอย่างชัดเจน รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นข้างริมฝีปาก "เธอก็เห็นด้วยใช่ไหมล่ะ เรามาเปลี่ยนหัวข้อกันดีกว่า อืม...ถ้าสมมตินะ ท่านผู้นั้นของเธอล่ามเธอไว้แค่ภายในห้องเท่านั้นล่ะ ไม่ให้อิสระเธอที่จะออกไปไหนหรือทำอะไรได้ เธอจะทำยังไงเหรอ"
"ก็นะ.." เสียงหวานเย็นเนิบเว้นจังหวะไปช่วงหนึ่ง ร่างบางหัวเราะกลั้วในลำคอฟังดูเย็นเชียบ นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าของผู้ถาม กลีบปากแย้มยิ้มท้าทายเอ่ยเสียงมั่นอกมั่นใจออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
"ถ้าคิดว่าสามารถเอาโซ่ตรวนเก่าตรมนั่น มาคล้องคอฉันได้..ก็ลองทำดูสิ หึ"
นัยน์ตาที่เคยกวนประสาทเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "ฉันว่าอีกไม่นานคงจะมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่ๆเลย หึๆ จะทนรอไม่ไหวแล้วสิ เอาล่ะ มาถึงคำถามสุดท้ายที่ควรถามเป็นคำถามแรกแล้วล่ะนะ ความประทับแรกของเธอที่ตื่นขึ้นมาโดยมีท่านผู้นั้นจ้องมองอยู่เป็นยังไงเหรอ"
"อย่างที่บอก เลวร้าย" ไหล่บางยกขึ้นอย่างเฉยชา รอยยิ้มเจือจางไปจากใบหน้า หลงเหลือเพียงความหงุดหงิดจางๆ ในนัยน์ตาสีสวยและหว่างคิ้วที่ยับย่น "หมอนั่นแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้ว ว่าเป็นผู้ชายที่น่ารำคาญ แถมดูเหมือน..จะเป็นประเภทที่ฉันเกลียดเอามากๆ เสียด้วย.." ในประโยคสุดท้ายนั้น เสียงของเธอแผ่วลงจนแทบไม่ได้ยิน ราวกับว่าตัวเธอนั้นกำลังเอ่ยบอกกับตัวเองอยู่ก็ไม่ปาน
ส่วนตอบคำถามสำหรับผู้ปกครอง
ก่อนอื่นเลย สวัสดีค่ะ ผู้ปกครองของว่าที่นางเอกของเอมฯ ขอทราบชื่อหน่อยได้ไหมคะ : เฮลโหล เบเบ๋---//แค่ก//สวัสดีค่ะ! ท่านเอมเพรส ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ทางนี้มีนามว่า รันรัน หากเห็นว่ายาว เรียกรันเฉยๆ ก็ได้นะคะ! สั้นดี---
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์เสียเวลามานั่งพิมพ์ใบสมัครนะคะ : ฮะๆ เต็มใจค่ะเต็มใจ อยากให้ลูกสาวไปเป็นสะใภ้บ้านท่านเอมเพรส ทางนี้ก็ต้องทุ่มสุดตัว ใส่ใจพิเศษใส่รัก เข้าไปสิคะ!
ทำไมถึงเข้ามาสมัครเรื่องนี้คะ หรือว่าชอบใครในเรื่องเป็นพิเศษเอ่ย : ขอตอบยาวหน่อยนะคะ (?) อืม..สาเหตุที่มาสมัครเรื่องนี้ก็ง่ายๆ ค่ะ เห็นคำว่าNC--//แค่ก/โดนตบคว่ำ---// ชอบภาษาตรงส่วนโรลเพลย์ค่ะ บวกกับไรท์เตอร์น่ารักมากกก คิดว่ามาสมัครเเล้วถ้าเกิดติดขึ้นมา ท่านเอมเพรสจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ประมาณนั้นน่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่ถามว่าชอบใครเป็นพิเศษ แน่นอนค่ะว่าต้องเรย์จิซัง! หลงนางตั้งแต่ดูอนิเมครั้งเเรกเลยค่ะ วร๊ายยย///----(?) แต่ถ้าให้เลือกเพิ่มคนสองคน จะใส่ชื่อรุกิซัง กับไรโตะซังแบบไม่ลังเลเลยค่ะ 555
ว่าแต่ลบวงเล็บทั้งหมดออกแล้วใช่ไหมคะ อย่าลืมลบด้วยน้า : แน่นอนค่ะ! ความรู้พื้นฐานนี่นา!
เอ้อ เรื่องใบสมัครส่งตอนที่ 1 และส่งเป็นลิ้งค์เท่านั้นนะคะ ไม่งั้นเท : โอเคค่าา
สุดท้ายและท้ายสุด อย่าลืมกดสับตะไคร้ เอ๊ย fav. แฟนพันธุ์แท้กันด้วยนะคะ บ๊ายบายจ้า! : แน่นอนค่ะ! จะตามติดจนกว่าเรื่องนี้จะจบเลยค่ะ!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น