คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มาถึงซะที เมืองที่น่าอยู่
ตอนที่ 1 ” มาถึงซะที เมืองที่น่าอยู่”
รัน”talk”
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อ เซรัน ซึบาสะป๊าเป็นชาวญี่ปุ่นชื่อโทคิวะ มีบริษัทใหญ่โตอยู่ที่ญี่ปุ่นชื่อ PMRT ส่วน แม่ชื่อวารุณี เป็นคนไทยมีพี่น้อง 4 คน พี่คนแรกชื่อ เรนนะ หรือ รุ้ง พี่คนที่สองชื่อ รินนะ ส่วนน้องชายคนเดียวของตระกูลชื่อ เรย์ ฉันอยู่ เมืองไทยถึงอายุ 5 ขวบแล้วป๊าจึงให้ฉันและพี่-น้องไปเรียนที่ ญี่ปุ่น เราจึงย้ายกันไปทั้งครอบครัว แล้วฉันก็ไม่เคยกลับมาที่เมืองไทยเลยจนป๊าชวนฉันไปถ่ายโฆษณา แล้วต่อด้วย การเล่นภาคยนต์ 5 เรื่อง และ ออกเทป 2 ชุด เมื่อเทปชุดที่ 2 ออก ฉันก็อายุเกือบ 17 ปี ป๊าก็ส่งฉันมาเรียนต่อที่เมืองไทยกับพี่ๆและน้องเพราะอะไรก็ไม่รู้
วันพฤหัส เวลา 12.50 น.
ณ.สนามบินประเทศไทย
ซูเปอร์สตาร์อย่างฉันมาเมืองไทยทั้งทีก็ต้องมี แฟนคลับ มาต้อนรับกันหน่อย ฉันเดินลงจากเครื่องบินพร้อมกับพี่รุ้ง พี่ริน และเรย์
ขณะที่ฉันรอรถมารับ ทางทีมงานก็จัดให้ฉันอยู่ในห้องที่มีกระจกรอบทิศทางมีคนมามุงดู ล้อมรอบกระจกแล้วถ่ายรูปกันใหญ่ เหมือนไม่เคยเห็น คนอย่างนั้นแหละ อ๋อ!ฉันรู้แล้ว พวกนี้ต้องไม่เคยเห็นคนสวยแน่เลย จะทำไงได้ คนมันเกิดมาสวย(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลย นางเอกฉัน :: +โมชิโมริ+)
“เย้ มาถึงซะที” ฉันบิดขี้เกียจ
“นี่รัน เธอจะมาบิดขี้เกียจ แบบนี้ได้ไง รักษาภาพพจน์หน่อยสิ” เสียงพี่รินสุดที่รัก ของฉันบ่นให้ฉันฟังเป็นรอบที่1,000,000,000แล้ว (เวอร์ไป :: +โมชิโมริ+)
“เมื่อไร รถจะมาเนี่ย” พี่รุ้ง สุดที่รักของฉันบ่นอีกคน
“มาช้าๆนะดีแล้ว” น้องชายฉันพูดพร้อมเดินวนรอบห้อง หกเหลี่ยมแล้วบ้ายบายสาวๆที่มามุงดุ ทำให้สาวๆพวกนั้นกรี๊ดกันใหญ่ “พี่รัน ผมอยากออกไปหาสาวๆ พวกนี่จัง”เรย์ยังคงเดินโชว์สาวไม่ยอมหยุด
“นี่ เมื่อไรแกจะนั่งฟะ ฉันมองแล้วเวียนหัว”ฉันเดินไปดึงเรย์ให้มานั่งที่เดิม แต่เมื่อฉันลุกจากเก้าอี้ ก็มีเสียง กรี๊ด ฉันก็ไม่รู้ว่ากรี๊ดอะไรกัน ทำให้ฉันไม่อยากลุกออกจากเก้าอี้ตัวนี้เลย
ฉันหมุนเก้าอี้ไปหาพี่รุ้ง “พี่รุ้ง รันชักไม่แน่ใจแล้วว่าเขามาดูรันหรือมาดูสัตว์ประหลาดกันแน่” *_*
“คุณครับ รถมาแล้วครับ” เสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้ฉันดีใจสุดๆ
เราทั้ง 4 เดินตามชายร่างบึก คนนั้นมาที่ลานจอดรถ หลังสนามบิน นี่ถ้ามีคนมาทำร้ายนะ มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย
“เชิญครับ” ชายร่างบึกคนนั้น เปิดประตูรถตู้คันโตให้ฉันและพี่ๆน้อง ขึ้นไปนั่ง จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนั่งข้างหน้าคู่กับคนขับ
รถคันโตออกจากสนามบิน 1 ชั่วโมงผ่านไป รถยังไม่คิดจะขยับเลยซักนิด เฮอ แล้วเมื่อไรจะถึงละเนี่ย เฮอ เบื่อจริงโว้ย ไม่มีอะไรทำเลย เฮอ พวกนี้ก็หลับเป็นตายเลย ขี้เซาจริงๆ
“พี่คะ ที่นี่เขาเรียกว่าอะไรหรอคะแล้วเราจะไปไหนกัน” ฉันยื่นหน้าไปถามคนขับ
“ที่นี่สยามสแคว กำลังจะไปหมู่บ้านอินทรวดีครับ”คนขับตอบแบบนอบน้อม
“พี่ไม่เบื่อหรือไง ที่รถมันติดแบบนี่”ฉันชวนคนขับคุย
“ชินแล้วแหละครับ กรุงเทพก็แบบนี้แหละครับ”เขายิ้ม
“พี่ หนูมีอะไรให้พี่ช่วยหน่อย”ฉันเข้าไปพูดข้างหู คนขับเบาๆ
“อะไรหรอครับ”เขาทำหน้างง
“ก็คือว่าหนูจะลงไปดูแถวนี้หน่อยเดี่ยวหาทางกลับเอง ถ้าไปถึงแล้ว ให้บอกว่ารันลงกลางทางเดี่ยวหาทางกลับเอง
โอเคนะ” พอพูดจบฉันก็หยิบหมวกเปิดประตูลงไปอย่างช้าๆและเงียบที่สุด
ฉันเดินมาตามทาง แต่ละคนที่เดินผ่านฉันก็มองฉันแล้วหันไปกระซิบกับแต่ฉันก็ไม่สนใจและยังคงเดินตอไปจนถึง ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปในร้านแล้วสั่ง กาแฟมา ฉันเดินออกมานอกร้านแล้วจึงดึงหมวกมาปิดหน้าแล้วก้มหน้าลง
ขณะนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฉันเดินชนคนเข้าอย่างจัง กาแฟก็หกใส่คนคนนั้นด้วย
“นี่ เดินไม่ดูเลยรึไง เดินหัดดูทางซะมั่งสิ” ฉันเงยหน้าขึ้นมา มองคนที่กำลังยืนว่าฉัน ฉอดๆๆ
ฉันดึงหมวกออกด้วยความโมโห “แล้วนายทำไมไม่ดูทางบ้างละ ว่าแต่คนอื่น” ฉันจ้องหน้านายนั่นเขมงนายนั่นจ้องฉันเหมือนหาอะไรซักอย่าง ” ทำไม ไม่เคยเห็นคนรึไง” ฉันตะหวาดนายนั่นด้วยความโมโห
“เธอ ใช่ เซรัน รึป่าว” นายนั่นรู้ได่ไงว่าฉันเป็น (ทำไมจะไม่รู้ ก็แกเล่นถอดหมวกซะอย่างนั่น :: โมชิโมริ)
ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดมอง ฉันกับนายนั่นเป็นตาเดียวกัน แล้วเดินเข้ามามุงกันใหญ่ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้า พร้อมกับยื่นกระดาษให้ฉัน “พี่เซรัน ขอรายเซ็นหน่อยค่ะ” ฉันหันไปหานายนั่นเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ นายนั่นยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วให้ฉัน “พี่เซรัน พี่มากับใครหรอคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในฝูงชน พูดขึ้นทำให้มีเสียงตามมามากมาย ฉันหันไปหานายนั่น เป็นเชิงขอความช่วยเหลือ อีกครั้ง นายนั่นยักหน้าแล้วยิ้มมุมปาก
นายนั่นจับที่ข้อมือของฉัน แล้วพาฉันวิ่งออกจากฝูงชน 10 นาทีผ่านไปฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนนายนั่นยังคงพาฉันวิ่งไม่หยุด “นี่นาย ฉันเหนื่อยแล้วนะ” ฉันดึงนายนั่นให้หยุด แต่ด้วยแรงมหาสาร ทำให้แรงขอฉันไม่มีความหมาย ”นายฉันพูดไม่ได้ยินหรือไง หยุดก่อนได้ไหม” นายนั่นหยุดหันมามองฉันด้วยสายตาแบบค้อนๆ
“อยากให้พวกนั่น ตามมาทันรึไง”
“ก็คนมันเหนื่อย จะให้ทำไงละ” ถามมาได้
“มานี่” นายนั่นดึงฉันเข้าไปใหซอก ระหว่างตึก 2 ตึก “ขอโทษนะ แต่เพื่อตัวเธอเอง” นายนั่นดันฉันติดกำแพงแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน
“นายจะทำอะไรของนายนะ” ฉันเอามือดันที่อกของนายนั่น
“ทำให้เธอ ” นายนั่นยังพูดไม่ทันจบก็มีฝูงชน ที่ตามฉันมาวิ่งผ่านไป “เฮ้ย เขาบอกว่าเซรันไปทางนู้น ตามไปเร็ว”
เสียงนั้นทำให้นายนั่นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีก ปากของเขาประกบกับปากของฉัน
“ อื้อ “ ฉันพยายามผลัก นายนั่นออกไปแต่มันไม่ทำให้นายนั่น ขยับเลยซักนิด
“ออย อั้น เอี่ยว อี้ อะ” อย่าตกใจ ว่าฉันพูดภาษาอะไรฉันพูดว่า ปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะ แต่ปากของนายนั่นปิดปากของฉันอยู่ทำให้มันออกมาเป็นแบบนี้
นายนั่นค่อยๆถอนปากของเขาออกจากปากของฉัน ฉันผลักนายนั่นออกไป นายนั่นเซไป 2-3 ก้าว “เธอทำเหมือนไม่เคย” นายนั่นยิ้มมุมปาก
“แล้วใครบอกว่าฉันเคยละ” ฉันหันไปค้อนใส่นายนั่น “นายต้องชดใช้” ฉันเดินเข้าไป ฉันเดินเข้าไปใกล้นายนั่น แล้วซัดหมัดที่หน้านายนั่นอย่างจัง
“คุณต่อยผมทำไม” นายนั่นมีเลือด ซิบๆออกมาที่มุมปาก
“ก็นายมาทำฉันก่อนทำไมละ”
“ผมทำอะไรคุณ ผมอุตส่าห์ ช่วยคุณ” นายนั่นเดินเข้ามาใกล้ฉัน จนฉันต้องถอยหลังจนหลังมาติดกำแพงนายนั่นเดินเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง
“นี่นายอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน”
นายนั่นยังเดินเข้ามาใกล้ฉันไม่หยุด “หึ ฉันเตือนนายแล้วนะ”
“อุ๊บ ” ฉันเตะผ่าหมากจนนายนั่นทรุดตัวลงนั่งแล้วหน้าแดงอย่างแรง
“นี่เธอ แสบมาก ฉันจะต้องแก้แค้นเธอให้ได้” เมื่อนายนั่นพูดจบ ฉันก็เดินออกมาจากที่นั่น”นี่เธอ ”ฉันไม่สนใจที่จะฟังอะไรทั้งนั้น ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปถามร้าน ขายของว่าที่นี่ที่ไหน
“พี่คะ ที่นี่ที่ไหนหรอคะ”
“ . ”ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์ ฉันตัดสินใจเดินออกจากร้านนั้น
เฮอ วันนี้มันวันอะไรของฉันนะเนี่ย มันถึงได้ซวยอย่างนี้ ฉันเดินไปตามทางก็เจอป้ายรถประจำทาง ฉันเดินไปโบกรถ แท็กซี่ ก็ มีรถแท็กซี่สี ฟ้า-แดง มาจอดรับ ฉันเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่ง “พี่คะ ไปหมู่บ้านอินทรวดีค่ะ” โชเฟอร์หันไปออกรถ 3 ชม.ผ่านไปแท็กซี่ก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่ง
“180 บาทครับ”คนขับหันมาบอกฉัน หน้าตายิ้มแย้ม
ฉันก้มหน้าลงค้นหากระเป๋าสตางค์ “เฮ้ย หายไปไหน ”
“มีอะไรหรอครับ”
“ฉันไม่มีตัง”ฉันบอกคนขับตาแป๋ว แล้วมองเข้าไปในบ้านหลังโตหลังนั้น “ ฉันขอเวลา 10 นาทีนะจะเข้าไปเอาตัง”ฉันเปิดประตูแล้ววิเข้าบ้านหลังโตอย่างรวดเร็ว กว่าจะมาถึงในบ้าน ก็เหนื่อยแล้ว
“พี่รุ้งงงงงงงงงง”ฉันตะโกนดังทั่วบ้าน
“กลับมาแล้วหรอยัยตัวดี รู้มั้ยว่าพ่อโกรธมาก “พี่รินบ่นโดยไม่ฟังฉันพูดเลย
“พี่รินขอตังไปจ่ายค่ารถก่อน 180 บาท”ฉันแบมือตรงหน้าพี่รินที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“พี่นกคะ ช่วยไปจ่ายค่ารถให้รันหน่อยนะค่ะ “ พี่รินยื่นเงินไปให้สาวใช้ รีบรับแล้ววิ่งออกจากบ้านไป
“ส่วนเธอยัยรัน ไปโทรหาพ่อด่วนเลย” ฉันทำหน้ามุ่ยแล้วเดินไปที่โทรศัพท์
กรี้งๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันยกหูโทรศัพท์ขึ้น
“ ฮาโหล”
“คุณหนูรันครับ คุณท่านจะคุยด้วยครับ” เสียงปลายสาย ถ้าจำไม่ผิดเสียงนั้นคือเสียงของโคโตะ เลขาหนุ่มประจำตัวของป๊าฉัน (ส่วนตัวก็พอแล้วมั้ง :: โมชิโมริ)
“อึม”
“รันลูกคิดอะไรอยู่ ทำไมลูกถึงได้ทำตัวแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกจะทำยังไง”
“ป๊า รันขอโทษ รันก็แค่เบื่อที่จะนั่งรถนานๆ”
“ครั้งนี้ ป๊าจะยกโทษให้ลูก แต่มันจะไม่มีครั้งหน้า อ๋อ ป๊ามีอะไรจะคุยกับลูก ป๊าจะให้ลูกเล่นMV.เรื่องนึงป๊าว่ามันควรจะถ่ายที่เมืองไทยป๊าเลยอยากให้รันเล่นเป็นนางเอก จะได้โปรโมท เทปของลูกด้วย ป๊าดูเวลาแล้วมันตรงกับต้อนลูกปิดเทอมพอดี ป๊าให้เวลาลูกเตรียมตัว 3 เดือนป๊าคงไม่ผิดหวังนะ ” ป๊าพูดจบก็ว่าสายโดยไม่ฟังฉันพูดเลยซักนิด
“รัน ดีใจด้วยนะ แกจะได้เล่นหนังคู่กับสุดที่รักของฉัน น่าอิจฉาจัง” พี่รุ้งทำท่าดีใจ “U“
“เล่นกับใครหรอ” ฉันงงไปหมดแล้ว 0-0?
“ก็เล่นกับ นาคามิ อากิระ ไง นายนั่นทั้งหล่อทั้งเข้มใครอยู่ใกล้ก็ต้องหลงรักและยังเล่น กับอากิโตะพี่ชายสุดหล่อของเขาอีก” O-O โอ้ย ฉันต้องเล่นหนังกับหมอนั่นจริงๆหรอเนี่ย ใครเป็นคนคัดเลือกตัวแสดงเนี่ย
จะไม่ให้ฉันโมโหได้ไง ก็นายนี่มันเคยมีข่าวกับฉันว่าฉันกับนายนั่นเป็นแฟนกัน ทั้งที่มันมีแฟนอยู่แล้วทำให้ฉันโดนลงข่าวว่าฉันเป็นมือที่ 3 แล้วฉันยังมีเรื่องกับแฟนของนายนั่นอีก แล้วถ้าเกิดเรื่องอีก แฟนนายนั่นจะฆ่าฉันมั้ยเนี่ย
เฮอ ทีคนที่เราชอบดันไม่ชอบเราทีไอ้คนที่ไม่ชอบดันชอบ เฮอ วันนี้มันเป็นวันที่ซวยที่สุดของฉันจริงๆๆๆๆๆๆๆ
“รัน พี่ลืมบอกไป วันศุกร์โรงเรียนเปิดนะ ห้องนอนเธออยู่ซ้ายมือห้องสุดท้าย ”พี่รินยิ้มหวานให้ฉัน
“โอ้ย ไม่คิดจะให้เตรียมตัวกันก่อนเลยใช่ไหม” ฉันวิ่งขึ้นชั้นบนแล้วมาหยุดอยู่หลังประตูบานหนึ่งฉันเอื่อมมือไปหบิดลูกหบิด เปิดเข้าไปในห้อง
ฉันถึงกับ อึ่ง ทึ่ง และตะลึง เพราะห้องของฉันมันใหญ่มากกกกกกกกกก ถ้าวัดกับห้องนอนที่ญี่ปุ่นของฉันนะมันเท่ากับว่าเอา ห้องของฉันมารวมกัน2ห้องเลย ฉันเปิดเข้าไป ก็เจอโซฟา 1ชุด ทางขวาของฉันเป็นห้องน้ำ ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาสีชมพูอ่อน แล้วมองไปรอบห้อง หน้าโซฟามีโทรทัศน์ขนาด 20 นิ้ว และลำโพง 2 ขนานอยู่ 2 ข้างฉันมองไปทางตู้เสื้อผ้าประตูตู้เป็นกระจะทุกบาน ระหว่างโซฟากับเตียงนอนมีกระจกฝ้ากลั้นอยู่
23.10 น.
ฉันยังนอนไม่หลับเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันติดตา
“อย่าให้ ฉันเจอนายนะ นายตายแน่ บ้าาาาาาาาาาา” ฉันทุบหมอนอย่าแรงเพื่อระบายอารมณ์
“รัน รัน เป็นอะไร เปิดให้พี่เข้าไปสิ” เสียงพี่รุ้งและพี่รินทุบประตูฉันอย่างแรง
ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตู “มีไรกัน ทุบอยู่ได้ เดียวประตูก็พังหรอก” ( แกไม่คิดจะห่วงพี่สาวเลยรึไงว่ามือจะพัง :: โมชิโมริ )
“ก็พี่ได้ยินเสียงแกร้องซะดัง ก็นึกว่าเป็นอะไร” พี่รินทำหน้าซีเรียด
“ไม่มีไร จะนอนแล้ว แล้วพี่ไม่นอนไง พรุ่งนี้ไปโรงเรียนนะ บาย” ฉันปิดห้องแล้ววิ่งขึ้นที่นอน
ความคิดเห็น