ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แผนการร้ายของยัยซูเปอร์สตาร์

    ลำดับตอนที่ #1 : ” มาถึงซะที เมืองที่น่าอยู่”

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 50


    ตอนที่ 1มาถึงซะที เมืองที่น่าอยู่

    รัน”talk”

    ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อ เซรัน ซึบาสะป๊าเป็นชาวญี่ปุ่นชื่อโทคิวะ มีบริษัทใหญ่โตอยู่ที่ญี่ปุ่นชื่อ PMRT ส่วน แม่ชื่อวารุณี เป็นคนไทยมีพี่น้อง 4 คน พี่คนแรกชื่อ เรนนะ หรือ รุ้ง พี่คนที่สองชื่อ  รินนะ ส่วนน้องชายคนเดียวของตระกูลชื่อ เรย์ ฉันอยู่ เมืองไทยถึงอายุ 5 ขวบแล้วป๊าจึงให้ฉันและพี่-น้องไปเรียนที่ ญี่ปุ่น เราจึงย้ายกันไปทั้งครอบครัว แล้วฉันก็ไม่เคยกลับมาที่เมืองไทยเลยจนป๊าชวนฉันไปถ่ายโฆษณา แล้วต่อด้วย การเล่นภาคยนต์ 5 เรื่อง และ ออกเทป 2 ชุด เมื่อเทปชุดที่ 2 ออก ฉันก็อายุเกือบ 17 ปี ป๊าก็ส่งฉันมาเรียนต่อที่เมืองไทยกับพี่ๆและน้องเพราะอะไรก็ไม่รู้

     

    วันพฤหัส เวลา 12.50 .

    .สนามบินประเทศไทย

    ซูเปอร์สตาร์อย่างฉันมาเมืองไทยทั้งทีก็ต้องมี แฟนคลับ มาต้อนรับกันหน่อย ฉันเดินลงจากเครื่องบินพร้อมกับพี่รุ้ง พี่ริน และเรย์

    ขณะที่ฉันรอรถมารับ ทางทีมงานก็จัดให้ฉันอยู่ในห้องที่มีกระจกรอบทิศทางมีคนมามุงดู ล้อมรอบกระจกแล้วถ่ายรูปกันใหญ่ เหมือนไม่เคยเห็น คนอย่างนั้นแหละ อ๋อ!ฉันรู้แล้ว พวกนี้ต้องไม่เคยเห็นคนสวยแน่เลย จะทำไงได้ คนมันเกิดมาสวย(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลย นางเอกฉัน :: +โมชิโมริ+)

    เย้ มาถึงซะทีฉันบิดขี้เกียจ

    นี่รัน เธอจะมาบิดขี้เกียจ แบบนี้ได้ไง รักษาภาพพจน์หน่อยสิเสียงพี่รินสุดที่รัก ของฉันบ่นให้ฉันฟังเป็นรอบที่1,000,000,000แล้ว (เวอร์ไป :: +โมชิโมริ+)

    เมื่อไร รถจะมาเนี่ยพี่รุ้ง สุดที่รักของฉันบ่นอีกคน

    มาช้าๆนะดีแล้วน้องชายฉันพูดพร้อมเดินวนรอบห้อง หกเหลี่ยมแล้วบ้ายบายสาวๆที่มามุงดุ ทำให้สาวๆพวกนั้นกรี๊ดกันใหญ่ พี่รัน ผมอยากออกไปหาสาวๆ พวกนี่จังเรย์ยังคงเดินโชว์สาวไม่ยอมหยุด

    นี่ เมื่อไรแกจะนั่งฟะ ฉันมองแล้วเวียนหัวฉันเดินไปดึงเรย์ให้มานั่งที่เดิม แต่เมื่อฉันลุกจากเก้าอี้ ก็มีเสียง กรี๊ด ฉันก็ไม่รู้ว่ากรี๊ดอะไรกัน ทำให้ฉันไม่อยากลุกออกจากเก้าอี้ตัวนี้เลย

    ฉันหมุนเก้าอี้ไปหาพี่รุ้ง พี่รุ้ง รันชักไม่แน่ใจแล้วว่าเขามาดูรันหรือมาดูสัตว์ประหลาดกันแน่” *_*

    คุณครับ รถมาแล้วครับเสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้ฉันดีใจสุดๆ

     

    เราทั้ง 4 เดินตามชายร่างบึก คนนั้นมาที่ลานจอดรถ หลังสนามบิน นี่ถ้ามีคนมาทำร้ายนะ มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย

    เชิญครับชายร่างบึกคนนั้น เปิดประตูรถตู้คันโตให้ฉันและพี่ๆน้อง ขึ้นไปนั่ง จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนั่งข้างหน้าคู่กับคนขับ

    รถคันโตออกจากสนามบิน 1 ชั่วโมงผ่านไป รถยังไม่คิดจะขยับเลยซักนิด  เฮอ  แล้วเมื่อไรจะถึงละเนี่ย  เฮอ เบื่อจริงโว้ย ไม่มีอะไรทำเลย เฮอ พวกนี้ก็หลับเป็นตายเลย ขี้เซาจริงๆ

    พี่คะ ที่นี่เขาเรียกว่าอะไรหรอคะแล้วเราจะไปไหนกันฉันยื่นหน้าไปถามคนขับ

    ที่นี่สยามสแคว กำลังจะไปหมู่บ้านอินทรวดีครับคนขับตอบแบบนอบน้อม

    พี่ไม่เบื่อหรือไง ที่รถมันติดแบบนี่ฉันชวนคนขับคุย

    ชินแล้วแหละครับ กรุงเทพก็แบบนี้แหละครับเขายิ้ม

    พี่ หนูมีอะไรให้พี่ช่วยหน่อยฉันเข้าไปพูดข้างหู คนขับเบาๆ

    อะไรหรอครับเขาทำหน้างง

    ก็คือว่าหนูจะลงไปดูแถวนี้หน่อยเดี่ยวหาทางกลับเอง ถ้าไปถึงแล้ว  ให้บอกว่ารันลงกลางทางเดี่ยวหาทางกลับเอง

    โอเคนะพอพูดจบฉันก็หยิบหมวกเปิดประตูลงไปอย่างช้าๆและเงียบที่สุด

     

    ฉันเดินมาตามทาง แต่ละคนที่เดินผ่านฉันก็มองฉันแล้วหันไปกระซิบกับแต่ฉันก็ไม่สนใจและยังคงเดินตอไปจนถึง ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปในร้านแล้วสั่ง กาแฟมา ฉันเดินออกมานอกร้านแล้วจึงดึงหมวกมาปิดหน้าแล้วก้มหน้าลง

    ขณะนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฉันเดินชนคนเข้าอย่างจัง กาแฟก็หกใส่คนคนนั้นด้วย

    นี่ เดินไม่ดูเลยรึไง เดินหัดดูทางซะมั่งสิฉันเงยหน้าขึ้นมา มองคนที่กำลังยืนว่าฉัน ฉอดๆๆ

    ฉันดึงหมวกออกด้วยความโมโห แล้วนายทำไมไม่ดูทางบ้างละ ว่าแต่คนอื่นฉันจ้องหน้านายนั่นเขมงนายนั่นจ้องฉันเหมือนหาอะไรซักอย่าง ทำไม  ไม่เคยเห็นคนรึไงฉันตะหวาดนายนั่นด้วยความโมโห

     

    เธอใช่เซรัน รึป่าวนายนั่นรู้ได่ไงว่าฉันเป็น…(ทำไมจะไม่รู้ ก็แกเล่นถอดหมวกซะอย่างนั่น  ::  โมชิโมริ)

    ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดมอง ฉันกับนายนั่นเป็นตาเดียวกัน แล้วเดินเข้ามามุงกันใหญ่  มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้า พร้อมกับยื่นกระดาษให้ฉัน  พี่เซรัน ขอรายเซ็นหน่อยค่ะฉันหันไปหานายนั่นเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ นายนั่นยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วให้ฉัน  พี่เซรัน พี่มากับใครหรอคะผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในฝูงชน พูดขึ้นทำให้มีเสียงตามมามากมาย ฉันหันไปหานายนั่น เป็นเชิงขอความช่วยเหลือ อีกครั้ง นายนั่นยักหน้าแล้วยิ้มมุมปาก

    นายนั่นจับที่ข้อมือของฉัน แล้วพาฉันวิ่งออกจากฝูงชน 10 นาทีผ่านไปฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนนายนั่นยังคงพาฉันวิ่งไม่หยุด นี่นาย ฉันเหนื่อยแล้วนะฉันดึงนายนั่นให้หยุด แต่ด้วยแรงมหาสาร ทำให้แรงขอฉันไม่มีความหมาย นายฉันพูดไม่ได้ยินหรือไง หยุดก่อนได้ไหมนายนั่นหยุดหันมามองฉันด้วยสายตาแบบค้อนๆ

    อยากให้พวกนั่น ตามมาทันรึไง

    ก็คนมันเหนื่อย จะให้ทำไงละถามมาได้

    มานี่นายนั่นดึงฉันเข้าไปใหซอก ระหว่างตึก 2 ตึก ขอโทษนะ  แต่เพื่อตัวเธอเองนายนั่นดันฉันติดกำแพงแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน

    นายจะทำอะไรของนายนะฉันเอามือดันที่อกของนายนั่น

    ทำให้เธอ…” นายนั่นยังพูดไม่ทันจบก็มีฝูงชน ที่ตามฉันมาวิ่งผ่านไป เฮ้ย เขาบอกว่าเซรันไปทางนู้น ตามไปเร็ว

    เสียงนั้นทำให้นายนั่นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีก ปากของเขาประกบกับปากของฉัน

    อื้อ ฉันพยายามผลัก นายนั่นออกไปแต่มันไม่ทำให้นายนั่น ขยับเลยซักนิด

    ออย อั้น เอี่ยว อี้ อะอย่าตกใจ ว่าฉันพูดภาษาอะไรฉันพูดว่า ปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะ  แต่ปากของนายนั่นปิดปากของฉันอยู่ทำให้มันออกมาเป็นแบบนี้

    นายนั่นค่อยๆถอนปากของเขาออกจากปากของฉัน  ฉันผลักนายนั่นออกไป นายนั่นเซไป 2-3 ก้าว เธอทำเหมือนไม่เคยนายนั่นยิ้มมุมปาก

    แล้วใครบอกว่าฉันเคยละฉันหันไปค้อนใส่นายนั่น นายต้องชดใช้ฉันเดินเข้าไป ฉันเดินเข้าไปใกล้นายนั่น แล้วซัดหมัดที่หน้านายนั่นอย่างจัง

    คุณต่อยผมทำไมนายนั่นมีเลือด ซิบๆออกมาที่มุมปาก

    ก็นายมาทำฉันก่อนทำไมละ

    ผมทำอะไรคุณ ผมอุตส่าห์ ช่วยคุณนายนั่นเดินเข้ามาใกล้ฉัน จนฉันต้องถอยหลังจนหลังมาติดกำแพงนายนั่นเดินเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง

    นี่นายอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน

    นายนั่นยังเดินเข้ามาใกล้ฉันไม่หยุด หึ ฉันเตือนนายแล้วนะ

    อุ๊บ…” ฉันเตะผ่าหมากจนนายนั่นทรุดตัวลงนั่งแล้วหน้าแดงอย่างแรง 

    นี่เธอแสบมาก ฉันจะต้องแก้แค้นเธอให้ได้เมื่อนายนั่นพูดจบ ฉันก็เดินออกมาจากที่นั่นนี่เธอ…”ฉันไม่สนใจที่จะฟังอะไรทั้งนั้น  ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปถามร้าน ขายของว่าที่นี่ที่ไหน

    พี่คะ ที่นี่ที่ไหนหรอคะ

    “… .…”ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์  ฉันตัดสินใจเดินออกจากร้านนั้น

    เฮอ วันนี้มันวันอะไรของฉันนะเนี่ย มันถึงได้ซวยอย่างนี้ ฉันเดินไปตามทางก็เจอป้ายรถประจำทาง ฉันเดินไปโบกรถ แท็กซี่ ก็ มีรถแท็กซี่สี ฟ้า-แดง มาจอดรับ  ฉันเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่ง พี่คะ ไปหมู่บ้านอินทรวดีค่ะโชเฟอร์หันไปออกรถ 3 ชม.ผ่านไปแท็กซี่ก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่ง

    “180 บาทครับคนขับหันมาบอกฉัน หน้าตายิ้มแย้ม

    ฉันก้มหน้าลงค้นหากระเป๋าสตางค์ เฮ้ย หายไปไหน

    มีอะไรหรอครับ

    ฉันไม่มีตังฉันบอกคนขับตาแป๋ว แล้วมองเข้าไปในบ้านหลังโตหลังนั้น ฉันขอเวลา 10 นาทีนะจะเข้าไปเอาตังฉันเปิดประตูแล้ววิเข้าบ้านหลังโตอย่างรวดเร็ว กว่าจะมาถึงในบ้าน ก็เหนื่อยแล้ว

     

    พี่รุ้งงงงงงงงงงฉันตะโกนดังทั่วบ้าน

    กลับมาแล้วหรอยัยตัวดี รู้มั้ยว่าพ่อโกรธมาก พี่รินบ่นโดยไม่ฟังฉันพูดเลย

    พี่รินขอตังไปจ่ายค่ารถก่อน 180 บาทฉันแบมือตรงหน้าพี่รินที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

    พี่นกคะ ช่วยไปจ่ายค่ารถให้รันหน่อยนะค่ะ พี่รินยื่นเงินไปให้สาวใช้ รีบรับแล้ววิ่งออกจากบ้านไป

    ส่วนเธอยัยรัน ไปโทรหาพ่อด่วนเลยฉันทำหน้ามุ่ยแล้วเดินไปที่โทรศัพท์

    กรี้งๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันยกหูโทรศัพท์ขึ้น

    ฮาโหล

    คุณหนูรันครับ คุณท่านจะคุยด้วยครับเสียงปลายสาย ถ้าจำไม่ผิดเสียงนั้นคือเสียงของโคโตะ เลขาหนุ่มประจำตัวของป๊าฉัน (ส่วนตัวก็พอแล้วมั้ง :: โมชิโมริ)

    อึม

    รันลูกคิดอะไรอยู่ ทำไมลูกถึงได้ทำตัวแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกจะทำยังไง

    ป๊า รันขอโทษ รันก็แค่เบื่อที่จะนั่งรถนานๆ

    ครั้งนี้ ป๊าจะยกโทษให้ลูก แต่มันจะไม่มีครั้งหน้า อ๋อ ป๊ามีอะไรจะคุยกับลูก ป๊าจะให้ลูกเล่นMV.เรื่องนึงป๊าว่ามันควรจะถ่ายที่เมืองไทยป๊าเลยอยากให้รันเล่นเป็นนางเอก จะได้โปรโมท เทปของลูกด้วย ป๊าดูเวลาแล้วมันตรงกับต้อนลูกปิดเทอมพอดี  ป๊าให้เวลาลูกเตรียมตัว 3 เดือนป๊าคงไม่ผิดหวังนะ ป๊าพูดจบก็ว่าสายโดยไม่ฟังฉันพูดเลยซักนิด

    รัน ดีใจด้วยนะ แกจะได้เล่นหนังคู่กับสุดที่รักของฉัน น่าอิจฉาจังพี่รุ้งทำท่าดีใจ “U“

    เล่นกับใครหรอฉันงงไปหมดแล้ว  0-0?

    ก็เล่นกับนาคามิ อากิระ ไง นายนั่นทั้งหล่อทั้งเข้มใครอยู่ใกล้ก็ต้องหลงรักและยังเล่น กับอากิโตะพี่ชายสุดหล่อของเขาอีก” O-O โอ้ย ฉันต้องเล่นหนังกับหมอนั่นจริงๆหรอเนี่ย ใครเป็นคนคัดเลือกตัวแสดงเนี่ย

    จะไม่ให้ฉันโมโหได้ไง ก็นายนี่มันเคยมีข่าวกับฉันว่าฉันกับนายนั่นเป็นแฟนกัน ทั้งที่มันมีแฟนอยู่แล้วทำให้ฉันโดนลงข่าวว่าฉันเป็นมือที่ 3 แล้วฉันยังมีเรื่องกับแฟนของนายนั่นอีก แล้วถ้าเกิดเรื่องอีก แฟนนายนั่นจะฆ่าฉันมั้ยเนี่ย

     เฮอ ทีคนที่เราชอบดันไม่ชอบเราทีไอ้คนที่ไม่ชอบดันชอบ เฮอ วันนี้มันเป็นวันที่ซวยที่สุดของฉันจริงๆๆๆๆๆๆๆ

    รัน พี่ลืมบอกไป วันศุกร์โรงเรียนเปิดนะ ห้องนอนเธออยู่ซ้ายมือห้องสุดท้าย พี่รินยิ้มหวานให้ฉัน

    โอ้ย ไม่คิดจะให้เตรียมตัวกันก่อนเลยใช่ไหมฉันวิ่งขึ้นชั้นบนแล้วมาหยุดอยู่หลังประตูบานหนึ่งฉันเอื่อมมือไปหบิดลูกหบิด เปิดเข้าไปในห้อง

     

    ฉันถึงกับ อึ่ง ทึ่ง และตะลึง เพราะห้องของฉันมันใหญ่มากกกกกกกกกก ถ้าวัดกับห้องนอนที่ญี่ปุ่นของฉันนะมันเท่ากับว่าเอา ห้องของฉันมารวมกัน2ห้องเลย ฉันเปิดเข้าไป ก็เจอโซฟา 1ชุด ทางขวาของฉันเป็นห้องน้ำ ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาสีชมพูอ่อน แล้วมองไปรอบห้อง หน้าโซฟามีโทรทัศน์ขนาด 20 นิ้ว และลำโพง 2 ขนานอยู่ 2 ข้างฉันมองไปทางตู้เสื้อผ้าประตูตู้เป็นกระจะทุกบาน ระหว่างโซฟากับเตียงนอนมีกระจกฝ้ากลั้นอยู่

     

    23.10 .

    ฉันยังนอนไม่หลับเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันติดตา

    อย่าให้ ฉันเจอนายนะ นายตายแน่ บ้าาาาาาาาาาาฉันทุบหมอนอย่าแรงเพื่อระบายอารมณ์

    รัน  รัน  เป็นอะไร เปิดให้พี่เข้าไปสิเสียงพี่รุ้งและพี่รินทุบประตูฉันอย่างแรง

    ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตู มีไรกัน ทุบอยู่ได้ เดียวประตูก็พังหรอก” ( แกไม่คิดจะห่วงพี่สาวเลยรึไงว่ามือจะพัง :: โมชิโมริ )

    ก็พี่ได้ยินเสียงแกร้องซะดัง ก็นึกว่าเป็นอะไรพี่รินทำหน้าซีเรียด

    ไม่มีไร จะนอนแล้ว แล้วพี่ไม่นอนไง พรุ่งนี้ไปโรงเรียนนะ บายฉันปิดห้องแล้ววิ่งขึ้นที่นอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×