ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My [boy]friend รักครั้งใหม่ นายเพื่อนฉัน

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 “หมอนี่”

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 53



    Chapter 1      หมอนี่

     

              “เนย์...ลูก ตื่นได้แล้ว วันนี้พ่อต้องไปทำงานแต่เช้านะลูก ตื่นได้แล้ว

              ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก มองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังห้อง โห! นี่มันเพิ่งจะตี 5 ครึ่งเองนะ อะไรของพ่อเนี่ย ..

              พ่อจะไปทำงานก็ไปสิคะ โชคดีค่ะ บ๊ายบาย ฉันพูดเสียงอู้อี้ แล้วหลับตาลงอีกครั้ง

              เนย์ พ่อต้องรีบไปนะลูก

              พ่อก็ไปสิค้า มาบอกเนย์ทำไมอ่ะ มันยังไม่ใช่เวลาตื่นนอนของเนย์ซักหน่อยนะเนี่ย ฉันเปิดประตูห้องออก แล้วเกาหัวอย่างหงุดหงิด

              ฟังพ่อใหม่นะ ..วันนี้พ่อต้องไปทำงานแต่เช้า และลูกต้องไปกับพ่อ ลืมเรื่องที่คุยกันไว้เมื่อคืนไปแล้วหรือไง พ่อพูดประโยคนี้ ด้วยเสียงดังฟังชัด สะกดทีละคำอย่างชัดเจน

              เมื่อคืน .. ฉันหยุดคิดนิดหนึ่ง

              อ๋อ! ที่พ่อต้องไปญี่ปุ่น 1 เดือน แล้วให้เนย์ไปนอนบ้านลุงเจษที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ ซึ่งบ้านเค้าใหญ่โต เพียบพร้อมสมบูรณ์ มีครบทุกอย่าง และเนย์ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแล ที่นอนหมอนมุ้ง และอาหาร ส่วนเรื่องโรงเรียน ก็จะมีคนคอยรับส่งเนย์ ใช่มั้ยคะ

              “ก็ไม่ลืมนี่ แล้วทำไมยังมัวนอนคลุมโปงอยู่อย่างนี้ล่ะลูก

              “เฮ้อ.. ค่ะๆ เข้าใจแล้วค่ะ ของอ่ะ เนย์เก็บตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ขอเวลาเนย์อาบน้ำแต่งตัว 20 นาที โอเคมั้ยคะ ฉันทำหน้าทะเล้น พร้อมกับชูมือขึ้นมา ทำสัญลักษณ์ว่า โอเค

              จ้า ..แม่คนเก่งพ่อขยี้ผมฉันเบาๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง

              “อิอิ ..เนย์รักพ่อที่สุดเล้ย .. ฉันเข้าไปกอดเอวพ่อ และยืดตัวขึ้นหอมแก้มพ่ออีกฟอด

              ไปๆ รีบอาบน้ำแต่งตัวเร็วเข้า เดี๋ยวพ่อได้ตกเรื่องกันพอดี

              ค่ะ เดี๋ยวเนย์จะรีบบ  ...ตามลงไปเลยค่ะ ^^” ฉันลากเสียงยาว แล้วก็เข้าไปในห้อง เพื่อทำธุระส่วนตัว

             

              ฉันชื่อ โนเนย์ - ณิชกุล วรรุจิกุล เป็นลูกคนเดียว ฉันอาศัยอยู่ที่บ้านกับคุณพ่อ ที่เป็นนักธุรกิจชื่อดัง ก็แม่ของฉันน่ะ จากไปตั้งแต่ฉันเด็กๆ แล้วล่ะ เด็กมากๆ จนฉันแทบจะจำความไม่ได้ พ่อก็รักฉันมากเหมือนกัน ก็พ่อมีฉันแค่คนเดียวนี่นา พ่อก็เลยห่วงฉันมาก อย่างเช่นครั้งนี้ พ่อไม่ยอมให้ฉันอยู่บ้านคนเดียวเลย ทั้งๆ ที่ฉันก็อยู่ได้ อาจจะแค่เหงานิดหน่อยเท่านั้นเอง ก็ตั้ง 1 เดือนนี่เนอะ แต่เพื่อความสบายของพ่อแล้ว ฉันก็เลยต้องไปพักที่บ้านลุงเจษตามที่พ่อบอก

             

              อ่ะ  ...ถึงละ พ่อพูด แล้วจอดรถ

              เหมือนเนย์จะเคยมาบ้านนี้ ยังไงก็ไม่รู้นะพ่อ  ...คุ้นชะมัดเลย ฉันมองตัวบ้านและรอบๆ บริเวณ แล้วก็เอ่ยปากถามพ่อ พร้อมกับครุ่นคิด

              ก็เคยแล้วไง แต่มันก็นานมากแล้วที่ลูกไม่ได้มาที่นี่ ตั้งแต่ลูกเด็กๆ แล้วล่ะ ตั้งแต่แม่ยังอยู่ หน้าของพ่อดูเศร้าลงอย่างถนัดตา พ่อก็รักแม่มากเหมือนกัน

              โหย ! หนูจำบ้านหลังนี้ได้ แต่จำแม่แทบไม่ได้ อกตัญญูชิบเลยเรา ฉันจึงต้องรีบพูดติดตลก พูดให้พ่อเลิกคิด

              หึหึ ไม่หรอกลูก ก็ลูกน่ะชอบที่นี่มาก ติดที่นี่ มาทีไรก็ต้องร้องไห้ไม่ยอมกลับบ้านทุกทีเลย ติดลุงเจษ ติดตาริวลูกชายลุงเค้าด้วย แต่ลูกน่ะไม่ติดแม่เลย ลูกก็เลยจำไม่ค่อยได้

              โหย  ...บ้าผู้ชายตั้งแต่เด็กเลยนะเนี่ย แต่หนูไม่เห็นจะจำริวอะไรนั่นได้เลยนะพ่อ

              ไม่รู้สิ ก็ไม่เจอกันนานละนี่ ตอนเด็กๆ นะ ลูกติดพ่อยิ่งกว่าอะไร นี่ถ้าพ่อมีน้ำนมให้ลูกกินนะ ลูกคงได้กินนมพ่อแทนนมแม่แหงๆ เลย ฮ่าๆๆ พ่อพูดแล้วยิ้ม พ่อยิ้มแล้วๆๆ ^^’

              “โห  ...ขนาดนั้นเลย

              จริงๆ นะ ติดตั้งแต่เล็ก จนโตป่านนี้ก็ยังติดอยู่เลยเนี่ย เดี่ยวพ่อไปทำงาน ลูกต้องร้องไห้คิดถึงพ่อแน่ๆ

              “เนย์ออกจะเข้มแข็ง ใครจะร้องกันแน่ พ่อแหละ ต้องร้องไห้คิดถึงเนย์

              หึหึ เดี๋ยวก็รู้  ...ป่ะๆ ลงรถได้ละ

              ว่าไงนพ  ... คุณลุงคนหนึ่งท่าทางใจดี เดินเข้ามาทักทายพ่อด้วยรอยยิ้ม

              อ้าว! เจษ  เนย์  ..สวัสดีลุงเจษสิลูก

              สวัสดีค่ะลุงเจษ ^^” คนนี้นี่เองลุงเจษเพื่อนพ่อ คุ้นๆ นะเนี่ย

              โห  ...จำแทบไม่ได้แน่ะ โตขึ้นเยอะเลยนะหลานลุง ลุงเจษเดินมาขยี้ผมฉันเบาๆ นิสัยเหมือนพ่อชะมัดเลย

              ฝากด้วยนะ ซนหน่อยแต่ก็ใช้งานได้

              ก็เหมือนเจ้าริวนะแหละ โตป่านนี้ละยังทำตัวเป็นเด็กอยู่เลย ดูสิ ตอนนี้ยังไม่ลงมาจากห้องนอนเลย

              ริวกลับมาจากอเมริกาแล้วหรอ เป็นหนุ่มแล้วล่ะสิเนี่ย

              อื้ม ...เข้าไปข้างในก่อนมั้ยนพ อยากคุยกับนายหลายเรื่องเลย พ่อก้มดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง

              “อื้มๆ ยังพอมีเวลา คิดถึงที่นี่เหมือนกัน ไม่ได้มานานเลย

              ป้าพร สั่งคนมาขนของน้องเนย์ลงด้วยนะ ลุงเจษหันไปบอกแม่บ้านคนหนึ่ง

              ค่ะ ^^” ป้าพรยิ้มให้ฉัน ...คุ้นๆ อีกละ คนบ้านนี้ดูท่าทางยิ้มแย้ม ใจดีกันจังเลย         

              แล้วลุงเจษก็พาฉันและพ่อเดินเข้ามาข้างในบ้าน ข้างในกว้างชะมัด

     

              โห ...บ้านลุงเจษน่าอยู่มากๆ เลยค่ะ

              งั้นก็อยู่นานๆ สิจ๊ะ ลุงเจษยิ้มอย่างใจดีให้ฉัน แล้วเราทั้ง 3 คนก็นั่งลงที่โซฟาหรูตรงมุมหนึ่งของห้องโถงกว้าง

              ตั้ง 1 เดือน แค่นี้ก็รบกวนลุงเจษแย่แล้วค่ะ

              รบกงรบกวนอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น ชอบเกรงใจเหมือนพ่อเลยนะ พ่อเราน่ะชอบเกรงใจอะไรไม่เข้าเรื่อง ลุงเจษพูด แล้วแอบแลไปทางพ่อ พ่อได้แต่ยิ้ม ก็พ่อน่ะขี้เกรงใจคนมากๆ เลยล่ะ

              “1 เดือน ถ้าอยู่นานกว่านี้ ลุงเจษจะเบื่อหน้าหนูเอาสิคะ เดี๋ยวลุงเจษไม่รักหนูขึ้นมา หนูก็ซวยสิคะ

              ใครมาแต่เช้าน่ะครับพ่อ เสียงหล่อๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลังของฉัน ฉันหันไปมอง

              “ตื่นแล้วหรอ วันนี้ตื่นเช้าแปลกๆ นะ ลุงเจษทักเด็กผู้ชายคนนั้น

              ริว ...หรอคะ ฉันถาม พร้อมกับสังเกตรูปพรรณสัณฐานของเขา

             

              ใบหน้าเรียวยาว เนียนใสเข้ากับผมสีดำสนิทที่ถูกตัดเป็นทรงรากไทร และไว้ยาวประบ่า คิ้วบางโค้งได้รูป ตาคมๆ ที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอยู่ข้างใน ซึ่งถ้าสายตาคู่นั้นมองมาที่เรา อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้ทันที จมูกโด่งเป็นสัน ปากเรียวบางสีชมพูธรรมชาติ ผิวของเขาขาวผุดผ่อง มองแล้วรู้สึกเหมือนได้เจอเทพบุตรตัวเป็นๆ ยังไงก็ไม่รู้ อร๊ายยย ...

             

              มาเรียกชื่อชั้นได้ไง ...เธอเคยรู้จักชั้นหรือไง เขาพูดกวนๆ แล้วยกผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ในมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเองเป็นการเช็ดน้ำ เพราะเขาเพิ่งสระผมมาใหม่ๆ มองยังก็เท่

             

    แต่ ...ฉันขอเปลี่ยนคำพูดเมื่อกี้ได้มั้ย ที่บอกว่าเจอเทพบุตรตัวเป็นๆ กลายเป็นซาตานตัวเป็นๆ จะเหมาะกว่า

    ริว ...ทำไมพูดกับเพื่อนอย่างงั้นล่ะลูก เพื่อน ...นายนี่ ม.5 เท่ากับฉันหรอเนี่ย ชิ! หน้าแก่

              ก็ยัยนี่ไม่ใช่เพื่อนผมนี่คับ เขาพูดเสียงเรียบ หนอย! ฉันก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับนายหรอก

              เฮ้อ จะรอดมั้ยเนี่ย ดูทำเข้าสิ ...สวัสดีลุงนพรึยัง ริว ลุงเจษส่ายหัวหน่ายๆ

              สวัสดีคับ เขายกมือไว้พ่อฉัน พ่อรับไว้ แล้วเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง

              โตขึ้นเยอะเลยนะริว แต่ดูไม่เหมือนตอนเด็กๆ เลย เด็กผู้ชายโตขึ้นก็เป็นอย่างนี้กันหมดเลยเนาะ

              ฮ่าๆๆ ขอบคุณที่เข้าใจว่ะ แล้วคุณพ่อกับลุงเจษก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข ส่วนฉันน่ะอยากจะขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นกับพ่อซะจริงๆ ทุกคนเป็นมิตรกับฉัน ต้อนรับฉันเป็นอย่างดี ยกเว้น ...หมอนี่!

              ถึงเวลาที่ชั้นต้องไปแล้วล่ะ เดี๋ยวไม่ทันขึ้นเครื่อง อ้าว! หมอนั่นหายไปไหนละเนี่ย ดี ...ไปให้ไกลๆ เลย

              เดี๋ยวชั้นไปส่ง ...ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งที่สนามบินนะ เพราะเดี่ยวชั้นก็ต้องรีบเข้าบริษัทเหมือนกันน่ะ

              “ไม่เป็นไรหรอกน่า ...แค่นี้ก็รบกวนนายมากพอแล้ว ฝากทีนะ พ่อพูด ขณะที่พวกเราทั้งสามคนเดินไปที่รถ

              อื้อ ไม่ต้องห่วง หลานสาวคนเดียวของชั้น ชั้นจะต้องดูแลให้ดีอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ

              ขอบใจมากนะ พ่อพูดกับลุงเจษเสร็จแล้ว จึงหันมาหาฉัน

              ลูกโอเคนะ ... พ่อคงจะถามถึงเรื่องหมอนั่นสินะ

              โอเคอยู่แล้วค่ะ ...อย่าห่วงเลยพ่อ แค่นี้เอง เนย์ไม่สะทกสะท้านอะไรหรอก ดีเหมือนกันนะคะ เนย์จะได้ไม่เหงาไง ^^”ฉันยิ้มกว้าง พยายามร่าเริงเข้าไว้ ไม่ให้พ่อต้องเป็นห่วง ทั้งที่ในใจกลัวว่าหมอนั่นจะมากวนประสาทแทบตาย

              งั้นก็ดีละ ...พ่อจะได้สบายใจ แล้วพ่อจะโทรหานะลูก อดทนนะ เดี๋ยวพ่อก็กลับมาละ 

              ค่ะ ไม่ต้องห่วง รีบไปได้แล้วพ่อ เดี๋ยวตกเครื่องนะ

              จ้ะ ...ดูแลตัวเองนะลูก

              ค่ะ พ่อด้วยนะ ...โชคดีนะคะ บ๊ายบาย ฉันโบกมือ เอียงหัวและยิ้มให้พ่อ

              จ้ะ พ่อไปนะ ไปนะเจษ แล้วพ่อก็ก้มมาหอมแก้มฉัน ก่อนจะไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป ฉันยืนโบกมือบ๊ายบายให้พ่อ จนรถลับตาไป

              เข้าบ้านกันจ้ะ หนูเนย์ ลุงเจษยิ้มแล้วพาฉันเดินเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง

     

              ฮึ่ย! ถึงเวลาที่ฉันจะต้องเข้มแข็ง อดทน และต่อสู้กับนายซาตานคนนั้นให้ได้แล้ว ...

             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×