ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Light oF The Destiny

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 : บุกรังปิศาจ

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 49



    " เจ้าควรจะตื่นได้แล้วนะ " เสียงของเอ็ดก้าดังขึ้นปลุกซิกและเบลนีก้าซึ่งกำลังงัวเงียอยู่

    "เช้าแล้วเหรอนี่ ....." เบลนีก้าพูดขึ้นพลางหาววอดใหญ่

    "เพื่อนของเจ้าเค้ารออยู่ด้านล่างแล้วนะเรากำลังเตรียมตัวกันอยู่ .." เอ็ดก้าบอกและเค้าก็เดินลงไปยังชั้นล่างปล่อยให้เบลนีก้าอยู่คนเดียว ..

              อีก 10 นาทีต่อมาเบลนีก้าก็ลงมาสมทบกับซิกและเอ็ดก้าซึ่งกำลังคุยกันเรื่องโบสถ์ ซิสเตอร์ และพระราชินี ..

    "โบสถ์นั่นเอาไว้ทำอะไร ?? " ซิกถามเอ็ดก้า

    "มันก่อตั้งขึ้นก่อนปราสาทอีกนะ ตอนแรกก็เอาไว้ช่วยเหลือพวกที่สร้างปราสาท เช่น หุงหาอาหาร เป็นที่พัก ที่ดูแลผู้บาดเจ็บจากการก่อสร้างก็มี.."  เอ็ดก้าอธิบาย "พอหลังจากที่ปราสาทสร้างเสร็จที่นั่นไม่มีความจำเป็นก็เลยกลายเป็นโบสถ์ไป เพื่อให้ความสำคัญกับมันเนื่องจากมันมีคุณค่าต่อผู้สร้างปราสาท หึ .. พูดแล้วก็เหมือนอนุสาวรีย์ ฮะ ๆ ๆ" เอ็ดก้าหัวเราะหลังจากอธิบายจบ

    "แล้วซิสเตอร์ที่กลายเป็นปิศาจล่ะ ??? "

    "อ๋อ .. ไอ้พวกเนเมซิสนั่นน่ะเรอะ มันปลอมตัวเป็นซิสเตอร์ตะหากล่ะ พวกมอนสเตอร์ที่เก่งๆ หรือฝีมือพอตัวอย่างเนเมซิสน่ะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ "เอ็ดก้าบอก "แต่มันทำได้แค่ผิวนอกยกตัวอย่างเช่น มันปลอมเป็นพ่อครัวแต่มันกลับทำอาหารไม่เป็นยังไงล่ะ หรือเลือดของมัน จะเป็นสีแดงอย่างเรา ๆ "

    "แล้วทำไมท่านถึงไปที่โบสถ์ล่ะ ??? "

    "เรื่องโบสถ์น่ะข้าติดตามมานานพอสมควรแล้วตั้งแต่ซิสเตอร์แปลกไป " เอ็ดก้าพูด
    "ข้าสนิทกับซิสเตอร์อยู่คนนึงนางชอบมาทักข้าเสมอเวลาเห็นหน้าข้า"

    "แต่พอไปเมื่อคราวก่อน นางเห็นหน้าข้ากลับทักทายเหมือนคนเพิ่งรู้จักกัน และซิสเตอร์คนอื่นๆก็เหมือนพยายามหลบหน้าข้าอีกด้วย มีคนนึงวิ่งหนีข้าไปเฉยๆพอเจอหน้าข้าซึ่งมันผิดวิสัยของซิสเตอร์ที่ต้องต้อนรับผู้คนนะ  ข้าก็เลยนึกเอะใจ จนมาอีกทีก็วันนี้ล่ะ "

    "อ้อ .." ซิกรู้สึกทึ่งเมื่อเห็นว่าเอ็ดก้ารอบรู้ทุกเรื่องอีกทั้งยังสังเกตุสิ่งรอบตัวได้อีกด้วย

    "เฮ้ .. ชั้นมาแล้วนะ " เบลนีก้าพูดขึ้นเรียกร้องตความสนใจ

    "อ้าว .. เบลนีก้า มาแล้วเหรอ งั้นไปกันเลย " ซิกพูดพร้อมกับลุกพรวดขึ้น

    "ใช่ .. เราต้องรีบไป .. ไม่ใช่ไปช่วยพระราชินี แต่ไปร้านขายอาวุธ " เอ็ดก้าพูดพลางนำพวกซิกออกนอกร้าน

    "เฮ้ ..!! เราไม่มีเวลาขนาดนั้นนะ !! " ซิกเถียงพร้อมกับที่เบลนีก้าพยักหน้าเห็นด้วย

    "ดาบของเจ้าแค่เล่มเดียวไปได้ไม่ถึงครึ่งทางก็เต็มกลืนแล้ว จะบอกให้" เอ็ดก้าพูดและพาพวกซิกไปที่ร้านขายอาวุธ

    "แล้วเราต้องเอาไปกี่เล่ม ?? " ซิกถาม

    "แล้วแต่เจ้าสิ ข้าพกไว้ 4 สองเล่มเอาไว้ใช้ เล่มหนึ่งกันสองเล่มแรกพัง และอีกเล่มเผื่อเอาไว้ " เอ็ดก้าเอ่ย

    "งั้นข้าพกไว้ 4 เหมือนท่านแล้วกัน" ซิกตอบพลางหยิบดาบ 4 เล่มขึ้นโดยไม่รู้ว่ามันเหมาะมือ คม หรือไม่คมเลย"

    เดี๋ยว !!

              เอ็ดก้าร้องขึ้นเมื่อซิกกำลังจะนำดาบที่เลือกมาแบบส่งๆ ไปจ่ายเงิน

    "อะไรเล่า !?? " ซิกถามขึ้น

    หมับ !

              เอ็ดก้าคว้าดาบทั้ง 4 เล่มในอ้อมแขนของซิกมาไว้ในมือตนเองพร้อมกับโยนลงถังใส่ดาบ

    "เจ้า  .. เลือกดาบไม่เป็นรึไง ??? " เอ็ดก้าถามอย่างงุนงง

    "อันไหนก็เหมือนกันแหละน่า " ซิกพร้อมกันกับจะหยิบดาบนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

    "ดาบ !! คือสิ่งสำคัญที่สุดของอัศวิน มันคือสิ่งที่ปกป้องเจ้าและคนที่เจ้าอยากจะปกป้อง เพราะงั้นมันต้องดีที่สุดจะเลือกส่งๆไปไม่ได้" เอ็ดก้าสอนซิกให้รู้ถึงคุณค่าของดาบ

    "แล้วจะเลือกยังไง ?? " ซิกถามเอ็ดก้า

    "อันดับแรกต้องคม และเหมาะมือ " เอ็ดก้าจับดาบและเหวี่ยงทดลองเกิดเสียงขวับๆอย่างน่ากลัว

    "อย่างที่สองคือ ไม่หนักหรือเบาเกินไป " เอ็ดก้าหยิบดาบอีกเล่มขึ้นมาวัดน้ำหนัก

    "และอย่างที่สาม !! ใส่จิตวิญญาณไปในดาบและมันจะแสดงพลังของดาบออกมาจนถึงที่สุด !! " เขาเดินออกไปนอกร้านและเหวี่ยงดาบที่ถืออยู่ออกไป

    ตูม !!

              ต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรถูกทำลายลงมันโค่นลงมากลางที่โล่งและเขาเดินกลับไปนำดาบใส่ที่เดิม

    "ทีนี้เจ้าจงเลือก " เอ็ดก้าบอกซิก

              เขาเลือกดาบเล่มหนึ่งขึ้นมา มันเหมาะมือและเบา เขาเหวี่ยงไปมาอยู่พักหนึ่ง เขารุ้สึกว่ามันยังไม่ใช่ดาบที่เขาจะใช้ และเค้าก็เลือกต่อไป และรู้สึกว่าตัวเเองกำลังใช้เวลาให้หมดไปโดยเปล่าประโยชน์

    "เอาดาบเล่มเก่าของเจ้าออกมาแกว่งดู ถ้าน้ำหนักเหมือนกัน เหมาะมือเหมือนกัน อันนั้นคือดาบที่เจ้าสามารถใช้ได้ดี " เอ็ดก้าบอก "อย่ารีบร้อน " 

              ซิกแกว่งดาบไปมาอยู่ 2 ชม. จนเค้าเลือกดาบที่ใช้ได้แล้ว 3 เล่มเขาก็พร้อมที่จะไปช่วยพระราชินีแล้ว.. - และเมื่อมาถึงหน้าโบสถ์อีกครั้งเอ็ดก้าได้เข้าไปเดินดูลาดเลาในโบสถ์ก่อน เมื่อทางปลอดโปร่งเข้าจึงเรียกให้พวกซิกเดินตามเข้ามา ทั้งสามเดินไปจนถึงแท่นบูชาพระเจ้าด้านในมันยังคงสภาพเดิมหลังจากที่พวกเขาต่อสู้กับเนเมซิส 4 ตัวนั้น และ..

    วิ้ง !

              เบลนีก้าเห็นมันอีกครั้งมันคือกิ๊บติดผมมันมีรอบบิ่นตรงช่วงปลายเธอคิดว่ามันคงจะบิ่นในตอนที่เธอสู้กับพวกเนเมซิสเมื่อวานนี้ ..

    "นี่ ! ฉันเจอไอ้นี่ละ" เบลนีก้าเรียกให้ทั้ง 2 มาดูสิ่งที่เธอเจอเอ็ดก้าและซิกต่างพิจารณามันอย่างถี่ถ้วน และแล้วทั้งสองก็พบอักษรโบราณซิกจำได้ว่าเค้าเคยเห็นมันที่ไหนสักแห่งแต่เขานึกไม่ออก

         !  !  !

              เอ็ดก้ามองตัวหนังสือโบราณแล้วหันไปที่เปียนโนพลางกดเปียนโนเป็นเพลง ๆ หนึ่ง ...

    ตึง !!

              ผนังโบสถ์ด้านขวาใกล้ๆกับแท่นบูชาพระเจ้าโผ่ลออกมา ! เบลนีก้าและซิกรู้สึกตกใจในกลไกของ 400 ปีก่อนมากแต่เอ็ดก้า เขาไม่รู้สึกแปลกเท่าไหร่

    "ไปกันเถอะ " เอ็ดก้าบอก

              เอ็ดก้าเปิดประตูนำเบลนีก้าและซิกเข้าไปมันเป็นทางเดินทอดยาวไปทางซ้ายและมีประตูอยู่ 2 บานตรงสุดทางเดิน แต่.. ยามเฝ้าประตูทั้ง 2 'ไดโบล' (Diablo) มันมีหน้าตาคล้ายมังกร หน้าของมันเรียวเล็กตาเรียวไปตามแบบฉบับมังกร มีปีกเหมือนค้างคาว แต่มี 2 มือ 2 เท้าเหมือนคน มันหันมามองทางพวกเขาและตาของมันจากสีขาวก็กลายเป็นสีแดงทันที !!

    ชิ้ง !

              มันกางกรงเล็บออกและพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาทันที ! เบลนีก้า ดึงปืนออกมาจากข้างเอวตั้งขึ้นเล็งพร้อมยิง ส่วนซิกหยิบดาบ Lode Sword ออกมา ..

    ฉัวะ !

              เอ็ดก้าพุ่งเข้าไป เขากำดาบไว้ 2 มือและหมุนตัวหนึ่งรอบดาบนั้นลากผ่านตัวของไดโบลทั้ง 2 พวกมันขาดครึ่งท่อนและกลายเป็นผงสีดำร่วงกองลงไปกับพื้น

    "คงต้องฝึกอีกนานนะพวกเธอ 2 คน" เอ็ดก้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

    "รีบไปเถอะน่า !! "
     
              เอ็ดก้าหัวเราะและเดินทำทางพวกเขาต่อไปเขาเข้าประตูบานนั้นบานนี้อย่างชำนาญเหมือนเป็นบ้านของเขาเอง

    "ไม่ได้มานานแล้วนะ ที่นี่ ล่าสุดก็ 2 เดือนที่แล้ว" เอ็ดก้าบอก พวกเขาจึงรู้แล้วว่าทำไมเอ็ดก้าถึงเข้าประตูนั้นประตูนี้อย่างชำนาญ

    แฮ่ !

              เมื่อเข้ามาประตูบานใหญ่มันเหมือนจุดชุมนุมของพวกปิศาจเลยก็ว่าได้ มันมีเป็นสิบๆ ตัวทั้งเนเมซิส ไดโบล คนแคระ และปีศาจหน้าตาเหมือนคนแคระแต่ตัวอ้วนใหญ่ใส่ชุดเกราะสีฟ้าอ่อนคลุมทั้งแต่หัวถึงเท้าท่าทางเหมือนหัวหน้าของเหล่าปิศาจในห้องนี้ ..

    "เตรียมอาวุธให้พร้อม !!! " เอ้ดก้าตะโกนบอก ทั้งสองสะดุ้งทันทีและลุกลี้ลุกลนนำอาวุธขึ้นมาทันที 

              ศัตรูตรงหน้าที่ไม่อาจคะเนจำนวนได้กำลังตั้งท่าดูเชิงพวกเขาอยู่ .. แต่มี ไดโบลตัวหนึ่งมันดูเหมือนจะไม่อยากจะดูเชิง มันพุ่งตรงมาหาพวกเขาทันที !!

    ฉัวะ !

              มันกลายเป็นเหยื่อของเอ็ดก้าไปเสียแล้ว .. เมื่อปิศาจพวกที่เหลือดูเพื่อนของมันจากไปตัวหนึ่งแล้ว  พวกมันก็ไม่รอช้า ! มันรีบกรูกันเข้ามาหาพวกเขาทันที !!

    "แยกกลุ่ม !! ฆ่าพวกมันทีละตัวอย่าเข้าไปหาพวกที่จับกลุ่มเยอะๆ !! " เอ็ดก้าตะโกนบอกทั้งสองและวิ่งไปทางด้านซ้ายของห้องทันที กองทัพนั้นส่วนหนึ่งนั้นตามเอ็ดก้าไปส่วนใหญ่จะเป็นพวกไดโบล อาจเป็นเพราะว่ามันแค้นที่เอ็ดก้าไปฟันเพื่อนของมันก็ได้ .. 

              เบลนีก้าแยกไปทางขวาพวกมันแยกตามไปส่วนหนึ่ง และแน่นอนตอนนี้เหลือพื้นที่กลางห้องให้ซิกอยู่ ..เค้าทำอะไรไม่ได้นอกจากเตรียมพร้อมรับมือพวกมัน !!

    ปิ๊บ ปิ๊บ !

              เสียงหนึ่งดังขึ้นประหนึ่งเรียกร้องความสนใจของเขา มันดังขึ้นมาจากดาบของเขานั่นเอง หลังจากจากที่มันส่งเสียงมันก็สั่นกระตุกขึ้นมาซะเฉยๆ !!

    "อ้าว !? เฮ้ย !?? เป็นอะไรตอนนี้เล่า !? " ซิกบ่นกับดาบของเขาอย่างร้อนรนบวกกับกลัวกองทัพปิศาจที่อยู่ข้างหน้า ..

    กึก !!

              ดาบกระตุกตวัดไปด้านหน้า ! และแล้ว ..

    ตูม !!

              พายุพุ่งออกมาจากปลายดาบมันซัดเข้าเต็มๆ หน้าปิศาจที่พุ่งเข้ามาหาเขา พวกมันกระเด็นออกไปพร้อมกับสลายกลายเป็นผงสีดำปลิวหายไปทันที

    ตูม !!!

              ฝั่งขวาด้านเบลนีก้าก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เธอใช้ระเบิดทรงสี่เหลี่ยมอันเล็กที่เธอคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นมาระเบิดพวกปิศาจเป็นกลุ่มๆ อย่างสะใจเธอเป็นที่สุด ถึงกระนั้นพวกปิศาจก็ยังจะตามเธอไปให้ระเบิดเล่นต่อไป ..


    ตึง !


              เสียงปิศาจตัวสุดท้ายล้มลง และสลายกลายเป็นผงปลิวหายไปแล้ว เอ็ดก้าก็นั่งพิงกำแพงทันที


    "ขอข้าพักสักเดี๋ยว" เอ็ดก้าบอกกับทั้งสองที่วิ่งเข้ามาดูอาการของเอ็ดก้า 


    "เอ้า กินนี่สิ" เบลนีก้าบอกพลางยื่นแคปซูล อันเล็กสีฟ้าให้เอ็ดก้า


    "อะไร ?" เอ็ดก้าถาม


    "มันจะช่วยให้ท่านแข็งแรงเหมือนเดิมไงเล่า"


    "ไม่ล่ะ .. ข้ายังไม่อยากตาย .." 


    ปึก !


              เบลนีก้าปาแคปซูลไปเต็ม ๆ หน้าเอ็ดก้าพลางเดินไปทางประตูห้องสุดท้าย.. 

              มันนำพวกเขาเข้าสู่ห้อง ๆ หนึ่งดูคล้ายห้องทำงานทั่ว ๆ ไป โต๊ะทำงานสีน้ำตาลยาวและเก้าอี้พนักพิงสูงอีกตัวหนึ่ง สิ่งตกแต่งต่าง ๆ นั้นก็มีพอสมควร ซึ่งถ้าไม่ติดว่าห้องนี้สกปรกก็คงจะเป็นห้องที่สวยห้องหนึ่งเลยทีเดียว ..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×