ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic SJ]Fight for U ยอดนักบู๊ขอสู้เพื่อเธอ[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #14 : Part11>>one night stand

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 52






    -11-

     

    >>>one night stand<<<

     

     

    ผมออกมาจากคอนโดของดงแฮได้ซักพักแล้ว   ได้แกล้งคนแล้วมันรู้สึกมีความสุขชะมัด555+  ดงแฮดูตื่นกลัวมากเลยตอนที่พบตามไปที่คอนโดเค้าเห็นแบบนั้นแล้วมันน่าแกล้งจริงๆนะ   ที่ผมบอกว่าจะมาต่อให้จบกับเค้าน่ะ(-///-)   ผมล้อเล่นหรอก   อันที่จริงผมกะจะว่าดูว่าคนที่วิ่งหนีออกจากโรงเรียนนั้นจะหนีเตลิดไปไกลหรือเถลไถลไปที่ไหนที่ไม่ใช่บ้าน   ตัวเล็กแบบนั้นอาจจะถูกใครฉุดไปทำมิดีมิร้ายก็ได้  หน้าหวานอย่างกับเด็กผู้หญิงแบบนั้นเป็นใครก็ต้องคิดว่าเป็นผู้หญิงบ้างล่ะ   รวมทั้งตัวผมด้วย

     

    ครั้งแรกที่เจอกับเค้านั้นก็เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง   เจ้านั่นกำลังจะโดนปล้ำอยู่รอมร่มผมก็เลยเข้าไปช่วยเค้าเอาไว้  แต่ดูท่าเจ้าตัวคงจะยังไม่รู้สินะว่าคืนนั้นถ้าไม่ได้ผมซักคนละก็ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างไม่อยากจะคิดเล๊ย-*-

     

    เฮ้อ....อีกสองวันเองสินะที่ผมจะต้องสู้กับซีวอน   ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องไปท้าสู้บ้าบออะไรกับหมอนั่นด้วย   ความจริงแล้วผมไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ  ความคิดเรื่องกฎของนักสู้ไร้ผมเคยบอกว่ามันไร้สาระนั้นไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย  แต่....พอคิดถึงหน้าดงแฮแล้ว   ปากผมมันก็เลยเผลอท้าซีวอนไปแบบนั้น

    หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆเลย...........

     

    แต่เอาเถอะ  ยังไงผมก็ท้าเค้าไปแล้วนิ่  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด   ผมไม่มั่นใจนักหรอกว่าผมจะชนะ  ได้ยินกิตติศัพท์ของซีวอนมาก็เยอะอยู่  เค้าว่าหมอนั่นน่ะเป็นนักสู้อันดับ1ของโรงเรียน   แถมยังเป็นประธานชมรมเทควันโดอีก ล้มคนได้เป็นสิบๆในเวลาอันรวดเร็วบ้างล่ะ   เคยชนะนักสู้อันดับ1ของโรงเรียนคู่แข่งบ้างล่ะ   ผมไม่ได้กลัวซีวอนหรอกนะ   ไม่ได้กลัวว่าจะโดนซ้อมจนตายหรืออะไรนั่นเลย  แต่ผมกลัวความรู้สึกของดงแฮหลังจากการแข่งขันมากกว่า

     

    ถ้าผมแพ้หมอนั่นก็จะยังเป็นแฟนกับซีวอนอยู่   ส่วนผมคงจะโดนพวกของซีวอนซ้อมต่อจนต้องออกจากโรงเรียน   อันนั้นผมไม่สนอยู่แล้ว  แต่ถ้าผมชนะ  ดงแฮต้องมาเป็นของผมตามกฎที่วางไว้  แล้วเค้าจะรู้สึกยังไง  เจ้าตัวเล็กนั่นจะเสียใจมั๊ยนะ   ใช่   คงจะเจ็บปวดหน้าดูกับการที่ต้องจากคนรักแล้วกลายเป็นของคนอื่น

     

    แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะแพ้ไม่ได้

     

     

     

    “sorry sorry sorry sorry”(แหม ริงโทนอินเทรนมาก)

    คร๊าบพี่

    ไอ้คิบอม  แกอยู่ไหนเครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้านเสีย  กลับมาดูด่วนนนนนนน

    เสียงพี่ฮีชอลลอดมาตามสาย   อะไรกันเครื่องทำน้ำอุ่นเสียแล้วโทหาผมเนี่ยนะ   พี่เห็นน้องเป็นช่างไฟฟ้ารึไง  ไม่ใช่ป้าเบิร์ดซ่อมไม่ได้นะครับ

    เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย?  พี่ก็โทรเรียกช่างมาดูสิ  มาเรียกอะไรผม

    ได้ยังไง  เรียกมาก็เสียค่าซ่อมอีกสิ เปลือง  แกน่ะเป็นน้องชั้นจะใช้นิดใช้หน่อยไม่ได้รึไง   เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ   มาให้ถึงบ้านภายใน5นาทีนะ   อย่าให้ชั้นรอ  ถ้าสายแม้แต่วินาทีเดียวแกตาย

    ร่ายจบเจ๊แกก็ตัดสายทิ้ซะงั้น   นี่ผมไม่มีสิทธิ์จะโต้แย้งอะไรเลยใช่ไหม   เนี่ยล่ะน๊าพี่ฮีชอลผู้ขี้งก  ขี้บ่น  ปากร้ายและไม่เคยทนกับอะไรได้เกิน5นาที  

    แล้วผมจะยืนบ่นอยู่ทำไมล่ะเนี่ย  5นาทีต้องรีบโกยแล้วล่ะ  เดี๋ยวแม่เอ๊ยพี่แกจะรอนานเกิน5นาที ซวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย





    ................................................




    เฮ้อ  ในที่สุดผมก็จัดการเอาไอ้ตัวปัญหานั่นออกไปจากห้องผมจนได้   ลุ้นจนตัวเกร็งยิ่งกว่าตอนเบ่งอึซะอีก  ซีวอนก็นะ   เล่นมองสำรวจผมหัวจรดเท้าขนาดนั้น ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าถูกจับได้ว่าคิมคิบอมมาอยู่ในห้องผมมันจะเกิดอะไรขึ้น  ผมคง.......อ๊ากกกกกกเละแน่ๆเลย  ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดผมเลยแม้แต่นิดเดียว   คิมคิบอมตามผมมาเอง  ~ผมเปล่าน้า เค้ามาเอง ผมเปล่าชวนน้า เค้ามาเอง~(เป็นเพลงเลยหล่อน)  ซองมินก็อีกคนไม่รู้ว่าทำไมวันนี้มันถึงขี้สงสัยมากเป็นพิเศษ  ถามนู่นถามนี่จนผมแทบแถไม่ถูกนี่ก็ยังเจ็บสีข้างอยู่เลย แหะๆ

    ผมมองตัวเองในกระจกหน้าห้องน้ำอีกครั้ง  รอยคิสมาร์คมากมายของคิมคิบอมแต้มอยู่บนคอ  ทำไมมันถึงเด่นชัดขนาดนี้นะ   ทำยังไงถึงจะลบมันได้  ถ้าใช้พลาสเตอร์ติดคนก็จะยิ่งสงสัยแน่ๆ  ว่าแต่  ซีวอนเขาไม่สงสัยเลยหรอว่ารอยนี่มันได้แต่ใดมา  เสื้อที่ใส่นี่มันก็ไม่ได้ปกปิดรอยอะไรได้มากมาย  ผมว่ายังไงๆเค้าก็ต้องเห็นแน่ๆ  ถ้าเห็น...แล้วทำไมถึงไม่ถามอะไรเลยล่ะ เอาแต่มองอยู่อย่างนั้นมันยิ่งทำให้ผมกังวลหนักมากขึ้นไปอีก   มองแบบนั้นมาเหยียบหน้าผมเลยเถอะ  ผมก็รู้สึกผิดนะที่ปล่อยให้คนที่ไม่ใช่แฟนมาทำแบบนี้กับตัวเองได้ยังไง   ผมอยากขอโทษซีวอนซักร้อยครั้งพันครั้งแต่ความกลัวมันก็รั้งผมเอาไว้ก็เลยไม่สามารถพูดออกไปได้   ชเวซีวอนผู้ที่สู้เพื่อผมมาตลอด   เวลาผมคิดถึงเขาเหลือเกิน  แต่เราก็ยังเจอกันไม่ได้จนกว่ารอยที่คอผมมันจะจางหายไป

    นี่ก็ใกล้ถึงวันที่ซีวอนจะต้องสู้กับคิมคิบอมแล้ว  ผมหวังว่ารอยบ้าๆนี่มันจะหายทันวันนั้นนะ  ผมจะไปยืนเชียร์อยู่ข้างๆเขา  ผมรักเขา และมั่นใจว่าเขาจะต้องชนะ  เขาจะต้องไม่แพ้แน่นอน

     

     



    .....................................................................

    เสียงเพลงอึกทึกที่ดังอยู่ในผับเวลานี้กำลังเรียกร้องให้ทุกหัวใจครื้นเครงไปกับมัน   ผู้คนต่างกำลังดื่มด่ำกับความสนุกไม่รู้จบในยามค่ำคืน  ทั้งแสงสีเสียง  ดนตรีที่เร้าใจ  กลิ่นอายที่เหล้ารำ  และผู้คนที่น่าดึงดูด

    เช่นเดียวกันกับคังอินที่ตอนนี้ทำสิ่งที่เขาโปรดปรานเป็นที่สุด(รองจากอีทึก)นั่นคือการนั่งชนแก้วอยู่กับเพื่อนๆที่โต๊ะมุมสุดของผับชื่อดังนี้   ร่างหนาสิงตัวอยู่ที่นี่มาตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว   วันนี้เขานัดรวมตัวกับเพื่อนสมัยม.ปลายไว้ที่นี่   ตอนนี้ทุกวันมาถึงกันเกือบครบแล้ว เว้นก็แต่อีกคน

    เฮ้ย ซังเต ถ้าอีก10นาทีไอ้ฮงมินยังไม่มากูกลับแล้วนะเพราะเสียงเพลงที่ดังเกินหูมนุษย์จะรับไหว คังอินจึงต้องตะโกนออกไปไม่อย่างนั้นเพื่อนเขาที่นั่งอยู่ตรงข้ามคงจะไม่ได้ยิน

    ทำไมวะ  มึงเมาแล้วหรือไง  ปกติมึงคอแข็งที่สุดในกลุ่มเลยนี่หว่า

    กูเปล่าเมา  แต่วันนี้กุจะรีบไปอยู่เป็นเพื่อนทึกกี้ที่หอถึงปากจะบอกว่าไม่เมา  แต่ในใจก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าเริ่มมึนๆแล้วเหมือนกัน  ก็นั่งชนแก้วกันมาร่วมสองชม.กว่าแล้วนิ่

    อีกอย่าง ถ้ากลับไปหาทึกกี้ในสภาพเมาแอ๋แบบนั้นก็หมดแรงจะ........นะสิ

    อ๋อ กุก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็กลัวเมียพอซังเตพูดจบเพื่อนๆที่เหลือก็นั่งหัวเราะตาม

    เชี่ย ! กุไม่ได้กลัวแต่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบอาทิตย์แล้ว

    พูดจบก็ซดแก้วเบียร์สีทองอร่ามไปเฮือกใหญ่   อะไรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของโปรดนี่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อจริงๆ  ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือคน

    เฮ้ยๆนั่นไงไอ้ฮงมินมาแล้ว ไงมึง  ไอ้คังมันจะกลับแล้วเนี่ย แล้วนั่นพาใครมาด้วยวะน่าตาน่ารักเชียว

    ซังเตชายที่พูดมากที่สุดกลุ่มทักเพื่อนที่มาคนล่าสุดแล้วมองข้ามไหล่ไปยังคนร่างเล็กที่เดินมาด้วยกันกับเพื่อน

    อ๋อ นี่รยออุค เพื่อนที่อังกฤษพอดีเขาเพิ่งย้ายมาก็เลยพามาเที่ยวด้วย  รยออุคนี่ไอ้ซังเต นั่งไอ้แจซอกแล้วก็นั่นไอ้คังอิน

    ฮงมินชายหนุ่มหน้าตาดีพอใช้ได้แต่ติดที่ผิวคล้ำไปนิดจัดแจงแนะนำคนร่างเล็กที่พามาด้วยให้กับเพื่อนๆได้รู้จัก  รยออุคคนขี้อายยิ้มอย่างน่ารักให้กับเพื่อนๆทุกคนและนั่งลงข้างๆคังอินซึ่งยังมีที่นั่งว่างอยู่

    พอดีเครื่องมันดีเลย์เพิ่งลงเมื่อกี๊เองกูก็รีบมาเลย นี่ๆไอ้คัง  มึงอย่าเพิ่งรีบกลับนะเว้ย นานๆทีจะเจอกันก็อยู่คุยกันก่อน  แล้วได้ข่าวว่ามึงมีเมียเป็นผู้ชาย  สวยด้วยใช่ป่ะ  อย่างงี้ป่าวว่ะ ที่เขาเรียกว่ายอดชาย

    เออว่างๆกูจะพามาให้รู้จักนะ อ้าวเฮ้ยชนเว้ยชน

    แล้วบทสนทนาระหว่างหมู่เพื่อนก็ดำเนินไปเรื่อยๆโดยมีเหล้าเบียร์เคล้าคลอไปช่วยให้วงสนทนานั้นมีรสชาดมากขึ้น  หัวข้อส่วนใหญ่ที่เหล่าชายหนุ่มคุยกันก็ไม่พ้นเรื่องหลังจากจบม.ปลายแล้วใครไปทำอะไรเรียนต่อที่ไหนบ้าง   หรือไม่ก็รื้อฟื้นเรื่องสนุกๆสมัยม.ปลายที่พวกเขาร่วมทุกร่วมสุขมากด้วยกัน 

    รยออุคซึ่งไม่ได้รู้จักมักจี่กับใครมาก่อนก็นั่งหัวเราะบ้างอะไรบ้างไปเรื่อยเปื่อย   โดยส่วนตัวแล้วเขาเป็นคนไม่ถนัดจะคุยกับคนแปลกหน้าซักเท่าไรนักแต่โชคดีที่มีคังอินซึ่งเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศคอยชวนคุยด้วยบ้าง  เนื่องจากเขากลัวว่าร่างเล็กคนนี้จะเบื่อหรือเหงา 

    แล้วรยออุคก็ได้ร้ว่าการได้คุยกับคนแปลกหน้าอย่างคังอินเป็นเรื่องที่สนุกอย่างหนึ่ง  คังอินเป็นคนคารมดี คุยด้วยง่าย อยู่ด้วยแล้วสบายใจ รยออุคประทับใจคนๆนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

    ฉันขอไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะทุกคนรยออุคยิ้มแล้วขอตัวเดินออกไป  ตั้งใจว่าจะไปล้างหน้าซักหน่อย เขาเองมาแป๊ปเดียวแต่ก็ดื่มไปไม่น้อยเหมือนกันทั้งๆที่ดื่มไม่เก่งแต่จะทำไงได้  ก็ในวงนั้นมีแต่คนดื่มเก่งทั้งนั้นเลยนิ่  แล้วจะให้เขานั่งเฉยๆได้ยังไง

    หลังจากร่างเล็กขอตัวไปได้ซักพัก ฮงมินที่ซดเบียร์ไปหลายเยือกแต่ก็ยังพอมีสติมากกว่าใครก็เริ่มนินทารยออุคซะแล้ว

    เฮ้ยพวกมึง  มึงว่า....รยออุคเป็นไงวะ

    ก็น่ารักดีว่ะ  น่าตาน่ารัก....หน้าใส๊....ใสเอิ๊กซังเตกล่าวแล้วเรียกบริกรมาเติมเบียร์ที่เพิ่งชนหมดไปหมาดๆ

    กูว่า....เป็นเคะแน่ๆเลยว่ะ555+ แล้วมึงว่าไงไอ้คังแจซอกสันนิฐานเพศของร่างบางเสร็จก็ถามคังอินที่ตอนนี้หน้าแดงแจ๋เพราะน้ำเปลี่ยนนิสันนี้

    เออ น่ารักๆแต่... สู้ทึกกี้ของกู...เอิ๊ก...ม่ายด้ายคังอินพูดยานคาง

    เหรอ  ขนาดนั้นเลยหรอวะ  แบ่งมาให้เพื่อนชมบ้างดิ่วะ...ไอ้คัง

    ฮงมินพูดที่เล่นที่จริงเพราะอาการเมามันเข้าสิงแต่ใจจริงแล้วเขาก็ไม่ได้มีเจตนาจะยุ่งกับนางฟ้าของเพื่อนรักแต่อย่างใด

    แต่คังอินไม่ได้คิดเช่นนั้น  ตอนนี้เขากำลังเมา  พอถูกเพื่อนยั่วเข้าหน่อยอะไรๆที่มันดูยากก็ง่ายแต่อะไรที่มันดูง่ายก็กลับยากซะอย่างนั้น

    ไอ้เชี่ยฮงมิน  เมิงถอนคำพูดนะเว้ย....ของๆกู  เมิงอย่าหวังเอิ๊ก..จะได้แตะ

    เฮ้ยๆคังอิน  ไฮ้ฮงมินมันแค่พูดเล่นน่า  มันเมาแล้ว  กุก็เมาแล้วกูว่า......มึงก็เมา  มึงรีบไม่ใช่หรอ  มึงกลับบ้านก่อนเหอะซังเตพยายามเคลียร์บรรยากาศที่เริ่มมาคุให้คลายลง โดยเสนอให้คังอินกลับบ้านไปก่อน

    ร่างหนาเองก็นึกขึ้นได้ว่าต้องรีบเหมือนกัน   เขามองนาฬิกาข้อมือตัวเองนี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว  ถ้าช้ากว่านี้เมาไม่เมาทึกกี้ก็คงไม่ให้.....แน่นอน

    เออๆ แต่ทีหลังมึงอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ  กูไม่ชอบ ไปล่ะ

    เพื่อนๆที่เหลือพยักหน้าก่อนจะโบกมือลาเพื่อนตัวโต













    อุคกี้ออกมาแล้วล่ะค่ะ  ว่าแต่จะเป็นตัวดีหรือตัวร้ายดีล่ะ  
    เรื่องภาษาวิบัติยังไงก็ดูให้เราหน่อยนะ พยายามจะไม่มีแล้ว
    แต่มันก็อาจจะหลุดมาบ้างจากความเคยชินเนอะ

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ  จะด่าจะว่าจะชม(ว่าไรท์เตอร์สวย)ก็ได้ไม่ว่ากัน
    เพราะมันคือคอมเม้นท์  เราชอบๆๆๆๆ

    อ่านแล้วทำไงคะ  หึหึ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×