ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทางขนาน

    ลำดับตอนที่ #4 : ความจริงที่ไม่มีใครรู้ :100%

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 54


    .....
    .....
     
    .....
    ผมเดินออกมาจากห้องที่พี่ยุนโฮ นั่งอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องพูดจาแบบนั้นกับพี่เค๊าด้วย
    ทั้งๆ ที่ผมเองก็รู้ว่าที่พูดไป ต้องทำให้พี่ยุนโฮ เสียใจ
    แต่ผมก็ยังพูดเพียงเพื่อต้องการให้เค๊าเสียใจแค่นั้นเองเหรอ
    ผมดูเหมือนคนใจร้ายมากเกินไปหรือเปล่า .... คงไม่หรอกมั๊ง ...

    ร่างสูงขับรถออกมาจากคอนโด อย่างไม่เร่งรีบมากนัก
    เพราะวันนี้สถานที่ถ่ายละครอยู่ไม่ไกลมาก
    เขาจึงไม่ต้องรีบร้อน ..
    แต่ยังไม่ทันที่จะถึงจุดหมาย เสียงโทรศัพท์ ที่เพียงแค่ได้ยินริงโทน ก็รู้ว่าเป็นใครก็ดังขึ้น ...

    ".. ชางมิน ..นายอยู่กับยุนโฮ หรือเปล่า.." เสียงผู้จัดการดังเข้ามาในหู

    "เปล่าครับ ตอนนี้ผมขับรถออกมาแล้ว .."

    "อ้าว ..แล้วยุนโฮ ไปไหนละ พี่โทรเข้ามือถือก็ไม่รับ
    โทรไปที่คอนโดก็ไม่มีคนรับสายอีก   เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า "

    "เมื่อเช้าผมก็เห็นพี่เค๊าอยู่ที่ห้องนี่ครับ ..พี่ลองโทรไปใหม่อีกครั้งซิครับ .."

    "ฉันโทรไปหลายรอบแล้ว.. เฮ้อ ..เป็นห่วงจัง ..จะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้
    ยิ่งหมู่นี้ดูไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย นายเองอยู่ด้วยกันก็ไม่ช่วยดูแลเลย ..ไม่ไหวจริงๆ ..
    แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันก็จะถึงคอนโดนายอยู่แล้ว
    งั้นแค่นี้นะ ..อย่างลืมละ เย็นนี้เข้าบริษัทด้วย มีซ้อมเต้น"

    "ครับพี่ ..." ผม กดวางสายไปแล้ว แต่ในใจยังคิดถึงเรื่องที่เพิ่งคุยเมื่อกี้ ..หรือว่าพี่ยุนโฮจะเป็นลมไปอีก
    เพราะในช่วงอาทิตย์นี้ดูเหมือนว่าพี่ยุนโฮจะเป็นลมหมดสติไปสอง สาม ครั้งแล้ว...
    แต่ไม่ทันคิดอะไรมาก..เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    "ชางมิน ..พี่เจอกับยุนโฮแล้วนะ ..ขอโทษทีที่รบกวนนาย ..แค่นี้นะ ..อย่าลืมเย็นนี้ละ"
    ผู้จัดการวางสายไปอย่างรวดเร็วโดยที่ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไร
    แต่ก็ดีแล้วที่รู้ข่าวผมจะได้ทำงานอย่างไม่ต้องคิดกังวล ..เรื่องของคนคนนั้นอีก

    ............
    ............

    ผมเผลอนอนหลับไปบนเตียงนุ่มของชางมิน หลังจากที่เค๊าเดินออกจากห้องไป
    มารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็ตอนที่ผู้จัดการเดินเข้ามาจนถึงตัวผม ...

    "ยุนโฮ ..ยุนโฮ ..ตื่น ๆๆ  นายเป็นอะไรหรือเปล่า .. ตัวยังร้อนอยู่เลย" ผู้จัดการเขย่าตัวยุนโฮเบาๆ
    เพื่อปลุกให้ตื่น แต่ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนบนผิวกายของร่างบางที่นอนหลับอยู่

    เปลือตาหนักกระพริบลืมตาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะปรับโฟกัสได้ว่า ใครเข้ามาปลุก

    "อ๊ะ ..พี่ ..." ยุนโฮ รีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

    "ขอโทษ ครับ  ขอโทษ จริงๆ ที่ต้องให้มาปลุก ผมเผลอหลับไปหน่อย 
    พี่รอแป๊ปนะครับเดี๋ยวผมไปเอากระเป๋าในห้องก่อนแล้วเราไปกันได้เลย"

    "เดี๋ยวก่อนยุนโฮ .." ผู้จัดการ กดไหล่บางให้นั่งลงที่เดิม
    "นายเป็นอะไรมากหรือเปล่า ..ไปตรวจสุขภาพสักหน่อยดีกว่ามั๊ย..
    พี่เห็นว่าช่วงนี้นายดูไม่สบายบ่อยนะ"

    "เออ ..ไม่ ..ไม่เป็นไร นี่ครับ  ..พี่ก็รู้ว่าเวลางานเยอะๆ ผมก็เป็นแบบนี้ทุกที..
    เป็นไข้หน่ะ เป็นเรื่องปรกติของผมอยู่แล้ว  ฮ่าๆๆๆ ..พี่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ..สบายมาก"
    ร่างบางฝืนหัวเราะออกมา ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องเพื่อหยิบกระเป๋าถือแล้วออกไปทำงาน

    ............
    ............
    บ่ายแก่ๆ ..ของวัน ..หลังจากงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ...
    ผมหลบออกมานั่งพักเงียบๆ คนเดียวในระหว่างรอรถของบริษัทมารับ
    เพื่อเข้าไปซ้อมเต้นสำหรับการเตรียมตัวออกผลงานชุดใหม่......
    อาการเจ็บที่หน้าอกของผมตอนนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และแต่ละครั้งก็เล่นเอาผมเกือบหมดสติ
    ตอนนี้ยาที่ต้องกินประจำก็ใกล้หมดแล้ว ผมคงต้องหาเวลาเข้าไปหาหมอสักครั้ง ถ้ามีเวลาว่าง
    .............

    ...
     
    ผมเดินมาถึงห้องซ้อมเต้นก็พบว่าชางมินกำลังวอมม์อัพร่างกายรออยู่ก่อนแล้ว

    "ไง ..ยุนโฮ ..ไม่ได้เจอกันนานเลย ..หวังว่านายยังไม่สนิมขึ้นใช่ไม๊ " เสียงครูฝึกกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง
    ในขณะที่อีกคนไม่ได้สนใจหันมามองเลย ยังคงออกกำลังกายของตัวเองไปเรื่อยๆ

    "ครับ..สวัสดีครับพี่..ผมคิดว่า คงจะต้องให้พี่เคาะสนิมให้หน่อยละครับ" ผมโค้งทักและตอบกลับไป

    "โฮ้ ..อย่างนายสนิมขึ้น แล้วเจ้าชางมิน จะเป็นยังไงเนี่ย ..ไม่อยากคิดเลย 5555" ครูฝึกหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
    ก่อนจะหันไปพูดกับชางมิน ที่ยืนอยู่หน้ากระจก

    "อ้าว ...ทำไมมาลงที่ผมได้เนี่ย ...ก็ผมมันไม่ใช่นักเต้นขั้นเทพ นี่ครับ..พี่ก็รู้.." ชางมินตอบกลับยิ้มๆ
    แล้วเหลือบตามองมาที่ผม

    "นายมันไม่ใช่นักเต้นขั้นเทพ ..แต่นายมันนักรักขั้นเทวดาใช่ไม๊ละ..555" ครูฝึกตบไหล่ชางมินเบาๆ พร้อมกับแซวกลับ
    "ฉันเห็นนะว่า ใครมาส่งที่ห้องซ้อมเมื่อกี้... สงสัยว่าจะเรียกมาซ้อมด้วยกันดีไม๊เนี่ย ..ห๊า..ว่าไง ยุนโฮ
    นายอนุญาติให้  shinee  มาซ้อมด้วยไม๊ "

    "อ่ะ ..ครับ ..ดะ ..ได้ครับ  "

    "โธ่ ..พี่ครับ ..อย่าล้อผมแบบนี้ซิครับ ..ผมหน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่เดี๋ยวน้องเค๊าจะเสียหายนะครับ"
    ชางมินรีบชิงพูดขึ้นก่อนที่ผมจะทันพูดจบ

    "อะไรกัน ...ออกโรงปกป้องกันซะแล้ว..แบบนี้ต้องมี อะไรแน่ๆ ..55555...เอาละ เตรียมตัวซ้อมกันดีกว่า"
    ครูฝึกแซวกลับอย่างอารมณ์ดี


    หลังจากนั้นการซ้อมเต้นแบบ นอนสตอป ก็เริ่มขึ้น ตั้งแต่บ่าย จรดเย็น...
    ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ชั่วโมงที่เรายังคง เต้น เต้น เต้น แล้วก็เต้น
    นั่นเป็นเพราะหลายครั้ง ที่ผมเต้นพลาด ทำให้ต้องซ้อมใหม่อยู่เรื่อย ...
    จนกระทั่งประตูห้องซ้อมถูกเปิดออก ...
    หน้าเล็กๆ ของเด็กตัวสูงโผล่เข้ามาในห้อง ทำให้การซ้อมชะงักลงทันที

    ชางมินหยุดเต้นกระทันหัน ทำให้ผมที่กำลังเต้นอยู่เกิดเสียหลัก ชนเข้ากับร่างสูงจนล้มลงไปทั้งคู่

    "โอ๊ะ .." ..โครม ..เสียงของคนสองคนชนกันล้มลงไปบนพื้น

    "พี่ครับ!" "ยุนโฮ!" เสียงของเด็กที่เพิ่งเปิดประตูห้องเข้ามาเรียกอย่างตกใจ
    พร้อมกับเสียงของครูฝึกที่ออกจะตกใจเหมือนกัน

    "พี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย ..ชนเข้ามาได้ .." ชางมิน บ่นเสียงดังก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้นในขณะที่ มินโฮรีบวิ่งเข้ามาพยุงพอดี

    "พี่ชางมิน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ .." เสียงใสๆ ของมินโฮ  ดังขึ้นอย่างตกใจ
    "อืม ..ไม่เป็นไร ..ขอบใจนะ ..แล้วนายซ้อมเสร็จแล้วหรือไง "

    "ครับ ก็ ..พี่นัดผมไว้ นี่ครับ ..ผมรอพี่อยู่ที่ห้องตั้งนาน ก็เลยเดินมาดูนี่แหละครับ"

    "โทษทีนะ ที่ช้า..เพราะมีบางคนถ่วงเวลาอยู่หน่ะ"

    ผมขยับตัวลุกขึ้นตามแรงฉุดของครูฝึกที่เข้ามาช่วย ..
    "เป็นอะไร หรือเปล่า ยุนโฮ ..ฉันว่าวันนี้นายดูไม่ปรกตินะ ..." ครูฝึกถามผมขึ้นมา

    "ไม่เป็นไรครับ .. ขอบคุณครับพี่ ผมขอโทษ ที่วันนี้ผิดบ่อย ..อาจจะสนิมขึ้นจริงๆ แล้วก็ได้ 555" ร่างบางหัวเราะน้อยๆ

    "พี่ขอโทษ นะมินโฮ ที่ทำให้นายต้องรอชางมิน เพราะพี่เองที่ผิดบ่อย เลยทำให้เลิกช้า หน่ะ  ขอโทษด้วยนะ"

    "โอ๊ะ ..ไม่เป็นไร ครับพี่ยุนโฮ " มินโฮ รีบก้มหัวกลับมาให้ผมทันที

    "อ้าว แล้ว จะซ้อมต่อ หรือว่าจะเลิกดีครับ ..ผมรออยู่ .." ชางมินที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    "เออ ..ลืมไปเลย.. ว่าไงละ ..ยังไหวกันอยู่หรือเปล่า ..ฉันว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าไม๊
    ดูท่าทางยุนโฮ จะไม่ไหวแล้วมั๊ง ...ว่าไง ชางมิน นายไหวหรือเปล่า" ครูฝึกถามขึ้นมา

    "ผมหน่ะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วละครับ ..ถ้าซ้อมต่อก็ไหว แต่ถ้าไม่ซ้อมต่อ ผมก็จะได้พาน้องมินโฮ ไปกินข้าวซะที"

    "งั้นวันนี้พอก่อนดีกว่าครับ ..." ผมเอ่ยขึ้น

    "โอเค ครับ ..งั้นผมไปละ ..ขอบคุณมากครับพี่  " ชางมิน ก้มหัวให้ครูฝึก โดยมีมินโฮก้มหัวให้ตามไปด้วยอีกคน

    ทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว ..โดยที่ชางมินไม่ได้หันมาพูดอะไรกับผมเลยมีแต่เพียงสายตาเย็นชาที่ส่งผ่านมาให้เท่านั้น
    ครูฝึกก็ลากลับออกไปแล้ว เช่นเดียวกัน ...

    ห้องซ้อมทั้งห้องตอนนี้ มีเพียงผม ที่กำลังซ้อมเต้นอยู่เพียงลำพัง ...
    ผมไม่รู้ว่าจะรีบกลับบ้านไปเพื่ออะไร ในเมื่อกลับไปก็ไปอยู่คนเดียว ..ไม่มีใคร


    "โอ๊ะ! " ผมร้องออกมาเสียงดังก่อนที่ร่างทั้งร่างจะทรุดลงกองที่พื้นเสียงดังโครม
    "อืมมม ...อืมมม"  อารการเจ็บแป๊บที่หน้าอกมันเกิดขึ้นอีกแล้ว ..ซึ่งผมเองก็รู้ว่ามันเกิดเพราะอะไร
    ผมเหนื่อยมากมาทั้งวันแต่ก็ยังฝืนร่างกายตัวเองอยู่อย่างนั้น... มือเรียวกำแน่นที่เสื้อบริเวณหน้าอกด้านซ้าย
    ราวกับจะช่วยบรรเทาให้หายปวดได้ ...แต่เปล่าเลย ..ร่างบางหายใจหอบอย่างยากลำบากด้วยความทรมาน
    ไม่มีใครอยู่เลย ... ไม่มีใครที่จะเข้ามาช่วยได้เลย ...
    ยุนโฮพยายามคลานไปที่กระเป๋าสัมภาระของตัวเองมือเรียวความหากระปุกยา
    ในที่สุดยาเม็ดสีขาวเม็ดเล็กๆ ก็ถูกอมไว้ใต้ลิ้น ก่อนที่ร่างบางจะหมดแรงนอนฟุบลงไปบนพื้นห้อง

    .......

    เมื่อ 3 วันก่อน
    ระหว่าที่ผมไปฉีดยา ด้วยอาการไข้ ผมบังเอิญ ไปเจอกับคุณหมอ อีจุน ..เข้าพอดี
    และวันนั้น หมออีจุนก็บอกกับผมถึงอาการไข้ที่ผมเป็นบ่อยๆ
    บวกกับอาการเจ็บที่หน้าอกอย่างรุนแรงแทบหมดสติของผม
    ซึ่งมันคล้ายๆ กับอาการเมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก ก่อนจะเข้ามาเดบิวท์ ...
    ตอนนั้นผมเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ...และผมก็ได้เข้าผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเรียบร้อยแล้ว
    ก็รอยแผลเป็นเล็กๆ ที่อยู่ใต้บริเวณหัวใจของผมนี่แหละคือแผลผ่าตัด
    ที่ไม่มีใครรู้นอกจากคนในครอบครัวของผม และคุณหมอ
    อ้อ ..มีอีกคนที่รู้เรื่องนี้ โดยบังเอิญ นั่นคือ จุนซู เพราะคุณหมอ อีจุน เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ จุนซู
    ผมเองขอร้องให้จุนซู ช่วยปิดบังเรื่องนี้ให้ หลังจากที่เราได้มาเป็นสมาชิกวงเดียวกัน
    เพราะผมกลัวว่าทาง SM จะไม่รับผมเข้าร่วมงานหากรู้ว่าร่างกายผมไม่ปรกตินัก

    ผมมีชีวิตอยู่กับลิ้นหัวใจเทียมมาตลอดเวลา สิบ ปี จนกระทั่งช่วง สองสามปีที่ผ่านมาหลังจากที่เดบิวท์แล้ว
    งานที่หนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้อายุการใช้งานของลิ้นหัวใจเทียมสั้นลงอย่าคาดไม่ถึง
    หมออีจุน เตือนผมทุกครั้งที่ผมเข้าโรงพยาบาล ว่า ลิ้นหัวใจเทียมที่ผมใช้อยู่หน่ะมันมีเวลาเสื่อม
    มันก็เหมือนเครื่องจักร ที่ใช้งานหนักๆ โดยไม่ได้หยุดพัก มันก็พังได้ .. และเวลานั้นก็มาถึง

    เมื่อต้นปีที่แล้ว ผมมีอาการไข้ ตัวร้อนอยู่ตลอดเวลา อาการเจ็บที่หัวใจก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
    จนเมื่อ 3 วันก่อนที่ผมเจอกับหมอจีฮุน อีกครั้ง

    "ยุนโฮ ..ฉันขอให้นายพักผ่อนให้มากกว่านี้ และอย่าโหมงานหนัก ..
    พอมีเวลาว่างนายต้องเข้ามาตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง
    ฉันกำลังคิดว่า นายอาจจะต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจใหม่ ...แต่ยังไงฉันก็อยากตรวจให้ละเอียดก่อน
    นายจะพร้อมมาตรวจเมื่อไหร่โทรนัดได้เลยนะ  ..ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ..อย่าปล่อยเอาไว้เลย"

    "ครับคุณหมอ ..ผมจะหาเวลาว่างมาอีกครั้ง...ขอบคุณมากครับ"

    "ระหว่างนี้นายต้องดูแลตัวเองนะ ...เดี๋ยวฉันจัดยาให้.."

    "ครับ ขอบคุณครับ ..แต่เออ ..คุณหมอ อย่าบอกเรื่องนี้กับ จุนซู นะครับ ..
    ผมยังไม่อยากให้ใครรู้    นะครับ ผมขอร้อง "

    คุณหมอหนุ่มสบตายุนโฮ ที่มองมาอย่างอ้อนวอน

    "อืม ..ได้..แต่จุนซู ห่วงนายมากเลยนะ..ฉันรู้ว่าพวกนายไม่ได้ทะเลาะกัน
    พวกนายเพียงมีเหตุผลที่คนนอกอย่างฉันไม่เข้าใจก็แค่นั้น
    จุนซูพูดกับฉันเสมอว่าเค๊ารักพวกนายทุกคน ดงบังชินกิ คือ ชีวิตของเค๊า...
    และเค๊าจะไม่ยอมให้ชื่อนี้ถูกลบออกไปจากวงการแน่นอน
    ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันไม่เข้าใจ เรื่องของพวกนายมาก ขึ้นเรื่อยๆ ...
    แต่ยังไงซะ ฉันในฐานะพี่ชายของเพื่อนนาย ก็ยังคงสนับสนุนพวกนายอยู่เสมอ
    และฉันในฐานะหมอของนายก็จะคอยดูแลนายแทน จุนซู ..น้องของฉันด้วย"
    หมอจีฮุน จับบ่าร่างบางก่อนจะพากันเดินออกมาจากห้องตรวจ
    .....

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×