คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กับดัก
“เราไม่สามารถให้คุณกู้เงินได้อีกแล้ว ของเก่าคุณก็ยังไม่มาชำระตามที่กำหนดได้เลย” เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ช่วยผมอีกครั้งเถอะครับ รับรองจะเอามาจ่ายให้ครบทุกบาทเลย” เกียงไกรพยายามอ้อนวอน
“คงไม่ได้ครับ ผมเสียใจด้วย” เจ้าหน้าที่ธนาคารตอบปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย เกียงไกรกลับมาจากธนาคารก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ที่ห้องทำงานนั่งกลุ้มคิดไม่ตก สองมือกุมขมับไว้แน่สีหน้าเคร่งขรึมอย่างคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก เศรษฐกิจตกต่ำทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านจัดสรรขายไม่ออกในยุคฝืนเคืองข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ เกียงไกรมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทั้งลูกน้อง ครอบครัวลูกสาวที่ยังเรียนอยู่ต่างประเทศอีกเล่า
“คุณค่ะ” เสียงเรียกจากสมรศรีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากทำให้เขาตื่นจากภวังค์คิด
“มีอะไรหรือคุณ” เกียงไกรถามภรรยา
“ยายปาย..โทรมาของเงินเพิ่ม แกบอกมีเรื่องด่วน” สมรศรีพูดจากอ้อมแอ้ม เธอรู้ว่าสามีกำลังลำบากเรื่องเงินเคยบอกให้ลูกสาวช่วยประหยัดแต่ก็เห็นจะไม่มีทีท่าว่าลูกสาวคนเดียวจะช่วยอะไรเลย เธอโวยวายกับด้วยซ้ำบอกว่าพ่อแม่รวยจะตายแค่นี้ให้เธอไม่ได้ สมรสีมองสามีอย่างสงสารที่เป็นคนแบกรับปัญหาทุกอย่าง
“ลูกจะเอาเท่าไหร่” ด้วยความรักในตัวบุตรสาวทำให้เกียงไกรไม่อาจปล่อยให้ลูกต้องลำบาก มีไม่มีเขาก็จะหามาให้เพื่อให้ลูกสุดที่รักอยู่สุขสบายไม่น้อยหน้าใคร ปัญหาทางบ้างเขาไม่เคยบอกลูกสาวให้เธอใช้ชีวิตในแบบที่เคย
“แกต้องการหนึ่งแสน” สมรศรีบอกไปอย่างไม่มั่นใจ
“ผมจะจัดการให้” เกียงไกรลุกเดินออกไปจากโต๊ะที่เขานั่งใช้ความคิดอยู่นาน
ภาคีย์นั่งอ่านเอกสารในมืออย่างครุ่นคิด ก่อนจะมีรอยยิ้มบาง ๆ ขึ้นมา ภาคีย์วางเอกสารกลับไว้ที่เดิมหลับตานิ่งภาพของหญิงสาววัยสิบสี่เศษ ๆ กับรอยยิ้มสดใส เดินถือดอกไม้มาหาเขา ก่อนจะโยนมาใส่เขาอย่างไม่ใยดี หน้าสวยกลายเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงยิ้มเยาะ ภาคีย์สะดุ้งลืมตาตื่นมีสีหน้าตาบึ้งตึงเมื่อภาพในอดีตเหล่านั้นกลับมาหลอกหล่อนในห่วงความคิดของเขาไม่เคยลบเลื่อน
“คุณสมภพ เข้ามาพบผมหน่อย” ภาคีย์กรองเสียงแข็งตามสาย ไม่นานสมภพก็วิ่งหน้าตั้งมาหาเจ้านายหนุ่มที่ห้องเพราะฟังจากน้ำเสียงติดหงุดหงิดนิด ๆ
“มีอะไรครับ” สมภพถามร้อนรน ภาคีย์หยิบเอกสารที่เขาวางกลับไว้เมื่อไม่นานส่งให้สมภพ
“เอาไปจัดการให้ด้วย” สมภพมองเอกสารในมือเจ้านายหนุ่มอย่างงง ๆ
“อะไรครับ” สมภพถามออกไปตามที่ใจคิด พร้อมกับรับเอาเอกสารมาดู
“ไปอ่านดู แล้วจะรู้” ภาคีย์ยิ้มเหี้ยมอย่างหมายหมาด สมภพถือเอกสารกลับออกไปนั่งอ่านก็เกิดความสงสัยว่าทำไหมเจ้านายหนุ่มถึงสนใจจะไปซื้อกิจการที่กำลังจะล้มสลาย
“คิดจะทำอะไรของเขาว่ะ” สมภพบ่นกับเอกสารในมือ เพราะมีคำสั่งด่วนจากภาคีย์ให้ไปเสนอเงินช่วยเหลือบริษัทแสงศรทันที และให้สมภพจัดการแทนเขาสมภพโทรไปตามเบอร์ที่ติดต่อของบริษัทแสงศรก็ได้ยินเสียงชายเศร้ารับอย่างเหนื่อย ๆ
“คุณเกียงไกรหรือเปล่าครับ”
“ครับ” เกียงไกรตอบรับเสียงเหนื่อย ๆ
“ผมโทรจากบริษัทภาคีวัฒน์นะครับ เราสนใจจะร่วมทุ่นกับบริษัทคุณ” เกียงไกรแทบไม่เชื่อหูเขาไปเสนอต่อบริษัทหลายที่นี้ครั้งแรกที่ได้รับโทรศัพท์ เกียงไกรดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาฟังจากน้ำเสียงก็รู้
“พูดจริงใช่ไหมครับ” เกียงไกรถามให้แน่ใจ บริษัทใหญ่โตอย่างภาคีวัฒน์จะมาสนใจอะไรกับบริษัทที่กำลังจะล้มไม่เป็นท่าแบบนี้
“ถ้าว่างก็เข้ามาคุยรายละเอียดกัน” สมภพเสนอแนะ
“ครับพรุ่งนี้ผมจะเตรียมรายละเอียดไปให้คุณดู” เกียงไกรตื่นเต้นเนื้อตัวสั่นไปหมด ยังกับสวรรค์มาโปรดเขามองเห็นทางรอดอยู่ร่ำไร
สมภพได้ทำตามที่เจ้านายหนุ่มสั่งก็รีบไปรายงานความคืบหน้า ภาคีย์ยิ้มเยาะออกมา อำนาจเงินกำลังจะทำให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ
“พรุ่งนี้คุณเกียงไกรจะมาพบ” สมภพรายงาน
“ดีมาก ให้ได้อย่างนี้สิ” ภาคีย์อุทานออกมาอย่างดีใจ สมภพมองงง ๆ ทำไหมเจ้านายหนุ่มต้องดีใจขนาดนั้นด้วย
“คีย์..นายจะคุยเองหรือเปล่า”
“นายจัดการเถอะ ตามที่เห็นว่าเหมาะสม” ภาคีย์ให้อำนาจเต็มที สมภพเดินเกลาหัวออกมาไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนทำทุกทีจะเป็นคนคุยลายละเอียดเอง แต่ครั้งกับให้เขา
เกียงไกรลงจากรถพร้อมซองเอกสารสามสี่ซอง เดินเข้าไปในตึกสูงใหญ่เฉียดฟ้าเป็นบริษัทที่กำลังมาแรงเป็นที่จับตาของหลาย ๆ องค์กร บริหารงานโดยภาคีย์หนุ่มอนาคตไกลอายุยังน้อย หน้าตาหล่อเหลาเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในวงสังคม เกียงไกรไม่เคยเจอตัวจริงได้ยินแต่ชื่อ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของสมภพ เรียกความสนใจคนที่กำลังดูเอกสารในแฟ้มให้เงยหน้าขึ้นมา ไม่นายชายร่างท่วมดูอิดโรยตามวัยที่ย่างเข้าหกสิบ โค้งหัวให้เขานิดหนึ่งเป็นการทักทาย ก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในห้อง สมภพยืนขึ้นต้อยรับ เชิญให้นั่งเก้าอี้ตรงข้าม
“คุณภาคีย์ใช่ไหมครับ” เกียงไกรเอ่ยยืนมืออกไปทักทาย
“เออ
ผมสมภพครับ..ไม่ใช่คุณภาคีย์” สมภพยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ ชายวัยกลายคนปลาย ๆ หน้าเซียวลงอย่างผิดหวัง
“ผมคิดแล้วบริษัทใหญ่อย่างพวกคุณจะมาสนใจอะไร ขนาดผู้บริหารยังไม่ยอมพบ” เกียงไกรพูดจากตัดพ้อไปตรง ๆ
“ไม่ใช่อย่างนั้น คุณภาคีย์ติดธุระต้องบินด่วนเลยให้ผมจัดการแทน ยังฝากขอโทษมายังคุณด้วย” สมภพแก้ตัวให้เจ้านายหนุ่มจะได้ไม่ดูแล้งน้ำใจเหมือนกับคำกล่าวหา
“ครับผมเข้าใจ” เกียงไกรดูมีสีหน้าดีขึ้น เมื่อฟังคำล่วงจากสมภพ
“คุยเรื่องของเราดีกว่า” สมภพระบายลมออกมาจากปากแผ่วเบา ผ่อนคล้ายความอึดอัดเมื่อคู่
เกียงไกรส่งเอกสารที่เตรียมมาให้สมภพดู จากนั้นภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสมภพใช้เวลาอ่านเอกสารอย่างละเอียด สีหน้ายุ่งยากหลังจากอ่านเอกสารจบทำให้เกียงไกรไม่ค่อยมั่นใจในคำตอบที่เขาจะได้ สมภพมองหน้าผู้ชายตรงหน้าแวบหนึ่งเห็นความลำบากใจอย่างชัดเจน สมภพระบายยิ้มออกมา
“ผมขอคุยกับคุณภาคีย์ก่อนนะครับ” สมภพบอกอย่างสุภาพก่อนจะเดินออกไปจากห้องต่อสายไปคุยกับเจ้านายที่อยู่ถัดจากเขาแค่ห้าชั้น
“ว่าไงสมภพ” ภาคีย์ทักเสียงกังวาน
“มีปัญหาสิ บริษัทแสงศรที่นายสนใจมีหนีสิ้นเยอะมากฉันว่าไม่คุ้มที่จะลงทุนด้วย” สมภพบอกไปตามตรง
“แล้วไง!” ภาคีย์ฟังอย่างไม่แยแส
“เราจะขาดทุนนะ” สมภพบอกออกไปตามจริง
“ฉันไม่สนเรื่องกำไร ให้เงินเขาไปอยากได้เท่าไหร่ก็ให้ไป” ภาคีย์ประกาศเกล้าสมภพไม่กล้าโตเถียงกลับไปหาเกียงไกรที่นั่งรอกระสับกระส่ายลุ้นอย่างระทึก
“ว่าไงครับ” เกียงไกรร้อนใจถามขึ้นมาสมภพยิ้มเดินกลับมานั่งตรงข้าม
“คุณภาคีย์อนุมัติครับ” เกียงไกรยิ้มอย่างดีใจจับมือสมภพเขย่าไม่มาอย่างลืมตัว
“ขอบคุณครับที่ให้โอกาสผม” เกียงไกรกล่าวขอบคุณไม่ขาดปาก แล้วรีบกลับไปบอกข่าวดีแก้ภรรยาที่รอฟังข่าวที่บ้าน สามวันให้หลังเงินก้อนโตจำนวนห้าสิบล้านถูกโอนเข้าบัญชีเกียงไกรอย่างเร็ว เกียงไกรเอาเงินที่ได้มาไปพยุงบริษัทจ่ายหนีสิ้นที่ค้างค่าแรงพนักงาน และส่งไปให้ลูกสาวสุดที่รักใช้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ณ กรุงปารีสในผับหรูที่เหล่านักเที่ยวต้องมาเยือนให้ได้เมื่อมาปารีส สาวสวยในชุดสีดำมันวาวกำลังเต้นอย่างร้อนแรง แอลกอฮอล์ที่มีในกระแสเลือดคงมีไม่น้อยเพราะท่าทางการยืนทรงตัวไม่มั่นคงบอกได้ชัดเจน
“บาร์บี้!!” เสียงเรียกจากเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติ ดังทั่วผับ บาร์บี้หรือปายฝันบุตรสาวอันเป็นที่รักยิ่งของเกียงไกรที่ส่งข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาเล่าเรียนต่างแดนหวังจะให้เธอไม่น้อยหน้าใคร แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจความหวังดีของพ่อแม่ถึงได้ทำตัวเช่นนี้
“เลโอ..” ปายเดินไปกอดคอชายหนุ่มต่างชาติอย่างสนิทสนม
“บาร์บี้ยูเมาแล้วนะ เลิกดื่มเถอะ” เลโอแฟนหนุ่มที่คบกันมาสองปีกว่าของปายฝันดึงแก้วออกจากมือด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เมาไอยังดื่มต่อได้” ปายฝันโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“กลับเถอะ” เลโอโอบเอวบางเข้ามาแนบชิด
“เลโอ..ยูรักไอไหม” ปายฝันสอดมือขึ้นโอบรอบคอ เอานิ้วจิ้มที่ปากแฟนหนุ่มเบา ๆ
“รักสิ..ไอรักยูมาก” เลโอหอมแก้มปายฝันเป็นการยืนยัน
“ไอไม่อยากกลับเมืองไทยเลย” ปายฝันออดอ้อนหน้าสวยหวานซบลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน
“บาร์บี้...ก็ไม่ต้องกลับสิ” เลโอบอกออกไปง่ายๆ เขาไม่เห็นจะตัดสินใจอะไรมากมาย ไม่อยากกลับก็ไม่ต้องกลับก็แค่นั้น
“ไม่ได้ ป๊ากับมามี๊รออยู่” ปายฝันบอกเหตุให้ฟัง เลโอยิ้มหวานให้ เอามือเขี่ยแก้มเนียนไปมาด้วยความเสน่หา
“แต่งงานกับไอแล้วใช้ชีวิตด้วยกันที่นี้นะ” เลโอหาทางออกให้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะขอแฟนสาวแต่งงงานด้วยเสียเลย ปายฝันยิ้มอยากดีใจที่ถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงานโผเข้ากอดอย่างดีใจ
“ตกลง..ไอจะแต่งงานกับยู” ปายฝันตอบรับคำขอไม่เสียเวลาคิดนานน้ำตาซึมปลื้มใจไม่น้อย
ปายฝันดื่มเข้าไปมากมายดื่มให้กับการฉลองเรียนจบที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ปีนี้พวกเธอเรียนจบแล้วและที่สำคัญกำลังจะจากลาชายอันเป็นที่รักและประเทศที่อยู่มานานถึงแปดปีต้องจากจรกลับไปถิ่นฐานบ้านเกิด ปายฝันอยากใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มที่สุดหรืออาจจะต่อโทอีกสักใบ เอาไปกอดเล่น พ่อเธอส่งได้สบายอยู่แล้ว ปายฝันนึกครึมในใจหารู้ไม่ครอบครัวเธอกำลังเดือดร้อนอย่างหนักไปกู้หนี้ยืมสินมาส่งเสียให้เธอมีชีวิตสุขสบายที่ปารีสแห่งนี้ทางบ้านกลับกัดก้อนเกลือกินเพื่อให้เธอได้อยู่อย่างที่เคยเป็น
“บาร์บี้ถึงห้องแล้ว” เลโอบอกคนที่อยู่ในอ้อมแขนที่กำลังฝันหวานวาดฝันถึงอนาคตที่วางไว้
“ถึงแล้วหรอ” ปายงัวเงียลืมตาตื่น
“จะค้างที่นี้ไหม” ปายฝันถามแฟนหนุ่มพร้อมกับโอบรอบคอ
“ไม่ล่ะ!..ยูไม่ชอบนิ” เลโอรู้หน้าที เขากับปายฝันคบกันแบบบริสุทธิ์ใจ เลโอเข้าใจที่ปายฝันไม่ยอมมีอะไรกับเขาเพราะการเลี้ยงดูในสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเขาจึงรอได้
“พรุ่งนี้ไอมารับนะ” เลโอก้มจุมพิตแผ่วเบาที่แก้มเนียนก่อนจะกลับออกไป
“ราตรีสวัสดิ์”
ทางด้านภาคีย์นั่งมองแก้วเหล้าในมือที่ถือแกร่งไปมากำลังครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง กับเรื่องที่เขาได้ให้คนสืบเรื่องราวของปายฝันมาจนหมดรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้เธอได้เรียนจบโทแล้ว เธอใช้ชีวิตคุ้มค่าแค่ไหนตลอดเวลาอยู่ที่ปารีส ที่สำคัญเธอฮอตมากในหมู่สาวชาวต่างแดน หน้าตาอันดูโดดเด่นสะดุดชวนหลงใหลมาแต่ไหนแต่ไร ความยิ่งผยอง อวดดี ถือตัว นั้นเขาจำได้ขึ้นใจไม่เคยลืม
“คีย์ค่ะ..ยังไม่อาบน้ำอีกหรือ” เสียงใสทักออกมาจากห้องนอนพร้อมกับร่างอวบอันเข้ามาสวมกอดทางด้านหลัง ปาริดาแฟนสาวที่คบมาได้ปีกว่า ๆ เธอเป็นลูกผู้ดีมีเงินสาวสวยสังคมไฮโซที่หลายคนหมายตา ภาคีย์คิดว่าปาริดาคือคนที่เขาจะแต่งงานด้วยอย่างแน่นอน เธอค่อยดูแลเอาใจใส่ เธอมักจะมาค้างกับเขาที่ห้องบ่อย ๆ
“กี่โมงแล้วครับ” คีย์หันหน้าไปคุยกับแฟนสาว
“สามทุ่มแล้ว..ดาเห็นคีย์นั่งเหม่ออยู่เป็นนานเลยนะค่ะ..คิดถึงใครอยู่” ปริดาหลี่ตามองอย่างจับผิด
“พูดไม่เข้าท่าจะคิดถึงใครได้ล่ะ” เสียงทุ้มติอย่างไม่จริงจัง
“ถ้าคุณกล้าคิดถึงคนอื่นดาจะไม่ไว้หน้าเลยนะ” ปาริดาส่งคำขู่ไปให้
“แฟนใครเนี่ย..ดุจัง” ภาคีย์แซวแฟนสาว รวบร่างบางขึ้นมานั่งบนตักกอดเอวไว้หลวม ๆ
“เมื่อไหร่คุณจะว่างซะที” ปาริดาถามเสียงกระเช้าออดอ้อน
“ทำไมล่ะ ดาอยากไปไหน” ภาคีย์เลิกคิ้วมอง
“อยากไปเที่ยวกับคุณสองต่อสองไงค่ะ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ไปไหนด้วยกัน” ปาริดาหยอดคำหวาน
“ดาอยากไปไหน คิดไว้หรือยัง” ภาคีย์หอมแก้มเนียนจูบไปตามติ่งหูลงมาตามคอระหงสนองอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านในตอนนี้
“ไปเชียงใหม่กันไหม” ปาริดา ตอบเสียงขาด ๆ หาย ๆ เอนตัวรับปากที่ร้อนรุมและมือของชายหนุ่มเริ่มลุกหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเองแทบแตกสลาย
“เอาซิ!” ภาคีย์ตอบรับ มือจัดการเสื้อนอนตัวบางของปาริดาออกอย่างรีบร้อน เผยเรือนร่างที่น่ามองยิ่งอกอวบใหญ่โตไม่น้อยหน้าคนอื่น ยอดอกที่ชูชันชวนเชิญจนภาคีย์ทนต่อไปไม่ไว้ ก้มลงไปครอบครองดูดยอดอกเข้าไปในปากร้อน ๆ มือก็ทำหน้าที่ล้วงเขาไปหากลีบดอกไม้ที่ชุ่มน้ำ สอดนิ้วเข้าไปทำหน้าที่สร้างความสุขให้เธอพร้อมก่อนออกศึก
“อ๊า!!.. คีย์จ้า” ปาริดาครวญครางบิดเร้าไปมาอยู่บนตักของภาคีย์ ในเวลาไม่นานเก้าอี้ตัวนั้นการเป็นที่รองรับอารมณ์เสน่หาของพวกเขา จังหวะรักที่ปาริดาเป็นคนคุมเกมส่งมาให้ภาคีย์อย่างเร้าร้อน สะโพกงอนสวยโยกขึ้นลงรวดเร็ว ซับกับช้าทรมานภาคีย์ยิ่งนัก
“ดา!...จ้า!...” ภาคีย์พร่ำเพ้อเรียกชื่อแฟนสาวเหมือนคนเสียสติ เขาตกอยู่ในห้วงเสน่หาสายตาที่มองปาริดาเต็มไปด้วยไฟพิศวาสปรารถนาพอ ใกล้ถึงจุดระเบิดภาคีย์จัดการกดร่างบางแนบลงกับโต๊ะ ยกสะโพกเธอขึ้นรับความเป็นชายที่ใหญ่โตของเขา ภาคีย์กระหน่ำใส่ปาริดารุนแรงรวดเร็ว จนเสียงครางเจ็บปวดดังออกมาจากปากทั้งสอง
“อืมมม อ๊า” ภาคีย์ก้มจูบไปตามแผนหลังขาวเนียนที่หอบจนคนตัวโยนแล้วอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตกเช่นเคย
“คุณทำให้ผมแทบคลั่งรู้ไหม” ภาคีย์ยิ้มหวาน จูบซับเหนื่อยตามดวงหน้าของปาริดา
“ปากหวานจัง” พูดจบปาริดาจูบปากภาคีย์ทันที เธอได้รับการจูบตอบร้อนแรงพอ ๆ กัน ก่อนที่อะไรจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ภาคีย์มีเรื่องต้องบอกเธอก่อน จึงถอนจูบออกมาอย่างเสียดาย ปาริดามีสีหน้าขัดใจ
“มีอะไรค่ะ” ปาริดามองหน้าภาคีย์ที่หยุดกลางคัน
“อาทิตย์หน้าผมจะไปปารีส” ภาคีย์บอกออกไปรอดูสีหน้าท่าทางของแฟนสาว เป็นไปตามคาดเธอเบิกตากว้างอย่างตกใจพอกับคำถามร้อนรนจากเธอ
“คุณจะไปปารีสทำไหมค่ะ”
ความคิดเห็น