คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ใจสั่นไหว
“คนที่ควงด้วย......?...” ริมฝีปากน้อยๆพูดทวนประโยคของอีกฝ่ายเบาๆ
“อืม แหม....ยูวอนนี่แกล้งทำเป็นลืมรึไงกันจ๊ะ?” นิ้วเรียวลูบที่คางโค้งมนของร่างสูง
“อ่ะ......เอ่อ....อืม ขอโทษที ซึบากิ” ร่างสูงตอบพร้อมอาการงงเล็กน้อยและแก้มก็เริ่มที่จะแดงขึ้นมา
“อย่างนั้นต้องทำโทษนะจ๊ะ หนูน้อย มากับชั้นซะดีๆเถอะน่า” ซึบากิพูดพลางลากร่างสูงเข้าไปยังหลังร้าน
“ฮะ ฮะ ฮะ เห็นหน้าหมอนั่นไหม? ดูเอ๋อไปเลยนะเนี่ยไม่หล่อแล้วยังมีหน้ามาจีบชั้น” เสียงหัวเราะดังขึ้นโดยสาวสวยผู้เริ่มการพูดเรื่องที่ไม่เป็นจริง
“อ่า......อืม ทำไมซึบากิถึงพูดออกไปอย่างนั้นล่ะเธอเมาแล้วเหรอ?” ร่างสูงพูดออกมาอย่างติดขัดโดยที่ซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตนเอาไว้โดยการก้มหน้าลง
“ทำไม? เธอลำบากใจงั้นเหรอ?” ร่างบางหันมาถามอีกฝ่าย
“ไมใช่อย่างนั้นหรอกนะ...ชั้นน่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่ชั้นห่วงเธอมากกว่าว่าจะโดนคนอื่นพูดถึงยังไงบ้าง”
“ก็ช่างสิ ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง แต่ความจริงมีแค่พวกเราที่รู้แค่นั้นก็พอแล้วนี่นา.....จริงไหม? ยูวอน” ร่างบางลูบเรียวหน้าของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปยังร้านที่ตนนั้นเพิ่งจะเดินออกมาทิ้งอีกคนซึ่งยังคงคิดฟุ้งซ่านเอาไว้เพียงคนเดียว
ตึก แผ่นหลังของร่างสูงพิงผนังอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนที่จะทรุดลงไปนั่งยองๆอยู่กับพื้น
“อย่ามา......ทำให้ชั้นรู้สึกแบบนี้จะได้ไหม? ซึบากิ” ยูวอนพุดพลางใช้มือจับไปยังหน้าอกของตนที่ในตอนนี้นั้นอวัยวะที่อยู่ข้างในเต้นแรงและไม่เป็นจังหวะทันทีที่คิดถึงเรื่องอีกของฝ่าย สาวสวยผู้ที่เจอกันเพียงไม่นานก็สามารถยึดหัวใจของตนเอาไว้ได้
“หน้าก็ร้อนจนแดงแบบนี้เราจะออกไปร้องเพลงได่ยังไงล่ะเนี่ย? บ้าชะมัด”
ภายในร้านนั้นรอบกายของสาวสวยผู้เป็นเหมือนกับเจ้าหญิงที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นๆนั้นยังคงนั่งดื่มเครื่องดื่มต่อไปอย่างสบายใจโดยที่ปกติแล้วมักจะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาพูดคุยด้วยอยู่ตลอดเวลาแต่ในตอนนี้กลับไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาพูดจาหว่านล้อมหญิงสาวผู้นี้ด้วยคำหวาน
เสียงดนตรีถูกเปลี่ยนจากแผ่นเสียงมายังนักดนตรีที่เดินขึ้นไปยังบนเวทีเหมือนปกติโดยที่มียูวอนเป็นคนขับร้องเช่นเดิม
“วันนี้ชั้นมีเพลงที่แต่งเองมาลองร้องให้ทุกคนฟังนะคะ เป็นเพลงที่แสดงความขอบคุณคนคนนึงที่ดีกับชั้นมากๆไม่รุ้ว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวไหมแต่ก็เชิญรับฟังได้เลยค่ะ” พอร่างสูงพูดจบนั้นก็หยิบกีต้าห์ไม้ขึ้นมาบรรเลงโดยที่นักดนตรีคนอื่นไม่ได้บรรเลงเลยแม้แต่น้อย
เพลงที่ถูกร้องออกมานั้นมีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่นและภาษาเกาหลีคละเคล้ากันไปแต่กลับเข้ากันได้ดีกับเสียงดีดกีต้าห์เบาๆได้อย่างลงตัว ผู้ที่เป็นคนสร้างเสียงนี้นั้นส่งสายตาจ้องมองสาวสวยที่นั่งฟังอย่างตั้งใจอยู่บนโต๊ะด้านหน้าใกล้กับเวทีตลอดเวลาในใจก็พลางคิดอยุ่ตลอดเวลาเผื่อที่จะให้อีกฝ่ายนั้นได้ยิน
ชั้นชอบเธอนะ..............เจ้าหญิงซึบากิ.......
ทันทีที่บทเพลงถูกบรรเลงจบนั้นเสียงตบมือและโห่ร้องขออีกครั้งก็มีขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ยูวอนนั้นได้แต่เพียงโค้งตัวลงและหัวเราะเท่านั้น
“เพราะมากเลย ยูวอน” มีเพียงคำพูดประโยคนี้ที่หลุดจากปากของซึบากิเท่านั้นที่ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทการรับฟังของร่างสูง
“ขอบคุณมากค่ะ” เสียงพูดขอบคุณถูกพูดขึ้นก่อนที่นักดนตรีคนอื่นจะเริ่มเล่นเพลงที่ถูกขอขึ้นมา
เสียงเพลงถูกบรรเลงไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ซ้ำเพลงะและจังหวะทำให้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องฟังอยู่เพียงจังหวะเดียว หลังจากเพลงถูกบรรเลงได้ไม่นานนั้นก็ไม่มีใครสังกุเห็นว่านักร้องที่ร้องอยู่เมื่อครู่นี้นั้นได้หายตัวไปจากบนเวที
“ได้โปรดให้เกียรติ์เต้นกับข้าน้อยซักหน่อยได้ไหม? เจ้าหญิงซึบากิ” ประโยคคำถามถูกถามขึ้นโดยผู้ที่ตอนนี้น่าที่จะอยู่บนเวทีกลับลงมายืนอยู่ด้านหน้าของโต๊ะและขอกับอีกฝ่ายด้วยสำนวนที่ฟังดูค่อนข้างตลก
“อืม.......ได้สิ” มือเรียวดูบอบบางถูกยื่นไปให้อีกฝ่ายนั้นจับก่อนที่จะถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของฝ่ายทันทีที่เพลงจังหวะเร็วและสนุกสนานถูกเล่น
“ว๊าย!! จับตรงไหนกันน่ะ ยูวอน” เสียงของร่างบางพูดขึ้นเบาๆ
“ข.....ขอโทษที ชั้นลืมตัว...ไปน่ะ” ผู้ที่ถูกถามหน้าแดงก่ำและหันหน้าหนีก่อนที่จะตอบ
เอี๊ยด...... ล้อของรถสปอร์ตสีแดงถูกจอดที่หน้าของประตูปราสาท ผู้ที่เหมือนกับองค์รักษ์นั้นได้อุ้มเจ้าหญิงของปราสาทแห่งนี้ที่ไม่ได้สติเข้าไปด้านในและส่งยังห้องนอนของอีกฝ่าย
ตุบ ร่างบางของเจ้าหญิงงถูกวางลงบนเตียงน้ำที่นุ่มและเด้งไปมาอย่างแผ่วเบาแต่ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกจากภายในห้องแห่งนี้ก็ถูกอีกฝ่ายที่น่าจะนอนอยู่นั้นโอบกอดเข้าที่ด้านหลัง
“อืม...........อย่าเพิ่งไปสิ ยูวอน ช่วยอะไรชั้นซักอย่างได้ไหม?.....” เสียงหวานพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะกระตุ้นอีกฝ่าย
“อะ..........อะไรเหรอ?” ผู้ที่ตอบนั้นพยายามที่จะพูดออกมาให้น้ำเสียงเป็นปกติที่สุดและไม่อยากที่จะให้อีกฝ่ายจับได้ว่าตอนนี้ตนนั้นรู้สึกอย่างไร
“ช่วย..........ถอดเสื้อให้ทีสิ..........มันอึดอัด....” คำพูดประโยคนี้ถึงกับทำให้อีกฝ่ายนั้นกลืนน้ำลายของตนเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตอบตกลงด้วยน้ำสียงสั่นเครือ
ทุกครั้งที่มือของยูวอนสัมผัสกับผิวเนียนของคนตรงหน้านั้นทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ยังคงตีสีหน้าปกติอยู่เช่นเดิม
ชุดวันพีชที่สั้นเหนือหัวเข่าถูกปลดกระดุมที่เม็ดจนลงไปกองอยู่กับพื้นเผยให้เห็นเรือนร่างที่อยู่ภายใน
“ถอดถุงน่องของชั้นด้วยสิ” เสียงพูดที่เหมือนกับคำสั่งหรือว่าคำเรียกร้องนั้นถูกพูดขึ้นทันทีที่ผู้ที่พูดนั่งลงบนที่นอนและชันขาเอาไว้
“อืม......” ร่างสูงตอบและค่อยๆดึงถุงน่องที่คนตรงหน้าใส่จนแนบชิดกับผิวหนังออกอย่างแผ่วเบาโดยอดที่จะมองเรือนร่างที่มีเพียงชุดชั้นในลูกไม้สีดำเล็กสองชิ้นปกปิดเอาไว้ไม่ได้
“....สะ......เสร็จแล้ว.....ชั้นขอตัวก่อนนะ...” ยูวอนตัดสินใจที่จะยุติสิ่งที่ตนเองคิดจะทำลงก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
“อืม.....ขอบใจนะ.........โชจิ.....” ร่างบางโน้มริมฝีปากมาสัมผัสกับอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาแต่ชื่อที่พูดนั้นกลับเป็นชื่อของผู้อื่นแถมยังเป็นผู้ชาย
ตุบ......ร่างบางทิ้งตัวลงนอนทันทีและหลับเพียงไม่กี่วินาทีหลับจากนั้น
โชจิ? ใครกัน ซึบากิเห็นเราเป็นใครกันถึงได้เรียกชื่อนี้.........จริงสิ........ถามชิอากิดีกว่ามั้ง
“โชจิ.....พี่ซึบากิพูดชื่อนั้นงั้นเหรอ?” ร่างบางของหญิงสาวอีกคนที่ถูกปลุกขึ้นมากลางดึกพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“อยากรู้สินะว่าคนนั้นเป็นใคร?” ดวงตาสีดำจ้องผู้ที่มาถามเขม็งก่อนที่จะถอนหายใจ
“โชจิ......ยาชิตะ โชจิคนรักของพี่เมื่อ 2 ปีก่อนน่ะ” คำพูดที่ถูกบอกว่าคนรักนั้นถึงกับทำให้ผู้ที่ฟังนั้นรู้สึกเจ็บเข้าไปจนถึงขั้วหัวใจ
“ล....แล้วคนนั้นในตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ?” คำพูดถามถูกพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ คนคนนั้นน่ะตอนนี้ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้วล่ะ” แววตาสีดำที่ดูขุ่นมัวลงของผู้ที่เล่านั้นปรากฏขึ้นก่อนที่จะกลับเป็นเหมือนเดิม
“เธอชอบพี่ซึบากิสินะ? ถ้างั้นก็อย่าพูดชื่อนี้ต่อหน้าพี่เขาเด็ดขาดไม่อย่างนั้นชั้นจะไม่ยกโทษให้เธอแน่” คำพูดขู่ด้วยน้ำเสียงที่เรียบและเย็นถูกพูดขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่แสดงความเอาจริง
“อืม.....” ยูวอนตอบชิอากิก่อนที่จะเดินกลับไปยังห้องของตนเอง
โชจิงั้นเหรอ?...........เราคงจะไม่มีทางแทนที่คนตายได้ล่ะมั้ง?
ความคิดเห็น