คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : การจองจำไร้สิ้นสุด
ในเช้าวันสุดท้ายนั้นสาวใช้ผู้ที่จะต้องออกจากกรงขังแห่งนี้ออกไปนั้นเปลี่ยนชุดแต่งกายจากเสื้อผ้าของสาวใช้ที่มีแต่สีขาวและดำนั้นมาเป็นเสื้อผ้าที่ตนใส่ในตอนที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ส่วนร่างของผู้ที่เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้นั้นกลับยังคงหลับไหลอยู่บนที่นอนนุ่มในห้องที่มองเห็นทะเลยามพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจนทั้งที่โดยปกติแล้วนั้นมักจะลืมตาตื่นขึ้นในเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทุกทีแต่วันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น
แกร็ก...... เสียงปลดล๊อกของประตูเพียงแห่งเดียวของเรือนกระจกแห่งนี้ดังขึ้นเพื่อที่จะพาเอาหญิงสาวผู้นี้ออกมาจากเรือนกระจกที่เป็นเหมือนกับกรงขังแห่งนี้ออกมาสู่โลกภายนอก ขาเรียวของร่างบางนั้นพาตนเองออกมาสู่โลกภายนอกโดยที่สวนทางกับสาวใช้คนใหม่ผู้ซึ่งเข้ามาทำงานแทนตนในหน้าที่นี้โดยที่ตนเองนั้นจำสิ่งที่เป็นเงื่อนไขของข้อตกลงสิ่งสุดท้ายที่ได้รับปากเอาไว้กับเจ้านายของตนไม่ได้
‘ทันทีที่เธอก้าวขาออกไปจากกรงนี่ในตอนที่เธอลาออกเธอจะจำทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่ไม่ได้’ สิ่งที่ถูกสะกดไว้ในจิตใต้สำนึกนั้นได้ถูกกระตุ้นให้กระทำการลบสิ่งต่างๆออกไปจากภายในหัวสมองความทรงจำต่างๆที่ทั้งดีและไม่ดีที่ได้พบเจอขณะที่อยู่ที่นี่นั้นหายไปจนหมดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าและความทรงจำตอนก่อนที่จะก้าวขาเข้ามายังที่แห่งนี้
“..................นี่เรา.....มาทำอะไรที่นี่กันน่ะ?.........” เรียวปากน้อยๆของทีน่าพูดกับตนเองขณะที่ยืนอยู่หน้าประตูรั้วเหล็กบานใหญ่ของทางเข้ามาพื้นที่ของตระกูลมัสเลอร์ ในขณะเดียวกันนั้นน้ำตาก็พลางไหลออกมาจากนัยน์ตาของตนอย่างไม่รู้สาเหตุ
“นี่มันอะไรกันน่ะ?......น้ำตา?....ผงเข้าตาเรางั้นเหรอ?” ทีน่างุนงงกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดอย่างไร้สาเหตุและพยายามใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดออกไปให้หมด
“อืม..........” ร่างที่นอนอยู่นั้นรู้สึกตัวแล้วลุกขึ้นมานั่งแล้วรู้ดีว่าสาวใช้ของตนนั้นได้เปลี่ยนเป็นคนอื่นไปเสียแล้ว
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณหนู ดิชั้นมาทำงานแทนตั้งแต่วันนี้ค่ะ” สาวใช้ที่มาใหม่กล่าวทักทายเคียร์อย่างสุภาพและอ่อนน้อม
“..............งั้นเหรอ? มาใหม่งั้นเหรอ?” รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมาที่มุมปากของผู้ที่พูดเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปสบตากับอีกฝ่าย สาวใช้ผู้ที่ซึ่งตนเองนั้นเป็นผู้คัดเลือกมาด้วยตัวเองพลางสาวเท้าทั้ง 2 ข้างของตนเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“ถ้าหากอย่างนั้นก็..................................” ใบหน้าโค้งมนได้รูปของเคียร์นั้นโน้มเข้าไปหาอีกฝ่ายใกล้ๆพลางกระซิบคำสั่งที่สาวใช้ทุกคนนั้นจะได้รับเหมือนกันในเวลาที่ทำงานอยู่ที่นี่
สาวใช้ผู้ที่มาใหม่นั้นหารู้ไม่ว่าคนที่ดูสวยงามอย่างหายากผู้นี้นั้นมีอุปนิสัยหรือความคิดอย่างไร แต่ไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็จะต้องหลงไหลในรูปกายภายนอกทั้งนั้น
3 เดือนผ่านไป หลังจากที่ทีน่านั้นลาออกมาจากการเป็นสาวใช้ของตระกูล มัสเลอร์ ความทรงจำระยะเวลา 1 เดือนที่หายไปนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะนึกออกเลยแม้แต่นิดเดียว งานที่ทำอยู่นั้นก็เปลี่ยนไปหลายครั้งเพราะรู้สึกว่าตนเองนั้นเข้ากับผู้คนที่เป็นเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยจะได้
“ทีน่าเป็นอะไรไปเหรอ? ดูเหม่อๆชอบกล” เสียงถามของเพื่อนที่เป็นผู้ชายของทีน่าถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“หืม? เปล่านี่นา ชั้นแค่คิดอะไรเพลินๆน่ะว่าเวลา 1 เดือนที่ความจำของชั้นหายไปตอนนั้นชั้นทำงานแบบไหนหรือว่ามีชีวิตยังไง แต่ว่าคิดยังไงก็คิดไม่ออกอ่ะ” ร่างบางพูดพลางหัวเราะเล็กน้อย
“ถ้าคิดมากแบบนี้ทำไมไม่ลองไปสมัครดูอีกครั้งล่ะ? เผื่อว่าเธอจะได้จำได้ไง”
“ก็อยากอยู่อ่ะ แต่ว่าดูสิงานเงินดีแบบนี้ท่าทางจะไม่ได้ง่ายๆแน่เลย”
“อ้าว ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ? อีกอย่างเธอก็เคยสมัครผ่านจนได้ทำงานมาแล้วครั้งนึงไม่ใช่เหรอ? มั่นใจหน่อยสิ” มือใหย่นั้นตบเขาที่ไหล่เล็กของทีน่าเบาๆ
“เรื่องนั้นมันก็ถูกล่ะนะ แต่ว่าเขาจะรับชั้นอีกรอบเหรอ? อีกอย่างชั้นก็จำไม่ได้ด้วยว่าต้องทำงานอะไร” ใบหน้าที่ดูกังวลและลังเลถูกแสดงขึ้นบนใบหน้าของร่างบางแทบจะในทันที
ตุบ มือใหญ่และกร้านของผู้ชายซึ่งเป็นเพื่อนนั้นวางลงบนบ่าของทีน่าเป็นเชิงปลอบใจ
“ขอบใจ แต่ชั้นไม่เป็นอะไรหรอกน่า อย่างที่เธอพูดชั้นน่าจะลองดูนะ จริงไหม?” มือที่เล็กกว่าของทีน่านั้นขยับอุ้งมือใหญ่ของเพื่อนตนออกไปพร้อมกับยิ้มออกมา
“อืม พยายามเข้าล่ะ ถึงเธอจะต้องหายตัวไปอีก 1 เดือนก็เถอะนะ”
“ฮะ ฮะ ฮะ พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ยังไม่แน่ซะหน่อย”
“ก็พูดกันเอาไว้ก่อนล่ะน่า ไม่แน่พรุ่งนี้เธออาจจะได้งานเลยนี่นา”
“ได้ก็ดีสิ” เสียงหัวเราะของทั้งคู่นั้นดังขึ้นจนถูกหัวหน้าในที่ทำงานนั้นต่อว่าเอา
แซ่ก แซ่ก เอกสารกองโตถูกเปิดค้นและอ่านอย่างพิจารณาทีละหน้า ทีละหน้า
“คุณเคียร์คะ น้ำชาค่ะ” สาวใช้คนใหม่ผู้ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นคนที่ 10 นับหลังจากทีน่านั้นถามผู้ซึ่งอยู่ในสถานะเจ้านายของตน
“อืม วางเสร็จก็ออกไปซะสิ” ร่างที่นั่งอยู่ภายในห้องอ่านหนังสือกลางกองเอกสารออกคำสั่งกับสาวใช้โดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
น่าเบื่อชะมัด................ไม่ว่ากี่คนต่อกี่คนแค่แกล้งนิดหน่อยก็ลาออกกันหมด
จะมีใครที่น่าสนุกแล้วก็ไม่น่าเบื่อบ้าง.....นะ........ ในตอนที่กำลังคิดอยู่นั่นนัยน์ตาสีน้ำข้าวก็เหลือบไปเห็นรูปที่ดูคุ้นตา
แกรบ........ ใบประวัติและรูปภาพถูกหยิบขึ้นมาเพื่อมองดูรูปภาพ ผู้ที่อ่านนั้นคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
ในรูปถ่ายถึงจะไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วนั้น ผมที่เคยยาวสลวยและถักเปียถูกตัดออกจนเป็นผมซอยสั้น แต่นอกนั้นทุกอย่างก็เหมือนเดิมทุกอย่าง
“ทั้งที่ออกไปแล้ว ทำไมถึงกลับมาอีกนะ ท่าจะสติไม่ดีแฮะยัยนี่หรือว่าอยากจะอยู่ในที่แบบนี้หรือไงกันนะ?” เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างเบาๆเพราะผู้ที่หัวเราะนั้นใช้มือปิดปากตนเองเอาไว้
ตกลงเอายัยนี่ล่ะนะ เคียร์คิดในใจแล้วหยิบเอาใบสมัครของทีน่ามาวางเอาไว้บนโต๊ะและนำเอาเอกสารที่เหลือวางลงกับพื้น
“ไม่นึกเลยแฮะว่าจะรับมาทำงานเราอีกรอบ” ทีน่าเดินตามสาวใช้คนอื่นที่นำทางมาให้พลางพูดกับตนเองเบาๆเป็นเชิงว่าไม่อยากที่จะเชื่อ
ทั้งทั้งที่จำสิ่งต่างๆในตอนที่อยู่ที่นี่ไม่ได้แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยกับทางเดินที่ตนนั้นกำลังเดินผ่าน รู้ว่าข้างหน้านี้มีอะไร รู้ว่าจะต้องเดินเลี้ยวตรงไหน กลับจำได้หมดและ..................สุดปลายทางของทางเดินนี้ก็จะมีเรือนกระจกขนาดใหญ่อยู่
เรือนกระจกที่พื้นผิวสะท้อนแสงแดดและท้องฟ้าอยู่ตลอด ด้านหลังก็มองเห็นทะเลอยู่อย่างชัดเจนจนดูเหมือนกับจะดูดกลืนทิวทัศน์รอบๆให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ตี๊ด..................... เสียงสัญญาณเตือนเวลาที่มีผู้เดินเข้าไปใกล้ประตูเพียงแห่งเดียวของเรือนกระจกนั้นดังขึ้น
“ขออนุญาติค่ะ ดิชั้นพาสาวใช้คนใหม่มาส่งค่ะ”
“อืม พาเข้ามาสิ” เสียงตอบรับกลับมานั้นฟังดูคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาดเหมือนกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“จากตรงนี้ไปเธอจะต้องเดินเข้าไปคนเดียวนะ คุณหนูอยู่ที่หลังเรือนกระจกนี่” สาวใช้ที่เป็นคนนำทางพาทีน่ามานั้นหันกลับมาบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านใหญ่ด้วยทางเดินที่อยู่ใกล้ๆ
ครืด.................. ประตูอัตโนมัติของเรือนกระจกนั้นค่อยๆเปิดออกทำให้อากาศข้างในนั้นพุ่งออกมา
อากาศที่สดชื่นและมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากต้นไม้และดอกไม้นั้นผ่านร่างกายของทีน่าไปพร้อมกับกระตุ้นความทรงจำบางอย่างที่ถูกฝังเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถที่จะจดจำได้เป็นเรื่องราว
“ว่าไง ไม่คิดที่จะทำงานแล้วงั้นเหรอ? คุณทีน่า พาเซล” เสียงแหลมนุ่มของผู้หญิงดังขึ้นจากด้านในของเรือนกระจกเพื่อนเตือนสติของผู้ที่ยืนเหม่ออยู่หน้าประตูของเรือนกระจก
“ถ้าหากเปลี่ยนใจไม่ทำงานแล้วชั้นก็จะเลือกคนอื่นมาทำงานแทนเธอนะ” ร่างบางมองตามเสียงที่ถูกพูดไปและได้พบกับเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ข้างๆกับบานประตู
“ว่าไง” ร่างที่ยืนอยู่ข้างบานประตูอัตโนมัตินั้นเคลื่อนร่างกายให้ออกมาจากเงาแสดงให้เห็นถึงรูปร่างหน้าตาของตน
“ข....ขอโทษค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ทีน่าที่ตื่นตกใจนั้นรีบที่จะโน้มร่างกายท่อนบนไปข้างหน้าแสดงถึงความเสียใจ
“ไม่เป็นไร ชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย ทีน่า” มือเรียวของเคียร์นั้นยื่นมาลูบเส้นผมสีน้ำตาลแก่ของอีกฝ่ายพลางจับคางเพื่อที่จะเชิดขึ้น
“ชั้น เคียร์...... เรียกชั้นว่า คุณเคียร์ ห้ามเรียกว่าเจ้านายหรือว่าคุณหนู เข้าใจไหม?” ผู้ที่พูดคลี่ยิ้มเล็กน้อย
“คะ........ค่ะ คุณเคียร์” ทีน่ารับคำสั่งคำแรกที่ได้
“ดี งั้นก็เริ่มงานของเธอเลยดีกว่า”
“ค่ะ” ร่างบางพูดตอบรับแล้วก็เดินเข้าไปยังด้านในก่อนที่ประตูอัตโนมัตินั้นจะปิดลง
ประตูของกรงนั้นได้ถูกปิดลงและได้คุมขังผู้ที่อยู่ด้านในให้อยู่ด้วยกันจนครบเวลาที่ถูกกำหนด
ความคิดเห็น