คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การกลับมา
เสียงเพลงตามสายที่ดังออกมาจากลำโพงที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะยามเย็น
สนามทรายที่มีทรายก่อขึ้นมาเป็นรูปร่างแปลกๆ
น้ำจากก๊อกน้ำที่ถูกใส่อยู่ในถังพลาสติกขนาดเล็กถูกเทลงไปในทรายให้เปียกชุ่ม
อุโมงค์ของกองทรายที่ก่อขึ้นมานั้นถูกเราและเธอคนนั้นขุดตรงกลางจนทะลุ
มือของเราทั้งคู่จับมือกันแน่นในอุโมงค์ที่พวกเราทั้งคู่ช่วยกันก่อและขุด
ใบหน้าของเธอนั้นเป็นยังไงเราเองก็จำไม่ได้แล้วรู้เพียงแต่ว่า....
ริบบิ้นสีแดงถักด้วยมือนั้นเธอเป็นคนให้เราตอนที่กำลังจะย้ายบ้าน
ริบบิ้นที่เราและเธอจะมีกันคนละเส้น
ริบบิ้นที่จะมีเพียงคู่เดียวเท่านั้นที่จะเข้าคู่กัน
ถึงแม้ว่าจะจำใบหน้าและชื่อของเธอไม่ได้แต่เราก็จะหาเธอให้เจอให้ได้
6 ปีหลังจากที่ย้ายบ้านตามพ่อไปนั้นในที่สุดก็ได้ย้ายกลับมายังที่เมืองแห่งนี้
ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปมาก ทั้งบ้านเรือน ทั้งถนน
แต่ที่นี่ก็มีโรงเรียนมัธยมเพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้นเพราะเป็นแค่เมืองเล็กๆจึงไม่น่าที่จะยากในการตามหาเธอคนนั้น
วันนี้เป็นวันแรกในการใช้ชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้
“มัตสึอิ ริสึ เคยอยู่ที่เมืองนี้สมัยอยู่ประถม ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ผู้ที่แนะนำตัวนั้นมีร่างกายสูงโปร่งหุ่นแบบนักกีฬา ผมสีชาที่ได้จากการย้อม
ทั้งห้องตบมือให้การแนะนำของเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่นั่งของริสึก็คือโต๊ะด้านหลังเกือบจะสุด
“หวัดดี ชั้น โคบายาชิ โมมิจิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ผู้ที่นั่งโต๊ะติดกันนั้นมีผมสีดำยาวสลวยและผูกโบว์สีแดงอันใหญ่เอาไว้เหมือนกับตุ๊กตา
“ชั้น ริสึ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันนะ” ทั้งคู่แนะนำตัวกันและดูเหมือนจะคุยกันถูกคอ
ริสึที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนวันแรกนั้นเริ่มมีคนมาคุยด้วยและเริ่มมีเพื่อนเป็นกลุ่ม
ในตอนเที่ยงริสึเดินไปยังโรงอาหารเพื่อที่จะซื้อขนมปังและน้ำผลไม้
โครม!!!! ร่างสูงเดินชนกับใครบางคนที่มุมทางเดินบนอาคารทำให้เอกสารมากมายปลิวว่อนและเปรอะน้ำผลไม้ที่ไหลออกมาจากกระป๋องที่ตกอยู่บนพื้น
“อูย.......” “....โอย....” ทั้งคู่ที่เดินชนกันนั้นต่างนั่งอยู่บนพื้นและส่งเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกเจ็บออกมา
“ข...ขอโท..” “นี่เธอเดินดูทางดีมั่งสิ!! รู้บ้างไหมเนี่ยว่าเอกสารพวกนี้มันสำคัญนะ โธ่เอ๊ย!! เปรอะหมดเลย” ริสึไม่ทันจะพูดจบก็ถูกอีกฝ่ายพูดจาต่อว่ากลับมาทันที
“วันนี้มันวันซวยอะไรของชั้นกันเนี่ย เอกสารพวกนี้เพิ่งจะผ่านการอนุมัติมาเองนะ” ผู้ที่พูดนั้นเก็บเอกสารที่โดนน้ำผลไม้จนเปียกขึ้นมาเช็ดทีละแผ่น
“จะว่าแต่ชั้นก็ไม่ได้นะ เธอเองก็เดินไม่ดูทางเหมือนกันไม่ใช่เหรอไงกันน่ะ” ริสึรู้สึกอารมณ์เสียกับการพูดจาของอีกฝ่ายแต่ก็ช่วยเก็บกระดาษที่กระจัดกระจายไปทั่ว
“ก็ชั้นต้องดูเอกสารทั้งหมดนี่ให้เสร็จก่อนคาบบ่ายนี่นาไม่เหมือนพวกลอยชายอย่างเธอหรอกนะแล้วสีผมนั่นมันอะไรกันย้อมมาสินะ ถ้าอย่างนั้นก็ย้อมกลับมาเป็นดำภายในวันพรุ่งนี้ด้วย” ผู้ที่พูดนั้นไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตอบกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว
“จริงสิไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนเลยบอกชื่อและห้องมาสิ” ผู้ที่พูดนั้นหยิบดินสอกดและกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อเพื่อเตรียมจดชื่อ
“มั......มัตสึอิ ริสึ ปี 1 ห้อง D เพิ่งย้ายมาวันนี้” ริสึเกาหน้าแบบงงๆกับท่าทางของอีกฝ่ายที่ดูเย็นชา ถึงจะหน้าตาน่ารักแต่ก็ใส่แว่นตากรอบสี่เหลี่ยมสีดำเอาไว้ ผมสีน้ำตาลอ่อนก็ถักเปียเอาไว้ด้านหลัง เครื่องแต่งกายนั้นเรียบร้อยและถูกระเบียบทุกอย่าง
“ริ......สึ...งั้นเหรอ?” ดวงตาสีน้ำตาลแหงนหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายก่อนที่จะเอากระดาษที่เขียนเมื่อครู่นี้ใส่กระเป๋าเสื้อตามเดิมและเดินถือเอกสารจากไป
“อะไรของยัยนั่นกันเนี่ย?” ริสึสบถขึ้นเบาๆก่อนที่จะเก็บขนมปังของตนเองขึ้นมา
“เธอนี่โชคร้ายจังเลยนะ เข้ามาวันแรกก็เจอกับหน้ากากน้ำแข็งซะแล้ว” เสียงพูดดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“หน้ากากน้ำแข็ง?” “อ๋อ ฉายาของยัยนั่นน่ะ คุโรอิ ยูกิ เป็นสมาชิกสภานร.ตั้งแต่อยู่ปี 1 แล้วก็ท็อปของชั้นปีแต่ว่าเย็นชาสุดๆ”
“งั้นเหรอ? ขอบใจที่บอกนะโมมิจิ” ริสึเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรจ้า ไม่เป็นไร พอดีเห็นหายไปนานนึกว่าหลงทางซะแล้วสิ” มือเรียวของผู้ที่พูดยื่นมาให้กับผู้ที่นั่งอยู่กับพื้น
“ขอบใจ โมมิจิ ว่าแต่ที่นี่มีชมรมเคนโดไหม?” “มีสิ ชมรมเคนโดโรงเรียนเราดังจะตายไปเธอไม่รู้เหรอ?”
“อื้ม งั้นขอรบกวนด้วยนะ” “จ้า”
ริสึ.........เธอกลับมาแล้วงั้นเหรอ?
นั่นคือเธอจริงๆน่ะเหรอ ริสึ
เย็นวันนั้นเริสึก็ได้ไปยังห้องของชมรมเคนโดหญิงเพื่อที่จะขอเข้าชมรม
เพิ่งแค่เอ่ยชื่อเท่านั้นหัวหน้าชมรมก็รับเข้าทันทีโดยที่ไม่มีการทดสอบเข้าเหมือนกับคนอื่นๆเพราะว่าริสึนั้นเป็นแชมป์เคนโดระดับประเทศในปีที่แล้ว
หลังจากที่เข้าชมรมได้นั้นริสึก็สังเกตเห็นว่าสาวผมเปียเจ้าของฉายาหน้ากากน้ำแข็งที่ชนกับตนเองเมื่อตอนเที่ยงนั้นยืนมองอยู่ที่ประตูด้านหน้าก่อนที่จะเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ
‘ยัยนั่นอีกแล้วชั้นทำอะไรผิดอีกรึไงนอกจากสีผม ไม่ชอบขี้หน้ายัยนั่นเลยให้ตายสิหน้าตาก็ดีน่าจะทำตัวให้น่ารักๆแบบโมมิจิหน่อย’ ริสึคิดในใจอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์กับท่าทางของคนที่ชนกับตน
พอกลับไปถึงบ้านแห่งใหม่ริสึก็ต้องจัดข้าวของของตนที่อยู่ในกล่องนั้นออกมาจัดวางให้เรียบร้อยเพราะเหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็จะเสร็จ
หน้าต่างห้องถูกเปิดออกเพื่อรับลมเย็นของตอนกลางคืนและเป็นการพักเหนื่อยจากการจัดห้องที่เพิ่งจะทำเสร็จไป
ทันทีที่มองลงไปข้างล่างจากทางหน้าต่างของตนนั้นริสึก็ได้เห็นในสิ่งที่ไม่คาดคิด
โคบายาชิ โมมิจิและคุโรอิ ยูกิ เดินอยู่ด้วยกันในชุดไปรเวทสบายๆ ทั้งคู่เดินคุยกันแล้วอยู่ๆยูกิก็เงื้อมือขึ้นมาตบหน้าโมมิจิอย่างแรงก่อนที่ยูกิจะวิ่งหนีไปนั้นก็โดนมือเล็กๆของโมมิจิจับข้อมือเอาไว้และดึงเข้ามาจูบ จากนั้นยูกิก็ผละตัวออกและวิ่งกลับไปยังทางที่ทั้งคู่เดินมา ท่าทางของโมมิจินั้นเพียงแค่จับแก้มของตนด้านที่โดนตบแต่ก็ไม่ได้ตามอีกฝ่ายไป
ริสึที่มองดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆนั้นได้หลบเข้าไปในห้องของตนเพื่อที่จะไม่ให้อีกฝ่ายเห็น
“ม.......เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ?” ริสึตื่นตกใจกับภาพที่เห็นเพราะคาดไม่ถึงกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เวลาอยู่โรงเรียนนั้นไม่แม้แต่จะมองหน้าหรือพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย คำถามต่างๆผุดขึ้นมาในหัวของริสึที่กำลังสับสนอยู่ตอนนี้
โคบายาชิ โมมิจิที่ดูสดใสร่าเริง บอบบางน่าทะนุถนอม
คุโรอิ ยูกิที่เยือกเย็นจนน่ากลัวทั้งคู่กลับทำเรื่องอย่างนั้นกลางถนนเปลี่ยวแบบนี้เลยงั้นเหรอ
ความจริงมันเป็นยังไงกันแน่แล้วทำไมถึงจะต้องตบกันด้วย
ความคิดเห็น