คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : MY PET [1]
พวกคุณเคยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงบ้างไหม? หรือว่าตอนนี้พวกคุณมีสัตว์เลี้ยงรึเปล่า?
พวกสุนัข แมวหรือว่ากระต่าย สำหรับพวกคุณมันน่ารักดีแต่ว่าก็พูดจาตอบโต้กับเราไม่ได้
แต่ว่าสัตว์เลี้ยงของชั้นน่ะพูดจาตอบโต้ได้นะ ก็เพราะว่า......สัตว์เลี้ยงของชั้นก็คือเด็กคนนึง ที่อายุน้อยกว่าชั้นปีนึงไงล่ะ
หลังจากพบกับเด็กคนนั้นก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว ในตอนนั้นชั้นอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้นม.ปลายปี 2 แต่ตอนนี้ชั้นอายุ 19 ปี อยู่มหาวิยาลัยในเครือของโรงเรียนเดิมแต่ว่ากลุ่มของชั้นก็แยกจากกันตั้งแต่จบม.ปลาย
นานะไปเรียนต่อทางแพทย์ทันทีเพื่อที่จะรับช่วงกิจการโรงพยาบาลที่บ้านต่อ
อายาโกะเองก็คล้ายๆกัน พอจบม.ปลายจู่ๆก็ขอยกเลิกการหมั้นกับคู่หมั้นแล้วไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อที่จะเรียนรู้การบริหารด้านต่างๆ พอจบก็จะกลับมารับช่วงกิจการโรงแรมต่อ
แต่ยังไงคู่นี้ก็ไปมาหากันบ่อยๆ ไม่รู้ว่าอายาโกะยอมแพ้กับอาการตามตื้อของนานะหรือไงก็ไม่รู้ถึงได้ยอมเพิ่มความสัมพันธ์จากเพื่อนสนิทขึ้นมาอีกขั้นนึง
ส่วนสัตว์เลี้ยงของชั้นน่ะเหรอ? ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ 2 ปีที่ผ่านมานี้อยู่ๆความสูงก็เพิ่มขึ้นมาอย่างพรวดพราดตั้ง 20 กว่าซม. จากที่อยู่ระดับอกของชั้นกลับกลายว่าสูงกว่าชั้น และรู้สึกว่าจะยังสูงได้อีกเพราะชั้นเคยได้เห็นคนในครอบครัวของยัยนี่แล้วว่าทุกคนนั้นสูงอย่างต่ำ
ตอนนี้ยัยเด็กตัวเล็กน่ารักที่เดินตามชั้นต้อยๆ และเป็นนางแบบเสื้อผ้าเด็ก กลับกลายว่าต้องเป็นนางแบบของเสื้อผ้าแนววัยรุ่นไปตอนนี้จึงได้มีแต่คนสนใจทั้งที่เมื่อก่อนนั้นแทบจะไม่มีคนสนใจ
ถึงภายนอกจะเปลี่ยนไปยังไงแต่ข้างในแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด
“คุณชิอากิคะ” เสียงใสปนหอบเรียกผู้ที่นั่งพิมพ์รายงานด้วยโน๊ตบุคอยู่บนม้านั่งยาวข้างสนามหญ้าให้สนใจ
“.......มาช้านะ ทาช่า” ร่างบางตอบพร้อมกับเก็บของบนโต๊ะใส่กระเป๋าเอกสารใบเล็ก
“ขอโทษค่ะ พอดีวันนี้เป็นเวรของชั้นทำความสะอาดห้องเรียน.....ก็เลย...” ร่างสูงตอบพลางก้มหน้ารับผิดที่มาตามนัดช้า
“เอาเถอะ ยังไงท่าทางเธอก็คงจะรีบมาสุดชีวิตแล้วนี่นา ใช่ไหม? ทาช่า” มือเรียวยื่นมาลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ
“ไปกันรึยังล่ะ? วันนี้นานะกับอายาโกะอุตส่าห์ชวนไปรวมตัวกันทั้งที” รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมาทำให้ผู้ที่เป็นสัตว์เลี้ยงนั้นโล่งอกที่เจ้านายของตนไม่ได้โกรธตนจึงได้เผลอตัวหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“............หัวเราะอะไรน่ะทาช่า สนุกมากเหรอที่เห็นชั้นอารมณ์เสียน่ะ” มือที่ลูบหัวอยู่นั้นเลื่อนลงมาดึงแก้มอีกฝ่าย
“...ปละ...เปล่านะค๊า~ คุณชิอากิ” ทาช่าดิ้นพล่านๆทั้งที่สามารถจะดึงมืออีกฝ่ายให้ออกไปได้ง่ายๆแต่ก็ไม่ทำ
“งั้นก็แล้วไป” ว่าแล้วมือที่ดึงนั้นก็คลายออกปรากฏรอยแดงที่แก้มสีชมพูอ่อนของผู้ที่ถูกกระทำ
“เอ่อ......คุณชิอากิคะ ให้ชั้นถือของให้นะคะ” พูดเสร็จผู้ที่พูดก็ยื่นมือเข้าไปคว้ากระเป๋าเอกสารใบเล็กที่ใส่โน๊ตบุคและเอกสารต่างๆจากมือของอีกฝ่ายเหลือไว้เพียงกระเป๋าสะพายใบเล็กเท่านั้น
เมื่อขึ้นรถปอร์เช่สีดำที่ได้เป็นของขวัญเนื่องจากได้ใบขับขี่จากพี่สาว ผู้ที่เป็นเจ้าของรถก็ดูเหมือนว่าจะติดนิสัยที่ว่าชอบความเร็วมาด้วยเสียแล้ว เมื่อออกตัวก็เหยียบเกือบจะร้อยกว่าทำให้ผู้ที่ได้ชื่อเป็นสัตว์เลี้ยงนั้นไม่เคยชินเสียทีกับสไตล์การขับรถยนต์แบบนี้ของสองพี่น้อง แต่ที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้นก็คือ เมืองนี้เขาจำกัดความเร็วบนถนนเอาไว้ที่ 80 ทำไมสองพี่น้องคู่นี้ถึงไม่เคยเจอตำรวจเลย ทั้งที่ขับรถออกจะเร็วปานนี้
สถานที่นัดพบกันคราวนี้ก็คือ โรงแรม 4 ดาวซึ่งเป็นกิจการทางบ้านของอายาโกะ วันนี้บังเอิญว่านานะไม่มีวิชาเรียนและอายาโกะก็กลับมาจากต่างประเทศเพื่อพักผ่อนพอดี แถมชิอากิก็เรียนเสร็จเร็วจึงได้นัดพบกัน
“ไม่ได้พบกับคุณนานะแล้วก็คุณอายาโกะนานเลยนะคะ คุณชิอากิ” ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนั้นหันไปหาเจ้านายสาวสวยของตนที่นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับข้างๆ
“อืม” ชิอากิตอบรับสั้นๆและพยักหน้าเล็กน้อย
“...............เอ่อ........อารมณ์ไม่ดีใช่ไหมคะ? คุณชิอากิ” ทาช่ากำมือแน่นและตัดสินใจถามอีกฝ่ายที่ทำหน้าตาเรียบเฉยจนน่ากลัว
“........อยากที่จะให้พูดจริงๆเหรอ? ทาช่า” น้ำเสียงเย็นๆตอบกลับมาเล่นเอาทาช่านั้นแอบหวาดกลัวได้เหมือนกัน
“อ่า......ยังไม่ต้องก็ได้ค่ะ คุณชิอากิ.....” ทาช่าพูดพลางหัวเราะแหะๆและปิดปากของตนเงียบ
“ก็ดี.......อ๊ะ ลืมบอกไปนะว่าวันนี้เราจะค้างกันที่นั่นเลยน่ะ ทาช่า” น้ำเสียงเรียบๆบอกกล่าวกับสัตว์เลี้ยงของตน
“เอ๋? แต่ว่าชั้นไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนนะคะ คุณชิอากิ” ทาช่าแสดงอาการลุกลี้ลุกลนออกมายังกับว่าถูกจับมาขายยังไงยังงั้น
“เดี๋ยวชั้นซื้อให้ใหม่ก็แล้วกัน ทีนี้ก็เงียบได้แล้วนะ” ชิอากิตอบไปด้วยท่าทีเบื่อหน่ายจนทาช่ารู้สึกสลดเล็กน้อย
ไม่นานนักทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงสถานที่นัดพบด้วยบรรยากาศแปลกๆอันน่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ปกติแล้วนั้นทั้งคู่จะพูดคุยกันตลอดเวลาแล้วทาช่าก็จะหัวเราะด้วยใบหน้าใสซื่อ แต่ตอนนี้กลับทำได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและยิ้มเจื้อนๆเท่านั้น ส่วนชิอากิก็ยังคงไว้ซึ่งใบหน้าที่เดาความคิดไม่ถูกเช่นเดิม
“อ๊ะ! ชิอากิ------- ยัยตัวเล็ก-------” เสียงแหลมสูงตระโกนเรียกทั้งคู่ทันทีที่เดินออกมาจากลิฟท์แก้วและก้าวเข้ามายังบาร์ที่อยู่ชั้นบนสุด
เมื่อทั้งคู่หันไปตามต้นเสียงนั้นก็เห็นผู้ที่น่าจะเป็นเจ้าของเสียงเดินกึ่งวิ่งย้อนแสงมาหาทั้งคู่ ก่อนที่จะเข้าไปสวมกอดผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างเอ็นดู
“โตขึ้นเยอะเลยนะยัยหนูแฮม นี่สูงขึ้นอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย? น่าอิจฉาจริงๆ” ผู้ที่พูดนั้นทำการขยี้หัวของทาช่าจนทรงผมนั้นยุ่งเหยิงแทบไม่เป็นทรง
“อ๊า อย่าสิคะคุณนานะ” ทาช่าพยายามใช้มือของตนจัดทรงผมที่พันกันจนยุ่งให้กลับาทรงเดิมแต่ก็ไม่ทันของผู้เป็นคนทำให้มันยุ่งยิ่งขึ้นไปอีกอยู่ดี
“นานะ พอได้แล้วน่า ขยี้แรงแบบนั้นเดี๋ยวหัวทาช่าก็หลุดหรอกแล้วก็ตอนนี้ยัยนี่สูงกว่าพวกเราอีกนะเลิกเรียกว่ายัยตัวเล็กได้แล้ว” ชิอากิที่มีสถานะเป็นเจ้าของนั้นเกิดอาการไม่พอใจในการกระทำของเพื่อนของตนขึ้นมาเล็กน้อยที่สัตว์เลี้ยงของตนนั้นไปอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นที่ไม่ใช่ตน
“แหมๆ ชิอากิหึงรึยังไงกันจ๊ะ?” นานะตีสีหน้ายียวมกวนประสาทเช่นเดิมโดยการหยีตาเล็กน้อยและยิ้มแบบให้เห็นไรฟัน
“ใครบอกว่าชั้นหึงกัน ชั้นกลัวยัยนี่จะตายเพราะเธอซะก่อนต่างหากล่ะ นานะ” มือเรียวของผู้ที่พูดนั้นยื่นเข้าไปแกะมือของเพื่อนตนให้ออกจากหัวที่ถูกขยี้จนผมสีน้ำตาลแดงพองฟูยุ่งเหยิงของสัตว์เลี้ยงตัวน้อย
“จ้า จ้า ไม่หึงก็ไม่หึง แม่คนปากแข็งระวังยัยหนูแฮมเสียความรู้สึกแล้วไปหาคนอื่นนะ” นานะยังคงทำท่าทางล้อเลียนอยู่เช่นเดิม
“......ขอบใจนะที่เตือน........อายาโกะเอายัยนี่ไปนั่งนิ่งๆแบบสงบปากสงบคำที่โต๊ะทีสิ” ชิอากิมองหน้านานะเล็กน้อยก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปพูดกับใครบางคนที่มายืนอยู่ข้างหลังนานะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็รู้ด้วยความเงียบเชียบทำเอานานะถึงกับสะดุ้งเล็กๆเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ข้างหลังตน
“นานะ ทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ?” เสียงหวานๆเย็นๆมากระซิบที่ข้างหูของนานะทำเอาเจ้าตัวนั้นแข็งท่อไปได้ด้วยความตกใจอย่างสุดขีดจนพูดไม่ออก
“......ปล....เปล่า...เปล่าจ้ะ ไม่ได้ทำอะไรอยู่เลยจ้า....อายะ...” นานะพยายามพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ซีดเซียวด้วยความกลัวและน้ำเสียงที่สั่นเครือจนแทบจะจับใจความไม่ได้
“งั้นเหรอ? แล้วในมือนั่นมันอะไรกันเหรอ? นานะ” สิ่งที่อายาโกะหมายถึงก็คือทาช่าที่ยังคงถูกนานะกอดเอาไว้อยู่
“ย...ยอมแพ้ ยอมแพ้แล้วค่ะ คุณนานะ” ทาช่าสะบัดมือไปมาและพยายามดิ้นให้หลุดออกจากวงแขนพิฆาตของนานะ
“อ๊ะ โทษทีๆ ทาช่า” นานะคลายแขนของตนออกแล้วเปลี่ยนเป็นการลูบหัวรุ่นน้องที่น่ารักแทน
“....คุณนานะแบบนี้เขาเรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังนะคะ..” ทาช่าเผลอตัวเข้าไปกอดเอวและหลบหลังชิอากิเหมือนเคยอย่างลืมตัวว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังอารมณ์เสียด้วยเรื่องบางอย่างอยู่
เจ้านายสาวชำเลืองหางตาอันคมกริบมาทางสัตว์เลี้ยงของตนเล็กน้อยครั้นจะดุเหมือนปกติด้วยเรื่องอันไม่เป็นเรื่องว่าตนอารมณ์ก็ไม่ได้เสียด้วย ยิ่งอีกฝ่ายทำสีหน้าเหมือนกับลูกหมาหรือลูกแมวถูกรังแกจนหูตกน้ำตาคลอเบ้าเอ่อล้นนัยน์ตาสีเขียวมรกต เห็นแบบนี้แล้วใครเล่าจะไปโกรธหรืออารมณ์ใส่ได้ลง
“นานะ อายาโกะ ชั้นหิวแล้วล่ะไปนั่งที่โต๊ะกันเถอะ” ร่างบางแกะมือของสัตว์เลี้ยงของตนออกและเดินไปหาเพื่อนรักทั้งสองของตนอย่างไม่ใยดีร่างสูงเลยแม้แต่น้อย
“.....คุณชิอากิ!?” ดูเหมือนผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงจะช็อคกับท่าทางเย็นชาของเจ้านายสาวของตนเป็นอย่างมากและไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่พอใจอะไรตน ทาช่าจึงทำได้เพียงแค่สลดแล้วเดินตามเจ้านายของตนไปเรื่อยๆจนถึงที่นั่ง
ชิอากิ อายาโกะและนานะ ทั้งสามคนไมได้อยู่พร้อมหน้ากันมาเกือบ 5 เดือนตั้งแต่หยุดหน้าร้อนคราวก่อนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจบ หลังจากนั้นเวลาที่เจอกันนั้นมักจะเจอนานะหรือไม่ก็อายาโกะครั้งละคนเพราะว่าเวลาว่างของทั้งสามมักจะไม่ตรงกันและรายงานที่มากจนแทบจะท่วมหัวให้ตายเสียตรงนั้น
“นี่ ไหนๆพวกเราก็ไม่ได้เจอกันมานาน วันนี้เรามาฉลองกันดีกว่าน่า” นานะเริ่มเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารทันทีและไม่รอช้าที่จะหยิบแก้วที่ใส่ไวน์แดงชั้นเลิศเอาไว้ขึ้นมาเป็นเหมือนกับการเปิดการฉลองเล็กๆ
“เอ๋?? ฉลองอะไรเหรอคะ?” ผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มถามอีก 3 คนด้วยความสงสัย
“ก็ฉลองที่พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าแบบนี้มานานไงล่ะจ้ะ ทาช่า” อายาโกะเฉลยให้กับทาช่าได้ฟังและขยิบตาให้เชิงเป็นสัญญาณว่าให้หันไปเอาใจคนข้างๆดีกว่าที่จะนั่งสลดอยู่แบบนี้
“เอ่อ........คุณชิอากิคะ ชั้นรินไวน์ให้นะคะ” ทาช่าเห็นไวน์ในแก้วของอีกฝ่ายหมดแล้วจึงคิดเรื่องพูดขึ้นมาและหันไปทางโถน้ำแข็งที่แช่ขวดไวน์เอาไว้แต่ก็ถูกบริกรที่ทำหน้าที่รินไวน์หยิบขึ้นมาเสียก่อนและรินใส่แก้วของชิอากิตามหน้าที่ของตน
เมื่อทาช่าทำท่าทางจะชวนอีกฝ่ายพูดอีกครั้งชิอากิก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปยังห้องน้ำไม่เปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยงของตนเลยแม้แต่น้อย ท่าทางอันเย็นชาที่ชิอากิแสดงต่อทาช่านั้นสร้างความงุนงงให้กับนานะและอายาโกะเป็นอย่างมาก
“นี่ ทาช่า เธอไปทำอะไรให้ชิอากิอารมณ์ไม่ดีเหรอ?” อายาโกะเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามก่อน
“นั่นสิ ปกติยัยนั่นจะไม่อารมณ์เสียโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้นี่นา” นานะถามสริมอีกแรง
“ม....ไม่รู้สิคะ สงสัยจะเป็นเพราะว่าวันนี้ชั้นไปตามนัดช้าก็ได้มั้งคะ” ทาช่าพูดด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้นิดๆ
“ชั้นว่าไม่น่าจะใช่เรื่องนี้นะ อย่างชิอากิไม่มีทางหัวเสียด้วยเรื่องแค่นี้เด็ดขาด” นานะกระดกไวน์ในแก้วของตนเองจนหมดแล้วก็ยื่นหน้าไปหาทาช่าที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร
“แต่ว่า.........ชั้นคิดเรื่องอื่นไม่ออกนี่คะว่าคุณชิอากิไม่พอใจอะไร” ทาช่าขมวดหัวคิ้วเข้าหากันจนแทบจะชนกันได้ยังไงยังงั้น
มือของอายาโกะลูบปอยผมสีน้ำตาลแดงของทาช่าที่ไว้นานจนประบ่าไปมา
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ทาช่า เอาไว้เธอก็ลองถามชิอากิดูสิว่าไม่พอใจอะไรแล้วถ้าหากเธอผิดจริงก็ขอโทษชิอากิเหมือนเคยสิ ชิอากิน่ะต้องยกโทษให้เธออยู่แล้วล่ะ ทาช่า” อายาโกะคลี่ยิ้มหวานที่พอได้เห็นแล้วก็ยังดูอบอุ่นเช่นเดิมทำให้ทาช่ายิ้มออกมาได้ ไม่นานนักชิอากิก็ออกมาจากห้องน้ำและบรรยากาศเริ่มเหมือนกับงานฉลองเล็กๆเข้าไปทุกที
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งที่ตอนแรกนั้นเป็นการนัดทานข้าวและสังารรค์เล็กๆน้อยๆนั้นกลับกลายเป็นว่าปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับเพิ่มขึ้นมามากกว่าปริมาณอาหารที่มาจัดวาง ที่น่าตกใจไม่น่าจะใช่ปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากกว่าอาหารแต่กลับกลายเป็นว่าทั้งสามจะต้องแปลกใจเมื่อได้รู้ความจริงว่า ทาช่าที่เป็นเหมือนกับสัตว์ที่แสนจะไร้เดียงสานั้นเป็นพวกคอแทงแดงหล่อคอนกรีตไม่ต่างจากซึบากิที่เป็นพี่สาวของชิอากิเท่าไหร่นัก ช่างเป็นความสามาถที่ไม่เหมาะกับเด็กคนนี้เป็นที่สุดเลยก็ว่าได้
ทั้งที่ชิอากิแทบจะฟุบแต่ว่าทาช่ากลับแค่หน้าแดงเพียงเท่านั้นทั้งที่ดื่มเข้าไปมากที่สุด นานะกับอายาโกะเองนั้นก็เลิกดื่มแล้วนั่งมองชมวิวนอกหน้าต่างจากชั้นบนสุดของโรงแรมจากภัตตาคารแห่งนี้
“ทาช่าพาชิอากิไปพักผ่อนก่อนจะดีกว่านะ นี่ก็ดึกแล้วด้วยสิ แล้วนี่ก็กุญแจห้องพักของพวกเธอนะ” อายาโกะยื่นกุญแจกระดาษของห้องสวีทที่วันนี้ไม่มีคนพักให้กับทาช่า
“อ่า......ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณอายาโกะ” ว่าแล้วทาช่าก็พยุงตัวของชิอากิที่นั่งอยู่ข้างๆขึ้นแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะหลับไปเสียแล้ว ทาช่าที่ไม่รู้จะทำอย่างไรนั้นก็ได้ถือวิสาสะอุ้มเจ้านายของตนไว้ในวงแขนที่ดูบอบบางจนไม่น่าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้และยิ่งดูขัดสายตาและความรู้สึกของนานะและอายาโกะอย่างไรก็ไม่รู้ที่เด็กที่เคยตัวเล็ก อ่อนแอและบอบบางแถมยังตัวเบาเสียจนทั้งสามคนอุ้มขึ้นได้สบายๆ ตอนนี้กลับสามารถอุ้มคนที่ตนเองรักไว้ในอ้อมแขนได้อย่างเบามือและไม่ยากเย็นจนเหมือนกับว่าอีกฝ่ายนั้นตัวเบาเสียเหลือเกินสำหรับเด็กน้อยคนนี้
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณนานะ คุณอายาโกะ” ร่างสูงไม่ลืมที่จะกล่าวราตรีสวัสดิ์กับอีกสองคนตามมารยาทและความเคยชินก่อนที่จะอุ้มเจ้านายของตนเข้าลิฟท์แล้วหายไป
“เปลี่ยนไปเยอะนะว่ามั๊ย? อายะ” นานะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบน้ำสีแดงในนั้นพลางถามอีกฝ่าย
“นั่นสิ เด็กคนนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ทั้งภายนอกแล้วก็ภายในน่ะ” อายาโกะเท้าคางเล็กน้อยพลางหยิบแก้วของตนขึ้นมากระทบกับปากแก้วของอีกฝ่ายให้เกิดเสียงแหลมเล็กขึ้นมาเบาๆ
“ว่าแต่คู่นั้นเมากันทั้งคู่แบบนั้นจะไปถึงห้องโดยสวัสดิภาพเหรอนั่น” นานะหัวเราะเบาๆเมื่อคิดว่าถ้าหากทั้งคู่ไปนอนฟุบอยู่กลางทางเดินจะเป็นอย่างไร
“ชั้นว่าไม่เป็นไรหรอกน่า แถมวันพรุ่งนี้เช้าพวกเราอาจจะได้รู้ข่าวดีจากสองคนนั้นก็ได้นะ” อายาโกะคลี่ยิ้มบางและหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของทั้งเพื่อนตนและสัตว์เลี้ยงตัวน้อย
“ถ้าหากไม่สำเร็จก็แย่สิ พวกเราอุตส่าห์วางแผนสร้างบรรยากาศทั้งที ถ้าหากไม่มีอะไรคืบหน้านี่ก็น่าโมโหเกินไปล่ะ ว่าแต่อายะคิดเรื่องของชั้นบ้างรึยังน่ะ? ชั้นอยากได้ยินคำตอบของเธอนะ” นานะส่งเสียงและสายตาออดอ้อนอีกฝ่าย
“.......เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ? ชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นขอเวลาอีกหน่อย อย่าใจร้อนนักสิ นานะ” อายาโกะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตอบอีกฝ่ายไป นานะก็ทำได้เพียงใบหน้าไม่พอใจเล็กน้อยเท่านั้น
ตุบ ร่างบางของชิอากิถูกวางลงบนผ้าปูที่นอนสีขาวของเตียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องสวีท ก่อนผู้ที่พามานั้นก็เดินไปตู้เย็นเพื่อที่จะเทน้ำให้กับเจ้านายของตน
“.......อืม.......” ชิอากิครางในลำคอเล็กน้อยและกวาดมือไปทั่วด้วยอาการเมาและไม่ค่อยจะมีสติสัมปชัญญะเหลือเท่าไหร่นัก
“คุณชิอากิคะ ทานน้ำไหมคะ?” ทาช่าถือแก้วน้ำเข้ามาอีกฝ่ายที่ยังคงปัดมือไปรอบๆ
!!!........ตุบ.... ทาช่าถูกเจ้านายสาวของตนคว้าคอได้และดึงเข้ามากอดในทันทีจนแก้วน้ำเย็นในมือตกลงบนที่นอน
ทาช่าที่คิดจะลุกขึ้นนั่งนั้นร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่งและทำตรงกันข้ามคือ กอดชิอากิเอาไว้และกระชับวงแขนของตนให้แนบแน่นกับอีกฝ่ายมากขึ้นจนรู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจอีกฝ่ายและกลิ่นกายที่ผสมกับสบู่ ยาสระผมและน้ำหอม แถมด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย แทนที่จะเป็นกลิ่นที่น่ารังเกียจกลับกลายกลิ่นที่ยั่วยวนใจจนถอนตัวไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่าก็ไม่รู้ทำให้เด็กน้อยที่ไม่เคยคิดจะแตะต้องเกินเลยกับเจ้านายของเริ่มที่อยากจะสัมผัสทุกส่วนของอีกฝ่าย
ความคิดเห็น