คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โลกยามราตรี
แสงไฟวิบวับยามราตรี เสียงเพลงที่บรรเลงออกมาจากภายในร้านที่เรียงรายกันอยู่เต็มสองฝั่งถนนดังอยู่อย่างไม่ขาดสาย ป้ายที่เป็นรูปทรงและสีสันต่างๆกันทำให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาอยากที่จะเข้าไปด้านใน ผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างมีจุดหมายบ้างไม่มีจุดหมายบ้างคละกันไป ทุกคนนั้นต่างกันทั้งอายุ เพศ การศึกษา ฐานะ การแสดงออกถึงตัวตนของตัวเอง
แกร็ก ประตูเลื่อนของผับที่มาเป็นประจำทำให้รู้จักกับคนที่มาเที่ยวนั้นหลายต่อหลายคนบางคนมาแล้วก็ผ่านไปบางคนมาแล้วก็กลายเป็นเพื่อนกัน
“ว่าไง ซึบากิวันนี้มาช้าจังเลยนะ” เสียงเรียกร่างที่เพิ่งจะเดินเข้ามาของกลุ่มเพื่อนดังขึ้นมาจากกลางร้าน
“โทษทีจ้า โทษที พอดีวันนี้น้องสาวกลับบ้านน่ะก็เลยอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันน่ะ” ผู้ที่ตอบนั้นแลบลิ้นเล็กน้อยด้วยสีหน้าสนุกสนาน
“แหม รักน้องสาวจังเลยนะเนี่ย ซึบากิ” “แน่นอนล่ะ ก็มีอยู่คนเดียวนี่นา”
“เรื่องนั้นช่างเถอะน่า รู้ไหมว่าวันนี้มีนักร้องมาใหม่นะเห็นบอกว่าเป็นลูกครึ่งด้วยล่ะ” “เหรอ จริงอ่ะ” การสนทนาในกลุ่มเริ่มต้นขึ้นและดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ถูกสั่งมาวางบนโต๊ะพร้อมๆกับของที่เอาไว้ขบเคี้ยวถูกสั่งอย่างต่อเนื่องโดยบริกรของทางร้าน
เสียงหัวเราะดังขึ้นผสานกับเสียงดนตรีที่ถูกบรรเลงจากแผ่นCDของทางร้านก่อนที่จะเงียบลงและนักร้องของทางร้านเดินขึ้นมาเพื่อที่จะขับร้องเพลงที่ได้ซ้อมเอาไว้
ผู้ที่เป็นคนร้องในวันนี้ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ร้องอยู่ทุกวัน
เสียงที่ไม่ใช่ทั้งทุ้มและแหลมนั้นถูกร้องออกมาด้วยสำเนียงแปลกๆ ติดขัดบางช่วงแต่โดยรวมแล้วนั้นกลับฟังดูแล้วมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
เพลงถูกร้องจบลงพร้อมกับเสียงตบมือที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ซึบากินั้นฟังเสียงดูก็รู้ว่าคนที่ร้องนั้นเป็นผู้หญิงถึงจะน้ำเสียงที่คล้ายคลึงกับผู้ชายก็เถอะจึงไม่ค่อยที่จะสนใจเท่าไหร่นัก
“ชั้นขอไปห้องน้ำหน่อยนะ” ร่างบางบอกกล่าวเพื่อนของตนและเดินไปยังหลังร้าน
ทางเดินที่แคบและสลัวๆห้องน้ำที่มีอยู่หลายห้องนั้นถูกคู่รักที่มาเที่ยวนั้นจับจองเอาไว้จนเกือบหมด
“อ๊ะ!!” “อุ๊ย!!” ร่างบางที่กำลังจะเข้าไปในห้องริมสุดนั้นชนกับร่างของใครอีกคนที่กำลังจะเข้าเหมือนกัน
“เอ่อ....เชิญก่อนเลยค่ะ” “ไม่ล่ะ คุณก่อนดีกว่า” น้ำเสียงของผู้ที่ตอบนั้นทำให้ร่างบางรู้ทันทีว่าเป็นคนที่ขึ้นไปร้องเพลงเมื่อครู่นี้
“งั้นก็ขอบคุณค่ะ” ซึบากิเข้าไปโดยที่มีอีกฝ่ายยืนรอเพื่อที่จะเข้าเป็นคนต่อไป
เสียงฮัมเพลงเบาๆของผู้ที่ยืนรออยู่นั้นดังขึ้นเบาๆอย่างไม่ขาดถึงจะเป็นเพียงแค่ทำนองแต่ก็ไพเราะเป็นอย่างมาก
“เธอร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะ” ซึบากิเอ่ยชมอีกคนที่ล้างมืออยู่ข้างๆตนและก็ได้มองเห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจนเพราะไฟนีออนที่บนกระจก ผู้ที่ตนพูดด้วยนั้นรูปร่างหน้าตาน้ำเสียงแทบจะไม่ต่างจาเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าที่คมคายดูเหมากับผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนที่หยักศกเล็กน้อย
“เอ่อ......ขอบคุณนะ คุณ.........”
“ซึบากิ โอโทจิ ซึบากิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” มือที่ดูบอบบางยื่นไปให้อีกฝ่าย
“อาคาซากิ ยูวอน อายุ 19 เพิ่งกลับมาจากเกาหลี ยินดีที่ได้รู้จักนะ” สำเนียงการพูดที่ขรุขระเล็กน้อยแต่ก็แนะนำได้เข้าขั้นว่าดี
“อืม นี่ชั้นแก่กว่าเหรอเนี่ย แต่ก็ช่างเถอะยินดีที่ได้รู้จักแล้วก็ยินดีต้อนรับสู่โตเกียวนะ ยูวอน” ทั้งคู่จับมือกันเพื่อแสดงว่ายอมรับอีกฝ่ายเป็นเพื่อนแล้ว
ทั้งคู่นั้นเดินออกมาจากทางเดินพร้อมกันแต่พอออกมาด้านนอกก็เดินกันไปคนละทาง
ร่างสูงนั้นเดินขึ้นเวทีไปเพื่อที่จะร้องเพลงต่อไปส่วนร่างบางนั้นกลับมายังโต๊ะของตนต่อเพื่อที่จะดื่มของเหลวที่มีแอลกอฮอล์ผสมกับกลุ่มเพื่อนโดยที่มองไปยังเวทีและส่งเสียงเชียร์ตลอด
ราตรีที่สนุกสนานนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่ร้านแห่งนี้จะปิดแล้ว
แขกผู้มาเยือนร้านนี้นั้นต่างแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนยังสถานที่ของตนอย่างอ่อนล้าหลังจากที่ได้ผ่านความสนุกสนานมาแล้วตลอดทั้งคืน
“นี่ ไม่กลับบ้านงั้นเหรอ? ยูวอน” ซึบากิที่ในขณะนั้นนั่งพักอยู่หน้าร้านเพื่อที่จะรอให้ตนเองสร่างเมาเห็นอีกฝ่ายทำท่าทีเหมือนกำลังนับเงินในกระเป๋าเพื่อที่จะไปพักยังโรงแรมพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่
“ก็นะ....พอดียังหาที่พักไม่ได้น่ะก็เลยต้องนอนโรงแรมไปก่อน” ร่างสูงตอบด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กๆ
“...................เธอขับรถเป็นไหม? มีใบขับขี่รึเปล่า” ร่างบางคิดครู่หนึ่งถึงถามอีกฝ่าย
“อืม ก็มีนะ ทำไมงั้นเหรอ?” ยูวอนตอบเชิงถามด้วยความสงสัยอีกฝ่าย
“เอ้า นี่กุญแจรถชั้น เดี๋ยวชั้นบอกทางให้วันนี้ไปค้างที่บ้านก็แล้วกัน” พวงกุญแจรถถูกโยนให้อีกฝ่ายก่อนที่จะควงแขนอีกฝ่ายไปยังที่จอดรถใกล้ๆ
“ล........แล้วทำไมพี่ซึบากิไม่ขับเองล่ะ? ไว้ใจชั้นเหรอ” ร่างสูงถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“ก็ถ้าให้ชั้นขับก็ชนน่ะสิตอนนี้ยังไม่ค่อยสร่างเลย ส่วนเรื่องไว้ใจไม่ไว้ใจแค่มองตาก็รู้แล้วล่ะน่า อีกอย่างเรียกชั้นแค่ซึบากิก็พอน่า” ร่างบางพูดพรางชี้ไปทางรถสปอร์ตสีแดงของตนที่จอดอยู่ที่ปากทางเข้า
“ขับไปตามที่ชั้นบอกนะเข้าใจไหม? แม่หนูน้อย” ร่างบางนั่งลงบนเบาะข้างคนขับและพูดหยอกล้ออีกฝ่าย
“อืม” สิ่งที่ถูกตอบกลับมานั้นมีเพียงแค่คำพูดสั้นๆ
ไม่นานนักรถสปอร์ตสีแดงก็มาจอดยังประตูทางเข้าบ้านที่สูงจนไม่สามารถที่จะเห็นตัวบ้านได้ รีโมตเปิดประตูอัตโนมัติได้ถูกกดและประตูเหล็กนั้นค่อยๆเปิดทางให้กับรถของเจ้าบ้านเพื่อที่จะผ่านเข้าไป
“ว้าว บ้านของซึบากิใหญ่จัง” คำอุทานของผู้ที่มาเยือนครั้งแรกนั้นดังขึ้นเพราะสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าบ้านนั้นใหญ่โตจนเรียกว่าปราสาทก็ยังไม่เกินไปสำหรับสถานที่แห่งนี้
“เข้ามาสิ ชั้นไม่หลอกเธอมาขายหรอกน่า” เจ้าหญิงของปราสาทแห่งนี้นั้นเชิญแขกให้เข้ามาปราสาทของตน
“อะ...อืม” ร่างสูงรู้สึกประหม่าและวางตัวไม่ถูกเมื่อต้องเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้
ทันทีที่เข้าไปนั้นคนรับใช้ที่ทำงานในช่วงเวลากลางคืนก็ออกมายืนเรียงรายกันเพื่อกล่าวต้อนรับ กระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ที่ถืออยู่นั้นก็ถูกคนรับใช้ที่เป็นผู้ชายหิ้วขึ้นไปยังห้องรับรองของแขกที่มักจะถูกทำความสะอาดทุกวันเพื่อต้อนรับแขกที่จะมาพักโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
“จะให้ชั้นอยู่ห้องที่ใหญ่โตแบบนี้จริงๆน่ะเหรอ ซึบากิ” คำถามถูกถามทันทีที่ร่างสูงเห็นห้องที่อีกฝ่ายให้ตนมาพัก
“อืม ก็นี่มันขนาดปกติของบ้านชั้นนี่นา ถ้ามีอะไรก็เรียกได้ตลอดเวลานะ ส่วนห้องชั้นอยู่อีกฝั่งหนึ่งของราวบันไดนะ” นิ้วเรียวชี้ไปยังห้องของตนซึ่งอยู่อีกฝั่งของราวบันไดก่อนที่จะเดินกลับไปยังห้องของตนเองเพื่อที่จะพักผ่อน
“อื...ม...” ผู้ที่ถูกเก็บมาในคืนนี้นั้นตอบหลับจากที่คนที่เก็บตนมาได้เดินไปแล้ว
“ราตรีสวัสดิ์” ร่างบางพูดพร้อมกับโบกมือให้ทั้งทั้งที่ไม่ได้หันหลับมามอง
“อืม” เสียงตอบเบาๆดังขึ้นในลำคอก่อนที่จะหันหน้ากลับมาเผชิญกับสถานที่ที่ตนเองนั้นไม่คุ้นเคยต่อ
ห้องกว้างใหญ่แบบนี้เราจะนอนหลับลงไหมเนี่ย? ห้องนี้กว้างกว่าห้องนอนของเราที่เกาหลีตั้งเกือบ 2 เท่าแน่ะ
ความคิดเห็น