คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หนี้รัก.......2 : คู่กัด
“อืออออ” เสียงครางในลำคอจากร่างสูงที่นอนอยู่บนแคร่ปลุกให้ร่างบางที่นั่งอยู่กับพื้นต้องตื่นขึ้นมาดูกลางดึก มือขาวแปะลงที่หน้าผากกว้าง
“ก็ตัวไม่ร้อนนี่นา” พันวาได้แต่พึมพำกับตัวเอง ก่อนจัดผ้าห่มให้เข้าที่ แล้วเดินกลับไปนั่งลงที่เดิม หากแต่ตาตี่ๆก็ยังมองไปที่คนแปลกหน้าอย่างเป็นห่วงอยู่หน่อยๆ “คุณก็อย่าเป็นอะไรไปหล่ะกัน ผมอยากกลับบ้าน”
<3-----<3 <3-----<3
แสงสีส้มที่ทอประกายทั่วแผ่นน้ำให้กลายเป็นสีทองสะท้อนให้ชายหนุ่มต้องลืมตาขึ้นมองด้วยความมึน และเจ็บร้าวที่ช่วงท้ายทอย ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นร่างเล็กๆนั่งสัปหงกอยู่มุมของกระท่อม “นาย.....ยังอยู่อีกหรอ ไม่หนีไปหรือไง”
“ฮ้าว........คุณตื่นแล้วหรอ เจ็บแผลไหม” ปากเล็กเปิดกว้างขับไล่ความง่วง ก่อนรีบเดินไปดูอาการคนที่เขาทำให้เจ็บแบบตั้งใจ
“ทำไมยังอยู่ อุตส่าห์ตีหัวฉันได้ ทำไมไม่หนีไปซะหล่ะ” เสียงทุ้มกดต่ำประชดประชัน มือยังไม่ละไปจากแผลที่ท้ายทอย ตาก็มองหน้าเรียวๆซีดๆอย่างไม่เข้าใจ
“ผมเอากุญแจเรือไปแล้ว แต่ขับไม่เป็นแล้วพายุมันก็เข้า ถ้าออกไปก็ตายแน่ เลยคิดว่าคุยกับคุณให้เข้าใจจะดีกว่า" พันวาบอกไปตามที่คิด
เพราะตอนที่คิดหนี อุตส่าห์เจอกุญแจแล้วแต่กลับขับเรือไม่ได้ ฝนก็ทำท่าจะตกหนัก ออกไปเรือคว่ำแน่นอน แต่ถ้ารอให้คนมาช่วย เขาก็พึ่งรู้ว่า นี้มันเกาะส่วนตัว ไม่มีเรือลำไหนวิ่งผ่านมา นอกจากนัดไว้ให้มารับ จะโทรศัพท์ก็ไม่รู้ว่าที่อยู่เนี้ยมันกันดารแค่ไหนถึงไร้คลื่นขนาดนี้ ไหนใครว่าอยู่ทะเลคลื่นเยอะ โทรศัพท์ฉลาดล้ำโลกแค่ไหน ไร้คลื่น ไร้เน็ตก็กลายเป็นที่ทับกระดาษทั้งนั้น...... แม้แต่ไอ้แอ๊บเปิ้ลแหว่งของคนที่จับเขามาก็เหอะ
"แล้วนายเป็นคนทำแผลให้ฉันหรือไง" เสียงทุ้มถามขึ้น หลังจากแน่ใจว่าแผลตัวเองถูกเช็ดจนสะอาดไร้ข้าวสักเม็ด คราบเลือดก็ไม่มีเหลือ
ตาเล็กปรายมอง "ก็ผมหน่ะสิ คุณคิดว่าเงือกที่ไหนหล่ะ " พันวาประชดตอบ ก็ทั้งเกาะมีกันอยู่แค่สองคน ไม่ใช่เขาแล้วใคร วิญญาณที่ไหนจะมาทำให้
"ก็ถามดีๆ" ร่างสูงพูดกับตัวเองเบาๆไม่คิดจะได้คำตอบแบบนี้ "ขอบใจนะ"
"ห่ะ!" เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ ทำให้คนที่ไม่ตั้งตัวถึงกับตกใจ ก่อนหน้าจะปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนแบบที่เคยยิ้มให้กับทุกคนตามนิสัยเดิม "ไม่เป็นไร เพราะผมเอาชามฟาดหัวคุณนิ ขอโทษนะ"
"ฮึ! " เสียงทุ้มขึ้นจมูกประกายตาวาวแสงขื้นมาในทันที "ถ้าพี่สาวนายรู้จักรู้สึกผิดแบบนี้บ้างก็คงดี"
"เกี่ยวอะไรกับพี่สาวผม แล้วคุณเป็นใคร จับผมมาทำไม” พันวาถามแบบไม่ต้องคิด ซักทีเดียวไม่มีหยุดพักหายใจ ความอยากรู้ฉายชัดในดวงตาที่จ้องมองคนที่สูงกว่ามากตรงหน้า
“น้องชายฉันฆ่าตัวตายเพราะพี่สาวนาย ฉันก็จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นต้องเจ็บเพราะการสูญเสียดูบ้าง ฉันอยากรู้นักว่าตอนนี้พี่สาวนายจะเป็นทุกข์แค่ไหน” ใบหน้าคมเข้มกัดฟันด้วยความเคียดแค้นจนขึ้นสันกรามชัด เขาจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นต้องเจ็บเหมือนที่เขาเจ็บ ต้องเป็นทุกข์ยิ่งกว่าเขาเจอ
ร่างบางนั่งฟังด้วยความนิ่งอึ้งพยายามลำดับความคิดเผื่อการเรียงประโยค ตีความหมายจะผิดพลาด แต่ฟังยังไง มันก็ได้เหมือนเดิม หน้าจืดเจื่อนเบะออก ก่อนพูดด้วยเสียงดังลั่นไม่เกรงใจ “บ้าไปแล้ว! นี่คุณคิดว่าพี่แพทเขาจะรู้สึกอะไรกับการหายไปตัวไปของผมหรือไง ได้หาข้อมูลอะไรมาก่อนไหมเนี้ย ว่าเขาเกลียดผม รำคาญผม อยากให้ผมไปไกลๆอยู่แล้ว หรือคิดอยากเป็นนายหัวในละครบ้าบออะไรนั่น ขอโทษเหอะผมไม่ใช่นางเอกหน้าโง่ที่จะยอมให้คุณทำร้ายเพื่อแก้แค้นใครหรอกนะ”
“ฮึ! แล้วนายคิดว่าตัวเองเหมาะกับการเป็นนายเอกผู้แสนดีหรือไง ฉันก็ไม่ใช่นายหัวที่มันจะหลงเสน่ห์เพราะมีอะไรกันแค่ครั้งเดียวหรอกนะ” หน้าคมคร้ามขึ้นสีแดงเพราะความโกรธ ก่อนหยุดพักหายใจ แต่ดวงตาดุไม่ละไปจากหน้าขาวๆซีดๆที่ดูกวนประสาทเลย
“มานี่” มือหยาบใหญ่กระชากแขนที่ผอมกว่าผู้ชายทั่วไป จนร่างผอมปลิวตามแรงดึง มีร่างสูงเดินนำลิ่วๆ ไปที่หลังกระท่อม
"เฮ้ย คุณจะพาผมไปไหน ผมเจ็บบ เดินช้าๆได้ไหม เจ็บนะเว้ย" พันวาขึ้นเสียงดัง จะหยุดเดินก็โดนลากไปจนแทบล้มลุกคลุกคลาน นี้ถ้าไม่ใช่เพราะผอมเกร็งขาดสารอาหารก็คงไม่เป็นแบบนี้
"ก็เดินให้มันไวๆสิ ชักช้าตูดบิดเป็นผู้หญิงไปได้ ทำให้แข็งแรงหน่อย" หน้าเข้มสีหันมาตวาดเสียงดังใส่คนข้างหลังอย่างรำคาญ
"ใครมันจะแข็งแรงเป็นควายถึกอย่างคุณ ลากกันเดินขนาดนี้ไม่พาล้มก็ดีเท่าไหร่แล้ว"
"หุบปากแล้วเดินมา" เพราะทนรำคาญไม่ไหวร่างสูงจึงยอมปล่อยมือจากแขนเล็กที่กำเกือบรอบของผู้ชายผอมๆ
พันวายอมเดินตามชายตรงหน้าไปเงียบ ยิ้มกระหยิ่มที่อีกฝ่ายเป็นพวกความอดทนต่ำ เพราะเป็นแบบนี้ก็คงไม่น่ากลัวเท่าไหร่.....มั้ง!
คนนำทางหยุดเดินอยู่หน้ากรงที่ใหญ่พอควร สำหรับไก่แค่สองตัว จนคนเดินตามต้องมองหน้าแบบไม่เข้้าใจเท่าไหร่ "ไก่?"
"ใช่ไก่ นั่นกะต๊าก เป็นไก่ไข่ทั้งคู่ หน้าที่ของนายคือมาเก็บไข่ทุกเช้า นี่จะเป็นอาหารสดอีกอย่างนอกจากสัตว์ทะเล นอกจากนี้คืออาหารแห้ง" ร่างสูงบอกเรียบเรื่อยชี้ไก่สองตัวที่แทบไม่ต่างอะไรกันเลย
"แล้วอีกตัวที่อยู่ข้างกันหล่ะ" พันวาเอ่ยถาม เท่าที่ฟังก็ดูไม่มีอะไรแย่เท่าไหร่ แถมยังได้กินอาหารทะเลสดเกือบทุกมื้อ ถ้าเป็นที่กรุงเทพก็ฝันไปเหอะว่าเขาจะได้กิน....เพราะมันแพง นายพันวาไม่มีปัญญากินหรอก
"นายนี้มัน..." หน้าคมเข้มเหยียดสีหน้าดูถูก ทั้งที่ก็บอกไปแล้ว นี้คงเป็นหนึ่งนิสัยของพวกคุณหนู "มันชื่อไก่"
"ห่ะ!" พันวายอมรับว่าตกใจกับชื่อสิ้นคิด ที่ไม่ตั้ง ก็ไม่ต่าง "ไก่คุณชื่อ 'ไก่'เนี่ยนะ?"
"ใช่ หรือนายมีปัญหาอะไร"
"เอ่ออออ ก็เปล่า แต่ว่า" พันวาเริ่มลังเลคำถาม แต่ถ้าไม่ถามก็คงอยู่ร่วมกันยาก "ไก่คุณผมรู้ชื่อแล้ว แต่ผมยังไม่รู้ชิ่อคุณเลย"
"จำเป็นหรือไง" ชายหนุ่มตวัดสายตาหาคนถาม มองร่างที่เตี้ยกว่าด้วยหางตา
"จำเป็นสิ ทีคุณยังรู้ชื่อผม" พันวาไม่ถือสาสายตาที่ดูแคลนเพราะมันเป็นสายตาที่เขาได้รับมาทั้งชีวิต ถ้าเก็บไปคิดป่านนี้คงบ้าตายไปแล้ว
"ฉันชื่อ คียตกาล"
"แล้วผมต้องเรียกคุณว่าอะไร คีย ตะ หรือ กาล" พันวาถามหน้าซื่อ ใจจริงก็อยากแหย่คนจี้โมโหขี้หงุดหงิดเล่นอยู่เหมือนกัน
"....." ร่างสูงไม่ยอมพูด แต่กลับเดินหนีทิ้งคนอีกคนไว้ข้างหลัง
"เฮ้ยคุณ" คนถูกทิ้งรีบวิ่งตาม ปากก็ยังไม่หยุดถาม "บอกผมก่อนสิ ให้เรียกคุณว่าคียตกาลทุกครั้งมันยาวนะ"
"เรียกฉันว่าคีย" ร่างสูงหยุดเดินหันหลังกลับมาบอก จนคนที่เดินตามเกือบชนหงายหลัง แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจเดินลิ่วไปคนละทางกับที่ไปกระท่อมริมหาด
....เฮ้อรู้ชื่อแล้ว แต่ก็คงอยู่กันยากอยู่ดี
พันวาได้แต่คิดแบบนั้นอยู่ในใจ
<3-»
<3-----<3 <3-----<3
ขอโทษที่มาลงช้าแบบสั้นๆนะค่ะ
น้อมรับคำติชมคร้า...
ความคิดเห็น