คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ความจริง2 [100%]
แสงแดดยามเช้าฉายแสงเข้ามาในห้องกว้างประมาณ6 เสื่อตาตามิในห้องตกแต่งไปด้วยฟอนิเจอร์ไม่กี่ชิ้นเช่น โต๊ะ เก้าอี้ครบชุดและเตียงเดียวข้างหน้าต่าง มีเด็กหนุ่มผมทองนั่งขุกเข่าในชุดฮากามะสีขาวตามร่างกายมีผ้าพันแผลเป็นบางจุด ดวงตาสีฟ้าดูเหม่อลอยมีหยาดน้ำใสๆไหลอาบแก้มเป็นสาย
"ป้าซึนาเดะ...พี่ชิซึเนะ...ทุกคน..." คำพูดดังขึ้น แต่เบาจนมีมีเพียงสายลมที่พัดเข้ามาในห้องเท่านั้นที่ได้ยิ พลางหลับตานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ถึงในใจอยากปฎิเสธว่ามันเป็เพียงความฝันก็ตาม แต่ในใจนั้นรู้ดีว่ามันคือความจริงที่แสนเจ็บปวด ในคืนนั้นเมื่อ 6 ปีก่อน เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงที่ไม่อยากนึกถึง หลังจากที่แยกจากหญิงสาวนามชิซึเนะแล้ว เด็กน้อยผมทองวิ่งเอาชีวิตรอดอย่างไม่คิดชีวิตไปทางหมู่บ้านซึนะงาคุเระที่อยู่ใกล้ๆ โดยมีเสียงจันทร์นำทาง แต่แล้ว
"กริ๊ด!!!!~" เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลกันเอง แต่ที่แน่ๆ คือ...เสียงของพี่ชิซึนะ...นารุโตะคิดดังนั้น ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบไปยังต้นเสียง โดยไม่สนใจคำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนมา หรือร่างกายตนเองตอนวิ่งไปนั้น แม้จะหกล้มคลุกคลานจนเกิดแผล เสื้อผ้าขาดหรือที่รัดผมจนหลุดสยายลงมาก็ตาม เมื่อมาถึงเป็นช่วงเวาลที่แสงจันทร์ส่องสว่างไร้หมู่เมฆบดบัง หญิงสาวที่พบเขาและนำมาเลี้ยงดู เหมือนพี่สาว แต่ตอนนี้เลือดสีแดงสดกระเด็นเปอะหน้าและตามร่างกายของเด็กน้อย จากการสังหารของชายหนุ่มในชุดสีดำลายเมฆแดง ผมสีแดงสดต่อหน้าต่อตาของนารุโตะ ทำให้ที่พึ่งทางใจเส้นสุดท้ายของเด็กน้อยขาดสะบัน
"ไม่...ฮึก...ไม่น้านนนน!!!!!!...พี่ชิซึเนะ!!!!!!" ว่าแล้วก็กระโดดออกจากที่ซ้อนตรงไปยังศพของหญิงสาว แต่ก่อนจะได้แตะตัวก็ถูกชายหนุ่มฆาตกรดึงตัวไว้
"ฮึก...ปล่อยนะ!!ปล่อยซิ!!ชั้นบอกให้ปล่อยไอ้บ้า!!ไอ้ฆาตกร!!...ฮึก..ปล่อย!!!!" เด็กน้อยผมทองตะโกนทั้งน้ำตาพลางดิ้นสุดชีวิต ไม่ว่าจะกัด จะข่วนจนเลือดซิบร่างสูงก็ไม่มีท่าทีจะปล่อย ไม่นานเด็กน้อยผมทองก็หมดแรงร่ำไห้สะอื่น
"ฮื่อ...ฮื่อ...พี่ชิซึเนะทำไม...ปล่อยซี...ฮื่อ...ทำไมต้องฆ่าพี่ชิซึเนะด้วย..." คำถามถูกยิงมาชายหนุ่มมองเด็กน้อยจากด้านหลังด้วยสายตาแสนเศล้าปนดีใจอยู่น้อยๆ จนเริ่มหมดแรงเซจะล้ม แต่เพราะอยู่ในอ้อมกอดแกร่งจึงยังกระคองได้ ก่อนวางนั่งข้างกายก่อนสำรวจเด็กน้อยผมทองส่องสว่างเมื่อต้องแสงจันทร์แสนงามที่ยาวถึงกลางหลัง ดวงตาสีฟ้าดูเศล้ามีน้ำใสๆ คลอก่อนไหลเป็นสายทางอาบแก้มนวลยิ่งดูงาม น่าถนุถนอม แต่แล้วจู่ๆ มือเล็กก็หันมาจับชายเสื้อแน่น ก่อนฉวยโอกาศหยิบมีดขึ้นมาสังหารคนตรงหน้า แต่ฆาตกรหนุ่มรู้ทันจึงแย่งมีดคืนได้ก่อน ตอนนี้ในใจของนารุโตะเต็มไปด้วยความเศร้าจากการสูนเสียเพื่อน พี่น้อง บ้านที่อาศัยอยู่ ความเจ็บใจที่ไม่อาจล้างแค้นให้พวกพ้องได้ และที่แน่ที่สุดคือความกลัว ความน่ากลัวของบุคคลตรงหน้า
"ฮึก...ชั้น...ฮึก...ฆ่าชั้น...ฮึก...ฆ่าชั้นซิเหมือนที่นายฆ่าทุกคน" เด็กน้อยตะโกนบอกพรางดึงมือขึ้นมาหมายจะสังหารตนเอง แต่ก็ถูกมือใหญ่จับขวางเอาไว้ ดวงตาสีฟ้าจ้องมองด้วยความแค้นชิงชัง อีกดวงมองกลับมาด้วยความเย็นชาปนเศล้า
"นายจะตายไม่ได้...นารุโตะ" เสียงทุ้มดังขึ้นบอกเด็กน้อย ก่อนปัดมีดในมือเล็กกระเด็นพร้อมดึงนารุโตะมากอด ดวงตาสีฟ้าฉายแววตกใจปนสงสัย
"เพราะชั้นไม่ยอมให้นายกับใคร แม้แต่ความตาย" ว่าแล้วก็ดึงนารุโตะเข้ามาใกล้ จนริมฝีปากทั้งสองประกบกัน ด้วยความตกใจนารูโตะพยายามดิ้นให้หลุด แต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้าน ความรู้สึกรังเกียรติปนตกใจตกันมั่ว แต่ที่รู้คือเขากำลังดื่มอะไรอยู่ มันทำให้ง่วนทุกอย่างเริ่มมืดไปหมด เมื่อถอนริ่มฝีปากอวบอิ่มออกมาเด็กน้อยอ้อมกอดได้เข้าหวงนิทราด้วยน้ำสีแดงบางอย่างที่ไหลออกข้างปากให้เห็น
"เมื่อนายตื่นขึ้นมาจะลืมทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมด เมื่อลืมตาขึ้นมานายจะแค่พวกเราเท่านั้นนารุโตะ" เมื่อพูดจบก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นมา พลางเดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่อีกต้น ที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้นมีชายหนุ่มผมดำยาวปล่อยสยายปะบ่าในชุดสีดำถูกมัดไปไหนไม่ได้กองอยู่กับพื้น เมื่อฆาตกรหนุ่มเดินมาถึง ดวงตาสีแดงสดเงยขึ้นสบกับผู้มาเยื่อนอย่างไม่พอใจ แต่ถูกชายตาเย็นชาสวนกลับ
"ตื่นมาเร็วผิดคาดแฮะอิทาจิ" คำพูดประชดดังขึ้น ทำเอาคนถูกมัดกลับมาวางมาดนิ่งใส่ แต่ร่างสูงหาสนใจไม่ ค่อยๆ วางเด็กน้อยผมทองลงข้างๆ อย่างเบามือ แต่เมื่ออิทาจิเห็นเด็กน้อยก้อตาโตหันมามอง ชายหนุ่มผมสีเพลิงอย่างไม่เชื่อสายตาฉายแววต้องการคำตอบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็กคนนี้ เมื่อเห็นคราบน้ำตาและน้ำสีแดงจากปากเรียวเล็ก ถึงจะถูกเช็ดไปบ้างแล้วก็ตาม
"ไม่จริง...เด็กคนนั้น...นารุโตะ" อิทาจิพูดขึ้นพลางหันไปมองร่างสูงซึ่งบัดนี้มานั่งลงพักข้างหลังชายหนุ่มผมดำ แล้วจู่ๆ เชือกหนาที่แสนแก้ยากก็หลุดออกอย่างไม่ปี่มีขลุ่ย แต่ชายหนุ่หาสนใจไม่ ตรงเข้าไปดูแลเด็กน้อยผมทองทันที มีดูใกล้ๆ เด็กน้อยผมทองอร่ามนอนหายใจราวกับขาดอากาศ หน้าแดงมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามร่างกาย ยิ่งดูจากสภาพร่างกายที่มีแผลเต็มตัว เสื้อผ้าขาดกระรุ่งกระริ่ง บ่งบอกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
"เพน...นี้นายทำอะไรลงไปรู้ตัวรึเปล่า" คำถามเจื่อความโกธรถูกยิงมา แต่เจ้าตัวยังเฉยนิ่ง
"รู้"
"ในเมื่อเป็นแบบนั้นไม่เห็นนายจะต้องใช้ 'ยาลบความทรงจำ' เลย" คราวนี้เดินมากระชากคอเสื้อสีดำลายเมฆสีแดงอย่างไม่พอใจ แต่สายตาที่มองมายังคงเย็นชาตอบกลับ
/ผัวะ!!/
ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงถูกชกจนเลือดกลบปาก ก่อนไหลอาบจลดปลายคางมน สายตามองขึ้นไปสบกับดวงตาสีเพลิงดังเช่นเดียวกับผมของเขา ซึ่งตอนนี้กำลังฉายแววความโกธรอย่างเห็นได้ชัด
"เพน...คนอย่างนายนี้มัน" ชายหนุ่มพูดกัดฟันกรอบ ก่อนปล่อยร่างสูงเดินกับมาสนใจเด็กน้อยผมทองที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งตอนนี้กำลังหายใจราวกับขาดอากศ ดวงหน้ากับแดงดังคนเป็นไข้สูง เหงื่อออกตามร่างกายมากกว่าเดิม ...ผมข้างเคียงของยาลบความทรงจำ ก็คือการทำให้เกิดอาการเหมือนคนเป็นไข้สูง ถ้ากินในปริมาณที่พอเหมาะก็ไม่มีอากรรุนแรงจนต้องกลัว แต่ถ้าจนเกินไปอาจทำให้ช็อคหรือประสาตความทรงเสียไปได้เลยที่เดียว...อิทาจิคิด ก่อนถอดเสื้อชั้นนอกมาทำเป็นหมอนให้เด็กน้อยหนุน พลางเอาดึงชายเสื้อฮากามะออกให้เห็นเนินอกผิวขาวกระเพิมขึ้นลงอย่างเร็ว อิทาจิลากมือทั้งสองมากุมที่อกพลางหลับตาตั้งสมาธิอยู่สักครู่
"ฮ่า~" อ่อร่าสีแดงมารวมกันที่มือก่อนค่อยๆ เข้าไปในตัวเด็กน้อยจนหมด ทำให้เหงือตามร่างกายระเหยพร้อมบาดแผลทุกแห่ง ลมหายใจกลับมาปรกติอีกครั้ง
"เฮ้ย..." ชายหนุ่มถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ก่อนหันไปมองชายหนุ่มผมสีเพลิงอย่างเอาเรื่องอีกครั้ง
"เพนนายทำไมต้องทำถึงขนาดนี้" คำถามถูกยิงไปอีกครั้ง
"...ชั้นก็แค่อยากได้ของๆชั้นคืนมันก็เท่านั้น" ชายหนุ่มเปลยขึ้น พลางมองท้องฟ้ายามราตรีที่เต็มไปดวงดาวบนท้องฟ้า อิทาจิมองอยู่ซักครู่ก่อนถอนหายใจยาวดึงเด็กน้อยขึ้นมากอดอย่างอ่อนโยน
"ถ้าท่านมินาโตะกับท่านคุชินะรู้เข้าละก็..."
"หุบปากซะที!!" เสียงตะโคกดังขึ้น พร้อมสายตาไม่พอใจอย่างแรงมองมาที่ชายหนุ่มอายุระนาม 13-14ปี ผมสีดำขลับยาวประบ่าในชุดลายตะคายสีดำ นั่งกอดเด็กน้อยผมทองยาวถึงกลางหลัง นั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มไม่สบอารมณ์อย่างมาก เมื่อตรงเข้าไปหมายจะแยกเด็กน้อยกับชายหนุ่ม แต่แล้ว
/ตูม!!ฉึก!!ฉึก!!ฉึก!!ฉึก!!/
หมอกควัญอำพลางถูกปามาจากที่ไหนไม่รู้ พร้อมดาวกระจายจำนวนหนึ่งพรุ่งมาที่พวกเขา ด้วยความเร็วกว่าทั้งคู่ต่างหลบได้ไปหลบกันคนละทาง พร้อมการปรากฎตัวของคนกลุ่มหนึ่งต่อหน้าคนทั้งคู่ หนึ่งในนั้นตรงเข้าไปหาอิทาจิ
"อิทาจิคุงไม่เป็นไรใช้ใหม" เสียงชายหนุ่มรูปร่างโปร่งมีแผลบาลยาวตรงจมูก ผมมัดสูงสีดำเช่นเดียวกับดวงตาเข้ามาดุอาการชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง
"คุณอิรูกะทำไม..." อิทาจิเอ๋ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"ก็ตั้งแต่เธอถูกพาตัวไปพวกเราก็ตามหาอยู่" ชายหนุ่มอธิบายพลางจับแขนข้างหนึ่งให้ชายหนุ่มลุกขึ้นหนีจากสนาที่แห่งนี้ก่อน อิทาจิรู้พลางจับเด็กน้อยในอ้อมกอดให้ก่อนกระโดดหนีไปพร้อมผู้มาช่วย
"แล้วซาสุเกะละครับ" ชายหนุ่มถามขึ้นบ้าง อิรูกะยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ก่อน
"ไม่ต้องห่วงตอนนี้อยู่ในความดูแลของคาคาชิแล้ว" เมื่ออิทาจิได้ยินดังนั้นก็ถอนหายยาว หันมามองเด็กน้อยผมทองสว่าง ก่อนลงจากต้นไม้ เป็นที่แปลกใจของชายหนุ่มอีกคนเป็นอย่างมาก เมื่อถึงพื้นอิทาจิรีบส่งตัวนารุโตะให้กับอิรูกะทันที
"คุณอิรูกะไม่มีเวลามากแล้ว" อิทาจิว่าพลางลากทั้งสองไปยังต้นไม้ใกล้ ซึ่งพุ่มไม้ตรงนั้นสูงกว่าที่อื่น และชายหนุ่มนามอิรูกะเองก็ยังคงงงกับสถานะการอยู่
"ฟังให้ดีนะครับตอนนี้จะให้นารุโตะกลับไปโคโนฮะไม่ได้" อิทาจิเริ่มเสียงเครียดพลางหยิบอะไรบ้างอย่าง ก่อนส่งให้อิรูกะเป็นจดหมายซองขาว ชายหนุ่มรับมาแต่โดยดี
"ทำไมล่ะอิทาจิคุง" คำถามถูกยิงไปบ้าง
"ตอนนี้ยังบอกไม่ได้มากยังก้อให้เขาห่างโคโนฮะจนกว่าเขาจะขึ้นม.ต้น ส่วนจดหมายค่อยให้นารุโตะตอนที่เขารู้ความจริงนะครับ" คำอธิบายยาวจบลง พร้อมกับเสียงร้องของคนที่ดังใกล้เข้ามา
"ไม่มีเวลาแล้วเจ้านั้นกำลังมาทางนี้ไปเร็วอิทา.." ยังไม่ทันกล่าวจบ ก็เข้าใจทันทีที่อิทาจิส่งนารุโตะให้กับเขา พอเห็นสร้อยคอเหล็กร้อยกับเชือกสีดำบนคองาม
"เพราะแบบนี้ผมถึงไปด้วยไม่ได้จากตรงนี้จะเข้าเขตของซึนะที่นั้นน่าจะมีคนพอช่วยพวกคุณได้บ้างรีบไปเถอะครับ" อิทาจิว่าพลางชักมีดออกมาตรงมา ตัดผมสีทองแสนงามของเด็กน้อย พลางลูบหัวนารุโตะอย่างอ่อนโยน
"ผมฝากเจ้าน้องชายตัวดีด้วยนะครับ" ว่าจบเจ้าตัวก็กระโดดหายเข้าไปในความมืด ทางด้านอิรูกะเองกำจดหมายแน่นก่อนวิ่งเข้าไปในเขตหมู่บ้านซึนะงาคุเระ และได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี
อีก 2 วันต่อมานารูโตะลืมตาขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา แต่กลับจำบทเพลงและสามารถเป่าเพลงขลุ่ยได้อย่างแม่นยำ ส่วนขลุ่ยของนารุโตะนั้นอิรูกะเก็บได้จากที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า และได้กาอาระเป็นเพื่อนทำให้นารุโตะชดชื่นขึ้นมาได้ จนกระทั้งขึ้นม.ต้น นารุโตะย้ายไปอยู่ที่โคโนฮะโดยมีอิรูกะเป็นผู้ปกครอง...
/แอ่ด...ปัง/
เสียงเปิดประตูเรียกสติของเด็กหนุ่มผมทองอร่าม ดาวงตาสีฟ้าดูหม่นหมองมองขึ้นสบกับดวงตาสีรัตติกาลเช่นเดียวกับสีผม ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินกางเกงขาวสั้นสีขาว มือถือถาดอาหาร
"ตื่นแล้วเหลอเจ้าเบอะเซอะ" เด็กหนุ่มพุดขึ้นพลางเดินเข้ามาวางถาดอาหารบนพื้น
".........."
"นายหลับไป3วันเต็มนึกว่าจะไม่ตื้นมาอีกแล้ว" พูดไปก็จัดแจงเปิดฝาถ้วยขาวต้มที่ควัญลอยฉุยๆ ยั่วน้ำลาย พลางส่งยื่นให้เด็กหนุ่มผมทอง ซึ่งตอนนี้เหมือนคนตากซาก แววตาดูเหม่อลอยไปไกล คราบน้ำตายังคงเกาะอยู่ ยิ่งทำให้ดูเศล้าไล้ชีวิตไม่เหมือนกับ อุซึมากิ นารุโตะ ในยามปรกติ ที่ร่าเริ่ง(เกินเหตุ) สดใส ขี้โวยวาย ยิ่งทำให้ใจของเด็กหนุ่มเจ็บปวดมากเช่นกัน
"........."
"นารุโตะ..."
"ไม่ตื้นขึ้นมาอีกเลยก็ดี" หลังจากเงียบอยู่นานริ่มฝีปากแห้งกรอบ ซีดเผือกเอ๋ยขึ้นอย่างช้าๆ คนฟังถึงกับเบิกตากว้าง
"มะ...เมื่อกี้นายว่าไงนะ" เด็กหนุ่มถามซ้ำเพื่อความแน่นใจ ว่าฟังผิดไปเอง ดวงตาสีฟ้าหมองหมนเงยขึ้นสบ ยิ่งทำให้เขาใจหาย กับสภาพของบุคคลที่เขารักยิ่งในตอนนี้ ร่างกายดูซุบผอมดูไร้ชีวิต ใบหน้าที่เคยสดใสบัดนี้ขาวซีดไล้เลือดฝาดอย่างที่เคย ดวงตาสีฟ้าสดใสยามเช้าตอนนี้ดูหมองหม่นลง เต็มไปด้วยความเศล้า ภาพเบื่องหน้าที่เขาเห็นนั้นแทบไม่เหลือเค้าเดิมที่ของชายหนุ่มสดใส ร่าเริง ยิ้มง่าย อย่างที่เคยจนชายหนุ่มผมดำรุ้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงเข้าใจดีว่าเจอเหตุการณ์นั้นมาอาจสับสนบ้างก็ตาม
"ซาสุเกะนายเก็บกับข้าวไปเถอะชั้นไม่หิว" พูดไปพร้อมก้มหน้าหันไปทางอื่น ยิ่งทำให้อารมณ์หงุดหงิดที่เก็บไว้เริ่มประทุ มือแกร่งทั้สองคว้าร่างบางดึงมาใกล้
"นารุโตะนายเป็นบ้าอะไรไปนะ" ซาสุเกะพุดไปก้ยิ่งเพิ่มแรงบีบไปด้วย จนร่างบางทนเจ็บไม่ไหว เริ่มดิ้นบ้าง
"ใช้ชั้นบ้าไปแล้ว!!ถ้าไม่มีชั้นซักคน..." นารุโตะตะโคกกลับ พลางนึกถึงความทรงจำที่หายไปกลับคืนมา และยังเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาในวันเกิดครบอายุ 16ปีของเขาเช่นกัน ตอนนี้ในหัวสับสนกันไปหมดในใจก็เต็มไปด้วยความเศล้า ตอนนี้เขาไม่รู้จะทำไงดี แต่ยังไงซะคนที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีที่มาอย่างเขาหายไปจากโลกนี้ซะก็ดี...
"ปล่อยซีฟ่ะ!!บอกให้ปล่อยไง!!" นารูโตะดิ้นไปก็รอ้งไป ร่างสูงเห็นดังนั้นก็ยิ่งเจ็บปวดแทน
"นารุโตะใจเย็นก่อนซิชั้นเข้าใจนายนะเพราะงั้น..." ไม่ว่าเปล่าพยายามจับร่างบางให้อยู่นิ่ง ยิ่งจับก้อยิ่งดิ้น
"อย่างนายจะมาเข้าใจอะไร...ชั้นเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้ว...แล้วยังเป็นต้นเหตุให้ทุกคนต้องตาย...ไม่มีใครต้องการชั้นซักคน!!ตายทั้งงี้ได้ก้อดี" ร่างบางเริ่มหยุดแต่ก็ยังดิ้นอยู่ พร้อมความรู้สึกที่เก็บกดอยู่ในใจมานานระเบิดออกมา ทางตาใหลกลายเป็นสายทาง
"ตายไปซะนั้นเหละดี!!!"
/เพียะ!!/
ใบหน้าของนารุโตะแดงเป็นรอยฉาด ด้วยฝีมือของชายหนุ่มผมดำขลับ สีเดียวกับดวงตาที่กำลังฉายแววควาโกธรออกมาอย่างได้ชัด จนร่างบางถึงกับสะอึกกับท่าที่ที่เขาไม่เคยเห็น เพราะโดยปรกติชายหนุ่มผมและตาสีรัตติกาล ใบหน้าหล่อเหลา สูงหุ่นดีเรียกเสียงกรี๊ดของสาวๆ มาก นิสัยพูดน้อยขี้เก๊กปากหนัก ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้เห็น เก่งทั้งการเรียนและกีฬา แต่ว่าเจอกับเขาที่ไรเป็นต้องว๊ากใส่กันทุกที แต่ในบางครั้งก็รู้สึกดูว้าเหว่โดยวเช่นกัน ในใจลึกๆ แล้วนารุโตะแอบชื่นชมซาสุเกะอยู่เช่นกัน และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ได้เห็นความในใจที่ซาสุเกะมีต่อเขา แต่มันกับทำให้เจ็บปวด เมื่อนึกถึงเหตุการเมื่อ 11 ปีก่อน ดวงตาทั้งสองสบตากันก่อนซักครู่ ก่อนดวงตาสีฟ้าจะหันไปทางอื่นยิ่งทำให้อารมณืของร่างสูงแทบปะทุจนเอาไม่อยู่
"นารุโตะนายหันมามองหน้าชั้นนี้" ไม่ว่าเปล่าพลางจับหน้านารุโตะหันมา ด้วยมือเดียวโดยการจับใบหน้างามอย่างไม่ลังเล ที่นี้ความไม่พอใจของร่างบางดวงตาสีฟ้าสดเริ่มออกอาการบ้าง
"ชั้นเจ็บนะเจ้าบ้าซาสุเกะ" นารูโตะตะวาทพร้อมทั้งพยายามแกะมือแกร่งจากใบหน้าเขา แต่ก็ได้ผลตรงกันข้ามยิ่งดิ้นมือแกร่งก็ยิ่งลงแรงบีบ ส่วนมืออีข้างที่ว่างทำงามอย่างรวดเร็ว เข้าไปรวบมือเล็กอย่างง่ายดาย จนร่างบางออกอาการเจ็บใจอย่างเห็นได้ชัด
"ไอ้บ้า!!งี่เง่า!!แกคิดจะทำอะไร"
"ก็จะทำให้นายรู้ไงละว่าใครเป็น 'เจ้านาย' " พอกล่าวจอใบหน้าหล่อเหลาก็เข้าไปใกล้ใบหน้างาม ก่อนแย่งลมหายใจจากริมฝีปากบาง และแล้วบทบาทหน้าที่ก็เริ่มลุกเล้านารุโตะอีกครั้ง
/*/โปรดติดตามตอนต่อไป/*/
ความคิดเห็น