ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic: Sengoku Basara [High School Love ข้ามมิติมาพบรัก Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : ...นักเรียนใหม่กับระบบที่แสนแปลก...

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 52


    ผมซานาดะ ยูคิมูระ ตั้งแต่วันนี้ไปจะมาอยู่ที่โรงเรียนเซ็นโกคุ บาซาระแห่งนี้ฝากตัวด้วยนะครับ เสียงใสๆ เอยขึ้นอย่างสดใส และเป็นมิตร ใบหน้าที่ดูน่ารักดังหญิงสาวรับกับเส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้เข้มที่ซอยมียาวมัดเป็นหางม้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ในชุดนักเรียนสูทสีเทาประจำโรงเรียน มองเพื่อนใหม่ๆ ในห้องจนมาหยุดกึกที่ริมหน้าต่างเมื่อเห็น เด็กหนุ่มผมสีดำอมน้ำเงิน ใบหน้าหล่อคมสัน มีผ้าปิดตาขวา ดวงตาสีดำทอประกายมองมาทางเขาอย่างตกใจก่อนจะพลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเย็นประดับบนใบหน้าดูแล้วชวนหงุดหงิด

     

    ...นี้ซิที่ว่ายิ่งเกียจ ยิ่งเจอ...

     

    แต่ไม่รู้ทำไมใจเจ้ากรรมถึงเต้นแรงเมื่อสบตานั้น ราวกับว่า...กำลังดีใจ ที่ได้เจอ... ทั้งๆ ที่เขาไม่อยากเจอเลยแท้ๆ

     

    “เอาๆไปนั่งได้แล้วข้างๆ เจ้าซารุโทบิ!!!! จะได้เข้าบทเรียนซะที” ชายหนุ่มผู้เป็นครูเอยขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มได้สติกลับมา และด้วยความรีบร้อนจึง...

     

    //!!!โครม!!!//

     

    เท้าเจ้ากรรมสะดุดขาที่ยื่นมาของเพื่อนล้มหน้าทิ่มล้มกลิ้ง เรียกเสียงฮาจากบรรดาเพื่อนๆ ในห้อง ซึ่งซาสึเกะก็ได้แต่ถอนหายใจยาวกับความราวกับเป็นเรื่องปรกติ เมื่อลุกขึ้นมาก็รีบไปนั่งที่พร้อมกับยิ้มแห้งๆ แก้เขินกลบเกลื่อน ซึ่งนั้นก็อยู่ในสายตาของมาซานุเมะที่มองนั้นยังนึกไม่ถึงกับความซุ่มซ่ามขนาดนี้ แต่ว่ามันก็ทำให้เขารู้สึกสนใจมากขึ้น

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    “นี้ๆ ซานาดะคุงจบมาจากที่ไหนนะ?

    “แหม...ซานาดะคุงมาวันแรกมีคนพาเที่ยวชมโรงเรียนรึจ๊ะ..หาไงชั้นนำทัวดีกว่า?” เด็กสาวเอยถามนักเรียนใหม่ ที่ท่าทางจะตื่นๆ อยู่ เมื่อเจอเหล่านักเรียนชาย-หญิงต่างกันมาทักทาย แต่เจ้ารู้สึกเหมือนถูกจู่โจม จนทำอะไรไม่ค่อยจะถูก


    “ได้ไงล่ะ...พวกชั้นดีกว่านะ” เด็กหนุ่มอีกคนเอยท้วง เสนอตัวเข้ามาบ้าง ทำเอาอีกฝ่ายเริ่มลำบากใจ


    “เฮ้ยๆ...ขอโทษเถอะนะ เจ้านี้ชั้นนำเป็นคนนำเที่ยวเองเพราะงั้นไปกันเถอะ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอยขึ้นขัด และพาออกจากเหล่ากลุ่มชาย
    - หญิงไปทันที ทำให้นักเรียนใหม่เริ่มหายใจหายคอมากขึ้น


    “โธ่...ทำไมช่วยช้านักล่ะซาสึเกะ
    ?!” เด็กหนุ่มร่างบางผมสีน้ำตาลเข้มตัดพ้อ


    “เอาน่าๆ...ไปกันเถอะจะพาเดินชม” ซาสึเกะเอยขึ้นพร้อมกับพานักเรียนใหม่เดินชมโรงเรียน


    “เอ่อ...ไม่ว่าอะไรขอนำทางด้วยคนได้ไหม
    ?ถือว่าเป็นการขอโทษเรื่องเมื่อวานนะ” เสียงหนึ่งเอยขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น ขี้เล่นอันเป็นเอกลักษณ์ จากเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งใหญ่ ผมสีดำอมม่วงเข้ม เอยขึ้น


    “อืมก็ได้...เอ่อ นาย...”


    “ชั้นเคนจิ...มาเอดะ เคนจิ” เจ้าตัวเอยขึ้นแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มอันเป็นมิตร


    “อืม...ชั้นยูคิมูระ ซานาดะ ยูคิมูระ เรื่องเมื่อวานชังมันเถอะนายไม่ผิดซะหน่อย คนที่ผิดยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย...” เจ้าตัวเอยขึ้นพร้อมมองไปยังคู่กรณีที่นั่งมองไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะหันกลับมาสบตากันและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมา เห็นแล้วชวนหงุดหงิดยิ่งนัก


    “ไปกันเถอะ
    !!!” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปทันที ทำให้คู่กรณีนึกขันกับท่าทีแบบเด็กๆ จนเพื่อนตัวแสบผมสีเทาขาวต้องเอยแซว


    “เฮ้ยๆ เก็บอาการทางสีหน้าหน่อย...”


    “...หมายความว่าไงวะ
    ?” มาซานุเมะหันมาแขวะ อย่างไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เพื่อนพูด


    “ก็หน้าแกนะมันบอกว่าสนใจเจ้านักเรียนใหม่มากเลยนะซิ...แต่เจ้านั้น ดูติ๋มๆ เอ๋อๆ แบบนั้นกลัวว่าจะเจอพวกห้องเรารึห้องอื่นมางาบไปเป็น
    สัตว์เลี้ยงนะซิ” โมโตจิกะเอยขึ้นอย่าง เป็นห่วง เพราะเมื่อกี้ที่พวกนักเรียนในห้องต่างไปอ่อกันก็เพราะสนใจในตัวเด็กใหม่ด้วยกนทั้งนั้น ดูตาก็รู้ทันที ซึ่งมาซานุเมะเองก็เงียบไม่พูดอะไรนอกจากจะเห็นด้วยในใจ

     

    //ปิ๊ด...ปิ๊ด//

     

    เสียงดังขึ้นจากมือถือสีน้ำเงินดังขึ้น ทำให้เจ้าของหันมาสนใจดู และพบว่ามีข้อความเข้ามา เมื่อลองอ่านดูก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย อย่างรู้สึกสนุกขึ้นมา


    Hey!!!...โมโตจิกะ วันนี้เจอแต่เรื่องสนุกๆแฮะ” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำออกมาอย่างสนใจ ผู้เป็นเพื่อนก็เข้าใจดีเลยว่ามีอะไร ก็ได้ยิ้มรับ

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ทางด้านซาสึเกะกับเคนจิ ที่พานักเรียนใหม่ผู้น่ารักเดินชมโรงเรียนกันอย่างสนุกสนาน เป็นกันเอง ซึ่งด้วยความอารมณ์ดีและเป็นกันเอง ทำให้ยูคิมูระกับเคนจิเข้ากันได้ดีและรวดเร็ว แต่เคนจิกับรู้สึกคุ้นเคยราวกับว่าเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้ เมื่ออดีตอันแสนไกล ไม่ใช้เมื่อวันก่อนที่มีเรื่องกัน ยิ่งได้คุยกันก็ยิ่งรู้สึกได้


    “นี้ยูคิ...เราเคยเจอกันก่อนหน้านี้รึเปล่า ไม่ใช้เมื่อวานนี้นะ แต่ก่อนหน้านี้อีกนะ” คำพูดที่ดังออกมาก่อนสมองจะสั่งการ ทำเอาทั้งคนฟังและคนพูดอึ่งไปเล็กน้อย ซึ่งคนฟังเองก็ดูจะไม่ค่อยเข้าใจ


    “อ๊ะ...เอ่อ ชังมันเถอะ” เคนจิว่าพลางโบกมือไปมา โดยไม่ต้องสนใจกำคำถามเมื่อครู่ ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าถามออกไปได้ไง


    “...นั้นสินะ...เราอาจจะเคยเจอมาก่อนแล้ว อาจจะเคยเดินชนกัน เดินสวนกัน หรือในอดีตที่แสนไกล...แต่ว่าการได้ที่ได้พบกันนั้น...มันต้องมีความหมายอยู่แล้วล่ะ” คำพูดที่ออกมาพร้อมรอยยิ้มนั้นทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงถึงกับสะอึก และภาพของนักเรียนใหม่ซ้อนทับกับอีกคน ในชุดรบสีแดงสด อย่างหน้าแปลกใจ


    ซึ่งก็ตั้งสติได้เมื่อซาสึเกะเอยทักเรียกให้ไปกันต่อ แต่ว่าภาพเมื่อครู่นั้นทำให้เคนจิรู้สึกสนใจนักเรียนมากขึ้นกว่าเดิม

    ในขณะที่กำลังพาชมโรงเรียนอยู่นั้น นักเรียนใหม่ก็เกิดความสนใจบางอย่างขึ้นมา จึงเอยปากถาม

    “เอ่อ...นี้ซาสึเกะขอถามอะไรหน่อยซิ?


    “อืม...”


    “ทำไมในโรงเรียนนี้ถึงมีคนใส่ปลอกคอกันเยอะจังล่ะ เป็นแฟรชั้นของที่นี้เหรอ
    ?” คำถามเปิดประเด็นนั้นทำให้คนฟังสะดุ้งเล็กน้อย พลางเกาแก้มของคนเวลาคิดอะไรอยู่เป็นนิสัยติดตัวนั้น ถอนหายใจยาวก่อนจะเอยขึ้นว่า


    “เอ่อ...ไม่ใช้หรอกจะว่าไงดีล่ะ...อืม มันเป็น ส่วนหนึ่งของ
    ระบบของที่นี้นะ” คำอธิบายที่ดังขึ้นนั้นยิ่งทำให้อีกฝ่ายงงหนักกว่าเก่า เคนจิจึงพูดเสริม


    “ที่นี้นะมันมีระบบ
    เจ้านาย-ลูกน้อง อยู่...ซึ่งความหมายก็แปลตรงตัวคือคนที่เป็นนายจะสั่งให้ลูกน้องทำอะไรก็ต้องทำ โดยจะมีปลอกคอเป็นตัวบอกว่าใครเป็นนายไงล่ะ”


    “บ้าน่า
    !!!!!แบบนี้มันก็ไม่ต่างกับสัตว์เลี้ยงเลยนะ?!” ยูคิมูระเอยอย่างตกใจกับระบบ ที่สุดแสนจะผิดแปลกนี้


    “ใช้...และต้องเป็นไปจนกว่าจะเลื่อนชั้นด้วย...แล้วถ้าใครไม่ทำตามจะถูกไล่ออกหรือถูกพักการเรียนไปเลยและยิ่งไปกว่านั้นถ้าลาออกเองโดยที่ยังเป็นลูกน้องอยู่ก็จะไม่ได้ใบยื่นยันไปเรียนต่อที่อื่น” คำอธิบายต่อจากซาสึเกะทำเอา ยูคิมูระรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับระบบนี้เลย เพราะมันเหมือนการโดนดูถูกกันมาก แต่ที่เท่าเขาดูๆมาส่วนใหญ่จะมีปลอกคอและการแสดงความเป็นเจ้าของทั้งนั้น มันทำให้เขารู้สึกเหมือนหลงมาผิดที่ยังก็ไม่รู้


    “นี้ตรงนั้นนะ
    !!นี้มันเริ่มคาบบ่ายแล้วกลับห้องไปซะ!!!” เสียงของเด็กหนุ่มมาดผู้ใหญ่ผมและดวงสีดำขลับเอยขึ้นต่อว่าพวกเขาที่กำลังเดินคุยกันอยู่ โดยมีเด็กหญิงใบหน้าหวานแต่เศร้าๆ ยื่นอยู่ด้านหลัง


    “หวา
    ~~~~ประธานนักเรียนฝ่ายวินัย อาซาอิ นากามาสะ มาแย้วเผ่นเร็วยูคิมูระ!!!!” เคนจิว่าพร้อมกับพาร่างบางออกวิ่งโดยมีซาสึเกะขอโทษที่เข้าห้องสายก่อนจะวิ่งตามมา จนมาถึงตึกเรียนของตนเอง


    “สองคนนั้นใครเหรอ
    ?” ยูคิมูระเอยถามขณะเดินไปเข้าห้องเรียน


    “อ๋อ...ประธานกับรองประธานนักเรียนฝ่ายวินัยนะ” ซาสึเกะเอยอธิบาย


    “คนที่เป็นประธานคือตัวผู้ชายปี
    3 ชื่อ อาซาอิ นากามาสะ ส่วนรองก็ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังชื่อ โออิจิ นะ...แต่ว่าท่านหญิงนะไม่เท่าไรแต่ประธานนี้ซิ...ตัวเรื่องมากที่สุดเลยแค่ผิดระเบียบนิดหน่อยก็เรื่องยาวติดเป็นหางว่าวเลย” เคนจิว่าขึ้นต่ออย่างนึกรำคาญถ้าเกิดไปมีเรื่องกับเจ้าประธานเรื่องมากคนนั้น


    “เหรอ...พวกเขาก็อยู่ในระบบเจ้านายอะไรนั้นด้วยใช่ไหม
    ?


    “อืม...รู้ด้วย” เคนจิเอยอย่างแปลกใจ


    “ก็เห็นผู้หญิงใส่ปลอกคอก็เลยคิดแบบนั้น” ยูคิมูระว่าพลางชี้ไปที่คอให้ได้นึกภาพ


    “อืม...ใช้แล้วล่ะ เจ้านายก็จะมีป้ายเล็กๆ หรือตุ่งติงติดไว้ที่ปกเสื้อให้ตรงกับป้ายเล็กๆ ที่ปลอกคอของลูกน้องตนเองให้รู้ว่าใครเป็นนายไง” ซาสึเกะเอยเสริมขึ้นพลางมองนักเรียนใหม่ที่กำลังทำหน้าไม่ค่อยชอบเรื่องแบบเท่าไรนัก


    “เอาน่า...อีกหน่อยก็ชินเองเอาล่ะเข้าเรียนกันเถอะ” พูดจบก็เปิดประตูขอเข้าเรียนต่อภาคบ่ายที่แสนน่าเบื่อต่อ แต่ว่าสำหรับยูคิมูระแล้ว เขาคิดว่าเป็นระบบที่แปลกและมันเหมือนการโดนดูถูกทำให้เขาไม่คิดจะสนใจมันอีก แต่เขาไม่รู้หลอกว่ามันพึ่งจะต้นเท่านั้น...

    //TBC.//

    --------------------------------================================================---------------------------

    ส่งท้าย~~~~มาอัพแล้วจร้าๆๆๆๆๆๆ อย่าลืมเม้นกันนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×