ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic: Sengoku Basara [High School Love ข้ามมิติมาพบรัก Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : ...พบเจอ...

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 52


    ในปัจจุบัน ปี 2xxxx

    ...ใครกันนะ...

    ...ทำไม่ใจของเราถึงโหยหานัก...

    ...ทำไมถึงทรมานเมื่อไม่ได้สัมผัส...


    ...คิดถึงรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้น...


    ...อย่าไปเลย...

     

    “อย่าไปนะ!!!!” เสียงออกทุ้มเอยขึ้นด้วยความตกใจ และภาพตรงหน้าเขาคือเพดานห้องนอนที่แสนคุ้นเคย และมือของเข้าที่ยกขึ้นเหมือนกับจะคว้าอะไรไว้ ก่อนจะเอาลงและลุกขึ้นนั่งเรียกสติตนเอง

     

    “เฮ้ย...ฝันไปอีกแล้วซิ” เด็กหนุ่มผมสีดำอมน้ำเงินซอยสั้น ดวงตาสีดำและบอดข้างขวาสถบออกมาเบาๆ พลางนึกถึงความฝันที่วนเวียนเขามาตั้งแต่จำความได้ ภาพแผ่นหลังของใครบางคนที่แสนโหยหา เส้นผมสีน้ำตาลเข้มซอยรวบหางม้าตัดกับชุดนักรบสีแดงอย่างลงตัว ใบหน้าและดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่แสนอ่อนโยนเข้มแข็งกว่าใครๆ ประดับรอยยิ้มอันอบอุ่น แต่ไม่ว่าจะพยายามคว้าแค่ไหน ก็ไม่อาจทำได้ เพราะยิ่งวิ่งเข้าไปหาก็ยิ่งถอยห่างออกไปและเจ้าตัวก็ไม่เข้าใจตนเองเลยว่าทำไมถึงได้ฝันแบบนี้มาตลอดหลายปี พอไปถามเจ้าอาวาสวันทาเคเซ็นโต ก็บอกแค่ว่ามันเป็นความฝันบอกถึงการพบปะคนคนหนึ่งที่สำคัญกับเรา และเป็นเจ้าของสร้อยคอเหลียนทองหกเหลียนที่มาติดตัวมาตั้งแต่เกิด ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อ

     

    “ให้ตายเถอะ...ไร้สาระจริงๆ” พูดจบเจ้าตัวก็ลุกขึ้นจากเตียงตรงไปอาบน้ำแต่งตัวและออกจากบ้านไปอย่างเซ็งๆ เดินไปเลื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟฟ้าที่เริ่มมีผู้คนพลุกพล่าน แต่ว่าเจ้าตัวไม่ค่อยชอบฝูงชนเท่าไรจึงแอบไปหลบคนที่ท้ายตู้โดยสายตามองไปยังตึกลาง บ้านเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน ต่างทำงานและหาเลี้ยงชีพแข่งกับเวลา

     

    //!!โครม!!//

     

    เสียงโครมครามดังขึ้นจากกลุ่มเด็กสองสามคนที่ดูจะเป็นจิ๊กโก๋ซึ่งดูก็รู้ว่าเป็นจิ๊กโก๋ประจำถิ่น กำลังหาเรื่องเด็กชายที่ใส่เครื่องแบบโรงเรียนเดียวกับพวกจิ๊กโก๋ แต่ว่าคนเยอะทำให้ไม่เห็นหน้าตา นอกจากเส้นผมสีน้ำตาลซอยมีหางยาว ถูกรวบไว้เท่านั้น ซึ่งคิดได้ว่าท่าทางคงจะติ๋มๆ เห็นแล้วชวนสังเวทนัก แต่ว่ามันก็ไม่ใช้เรื่องที่เขาจะไปแส่ด้วย พอถึงสถานีพวกมันก็ลากเด็กคนนั้นลงไปด้วย ทำให้บรรดาคนยื่นมองต่างพากันสงสาร แต่ไม่ยอมทำอะไรเพื่อช่วยเลย เห็นแล้วยิ่งสังเวทมากกว่า ซึ่งก็รวมถึงเขาด้วย พอคิดแบบนั้น...

     

    //!!แอ้ด!!//

     

    เสียงกำลังจะปิดประตู เด็กหนุ่มตาเดียวก็วิ่งออกมาจากรถไฟ และตรงไปยังสถานีที่พึ่งเลยมาซึ่งเขาจำได้ว่าสถานีนี้ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำที่สุด แค่ 5 นาทีก็ถึงจึงรีบวิ่งไปทันที


    พอไปวิ่งลงไปได้ไม่ทันพ้นสถานีก็ต้องตกใจมาก เมื่อมีคนมุ่งดูพวกจิ๊กโก๋เหล่านี้นอนหมดสภาพอยู่ข้างตึกร้านขายของ ซึ่งดูก็รู้ว่ามีฝีมือจัดการได้เร็วและแน่นอนมาก ทำให้เด็กหนุ่มชักอยากรู้จัก


    “เห็นแล้วเลือดนักสู้เดือดพล่านเลยล่ะสิมาซานุเมะ” เสียงหนึ่งเอยแซวจากด้านหลังของตน


    “อ้าว...ฝีมือของเคนจิหรือโมโตจิกะล่ะ” เด็กหนุ่มตาเดียวเอยขึ้นพร้อมยิ้มเยาะให้กับเพื่อนทั้งสอง


    “เสียใจด้วย...ไม่ใช้เราทั้งคู่นะ เพราะพวกเรามาถึงพวกนั้นก็โดนจัดการไปแล้วรู้สึกเป็นการตีกันเองของนักเรียนโรงเรียนพวกมันนะ” เสียงออกทะเล้นจากปาก ของเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ ท่าทางขี้เล่นผมสีดำอมม่วงเข้มซอยปิดคอ และดวงตาสีน้ำตาลเข้มอมดำ และมีลิงเกาะอยู่ที่บ่านาม ...มาเอดะ เคนจิ...


    “ตอนแรกที่เห็นเป็นพวกทาเคอิที่มีเรื่องกับแกอยู่ เลยนึกว่าเป็นฝีมือแกซะอีก...” เด็กหนุ่มที่สูงใหญ่ไม่แพ้กัน ผมขาวและดวงตาสีเทา ใบหน้าคมสันมีผ้าปิดตาที่ข้างซ้ายนาม...โจโซคาเบะ โมโตจิกะ...


    “ยังไงก็ชังมันเถอะเสียเวลาจริงๆ ไปกันเถอะ” มาซามุเนะว่าอย่างเสียอารมณ์และเดินออกไปจากตรงนั้น อย่างเซ็งๆ โดยหารู้ไม่ว่ามีพวกหนึ่งแอบมองอยู่

     

    ---------------------------------------------++++++++++++++++++++++++++---------------------------------------

     

    “ดูท่านายจะได้จม.ท้ารบจากทาเคอิอีกแล้วนะ...มาซามุเนะ” เสียงหนึ่งเอยแซวเพื่อนหนุ่มจอมทะเราะวิวาทของห้อง ที่กำลังนั่งเซ็งๆ มองจม.ในมืออย่างเอื่อมๆ ในห้องเรียนของตน

    “ถึงจะอย่างงั้นนะ...แต่ดูไปแล้วมันกำลังเข้าใจผิดอยู่นะซาสึเกะ” เคนจิเอยขึ้นเมื่อลองอ่านเนื้อหาแล้ว กับเพื่อนร่วมก็วนที่มีใบหน้าดูดีน่ารักผมสีน้ำตาลตั้งๆ ที่ทำตัวเป็นนินจาชอบผุบโผล่มาไม่ทันตั้งตัว

    “เห?

    “ก็มันหาว่าเราไปจัดการพวกมันเมื่อตอนเช้าเลยนัดเจอกันเพื่อแก้แค้นนะ...งี่เง่าจริงๆ แต่ก็ดีกำลังเซ็งจะได้หาอะไรทำยืดเส้นหน่อย ไงจะไปด้วยกันไหมล่ะซาสึเกะ?” มาซามุเนะเอยขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้มน่ากลัว

    “ไม่ล่ะ...ขอบายเพราะชั้นติดธุระกับคนสำคัญนะซิ” เจ้าตัวเอยพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนเพื่อนๆต่างสงสัย


    “แกนัดกับโคจูโร่ตอนไหนฟะ
    ?” มาซามุเนะเอยถามอย่างแปลกใจที่เจ้าเพื่อนตัวแสบแอบนัดเที่ยวกับผู้แลของเขา


    “เปล่า...ไม่ใช้คุณโคจูโร่แต่เป็นคนที่พิเศษกว่านั้นเยอะ” ซาสึเกะเอยต่อ


    “เฮ้ย
    !!นี้แกคิดนอกใจรึไงวะ!!!” โมโตจิกะว่าแซวพร้อมกับหัวเราะ


    “ไม่ใช้กิ๊กโว้ย
    !!คนนี้เขาเป็นผู้มีพระคุณกับชั้น...แล้วเขาจะย้ายมาโรงเรียนเราพรุ่งนี้เลยว่าจะพารับชุดเครื่องแบบด้วยกันและคุณโคจูโร่ก็รู้แล้วด้วย!!” ซาสึเกะต่อว่ากลับใส่ เพราะปาดเพื่อนแสนดีเกือบทำแฟนเลิกกัน


    “จริงนะ
    !!ผู้หญิงรึชายล่ะ?!!” เคนจิเอยขึ้นอย่างตื่นเต้น


    “ไม่บอกรอดูพรุ่งก็แล้วกัน” ซาสึเกะว่าให้ได้ตื่นเต้น แต่ว่าพ่อหนุ่มตาเดียวผมสีดำอมน้ำเงินไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรเท่าไร


    “เอาเถอะ...ชั้นจะไปแล้วพวกแกจะไปด้วยไหมล่ะเคนจิโมโตจิกะ
    ?” มาซามุเนะหันมาถามพร้อมกับเก็บกระเป๋าเดินออกจากห้อง


    “งานนี้พลาดได้ไง” เคนจิเอยอย่างกระตื่อรื้อรนมาก


    “ชั้นก็”


    “โจโซคาเบะนั้นไม่ทราบว่าจะไปไหนรึครับ
    ?” เสียงแสนเหยือกเย็นเสียวสันหลังดังขึ้น จากเด็กหนุ่มหน้าสวยผมม็อบดวงตาและผมสีน้ำตาลกำลังมองมาอย่างเอาเรื่อง ทำเอาอีกฝ่ายเริ่มเหงือแตก


    “มะ...มีอะไรล่ะ โมริ โมโตนาริ...”


    “นายต้องอยู่ทำเวรวันนี้ไม่ใช้รึไง” เสียงที่เหยือกเย็นเข้ากระดูกทำเอาอีกฝ่ายมองที่พรรคพวก กำลังโบกมือลา และส่งสายตาขอไปสู่ที่ชอบๆ ทำเอาคนพึ่งพิงคอตกต้องรับกรรมทำเวรไป


    เมื่อทั้งคู่ออกมาจากโรงเรียนก็ตรงดิ่งไปที่จุดนัดพบซึ่งก็คือใต้สะพานรถไฟ ซึ่งพอไปถึงเห็นพวกมันกำลังนั่งรอและมีพรรคพวกมากันเยอะ ใจกลางดงคนเหล่านั้นมีเด็กหนุ่มกับเด็กสาว โรงเรียนเดียวกันกำลังถูกรังแกอยู่


    “พวกแกจับพวกชั้นมาเพื่อเรื่องแค่นี้นะไอ้บ้า
    !!!!” เด็กสาวโวยวายใส่


    “ใช่เพราะเพื่อนแสนน่ารักของแกทำชั้นแสบมากเมื่อเช้า...เลยว่าจะสั่งสอนมันซะหน่อยอีกอย่างชั้นมีของสำคัญอยู่ด้วยรับรองว่ามันต้องรีบมาแน่ๆ” เด็กหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเอยขึ้นอย่างนึกล้างแค้นเต็มที่ ในขณะที่มองพวกเขา และนึกถึงบทการล้างแค้น


    “แก
    !!มันไอ้เลว!!” เด็กหนุ่มต่อว่าอย่างเหลืออด แต่กลับถูกเตะเข้าอย่างจังจนจุกไปหมด


    “เฮ้ย...ถ้างั้นก็ไม่เห็นต้องเรียกชั้นมาก็ได้นี้...ไอ้ลูกหมาขี้แพ้” คำถากถานดังขึ้นทำให้ทุกสายมองไปที่ต้นเสียงที่กำลังเดินมาใกล้


    “แกดาเตะ มาซามุเนะ มาที่นี้ได้ไง
    ?!!!!” ทาเคอิเอยขึ้นอย่างตกใจอย่างนึกไม่ถึง


    “ก็พวกแกเรียกมาเอง...ชั้นก็มาแล้วนี้” เด็กหนุ่มเอยขึ้นด้วยสายตาหาเรื่องเต็มที่ ซึ่งก็ทำเอาพวกทาเคอิหวาดๆ


    “ชั้นไม่รู้โว้ย
    !!แต่ไหนแกก็มาให้เชือดถึงที่ก็จัดการแกก่อนเลย...เฮ้ยลุย!!” เมื่อสิ้นคำสั่งบรรดาลูกน้องเข้าไปจัดการ แต่ก็กลายเป็นว่าถูกจัดการซะเอง โดยมีเคนจิช่วยเล็กๆ น้อยๆ ทาเคอิเริ่มเห็นท่าไม่ดีก็เตรียมตัวหนี้ แต่ก็ไม่รอดถูกจัดการลงไปสลบคาที


    “ให้ตายซิ...นึกว่าจะได้สนุกกว่านี้น่าเบื่อจริงๆ” มาซามุเนะสถบออกมาเบาๆ อย่างเบื่อหน่าย ที่สู้กับใครแล้วไม่สนุกค่อยสนุกเลย


    “เอมิจัง
    !!คุโรกิไม่เป็นไรนะ?!!!!” เสียงออกหวานทุ้มๆ เอยขึ้นเรียกชื่อเพื่อนๆ พอหันไปมองก็เห็นเด็กสาวไม่ซิ...เด็กหนุ่มสวมหมวกแก็ปในชุดโรงเรียนเดียวกับพวกทาเคอิวิ่งมาหาเพื่อนๆ


    “ยูคิจัง
    !!ไม่เป็นหลอกจ๊ะ...พวกคนนั้นเขาช่วยเราไว้นะ” เด็กสาวเอยขึ้นบอกขณะที่ได้แขกมาใหม่ช่วยแก้เชือกให้ทั้งคู่ พอหลุดออกมาก็เดินไปทางผู้มีพระคุณ


    “เอ่อ...ขอบคุณที่ช่วยนะค่ะ” เด็กสาวเอยขึ้นพร้อมก้มหัวขอบคุณ แต่อีกฝ่ายกลับมองมาอย่างดูถูกและเย็นชา


    “เฮอะ...กองไว้ตรงนั้นแหละ อีกอย่างชั้นไม่ได้มาช่วยพวกแกหลอกนะ แค่เจ้าพวกนี้มันมาท้าชั้นสู้ชั้นก็มาเท่านั้น เรื่องอะไรชั้นต้องไปช่วยพวกสิ่งมีชีวิตอ่อนแอน่าสงสาร น่าสังเวชอย่างพวกแกด้วยล่ะ” คำพูดดูถูกดังขึ้น ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก และสายตาที่มองมาก็ชังน่ากลัว จึงทำให้เคนจิรีบเข้าไปแก้ต่าง


    “เฮ้ย
    !!พูดแบบนั้นได้ไง...เอ่อขอโทษนะชังมันเถอะ...เราไปก่อนนะ!!” ว่าแล้วเคนจิก็รีบพาเจ้าปากดีที่กำลังอารมณ์เสียไปจากตรงนั้น แต่ว่าก็ถูกเด็กหนุ่มหมวกแก็ปดักทางไว้ไม่ให้ไป


    “อย่าพึ่งไปซิ...”


    “หา
    ?


    “ถึงนายจะพูดแบบนั้นพวกชั้นก็ขอบคุณที่ช่วยไว้...ขอบคุณมาก
    !!!!” เด็กหนุ่มเอยขึ้นพร้อมกับก้มโค้งขอบคุณ ทำเอาบรรดาคนมองต่างตกใจและยังงงๆ อยู่


    “และนี้...”


    //
    !!ผั่วะ!!//


    หมัดขวาตรงเข้าไปที่หน้าหล่อคมนั้นอย่างจังทำเอาเซจนไปชนกับเคนจิเข้าอย่างจัง ทำเอาบรรดาคนยื่นมองรวมถึงคนถูกต่อยอึ่งทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อความเจ็บและชาเริ่มเกิดที่ใบหน้า ก็ค่อยๆ หันไปคู่กรณีที่บัดนี้หมวกแก็ปหลุดออกให้เห็นใบหน้าอันน่ารัก ดังเด็กสาว เส้นผมซอยมีหางผมยาวลงสยายรับลมและดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้น ทอประกายไปด้วยความโกธร และจริงจัง ทำให้เกิดนึกถึงภาพคนในความฝันซ้อนทับกับคนคนนี้ ราวกับต้องมนตร์สะกด


    “นั้นเป็นส่วนที่นายว่าเพื่อนชั้น และจะบอกอะไรให้ถึงนายช่วยไว้มีพระคุณล้นฟ้า...แต่ก็ใช่ว่าจะมาดูใครต่อใครได้นะเจ้าบ้า
    !!!!” พูดจบก็เดินมาเก็บหมวกและทำท่าจะออกจากตรงนั้นไปพร้อมกับเพื่อนๆ แต่ว่าถูกมาซานุเมะจับแขนรั่งไว้


    Ho…พูดจบก็จะเดินไปแบบนี้มันไม่น่าเกียจไปหน่อยรึไง...อย่างน้อยก็น่าจะบอกชื่อให้รู้กันก่อนซิเผื่อว่าเราได้เจอกันอีก...” อีกฝ่ายเอยขึ้นอย่างนึกสนุก แต่อีกฝ่ายไม่สนุกด้วยจึงสะบัดแขนออก


    “ไม่บอกและก็ไม่อยากรู้จักนายด้วยเจอกันแค่ครั้งเดียวเกินพอ
    !!ลาก่อน!!” พูดจบก็เดินลากเพื่อนไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ทำเอาเคนจิที่ยื่นมองดูอยู่ตลอดยังอึ่งๆ อยู่


    “...โฮ่...พึ่งเจอคนกล้าสั่งสอนนายด้วยกำปั้นกับด่านายตรงๆ เลยนะเนี้ย” เคนจิเอยอย่างนึกอึ่งๆ


    “นั้นซิ...ขนาดโคจูโร่ยังไม่เคยชกสั่งสอนชั้นเลย” เด็กหนุ่มตาเดียวเอยขึ้นพลางลูบแก้มตนไปด้วย อย่างนึกสนุก และความรู้สึกที่คุ่นเคย โหยหา และเหนืออื่นใดคือ...ดีใจ...ที่ได้เจอ อย่างไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น และไม่ว่ายังไงเขาต้องรู้ให้ได้ว่าคนๆ คือใคร

     

    -----------------------------------------++++++++++++++++++++++++++++++++---------------------------------

     

    อีกด้านเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเดินมาพร้อมเพื่อนๆ ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ขณะที่กำลังไปขึ้นรถไฟฟ้า


    “อะไรกันนะเจ้าบ้านั้น
    !!พูดจาใหญ่ตัวจริงๆ!!!” เด็กหนุ่มบ่นออกมาอารมณ์เสียสุดๆ


    “เอาน่าๆ ยังไงก็ตามพวกชั้นก็ดีใจนะที่นายทำเพื่อพวกเรานะ แต่ว่าพอคิดว่าพรุ่งนี้นายก็ย้ายไปแล้ว มันก็เหงาๆ นะ” เด็กหนุ่มผมและดวงตาดำขลับเอยขึ้นอย่างเสียดาย ที่เพื่อนเขาจะย้ายโรงเรียนไปแล้ว


    “พูดอะไรแบบนั้นล่ะคุโรกิ...ถึงจะย้ายไปก็ใช้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกเลยนะ แค่ไม่ได้เจอกันทุกวันเท่านั้นเอง” เด็กสาวใบหน้ารักผมทองเอยขึ้นท้วงเพื่อนหนุ่มที่กำลังเสียใจ


    “จริงอย่างเอมิจังว่า...เอาล่ะ
    !!ลืมเรื่องต่างๆให้หมดแล้วไปกินกันให้เต็มคราบกันเถอะ...แถมซาสึเกะจองห้องคาราโอเกะให้ด้วยล่ะ!!!” พูดจบเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มด้วยรอยยิ้มอันสดใสและตรงไปที่นัดไว้ โดยตั้งใจไว้ว่าจะไม่ขอเจอคนแบบนั้นอีก แต่ชะตามักจะเล่นตลกเสมอ...

     

    --------------------------------------------------++++++++++++++++++++++----------------------------------------


    -วันต่อมา-


    “เฮ้ย...ซาสึเกะผู้มีพระคุณแกมาเรียนนี้อยู่ห้องไหนปีอะไรวะ
    ?” โมโตจิกะเอยถามอย่างอยากรู้โดยมีเคนจิเองก็มานั่งหน้าส่งสายตาอยากรู้เหมือนกัน มีเพียงที่มาซานุเมะที่ไม่ค่อยสนใจมองไปข้างนอกนึกถึงเด็กหนุ่มคู่กรณีเมื่อวาน


    “รุ่นเดียวกันห้องเดียวกับเรานี้แหละ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอยตอบพร้อมยิ้มกวนๆ ทำเอาเพื่อนๆ ยิ่งอยากรู้จักมากขึ้น


    “เอาๆนั่งที่โว้ยพวกตัวแสบทั้งหลาย” เสียงจากชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำย่ำ เคราขวา ใบหน้าคุมเข้มน่ากลัวเอยขึ้น ซึ่งพวกนักเรียนก็ปฏิบัติตามทันที


    “วันนี้เรามีเพื่อนใหม่มาร่วมห้องด้วยเข้ามาได้
    !!!!” พูดจบประตูก็เปิดออก และเมื่อบุคคลเดินเข้ามาในห้องนั้นทำเอาเด็กหนุ่มตาเดียวผมสีดำอมน้ำเงิน ดวงตาสีเทาฟ้าทอประกายตกใจมาก ซึ่งเคนจิเองก็ตกใจไม่แพ้ใจกัน เมื่อเห็นนักเรียนใหม่เป็นเด็กหนุ่มหน้าหวาน น่ารัก เส้นผมซอยมีหางผมยาวลงสยายรับลมและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม แลดูสดใสรับกับรอยยิ้ม


    “ผมซานาดะ ยูคิมูระ ตั้งแต่วันนี้ไปจะมาอยู่ที่โรงเรียนเซ็นโกคุ บาซาระแห่งนี้ฝากตัวด้วยนะครับ”

    //TBC.//

    -----------------------------------------------=++++++++++++++++++++++++++++++=----------------------------------

    ส่งท้าย...อ่านกันแล้วอย่าลืมเม้นให้กันบ้างนะค่ะ

    ปล. ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ชื่อของเคนจิในตอนที่แล้วคือ "มาอิดะ เคจิ" ความจริงต้องเป็น "มาเอดะ เคนจิ" ต้องขออภัยจริงๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×