ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic naruto]สัญญาใจ จิ้งจอกที่รัก

    ลำดับตอนที่ #15 : เตรียมตัวเข้าพิธี...แก้ไข[100%]

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 51


    ทักทายกันซักนิด...ผม อุซึมากิ นารุโตะครับ เนื่องจากเจ๊บีแกใกล้ลงโรงเต็มทน ผลมาจากสอบเอ็นสะท้านที่เพ่งเสร็จไป และต้องมาลุยสอบตรงต่อ ผมเลยจะมาบรรยายเรื่องแทนนะครับ...ฝากตัวด้วยนะครับ...

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    'นี้สัญญาแล้วนะ' เสียงในห่วงความคิดดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองเห็น เด็กน้อย4คนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานใต้ต้นไม้ใหญ่ รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพรรณ

    'อืม...สัญญาเลยท่านพี่...ผมกับนาคุรุจะเป็นเด็กดีรอพวกพี่กลับมา' เสียงเด็กน้อยดังขึ้น คนที่สูงกว่าดึงเด็กทั้งสองรวมถึงนาคุรุที่เด็กมากๆ มากอด แล้วจู่ๆ ก็ลมแรงขึ้นซะจนไม่ได้ยินเสียงคุยกันและภาพทั้งหมดก็หายไป

    //กริ๊ง~กริ๊ง~//

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำเอาผมปวดหู ผมยกมือขึ้นจะปิดแต่เอื่อมเท่าไรก้อไม่ถึงซะที มันออะไรนักหนาวะ พอลองเอาผ้าห่มที่ห่อตัวออก ผมก็ตกใจมากจนร้องออกมา

    "เฮ้ย!!!ไอ้!!!" คือเจ้าบ้าซาสุเกะมันมุดมานอนกอดผมทั้งคืน แต่ซำร้ายกว่าคืนพอผมอ้าปากร้องมันก็ลุกขึ้นจูบผมทันที่ ไอ้นี้มันโรคจิตรึไงถึงชอบมาจูผมจัง แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหลอกนะสึกรู้ดีด้วยซ้ำ...เฮ้ยได้ไงมันกับก็ผู้ชายเหมือนกัน พอคิดแบบนั้นผมจึงร้องเตือน แล้วซาสุเกะก็ปล่อยให้เป็นอิสระ ผมรีบหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปทันที แต่มันกับนอนสบายอารมณ์ทำหน้ากวนโอยแต่เช้า

    "แกเข้ามาทำบ้าอะไรแต่เช้าได้ทุกวันหาแล้วยัง..." ผมตะวาดกลับพลางเขยิบหนี แต่มันดันยันตัวลุกขึ้นทำให้รู้ว่ามันมานอนกอดผมทั้งคืนโดยไม่ใส่เสื้อ ทำให้ผมรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกก็ เพราะซาสุเกะนั้นสูงดูกำยำสมชายกว่าผมเยอะเลย มันทำให้เจ็บที่เกิดมาหน้าตาหน้ารักเหมือนผู้หญิง ร่างกายก็ดูบอกบางล่อพวกหื่นอีกคิดแล้วก็เศล้าT.T

    "อ้าวละชังหิวแล้วนายไปอาบน้ำก่อนชั้นจะทำกับข้าวให้หรือจะให้ชั้นกินนายเป็นอาหารเช้าดี" ซาสุเกะว่าพลางยืนหน้ามาใกล้

    "ไม่ดี!!" แล้วผมก็รีบลุกออกจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ตอนนี้ผมอยู่กับซาสุเกะในแมนชั้นห้องของซาสุเกะมาได้เกือบเดือนแล้ว ในฐานะของผู้ทำ 'สัญญา' ตอนแรกก็มีปากเสียงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ด้วยกัน บางครั้งก็เห็นสีหน้าต่างๆ ที่ไม่ได้เห็นในโรงเรียน อย่างตอนยิ้มหรือคำพูดปลอบโยนตอนที่ผมเล่าเรื่องเมื่อตอน 5 ขวบให้ฟังเขาก็ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเจ้าซาสุเกะมันก็นิสัยดี เวลาอยู่ใกล้ๆ แล้วสนุกดี

    เสียอย่างเดียวที่มันชอบมาแกล้งผม แหย่ทางคำพูดบ้าง รึ จู่ๆ ก็เข้ามาจูบ ก็แปลกดีที่ผมไม่รู้สึกขยะแขยงรึรังเกียจออกจะรู้สึกด้วยซ้ำ แต่ซาสุเกะก็ไม่เคยทำอะไรเกินกว่านั้น

    หลังจากจัดแจงกิจเสร็จผมก็ออกมาในชุดเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อเขนกุดมีฮูดสีน้ำตาลกางเกงยีนส์ ส่วนซาสุเกะนั้นหายไปไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มันทำอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นเสร็จแล้ว แต่หน้าตามันไม่หน้าทานเลย ง่ายๆ ก็คือมันทำอาหารไม่หน้าทาน แต่พอยัดลง เพราะงั้นผมเลยเป็นคนจัดแจงเรื่องกับข้าวซะส่วนใหญ่

    "อ้าวไม่ทานเหลอ" เสียงทักดังขึ้นผมจึงหันไปมองซาสุเกะที่พึ่งออกจากห้องน้ำที่อยู่ข้างห้องนั่งเล่น

    "ไม่ล่ะแค่เห็นก็อิ่มแล้ว" ผมว่าพลางมองไปที่อาหารเช้า พลางทำหน้าแหย่

    "ตามใจชั่นกินเองก็ได้" ว่าแล้วซาสุเกะมันก็เดินไปนั่งกิน แต่แค่คำเดี่ยวเท่านั้นหน้ามันก็เหง่อแตก ผมรู้ทันที่ว่าโชคดีที่ยังไม่กิน แต่มันยังคงรักษามาด (หน้าเตะ) กินต่ออย่างกล้ำกลืน ผมจึงเดินไปห้องครัวและหยิบไข่ออก ทำเป็นไข่ดาวและทอดแฮมหมู 4-5 ชิ้น และยกมานั่งกินด้วย

    "นี้ถ้ากินไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนกินนี้แทนล่ะกัน" ผมว่าแต่ในใจก็นึกไม่ถึงว่าคนเก่งคนดังจะทำอาหารไม่เป็น

    "นารุโตะมานี้ดิ" เจ้าซาสุเกะมันว่าผมก็เดินมาอย่างงง แต่ก็ถูกมันดึงมาจูบ(อีกแล้ว) แต่คราวนี้มีลิ้นเข้ามาด้วย มันจะอะไรนักหนาแต่ว่าทำไม่ถึงจูบต่างจากทุกที่ผมรู้สึกอย่างงั้น แต่พอถอนออกมาผมตั้งใจจะถามแต่มันชิงพูดก่อน

    "ขอบใจสำรับจูบล้างปากนะ" ผมแทบอยากจะประเคนหมัดใส่เป็นหนักหนา แต่ท้องเจ้ากรรมดังร้องขึ้นมาซะก่อน เจ้าซาสุเกะเลยขำออกมา ส่วนผมอายแทบอยากโดดตึก แล้วผมก็ประชดกินข้าวอย่างมูมมาม โดยไม่รู้เลยว่าซาสุเกะมันมองผมอยู่และยิ้มอย่างอ่อนโยน

    หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จพวกผมก็ไปเจอครูคาคาชิกับครูอิรูกะที่หน้าบ้าน และนั่งรถไปยังที่บ้านของตระกูลนามิคาเสะ หลังจากนั่งผ่านมาครึ่งชม.ก็ถึง ทำเอาผมต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก คือบ้านเป็นแบบญี่ปุ่นทั้งใหญ่โตและกว้างขวาง แต่ดูเงียบเหงา หลังจากเดินเข้ามาได้พอสมควร ผมก็รู้ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ จึงเดินไปดูที่ต้นไม้ใหญ่เห็นเด็กผู้หญิงกำลังจะตกจากต้นไม้ แต่ดูท่ากิ่งไม้จะรับน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลงมาทำใหเด็กสาวล่วงลงมา

    "กริ๊ด!!!!"

    //ตุบ//

    "โอย~เป็นอะไรมั่ง" ผมถามขึ้น หลังจากวิ่งไปรับเด็กสาวได้ทัน อยู่บนตักผมทุกคนก็ตามมาดู เมื่อเจ้าหล่อนเริ่มหายกลัวเงยหน้าขึ้น ผมต้องตกใจอย่างมากคือ หน้าตาเหมือกับรุ่นพี่เฮงซวยฮิวงะ เนจิ แต่ดูน่ารักกว่าเยอะ แตจู่ๆ ก็หน้าแดงขึ้นมาก้มหน้างุดๆ

    "เอ่อ...ขอบคุณนะค่ะที่ช่วย"

    "ไม่เป็นไรแต่จะดีมากถ้าช่วยลุกขึ้นนะ"

    "อุ้ยขอโทษค่ะ" ว่าแล้วคุณเธอก็ลุกขึ้นโดยมีครูคาคาชิช่วยพยุง ส่วนผมก็มีซาสุเกะช่วยดึงขึ้นมา

    "ต้องขอโทษและขอคุณจริงๆนะค่ะ" ว่าแล้วก็ก้มหน้าลาวสำนึกผิดมากๆ

    "ชังมันเถอะว่าแต่ชื่ออะไรเหลอ" ผมถามด้วยความใคร่รู้ แต่มีเสียงอื่นตอบขึ้นมาแทน

    "ฮินาตะเป็นอะไรรึเปล่า" เสียงห้าวออกหนาวดังขึ้น ทำให้ผมให้ไปมอง

    "นาคุรุ" ใช่แล้วน้องสาวฝาแฝดของผมเอง
    ทักทายกันซักนิด...ผม อุซึมากิ นารุโตะครับ เนื่องจากเจ๊บีแกใกล้ลงโรงเต็มทน ผลมาจากสอบเอ็นสะท้านที่เพ่งเสร็จไป และต้องมาลุยสอบตรงต่อ ผมเลยจะมาบรรยายเรื่องแทนนะครับ...ฝากตัวด้วยนะครับ...

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    'นี้สัญญาแล้วนะ' เสียงในห่วงความคิดดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองเห็น เด็กน้อย4คนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานใต้ต้นไม้ใหญ่ รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพรรณ

    'อืม...สัญญาเลยท่านพี่...ผมกับนาคุรุจะเป็นเด็กดีรอพวกพี่กลับมา' เสียงเด็กน้อยดังขึ้น คนที่สูงกว่าดึงเด็กทั้งสองรวมถึงนาคุรุที่เด็กมากๆ มากอด แล้วจู่ๆ ก็ลมแรงขึ้นซะจนไม่ได้ยินเสียงคุยกันและภาพทั้งหมดก็หายไป

    //กริ๊ง~กริ๊ง~//

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำเอาผมปวดหู ผมยกมือขึ้นจะปิดแต่เอื่อมเท่าไรก้อไม่ถึงซะที มันออะไรนักหนาวะ พอลองเอาผ้าห่มที่ห่อตัวออก ผมก็ตกใจมากจนร้องออกมา

    "เฮ้ย!!!ไอ้!!!" คือเจ้าบ้าซาสุเกะมันมุดมานอนกอดผมทั้งคืน แต่ซำร้ายกว่าคืนพอผมอ้าปากร้องมันก็ลุกขึ้นจูบผมทันที่ ไอ้นี้มันโรคจิตรึไงถึงชอบมาจูผมจัง แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหลอกนะสึกรู้ดีด้วยซ้ำ...เฮ้ยได้ไงมันกับก็ผู้ชายเหมือนกัน พอคิดแบบนั้นผมจึงร้องเตือน แล้วซาสุเกะก็ปล่อยให้เป็นอิสระ ผมรีบหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปทันที แต่มันกับนอนสบายอารมณ์ทำหน้ากวนโอยแต่เช้า

    "แกเข้ามาทำบ้าอะไรแต่เช้าได้ทุกวันหาแล้วยัง..." ผมตะวาดกลับพลางเขยิบหนี แต่มันดันยันตัวลุกขึ้นทำให้รู้ว่ามันมานอนกอดผมทั้งคืนโดยไม่ใส่เสื้อ ทำให้ผมรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกก็ เพราะซาสุเกะนั้นสูงดูกำยำสมชายกว่าผมเยอะเลย มันทำให้เจ็บที่เกิดมาหน้าตาหน้ารักเหมือนผู้หญิง ร่างกายก็ดูบอกบางล่อพวกหื่นอีกคิดแล้วก็เศล้าT.T

    "อ้าวละชังหิวแล้วนายไปอาบน้ำก่อนชั้นจะทำกับข้าวให้หรือจะให้ชั้นกินนายเป็นอาหารเช้าดี" ซาสุเกะว่าพลางยืนหน้ามาใกล้

    "ไม่ดี!!" แล้วผมก็รีบลุกออกจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ตอนนี้ผมอยู่กับซาสุเกะในแมนชั้นห้องของซาสุเกะมาได้เกือบเดือนแล้ว ในฐานะของผู้ทำ 'สัญญา' ตอนแรกก็มีปากเสียงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ด้วยกัน บางครั้งก็เห็นสีหน้าต่างๆ ที่ไม่ได้เห็นในโรงเรียน อย่างตอนยิ้มหรือคำพูดปลอบโยนตอนที่ผมเล่าเรื่องเมื่อตอน 5 ขวบให้ฟังเขาก็ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเจ้าซาสุเกะมันก็นิสัยดี เวลาอยู่ใกล้ๆ แล้วสนุกดี

    เสียอย่างเดียวที่มันชอบมาแกล้งผม แหย่ทางคำพูดบ้าง รึ จู่ๆ ก็เข้ามาจูบ ก็แปลกดีที่ผมไม่รู้สึกขยะแขยงรึรังเกียจออกจะรู้สึกด้วยซ้ำ แต่ซาสุเกะก็ไม่เคยทำอะไรเกินกว่านั้น

    หลังจากจัดแจงกิจเสร็จผมก็ออกมาในชุดเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อเขนกุดมีฮูดสีน้ำตาลกางเกงยีนส์ ส่วนซาสุเกะนั้นหายไปไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มันทำอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นเสร็จแล้ว แต่หน้าตามันไม่หน้าทานเลย ง่ายๆ ก็คือมันทำอาหารไม่หน้าทาน แต่พอยัดลง เพราะงั้นผมเลยเป็นคนจัดแจงเรื่องกับข้าวซะส่วนใหญ่

    "อ้าวไม่ทานเหลอ" เสียงทักดังขึ้นผมจึงหันไปมองซาสุเกะที่พึ่งออกจากห้องน้ำที่อยู่ข้างห้องนั่งเล่น

    "ไม่ล่ะแค่เห็นก็อิ่มแล้ว" ผมว่าพลางมองไปที่อาหารเช้า พลางทำหน้าแหย่

    "ตามใจชั่นกินเองก็ได้" ว่าแล้วซาสุเกะมันก็เดินไปนั่งกิน แต่แค่คำเดี่ยวเท่านั้นหน้ามันก็เหง่อแตก ผมรู้ทันที่ว่าโชคดีที่ยังไม่กิน แต่มันยังคงรักษามาด (หน้าเตะ) กินต่ออย่างกล้ำกลืน ผมจึงเดินไปห้องครัวและหยิบไข่ออก ทำเป็นไข่ดาวและทอดแฮมหมู 4-5 ชิ้น และยกมานั่งกินด้วย

    "นี้ถ้ากินไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนกินนี้แทนล่ะกัน" ผมว่าแต่ในใจก็นึกไม่ถึงว่าคนเก่งคนดังจะทำอาหารไม่เป็น

    "นารุโตะมานี้ดิ" เจ้าซาสุเกะมันว่าผมก็เดินมาอย่างงง แต่ก็ถูกมันดึงมาจูบ(อีกแล้ว) แต่คราวนี้มีลิ้นเข้ามาด้วย มันจะอะไรนักหนาแต่ว่าทำไม่ถึงจูบต่างจากทุกที่ผมรู้สึกอย่างงั้น แต่พอถอนออกมาผมตั้งใจจะถามแต่มันชิงพูดก่อน

    "ขอบใจสำรับจูบล้างปากนะ" ผมแทบอยากจะประเคนหมัดใส่เป็นหนักหนา แต่ท้องเจ้ากรรมดังร้องขึ้นมาซะก่อน เจ้าซาสุเกะเลยขำออกมา ส่วนผมอายแทบอยากโดดตึก แล้วผมก็ประชดกินข้าวอย่างมูมมาม โดยไม่รู้เลยว่าซาสุเกะมันมองผมอยู่และยิ้มอย่างอ่อนโยน

    หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จพวกผมก็ไปเจอครูคาคาชิกับครูอิรูกะที่หน้าบ้าน และนั่งรถไปยังที่บ้านของตระกูลนามิคาเสะ หลังจากนั่งผ่านมาครึ่งชม.ก็ถึง ทำเอาผมต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก คือบ้านเป็นแบบญี่ปุ่นทั้งใหญ่โตและกว้างขวาง แต่ดูเงียบเหงา หลังจากเดินเข้ามาได้พอสมควร ผมก็รู้ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ จึงเดินไปดูที่ต้นไม้ใหญ่เห็นเด็กผู้หญิงกำลังจะตกจากต้นไม้ แต่ดูท่ากิ่งไม้จะรับน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลงมาทำให้เด็กสาวล่วงลงมา

    "กริ๊ด!!!!"

    //ตุบ//

    "โอย~เป็นอะไรมั่ง" ผมถามขึ้น หลังจากวิ่งไปรับเด็กสาวได้ทัน อยู่บนตักผมทุกคนก็ตามมาดู เมื่อเจ้าหล่อนเริ่มหายกลัวเงยหน้าขึ้น ผมต้องตกใจอย่างมากคือ หน้าตาเหมือกับรุ่นพี่เฮงซวยฮิวงะ เนจิ แต่ดูน่ารักกว่าเยอะ แต่จู่ๆ ก็หน้าแดงขึ้นมาก้มหน้างุดๆ

    "เอ่อ...ขอบคุณนะค่ะที่ช่วย"

    "ไม่เป็นไรแต่จะดีมากถ้าช่วยลุกขึ้นนะ"

    "อุ้ยขอโทษค่ะ" ว่าแล้วคุณเธอก็ลุกขึ้นโดยมีครูคาคาชิช่วยพยุง ส่วนผมก็มีซาสุเกะช่วยดึงขึ้นมา

    "ต้องขอโทษและขอคุณจริงๆนะค่ะ" ว่าแล้วก็ก้มหน้าลาวสำนึกผิดมากๆ

    "ชังมันเถอะว่าแต่ชื่ออะไรเหลอ" ผมถามด้วยความใคร่รู้ แต่มีเสียงอื่นตอบขึ้นมาแทน

    "ฮินาตะเป็นอะไรรึเปล่า" เสียงห้าวออกหนาวดังขึ้น ทำให้ผมให้ไปมอง

    "นาคุรุ" ใช่แล้วน้องสาวฝาแฝดของผมเองเดินมาทางด้านหลังด้วยท่าทางร้อนรนในชุดกิโมโนสีขาวลายซากุระ แต่พอเจอหน้าผมก็ยิ้มออกมามัน ซึ่งผมเองก็เช่นกัน

    "ท่านพี่" ว่าแล้วก็กระโดดกอดผมทันที่

    "มาถึงเมื่อไรค่ะ...กินอะไรรึยัง...แล้วทำไมไม่บอกกันซักคำจะได้ไปรับ" นาคุรุถามผมเป็นชุดเลย แต่ก่อนผมจะตอบก็หันไปเจออีกคนที่เดินตามหลังนาคุรุมา

    "เฮ้ย!!นายฮิวงะ เนจิ" ผมตะโกนพลางชี้นิ้วไปทางเจ้าบ้าขี้เตะ ซึ่งมันพอเห็นผมก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์เดินมาทางผม

    "นึกว่าใครที่แท้ก็นารุโตะคุงนี้เองวันนี้ยังน่ารักน่ากินจริงนะ" ว่าแล้วมันก็ดึงผมเข้าใกล้พลาเชิดคาง ทำให้ผผมรู้สึกขยะแขยงทันที ก็รู้ว่าเจ้ามันตัวอันตราย แต่นี้เกินขั้นไปแล้วสายตางี้หื่นขันรุนแรงไหงเราต้องซวยได้เจอยังงี้ทุกทีเลยหน้า

    "เฮ้ย~เนจิ~ทำอะไรนะเกรงใจกันมั่งนะ" ว่าแล้วเสียงสวรรค์ดังขึ้นจาก 1สาวผมทอง และ 1หนุ่มผมดำที่กำแผร่รังสีมาคุด้านหลังเนจิ จนผมเองยังกลัวเลย พอมันปล่อยตัวผมด้วยท่าทีเสียดายแบบสุดๆ ผมก้อถูกซาสุเกะดึงมาอยู่ใกล้ๆ มันจะอะไรนักหนาวะเนี้ย แถมยังมาเจอสงครามสายตาซาสุเกะกับเนจิจ้องกันแทบตาถลน

    "อ้าวละๆ อย่าพึ่งกัดกันเลยเราควรญาติดีกันไว้ซิ" เสียงครูคาคาชิดังขึ้นแทรก ทำให้สายตาของซาสุเกะกับเนจิหันไปมองอย่างไปสบอารมณ์ จนตัวครูถึงกับสะอึ ก่อนกระแอ่มสองสามที

    "ทำไมเราต้องไปญาติดีด้วยละครับ" ซาสุเกะว่าพลางจ้องไปยังเนจิที่แอบมาส่งสายเจ้าเล่ห์ให้ผม

    "ก็พวกเราเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอกนะซิ" เนจิตอบให้แทน

    "ใช่ค่ะ...ทำใจเป็นมิตรกับไอ้เจ้านกตัญหากลับนี้ไปเถออย่างย้อยเนจิก็ยังมีดีอยู่บ้าง" นาคุรุว่า ทำเอาเนจิหันไปมองค้อนฝาแผดผมทันที ส่วนผมนึกสะใจอยู่นิดๆ นาคุรุเดินกึ่งลากเด็กสาวที่ผมช่วยไว้มาข้างๆ ผม

    "นี้คือฮินาตะ ฮิวงะ ฮินาตะ เป็นน้องสาวเนจิและก็เป็นเพื่อนสนิดน้องเองค่ะ" นาคุรุว่าพลางดึงฮินาตะมาใกล้ๆ ผม ซึ่งพอดูดีแล้วดูหน้าตาน่ารัก ผมยาวสีดำเกือบกลางหลัง ก้มล็กน้อยเป็นการทำความเคารพ มารยาทดีกว่าพี่อีกแฮะ

    "เอ่อ...ชะ...ชั้นฮินาตะ ฮิวงะ ฮินาตะค่ะ ยะ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"

    "เช่นกันชั้นนารุโตะ อุซึมากิ นารุโตะพี่ชายฝาแฝดของนาคุรุ" ผมก้มเล็กน้อยและยิ้มให้ตามปรกติ แต่ไหงฮินาตะถึงหน้าแดงเอาๆ พลางไปเกาะนาคุรุ ทำเอาผมงงว่าทำอะไรผิดเหลอ แต่ก่อนเนจิจะพูดอะไรอีกครูคาคาชิก็ขัดขึ้นทันที

    "อ้าวละ...ไปกันเถอะปานนี้พวกผู้อวุโสรอแย่แล้ว" ครูคาคาชิว่าพลางเดินนำกลับไปตามทางเดินของบ้าน โดยที่ผมมีนาคุรุขวงแขนพลางดึงกึ่งลากตามครูคาคาชิ

    ตลอดทางนาคุรุก็แนะนำบ้านที่เหมือนคฤหาษ์แบญี่ปุ่นมากกว่า และพอไปถึงห้องแห่งหนึ่งที่ครูอิรูกะนั่งรออยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกผมก็เปิดประตูให้พวกผมเข้าไปก็พบชายแก่ที่อยู่ตรงกลางกำลังสูบไปล์ และทางขวามีชายที่ดูแก่อีกหนึ่งผมขาวยาวท่าทางกวนโอ๊ย และอีกคนเป็นหญิงสาวดูมีอายุเล็กน้อยผมออกน้ำตาลอ่อนดวงตาสีน้ำตาลเข้มยิ้มมาให้พวกผมรึเปล่า

    แต่ตอนนี้ผมไม่สนที่แน่ๆ คือคนๆ นี้ผมรู้จักดี และดีที่สุด

    "ป้า...ซึนาเดะ" ใช่ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ดูแลพวกผมที่เป็นเด็กกำพร้า สำหรับผมแล้วคนๆ นี้เหมือนแม่ของผมเลยก็ว่าได้

    "ไงเจ้าหนู"

    "ป้าซึนาเดะ!!" ว่าผมก็เข้าโผ่เข้ากอดเต็มรัก พลางปล่อยโฮออกมาอย่างปิดไม่อยู่ ดีใจที่มีคนรอดจากเหตุการณ์นั้น

    "จะไม่ทักพี่สาวคนนี้เลยเหลอ" เสียงที่ดูคุ้นเคยดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองหญิงสาวในชุดกิโมโนสีชมพู่อ่อน ผมและดวงตาสีดำที่ดูอ่อนโยนสมเป็นพี่สาว

    "พี่ชิซึเนะ!!พี่ยังไม่ตาย!!!แต่ตอนนั้ผมเห็นพี่..." ผมว่าพลางนึกถึงตอนที่ถูกไอ้โรคจิตผมแดงมันแทงพี่ชิซึเนะ และก็จำได้ดีด้วย

    "นั้นนะเป็นตุ๊กตาที่พี่ชักไว้อีกอย่างพี่สัญญาแล้วว่าจะต้องได้เจอกันไง" ว่าแล้วก็มาขี้หัวผม ตอนนี้ผมมีความสุขจริงๆ ที่ได้เจอกับบุคคลที่เหมือนครอบครัวอีกครั้งแบบนี้

    "อ้าวละ...ทักกันพอแล้วมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า" เสียงทักจากชายชราที่สูบไปล์อยู่ดังขึ้น พลางมองสำรวจตัวเข้าอย่างช้าๆ

    "อืม...เหมือนมินาโตะแต่หน้าหวานออกคุชินะรวมถึงพลังในตัวด้วยซินะ" ปู่แกพึมพำก่อนจะลูบหัวผมที่มองไปอย่างงงกับคำพูดเมื่อกี้

    "นี้ไอ้หนูแกนะไปเตรียมตัวได้แล้ว เฮ้ยอีหนูทั้งพาพี่แกไปเตรียมตัวฮินาตะเจ้าไปด้วยนะไปส่วนคนอื่นนั่งอยู่ก่อน" เสียงทุ้มของลุงหัวหงอกดังขึ้น แล้วนาคุรุกับฮินาตะก็พาผมออกจากห้องไปยังอีกห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ในนั้นมีบ่อน้ำร้อนให้อาบจัดแบบอยู่กลางสวน

    "ทะ...ท่านนารุโตะอาบให้สะอาดชำระทั้งกายใจซะนะค่ะ" ฮินาตะเอ๋ยขึ้นพลางส่งผ้าขนหนูให้ผม

    "อืม...อ่อฮินาตะไม่ต้องเรียกชั้น่าท่านหลอกฟังแล้วเขินเรียกชื่อเลยก็ได้"

    "เอ่อ...จะดีเหลอค่ะ...งั้นเป็นนารุโตะได้ไหมค่ะ" ฮินาตะว่าผมเองพยักหน้ารับ ก่อนนาคุรุเข้ามาพาสาวน้อยออกไปให้ผมได้ชำระกายและใจคนเดียวในบ่อน้ำกว้าง

    ผ่านไป 10 นาที ผมก็ขึ้นจากน้ำมาเช็ดตัวก่อนออกมาสมชุดชั้นในที่เตรียมมาและใส่เสื้อคลุมทับ ออกมาเจอครูอิรูกะรออยู่ก็จัดแจงจับผมใส่ชุดกิโมโนสีขาวด้านในสีแดงออกส้มผ้ารัดเอวแบบผู้หญิงสีแดงออกเข้ม แต่ที่แย่กว่าคือผมต้องใส่ทั้งกำไลมือและเท้า สุดท้ายต้องคลุมหน้าด้วยกิโมโนสีขาวอีกชั้น

    และตอนแต่งตัวเสร็จครูอิรูกะก็อธิบายสิ่งที่ต้องทำในงาน นั้นคือต้องเดินถือโค่มไฟไปยังลานพิธีและนั่งขุกเข่า และพูดประว่า

    ...ข้าแต่สรววค์และนรกอเวจีจงสดับฟัง ข้า...ชื่อตัวเอง...โปรดเปิดเส้นทางแก่ข้าที่ควรเดินไป เพื่อเป็นเข้าทดสอบว่าสมควรกับการได้เป็นผู้ใหญ่เพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้า...พอพูดจบก็จะถูกทดสอบโดยวิญญาณของบรรพบุรุษของเผ่าจิ้งจอกถ้าสอบผ่านก็เป็นอันจบพิธี แต่เห็นนาคุรุบอกว่า

    "ต้องไปคนเดียวเพราะมันเป็นการทดสอบ" ซึ่งตรงนี้ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไร แต่ต้องอยู่คนเดียวในห้องจนกว่าจะถึงพิธีการนี้ซิไม่รู้ทำไมใจผมถึงว่าเว่ อยากออกไปจากห้องนี้ให้พ้นๆ ซึ่งผมเกลียดการต้องอยู่คนเดียวแถมในห้องนี้ยังมืดน่ากลัวเป็นที่สุด

    "นี้นารุโตะอยู่ไหม" เสียงซาสุเกะดังขึ้นจากประตูที่ผมพิ่งอยู่ แค่เสียงของเขาก็ทำให้สดชื้นทันที่ ผมก็ไม่เข้าใจตนเองเลย

    "ซาสุเกะเหลอ"

    "อืม...เป็นไงมั่งหะเสียงงี้สั้นเชียว"

    "เปล่าซะหน่อยแล้วนายธุระอะไร" ผมว่ากลับอย่างถือดี แต่ในใจกลับเต้นแรงอย่างดีใจที่ซาสุเกะมา แล้วมันก็ชวนคุยและทะเลาะกันไป มันทำให้จิตใจผมสงบอย่างบอกไม่ถูก

    "นี้ซาสุเกะ...อย่างชั้นจะทำได้ไหมนะ" คำถามที่ดังจากปากผมดังขึ้นถาม เพราะในใจผมนั้นไม่ค่อยมั่นใจเลยกังวลอย่างบอกไม่ถูก พอยิ่งใกล้เวลาทดสอบด้วยแล้วใจมันเต้นอรงขึ้นทุกที

    "นายคือใคร"

    "เอ๊ะ!?...ก็อุซึมากิ นารุโตะไงเล่า" ไอ้นี้ถามแปลกจัง

    "งั้นจะมากลุ้มใจทำไม ในเมื่อนายคือนารุโตะจอมเบอะชังลุยอยู่แล้ว" คำปลอบโยนที่เหมือนกวนบาทาสมเป็นเจ้าบ้าซาสุเกะดังขึ้น ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้

    "นั้นตกลงนายด่ารึชมชั้นกันแน่" ผมสวนกลับตามประสา

    "คิดเองซิ...อีกอย่างนายนะไม่ได้อยู่คนเดียวมั่นใจตนเองหน่อยซิ"

    "ขอบใจนะ"

    "อืม" พลางมีมือเรียวยื่นเข้ามาในช่องเล็กๆ ผมจับมือที่แสนอบอุ่นนั้น แล้วก็ปล่อยความเงียบครอบคลุม ตอนนี้ผมรู้สึกกำลังใจกลับมาเต็มเกิน100เลยอย่างไม่หน้าเชื่อ จนได้เวลาซาสุเกะ นาคุรุและครูอิรูกะพาผมไปยังที่ลานพิธี

    //โปรดติดตามตอนต่อไป//

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×