คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เรื่องที่ตลาด [100%]
ยามเช้าสายลมพัดเย็นสบายพริ้วไหวปะทะกับดวงหน้าขาวนวลอมชมพู่ภายใต้หมวกใบโตสีดำ
เสื้อโค้ดแขนยาวกางเกงสีดำทั้งชุด ทำให้ดูเท่ และไม่สารามารถระบุเพญได้เช่นกัน
เดินมาหยุดตรงกำแพงสูงรูปทรงญี่ปุ่นโบราณ
...ฟู่...เสียงอากาศถูกปล่อยออกอย่างช้าๆ จากริมฝีปากบาง
//พรึ่บ!!//
เสียงกระโดดลอยข้ามกำแพงสูง และลงพิ้นได้อย่างสวยงาม พลางสำรวจบริเวณรอบๆ
ว่าไม่มีใครจึงออกวิ่งทันที
...ต้องไปเจอให้ได้...เจอพี่นารุโตะ...
หลังจากนั้นผ่านไปได้2 ชั่วโมงกว่าๆ เป็นเวลาช่วงเช้าเริ่มเข้าช่วงเช้าแก่
ภายในกำแพงนั้นก็กำลังวุ่นวาย
เอะอะกันยกใหญ่ผู้คนเดินปนวิ่งกันให้ขวักใขว่รูปในสวนแบบญี่ปุ่น
และรูปทรงของอาคารก็เป็นแบบทรงญี่ปุ่นโบราณที่ทำด้วยไม้ผสมผสานกับคอนกรีนอย่างลงตัว
"ทุกคนช่วยกันหาให้เจอ...ช่วยกันหาหน่อย"
เสียงหวานปนความเข้มแข็งของหญิงสาวมีอายุเล็กน้อย
ดังขึ้นใบหน้าแสดงอาการกังวลอย่างเห็นได้ชัด ผมแดงเข้ม
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มในชุดสูทกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำ ดูเข้ากันอย่างนึกไม่ถึง
"ท่านรินครับหาที่โรงเก็บของ1 ก็ไม่เจอเลยครับ" เสียงของชายหนุ่มจากกลุ่ม 3
คนวิ่งมาหยุดตรงหน้าของนายหญิงทุกคนแต่งชุดสูทสีดำหมดจรด
"ท่านรินเจ้าค่า~" เสียงหวานๆ
ดังขึ้นบ้างขึ้นพร้อมการปรากฎตัวของเด็กสาวอายุระนาม 15-16
ปีนห้าตาหวานปานน้ำผึ้ง
ยังเรียกพี่ผมหน้าม้าสีดำขลับยาวถูกรวบเก็บอย่างเรียบร้อยวิ่งมาในชุดกิโมโนสีขาวบริสุทธ์ลายดอกท้อแซมให้ดูดี
เข้ากับดวงตาสีขาวราวไข่มุข วิ่งหน้าตาตื้นมา
และแล้วก็ตกม้าตายเมื่อไปสดุดก้อนหินหน้าคว่ำ
ทำให้หญิงสาวที่ยืนมองอยู่ถอนหายใจกับความซุ่มซ่ามของเด็กสาวพลางยิ้มให้ก่อนเดินไปหาเด้กสาวที่กำลังจับจมูกตน
อย่างกลัวจมูกหัก
"ไม่เป็นไรนะค่ะท่านฮินาตะตรงนี้หินเยอะวิ่งไม่ระวังก็เป็นอย่างี้แหละค่ะ"
หญิงสาวนามว่า ริน กล่าวไปด้วย
ก็พยุ่งเด็กสาวให้ลุกขึ้นพลางปัดฝุ่นตามร่างกายให้ ทำให้ดวงหน้าหวาน
แดงเรื่อด้วยความอายในความซุ่มซ่ามของตนเอง
"อ๊ะ...ท่านรินเจ้าค่ะจดหมายจากนามิจังวางไว้บนโต๊ะนะค่ะ"
พุดจบพลางส่งจดหมายสีขาวให้หญิงสาว เมื่อแกะอ่านจนจบ ก็ขยำกระดาษในมือ
แทบทันที่ ใบหน้าเริ่มแสดงสีกังวลอย่างเห็นได้ชัด
คิ้วงามเริ่มก่อปมอย่างเห็นได้ชัด
ในมือกระดาษที่เป็นจดหมายนั้นเริ่มถูกกำจนยุยเป็นขยะทันใด
ทำเอาคนรอบข้างผวากันไปตามกัน
"นี้...รินจังคนรอบข้างเข้ากลัวกันหมดแล้วนะ"
เสียงทะเล้นดังขึ้นพร้อมการปรากฎตัวของชายหนุ่มรุ่นเดียวกับรินในชุดสูทสีดำที่ปล่อยชายเสื้อเชิ้ตสีขาว
และปลดเนคไทย์ลงมาถึงกระดุมเม็ดที่สอง
สวมแว่นตากันแดดขึ้นเป็นที่คาดผมสีรัติกาลเช่นเดียวกับดวงตา
หาวปากกว้างด้วยท่าทีสบายๆ จนหญิงสาวอยากเข้าไปบีบคอเหลือเกิน
แต่ถูกฮินาตะห้ามไว้
"นี้โอบิโตะนายรู้รึเปล่าว่า..."
"ให้นามิจังไปเจอกับเด็กคนนั้นเถอะยังไงพวกเขาต้องรู้อยู่ดี"
ชายหนุ่มชิงตัดหน้าพูดก่อนเดินมาใกล้หญิงสาวก่อนยิ้มทะเล้นให้อีกครั้ง
"โอบิโตะ..."
"ชั้นไปก่อนนะรินจัง" พูดจบก้อขโมยหอมแก้มนวล 1ฟอด ก่อนรีบชิ่งหนี้ทันใด
พลางหลบข้าวของที่ถูกปามาจากหยิงสาวที่หน้าแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศ
พร้อมเสียงว้ากดังเป็นระยะและบรรดาลูกน้องที่ยื่นดูอยู่นาน
รวมถึงสาวน้อยช่วยกันห้ามรั่งไว้ เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาจนรับตาคนแล้ว
จึงถอนหายใจ ใบหน้าแสดงถึงความกังวลให้เห็น
"เฮ้ย~ใช้ว่ารู้ความจริงแล้วจะดีเสมอไปแต่คงเลี่ยงไม่พ้นซินะครูมินาโตะ"
เสียงพึมพำกับตนเองดังขึ้นก่อนเงยขึ้นมองท้องฟ้าสีครามพลางสังเกตุเห็นกระเป๋าใบเล็กสีเขียวอ่อนลายกบน้อยก้อรู้ทันว่าของใคร
จึงยิ้มแห้งๆ ก่อนเดินจากที่นั้นไป
----------------------------------------------------------
ใกล้ยามเที่ยงแสงแดดเริ่มทอแสงแรงขึ้น ผู้คนเดินกันให้ขวักไขว่จับจ่ายซื้อของ
ไม่ก็เดินหาของกินกลางวันตามร้านค้าต่างๆ
ร้านรวงต่างเปิประชันสิ้นค้าของตนอย่างขับขลัง
ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญท่างเศรฐกิจของหมู่บ้านโคโนฮะแห่งนี้ก็ว่าได้
ซึ่งเป็นที่แปลกตาแปลกใจของนักท่องเที่ยวและใครอีกหลายคน
ร่วมถึงบุคคลในชุดดำหมวกใบโต ที่เดินดูของอย่างสนอกสนใจเป็นอย่างมาก
ยิ่งได้กลิ่นทาโกยากิลอยมาติดจมูกก้เรียกน้ำลายไหลแล้ว
เพียงแต่ว่าตัวเค้าทำกระเป๋าตังค์ตกที่ไหนไม่รู้
ซึ่งตอนนี้เท่ากับว่าเขาไม่เงินติดตัวเลย
จึงตัดใจเดินหนี้ด้วยความที่หมวกใบโตไปหน่อยจึงมองไม่เห็นชายหนุ่มร่างสูงเดินมาจึงชนเข้าอย่างจัง
ทำให้เขาลงไปกองกับพื้น ส่วนคู่กรณีแค่เซเล็กน้อย แต่นั้นไม่ใช้ปัญหา
"เฮ้ย~มองไม่เห็นรึไงน้ำหกใส่เสื้อตัวเก่งชั้นหมด" ชายหนุ่มกับเพื่อนอีก
3คนหัวเรอะอยู่ข้างๆ อย่างชอบใจ ยิ่งทำให้คู่กรณีฉุนกึก ท่าทางเป็นจิกโก๋น่าดู
วึ่งถ้ามามีปัญหาคงไม่ดีแน่ จึงพยายามเลี่ยงหนี้
"ขอโทษที่มองไม่เห็น" เมื่อพูดจบก็เดินไปอีกทาง แต่ถูกมือหนารั้งไว้
ร่างบางกว่าหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์
"ขอโทษแค่นี้คิดว่าจบเหลอมานี้หน่อยดิ"
ว่าแล้วเพื่อนอีกคนก็จับแขนบางอีกข้างพลางจี้ด้วยของแหลม
...มีดรึ...เขาคิดขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร จึงเดินตามไปด้วย
ซึ่งนั้นไปสะดุดตากับเด็กหนุ่มผมทองที่เดินออกมาจากร้านทาโกยากิพอดี
ในปากก็เคี่ยวตุ้ยๆ
"เฮ้ย~เหนือยจังเลยเพราะเจ้าบ้าซาสุเกะแท้ๆ"
ว่าแล้วก็เอาทาโกยากิเข้าเคี่ยวไปด้วยความโมโหน้อยๆ
กับเพื่อนตนที่ออกแนวคุณชายเหลือเกิน
แต่แล้วสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เดินเข้าไปฝูงชน
แต่ดูแปลกๆกับท่าทีของคนร่างเล็กในกลุ่มที่เหมือนโดนลากอยู่
และยิ่งแน่ใจได้คือชายหนุ่มที่ดูเป็นหัวโจกผมแดงซอยเจาะหูกำลังยิ้มเยาะ
"เจ้านั้นมัน" พูดจบก็โซ้ยทาโกยากิที่เหลือหมดในคำเดียว
แล้วก็จัดการถุงกระดาษใบโตที่เต็มไปด้วยผักและกับข้าววิ่งตามไปทันที่
-------------------------------------------------------------
ทางด้านชายหนุ่มเดินเข้ามาได้หน่อย
ก็เจอทางตันบรรยายกาศอึกครึมอย่างมากจนร่างบางหายใจไม่ทั่วท้อง
และตอนนี้ตัวเขาก็ถูกจี้อยู่ และถูกล้อมไว้รอบทิศ แถมแต่ละคนมีท่าทีไม่เท่าไร
ยกเว้นไอ้ผมแดงตัวปัญหาตอนแรกที่กำลังยิ้มเยอะอย่างผู้มีชัย ท่าทางจะมีดีจริง
"ไงไอ้หนูท่าทางแกจะมีเงินมากนะเอาเงินมาให้พวกชั้นช่วยใช้ไหม"
ชายหนุ่มที่จอมีดอยู่พูดขึ้น มือแก่งก็จับเนื้อผ้าไปมา
บ่งบอกถึงเนื้อผ้าชั้นดี แต่สายมาที่มองมานั้นกลับมองตัวเค้าราวกับแมลงกระจ๊วก
ตัวหนึ่งทำให้ร่างสูงกระชากขอเสื้อสีดำขึ้นมาอย่างมีน้ำโห
"มองแบบนี้อยากมีเรื่อง"
เสียงตวาดดังขึ้นร่างบางที่ถูกกระชากเสื้อจนลอยยิ้มน้อยๆ
ก่อนจะจับมาที่มือของร่างสูง
"ก็นึกว่าจะมีน้ำยากว่านี้ซะอีก"
ว่าจบก็เพิ่มแรงบีบและเตะสูงเข้าไปที่หน้าใบหน้าจนลงไปนอนไม่ต้องนับ10
ทำเอาเพื่อนที่ยื่นดูอยู่อึ้งไปเล็กน้อย
แต่หนุ่มคู่กรณีกลับถูกใจแทนถึงกับพิ้วปากอย่างถูกอก
ก่อนจะหันไปยังพรรคพวกส่งสันญาณให้รุม พวกที่เหลือทำตามทันที
แต่ร่างบางในชุดสีดำก้เก่งกว่าเล็กน้อยหลบได้ แถมสวนกลับได้อีก
เมื่อเห็นว่าลูกน้องไม่ได้ช่วยอะไรมาก
จึงรอจังหวะที่เด็กน้อยเผลอเข้าร่วมวงพร้อมมีดบัตเตอร์ฟรายคู่ใจ
โดยอ้อมไปฟันจากด้านหลัง
//แค่วก!!//
ยังดีที่รู้ตัวทันจึงเบี่ยงหลบได้
แต่ก็บาดแขนเสื้อขาดเลือดสีแดงสดไหลออกตามแผลที่เกิดขึ้น
ทำให้เข่าอ่อนลงไปกองกับพื้น สายตามองมาอย่างแค้นที่ตนเองประมาณไปหน่อย
หนึ่งในกลุ่มเห็นว่าร่างบางท่าจะสู้ต่อไม่ได้ จึงเข้าไปซ้ำ
"ทำใจเถอะที่มาหาเรื่องพวกชั้น" พูดไปก้อหัวเราะไป เตรียมหวดใส่ร่างบางเต็มที่
ด้วยความกลัวจึงเผลอปิดตาแน่น แต่ว่า
//ผัวะ!!//
มีบางอย่างลอยมาเข้าหัวของจิกโก๋หนุ่มพอดิบพอดี
ลงไปนอนวัดพื้นอีกคนพร้อมก้อนหินกลิ้งตกลงกองกับพื้น
ทำให้ชายหนุ่มผมแดงที่เป็นหัวหน้า แสดงอาการไม่พอใจประดับบนใบหน้าทันที
พลางมองหาตัวการ
"รู้สึกว่าสันดานแกท่าจะแก้ไม่ได้แล้วซินะ"
เสียงออกหวานดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มผมทอง
ตาสีฟ้าสดใสยืนขว้างทางออกอยู่
พลางโยนก้อนหินเป็นคำเฉลยว่าก้อนหินปริศนาที่ลอยฝีมือใคร
พอรู้ว่าเห็นผู้ขัดขวางทั้งชายหนุ่มผมแดง
และเด็กน้อยชุดดำถึงกับสะดุ้งตกใจอย่างเห็นได้ชัดเจน
"หนอย...แกเองก็ไม่เปลี่ยนไปเลยเหมือนกันยังยังชอบสอใส่เกือกชาวบ้านเค้า"
ผู้เป็นหัวหน้าเอ๋ยขึ้นบ้าง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
สายตาที่น่าขยะแขยงสำรวจผู้มาเยื่อนอย่างช้าๆ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
อย่างถูกใจพอสมควร"
"ไม่เจอกันนานดูนายอยู่ดีขึ้นนี้...ทั้งการแต่งตัว...และ"
ไม่ว่าเปล่าชายหนุ่มเดินตรงไปหมายสัมผัสแก้มนวล
ดวงตาสีฟ้าเริ่มเข้มขึ้นด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
แต่ก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มสะท้านเท่าไร แต่ตรงกันข้ามอยากลองท้าทายดู
เมื่อปลายแตะคางมนได้หนอย ก็ถูกหน้างามเชิดหนี้
"แต่ยังทำตัวยิ่งผยองไม่เปลี่ยน" น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
ทำให้เด็กหนุ่มผมทองหัวเราะออกมาเล็กน้อย เหมือนการเยาะเยย
ยิ่งทำให้คนตรงหน้าอารมณ์โกรธปะทุกระชากคอเสื้อมาหมายจะซัดให้คว่ำ
แต่ต้องล้มไปนอนกับพื้น ทำท่าคดคู่ เป็นที่แปลกใจของพวกพ้องอย่างมาก
เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ของอีกฝ่ายขึ้นกดเบอร์พลางรอสายอยู่ซักครู่
"ฮัลโหล...นี้ตรงซอยXXXเขตZ บล็อกทิ้งขยะที่X ต้องการเปลคนเจ็บ"
พลางมองเหล่านักเลงที่ยื่นอยู่ ด้วยท่าทียังงงๆ กับสถานการณ์
"1...2...3...4เปลด่วนเลยครับ"
"หนอย!!มันจะมากไปแล้ว!!" พูดจบทั้งสามคนเข้าหยิบของที่เป็นอาวุธเข้า
ทำลายคนตรงหน้า ด้วยความโมโหและหมั่นไส้ แต่ไม่ถึง3 นาที
ทั้งสามก็ต้องลงไปนอนวัดพื้นกันเรียบร้อย
เมื่อจัดการพวกจิกโก๋เสร็จก็จัดการหักมือถือของคู่กรณีคนแรกลงทิ้งลงถังใกล้ๆ
ก่อนเดินมาปล่อยอีกคนที่นั่งกองอยู่กับพื้น
พร้อมกับเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
เมื่อเข้ามาใกล้และยื่นมือมาทางเด็กชุดดำ ก่อนยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
แต่ว่ากับเชิดหน้าหนี ทำให้ร่างสูงชักสีหน้ากับความอวดดี เมื่อลุกขึ้นได้
แต่ก็ต้องพิงเสาร์เพราะเลือดเริ่มไหลไม่หยุด
จนเด็กหนุ่มผมทองทันไม่ไหวเข้าช่วย เมื่อปลายจะแตะตัวก็ ถูกสะบัดหนี้
ยิ่งทำให้คนที่มาช่วยอดไม่ได้
"นี้นายคิดว่าชั้นอยากช่วยนักรึไง รู้งี้ปล่อยให้เจ้าคาโต้มันจัดการเลยดีกว่า"
"ใครขอให้นายช่วยกันละ" คำพูดตอกกลับอย่างไม่เป็นมิตรดังขึ้น
"เออ!!ชั้นผิดเองที่เข้ามายุ่งถ้างั้นไปละอีกเดี่ยวรถพยาบาลก็มาแล้วไปทำแผลที่โรง'บาลก้อแล้วกัน"
พอได้ยินดังนั้นก็ซีดหนักกว่าเดิม
พลางมองไปที่คนช่วยเขาซึ่งกำลังบ่นงุบงิบอย่างเซ็งจิต ที่มาช่วยคนแย่ๆ
อย่างนี้
"เดี้ยวก่อนอย่าพึ่ง...โอย!!"
ไม่ทันได้พูดจบก็สะดุดขาจิกโก๋ที่นอนอยู่ลงไปนั่งกับพื้นจับแขนตนเองที่เลือดใหลหนักกว่าเดิม
เมื่อหันมาตามเสียงกองกับพื้น ด้วยความเป็นห่วงจึงเข้าไปช่วยทันที
"เฮ้ยเป็นไงมั่ง...ไหวไหม...ไหนดูแผลซิ" ว่าแล้วก้อจับแขนที่บางพอๆ
กับตนยกขึ้นมาดูแผล แต่กระตุกชักแขนกับ แต่คราวนี้ทำไม่ได้
เพราะบาดแผลที่เจ็บมากจนชักสีหน้า
"นี้นายเลิกบ้าซะทีเจ็บขนาดนี้แล้วยังจะดื้ออีก
เดี้ยวแแผลก็เปิกมากกว่าเดิมหลอก"
คำตะวาดกลับ ด้วยความเป็นห่วง ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้า อึ้งไปกับปฏิกิริยาของ
เด็กหนุ่มผมทองอร่าม ใบหน้าหวาน
ดวงตาสีฟ้าสดใสในชุดเสื้อคอกลมสีส้มมีเสื้อเชิ้ตน้ำตาลเข้มทับอีกตัว
จนคนเจ็บรู้สึกว่าชุดไม่ค่อยเข้าเลย
น่าจะเป็นชุดที่ที่ทำให้ดูหวานกว่านี้สมหน้ากว่านี้ ซึ่งนึกดูดีๆ
แล้วมันก็มีส่วนถูกที่มาหาเรื่อง แถมยังประมาณจนเกิดแผล
และยังถูกคนที่ตามหามาช่วยอีก ทั้งที่ถ้าปล่อยไว้ก็ได้แต่ไม่ทำ
กับช่วยคนอย่าเขาอย่างดีทั้งการทำแผลที่ชำนาญ และการดูแล ถึงปากจะบ่นว่าเขา
ในเรื่องที่มาหาเรื่องกับลูกชายยากุซ่า อย่างเจ้านี้ ซึ่งก็คือ ...คาโต้
ยามาซากิ...
"อาวละปฐมพยาบาลเบื่องต้นแล้วคงไม่เป็นไรแล้ว"
พลางลูบแขนบางก่อนลุกขึ้นช่วยพยุงคนเจ็บ
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็ทำท่าจะเดินจากไปอีกครั้ง ก็ถูกมือเรียวรั้งแขนไว้
"มีอะไร"
"........"
"นี้นายมีอะไรก็พูดมาซิ" พลางหันกลับมา
หลังจากที่กึ่งวิ่งกึ่งลากกันหาที่หลบพวกยากุซ่า ที่ไล่ตามมาไม่หยุดหย่อน
จนในที่สุดก็พ้นมาแอบหลังตึก เด็กหนุ่มผมทองให้เด็กหนุ่มชุดดำอยู่ข้างหลังก่อน
สังเกตความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่ไล่ตามพวกเขาอยู่ จนแยกย้ายจากไปหมดแล้ว
จึงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
"ไงนายไม่...!!เฮ้ย!!เป็นไรมากรึเปล่า!!"
เด็กหนุ่มผมทองที่สุงกว่าเล็กน้อยช่วยประคองร่างที่แทบลงไปนอนกองกับพื้น
ให้นั่งทรงตัวอยู่ ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจ ถ้าไปโรงพยาบาลซะอาจจะดีกว่าแท้ๆ
จนกระทั้งเสียงไม่พึ่งประสงค์ดังขึ้น
//จ๊อก~โครก~คราก~//
เจ้าของต้นเสียงรีบหลบใบหน้าที่เขินอาย
มือกุมท้องไว้เนื่องจากยังไม่ได้กินอะไร แต่เช้าก็ไม่แปลกที่จะส่งสัญญาณเตือน
แต่ก็ร้องผิดเวลาไปหน่อยจนอยากมุดดินหนี้หายไปเลย
คนตรงหน้าก็คงพยายามอุบไม่ให้หัวเราะเสียงดัง
แต่มันกลับไม่ใช้เมื่อมีเสียงทักขึ้น
"เอานี้...กินซะจะได้มีแรง" พลางโยนซ็อกโกแล็ตมาให้ ถึงมันจะเป็นแบบของถูก
พอมองไปทางเด็กหนุ่มผมทองที่กำลังบ่นข้าวของยังซื้อมาไม่ครบ
พลางมองดูในกระเป๋าตังส์ลายเคโละสีเขียวอ่อน มีรอยปะ รอยเย็บมากพอสำควร
ก็อดยิ้มไม่ได้ที่กับนิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่น แล้วมาบ่นที่หลัง
(ท่านอยากช่วยจะบ่นทำเพื่อioi) เมื่อแกะซองห่อออกลองกินไปได้ แค่คำเดียว
ก็กินต่ออย่างเอร็ดอร่อยจนมีติดขอบปากเลอะเทอะไปหมด
เมื่อร่างโปร่งเห็นก็อดหัวเราะไม่ได้
"หัวเราะอะไร" คำถามถูงยิงมาด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองใจเล้กน้อย
ชายหนุ่มก้มลงเอาผ้าเช็ดในกระเป๋ากางเกงมาเช็ดขอบปากให้
"ถ้าไม่อยากให้หัวเราะก้ระวังตัวหน่อยซิ" พลางอมยิ้มน้อยๆ
กับปฏิกิริยาของคนตรงหน้าที่แดงเรื่อ ต้องชะงัดกึก
เมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาหัวเราะร่วมด้วยคน และพักพวกท่าทางจิกโก๋อีก
10 กว่าคนพร้อมอาวุณครบมือ แต่ก่อนจะได้ตั้งตัวตอบโต้
สองคนในกลุ่มจิกโตรงมากระชากเด็กหนุ่มไปเป็นตัวประกันใบมีดคมกริบจ่อคองาม
"นามิ!!หนอยแก..." พลางหันมาเอาเรื่องกับชายหนุ่มผมแดงที่กำลังยิ้มเยาะอยู่
"ช่วยไม่ได้ก็ต้องเจิกับอดีตนักเลงสุดแกร่ง THE FOG อย่างนาย"
พลางเดินมาจับแก้มงามของเด็กหนุ่มที่ที่กุมตัวอยู่
เสียงกัดกรอบดังขึ้นอย่างเอาเรื่องเต็มที่ แต่ติดที่ตัวประกันจะโดนลูกหลง
เด็กหนุ่มในชุดดำรู้ตัวว่าเป็นตัวถ่วงจึงหาโอกาศหนี้
พอพวกที่จับเผลอจึงกระทืบไปที่เท้า พลางเบียงตัวหลบ
แต่ไม่พ้นถูกหมัดตรงเข้าให้ลงไปกองกับพื้น
หมวกใบโตสีดำหลุดออกให้เห็นเส้นผมสีทองสว่างปล่อยสยายรับลมและแสงแดด
ทำให้ทุกคนที่ยื่นดูอึ้งกับภาพตรงหน้า
รวมถึงนารุโตะที่ยื่นดูอยู่ยังต้องตกใจกับภาพของเด็กสาวผมสีทองดวงตาสีฟ้ารับกับใบหน้างามอย่างลงตัว
และเหมือนตัวเข้าทุกประการ (ยกเว้นเพศ)
//โปรดติดตามตอนต่อไป//
ความคิดเห็น