คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ความคิดคำนึง
ในโรงเตี๋ยมแห่งหนึ่ง ในชานเมืองไทโจคิน ผ่ายในห้องมีเด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีฟ้าสดสวย ดวงหน้าอ่อนหวานดังเด็กผู้หญิง ในชุดเสื้อคอจีนสีขาวแขนยาวมัดเอวด้วยผ้าสีน้ำเงินกางเกงยีน นอนกลิ้งไปมาอยู่ บนเตียงนุ่ม คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง ตั้งแต่หลงมายังอาณาจักรแห่งนี้...
...(ความคิดของ ฮิวามากิ ไค)...
...ตั้งแต่เราหลุดมาที่นี้ก็ อาทิตย์หนึ่งเข้าไปแล้วซินะ ปานนี้คุณปู่ ยูกิ ทุกคนคงเป็นห่วงแย่แล้ว...เราควรจะทำยังดีนะ จะรบกวนริวโคไปตลอดก็ไม่ได้...จะว่าไปตั้งแต่เรามาที่นี้ คนที่เจอคนแรกก็คือ ริวโค ตอนลืมตาขึ้นมาก็นอนกอดเขา เสื้อผ้าไม่มีซักชิ้น (o\\\\o) ต่อมาเราถูกพวกอันธพาลนั้นลากไปข่มขืน มันทั้งเจ็บและน่ากลัวจนกลัวไปหมด แต่ก็ได้เขาไปช่วย แต่ทำไมนะ...ถึงนึกแต่เขา และขอร้องขอไปด้วยเอย ตอนที่ถูกข่มขื่นเอย...ทั้งๆ ที่เขาก็ทำกับเราแบบที่พวกอันธพาลนั้นทำ แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกดี และอบอุ่นจนร้อนไปหมด (>////<) ว้ากกก คิดบ้าอะไรเนี้ย!!! แต่ว่านี้ก็4 วันแล้วจากเรื่องนั้น ริวโคพาเราออกมาจากบ้านคุณลุงคุณป้า เพื่อไม่ให้เดือดร้อน แล้วเราก็เข้าหน้าเขาไม่ค่อยติดเลย อีกทั้งริวโคเองก็ทำตัวห่างเหินมากขึ้น จนเรากลัวจังเลย แถมบางครั้งเห็นดวงตาที่เย็นชานั้นเศร้าๆ เหงาๆ ทำไมกันนะ? ถ้าเราช่วยอะไรได้บางก็ดีซิ...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------+
ในโรงน้ำชาที่อยู่ไกลจากโรงเตี๋ยมที่ไคพักอยู่ ไม่ใกล้ไม่กันนัก ในโรงน้ำชา ที่มีบริกรเดินให้วุ้น และเสียงคุยกันตามโต็ะที่ได้ยินกันแต่ในกลุ่ม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา หลบออกมานั่งกินเหล้าและ กับแกล้มเล็กน้อยคนเดียว ที่มุมระเบียง ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ที่กำลังฉายแววคุ้นคิดบางอย่างอยู่...
...(ความคิดของ ริวโค)...
...นี้ก็อาทิตย์1 แล้วซินะ ตั้งแต่เด็กคนนั้นตกจากฟ้า ตอนนั้นเรายอมรับเลยว่าทั้งตกใจและงงไปหมด และไม่คิดจะเอามาเป็นภาระ แต่จะทิ้งไว้ก็ไม่ได้จึงจับใจ และคิดว่าถ้าตื่นเมื่อไรค่อยไป แต่ก้อเจอลูกอ้อนเข้าทำให้ต้องพามาด้วย แล้วก็ตัดสินใจจะเข้าไปในเมืองไทโจคินก่อนแล้วค่อยแยกย้ายกันไป แต่ตอนที่นี้เรากับไม่อยากแยกจากกับเด็กคนนั้น
...หัวใจเราเต้นระส่ำเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมทองสว่างดังแสงตะวัน ดวงตาสีฟ้าสดใสดังท้องนภา ใบหน้าอ่อนหวานที่กำลังแดงเรื่อเล็กน้อย เข้ากับรอยยิ้มที่สดใส...ร่วมถึงกลิ่นกายชวนหอมหวานตอนเจอกันครั้งแรก ยิ่งตอนจับกดคราวก่อนทำให้เราแทบบ้า สูนเสียความเยือกเย็นไปเลย และยิ่งได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ได้เจอเรื่องที่คาดถึง...ไม่ว่าจะเป็นเป็นความกล้าที่ออกแนวบ้าบิ่น เข้าไปช่วยคนอื่นไม่ห่วงตนเองหาเหาใส่หัว หรือจุ้นจ้านแอบเอาเสื้อผ้าเราไปซักให้ หรือดื้อแบบเด็กๆ และใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตานั้น ทำให้เรารู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งไม่ชอบใหญ่คือใครมายุ่งกับเด็กคนนั้น...
...แต่ว่าที่สำคัญกว่านั้นคือรอยปานรูปไม้กางเขนที่กลางอกนั้น...คงไม่ใช่หลอก...มั้ง...
“เอ่อ...ขอโทษครับขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ” เสียงหนึ่งทักขึ้น ทำให้ชายหนุ่มได้สติหันไปมองที่ต้นเสียง พบกับเด็กหนุ่มผมเทาออกขาว ดวงตาสีเทาฉายแววเป็นมิตร ชายหนุ่มไม่พูดอะไร ทำให้เด็กหนุ่มถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามทันที
“ดูท่าทางพี่ชายจะเป็นนักเดินทางซินะ” เด็กหนุ่มเปิดประเด็น
“แล้วไง...มีธุระอะไร” ชายหนุ่มเอยขึ้นอย่างไม่ค่อยสนใจอะไร ซึ่งเด็กหนุ่มยิ้มก่อนเล็กน้อย
“ก็เปล่าเห็นนั่งอยู่นานแล้วเลยคิดว่าคงกำลังคิดถึงแฟนมั่ง” ทำเอาคนฟังที่กำลังยกซดเหล้าถึงกับสำลัก มองมาที่แขก ที่กำลังยิ้มกวนบาทาอยู่ เพราะเขาไม่เคยคิดกับไคแบบนั้น
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย...” เจ้าตัวเอยขึ้นก่อนจะทำตัวให้เป็นปรกติที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าใบหน้าตนนั้นแดงเล็กน้อย
“ก็แหม...เห็นนั่งเหม่อมองออกทางหน้าต่าง แล้วสายตาดูเหม่อออกขนาดนั้นไม่คิดถึงแฟน แล้วมันจะให้ถึงใครกันล่ะ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย!!...แค่เด็กที่เจอกันกลางทางแล้วขอติดมาด้วยเท่านั้น” ริวโคพยายามค้าน แต่ในใจเขาก็ยอมรับว่า เขานึกถึงแมวน้อยของเขาอยู่
“เหลอ...คร้าบ...”
“.........ก็แค่เด็กไม่รู้จักที่ต้องคอยดูแลเท่านั้นและ” ชายหนุ่มว่าพลางออกไปนอกหน้าต่าง คิดโทษที่ตนเองเผลอหลุดอาการไปหน่อย
“แน่ใจเหลอ...‘มังกรครามแห่งบูรพา’...” พูดจบทำเอาริวโคชะงักกึก มองมาด้วยความตกใจและรังสีอาฆาตที่ปิดไม่อยู่ แต่ดูเหมือนแขกหนุ่มจะไม่ค่อยสะทบสะท้าน ยังยิ้มกวนบาทาอยู่
“แก...เป็นใคร” ชายหนุ่มเอยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นจนหน้ากลัว
“ผมชื่อยูกิ...เป็นใครไม่สำคัญ...” เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ ก่อนจะเอยต่อ
“แต่ขอเตือนอะไรไว้หน่อยนะ...พี่ชาย ‘มังกรครามแห่งบูรพา’ ให้ระวัง ‘คน’ ให้ดีเพราะไม่ว่าจะอะไรก็ยอมแลกได้ขอให้ได้สิ่งที่ต้องการ...โดยเฉพาะ ‘เด็กที่ตกจากฟ้า’ ของท่านให้ดีละ...เพราะเด็กคนนั้นคือคนที่จะทำให้ท่านได้พบ ‘คำตอบ’ ที่ท่านตามหาอยู่” พูดจบก็หายไปในพริบตา ทำให้ริวโคนั้นตกใจ
“เจ้านั้นมันอะไรกันนะ...” เจ้าตัวลุกขึ้นจากโต็ะมองหา แต่ก็ไม่พบ แล้วเขาก็นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ก็นึกขึ้นมาได้ว่าไคอยู่คนเดียว จึงรีบออกจากร้านทันที่...(ไค...ขอให้ปลอดภัยด้วยเถอะ)...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------+
ในห้องหนึ่งของโรงเตี๋ยมที่ไคนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่มสบาย นั้นก็ถูกขัดด้วยเสียงค็อกประตู
“.........อืม.......” เปลือกเปิดขึ้นเผยให้ดวงตาสีฟ้าสดสวย
~ก๊อก...ก๊อก~
เสียงค็อกประตูดังขึ้น อีกครั้ง ทำให้เด็กหนุ่มเดินแบบเซเล็กน้อยไปเปิด ประตู เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคือริวโคนั้นเอง แต่มันตรงกันข้าม โดยสิ้นเชิง...ด้วยความตกใจจึงรีบปิดประตูใส่แล้วก็...
//!!!!ตูม!!!//
ทั้งประตูและคนกระเด็น ปรากฏปิศาจหน้าตาหน้าเกลียดเดินเข้ามาในห้อง
-ในที่สุด...ก้อเจอตัวแล้ว...- น้ำเสียงนั้นทั้งน่ากลัว และดูคุ้นๆ ยังไงไม่รู้ ด้วยความกลัวจึงค่อยๆ คลานหนี แต่หนวดของมันกลับมารัดคอเขาไว้ดึงมาใกล้ตัวของมัน
-เพราะคนที่มาช่วยแกแท้ๆ...เลยทำให้ข้า...ต้องกลับมาอยู่ในรูปลักษณ์นี้...เอาเถอะใว้จัดการมันเสร็จแล้วเราค่อยมาต่อกันดีไหม- เจ้าปิศาจพูดพร้อมเลียปากแผล่บๆ เป็นที่ขยะแขยงของไคอย่างมาก
แต่ก่อนจะถูกทำอะไรมากไปกว่านี้ ก็มีดาบพุ่งมาที่หัวของปิศาจพอดี
-อ้าากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!- เจ้าปิศาจร้องโหยหวนคลายหนวดที่รัดคอไคไว้ ตกลงมาในอ้อมกอดของริวโคพอดี
“...แค่ก...แค่ก...ระ...ริว...แค่ก...ริวโค” ไคพยายามจะพูด แต่ถูกขัดซะก่อน
“ค่อยๆ พูดก็ได้ไค...” ริวโคเอยอย่างอ่อนโยน พลางลูบหลังเพื่อจะดีขึ้น พอไคดีขึ้นมากเงยหน้าขึ้นเห็นหนวดของเจ้าปิศาจกำลังมาที่พวกเขา ด้วยความตกใจทำให้ร่างกายเร็วกว่าความคิด
“อันตราย!!!!” ไคตะโกนขึ้นพร้อมเอาตัวบังริวโคไว้พร้อมปิดตาแน้น แต่ว่า
///ตูม!!!!///
กลายเป็นว่าเจ้าปิศาจกระเด็นไปกระแทกกับกำแพง ก่อนจะพยายามตะกายลุกขึ้น จ้องมาที่พวกเขา ซึ่งริวโคกำลังเตรียมปล่อยอีกหมัด
“ให้ตาย...ชั้นละยอมแพ้นายเลย” เจ้าตัวว่าพลางเกาหัวแกร่กๆ ก่อนจะหันมายิ้มเล็กน้อยให้ไคที่ตอนนี้อยู่ข้างหลังเขา ทำเอาหัวใจของเด็กหนุ่มเต้นรั่ว อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเพราะรู้สึกแปลกกว่าทุกที ดวงตาของเขาเข้มขึ้น รูม่านตาเหมือนสัตว์ที่ทรนงและน่าเกรงข่ามจนรู้สึกกลัวเล็กน้อย
“ริว.....โค.....”
“ไม่เป็นไรหลอก...ข้าบอกแล้วไงว่า ‘ข้าจะปกป้องเจ้าเอง’ นะ” คำพูดที่ดังขึ้นทำเอาหัวใจของเด็กหนุ่มผมทองที่กำลังตื้นกลัว รู้สึกสงบลงและเชื่อว่าคนตรงหน้าไม่มีทางโกหกเขาแน่นอน
-กะ...แก...แกคือ ‘มังกรครามแห่งบูรพา’ รึไม่จริงน่ามันไม่หน้าจะเป็นจริงไปได้- เจ้าปิศาจเอยขึ้นอย่างหวาดกลัว อย่างเห็นได้ชัด ริวโคเองก็ไม่พูดอะไร เดินมาหยิบดาบที่ตกอยู่ขึ้นมา และย่างสามขุมไปทางปิศาจร้ายซึ่งกำลังพยายามถอยหนี อย่างหวาดกลัว
-ขอร้อง...ยะ...อย่าทำอะไรข้าเลยปล่อยข้าไปเถอะ...ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย- เจ้าปิศาจร้องขอชีวิตอย่างหน้าสมเพช จนกระทั้งชายหนุ่มหยุดตรงหน้าของมัน
“...เหอะ...ปิศาจอย่างแกมันไม่มีค่าให้ลงมือหลอก” พูดจบก็ปักดาบลงที่เหนือหัวของมัน ด้วยความตกใจจนช็อกสลบไป กลับเป็นคนอีกครั้ง ทำให้ได้รู้ว่าเจ้านี้คือหัวหน้าแก็งอันธพาลที่มีเรื่องกับพวกเขา ก่อนจะเดิน กลับมาหาไค แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าปิศาจนั้นแกล้งสลบ ใช้หนวดของมันฟันมาที่ริวโค แต่เจ้าตัวก็หลบได้ อย่างรู้ทัน แต่ว่าเกิดแผลขึ้นมาบนแก้มนั้น เป็นที่ตกใจของชายหนุ่มอย่างมาก
“ริวโค!!!” ไคร้องขึ้นอย่างตกใจรีบเขา แต่ต้องตกใจมากกว่าคือปากแผลกลายเป็นเกล็ดสีน้ำเงินเข้มขึ้นมา
“ไม่เป...” ยังไม่ทันได้พูดจบก็รู้สึกเวียนหัว ร่างกายเริ่มชาทรงตัวไม่ค่อยอยู่ ยังดีที่ไคอยู่ช่วยพยุงไม่งั้นคงลงไปนอนแล้ว
-หึ...พิษอสูรจากหนวดข้านะมันซึมทางผิวหนังไงล่ะ...- พลางหัวเราะเย้ยอย่างสะใจ แต่ต้องแปลกใจกว่าคือ เด็กหนุ่มผมทอง ดวงตาสีฟ้าสดฉายแววเอาจริงมาอยู่ข้างหน้าริวโคพร้อมกางแขนออก เพื่อแสดงถึงเจตจำนงของตนเอง
“ชั้นไม่ยอมให้แกทำอะไรเขามากไปกว่านี้แล้ว!!”
-โฮ...ต้องการปกป้องเจ้านั้นนะรึ...ทั้งๆที่สภาพของมันตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกข้าเลยเนี้ยนะ- คำพูดที่ฉึกเข้าไปในใจของริวโคอย่างแรง เพราะเขามีพลังของ ‘มังกรครามแห่งบูรพา’ ตั้งแต่เกิดจึงทำให้มีพลังชีวิตมากกว่าคนอื่นและเวลาเกิดแผลก็จะมีเกล็ดเหมือนมังกรหุ้มไว้ ทำให้ผู้คนต่างรังเกียจเขาจนเขาอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ‘เขาเกิดมาเพื่อใคร’
“แล้วยังไงล่ะ!!!!ถึงเขาจะมีสถาพแบบนี้แต่เขาก็เป็นริวโคก็คือคนที่ช่วยชีวิตชั้นไว้!!อย่ามาเหมาเอาเองซิเจ้าปิศาจบ้า!!!” ไคตะโกนใส่อย่างเหลืออด เพราะตอนนี้เขากำลังเลือดขึ้นหน้า จึงทำให้คิดยังไงก็พูดออกไปแบบนั้น ทำเอาเอาริวโคอึ้งไปเลย ไม่นึกว่าจะมีคนที่ยอมรับตัวเขาและช่วยออกรับแบบนี้ ทำให้คำพูดที่เด็กหนุ่มที่เจอในโรงเตี๋ยมดังขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
... ‘เด็กคนนั้นคือคนที่จะทำให้ท่านได้พบ ‘คำตอบ’ ที่ท่านตามหาอยู่’
(นี้ซินะคือคำตอบ...) ริวโคคิดขึ้นพลางยิ้มเล็กน้อยมองแผ่นหลังเล็กที่กำลังพยายามปกป้องเขา...แต่ว่ามันก็ไม่ใช้เวลามาปิติเมื่อเจ้าปิศาจเริมอารมณ์ขุ่นมัว
“เจ้าเด็กบ้าหนีไปซิชั้นไม่เป็นไรหลอก” ริวโคตะวาดใส่ แต่ไคส่ายหัวไปมา
“ไม่!!ชั้นจะเป็นคนปกป้องริวโคบ้าง”
-หึ...ถ้างั้นก็ตายไปด้วยกัน- พูดจบก็เปลี่ยนหนวดเป็นทวนตรงมาที่ไค แต่ไคกลับไม่มีท่าทีกลัว แต่พึมพำบางอย่าง ก่อนจะเกิดแสงเหมือนม่านบาเลียขึ้นรอบตัวพวกเขา
-นี้มัน...เขตอาคมรึ...แต่คิดว่าจะปกป้องแกได้ตลอดไปนะ- เจ้าปิศาจว่าพลางทุบกำแพงนั้น อย่างเมามันส์ ส่วนริวโคนั้นอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ได้สติเมื่อไคเอยทัก
“ริวโคก้มลงมาหน่อยชั้นจะถอนพิษให้” ร่างบางเอยขึ้นดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง
//เปรี๊ยะๆ!!!////!!ตูม!!!////
ในที่สุดบาเลียก็ทนไม่ได้ แตกออก พร้อมหนวดอันหน้าขยะแขยงเข้าไปพันตัวไคและริวโคทันที
-หนีไม่พ้นแล้วซินะ- เจ้าปิศาจเอยขึ้นพร้อมหัวเราะเยาะเย้ย แต่ไคกลับยิ้มให้ ทำให้เจ้าปิศาจหุบยิ้ม
“ใครกันแน่ที่หนีไม่พ้น” คำพูดออกแนวยียวนปนยั่วนิดๆ(?) ทำเอาเจ้าปิศาจชะงั้นหันไปดูชายหนุ่มที่อยู่ในหนวดนั้นคือหุ่นที่เอาเสื้อผ้าของริวโคสวมอยู่หลอกเอา พอหันกลับไปด้านหลังพบกับดาบที่ปักลงมาที่หัวพอดี ทำให้ร้องโหยหวนก่อนจะหายไป แล้วก็กระโดดรับไคได้พอดี ก่อนจะตกลงพื้น แต่ท่าทางของไคนั้นดูแปลกไปเพราะร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และหายใจแรงมาก
“ไค!!เป็นอะไรมากไหม” ริวโคเอยถามด้วยความกังวนที่ปิดไม่มิด และช่วยประคองร่างบางอย่างอ่อนโยน
“มะ...ไม่เป็นแค่...เหนื่อยนิดหน่อย...พักซักนิดก็ดีขึ้นแล้วล่ะ” เจ้าว่าพร้อมส่งยิ้มให้
“เจ้าบ้าเอย!!!ทำไมถึงฝืนตนเองแบบนี้เล่า” ริวโคว่าไปงัน แต่ใจจริงนั้นเขาห่วงเด็กหนุ่มมาก
“ก้อ...จะให้ริวโคปกป้องฝ่ายเดียวได้ไงกันลา....” ยังพูดไม่ทันจบก็สลบไปก่อน ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ที่มองมาด้วยความเป็นห่วง และรอยยิ้มอย่างเอ็นดู พร้อมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่...ที่เด็กคนนี้ดึงเขาลงมา พร้อมพึมพำบางอย่าง แล้วก็เกิดแสงสีเขียวเรืองๆ ที่อกของไค และดึงเขาลงมาจูบ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังมากมายหลั่งใหลเข้ามาในกาย และก้อนึกไม่ถึงว่าจะวางแผนจัดการเจ้าปิศาจนี้ได้...แต่เหนือสิ่งอื่นใด...(ริวโคคิด)
“...ขอบใจนะไค...” ริวโคเอยขึ้นพร้อมดึงมือเล็กขึ้นมากุม และจูบลงที่หลังมือเบาๆ เป็นคำสัญญาในใจว่า...ข้าจะปกป้องเจ้าจนกว่าชีวิตจะหาไม่...นี้คือคำตอบของข้า...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------+
ในช่องแคบของตึกเจ้าปิศาจเมื่อครู่ นั้นรอดมาได้หวุดหวิด และกำลังพยายามเดิน และหาทางล้างแค้นพวกริวโค แต่ก็ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะดังจากด้านหลัง พบกับเด็กหนุ่มผมเทาอมขาว กำลังยื่นกอดอกหัวเราะเยาะอยู่
“แก...เจ้ายูกิ...” เจ้าปิศาจร้องทักอย่างอารมณ์เสีย
“ไง...ดูท่าทางจะเสียมาซินะ
” เด็กหนุ่มเอยเยาะเย้ย
“แกเด็กบ้า!!!บังอาจหัวเราะข้ารึ!!!!รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร” เจ้าปิศาจเริ่มตะวาดกลับอย่างหัวเสียมาก กับท่าทีของเด็กหนุ่มที่มองมาอย่างเหยียดหยาม
“ก็แค่สวะ...” เด็กหนุ่มเอยขึ้น ทำเอาความอดทนของเจ้าปิศาจหมดลง
“แก!!!เจ้าเด็กเมื่อวานซืนตาย!!!!” เจ้าปิศาจร้องขึ้นพร้อมเข้าโจมตี แต่เจ้าตัวคู่กรณีกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวหรือ แสดงออกใดๆ เลย เมื่อปะทะกัน ทำให้เกิดแผลที่ไหลเล็กน้อย เมื่อเจ้าปิศาจหันกลับมาจะซ้ำให้ตาย ด้วยความสะใจ
“หึๆ...คราวนี้แกมะ...อ้ากกกก!!!!!” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น เพราะร่างกายเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆ
“หึ...หึ...มีพลังแค่นั้นทำผยอง...แกมันก็แค่สวะที่บังอาจไปทำร้ายพวกพวกพ้องของชั้น...” เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นจนถึงกระดูก ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองรูม่านตาเหมือนสัตว์ที่ดุร้าย กำลังย่างสามขุมมาหยุดตรงหน้าของเจ้าปิศาจ
“และที่สำคัญ...คือแกบังอาจทำร้ายเพื่อนคนสำคัญของข้าก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ตายสบายนะ” พูดจบร่างกายของเจ้าปิศาจก็เหมือนถูกลมที่คมเหมือนใบมีดฟันจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทั้งเป็น เลือดกระเซ็นนองเต็มพื้น เจ้ามองผลงานของตนก่อนจะมองไปทางที่พักของพวกริวโคก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“...อีกไม่นานคงได้เจอกันแล้วนะ...ไค...” หลังจากนั้นก็หายไปในพริบตาจากตรงนั้น
//TBC...//
ความคิดเห็น