ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สัญญา [ปรับปรุง100%]
.../กริ๊ง...กริ๊ง.../... เสียงบอกเวลาเที่ยงคืนของนาฬิกาโรงเรียนโคโนฮะ
นั้นเหมือนเสียงเปิดม่านโหมโรงแห่งโชคชะตาของเด็กหนุ่มผมทอง
มีอ่อร่าสีแดงสดห่อหุ้มร่างกายก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายจิ้งจอกตัวใหญ่
และที่แน่ๆ คือดูออกทันที่ว่ามีหางอยู่ 9 หาง
กระแสอากาศโดยรอบตัวนารูโตะนั้นเสียดสีกันจนบางและคมกริบดังใบมีดที่แหลมคม
บรรยากาศในตอนนี้นั้นราวกับไม่ใช้นารุโตะที่เค้ารู้จักอีกต่อไป
แต่เป็นอสูรที่น่ากลัว จนร่างกายสั้นสะท้านไปหมด
แม้แต่อ.มิซึกิถึงกับผงะเหงื่อตก
จนเผลอยิ้มที่มุมก่อนหัวเราะดังอีกครั้งเหมือนคนเสียสติ
"ฮะ..ฮะ...ไม่นึกเลยจะได้เจอของดีขนาดนี้"
พลางขยายร่างกลายเป็นปิศาจเสือโคร่ง แต่ยังคงทรงตัวและรูปร่างดูเป็นมนุษย์อยู่
ส่วนซาสุเกะที่มือกุมแขนอีกข้างแน่น นั่งมองคนสำคัญของเค้าด้วยความกลัว
และขณะเดียวกันนั้นก็สังเกตุเห็นผ้าพันแผลที่หลุดออกเผยให้บาดแผลประสานตัวอย่างรวดเร็วจนน่าขนลุกราวกับว่าบุคลตรงหน้าเป็นปิศาจที่อยู่ในคลาบของมนุษย์
นาม 'อุซึมาคิ นารุโตะ'
ปิศาจเสือโคร่งหลังจากมองท่าที่อยู่นานเห็นว่าเป็นโอกาศเหมาะจึงเข้าจู่โจมตรงๆ
ด้วยความเร็วสูง แต่ก็กระเด็นกลับมาไปชนกับประตูทางเข้าจนพังพินาจ
ด้วยออร่าสีแดงชาติที่ลุกโชติช่วงตามตัว
เปลือกเปิดออกให้เห็นดวงตาสีฟ้าใสกลับกลายเป็นสีแดงเพลิงแววตาดุดันดังสัตว์ป่า
พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
เพียงพริบตาเดียวเด็กหนุ่มผมทองก็มาอยู่ตรงหน้าปิศาจพร้อมออกหมัดขวาตรงใส่ปิศาจอีกตนที่ยื่นก็แทบแย่แล้ว
/*/ตูม!!ตูม!!/*/
กำแพงปูนคอนกรีดด้านหลังระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ส่วนปิศาจเสือโคร่งนั้นล้มลงเลือดสีสดหลั่งไหลนองพื้น
เด็กหนุ่มผมทองยกมีขวาที่มีเลือดเปอะอยู่เล็กน้อยขึ้นมาเลีย
ก่อนหันไปมองซาสุเกะที่นั่งอยู่ไม่ไกลออกไป
เพราะความกลัวเข้าครอบงำจนไม่สามารถลุกหรือขยับตัวไปไหนได้
ร่างบางสาวเท้าเข้าไปหาอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มผงะก่อนพยายามคลานถอนหลัง
แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิดมหันเพราะหลังแกร่งไปชนกับกำแพงที่เป็นรูด้านหลัง
ยิ่งทำให้เกิดความคิดที่สิ้นหวัง
เหงื่อออกตามร่างกายประสาตทั้งหมดถูกกระตุ้นด้วยความกลัว
น้ำลายฝืดคอเป็นอย่างมากเมื่อกลื่นลงไปเหมื่อนเคยได้รับรู้มาก่อน
...แล้วมันที่ไหนกัน...จนเผลอหลับตาแน่นแล้วความทรงจำบางอย่างแล่นเข้าสู่สมอง
ความรู้สึกที่เคยได้สัมผัส
ใช่แล้วตอนที่ครอบครัวถูกฆ่าล้างตระกูลและก็ได้พบกับเด็กน้อยผมทองคนนี้
แล้วได้เค้าดูแลจนมีวันนี้ได้ เมื่อลืมตาก็พบว่าเด็กผมทองที่เคยช่วยเค้าบัดนี้
กลายเป็นปิศาจยื่นอยู่ต่อหน้าเค้า
นั่งชั้นเข้าซ้ายไว้ก่อนยื่นมือเรียวงามนั้นตรงมาบีบคอจนกระแทกกำแพง
พลางเริ่มออกแรงบีบ การหายใจเริ่มติดขัด ดวงตาเริ่มพร่า
สมองเริ่มขาดอากาศไปล่อเลี้ยงทำให้เกิดอากาณมึนงง แต่ที่ต้องใจเป็นหนักหนาคือ
พยายามแกะมือเล็กเท่าไรก็ไม่ออกมีแต่จะบีบแน่นขึ้น
เมื่อเริ่มหมดแรงความรู้สึกเริ่มด้านชา
แต่แล้วเมื่อมองสบกับดวงตาสีเพลิงคู่นั้น ทั้งเย็นชาและโดดเดียวยิ่งกว่าใครๆ
แต่กลับมีน้ำใสๆ ไหลอาบแก้มเป็นสายธาร
ปากที่เริ่มซีดเซียวนั้นค่อยๆเปิดออกอย่างยากลำบากพอๆ กับเปร่งเสียง
"นะ...นา...รู...โตะ"
เพียงสามคำที่หลุดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มผมดำคลับเช่นเดียวกับสีดวงตา
มือเรียวงามนั้นหยุดกึกชักกลับอย่างเร็วมากุมหัวตนเองที่จู่ๆ
ก็ปวดขึ้นราวกลับจะระเบิด
ทำให้ร่างสูงได้หายใจได้เต็มที่อีกครั้งมือที่ข้างที่ยังพอขยับได้ยกขึ้นจำคอตนเองลูบไปมาพลางหันมามองคนสำคัญของเค้า
"นารุโตะ...นี้นาย" เด็กหนุ่มพึมพำ
เพราะเสียงยังกลับมาไม่ได้สมบรูณ์...นี้นายกำลังต่อสู้กับปิศาจที่อยู่ในตัวเหลอ...
ซาสุเกะคิด
"อึก!!อ๊า!!" แล้วภาพต่างๆ ก็หลังใหลราวกับฉากหนัง
แต่ที่รู้อยู่อย่างคือมันมีทั้งความทรงจำของตัวของเค้าเอง
และของใครบางคนที่เค้ารู้จัก แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วจู่ๆ
ก็ดับวูบลงพร้อมกำลังทั้งหมดของเค้าลงไปนอนหายใจรัวราวกับขาดอากาศกับพื้น
ร่างสูงค่อยๆ ขลานเข้ามาใกล้ก่อนช้อนตัวร่างบางขึ้นมา
"นารุโตะ ทำใจดีๆ เอาไว้" ซาสุเกะพูดขึ้นบอก
และตัวเค้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่มาจากร่างบางนั้นคล้ายๆ
ไอร้อนตอนที่น้ำร้อนเริ่มเดือดลอยขึ้นมาปะทะกับเค้า
ย่งทำให้รู้สึกกล้ามเนื้อค่อยๆ กลับมามีแรงอีกครั้ง
แขนที่ถูกทำร้ายจนขยับไม่ได้บัดนี้กลับขยับได้เป็นปรติ บาดแผลก็เริ่มประสานตัว
ทำให้แปลกใจเป็นอย่างยิ่งกับพลังพิเศษนี้...มิน่าพวกมันถึงอยาได้กันนัก
แต่ว่าปิศาจที่น่ากลัวนั้นคงไม่ใช้... ซาสุเกะคิด
พลางกระชับวงแขนก่อจะรีบลุกขึ้น มองไปทางเสือโคร่งที่นอนอาบเลือดอยู่
นั้นก็แน่ใจได้เลยว่าตายแน่ พลางหันไปมองซากประตูทางออกที่
โชคยังดีที่ไม่ถูกหินกลบหมดยังพอไปต่อได้
เด็กหนุ่มจึงไม่รอช้าจับร่างบางขี่หลังก่อนวิ่งออกจาที่นั้นเป๋าหมายคือบ้านเค้า
ซึ่งที่นั้นมีคนที่สามารถอธิบายเรื่องทุกอย่างได้อยู่ เมื่อวิ่งถึงทางลงจู่ๆ
มีบางอย่างคว้าขาเค้าไว้ พอหันกลับเป็นปิศาจเสือโคร่งมิซึกิที่ยังไม่ตาย
กำลังเสยะยิ้มอยู่
"จะเอาเจ้านั้นไปไม่ได้ข้าไม่ให้พวกสวะอย่างแกหลอก"
พูดไปร่างกายก็เปลี่ยนเป็นปิศาจเลื่อยๆ จนแทบไม่เหลือเค้าเดินอีกต่อไป
ด้วยตกใจจึงรีสะบัดขาพร้อมวิ่งกึ่งกระโดดลงบรรไดจนถึงเขตชั้นเรียน
จึงตัดสินใจเข้าไปในห้องเรียนที่อยู่ใกล้ทางลง พลางนั่งหลบมุมทางออกของประตู
เพราะทั้งวิ่งและแบกเจ้าตัวดีทำให้เหนื่อยคูณ 2
การหายใจหอบถี่ภายในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสว่างผ่านกระจกเท่านั้น
ทำให้ได้ยินเสียงลงบรรไดของเจ้าปิศาจได้ชัดเจน
ซาสุเกะตัดสินใจใช้เนตรวงแหวนอีกครั้งตรงช่วงเล็กของประตู
ภาพที่เค้าเห็นนั้นเป็นเหมื่อนคลื่นไฟฟ้าในตัวคนที่กำลังเดินลงมาอย่างช้าๆ
แต่แล้วก็ต้องกลับกลายเป็นสีดำเช่นเดิม
เพราะผลข้างเคียงจากการต่อสู้ที่ใช้เนตรมากเกินไปมือข้างหนึ่งยกขึ้นจับดวงตาข้างขวา
พลางกัดฟัดกรอบสมเพชตนเองที่ไร้พลัง ซึ่งร่างบางนั้นค่อยๆ
เปิดตาออกมาอย่างช้าๆ แต่ดวงตานั้นยังคงเป็นสีแดงเพลิงอยู่
แต่ก็เหมือนไฟเย็นดูไร้ชีวิต
พลางขยับตัวเล็กน้อยให้ร่างสูงรับรู้พลางเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีรัตติกาล
เมื่อสายตาทั้งสองประสานซาสุเกะสะดุ้งตัวแรงไปนิดจนหัวไปโขกกับประตูด้วยความตกใจ
เมื่อปากเรียวงามจะร้องกล่าวอะไรมือเรียวเล็กยกปิดไว้อย่างทันท่วงทีพร้อมทำเสียงจิ้งจก
เมื่อความเงียบโรยตัวเข้ามาจึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาถึงชั้นที่พวกเค้าอยู่
และเดินมาหยุดที่ประตู ตอนนี้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเต้นรั่วและเร็ว
เหงื่อผุดขึ้นตามร่างกาย เมื่อไม่พบอะไรปิศาจเดินจากไปจนแน่ใจแล้ว
มือเรียวเล็กจึงยกออกให้ร่างสูงได้พูด
เมื่อปากเรียวงามเป็นอิสระถอนหายใจก่อนจะจ้องเขม่งมาที่ร่างบางซึ่งมองกับมาอย่างเฉยฉา
-"ไม่ต้องห่วงนารุโตะไปหลอก"- เสียงบอกกล่าวขึ้นเบามาก แต่ก็ยังได้ยิน
มือเรียวเล็กจับมือแกร่งขึ้นมากุมและดึงมาให้สัมผัสที่อก ของร่างบาง
-"ตอนนี้เค้าอยู่ในนี้เพื่อ.../เลือก/ทางที่จะเดินต่อไปร่วมทั้งนายด้วย อุจิวะ
ซาสุเกะ"-
"หมายความว่าไง?แล้วนายเป็นใคร" คำถามถูกยิงมา
แต่ได้รอยยิ้มอ่อนโยนเป็นคำตอบแทน
-"ฉัน...คือนารุโตะ นารุโตะคือฉัน..."- คำตอบที่คนฟังไม่ค่อยอยากรับรู้
ทำหน้าไม่เชื่อไม่ลง รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าขาวเนียนของเพื่อนผมทอง
ยิ่งทำให้ซาสุเกะไม่สบอารมณ์ ราวกับเห็นเค้าเป็นของเล่น
แต่ตอนนี้มีเรื่องที่เค้ายังไม่เข้าใจอยู่
"แล้วที่ว่า/เลือก/นั้นหมายความว่าไง" คำถามถูงยิงมาอีกครั้ง
เด็กหนุ่มผมทองมองลึกลงไปในดวงตาสีรัตติกาล ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสบสน
ความกลัวและความเจ็บใจที่ตนเองไร้พลัง ก่อนค่อยๆ
หลับตาลงความมือมิดเข้าครอบงำเมื่อลืมตาอีกครั้งภาพที่ปรากฎตรงหน้านั้นเป็นห้องโถงใหญ่
น้ำน่องเต็มพื้นบรรยากาศเย็ยเยียบ มืดสลัวๆ
มีเด็กหนุ่มผมทองนั่งหลับหายใจหอบราวกับขาดอากาศ
พิงรั่วเหล็กอยู่อยู่ตรงหน้าเค้า
-"นารุโตะตื่นเถอะ"- เสียงเรียกขึ้น เปลื่อกตาค่อยๆ
เปิดออกอย่างเชื่องช้ามองบุครตรงหน้า
ที่เหมื่อนเค้าแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเส้นผมสีทองอร่าม
ใบหน้ามีแผลเป็นผิวขาวเนียนสัดส่วนก็เท่ากันมีเพียงสีตาเท่านั้นที่แตกต่างกัน
"นาย...เป็นใคร"
-"ฉันก็คือนายไงล่ะ"- คำตอบกลับดังขึ้น
พลางเข้าสวมกอดราวกับขาดความอบอุ่นและรัดยิ่งขึ้น
.../ซ่า..ซ่า/...
สายน้ำก่อรูปร่างขึ้นด้านหลังตัวเค้าอีกคนไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก
เรียกความสนใจได้อย่างมาก
เมื่อรู้รูปร่างชัดเจนมากขึ้นก็ยิ่งแน่ใจได้ว่าเป็นคนที่เค้ารู้จักดียิ่งกว่าอะไร
"ซาสุ...เกะ...ทำไม"
เด็กหนุ่มพึมพำออกมาเมื่อสายน้ำก่อรูปร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากนั้นจากสูงส่งยิ้มน้อยๆ
ที่มุมให้ก่อนจะถูกตลึงกับไม้กางเขนพร้อมเข็มหลายเล็มพุ้งขึ้นแทงตัวร่างสูงจากพื้นน้ำที่น่องอยู่และยังคงไม่หยุดอยู่แค่นั้นด้วยความตกใจ
"ซาสุเกะ!!!!~"
เมื่อเห็นบุคลตรงหน้ากำลังถูกแทงจึงกระโจมออกจากอกของร่างบางเค้าไป
แต่เจอพุ่มเข็มน้ำที่ตั้งขึ้นกันไว้ทำให้ร่างบางชะงัดเล็กน้อย
-"ถึงคราวที่พวกเจ้าต้อง/เลือก/แล้วว่าจะ/ช่วย/หรือ/ปล่อยไป/"-
เสียงบอกกล่าวขึ้นอีกครั้ง จากเด็กหนุ่มผมทอง ดวงตาสีเพลิง
แต่ดูเรียบเฉยสงบเงียบกล่าวบอกเด็กหนุ่มผมทองเช่นเดียวกับเค้า
แต่มีดวงตาสีฟ้าสดใสในโลกจิตใจ
กับเด็กหนุ่มทั้งดวงตาและเส้นผมสีรัตติกาลอยู่ในโลกความเป็นจริงต่างนิ่งเงียบคิด
เมื่อความเงียบโรยตัวเข้ามา
-"ถ้า/ช่วย/เจ้าก็อาจตายได้แต่ถ้า/ปล่อยไป/บางทีอาจเจ้าก็อาจจะรอด"-
คำกล่าวดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อพูดจบเพดานห้องพังทะลายลงมา
พร้อมการปรากฎกายของอสูรกายซึ้งกำลังแสยะยิ้มอย่างคนมีชัย
"อยู่นี้กันเองรึเปล่าให้หาซะตั้งนาน" พลางอย่างเก้าเข้ามาใกล้
จ้องมองร่างบางไม่วางตา
พลางแลบลิ้นเลียปากแผล่บดังอาหารโอชะตรงหน้าเรียกน้ำลายส่อค่อยๆ
มองอย่างพินิพิจารณาช้าๆ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
แล้วตวัดกลับมาจ้องดวงตาสีแดงเพลิงอีกครั้ง
ซึ่งบัดนี้ดวงตานั้นส่องสว่างดังเปลวเพลิงที่พร้อมลุกไหม้ได้ทุกเมื่อแลดูน่าเกรงขาม
น่ายำเกรง
เลียกเสียงหัวเราะในลำคอก่อนก้มตัวลงเล็กน้อยใช้มือที่บัดนี้กลายเป็นอ้มเท่าเชิดคางมลขึ้น
"งดงามน่าลิ้มลองดังที่เค้าว่าเลยนะจิ้งจอกเก้าหาง" คำกล่าวชมดังขึ้น
แต่คนไม่ปลื้มเลยซักนิด ยังคงเงียบเฉย ยิ่งทำให้อารมณ์ความอดทนเริ่มหมดลง
"ทำแบบแปลว่ายอมชั้นแล้วซินะ" ไม่ว่าเปล่าพลางก้มตัวลงหมายลิ้มลองดอกไม้งาม
เมื่อซาสุเกะเห็นดังนั้นจึงทนต่อไปไม่ไหวอีกต่อไป
หยิบมีดพกขึ้นขวางไปอย่างไม่ทันคิด มีดพกเฉียดหน้าปิศาจเสือโคร่งอย่างเฉียดฉิว
ทำให้ความอดทนหมดลงปล่อยตัวร่างบางหันมาสนใจกับเด็กหนุ่มผมสีรัตติกาลที่ยืนอยู่ด้านข้าง
"ท่าทางอยากตายมากเลยซินะไอ้เด็กเมื่อวันซืน"
คำถามกล่าวขึ้นแฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่ไม่มีท่าทีที่ซาสุเกะจะสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว
พลางหันมามองเด็กหนุ่มผมทองที่มองเค้าอยู่ไม่วางตา
"เธอถามถึงทาง/เลือก/ ซินะ" พลางยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
ก่อนจะตั้งท่าต่อสู้เต็มที่
พร้อมกะโจนเข้าต่อสู้เพื่อปกป้องบุคคลอันเป็นที่รัก
ขณะเดียวกันทางด้านนารุโตะภายในโลกจิตใจ
นั้นตัดสินใจได้ลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปยังหนามเข็มพร้อมหันมามองตัวเค้าอีกคนด้านหลัง
พร้อมส่งยิ้มน้อยๆ
"นี้ชั้นไม่รู้หลอกนะว่าทาง/เลือก/ อะไรนั้นมันจะเป็นยังไง
แต่ชั้นจะก้าวเดินต่อไปโดยไม่อยากเสียใจที่หลังอีกแล้ว"
พร้อมก้าวเข้าไปในอณาเขตที่เต็มไปด้วยหนาม และมีบางที่ยิงขึ้นทำร้ายเค้า
ทั้งเจ็บปวด และเมื้อยล่าเต็มทน
แต่ก็ยังคงเดินต่อไปหาเด็กหนุ่มที่ถูกตลึงตรงหน้า
จากก้าวอย่างเวื่องช้าเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้น
*"เพราะนี้คือทาง/เลือก/ของชั้น"* ทั้งสองกล่าวพร้อมกันความตั้งใจเดียวกัน
ราวกับหัวใจดวงเดียวกัน
เด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีเพลิงยิ้มเล็กน้อยกับคำตอบของคนทั้งคู่
เมื่อซาสุเกะถูกซัดกระเด็นมาทางเค้า
และหยุดลงก่อนถึงตัวนารุโตะที่ขยับไปไหนไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆ
เสียงสว่างวาบขึ้นที่ตัวนารุโตะ ด้วยความตกใจซาสุเกะหันไปทางนั้น
ขณะเดียวกับที่นารโคะหลุดจากหนามเข็มตรงเข้าหมายกอดบุคคลที่เค้ารัก
และสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
"ซาสุเกะ~นารูโตะ" เสียงเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกัน
พร้อมเสียงสว่างรอบตัวคนทั้งสองดังม่านบาเลียคุ้มครอง
นารุโตะและซาสุเกะโผกอดกัน
เมื่อผละออกดวงตากลับกลายเป็นสีฟ้าสดใสดังเดิมทำให้จิตใจของร่างสูงสงบอย่างบอกไม่ถูก
แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง
-"ไม่มีเวลาแล้วพวกเจ้าต้องทำ'สัญญา' กันช่วยกันกำจัดเจ้าปิศาจนั้น" -
เมื่อฟังดังนั้น ซาสุเกะหน้าเสียเล็กน้อย นารูโตะจึงยกมือสัมผัสหน้าของร่างสูง
"ซาสุเกะลุยมันเถอะยังไงชั้นก็เก่งนะ" พร้อมส่งยิ้มให้
ซาสุเกะถอนหายใจกับนิสัยมุทะลุชอบลุย ทั้งที่ร่างกายเป็นแบบนี้
"แล้วอย่าเสียใจที่หลังล่ะ" เมื่อกล่าวจบ มือข้างหนึ่งลวงไปในกระเป๋ากางเกง
พร้อมหยิบมันออกมา เป็นสร้อยคอจี้รูปคริสตรอล
สีเขียวมรกตร่างสูงกัดที่นิ้วหัวแม่โป้งจนเลือดซิบ
"นารุโตะเอาเลือป้ายที่นิ้วโป้งเร็ว" เมื่อสิ้นคำกล่าวนารูโตะทำตามแต่โดยดี
ซาสุเกะจับมือเรียวงามขึ้นมาป้ายจี้ร่วมกับเลือดของเค้าที่ถืออยู่แล้ว
แล้วความรู้สึกเหมือนพลังเอ่อล้มออกมาและเสียงบางอย่างในใจผุดขึ้นมา
...ข้าขอวิงวอนต่อท้องนภา...
......ให้พื้นแผ่นดินร่วมรับรู้......
...มหาสมุทรร่วมเป็นศักดิ์คี...
......และเปลวเพลิงที่เผาไหม้......
...ร่วมเป็นพยานใน 'สัญญา' นี้...
......ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะยึดมั่น...
...และร่วมทุกข์ สุข จนกว่าชีวาจะดับสูนสิ้น...
เมื่อกล่าวจบซาสุเกะดึงร่างบางจูบ
และพยายามดูกินน้ำลายของนารูโตะที่มีเลือดค้างอยู่บ้าง
สร้างความตื่นตะหนกให้กับนารุโตะเป็นอย่างมาก
แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเช่นกันจนดวงตาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ
เมื่อร่างสูง ราวกับพลังในร่างของเค้าเอ่อล้มออกมาไม่หยุด
ดวงตาเปลี่ยนเป็นเนตรสีเพลิงอีกครั้งค่อยๆ วางนารุโตะไว้ข้างๆ บาเลียค่อยๆ
สลายไป ปิศาจที่นั่งรออยู่นั้นเตรียมพร้อมลุยอยู่แล้ว
แต่ก็ถูกอะไรบางอย่างซัดกระเด็นออกนอกหน้าต่างตกลงไปที่สนามฟุตบอล
แต่ไม่เป็นไรมากจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเคียดแค้น
เด็กหนุ่มผมสีรัตติกาลเดินตรงมาหยุดที่ปืศาจเสือโคร่ง
"มาจบกันไปเลยล่ะกันเจ้าเหมี้ยว"
พร้อมประสาตอินอย่างรวดเร็วและสายฟ้าก่อตัวขึ้นส่งเสียงดังปักษานับพันส่งเสียงร้อง
พร้อมกระโจนตรงเข้าไปหาปิศาจร้าย
"มันจะมากไปแล้วไอ้เด็กบ้า" พูดจบก็กระโจนตรงเข้าไปเช่นกัน
//ตูม!!//
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมร่างที่แตกสลายกลายเป็นเถ้าธุรีของปิศาจร้าย
เด็กหนุ่มดวงตาสีกลับมาเป็นรัตติกาลอีก
ครั้งเดินกลับไปที่ตัวตึกซึ่งเด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีแดงเพลิงกำลังยื่นรออยู่
เมื่อมาถึงร่างบางจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาร่างสูง
พร้อมยกมือสัมผัสใบหน้าอันหล่อเหลา
ที่ตอนนี้มีบาดแผลเต็มตัวรวมถึงตัวเค้าเองเช่นกัน
-"เลี้ยงพวกเราแล้วคงไม่เสียใจที่หลังนะ"- คำกล่าวดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่
"ไม่อยู่แล้ว...'คลาย'..."
พูดจบดวงตาสีเพลิงกลับเป็นสีฟ้าใสก่อนจะหลับไปอีกครั้ง
ในอ้อมกอดของซาสุเกะ เด็กหนุ่มค่อยๆ
สวมสร้อยคอจี้คริสตรอลให้พร้อมอมยิ้มเล็กน้อย
"Happy Birth Naruto" พลางค่อยๆ บรรจงสัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ้มอีกครั้ง
ในโลกรัตติกาลที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และแสงจันทร์นวลผ่องสว่างในยามคำคืนนี้
พร้อมบทโหมโรง แห่งโชคชตะ ได้เล่นเปิดม่านจบลงแล้ว...
/*/โปรดติดตามตอนต่อไป/*/
ส่งท้ายค่า~...ในที่สุดก็เสร็จจบตอนแล้วนะค่ะกว่าจะอัพได้มันทุลักทุเลมากเลยละค่า
แต่ยังไงก็จะพยายามต่อนะ ช่วงนี้ไม่สบายและติดสอบด้วยยิ่งอยากตาย
(เพราะปวดหัวมากY.Y) แต่จะค่อยๆ อัพนะค่ะ
นั้นเหมือนเสียงเปิดม่านโหมโรงแห่งโชคชะตาของเด็กหนุ่มผมทอง
มีอ่อร่าสีแดงสดห่อหุ้มร่างกายก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายจิ้งจอกตัวใหญ่
และที่แน่ๆ คือดูออกทันที่ว่ามีหางอยู่ 9 หาง
กระแสอากาศโดยรอบตัวนารูโตะนั้นเสียดสีกันจนบางและคมกริบดังใบมีดที่แหลมคม
บรรยากาศในตอนนี้นั้นราวกับไม่ใช้นารุโตะที่เค้ารู้จักอีกต่อไป
แต่เป็นอสูรที่น่ากลัว จนร่างกายสั้นสะท้านไปหมด
แม้แต่อ.มิซึกิถึงกับผงะเหงื่อตก
จนเผลอยิ้มที่มุมก่อนหัวเราะดังอีกครั้งเหมือนคนเสียสติ
"ฮะ..ฮะ...ไม่นึกเลยจะได้เจอของดีขนาดนี้"
พลางขยายร่างกลายเป็นปิศาจเสือโคร่ง แต่ยังคงทรงตัวและรูปร่างดูเป็นมนุษย์อยู่
ส่วนซาสุเกะที่มือกุมแขนอีกข้างแน่น นั่งมองคนสำคัญของเค้าด้วยความกลัว
และขณะเดียวกันนั้นก็สังเกตุเห็นผ้าพันแผลที่หลุดออกเผยให้บาดแผลประสานตัวอย่างรวดเร็วจนน่าขนลุกราวกับว่าบุคลตรงหน้าเป็นปิศาจที่อยู่ในคลาบของมนุษย์
นาม 'อุซึมาคิ นารุโตะ'
ปิศาจเสือโคร่งหลังจากมองท่าที่อยู่นานเห็นว่าเป็นโอกาศเหมาะจึงเข้าจู่โจมตรงๆ
ด้วยความเร็วสูง แต่ก็กระเด็นกลับมาไปชนกับประตูทางเข้าจนพังพินาจ
ด้วยออร่าสีแดงชาติที่ลุกโชติช่วงตามตัว
เปลือกเปิดออกให้เห็นดวงตาสีฟ้าใสกลับกลายเป็นสีแดงเพลิงแววตาดุดันดังสัตว์ป่า
พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
เพียงพริบตาเดียวเด็กหนุ่มผมทองก็มาอยู่ตรงหน้าปิศาจพร้อมออกหมัดขวาตรงใส่ปิศาจอีกตนที่ยื่นก็แทบแย่แล้ว
/*/ตูม!!ตูม!!/*/
กำแพงปูนคอนกรีดด้านหลังระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ส่วนปิศาจเสือโคร่งนั้นล้มลงเลือดสีสดหลั่งไหลนองพื้น
เด็กหนุ่มผมทองยกมีขวาที่มีเลือดเปอะอยู่เล็กน้อยขึ้นมาเลีย
ก่อนหันไปมองซาสุเกะที่นั่งอยู่ไม่ไกลออกไป
เพราะความกลัวเข้าครอบงำจนไม่สามารถลุกหรือขยับตัวไปไหนได้
ร่างบางสาวเท้าเข้าไปหาอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มผงะก่อนพยายามคลานถอนหลัง
แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิดมหันเพราะหลังแกร่งไปชนกับกำแพงที่เป็นรูด้านหลัง
ยิ่งทำให้เกิดความคิดที่สิ้นหวัง
เหงื่อออกตามร่างกายประสาตทั้งหมดถูกกระตุ้นด้วยความกลัว
น้ำลายฝืดคอเป็นอย่างมากเมื่อกลื่นลงไปเหมื่อนเคยได้รับรู้มาก่อน
...แล้วมันที่ไหนกัน...จนเผลอหลับตาแน่นแล้วความทรงจำบางอย่างแล่นเข้าสู่สมอง
ความรู้สึกที่เคยได้สัมผัส
ใช่แล้วตอนที่ครอบครัวถูกฆ่าล้างตระกูลและก็ได้พบกับเด็กน้อยผมทองคนนี้
แล้วได้เค้าดูแลจนมีวันนี้ได้ เมื่อลืมตาก็พบว่าเด็กผมทองที่เคยช่วยเค้าบัดนี้
กลายเป็นปิศาจยื่นอยู่ต่อหน้าเค้า
นั่งชั้นเข้าซ้ายไว้ก่อนยื่นมือเรียวงามนั้นตรงมาบีบคอจนกระแทกกำแพง
พลางเริ่มออกแรงบีบ การหายใจเริ่มติดขัด ดวงตาเริ่มพร่า
สมองเริ่มขาดอากาศไปล่อเลี้ยงทำให้เกิดอากาณมึนงง แต่ที่ต้องใจเป็นหนักหนาคือ
พยายามแกะมือเล็กเท่าไรก็ไม่ออกมีแต่จะบีบแน่นขึ้น
เมื่อเริ่มหมดแรงความรู้สึกเริ่มด้านชา
แต่แล้วเมื่อมองสบกับดวงตาสีเพลิงคู่นั้น ทั้งเย็นชาและโดดเดียวยิ่งกว่าใครๆ
แต่กลับมีน้ำใสๆ ไหลอาบแก้มเป็นสายธาร
ปากที่เริ่มซีดเซียวนั้นค่อยๆเปิดออกอย่างยากลำบากพอๆ กับเปร่งเสียง
"นะ...นา...รู...โตะ"
เพียงสามคำที่หลุดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มผมดำคลับเช่นเดียวกับสีดวงตา
มือเรียวงามนั้นหยุดกึกชักกลับอย่างเร็วมากุมหัวตนเองที่จู่ๆ
ก็ปวดขึ้นราวกลับจะระเบิด
ทำให้ร่างสูงได้หายใจได้เต็มที่อีกครั้งมือที่ข้างที่ยังพอขยับได้ยกขึ้นจำคอตนเองลูบไปมาพลางหันมามองคนสำคัญของเค้า
"นารุโตะ...นี้นาย" เด็กหนุ่มพึมพำ
เพราะเสียงยังกลับมาไม่ได้สมบรูณ์...นี้นายกำลังต่อสู้กับปิศาจที่อยู่ในตัวเหลอ...
ซาสุเกะคิด
"อึก!!อ๊า!!" แล้วภาพต่างๆ ก็หลังใหลราวกับฉากหนัง
แต่ที่รู้อยู่อย่างคือมันมีทั้งความทรงจำของตัวของเค้าเอง
และของใครบางคนที่เค้ารู้จัก แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วจู่ๆ
ก็ดับวูบลงพร้อมกำลังทั้งหมดของเค้าลงไปนอนหายใจรัวราวกับขาดอากาศกับพื้น
ร่างสูงค่อยๆ ขลานเข้ามาใกล้ก่อนช้อนตัวร่างบางขึ้นมา
"นารุโตะ ทำใจดีๆ เอาไว้" ซาสุเกะพูดขึ้นบอก
และตัวเค้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่มาจากร่างบางนั้นคล้ายๆ
ไอร้อนตอนที่น้ำร้อนเริ่มเดือดลอยขึ้นมาปะทะกับเค้า
ย่งทำให้รู้สึกกล้ามเนื้อค่อยๆ กลับมามีแรงอีกครั้ง
แขนที่ถูกทำร้ายจนขยับไม่ได้บัดนี้กลับขยับได้เป็นปรติ บาดแผลก็เริ่มประสานตัว
ทำให้แปลกใจเป็นอย่างยิ่งกับพลังพิเศษนี้...มิน่าพวกมันถึงอยาได้กันนัก
แต่ว่าปิศาจที่น่ากลัวนั้นคงไม่ใช้... ซาสุเกะคิด
พลางกระชับวงแขนก่อจะรีบลุกขึ้น มองไปทางเสือโคร่งที่นอนอาบเลือดอยู่
นั้นก็แน่ใจได้เลยว่าตายแน่ พลางหันไปมองซากประตูทางออกที่
โชคยังดีที่ไม่ถูกหินกลบหมดยังพอไปต่อได้
เด็กหนุ่มจึงไม่รอช้าจับร่างบางขี่หลังก่อนวิ่งออกจาที่นั้นเป๋าหมายคือบ้านเค้า
ซึ่งที่นั้นมีคนที่สามารถอธิบายเรื่องทุกอย่างได้อยู่ เมื่อวิ่งถึงทางลงจู่ๆ
มีบางอย่างคว้าขาเค้าไว้ พอหันกลับเป็นปิศาจเสือโคร่งมิซึกิที่ยังไม่ตาย
กำลังเสยะยิ้มอยู่
"จะเอาเจ้านั้นไปไม่ได้ข้าไม่ให้พวกสวะอย่างแกหลอก"
พูดไปร่างกายก็เปลี่ยนเป็นปิศาจเลื่อยๆ จนแทบไม่เหลือเค้าเดินอีกต่อไป
ด้วยตกใจจึงรีสะบัดขาพร้อมวิ่งกึ่งกระโดดลงบรรไดจนถึงเขตชั้นเรียน
จึงตัดสินใจเข้าไปในห้องเรียนที่อยู่ใกล้ทางลง พลางนั่งหลบมุมทางออกของประตู
เพราะทั้งวิ่งและแบกเจ้าตัวดีทำให้เหนื่อยคูณ 2
การหายใจหอบถี่ภายในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสว่างผ่านกระจกเท่านั้น
ทำให้ได้ยินเสียงลงบรรไดของเจ้าปิศาจได้ชัดเจน
ซาสุเกะตัดสินใจใช้เนตรวงแหวนอีกครั้งตรงช่วงเล็กของประตู
ภาพที่เค้าเห็นนั้นเป็นเหมื่อนคลื่นไฟฟ้าในตัวคนที่กำลังเดินลงมาอย่างช้าๆ
แต่แล้วก็ต้องกลับกลายเป็นสีดำเช่นเดิม
เพราะผลข้างเคียงจากการต่อสู้ที่ใช้เนตรมากเกินไปมือข้างหนึ่งยกขึ้นจับดวงตาข้างขวา
พลางกัดฟัดกรอบสมเพชตนเองที่ไร้พลัง ซึ่งร่างบางนั้นค่อยๆ
เปิดตาออกมาอย่างช้าๆ แต่ดวงตานั้นยังคงเป็นสีแดงเพลิงอยู่
แต่ก็เหมือนไฟเย็นดูไร้ชีวิต
พลางขยับตัวเล็กน้อยให้ร่างสูงรับรู้พลางเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีรัตติกาล
เมื่อสายตาทั้งสองประสานซาสุเกะสะดุ้งตัวแรงไปนิดจนหัวไปโขกกับประตูด้วยความตกใจ
เมื่อปากเรียวงามจะร้องกล่าวอะไรมือเรียวเล็กยกปิดไว้อย่างทันท่วงทีพร้อมทำเสียงจิ้งจก
เมื่อความเงียบโรยตัวเข้ามาจึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาถึงชั้นที่พวกเค้าอยู่
และเดินมาหยุดที่ประตู ตอนนี้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเต้นรั่วและเร็ว
เหงื่อผุดขึ้นตามร่างกาย เมื่อไม่พบอะไรปิศาจเดินจากไปจนแน่ใจแล้ว
มือเรียวเล็กจึงยกออกให้ร่างสูงได้พูด
เมื่อปากเรียวงามเป็นอิสระถอนหายใจก่อนจะจ้องเขม่งมาที่ร่างบางซึ่งมองกับมาอย่างเฉยฉา
-"ไม่ต้องห่วงนารุโตะไปหลอก"- เสียงบอกกล่าวขึ้นเบามาก แต่ก็ยังได้ยิน
มือเรียวเล็กจับมือแกร่งขึ้นมากุมและดึงมาให้สัมผัสที่อก ของร่างบาง
-"ตอนนี้เค้าอยู่ในนี้เพื่อ.../เลือก/ทางที่จะเดินต่อไปร่วมทั้งนายด้วย อุจิวะ
ซาสุเกะ"-
"หมายความว่าไง?แล้วนายเป็นใคร" คำถามถูกยิงมา
แต่ได้รอยยิ้มอ่อนโยนเป็นคำตอบแทน
-"ฉัน...คือนารุโตะ นารุโตะคือฉัน..."- คำตอบที่คนฟังไม่ค่อยอยากรับรู้
ทำหน้าไม่เชื่อไม่ลง รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าขาวเนียนของเพื่อนผมทอง
ยิ่งทำให้ซาสุเกะไม่สบอารมณ์ ราวกับเห็นเค้าเป็นของเล่น
แต่ตอนนี้มีเรื่องที่เค้ายังไม่เข้าใจอยู่
"แล้วที่ว่า/เลือก/นั้นหมายความว่าไง" คำถามถูงยิงมาอีกครั้ง
เด็กหนุ่มผมทองมองลึกลงไปในดวงตาสีรัตติกาล ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสบสน
ความกลัวและความเจ็บใจที่ตนเองไร้พลัง ก่อนค่อยๆ
หลับตาลงความมือมิดเข้าครอบงำเมื่อลืมตาอีกครั้งภาพที่ปรากฎตรงหน้านั้นเป็นห้องโถงใหญ่
น้ำน่องเต็มพื้นบรรยากาศเย็ยเยียบ มืดสลัวๆ
มีเด็กหนุ่มผมทองนั่งหลับหายใจหอบราวกับขาดอากาศ
พิงรั่วเหล็กอยู่อยู่ตรงหน้าเค้า
-"นารุโตะตื่นเถอะ"- เสียงเรียกขึ้น เปลื่อกตาค่อยๆ
เปิดออกอย่างเชื่องช้ามองบุครตรงหน้า
ที่เหมื่อนเค้าแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเส้นผมสีทองอร่าม
ใบหน้ามีแผลเป็นผิวขาวเนียนสัดส่วนก็เท่ากันมีเพียงสีตาเท่านั้นที่แตกต่างกัน
"นาย...เป็นใคร"
-"ฉันก็คือนายไงล่ะ"- คำตอบกลับดังขึ้น
พลางเข้าสวมกอดราวกับขาดความอบอุ่นและรัดยิ่งขึ้น
.../ซ่า..ซ่า/...
สายน้ำก่อรูปร่างขึ้นด้านหลังตัวเค้าอีกคนไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก
เรียกความสนใจได้อย่างมาก
เมื่อรู้รูปร่างชัดเจนมากขึ้นก็ยิ่งแน่ใจได้ว่าเป็นคนที่เค้ารู้จักดียิ่งกว่าอะไร
"ซาสุ...เกะ...ทำไม"
เด็กหนุ่มพึมพำออกมาเมื่อสายน้ำก่อรูปร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากนั้นจากสูงส่งยิ้มน้อยๆ
ที่มุมให้ก่อนจะถูกตลึงกับไม้กางเขนพร้อมเข็มหลายเล็มพุ้งขึ้นแทงตัวร่างสูงจากพื้นน้ำที่น่องอยู่และยังคงไม่หยุดอยู่แค่นั้นด้วยความตกใจ
"ซาสุเกะ!!!!~"
เมื่อเห็นบุคลตรงหน้ากำลังถูกแทงจึงกระโจมออกจากอกของร่างบางเค้าไป
แต่เจอพุ่มเข็มน้ำที่ตั้งขึ้นกันไว้ทำให้ร่างบางชะงัดเล็กน้อย
-"ถึงคราวที่พวกเจ้าต้อง/เลือก/แล้วว่าจะ/ช่วย/หรือ/ปล่อยไป/"-
เสียงบอกกล่าวขึ้นอีกครั้ง จากเด็กหนุ่มผมทอง ดวงตาสีเพลิง
แต่ดูเรียบเฉยสงบเงียบกล่าวบอกเด็กหนุ่มผมทองเช่นเดียวกับเค้า
แต่มีดวงตาสีฟ้าสดใสในโลกจิตใจ
กับเด็กหนุ่มทั้งดวงตาและเส้นผมสีรัตติกาลอยู่ในโลกความเป็นจริงต่างนิ่งเงียบคิด
เมื่อความเงียบโรยตัวเข้ามา
-"ถ้า/ช่วย/เจ้าก็อาจตายได้แต่ถ้า/ปล่อยไป/บางทีอาจเจ้าก็อาจจะรอด"-
คำกล่าวดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อพูดจบเพดานห้องพังทะลายลงมา
พร้อมการปรากฎกายของอสูรกายซึ้งกำลังแสยะยิ้มอย่างคนมีชัย
"อยู่นี้กันเองรึเปล่าให้หาซะตั้งนาน" พลางอย่างเก้าเข้ามาใกล้
จ้องมองร่างบางไม่วางตา
พลางแลบลิ้นเลียปากแผล่บดังอาหารโอชะตรงหน้าเรียกน้ำลายส่อค่อยๆ
มองอย่างพินิพิจารณาช้าๆ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
แล้วตวัดกลับมาจ้องดวงตาสีแดงเพลิงอีกครั้ง
ซึ่งบัดนี้ดวงตานั้นส่องสว่างดังเปลวเพลิงที่พร้อมลุกไหม้ได้ทุกเมื่อแลดูน่าเกรงขาม
น่ายำเกรง
เลียกเสียงหัวเราะในลำคอก่อนก้มตัวลงเล็กน้อยใช้มือที่บัดนี้กลายเป็นอ้มเท่าเชิดคางมลขึ้น
"งดงามน่าลิ้มลองดังที่เค้าว่าเลยนะจิ้งจอกเก้าหาง" คำกล่าวชมดังขึ้น
แต่คนไม่ปลื้มเลยซักนิด ยังคงเงียบเฉย ยิ่งทำให้อารมณ์ความอดทนเริ่มหมดลง
"ทำแบบแปลว่ายอมชั้นแล้วซินะ" ไม่ว่าเปล่าพลางก้มตัวลงหมายลิ้มลองดอกไม้งาม
เมื่อซาสุเกะเห็นดังนั้นจึงทนต่อไปไม่ไหวอีกต่อไป
หยิบมีดพกขึ้นขวางไปอย่างไม่ทันคิด มีดพกเฉียดหน้าปิศาจเสือโคร่งอย่างเฉียดฉิว
ทำให้ความอดทนหมดลงปล่อยตัวร่างบางหันมาสนใจกับเด็กหนุ่มผมสีรัตติกาลที่ยืนอยู่ด้านข้าง
"ท่าทางอยากตายมากเลยซินะไอ้เด็กเมื่อวันซืน"
คำถามกล่าวขึ้นแฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่ไม่มีท่าทีที่ซาสุเกะจะสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว
พลางหันมามองเด็กหนุ่มผมทองที่มองเค้าอยู่ไม่วางตา
"เธอถามถึงทาง/เลือก/ ซินะ" พลางยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
ก่อนจะตั้งท่าต่อสู้เต็มที่
พร้อมกะโจนเข้าต่อสู้เพื่อปกป้องบุคคลอันเป็นที่รัก
ขณะเดียวกันทางด้านนารุโตะภายในโลกจิตใจ
นั้นตัดสินใจได้ลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปยังหนามเข็มพร้อมหันมามองตัวเค้าอีกคนด้านหลัง
พร้อมส่งยิ้มน้อยๆ
"นี้ชั้นไม่รู้หลอกนะว่าทาง/เลือก/ อะไรนั้นมันจะเป็นยังไง
แต่ชั้นจะก้าวเดินต่อไปโดยไม่อยากเสียใจที่หลังอีกแล้ว"
พร้อมก้าวเข้าไปในอณาเขตที่เต็มไปด้วยหนาม และมีบางที่ยิงขึ้นทำร้ายเค้า
ทั้งเจ็บปวด และเมื้อยล่าเต็มทน
แต่ก็ยังคงเดินต่อไปหาเด็กหนุ่มที่ถูกตลึงตรงหน้า
จากก้าวอย่างเวื่องช้าเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้น
*"เพราะนี้คือทาง/เลือก/ของชั้น"* ทั้งสองกล่าวพร้อมกันความตั้งใจเดียวกัน
ราวกับหัวใจดวงเดียวกัน
เด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีเพลิงยิ้มเล็กน้อยกับคำตอบของคนทั้งคู่
เมื่อซาสุเกะถูกซัดกระเด็นมาทางเค้า
และหยุดลงก่อนถึงตัวนารุโตะที่ขยับไปไหนไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆ
เสียงสว่างวาบขึ้นที่ตัวนารุโตะ ด้วยความตกใจซาสุเกะหันไปทางนั้น
ขณะเดียวกับที่นารโคะหลุดจากหนามเข็มตรงเข้าหมายกอดบุคคลที่เค้ารัก
และสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
"ซาสุเกะ~นารูโตะ" เสียงเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกัน
พร้อมเสียงสว่างรอบตัวคนทั้งสองดังม่านบาเลียคุ้มครอง
นารุโตะและซาสุเกะโผกอดกัน
เมื่อผละออกดวงตากลับกลายเป็นสีฟ้าสดใสดังเดิมทำให้จิตใจของร่างสูงสงบอย่างบอกไม่ถูก
แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง
-"ไม่มีเวลาแล้วพวกเจ้าต้องทำ'สัญญา' กันช่วยกันกำจัดเจ้าปิศาจนั้น" -
เมื่อฟังดังนั้น ซาสุเกะหน้าเสียเล็กน้อย นารูโตะจึงยกมือสัมผัสหน้าของร่างสูง
"ซาสุเกะลุยมันเถอะยังไงชั้นก็เก่งนะ" พร้อมส่งยิ้มให้
ซาสุเกะถอนหายใจกับนิสัยมุทะลุชอบลุย ทั้งที่ร่างกายเป็นแบบนี้
"แล้วอย่าเสียใจที่หลังล่ะ" เมื่อกล่าวจบ มือข้างหนึ่งลวงไปในกระเป๋ากางเกง
พร้อมหยิบมันออกมา เป็นสร้อยคอจี้รูปคริสตรอล
สีเขียวมรกตร่างสูงกัดที่นิ้วหัวแม่โป้งจนเลือดซิบ
"นารุโตะเอาเลือป้ายที่นิ้วโป้งเร็ว" เมื่อสิ้นคำกล่าวนารูโตะทำตามแต่โดยดี
ซาสุเกะจับมือเรียวงามขึ้นมาป้ายจี้ร่วมกับเลือดของเค้าที่ถืออยู่แล้ว
แล้วความรู้สึกเหมือนพลังเอ่อล้มออกมาและเสียงบางอย่างในใจผุดขึ้นมา
...ข้าขอวิงวอนต่อท้องนภา...
......ให้พื้นแผ่นดินร่วมรับรู้......
...มหาสมุทรร่วมเป็นศักดิ์คี...
......และเปลวเพลิงที่เผาไหม้......
...ร่วมเป็นพยานใน 'สัญญา' นี้...
......ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะยึดมั่น...
...และร่วมทุกข์ สุข จนกว่าชีวาจะดับสูนสิ้น...
เมื่อกล่าวจบซาสุเกะดึงร่างบางจูบ
และพยายามดูกินน้ำลายของนารูโตะที่มีเลือดค้างอยู่บ้าง
สร้างความตื่นตะหนกให้กับนารุโตะเป็นอย่างมาก
แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเช่นกันจนดวงตาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ
เมื่อร่างสูง ราวกับพลังในร่างของเค้าเอ่อล้มออกมาไม่หยุด
ดวงตาเปลี่ยนเป็นเนตรสีเพลิงอีกครั้งค่อยๆ วางนารุโตะไว้ข้างๆ บาเลียค่อยๆ
สลายไป ปิศาจที่นั่งรออยู่นั้นเตรียมพร้อมลุยอยู่แล้ว
แต่ก็ถูกอะไรบางอย่างซัดกระเด็นออกนอกหน้าต่างตกลงไปที่สนามฟุตบอล
แต่ไม่เป็นไรมากจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเคียดแค้น
เด็กหนุ่มผมสีรัตติกาลเดินตรงมาหยุดที่ปืศาจเสือโคร่ง
"มาจบกันไปเลยล่ะกันเจ้าเหมี้ยว"
พร้อมประสาตอินอย่างรวดเร็วและสายฟ้าก่อตัวขึ้นส่งเสียงดังปักษานับพันส่งเสียงร้อง
พร้อมกระโจนตรงเข้าไปหาปิศาจร้าย
"มันจะมากไปแล้วไอ้เด็กบ้า" พูดจบก็กระโจนตรงเข้าไปเช่นกัน
//ตูม!!//
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมร่างที่แตกสลายกลายเป็นเถ้าธุรีของปิศาจร้าย
เด็กหนุ่มดวงตาสีกลับมาเป็นรัตติกาลอีก
ครั้งเดินกลับไปที่ตัวตึกซึ่งเด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีแดงเพลิงกำลังยื่นรออยู่
เมื่อมาถึงร่างบางจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาร่างสูง
พร้อมยกมือสัมผัสใบหน้าอันหล่อเหลา
ที่ตอนนี้มีบาดแผลเต็มตัวรวมถึงตัวเค้าเองเช่นกัน
-"เลี้ยงพวกเราแล้วคงไม่เสียใจที่หลังนะ"- คำกล่าวดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่
"ไม่อยู่แล้ว...'คลาย'..."
พูดจบดวงตาสีเพลิงกลับเป็นสีฟ้าใสก่อนจะหลับไปอีกครั้ง
ในอ้อมกอดของซาสุเกะ เด็กหนุ่มค่อยๆ
สวมสร้อยคอจี้คริสตรอลให้พร้อมอมยิ้มเล็กน้อย
"Happy Birth Naruto" พลางค่อยๆ บรรจงสัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ้มอีกครั้ง
ในโลกรัตติกาลที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และแสงจันทร์นวลผ่องสว่างในยามคำคืนนี้
พร้อมบทโหมโรง แห่งโชคชตะ ได้เล่นเปิดม่านจบลงแล้ว...
/*/โปรดติดตามตอนต่อไป/*/
ส่งท้ายค่า~...ในที่สุดก็เสร็จจบตอนแล้วนะค่ะกว่าจะอัพได้มันทุลักทุเลมากเลยละค่า
แต่ยังไงก็จะพยายามต่อนะ ช่วงนี้ไม่สบายและติดสอบด้วยยิ่งอยากตาย
(เพราะปวดหัวมากY.Y) แต่จะค่อยๆ อัพนะค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น