ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic naruto]สัญญาใจ จิ้งจอกที่รัก

    ลำดับตอนที่ #7 : สัญญา [ปรับปรุง100%]

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 50


    .../กริ๊ง...กริ๊ง.../... เสียงบอกเวลาเที่ยงคืนของนาฬิกาโรงเรียนโคโนฮะ
    นั้นเหมือนเสียงเปิดม่านโหมโรงแห่งโชคชะตาของเด็กหนุ่มผมทอง
    มีอ่อร่าสีแดงสดห่อหุ้มร่างกายก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายจิ้งจอกตัวใหญ่
    และที่แน่ๆ คือดูออกทันที่ว่ามีหางอยู่ 9 หาง
    กระแสอากาศโดยรอบตัวนารูโตะนั้นเสียดสีกันจนบางและคมกริบดังใบมีดที่แหลมคม
    บรรยากาศในตอนนี้นั้นราวกับไม่ใช้นารุโตะที่เค้ารู้จักอีกต่อไป
    แต่เป็นอสูรที่น่ากลัว จนร่างกายสั้นสะท้านไปหมด
    แม้แต่อ.มิซึกิถึงกับผงะเหงื่อตก
    จนเผลอยิ้มที่มุมก่อนหัวเราะดังอีกครั้งเหมือนคนเสียสติ

    "ฮะ..ฮะ...ไม่นึกเลยจะได้เจอของดีขนาดนี้"
    พลางขยายร่างกลายเป็นปิศาจเสือโคร่ง แต่ยังคงทรงตัวและรูปร่างดูเป็นมนุษย์อยู่
    ส่วนซาสุเกะที่มือกุมแขนอีกข้างแน่น นั่งมองคนสำคัญของเค้าด้วยความกลัว
    และขณะเดียวกันนั้นก็สังเกตุเห็นผ้าพันแผลที่หลุดออกเผยให้บาดแผลประสานตัวอย่างรวดเร็วจนน่าขนลุกราวกับว่าบุคลตรงหน้าเป็นปิศาจที่อยู่ในคลาบของมนุษย์
    นาม 'อุซึมาคิ นารุโตะ'
    ปิศาจเสือโคร่งหลังจากมองท่าที่อยู่นานเห็นว่าเป็นโอกาศเหมาะจึงเข้าจู่โจมตรงๆ
    ด้วยความเร็วสูง แต่ก็กระเด็นกลับมาไปชนกับประตูทางเข้าจนพังพินาจ
    ด้วยออร่าสีแดงชาติที่ลุกโชติช่วงตามตัว
    เปลือกเปิดออกให้เห็นดวงตาสีฟ้าใสกลับกลายเป็นสีแดงเพลิงแววตาดุดันดังสัตว์ป่า
    พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
    เพียงพริบตาเดียวเด็กหนุ่มผมทองก็มาอยู่ตรงหน้าปิศาจพร้อมออกหมัดขวาตรงใส่ปิศาจอีกตนที่ยื่นก็แทบแย่แล้ว

    /*/ตูม!!ตูม!!/*/

    กำแพงปูนคอนกรีดด้านหลังระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
    ส่วนปิศาจเสือโคร่งนั้นล้มลงเลือดสีสดหลั่งไหลนองพื้น
    เด็กหนุ่มผมทองยกมีขวาที่มีเลือดเปอะอยู่เล็กน้อยขึ้นมาเลีย
    ก่อนหันไปมองซาสุเกะที่นั่งอยู่ไม่ไกลออกไป
    เพราะความกลัวเข้าครอบงำจนไม่สามารถลุกหรือขยับตัวไปไหนได้
    ร่างบางสาวเท้าเข้าไปหาอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มผงะก่อนพยายามคลานถอนหลัง
    แต่นั้นเป็นความคิดที่ผิดมหันเพราะหลังแกร่งไปชนกับกำแพงที่เป็นรูด้านหลัง
    ยิ่งทำให้เกิดความคิดที่สิ้นหวัง
    เหงื่อออกตามร่างกายประสาตทั้งหมดถูกกระตุ้นด้วยความกลัว
    น้ำลายฝืดคอเป็นอย่างมากเมื่อกลื่นลงไปเหมื่อนเคยได้รับรู้มาก่อน
    ...แล้วมันที่ไหนกัน...จนเผลอหลับตาแน่นแล้วความทรงจำบางอย่างแล่นเข้าสู่สมอง
    ความรู้สึกที่เคยได้สัมผัส
    ใช่แล้วตอนที่ครอบครัวถูกฆ่าล้างตระกูลและก็ได้พบกับเด็กน้อยผมทองคนนี้
    แล้วได้เค้าดูแลจนมีวันนี้ได้ เมื่อลืมตาก็พบว่าเด็กผมทองที่เคยช่วยเค้าบัดนี้
    กลายเป็นปิศาจยื่นอยู่ต่อหน้าเค้า
    นั่งชั้นเข้าซ้ายไว้ก่อนยื่นมือเรียวงามนั้นตรงมาบีบคอจนกระแทกกำแพง
    พลางเริ่มออกแรงบีบ การหายใจเริ่มติดขัด ดวงตาเริ่มพร่า
    สมองเริ่มขาดอากาศไปล่อเลี้ยงทำให้เกิดอากาณมึนงง แต่ที่ต้องใจเป็นหนักหนาคือ
    พยายามแกะมือเล็กเท่าไรก็ไม่ออกมีแต่จะบีบแน่นขึ้น
    เมื่อเริ่มหมดแรงความรู้สึกเริ่มด้านชา
    แต่แล้วเมื่อมองสบกับดวงตาสีเพลิงคู่นั้น ทั้งเย็นชาและโดดเดียวยิ่งกว่าใครๆ
    แต่กลับมีน้ำใสๆ ไหลอาบแก้มเป็นสายธาร
    ปากที่เริ่มซีดเซียวนั้นค่อยๆเปิดออกอย่างยากลำบากพอๆ กับเปร่งเสียง

    "นะ...นา...รู...โตะ"
    เพียงสามคำที่หลุดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มผมดำคลับเช่นเดียวกับสีดวงตา
    มือเรียวงามนั้นหยุดกึกชักกลับอย่างเร็วมากุมหัวตนเองที่จู่ๆ
    ก็ปวดขึ้นราวกลับจะระเบิด
    ทำให้ร่างสูงได้หายใจได้เต็มที่อีกครั้งมือที่ข้างที่ยังพอขยับได้ยกขึ้นจำคอตนเองลูบไปมาพลางหันมามองคนสำคัญของเค้า

    "นารุโตะ...นี้นาย" เด็กหนุ่มพึมพำ
    เพราะเสียงยังกลับมาไม่ได้สมบรูณ์...นี้นายกำลังต่อสู้กับปิศาจที่อยู่ในตัวเหลอ...
    ซาสุเกะคิด

    "อึก!!อ๊า!!" แล้วภาพต่างๆ ก็หลังใหลราวกับฉากหนัง
    แต่ที่รู้อยู่อย่างคือมันมีทั้งความทรงจำของตัวของเค้าเอง
    และของใครบางคนที่เค้ารู้จัก แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วจู่ๆ
    ก็ดับวูบลงพร้อมกำลังทั้งหมดของเค้าลงไปนอนหายใจรัวราวกับขาดอากาศกับพื้น
    ร่างสูงค่อยๆ ขลานเข้ามาใกล้ก่อนช้อนตัวร่างบางขึ้นมา

    "นารุโตะ ทำใจดีๆ เอาไว้" ซาสุเกะพูดขึ้นบอก
    และตัวเค้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่มาจากร่างบางนั้นคล้ายๆ
    ไอร้อนตอนที่น้ำร้อนเริ่มเดือดลอยขึ้นมาปะทะกับเค้า
    ย่งทำให้รู้สึกกล้ามเนื้อค่อยๆ กลับมามีแรงอีกครั้ง
    แขนที่ถูกทำร้ายจนขยับไม่ได้บัดนี้กลับขยับได้เป็นปรติ บาดแผลก็เริ่มประสานตัว
    ทำให้แปลกใจเป็นอย่างยิ่งกับพลังพิเศษนี้...มิน่าพวกมันถึงอยาได้กันนัก
    แต่ว่าปิศาจที่น่ากลัวนั้นคงไม่ใช้... ซาสุเกะคิด
    พลางกระชับวงแขนก่อจะรีบลุกขึ้น มองไปทางเสือโคร่งที่นอนอาบเลือดอยู่
    นั้นก็แน่ใจได้เลยว่าตายแน่ พลางหันไปมองซากประตูทางออกที่
    โชคยังดีที่ไม่ถูกหินกลบหมดยังพอไปต่อได้
    เด็กหนุ่มจึงไม่รอช้าจับร่างบางขี่หลังก่อนวิ่งออกจาที่นั้นเป๋าหมายคือบ้านเค้า
    ซึ่งที่นั้นมีคนที่สามารถอธิบายเรื่องทุกอย่างได้อยู่ เมื่อวิ่งถึงทางลงจู่ๆ
    มีบางอย่างคว้าขาเค้าไว้ พอหันกลับเป็นปิศาจเสือโคร่งมิซึกิที่ยังไม่ตาย
    กำลังเสยะยิ้มอยู่

    "จะเอาเจ้านั้นไปไม่ได้ข้าไม่ให้พวกสวะอย่างแกหลอก"
    พูดไปร่างกายก็เปลี่ยนเป็นปิศาจเลื่อยๆ จนแทบไม่เหลือเค้าเดินอีกต่อไป
    ด้วยตกใจจึงรีสะบัดขาพร้อมวิ่งกึ่งกระโดดลงบรรไดจนถึงเขตชั้นเรียน
    จึงตัดสินใจเข้าไปในห้องเรียนที่อยู่ใกล้ทางลง พลางนั่งหลบมุมทางออกของประตู
    เพราะทั้งวิ่งและแบกเจ้าตัวดีทำให้เหนื่อยคูณ 2
    การหายใจหอบถี่ภายในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสว่างผ่านกระจกเท่านั้น
    ทำให้ได้ยินเสียงลงบรรไดของเจ้าปิศาจได้ชัดเจน
    ซาสุเกะตัดสินใจใช้เนตรวงแหวนอีกครั้งตรงช่วงเล็กของประตู
    ภาพที่เค้าเห็นนั้นเป็นเหมื่อนคลื่นไฟฟ้าในตัวคนที่กำลังเดินลงมาอย่างช้าๆ
    แต่แล้วก็ต้องกลับกลายเป็นสีดำเช่นเดิม
    เพราะผลข้างเคียงจากการต่อสู้ที่ใช้เนตรมากเกินไปมือข้างหนึ่งยกขึ้นจับดวงตาข้างขวา
    พลางกัดฟัดกรอบสมเพชตนเองที่ไร้พลัง ซึ่งร่างบางนั้นค่อยๆ
    เปิดตาออกมาอย่างช้าๆ แต่ดวงตานั้นยังคงเป็นสีแดงเพลิงอยู่
    แต่ก็เหมือนไฟเย็นดูไร้ชีวิต
    พลางขยับตัวเล็กน้อยให้ร่างสูงรับรู้พลางเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีรัตติกาล
    เมื่อสายตาทั้งสองประสานซาสุเกะสะดุ้งตัวแรงไปนิดจนหัวไปโขกกับประตูด้วยความตกใจ
    เมื่อปากเรียวงามจะร้องกล่าวอะไรมือเรียวเล็กยกปิดไว้อย่างทันท่วงทีพร้อมทำเสียงจิ้งจก
    เมื่อความเงียบโรยตัวเข้ามาจึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาถึงชั้นที่พวกเค้าอยู่
    และเดินมาหยุดที่ประตู ตอนนี้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเต้นรั่วและเร็ว
    เหงื่อผุดขึ้นตามร่างกาย เมื่อไม่พบอะไรปิศาจเดินจากไปจนแน่ใจแล้ว
    มือเรียวเล็กจึงยกออกให้ร่างสูงได้พูด
    เมื่อปากเรียวงามเป็นอิสระถอนหายใจก่อนจะจ้องเขม่งมาที่ร่างบางซึ่งมองกับมาอย่างเฉยฉา

    -"ไม่ต้องห่วงนารุโตะไปหลอก"- เสียงบอกกล่าวขึ้นเบามาก แต่ก็ยังได้ยิน
    มือเรียวเล็กจับมือแกร่งขึ้นมากุมและดึงมาให้สัมผัสที่อก ของร่างบาง

    -"ตอนนี้เค้าอยู่ในนี้เพื่อ.../เลือก/ทางที่จะเดินต่อไปร่วมทั้งนายด้วย อุจิวะ
    ซาสุเกะ"-

    "หมายความว่าไง?แล้วนายเป็นใคร" คำถามถูกยิงมา
    แต่ได้รอยยิ้มอ่อนโยนเป็นคำตอบแทน

    -"ฉัน...คือนารุโตะ นารุโตะคือฉัน..."- คำตอบที่คนฟังไม่ค่อยอยากรับรู้
    ทำหน้าไม่เชื่อไม่ลง รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าขาวเนียนของเพื่อนผมทอง
    ยิ่งทำให้ซาสุเกะไม่สบอารมณ์ ราวกับเห็นเค้าเป็นของเล่น
    แต่ตอนนี้มีเรื่องที่เค้ายังไม่เข้าใจอยู่

    "แล้วที่ว่า/เลือก/นั้นหมายความว่าไง" คำถามถูงยิงมาอีกครั้ง
    เด็กหนุ่มผมทองมองลึกลงไปในดวงตาสีรัตติกาล ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสบสน
    ความกลัวและความเจ็บใจที่ตนเองไร้พลัง ก่อนค่อยๆ
    หลับตาลงความมือมิดเข้าครอบงำเมื่อลืมตาอีกครั้งภาพที่ปรากฎตรงหน้านั้นเป็นห้องโถงใหญ่
    น้ำน่องเต็มพื้นบรรยากาศเย็ยเยียบ มืดสลัวๆ
    มีเด็กหนุ่มผมทองนั่งหลับหายใจหอบราวกับขาดอากาศ
    พิงรั่วเหล็กอยู่อยู่ตรงหน้าเค้า

    -"นารุโตะตื่นเถอะ"- เสียงเรียกขึ้น เปลื่อกตาค่อยๆ
    เปิดออกอย่างเชื่องช้ามองบุครตรงหน้า
    ที่เหมื่อนเค้าแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเส้นผมสีทองอร่าม
    ใบหน้ามีแผลเป็นผิวขาวเนียนสัดส่วนก็เท่ากันมีเพียงสีตาเท่านั้นที่แตกต่างกัน

    "นาย...เป็นใคร"

    -"ฉันก็คือนายไงล่ะ"- คำตอบกลับดังขึ้น
    พลางเข้าสวมกอดราวกับขาดความอบอุ่นและรัดยิ่งขึ้น

    .../ซ่า..ซ่า/...

    สายน้ำก่อรูปร่างขึ้นด้านหลังตัวเค้าอีกคนไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก
    เรียกความสนใจได้อย่างมาก
    เมื่อรู้รูปร่างชัดเจนมากขึ้นก็ยิ่งแน่ใจได้ว่าเป็นคนที่เค้ารู้จักดียิ่งกว่าอะไร

    "ซาสุ...เกะ...ทำไม"
    เด็กหนุ่มพึมพำออกมาเมื่อสายน้ำก่อรูปร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
    จากนั้นจากสูงส่งยิ้มน้อยๆ
    ที่มุมให้ก่อนจะถูกตลึงกับไม้กางเขนพร้อมเข็มหลายเล็มพุ้งขึ้นแทงตัวร่างสูงจากพื้นน้ำที่น่องอยู่และยังคงไม่หยุดอยู่แค่นั้นด้วยความตกใจ

    "ซาสุเกะ!!!!~"
    เมื่อเห็นบุคลตรงหน้ากำลังถูกแทงจึงกระโจมออกจากอกของร่างบางเค้าไป
    แต่เจอพุ่มเข็มน้ำที่ตั้งขึ้นกันไว้ทำให้ร่างบางชะงัดเล็กน้อย

    -"ถึงคราวที่พวกเจ้าต้อง/เลือก/แล้วว่าจะ/ช่วย/หรือ/ปล่อยไป/"-
    เสียงบอกกล่าวขึ้นอีกครั้ง จากเด็กหนุ่มผมทอง ดวงตาสีเพลิง
    แต่ดูเรียบเฉยสงบเงียบกล่าวบอกเด็กหนุ่มผมทองเช่นเดียวกับเค้า
    แต่มีดวงตาสีฟ้าสดใสในโลกจิตใจ
    กับเด็กหนุ่มทั้งดวงตาและเส้นผมสีรัตติกาลอยู่ในโลกความเป็นจริงต่างนิ่งเงียบคิด
    เมื่อความเงียบโรยตัวเข้ามา

    -"ถ้า/ช่วย/เจ้าก็อาจตายได้แต่ถ้า/ปล่อยไป/บางทีอาจเจ้าก็อาจจะรอด"-
    คำกล่าวดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อพูดจบเพดานห้องพังทะลายลงมา
    พร้อมการปรากฎกายของอสูรกายซึ้งกำลังแสยะยิ้มอย่างคนมีชัย

    "อยู่นี้กันเองรึเปล่าให้หาซะตั้งนาน" พลางอย่างเก้าเข้ามาใกล้
    จ้องมองร่างบางไม่วางตา
    พลางแลบลิ้นเลียปากแผล่บดังอาหารโอชะตรงหน้าเรียกน้ำลายส่อค่อยๆ
    มองอย่างพินิพิจารณาช้าๆ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
    แล้วตวัดกลับมาจ้องดวงตาสีแดงเพลิงอีกครั้ง
    ซึ่งบัดนี้ดวงตานั้นส่องสว่างดังเปลวเพลิงที่พร้อมลุกไหม้ได้ทุกเมื่อแลดูน่าเกรงขาม
    น่ายำเกรง
    เลียกเสียงหัวเราะในลำคอก่อนก้มตัวลงเล็กน้อยใช้มือที่บัดนี้กลายเป็นอ้มเท่าเชิดคางมลขึ้น

    "งดงามน่าลิ้มลองดังที่เค้าว่าเลยนะจิ้งจอกเก้าหาง" คำกล่าวชมดังขึ้น
    แต่คนไม่ปลื้มเลยซักนิด ยังคงเงียบเฉย ยิ่งทำให้อารมณ์ความอดทนเริ่มหมดลง

    "ทำแบบแปลว่ายอมชั้นแล้วซินะ" ไม่ว่าเปล่าพลางก้มตัวลงหมายลิ้มลองดอกไม้งาม
    เมื่อซาสุเกะเห็นดังนั้นจึงทนต่อไปไม่ไหวอีกต่อไป
    หยิบมีดพกขึ้นขวางไปอย่างไม่ทันคิด มีดพกเฉียดหน้าปิศาจเสือโคร่งอย่างเฉียดฉิว
    ทำให้ความอดทนหมดลงปล่อยตัวร่างบางหันมาสนใจกับเด็กหนุ่มผมสีรัตติกาลที่ยืนอยู่ด้านข้าง

    "ท่าทางอยากตายมากเลยซินะไอ้เด็กเมื่อวันซืน"
    คำถามกล่าวขึ้นแฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
    แต่ไม่มีท่าทีที่ซาสุเกะจะสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว
    พลางหันมามองเด็กหนุ่มผมทองที่มองเค้าอยู่ไม่วางตา

    "เธอถามถึงทาง/เลือก/ ซินะ" พลางยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
    ก่อนจะตั้งท่าต่อสู้เต็มที่
    พร้อมกะโจนเข้าต่อสู้เพื่อปกป้องบุคคลอันเป็นที่รัก
    ขณะเดียวกันทางด้านนารุโตะภายในโลกจิตใจ
    นั้นตัดสินใจได้ลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปยังหนามเข็มพร้อมหันมามองตัวเค้าอีกคนด้านหลัง
    พร้อมส่งยิ้มน้อยๆ

    "นี้ชั้นไม่รู้หลอกนะว่าทาง/เลือก/ อะไรนั้นมันจะเป็นยังไง
    แต่ชั้นจะก้าวเดินต่อไปโดยไม่อยากเสียใจที่หลังอีกแล้ว"
    พร้อมก้าวเข้าไปในอณาเขตที่เต็มไปด้วยหนาม และมีบางที่ยิงขึ้นทำร้ายเค้า
    ทั้งเจ็บปวด และเมื้อยล่าเต็มทน
    แต่ก็ยังคงเดินต่อไปหาเด็กหนุ่มที่ถูกตลึงตรงหน้า
    จากก้าวอย่างเวื่องช้าเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้น

    *"เพราะนี้คือทาง/เลือก/ของชั้น"* ทั้งสองกล่าวพร้อมกันความตั้งใจเดียวกัน
    ราวกับหัวใจดวงเดียวกัน
    เด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีเพลิงยิ้มเล็กน้อยกับคำตอบของคนทั้งคู่
    เมื่อซาสุเกะถูกซัดกระเด็นมาทางเค้า
    และหยุดลงก่อนถึงตัวนารุโตะที่ขยับไปไหนไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆ
    เสียงสว่างวาบขึ้นที่ตัวนารุโตะ ด้วยความตกใจซาสุเกะหันไปทางนั้น
    ขณะเดียวกับที่นารโคะหลุดจากหนามเข็มตรงเข้าหมายกอดบุคคลที่เค้ารัก
    และสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

    "ซาสุเกะ~นารูโตะ" เสียงเรียกชื่อดังขึ้นพร้อมกัน
    พร้อมเสียงสว่างรอบตัวคนทั้งสองดังม่านบาเลียคุ้มครอง
    นารุโตะและซาสุเกะโผกอดกัน
    เมื่อผละออกดวงตากลับกลายเป็นสีฟ้าสดใสดังเดิมทำให้จิตใจของร่างสูงสงบอย่างบอกไม่ถูก
    แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง

    -"ไม่มีเวลาแล้วพวกเจ้าต้องทำ'สัญญา' กันช่วยกันกำจัดเจ้าปิศาจนั้น" -
    เมื่อฟังดังนั้น ซาสุเกะหน้าเสียเล็กน้อย นารูโตะจึงยกมือสัมผัสหน้าของร่างสูง

    "ซาสุเกะลุยมันเถอะยังไงชั้นก็เก่งนะ" พร้อมส่งยิ้มให้
    ซาสุเกะถอนหายใจกับนิสัยมุทะลุชอบลุย ทั้งที่ร่างกายเป็นแบบนี้

    "แล้วอย่าเสียใจที่หลังล่ะ" เมื่อกล่าวจบ มือข้างหนึ่งลวงไปในกระเป๋ากางเกง
    พร้อมหยิบมันออกมา เป็นสร้อยคอจี้รูปคริสตรอล
    สีเขียวมรกตร่างสูงกัดที่นิ้วหัวแม่โป้งจนเลือดซิบ

    "นารุโตะเอาเลือป้ายที่นิ้วโป้งเร็ว" เมื่อสิ้นคำกล่าวนารูโตะทำตามแต่โดยดี
    ซาสุเกะจับมือเรียวงามขึ้นมาป้ายจี้ร่วมกับเลือดของเค้าที่ถืออยู่แล้ว
    แล้วความรู้สึกเหมือนพลังเอ่อล้มออกมาและเสียงบางอย่างในใจผุดขึ้นมา

    ...ข้าขอวิงวอนต่อท้องนภา...
    ......ให้พื้นแผ่นดินร่วมรับรู้......
    ...มหาสมุทรร่วมเป็นศักดิ์คี...
    ......และเปลวเพลิงที่เผาไหม้......
    ...ร่วมเป็นพยานใน 'สัญญา' นี้...
    ......ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะยึดมั่น...
    ...และร่วมทุกข์ สุข จนกว่าชีวาจะดับสูนสิ้น...

    เมื่อกล่าวจบซาสุเกะดึงร่างบางจูบ
    และพยายามดูกินน้ำลายของนารูโตะที่มีเลือดค้างอยู่บ้าง
    สร้างความตื่นตะหนกให้กับนารุโตะเป็นอย่างมาก
    แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเช่นกันจนดวงตาค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ
    เมื่อร่างสูง ราวกับพลังในร่างของเค้าเอ่อล้มออกมาไม่หยุด
    ดวงตาเปลี่ยนเป็นเนตรสีเพลิงอีกครั้งค่อยๆ วางนารุโตะไว้ข้างๆ บาเลียค่อยๆ
    สลายไป ปิศาจที่นั่งรออยู่นั้นเตรียมพร้อมลุยอยู่แล้ว
    แต่ก็ถูกอะไรบางอย่างซัดกระเด็นออกนอกหน้าต่างตกลงไปที่สนามฟุตบอล
    แต่ไม่เป็นไรมากจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเคียดแค้น
    เด็กหนุ่มผมสีรัตติกาลเดินตรงมาหยุดที่ปืศาจเสือโคร่ง

    "มาจบกันไปเลยล่ะกันเจ้าเหมี้ยว"
    พร้อมประสาตอินอย่างรวดเร็วและสายฟ้าก่อตัวขึ้นส่งเสียงดังปักษานับพันส่งเสียงร้อง
    พร้อมกระโจนตรงเข้าไปหาปิศาจร้าย

    "มันจะมากไปแล้วไอ้เด็กบ้า" พูดจบก็กระโจนตรงเข้าไปเช่นกัน

    //ตูม!!//

    เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมร่างที่แตกสลายกลายเป็นเถ้าธุรีของปิศาจร้าย
    เด็กหนุ่มดวงตาสีกลับมาเป็นรัตติกาลอีก
    ครั้งเดินกลับไปที่ตัวตึกซึ่งเด็กหนุ่มผมทองดวงตาสีแดงเพลิงกำลังยื่นรออยู่
    เมื่อมาถึงร่างบางจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาร่างสูง
    พร้อมยกมือสัมผัสใบหน้าอันหล่อเหลา
    ที่ตอนนี้มีบาดแผลเต็มตัวรวมถึงตัวเค้าเองเช่นกัน

    -"เลี้ยงพวกเราแล้วคงไม่เสียใจที่หลังนะ"- คำกล่าวดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่

    "ไม่อยู่แล้ว...'คลาย'..."
    พูดจบดวงตาสีเพลิงกลับเป็นสีฟ้าใสก่อนจะหลับไปอีกครั้ง
    ในอ้อมกอดของซาสุเกะ เด็กหนุ่มค่อยๆ
    สวมสร้อยคอจี้คริสตรอลให้พร้อมอมยิ้มเล็กน้อย

    "Happy Birth Naruto" พลางค่อยๆ บรรจงสัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ้มอีกครั้ง
    ในโลกรัตติกาลที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และแสงจันทร์นวลผ่องสว่างในยามคำคืนนี้
    พร้อมบทโหมโรง แห่งโชคชตะ ได้เล่นเปิดม่านจบลงแล้ว...

    /*/โปรดติดตามตอนต่อไป/*/



    ส่งท้ายค่า~...ในที่สุดก็เสร็จจบตอนแล้วนะค่ะกว่าจะอัพได้มันทุลักทุเลมากเลยละค่า
    แต่ยังไงก็จะพยายามต่อนะ ช่วงนี้ไม่สบายและติดสอบด้วยยิ่งอยากตาย
    (เพราะปวดหัวมากY.Y) แต่จะค่อยๆ อัพนะค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×