คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เบาะแส
...กึก...กึก...กึก... เสียงฝีเท้าของคนๆ หนึ่งเดินมาตามทางที่มียาวไป มีเพียงแสงสว่างสีส้มสลัวๆ นำทางเป็นจุดๆ เท่านั้น จนกระทั้งมาถึงห้องโถงใหญ่แห่งหนึ่งและเมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ที่ใจกลางห้องนั้น
“...มาเร็วผิดคาดเลยนะ...โกคิ?” เสียงทุ้มเอยขึ้นทั้งที่ไม่มองอีกฝ่าย ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยมีสีหน้าไม่พอใจ
“เอ่อ...ว่าแต่เรียกมานี้มีธุระอะไร?” เด็กหนุ่มร่างสูงใบหน้าบึ่งตึงอย่างไม่พอใจอะไรมาอยู่แล้ว ดวงตาทอประกายความโกรธอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมถึงพร้อมมีเรื่องถ้าพุดไม่เข้ารูหู ซึ่งคนเรียกมาก็พอจะรู้จึงพอนลมหายใจเล็กน้อยอย่างหน่ายใจ
“เฮ้ยๆ!!พูดแบบนั้นต่อหน้าหัวหน้า รอยัทไนท์ แบบนี้ก้อมีแต่นายล่ะนะโกคิ!!” เสียงหนึ่งเอยขึ้นในความมืดก่อนจะเดินออกให้เห็นในแสงสว่าง
“อะไรแกก็มาด้วยรึแม็กนา?” โกคิหันไปมองอย่างนึกไม่สบอารมณ์กับท่าทีของเด็กหนุ่มที่หลบหน้าอยู่ในเงามืดที่ขี้เล่นจนน่าเตะถวายเจ้าให้ไปไกลๆ ลูกตา
“ใครว่าชั้นคนเดียวล่ะ...จริงไหมแบล็กวอเกรย์?” เด็กหนุ่มยิ้มเห็นเขี้ยวก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มร่างโปร่งที่เดินมายื่นข้างๆ ทำเอาอีกฝ่ายเริ่มสงสัยในการกระทำของตัวหัวหน้ากลุ่มรอยอไนท์ และเร็วเท่าความคิด มือหนาล่วงเข้าไปในเสื้อพร้อมกับส่งรูปบางอย่างให้อีกฝ่าย
“ชั้นอยากให้นายไปนำ 01กับ02 ไปจัดการเจ้านี้และนำข้อมูลที่มันเอาไปด้วยกลับมา...แต่ถ้าเอามาไม่ได้ก็ทำลายทิ้งซะ!!!” คำสั่งดังขึ้นทำให้อีกฝ่ายรับมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร เพราะแค่เขาคนเดียวก็จัดการได้แต่กลับให้สองคนนั้นจัดการกับเขา ยิ่งทำให้ไม่พอใจ แต่ทำไงได้มันเป็นคำสั่งมาแล้ว
“เข้าใจแล้ว...ว่าแต่ขอถามหน่อย ทำไมพวกแกถึงมาเสนอหน้าด้วยล่ะ?”
“ก็แค่มาคำสั่งต่อจากนายเท่านั้น” แบล็กวอเกรย์เอยขึ้นอธิบายว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำท่าไม่คิดอะไรต่อ แล้วลาออกจากห้องไปทำงานของตนเอง ปล่อยให้สองคนนั้นรับงานต่อจากหัวหน้าไป เพราะรู้ดีว่าคนอย่างแบล็กวอเกรย์ไม่โกหกใคร แต่ว่า...
“เฮ้ย...ต้องไปปลุกสองคนนั้นซินะ...ไม่อยากปลุกเลย” เสียงบ่นพึมพำขึ้นราวกับบ่นกับตนเอง ก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของตนเอง
--------------------------------------+++++++++++++++++++++++++++++++++++++---------------------------
~สำนักงานนักสืบดิจิมอน~
“ว้าว~~~ยอดไปเลยบัตรขึ้นเรือเฟอรารี่ปาร์ตี้แต่งงานใต้แสงจันทร์!!!!” เด็กสาวผมสีแดงอมชา ดวงหน้าน่ารัก ดวงตาสีมรกตเอยขึ้นอย่างตื้นเต้นดีใจอย่ามาก เพราะนึกไม่ถึงว่าในชีวิตนี้จะได้ขึ้นเฟอรรารี่หรูๆ ไปงานปาร์ตี้
“นึกไม่ถึงว่าชิกะจังดีใจขนาดนั้นเลยนะค่ะ...แบบต้องเตรียมกล้องไปเก็บความสดใสของชิกะจังซะแล้ว” เด็กสาวผมทอง ใบหน้าอ่อนหวานสวย เอยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเตรียมการสำหรับเก็บความน่ารักของอีกฝ่าย เพราะสำหรับเธอแล้ว จะเฟอรารี่หรืองานปาร์ตี้ก็ไม่น่าสนใจเท่ากับความน่ารักในชุดราตรีในงานของเพื่อนสาวอีกแล้ว
“ว่าแต่งานนี้พี่เจ็นเรียกับพี่โคจิไม่ได้ไปด้วยเหลอครับ?” เด็กหนุ่มใบหน้าดูดี ผมสีน้ำเงินเอยถามบรรดาชายหนุ่ม เด็กหนุ่ม ผู้มีมาดเท่กินขาดเขย่าใจสาวๆ ไปจนเหล่า ตุ๊ส เกย์ รวมถึงสาวกไบล์ ทั้งหลาย อย่างเกรงใจ
“อืม...เจ็นต้องกลีบฮ่องกงเพราะพ่อเรียกตัว...ส่วนโคจิต้องไปนาคาชิมะกับพ่อเขานะเรื่องของเหล่ายากุซ่า...อีกอย่างพวกเราจะไปเปิดหูเปิดตากันบ้างไง” เด็กหนุ่มร่างสูงผมทองใบหน้าหล่อเหลาเอยขึ้นอธิบาย ซึ่งเหตุผลที่ได้ไปร่วมงานก็ เนื่องจากเจ้าของงานนี้เป็นเป็นพ่อเจ้าสาวให้สืบ ว่าเจ้าบ่าวเหมาะสมกับลูกสาวของเขาแค่ไหน แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นคือมีคนลักพาตัวเจ้าสาวไป แต่ก็ได้พวกเขาและตัวเจ้าบ่าวพากลับมาอย่างปลอดภัย จึงปิดคดีได้ และด้วยความขอบคุณจากเจ้าบ่าว-เจ้าสาว จึงเชิญพวกเขาไปงานแต่งปาร์ตี้บนเรือเฟอรารี่
โทม่าเห็นว่าเป็นโอกาสดี ที่จะพาน้องๆ เที้ยวจึงออกความคิดให้กับยามาโตะ ซึ่งคนอื่นๆ ก็ไม่ว่าอะไรและสนับสนุนทันที
“เฮ้ย~ชั้นเองก้อยากไปแต่ดันมาติดคดีนี้ซิ” เสียงบ่นของหญิงสาวผมและดวงตาสีชมพู่หวาน ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ ทำเอาหัวใจหล่นไปกองที่พื้นกันเป็นแถว
“เจ็โยชิโนะ!!ขอเถอะอย่ามาแบบนี้ได้ไหมครับ!!!” มันไม่ดีต่อหัวใจชายหนุ่มหล่อมาดแมนเท่าไรนัก ทำแบบนี้มากๆ ระวังแต้วแตกแน่!!!!
“แหม~แกล้งนิดแกล้งหน่อยบ่นไปได้” โยชิโนะบ่นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะมานั่งข้างๆ พวกชิกะพลางพ่นลมหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย
“น้าโยชิโนะไหงถอนหายใจแบบศพตายซากแบบนั้นล่ะครับ?” โทม่าเอยขึ้นหน้าตาย แต่คนฟังมันรู้สึกแทบทรวงนัก
“โทม่า...เดี้ยวนี้ในปากเริ่มเลี้ยงสุนัขไว้เมื่อไรยะ?” ชั้นจำไม่ได้ว่าสอนแกพูดจาแบบสุนัขมาเห่าใส่อย่างนี้เจ็รับไม่ด้ายยยยยยยยยยย
“ก้อเลี้ยงมาพักใหญ่ๆแล้วครับ” โทม่าเอยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็นนั้น เห็นแล้วชวนหน้าเอาบาทาลูบไปมาจริงๆ
“เอาน่าๆ พอทั้งน้า-หลานนั้นแหละ ว่าแต่เจ็มานี้มีอะไรรึเปล่าครับ?” ยามาโตะเอยห้ามทัพ ก่อนจะเปิดศึกสายโลหิต เพราะค่าซ้อมแซมมันไม่ใช้ถูกๆ
“ก็ไม่มีอะไรหลอก...แค่นึกถึงพวกนายก็เลยมาหาแล้วก็เอาข่าวทั้งดีและไม่ดีมาฝากด้วยอยากฟังข่าวไหนก่อนล่ะ?” โยชิโนะเอยขึ้นถามความเห็น ซึ่งเมื่อพวกชิกะได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ากันทำท่าจะออกจากห้องไป เพราะเห็นว่าท่าทางคงเป็นการเป็นงาน เด็กจึงไม่มีเอี่ยวด้วย เลยขอตัวไปเตรียมของว่าง
“...เรื่องนี้ที่จะพูดนี้มันเกี่ยวกับพวกองค์กรDast เพราะงั้นเลือกให้ดีว่าจะฟังข่าวไหนก่อน!!” คำพูดที่ดังขึ้นนั้นทำเอาบรรดาคนฟังตาโต หูผึ่งด้วยความตกใจ
“ยังไงก็ต้องฟังทั้งสองข่าวอยู่แล้วเอาข่าวดีก่อนละกัน” ยามาโตะเอยขึ้นเสนอความคิด ซึ่งทุกคนเองก็เห็นด้วย
“ก็ได้...พวกนายรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้มีคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ชั้นทำอยู่นะ?” หญิงสาวเริ่มเปิดประเด็นทันที ซึ่งตัวโยชิโนะที่เป็นตำรวจเองก็มักจะมาขอความช่วยเหลือจากนักสืบอย่างพวกเขาบ่อยครั้ง และก็จะมีคดีที่เกี่ยวกับคนรักของเขามาด้วยไม่มากก็น้อย
“เท่าทีรู้คือมันเป็นการฆาตกรรมแก็งทามะจิโนะทั้งแก็ง...รู้สึกว่าพวกมันจะไปทำใครเขาไว้ ก็เลยถูกตามเด็ดหัวแบบเรียงคิวจากลูกกระจ็อบไปหัวใหญ่ และทุกครั้งที่เกิดเหตุจะมีกระดาษลายแมวโบราณและเครื่องหายกากบาทที่หัว พร้อมกับขโมยของไปคนละชิ้น ทั้งที่มีของมีค่าอื่นๆ แท้ๆ กลับไม่ขโมย...แต่ว่านั้นไม่ใช้ประเด็น เท่ากับเจ้าคนล้างแค้นโดนลอบทำร้ายนะ!!!!” คำอธิบายถึงความไม่สมเหตุสมผลดังขึ้นให้พวกเขาได้คิด
“หมายความว่าไง?”
“ก็หมายความว่าคนที่ลอบทำร้ายเจ้าขโมยนั้นคือพวก Dast ไงล่ะ!!!!” คำตอบที่ทำเอาคนฟังถึงกับสะดุ้งโยง
“แน่ใจเหรอครับ?” ทาเครุถามย้ำเพื่อความมั่นใจ เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก
“แน่ใจซิยะ...ก็ชั้นเห็นกับตาว่าเพราะคนที่ทำร้ายนะเป็นโกคิกับพวกนะ” คำตอบนั้นทำให้โทม่านั้นสะดุ้งโยงนึกถึงเรื่องโกคิทำกับพวกเขาไว้ ก็รู้สึกร้อนรุ่มในใจทันที
“แล้วข่าวร้ายละครับ?” โคจิโร่เปิดประเด็นสุดท้าย
“ข่าวร้ายคือ...เจ้าหัวหน้านั้นมันเป็นคนสำคัญในงานแต่งที่พวกนายจะไป...เพราะฉะนั้นพวกนายต้องต้องช่วยพวกเราตามหาตัวหัวหน้ากับคนร้ายให้เจอก่อนพวกDast ไงล่ะ!!!!”
//TBC.//
---------------------------------------===========================================-------------------------
ส่งท้าย~~~~~มาอัพตอนที่ทุกคนรอคอยกันแย้วนะค่ะ ติดตามกันต่อไป แล้วอย่าลืมเม้นใก้ด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น