ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ช่วงเวลาแห่งความสุข1
...ทรมาน...
....ทำไมถึงทรมานล่ะ?...
...เพราะข้าไม่สามารถชนะชะตากรรมได้...
...ชนะชะตากรรม?...
...ใช้ร่วมทั้งเจ้าด้วย
ผู้เกิดมามีชะตากรรที่น่าเศล้าพร้อมน่าที่ที่ต้องทำ...
"คุณเป็นใคร..." เสียงเรียกถามขึ้นอย่างแหบพร่า
ดวงค่อยเปิดออกเผยให้เห็นตาสีฟ้าสดใส กลิ่นยาลอยมาติดจมูก
เพดานสีขาวบริสุทธิ์ร่างบาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง แต่ทำให้ปวดหัวจนร้องออกมา
และนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยิ่งผวากับเหตุการณ์เสียงตายนั้นถึงจะจำไม่ค่อยได้ก็ตามที
จึงเผลอกอดอกอกตนเองอย่างกลัวตายเป็นครั้งแรก
สำหรับเค้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร
และอยู่ไปเพื่อใครเคยคิดอยากตายไม่รู้กี่รอบ
แต่พอเอาเข้าจริงก็กลัวทำอะไรไม่ถูก
พลางตั้งเข่าเอาน้ำซุกซ่อนใบหน้าที่บัดนี้มีน้ำใสๆ ไหลอาบอย่างอดไม่อยู่
และเด็กหนุ่มที่ยื่นหลบมุมในเงามืดแสดงสีหนักใจไม่แพ้กัน
"นารุโตะพื้นแล้วเหลอซาสุเกะ"
เสียงเรียกทักจากชายหนุ่มในชุดเสื้อกราวสีขาว
และเรือนผมสีเดียวกันไว้ผมปิดตาข้างซ้ายทักทายเด็กหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
ซาสุเกะพยักหน้ารับพลางมองไปยังเจ้าตัวที่ยังร้องอยู่ถึงจะไม่มีเสียงรอดออกมาก็ตามที
"ถึงจะน่าสงสารแต่ก็ถึงเวลาที่เค้าต้องเจอ"
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นและมองไปทางเจ้าตัวดีที่พยายามเช็ดน้ำตาเต็มที่
ด้วยสายตาที่อ่อนโยนและเอ็นดู
"คาคาชิรู้มาตั่งแต่แรกเลยซินะ"
ซาสุเกะว่าพลางส่งสายหงุดหงิดมาให้อย่างไม่สบอารมณ์ที่ไม่ยอมบอกเค้าซักคำ
เพราะพวกเค้าเป็นญาติถึงจะห่างๆ กันแต่ตอนนี้พวกเข้าได้ลงเรือลำเดียวกัน
และเจ้าตัวก็พักอาศัยอยู่ด้วยหลังจากเกิดเหตุในอดีตกับตระกุลทำให้เหลือเค้าและพี่ชายอีกคนที่หายสาบศูนย์อีกคน
แค่คิดถึงก็รู้สึกเจ็บใจ และเผลอจับบ่าข้างซ้ายอย่างเคยชิน
"เฮ้ย...ซาสุเกะมายื่มเก็กอะไรตรงนี้นะ"
เสียงเรียกที่ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง เด็กหนุ่มผมทองดังแสงตะวัน
ดวงตาสีฟ้าดังท้องนภาที่สดใส แม้บัดนี้จะแดงเล็กน้อยจากการร้องไห้
และพยามยามยิ้มไม่ให้ใครต้องคิดมาก
"ไม่เป็นไรนะนารุโตะ" อ.คาคาชิถามอย่างเป็นห่วง
ร่างบางสายหน้าและส่งยิ้มให้เป็นการตอบ
"งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ เอาซาสุเกะไปกันเถอะ"
ไม่ว่าเปล่าจับข้อมือแกร่งกึ่งลากกึ่งถูกออกจากห้องพยาบาลไป
โดยมีสายที่อ่อนโยนมองตาม
"นารุโตะ...ซาสุเกะ...หนทางข้างหน้าอาจลำบากและทุกข์ทรมาณรอพวกนายอยู่"
"นั้นซินะ...แต่ถ้าเป็นพวกเค้าอาจจะชนะชะตากรรมก็ได้"
เสียงเรียกนั้นทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้กับแขกที่เดินเข้ามาเป็นชายหนุ่มผมดำมัดผมสูง
รูปร่างโปร่งสูงเพียงริมฝีปากเค้า ดวงตาสีรัตติกาลดูแข็มแข็งและอ่อนโยน
มีแผลเป็นที่จมูกเป็นแนวยาว ส่วมชุดวอมสีดำแถบขาวส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
และมานั่งที่เตียงคนใข้ คาคาชิมองอย่างพอใจและยิ้มที่มุมอย่างเจ้าเล่
พลางเดินไปชงชามาให้แขกที่นั่งรออยู่แล้ว
"อ.อิรูกะเป็นอะไรเหลอครับ ถ้าไม่รังเกียจให้ผมรักษาให้ไหมครับ"
ไม่ว่าเปล่าพลางยื่นหน้ามาใกล้ และก้อได้ผล
อ.อิรูกะอุณภูมิที่หน้าสูงขึ้นทันใด ทำให้ร่างสูงลุกคืบมาใกล้
"ให้มันน้อยหน่อยนี้มันโรงเรียนนะ"
พลางส่งมองไปทางหน้าต่างแก้เขิน มีรึร่างสูงจะยอมแพ้ สวมกอดร่างโปร่งทันใด
"เอ๊!!นายนิ" ไม่ว่าเปล่าพยายามดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแกร่ง
คาคาชิมองอย่างพอใจกับอาการแก้เขินของ
อ.อิรุกะที่สอนวิชาพละที่มักจะจริงจังเสมอ
เวลาแกล้งแล้วน่ารักน่ากอดเป็นที่สุด พลางขโมยหอมแก้มแดงๆ อย่างได้ใจ
แล้วความเหลืออดก้อหมดลงร่างโปร่งสูดหายใจเข้าปอดอย่างช้าๆ รวบรวมแรงที่มี
//โป๊ก!!~โครม!!//
เจอหมัดทั้งดุ้นเสยใต้คางหงายท้องจนตกเตียงลงไปนอนกับพื้น
บ่นเจ็บอุบอิบพลางลูบคางตนเอง มองอาจารย์ตัวดีไปด้วย
ซึ่งนั่งมองออกไปข้างแกล้งทำเป็นไม่สนใจเค้า...ถึงจะไม่เจ็บมากนักก็ตามมันน่าจับกดนักเชียว...
หมาป่าเจ้าเล่ในคาบอาจารย์ในชุดเสื้อกราว์เริ่มวางแผนอีกครั้ง
ที่จะงาบกระต่ายน้อยแสนซน
"อะแฮ่ม...ที่ฉันมานี้คิดว่าจะมาถามอะไรนายหน่อย" พลางกอดอก
"เรื่องบนเตียงเหลอยินสอนอย่างยิ้งงงงงงงง ^o^"
ว่าแล้วกระโดดกอดทันใด
//ตุบ!!~โครม!!//
เจอบาทาที่รออยุ่อย่างรู้ทัน ถีบเต็มหน้าหล่นไปนอนกับพื้นอีกครั้ง
ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งจับหน้าอย่างกลัวเสียโฉมเป็นที่สุด
เพราะบนหน้ามีรอยบาทาอย่างชัดเจน
"เลิกบ้าได้ยังฉันคุยเรื่องซีเรียสนะ" อิรูกะว้ากอีกครั้ง
ก่อนนั่งกอดอกมองคู่หูตนเองอีกครั้งอย่างปลงๆ
เพราะภายนอกนั้นคาคาชิเป็นคนเรื้อยเปือย ชอบอ่านนิยายเป็นที่สุด โดยเฉพาะชุด
/อะจึ๋ย/ ที่สะสมมาได้เกือบ 3 ปีแล้ว
แต่ความจริงนั้นยังมีเบื่องหลังที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้อยู่เช่นกัน
"เรื่องที่มีพวก 'แหกกฎ' ซินะ" ร่างสูงเอยขึ้นและปัดฝุ่นตามตัว
"ใช่แถมมันอาจจะรู้ตัวจริงของนารุโตะแล้วก็ได้"
"มันก้อจริงแถมคืนนี้ก้จะครบ 16 แล้วด้วย"
"ตอนนี้ก้ออยากให้เค้าได้มีความสุขในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่จนถึงที่สุดอะนะ"
"อืม..." คาคาชิครางในลำคออย่างเห็นด้วย
และมานั่งดึงร่างโปร่งมากอดเป็นการปลอบโยน ซึ่งคราวนี้ไม่แม้แต่การขัดขืนใดๆ
ปล่อยความเงียบโรยตัวเข้าแทนที่
เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้พบกับชีวิตที่แสนธรรมดาแบบนี้อีกแล้ว
*****************************************************************************************
ระเบียงทางเดินในตัวอาคารนั้นเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนชายหญิงยื่นคุยกัน
บางก็มองทิวทัศข้างนอก ที่สนามนั้นเต็มไปด้วยนักเรียนเตะฟุตบอลบ้างกีฬาอื่นๆ
อีกมาก แต่กระนั้นร่างบาง ผมสีทองที่สูงเพียงบ่าของเค้า
ก็ยังคงลากพาไปที่ไหนซักแห่งตัวเค้าเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีในตอนนี้ปล่อยให้นักจ่อพูดไปเรื่อยๆ
"แหม นี้เรานอนจนถึงพักกลางวันเลยนะเนี้ย
แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องเรียนเลขของอ.คุเลไน" เจ้าตัวช่างจ่อก็ยังคงพูดไม่หยุด
จนมาถึงห้องของพวกเค้า ซึ่งในห้องนั้นมีเพียงเพื่อนๆไม่กี่คน
และในนั้นมีกลุ่มหนุ่มๆนั่งคุยกันอยู่ เจ้าชังจ่อไม่รอรี
เดินเข้าไปทักปันยิ้มตามปรกติ
"ไงพวก"
"อ้าวนารุโตะลุกไว้แล้วเหลอ" เพื่อนหนุ่มในกลุ่มทักขึ้น
เจ้ายิ้มแหะๆ ให้พลางจับแผลอย่างเผลอตัวพลางหันไปมองเพื่อนอ้วนตุ้ยนุ้ย
กินมันฝรั่งกรอบอย่างเอร็ดอร่อย
แต่ก้ออดไม่สนใจอะไรเพราะเจ้านี้กินจุกกินจิกอยู่แล้ว
พลางเดินก้มมองใต้โต๊ะข้างหน้าต่างนั้นมีหนังสือ 2-3
เล่มและเครื่องเขียนที่วางกระจัดกระจาย และกระเป๋าที่วางอยู่ขางโต๊ะ
ร่างบางหยิบขึ้นมาค้นบางสิ่ง
และก้อพบเป็นขนมปังใส่ยากิโซบะในห่อพลาสติกนั่งแกะ
"อ้าวนารูโตะวันนี้มีตังเหลอ"
เพื่อนหนุ่มแซวไปพลางหัวเราะกันไปพลาง เจ้าตัวดีหันมาแยกเขี้ยวให้
ก่อนจะมาสนใจกับขนมปังมื้อกลางวันนี้ อ้าปากกว้างหวังคำเดี้ยวหมด
//โป๊ก!!//
ลูกบอลปริษนาลอยมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือลอยมาโดนหัวของเจ้าตัวพอดี
จากนั้นกระเด็นกระดอนจนข้าวของล้มไปหมด และที่แน่ๆ
"อู้ย...ขะ...ขนมปังช้านนน" พลางค่อยๆ
เอาขนมปังขึ้นมาอย่างเสียดายสุดๆ วันนี้มันอะไรกันนักกันหนาเนี้ย
"บอลใครวะเตะไม่ดูเลย" และแล้วก้อเริ่มอารวาท โวกเวกโวยวาย จนเพื่อนๆ
ต่างถอนหายใจ
"เอ่อ 'โทษที่ใครเห็นบอลบ้าง" เสียงหนุ่มเอ่ยขึ้นถาม
เจ้าตัวดีรีบหยิบบอลไปที่หน้าต่างทันทีเป็นชายหนุ่มผมม็อบสีดำเช่นเดียวกับดวงตา
คิ้วเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์
และเพื่อนหนุ่มอีกคนผมยาวดำคลำคลุมหลังถูกมัดเป็นหางม้าอย่างหลอมๆ
ที่แปลกคือมีดวงเนตรสีขาวราวกับไข่มุขดูเหมือนมองได้ทะลุปรุโปร่งรูปร่างดีที่เดียว
"มีอะไรเหลอลี" ชายหนุ่มถามเพื่อนที่ยื่นข้างๆ
"เนจิ...ก้อลูกที่นายเตะมัน..." ลีพยายามประมวลเหตุการณ์จากสภาพห้อง
และคู่กรณี(น่าจะใช้)กำลังโกรธควันออกหู
"มันแม่นมากที่เลยนะซิโดนหัวคนอื่นเต็มๆ
แถมทำให้คนอื่นต้องเสียข้าวกลางวันด้วย"
เจ้าตัวแหกปากอีกครั้งรีมายื่นที่หน้าต่างพลางยื่นบอลใส่หน้าคู่กรณีของตนเอง
ที่ทำเป็นเก๊กหูทวนลมปล่อยให้คนแหกปากโวยปะทุหนักขึ้น
ก็ยิ่งทำให้เจ็บแผลที่หัวจนต้องหยุดโวยวาย
พอคู่กรณีเริ่มเหนื่อยร่างสูงก็หยิบบอลทำท่าเดินจากไป
แต่ด้วยความโมโหที่เหมื่อนโดนหยามนั้น
บวกกับความโกรธที่มีจนทนไม่ไหวแล้วเหมื่อนปล่องภูเขาไฟระเบิดออกมา
"เดี้ยวก่อนเว้ย!!!!" รีบคว้าผมไว้ได้ทันใด
เจ้าของมีจะยอมหันมามองอย่างหงุดหงิด ส่วนพวกเพื่อนต่างอยากเค้าเต็มที่
แต่ตอนนี้คงห้ามไม่ไหวแน่
เพราะเจ้านารุโตะมันไปแหย่ใครไม่แหย่ดันไปยุ่งกับบุคลสุด Hot
และอันตรายอย่าง ฮิวงะ เนจิ และ ล็อก ลี คิดได้เพียงอย่างเดียวชะตาขาด
ตัวลีนั้นไม่เท่าไร แต่ถ้ามีเรื่องกับเนจิเรื่องมันไม่จบง่ายๆ
แน่หมอนี้เล่นถึงที่สุด
"ปล่อยซิไอ้เด็กบ้า" เนจิเริ่มตวาทที่คนมายุ่งกับผมสุดที่รัก
"ขอโทษเดี้ยวนี้" หนุ่มน้อยกล่าวเสียงเบาแต่ที่แน่ๆ
ตัวเค้าได้ยินด้วยนั้นยิ่งไม่ชอบใจใหญ่หันมาจับข้อแขนเจ้าตัวดีที่กำผมเค้าแน่น
แต่ต้องตกใจกับข้อมือเรียวนั้นและเต็มไปด้วยผ้าพันแผล และรอยแดงเต็มไปหมด
เค้าไม่เคยเห็นใครเหมือนเด็กคนนี้มาก่อนเลย
เพราะทุกคนเห็นเค้าต่างนอบน้อมเค้าไม่มีใครหือกับเค้าเหมื่อนเจ้านี้มาก่อน...
"ขอโทษพวกเราเดี้ยวนี้นะไอ้บ้า!" เด็กหนุ่มผมทองตวาดอีกครั้ง
ทำเอาผู้คนรอบข้างอึ่งกันเป็นแถวๆ กับการกระทำอันนึกไม่ถึงจากอุซึมาคิ
นารุโตะคนนี้
"นะ...นายไม่รู้รึไงว่าชั้นเป็นใคร" เนจิเริ่มว่ากลับ
"นายเป็นใครก็ชังหัวมัน
แต่นายทำให้วั้นต้องอดข้าวกลางวันแถมทำใหหัวชั้นโนด้วย
แถมห้องยังต้องรกเพราะฝีมือแก"
คราวนี้ใช้มืออีกข้างกระคอเสี้ยกีฬาสีขาวที่มีตราโรงเรียนเข้ามาใกล้
"แล้วนายจะเดินไปเฉยโดยไม่ขอโทษซักคำรึไงกันหา"
เด็กหนุ่มพูดถึงมารยาทที่สำควรทำด้วยใบหน้าคลึงคังเต็มที่
คู่กรณีถึงกับอึ่งเล็กน้อย
"ขะ...ขอโทษ" เนจิล่ามือแต่โดยดีนั้น
ยิ่งทำให้ลีเพื่อนหนุ่มแปลกใจอย่างยิ่ง แต่ว่ามันคงไม่จบแค่นี้แน่ๆ
"ก้อแค่เนี้ย"
เจ้าตัวดีว่าและปล่อยคอเสื้อและผมที่ดำคลำแต่มือใหญ่ที่กุมที่ข้อมือเรียวงามยังไม่ยอมปล่อยทำให้เจ้าตัวดีเริ่มบูดอีกครั่ง...จะเอาอีละเนี้ย
ไอ้บ้าเนี้ย -_-*... เจ้าตัวดีคิดพลางบิดข้อมือไปมา
เนจิเห็นดังนั้นยิ่งชอบใจยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"เจ้าหนูชื่ออะไร"
"ใครเจ้าหนู ชั้นอุซึมาคิ นารุโตะเฟ้ยปล่อยซะที่เจ็บไอ้งั่ง"
คำตอบตวาดกลับนั้นทำให้ได้เห็นยิ้มเจ้าเล่บนใบหน้าคู่กรณี
เพื่อนหนุ่มรู้ทันทีว่าเด็กนี้ตกเป็นเป้าแล้วเรียบร้อย
แต่ว่าขณะที่ร่างบางพยายามแกะมือใหญ่อยู่นั้น ก็ไม่วายด่าเป็นช่วงๆ จู่ๆ
มือเรียวจากที่ไหนไม่รู้คว้าไปที่มือของเนจิ
"เลิกแล้วต่อกันเถอะครับรุ่นพี่"
เด็กหนุ่มพูดอย่างเหยียบเย็นพลางลงแรงบีบไปด้วย ทั้งคู่มองตากันซักครู่ก่อน
เนจิจะย่อมปล่อยและเดินจากไปไม่พูดอะไร
"ขอโทษแทนเจ้านั้นด้วยนะ" ลีหันมาขอดทาก่อนจะวิ่งตามเนจิไป
ซึ่งลีสังเกตุเห็นยิ้มบนใบหน้าคมคายขอวเพื่อนนั้นก็ยิ่งสงสารเด้กหนุ่มเมื่อกี้เหลือเกิน
ที่ตกมาเป็นเป้าของเนจิ พอทั้งคู่เดินลงไปที่สนามแล้ว
เจ้าตัวดีก็หมดแรงลงไปนั่งกลับพื้นหายใจแรงที่นึงอย่างโล่งอก
"แค่นี้ถึงกับหมดแรงเลยรึไง"
คำพุดที่เล่นนั้นทำเอาเจ้าตัวดีหน้าเบ้ทันที
"แค่มันหิวไม่มีแรงต่างเฟ้ยเจ้าบ้าซาสุเกะ" ว่าไปก็กุมท้องไป
ร่างสูงมองก่อนถอนหายใจโยนขนมปังใส้กรอกให้
"หิวไม่ใช้เหลอชั้นกินแล้ว ชั้นซื้อมาเกินเอาไปซิ"
เจ้าตัวดียิ้มร่าแกะกินอย่างเอร็ดอร่อยเขี้ยวตุ้ยๆ
ซาสุเกะมองอย่างพอใจจนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างมีความสุข
พวกเพื่อนต่างเดินมาจับบ่ามองอย่างปลงแทน
"ถามหน่อยนายรู้ไหมว่าเจ้านั้นเป็นใคร" ชิกามารุถามขึ้นอย่างเหนียยใจ
"แอนไออะ(แล้วใครอ๊ะ)"
"เฮ้ยหมอนั้นชื่อฮิวงะ เนจิเป็นตัวอันตรายนะจะบอกให้" คิบะอธิบาย
"แล้วไงถ้าอยากมีเรื่องก็ยินดีเลย" พลางยิ้มร่าไม่สถบสะท้าน
" 'ตัวอันตราย' ที่ว่าคือถ้าต้องตาใครแล้วจะต้องให้ได้นะซิ..."
ชิโนะเริ่มอธิบายเจ้าตัวดีชิงตัดบทก่อน
"คงเป็นพวกมีอิตธิพลหรือไม่ก่อนลูกคนรวย
สำหรับชั้นไม่หวันอยู่แล้วถ้าอยากมีก้อมีได้เลย"
ว่าแล้วเจ้าตัวกำหมัดขึ้นอย่างหมั้นใจเต็มที่
ทำพวกเพื่อนต่างถอนหายใจอย่างหนักอก
เจ้าตัวมองอย่างงงกับอากับกิริยาของพ้วงเพื่อน
"เอาน่า...ฉันไม่เป็นไรหลอกอีกอย่างอีกวิชาก็จบของวันนี้แล้วซินะ"
เจ้าตัวว่าพลางเก็บของลงกระเป๋าถือก่อนพลางหันมายิ้มร่าให้
"กลับก่อนนะพรรคพวกชั้นติดนัดสำคัญนะ" นารุโตะว่าแล้วก็รีออกจากห้องไป
"เฮ้ย~เจ้านั้นก็เป็นซะแบบนี้"
ชิกามารุเอ่ยอย่างรำคาญพลางหนักอกแทนที่ไม่ค่อยคิดอะไรของเจ้าตัวดี
"นั้นซิถ้าเจ้านั้นรุ้ว่าไปยุ่งกับ 'ตัวอันตราย'
แบบนั้นจะเจอกับอะไรจะพูดแบบนี้อีกไหมเนี้ย" คิบะเริ่มออกความคิดเห็นบ้าง
"ก็คงจะ 'ไอ้บ้านั้นจะยังไงก็ช่างถ้ามายุ่งจะซัดกระเด็นเลยคอยดูซี' แน่ๆ"
ทุกคนพูดแทบพร้อมกัน
"ก็เจ้านั้นคือนารุโตะนี้"
เสียงบ่งบอกที่นึกเอ่ยออกจากปากเรียวงามของวาสุเกะ
ยื่นมองออกที่นอกหน้าต่างท้องฟ้าที่แจ่มใส เค้ากับเด็กหนุ่มผมทองประกาย
ดวงตาสีฟ้าแลดุสดใส แต่เจื่อไปด้วยความเสล้าลึกๆ
ที่วิ่งออกไปก่อนกำลังวิ่งออกนอกประตูไป
พอทุกคนหันมานั้นไม่มีร่างสูงยื่นอยู่แล้ว...
....อย่าลืมนะนารุโตะ....
...ว่าที่นี้คือสถานที่รวมความสุขของนาย...
....และฉันจะปกป้องรอยยิ้มนั้นให้ได้แน่นอน.....
...นารุโตะ...
//โปรดติดตามตอนต่อไป//
....ทำไมถึงทรมานล่ะ?...
...เพราะข้าไม่สามารถชนะชะตากรรมได้...
...ชนะชะตากรรม?...
...ใช้ร่วมทั้งเจ้าด้วย
ผู้เกิดมามีชะตากรรที่น่าเศล้าพร้อมน่าที่ที่ต้องทำ...
"คุณเป็นใคร..." เสียงเรียกถามขึ้นอย่างแหบพร่า
ดวงค่อยเปิดออกเผยให้เห็นตาสีฟ้าสดใส กลิ่นยาลอยมาติดจมูก
เพดานสีขาวบริสุทธิ์ร่างบาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง แต่ทำให้ปวดหัวจนร้องออกมา
และนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยิ่งผวากับเหตุการณ์เสียงตายนั้นถึงจะจำไม่ค่อยได้ก็ตามที
จึงเผลอกอดอกอกตนเองอย่างกลัวตายเป็นครั้งแรก
สำหรับเค้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร
และอยู่ไปเพื่อใครเคยคิดอยากตายไม่รู้กี่รอบ
แต่พอเอาเข้าจริงก็กลัวทำอะไรไม่ถูก
พลางตั้งเข่าเอาน้ำซุกซ่อนใบหน้าที่บัดนี้มีน้ำใสๆ ไหลอาบอย่างอดไม่อยู่
และเด็กหนุ่มที่ยื่นหลบมุมในเงามืดแสดงสีหนักใจไม่แพ้กัน
"นารุโตะพื้นแล้วเหลอซาสุเกะ"
เสียงเรียกทักจากชายหนุ่มในชุดเสื้อกราวสีขาว
และเรือนผมสีเดียวกันไว้ผมปิดตาข้างซ้ายทักทายเด็กหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
ซาสุเกะพยักหน้ารับพลางมองไปยังเจ้าตัวที่ยังร้องอยู่ถึงจะไม่มีเสียงรอดออกมาก็ตามที
"ถึงจะน่าสงสารแต่ก็ถึงเวลาที่เค้าต้องเจอ"
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นและมองไปทางเจ้าตัวดีที่พยายามเช็ดน้ำตาเต็มที่
ด้วยสายตาที่อ่อนโยนและเอ็นดู
"คาคาชิรู้มาตั่งแต่แรกเลยซินะ"
ซาสุเกะว่าพลางส่งสายหงุดหงิดมาให้อย่างไม่สบอารมณ์ที่ไม่ยอมบอกเค้าซักคำ
เพราะพวกเค้าเป็นญาติถึงจะห่างๆ กันแต่ตอนนี้พวกเข้าได้ลงเรือลำเดียวกัน
และเจ้าตัวก็พักอาศัยอยู่ด้วยหลังจากเกิดเหตุในอดีตกับตระกุลทำให้เหลือเค้าและพี่ชายอีกคนที่หายสาบศูนย์อีกคน
แค่คิดถึงก็รู้สึกเจ็บใจ และเผลอจับบ่าข้างซ้ายอย่างเคยชิน
"เฮ้ย...ซาสุเกะมายื่มเก็กอะไรตรงนี้นะ"
เสียงเรียกที่ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง เด็กหนุ่มผมทองดังแสงตะวัน
ดวงตาสีฟ้าดังท้องนภาที่สดใส แม้บัดนี้จะแดงเล็กน้อยจากการร้องไห้
และพยามยามยิ้มไม่ให้ใครต้องคิดมาก
"ไม่เป็นไรนะนารุโตะ" อ.คาคาชิถามอย่างเป็นห่วง
ร่างบางสายหน้าและส่งยิ้มให้เป็นการตอบ
"งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ เอาซาสุเกะไปกันเถอะ"
ไม่ว่าเปล่าจับข้อมือแกร่งกึ่งลากกึ่งถูกออกจากห้องพยาบาลไป
โดยมีสายที่อ่อนโยนมองตาม
"นารุโตะ...ซาสุเกะ...หนทางข้างหน้าอาจลำบากและทุกข์ทรมาณรอพวกนายอยู่"
"นั้นซินะ...แต่ถ้าเป็นพวกเค้าอาจจะชนะชะตากรรมก็ได้"
เสียงเรียกนั้นทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้กับแขกที่เดินเข้ามาเป็นชายหนุ่มผมดำมัดผมสูง
รูปร่างโปร่งสูงเพียงริมฝีปากเค้า ดวงตาสีรัตติกาลดูแข็มแข็งและอ่อนโยน
มีแผลเป็นที่จมูกเป็นแนวยาว ส่วมชุดวอมสีดำแถบขาวส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
และมานั่งที่เตียงคนใข้ คาคาชิมองอย่างพอใจและยิ้มที่มุมอย่างเจ้าเล่
พลางเดินไปชงชามาให้แขกที่นั่งรออยู่แล้ว
"อ.อิรูกะเป็นอะไรเหลอครับ ถ้าไม่รังเกียจให้ผมรักษาให้ไหมครับ"
ไม่ว่าเปล่าพลางยื่นหน้ามาใกล้ และก้อได้ผล
อ.อิรูกะอุณภูมิที่หน้าสูงขึ้นทันใด ทำให้ร่างสูงลุกคืบมาใกล้
"ให้มันน้อยหน่อยนี้มันโรงเรียนนะ"
พลางส่งมองไปทางหน้าต่างแก้เขิน มีรึร่างสูงจะยอมแพ้ สวมกอดร่างโปร่งทันใด
"เอ๊!!นายนิ" ไม่ว่าเปล่าพยายามดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแกร่ง
คาคาชิมองอย่างพอใจกับอาการแก้เขินของ
อ.อิรุกะที่สอนวิชาพละที่มักจะจริงจังเสมอ
เวลาแกล้งแล้วน่ารักน่ากอดเป็นที่สุด พลางขโมยหอมแก้มแดงๆ อย่างได้ใจ
แล้วความเหลืออดก้อหมดลงร่างโปร่งสูดหายใจเข้าปอดอย่างช้าๆ รวบรวมแรงที่มี
//โป๊ก!!~โครม!!//
เจอหมัดทั้งดุ้นเสยใต้คางหงายท้องจนตกเตียงลงไปนอนกับพื้น
บ่นเจ็บอุบอิบพลางลูบคางตนเอง มองอาจารย์ตัวดีไปด้วย
ซึ่งนั่งมองออกไปข้างแกล้งทำเป็นไม่สนใจเค้า...ถึงจะไม่เจ็บมากนักก็ตามมันน่าจับกดนักเชียว...
หมาป่าเจ้าเล่ในคาบอาจารย์ในชุดเสื้อกราว์เริ่มวางแผนอีกครั้ง
ที่จะงาบกระต่ายน้อยแสนซน
"อะแฮ่ม...ที่ฉันมานี้คิดว่าจะมาถามอะไรนายหน่อย" พลางกอดอก
"เรื่องบนเตียงเหลอยินสอนอย่างยิ้งงงงงงงง ^o^"
ว่าแล้วกระโดดกอดทันใด
//ตุบ!!~โครม!!//
เจอบาทาที่รออยุ่อย่างรู้ทัน ถีบเต็มหน้าหล่นไปนอนกับพื้นอีกครั้ง
ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งจับหน้าอย่างกลัวเสียโฉมเป็นที่สุด
เพราะบนหน้ามีรอยบาทาอย่างชัดเจน
"เลิกบ้าได้ยังฉันคุยเรื่องซีเรียสนะ" อิรูกะว้ากอีกครั้ง
ก่อนนั่งกอดอกมองคู่หูตนเองอีกครั้งอย่างปลงๆ
เพราะภายนอกนั้นคาคาชิเป็นคนเรื้อยเปือย ชอบอ่านนิยายเป็นที่สุด โดยเฉพาะชุด
/อะจึ๋ย/ ที่สะสมมาได้เกือบ 3 ปีแล้ว
แต่ความจริงนั้นยังมีเบื่องหลังที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้อยู่เช่นกัน
"เรื่องที่มีพวก 'แหกกฎ' ซินะ" ร่างสูงเอยขึ้นและปัดฝุ่นตามตัว
"ใช่แถมมันอาจจะรู้ตัวจริงของนารุโตะแล้วก็ได้"
"มันก้อจริงแถมคืนนี้ก้จะครบ 16 แล้วด้วย"
"ตอนนี้ก้ออยากให้เค้าได้มีความสุขในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่จนถึงที่สุดอะนะ"
"อืม..." คาคาชิครางในลำคออย่างเห็นด้วย
และมานั่งดึงร่างโปร่งมากอดเป็นการปลอบโยน ซึ่งคราวนี้ไม่แม้แต่การขัดขืนใดๆ
ปล่อยความเงียบโรยตัวเข้าแทนที่
เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้พบกับชีวิตที่แสนธรรมดาแบบนี้อีกแล้ว
*****************************************************************************************
ระเบียงทางเดินในตัวอาคารนั้นเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนชายหญิงยื่นคุยกัน
บางก็มองทิวทัศข้างนอก ที่สนามนั้นเต็มไปด้วยนักเรียนเตะฟุตบอลบ้างกีฬาอื่นๆ
อีกมาก แต่กระนั้นร่างบาง ผมสีทองที่สูงเพียงบ่าของเค้า
ก็ยังคงลากพาไปที่ไหนซักแห่งตัวเค้าเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีในตอนนี้ปล่อยให้นักจ่อพูดไปเรื่อยๆ
"แหม นี้เรานอนจนถึงพักกลางวันเลยนะเนี้ย
แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องเรียนเลขของอ.คุเลไน" เจ้าตัวช่างจ่อก็ยังคงพูดไม่หยุด
จนมาถึงห้องของพวกเค้า ซึ่งในห้องนั้นมีเพียงเพื่อนๆไม่กี่คน
และในนั้นมีกลุ่มหนุ่มๆนั่งคุยกันอยู่ เจ้าชังจ่อไม่รอรี
เดินเข้าไปทักปันยิ้มตามปรกติ
"ไงพวก"
"อ้าวนารุโตะลุกไว้แล้วเหลอ" เพื่อนหนุ่มในกลุ่มทักขึ้น
เจ้ายิ้มแหะๆ ให้พลางจับแผลอย่างเผลอตัวพลางหันไปมองเพื่อนอ้วนตุ้ยนุ้ย
กินมันฝรั่งกรอบอย่างเอร็ดอร่อย
แต่ก้ออดไม่สนใจอะไรเพราะเจ้านี้กินจุกกินจิกอยู่แล้ว
พลางเดินก้มมองใต้โต๊ะข้างหน้าต่างนั้นมีหนังสือ 2-3
เล่มและเครื่องเขียนที่วางกระจัดกระจาย และกระเป๋าที่วางอยู่ขางโต๊ะ
ร่างบางหยิบขึ้นมาค้นบางสิ่ง
และก้อพบเป็นขนมปังใส่ยากิโซบะในห่อพลาสติกนั่งแกะ
"อ้าวนารูโตะวันนี้มีตังเหลอ"
เพื่อนหนุ่มแซวไปพลางหัวเราะกันไปพลาง เจ้าตัวดีหันมาแยกเขี้ยวให้
ก่อนจะมาสนใจกับขนมปังมื้อกลางวันนี้ อ้าปากกว้างหวังคำเดี้ยวหมด
//โป๊ก!!//
ลูกบอลปริษนาลอยมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือลอยมาโดนหัวของเจ้าตัวพอดี
จากนั้นกระเด็นกระดอนจนข้าวของล้มไปหมด และที่แน่ๆ
"อู้ย...ขะ...ขนมปังช้านนน" พลางค่อยๆ
เอาขนมปังขึ้นมาอย่างเสียดายสุดๆ วันนี้มันอะไรกันนักกันหนาเนี้ย
"บอลใครวะเตะไม่ดูเลย" และแล้วก้อเริ่มอารวาท โวกเวกโวยวาย จนเพื่อนๆ
ต่างถอนหายใจ
"เอ่อ 'โทษที่ใครเห็นบอลบ้าง" เสียงหนุ่มเอ่ยขึ้นถาม
เจ้าตัวดีรีบหยิบบอลไปที่หน้าต่างทันทีเป็นชายหนุ่มผมม็อบสีดำเช่นเดียวกับดวงตา
คิ้วเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์
และเพื่อนหนุ่มอีกคนผมยาวดำคลำคลุมหลังถูกมัดเป็นหางม้าอย่างหลอมๆ
ที่แปลกคือมีดวงเนตรสีขาวราวกับไข่มุขดูเหมือนมองได้ทะลุปรุโปร่งรูปร่างดีที่เดียว
"มีอะไรเหลอลี" ชายหนุ่มถามเพื่อนที่ยื่นข้างๆ
"เนจิ...ก้อลูกที่นายเตะมัน..." ลีพยายามประมวลเหตุการณ์จากสภาพห้อง
และคู่กรณี(น่าจะใช้)กำลังโกรธควันออกหู
"มันแม่นมากที่เลยนะซิโดนหัวคนอื่นเต็มๆ
แถมทำให้คนอื่นต้องเสียข้าวกลางวันด้วย"
เจ้าตัวแหกปากอีกครั้งรีมายื่นที่หน้าต่างพลางยื่นบอลใส่หน้าคู่กรณีของตนเอง
ที่ทำเป็นเก๊กหูทวนลมปล่อยให้คนแหกปากโวยปะทุหนักขึ้น
ก็ยิ่งทำให้เจ็บแผลที่หัวจนต้องหยุดโวยวาย
พอคู่กรณีเริ่มเหนื่อยร่างสูงก็หยิบบอลทำท่าเดินจากไป
แต่ด้วยความโมโหที่เหมื่อนโดนหยามนั้น
บวกกับความโกรธที่มีจนทนไม่ไหวแล้วเหมื่อนปล่องภูเขาไฟระเบิดออกมา
"เดี้ยวก่อนเว้ย!!!!" รีบคว้าผมไว้ได้ทันใด
เจ้าของมีจะยอมหันมามองอย่างหงุดหงิด ส่วนพวกเพื่อนต่างอยากเค้าเต็มที่
แต่ตอนนี้คงห้ามไม่ไหวแน่
เพราะเจ้านารุโตะมันไปแหย่ใครไม่แหย่ดันไปยุ่งกับบุคลสุด Hot
และอันตรายอย่าง ฮิวงะ เนจิ และ ล็อก ลี คิดได้เพียงอย่างเดียวชะตาขาด
ตัวลีนั้นไม่เท่าไร แต่ถ้ามีเรื่องกับเนจิเรื่องมันไม่จบง่ายๆ
แน่หมอนี้เล่นถึงที่สุด
"ปล่อยซิไอ้เด็กบ้า" เนจิเริ่มตวาทที่คนมายุ่งกับผมสุดที่รัก
"ขอโทษเดี้ยวนี้" หนุ่มน้อยกล่าวเสียงเบาแต่ที่แน่ๆ
ตัวเค้าได้ยินด้วยนั้นยิ่งไม่ชอบใจใหญ่หันมาจับข้อแขนเจ้าตัวดีที่กำผมเค้าแน่น
แต่ต้องตกใจกับข้อมือเรียวนั้นและเต็มไปด้วยผ้าพันแผล และรอยแดงเต็มไปหมด
เค้าไม่เคยเห็นใครเหมือนเด็กคนนี้มาก่อนเลย
เพราะทุกคนเห็นเค้าต่างนอบน้อมเค้าไม่มีใครหือกับเค้าเหมื่อนเจ้านี้มาก่อน...
"ขอโทษพวกเราเดี้ยวนี้นะไอ้บ้า!" เด็กหนุ่มผมทองตวาดอีกครั้ง
ทำเอาผู้คนรอบข้างอึ่งกันเป็นแถวๆ กับการกระทำอันนึกไม่ถึงจากอุซึมาคิ
นารุโตะคนนี้
"นะ...นายไม่รู้รึไงว่าชั้นเป็นใคร" เนจิเริ่มว่ากลับ
"นายเป็นใครก็ชังหัวมัน
แต่นายทำให้วั้นต้องอดข้าวกลางวันแถมทำใหหัวชั้นโนด้วย
แถมห้องยังต้องรกเพราะฝีมือแก"
คราวนี้ใช้มืออีกข้างกระคอเสี้ยกีฬาสีขาวที่มีตราโรงเรียนเข้ามาใกล้
"แล้วนายจะเดินไปเฉยโดยไม่ขอโทษซักคำรึไงกันหา"
เด็กหนุ่มพูดถึงมารยาทที่สำควรทำด้วยใบหน้าคลึงคังเต็มที่
คู่กรณีถึงกับอึ่งเล็กน้อย
"ขะ...ขอโทษ" เนจิล่ามือแต่โดยดีนั้น
ยิ่งทำให้ลีเพื่อนหนุ่มแปลกใจอย่างยิ่ง แต่ว่ามันคงไม่จบแค่นี้แน่ๆ
"ก้อแค่เนี้ย"
เจ้าตัวดีว่าและปล่อยคอเสื้อและผมที่ดำคลำแต่มือใหญ่ที่กุมที่ข้อมือเรียวงามยังไม่ยอมปล่อยทำให้เจ้าตัวดีเริ่มบูดอีกครั่ง...จะเอาอีละเนี้ย
ไอ้บ้าเนี้ย -_-*... เจ้าตัวดีคิดพลางบิดข้อมือไปมา
เนจิเห็นดังนั้นยิ่งชอบใจยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"เจ้าหนูชื่ออะไร"
"ใครเจ้าหนู ชั้นอุซึมาคิ นารุโตะเฟ้ยปล่อยซะที่เจ็บไอ้งั่ง"
คำตอบตวาดกลับนั้นทำให้ได้เห็นยิ้มเจ้าเล่บนใบหน้าคู่กรณี
เพื่อนหนุ่มรู้ทันทีว่าเด็กนี้ตกเป็นเป้าแล้วเรียบร้อย
แต่ว่าขณะที่ร่างบางพยายามแกะมือใหญ่อยู่นั้น ก็ไม่วายด่าเป็นช่วงๆ จู่ๆ
มือเรียวจากที่ไหนไม่รู้คว้าไปที่มือของเนจิ
"เลิกแล้วต่อกันเถอะครับรุ่นพี่"
เด็กหนุ่มพูดอย่างเหยียบเย็นพลางลงแรงบีบไปด้วย ทั้งคู่มองตากันซักครู่ก่อน
เนจิจะย่อมปล่อยและเดินจากไปไม่พูดอะไร
"ขอโทษแทนเจ้านั้นด้วยนะ" ลีหันมาขอดทาก่อนจะวิ่งตามเนจิไป
ซึ่งลีสังเกตุเห็นยิ้มบนใบหน้าคมคายขอวเพื่อนนั้นก็ยิ่งสงสารเด้กหนุ่มเมื่อกี้เหลือเกิน
ที่ตกมาเป็นเป้าของเนจิ พอทั้งคู่เดินลงไปที่สนามแล้ว
เจ้าตัวดีก็หมดแรงลงไปนั่งกลับพื้นหายใจแรงที่นึงอย่างโล่งอก
"แค่นี้ถึงกับหมดแรงเลยรึไง"
คำพุดที่เล่นนั้นทำเอาเจ้าตัวดีหน้าเบ้ทันที
"แค่มันหิวไม่มีแรงต่างเฟ้ยเจ้าบ้าซาสุเกะ" ว่าไปก็กุมท้องไป
ร่างสูงมองก่อนถอนหายใจโยนขนมปังใส้กรอกให้
"หิวไม่ใช้เหลอชั้นกินแล้ว ชั้นซื้อมาเกินเอาไปซิ"
เจ้าตัวดียิ้มร่าแกะกินอย่างเอร็ดอร่อยเขี้ยวตุ้ยๆ
ซาสุเกะมองอย่างพอใจจนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างมีความสุข
พวกเพื่อนต่างเดินมาจับบ่ามองอย่างปลงแทน
"ถามหน่อยนายรู้ไหมว่าเจ้านั้นเป็นใคร" ชิกามารุถามขึ้นอย่างเหนียยใจ
"แอนไออะ(แล้วใครอ๊ะ)"
"เฮ้ยหมอนั้นชื่อฮิวงะ เนจิเป็นตัวอันตรายนะจะบอกให้" คิบะอธิบาย
"แล้วไงถ้าอยากมีเรื่องก็ยินดีเลย" พลางยิ้มร่าไม่สถบสะท้าน
" 'ตัวอันตราย' ที่ว่าคือถ้าต้องตาใครแล้วจะต้องให้ได้นะซิ..."
ชิโนะเริ่มอธิบายเจ้าตัวดีชิงตัดบทก่อน
"คงเป็นพวกมีอิตธิพลหรือไม่ก่อนลูกคนรวย
สำหรับชั้นไม่หวันอยู่แล้วถ้าอยากมีก้อมีได้เลย"
ว่าแล้วเจ้าตัวกำหมัดขึ้นอย่างหมั้นใจเต็มที่
ทำพวกเพื่อนต่างถอนหายใจอย่างหนักอก
เจ้าตัวมองอย่างงงกับอากับกิริยาของพ้วงเพื่อน
"เอาน่า...ฉันไม่เป็นไรหลอกอีกอย่างอีกวิชาก็จบของวันนี้แล้วซินะ"
เจ้าตัวว่าพลางเก็บของลงกระเป๋าถือก่อนพลางหันมายิ้มร่าให้
"กลับก่อนนะพรรคพวกชั้นติดนัดสำคัญนะ" นารุโตะว่าแล้วก็รีออกจากห้องไป
"เฮ้ย~เจ้านั้นก็เป็นซะแบบนี้"
ชิกามารุเอ่ยอย่างรำคาญพลางหนักอกแทนที่ไม่ค่อยคิดอะไรของเจ้าตัวดี
"นั้นซิถ้าเจ้านั้นรุ้ว่าไปยุ่งกับ 'ตัวอันตราย'
แบบนั้นจะเจอกับอะไรจะพูดแบบนี้อีกไหมเนี้ย" คิบะเริ่มออกความคิดเห็นบ้าง
"ก็คงจะ 'ไอ้บ้านั้นจะยังไงก็ช่างถ้ามายุ่งจะซัดกระเด็นเลยคอยดูซี' แน่ๆ"
ทุกคนพูดแทบพร้อมกัน
"ก็เจ้านั้นคือนารุโตะนี้"
เสียงบ่งบอกที่นึกเอ่ยออกจากปากเรียวงามของวาสุเกะ
ยื่นมองออกที่นอกหน้าต่างท้องฟ้าที่แจ่มใส เค้ากับเด็กหนุ่มผมทองประกาย
ดวงตาสีฟ้าแลดุสดใส แต่เจื่อไปด้วยความเสล้าลึกๆ
ที่วิ่งออกไปก่อนกำลังวิ่งออกนอกประตูไป
พอทุกคนหันมานั้นไม่มีร่างสูงยื่นอยู่แล้ว...
....อย่าลืมนะนารุโตะ....
...ว่าที่นี้คือสถานที่รวมความสุขของนาย...
....และฉันจะปกป้องรอยยิ้มนั้นให้ได้แน่นอน.....
...นารุโตะ...
//โปรดติดตามตอนต่อไป//
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น