ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic naruto]สัญญาใจ จิ้งจอกที่รัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ช่วงเวลาแห่งความสุข1

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 50


    ...ทรมาน...


    ....ทำไมถึงทรมานล่ะ?...



    ...เพราะข้าไม่สามารถชนะชะตากรรมได้...


    ...ชนะชะตากรรม?...




    ...ใช้ร่วมทั้งเจ้าด้วย
    ผู้เกิดมามีชะตากรรที่น่าเศล้าพร้อมน่าที่ที่ต้องทำ...




    "คุณเป็นใคร..." เสียงเรียกถามขึ้นอย่างแหบพร่า
    ดวงค่อยเปิดออกเผยให้เห็นตาสีฟ้าสดใส กลิ่นยาลอยมาติดจมูก
    เพดานสีขาวบริสุทธิ์ร่างบาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง แต่ทำให้ปวดหัวจนร้องออกมา
    และนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยิ่งผวากับเหตุการณ์เสียงตายนั้นถึงจะจำไม่ค่อยได้ก็ตามที
    จึงเผลอกอดอกอกตนเองอย่างกลัวตายเป็นครั้งแรก
    สำหรับเค้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร
    และอยู่ไปเพื่อใครเคยคิดอยากตายไม่รู้กี่รอบ
    แต่พอเอาเข้าจริงก็กลัวทำอะไรไม่ถูก
    พลางตั้งเข่าเอาน้ำซุกซ่อนใบหน้าที่บัดนี้มีน้ำใสๆ ไหลอาบอย่างอดไม่อยู่
    และเด็กหนุ่มที่ยื่นหลบมุมในเงามืดแสดงสีหนักใจไม่แพ้กัน




    "นารุโตะพื้นแล้วเหลอซาสุเกะ"
    เสียงเรียกทักจากชายหนุ่มในชุดเสื้อกราวสีขาว
    และเรือนผมสีเดียวกันไว้ผมปิดตาข้างซ้ายทักทายเด็กหนุ่มอย่างเป็นกันเอง
    ซาสุเกะพยักหน้ารับพลางมองไปยังเจ้าตัวที่ยังร้องอยู่ถึงจะไม่มีเสียงรอดออกมาก็ตามที




    "ถึงจะน่าสงสารแต่ก็ถึงเวลาที่เค้าต้องเจอ"
    ชายหนุ่มกล่าวขึ้นและมองไปทางเจ้าตัวดีที่พยายามเช็ดน้ำตาเต็มที่
    ด้วยสายตาที่อ่อนโยนและเอ็นดู




    "คาคาชิรู้มาตั่งแต่แรกเลยซินะ"
    ซาสุเกะว่าพลางส่งสายหงุดหงิดมาให้อย่างไม่สบอารมณ์ที่ไม่ยอมบอกเค้าซักคำ
    เพราะพวกเค้าเป็นญาติถึงจะห่างๆ กันแต่ตอนนี้พวกเข้าได้ลงเรือลำเดียวกัน
    และเจ้าตัวก็พักอาศัยอยู่ด้วยหลังจากเกิดเหตุในอดีตกับตระกุลทำให้เหลือเค้าและพี่ชายอีกคนที่หายสาบศูนย์อีกคน
    แค่คิดถึงก็รู้สึกเจ็บใจ และเผลอจับบ่าข้างซ้ายอย่างเคยชิน

    "เฮ้ย...ซาสุเกะมายื่มเก็กอะไรตรงนี้นะ"
    เสียงเรียกที่ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง เด็กหนุ่มผมทองดังแสงตะวัน
    ดวงตาสีฟ้าดังท้องนภาที่สดใส แม้บัดนี้จะแดงเล็กน้อยจากการร้องไห้
    และพยามยามยิ้มไม่ให้ใครต้องคิดมาก

    "ไม่เป็นไรนะนารุโตะ" อ.คาคาชิถามอย่างเป็นห่วง
    ร่างบางสายหน้าและส่งยิ้มให้เป็นการตอบ

    "งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ เอาซาสุเกะไปกันเถอะ"
    ไม่ว่าเปล่าจับข้อมือแกร่งกึ่งลากกึ่งถูกออกจากห้องพยาบาลไป
    โดยมีสายที่อ่อนโยนมองตาม


    "นารุโตะ...ซาสุเกะ...หนทางข้างหน้าอาจลำบากและทุกข์ทรมาณรอพวกนายอยู่"

    "นั้นซินะ...แต่ถ้าเป็นพวกเค้าอาจจะชนะชะตากรรมก็ได้"
    เสียงเรียกนั้นทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้กับแขกที่เดินเข้ามาเป็นชายหนุ่มผมดำมัดผมสูง
    รูปร่างโปร่งสูงเพียงริมฝีปากเค้า ดวงตาสีรัตติกาลดูแข็มแข็งและอ่อนโยน
    มีแผลเป็นที่จมูกเป็นแนวยาว ส่วมชุดวอมสีดำแถบขาวส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
    และมานั่งที่เตียงคนใข้ คาคาชิมองอย่างพอใจและยิ้มที่มุมอย่างเจ้าเล่
    พลางเดินไปชงชามาให้แขกที่นั่งรออยู่แล้ว

    "อ.อิรูกะเป็นอะไรเหลอครับ ถ้าไม่รังเกียจให้ผมรักษาให้ไหมครับ"
    ไม่ว่าเปล่าพลางยื่นหน้ามาใกล้ และก้อได้ผล
    อ.อิรูกะอุณภูมิที่หน้าสูงขึ้นทันใด ทำให้ร่างสูงลุกคืบมาใกล้

    "ให้มันน้อยหน่อยนี้มันโรงเรียนนะ"
    พลางส่งมองไปทางหน้าต่างแก้เขิน มีรึร่างสูงจะยอมแพ้ สวมกอดร่างโปร่งทันใด

    "เอ๊!!นายนิ" ไม่ว่าเปล่าพยายามดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแกร่ง
    คาคาชิมองอย่างพอใจกับอาการแก้เขินของ
    อ.อิรุกะที่สอนวิชาพละที่มักจะจริงจังเสมอ
    เวลาแกล้งแล้วน่ารักน่ากอดเป็นที่สุด พลางขโมยหอมแก้มแดงๆ อย่างได้ใจ
    แล้วความเหลืออดก้อหมดลงร่างโปร่งสูดหายใจเข้าปอดอย่างช้าๆ รวบรวมแรงที่มี


    //โป๊ก!!~โครม!!//

    เจอหมัดทั้งดุ้นเสยใต้คางหงายท้องจนตกเตียงลงไปนอนกับพื้น
    บ่นเจ็บอุบอิบพลางลูบคางตนเอง มองอาจารย์ตัวดีไปด้วย
    ซึ่งนั่งมองออกไปข้างแกล้งทำเป็นไม่สนใจเค้า...ถึงจะไม่เจ็บมากนักก็ตามมันน่าจับกดนักเชียว...
    หมาป่าเจ้าเล่ในคาบอาจารย์ในชุดเสื้อกราว์เริ่มวางแผนอีกครั้ง
    ที่จะงาบกระต่ายน้อยแสนซน

    "อะแฮ่ม...ที่ฉันมานี้คิดว่าจะมาถามอะไรนายหน่อย" พลางกอดอก

    "เรื่องบนเตียงเหลอยินสอนอย่างยิ้งงงงงงงง ^o^"
    ว่าแล้วกระโดดกอดทันใด


    //ตุบ!!~โครม!!//

    เจอบาทาที่รออยุ่อย่างรู้ทัน ถีบเต็มหน้าหล่นไปนอนกับพื้นอีกครั้ง
    ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งจับหน้าอย่างกลัวเสียโฉมเป็นที่สุด
    เพราะบนหน้ามีรอยบาทาอย่างชัดเจน

    "เลิกบ้าได้ยังฉันคุยเรื่องซีเรียสนะ" อิรูกะว้ากอีกครั้ง
    ก่อนนั่งกอดอกมองคู่หูตนเองอีกครั้งอย่างปลงๆ
    เพราะภายนอกนั้นคาคาชิเป็นคนเรื้อยเปือย ชอบอ่านนิยายเป็นที่สุด โดยเฉพาะชุด
    /อะจึ๋ย/ ที่สะสมมาได้เกือบ 3 ปีแล้ว
    แต่ความจริงนั้นยังมีเบื่องหลังที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้อยู่เช่นกัน

    "เรื่องที่มีพวก 'แหกกฎ' ซินะ" ร่างสูงเอยขึ้นและปัดฝุ่นตามตัว

    "ใช่แถมมันอาจจะรู้ตัวจริงของนารุโตะแล้วก็ได้"

    "มันก้อจริงแถมคืนนี้ก้จะครบ 16 แล้วด้วย"


    "ตอนนี้ก้ออยากให้เค้าได้มีความสุขในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่จนถึงที่สุดอะนะ"

    "อืม..." คาคาชิครางในลำคออย่างเห็นด้วย
    และมานั่งดึงร่างโปร่งมากอดเป็นการปลอบโยน ซึ่งคราวนี้ไม่แม้แต่การขัดขืนใดๆ
    ปล่อยความเงียบโรยตัวเข้าแทนที่
    เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้พบกับชีวิตที่แสนธรรมดาแบบนี้อีกแล้ว

    *****************************************************************************************

    ระเบียงทางเดินในตัวอาคารนั้นเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนชายหญิงยื่นคุยกัน
    บางก็มองทิวทัศข้างนอก ที่สนามนั้นเต็มไปด้วยนักเรียนเตะฟุตบอลบ้างกีฬาอื่นๆ
    อีกมาก แต่กระนั้นร่างบาง ผมสีทองที่สูงเพียงบ่าของเค้า
    ก็ยังคงลากพาไปที่ไหนซักแห่งตัวเค้าเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีในตอนนี้ปล่อยให้นักจ่อพูดไปเรื่อยๆ

    "แหม นี้เรานอนจนถึงพักกลางวันเลยนะเนี้ย
    แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องเรียนเลขของอ.คุเลไน" เจ้าตัวช่างจ่อก็ยังคงพูดไม่หยุด
    จนมาถึงห้องของพวกเค้า ซึ่งในห้องนั้นมีเพียงเพื่อนๆไม่กี่คน
    และในนั้นมีกลุ่มหนุ่มๆนั่งคุยกันอยู่ เจ้าชังจ่อไม่รอรี
    เดินเข้าไปทักปันยิ้มตามปรกติ

    "ไงพวก"

    "อ้าวนารุโตะลุกไว้แล้วเหลอ" เพื่อนหนุ่มในกลุ่มทักขึ้น
    เจ้ายิ้มแหะๆ ให้พลางจับแผลอย่างเผลอตัวพลางหันไปมองเพื่อนอ้วนตุ้ยนุ้ย
    กินมันฝรั่งกรอบอย่างเอร็ดอร่อย
    แต่ก้ออดไม่สนใจอะไรเพราะเจ้านี้กินจุกกินจิกอยู่แล้ว
    พลางเดินก้มมองใต้โต๊ะข้างหน้าต่างนั้นมีหนังสือ 2-3
    เล่มและเครื่องเขียนที่วางกระจัดกระจาย และกระเป๋าที่วางอยู่ขางโต๊ะ
    ร่างบางหยิบขึ้นมาค้นบางสิ่ง
    และก้อพบเป็นขนมปังใส่ยากิโซบะในห่อพลาสติกนั่งแกะ

    "อ้าวนารูโตะวันนี้มีตังเหลอ"
    เพื่อนหนุ่มแซวไปพลางหัวเราะกันไปพลาง เจ้าตัวดีหันมาแยกเขี้ยวให้
    ก่อนจะมาสนใจกับขนมปังมื้อกลางวันนี้ อ้าปากกว้างหวังคำเดี้ยวหมด


    //โป๊ก!!//

    ลูกบอลปริษนาลอยมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือลอยมาโดนหัวของเจ้าตัวพอดี
    จากนั้นกระเด็นกระดอนจนข้าวของล้มไปหมด และที่แน่ๆ

    "อู้ย...ขะ...ขนมปังช้านนน" พลางค่อยๆ
    เอาขนมปังขึ้นมาอย่างเสียดายสุดๆ วันนี้มันอะไรกันนักกันหนาเนี้ย

    "บอลใครวะเตะไม่ดูเลย" และแล้วก้อเริ่มอารวาท โวกเวกโวยวาย จนเพื่อนๆ
    ต่างถอนหายใจ

    "เอ่อ 'โทษที่ใครเห็นบอลบ้าง" เสียงหนุ่มเอ่ยขึ้นถาม
    เจ้าตัวดีรีบหยิบบอลไปที่หน้าต่างทันทีเป็นชายหนุ่มผมม็อบสีดำเช่นเดียวกับดวงตา
    คิ้วเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์
    และเพื่อนหนุ่มอีกคนผมยาวดำคลำคลุมหลังถูกมัดเป็นหางม้าอย่างหลอมๆ
    ที่แปลกคือมีดวงเนตรสีขาวราวกับไข่มุขดูเหมือนมองได้ทะลุปรุโปร่งรูปร่างดีที่เดียว

    "มีอะไรเหลอลี" ชายหนุ่มถามเพื่อนที่ยื่นข้างๆ

    "เนจิ...ก้อลูกที่นายเตะมัน..." ลีพยายามประมวลเหตุการณ์จากสภาพห้อง
    และคู่กรณี(น่าจะใช้)กำลังโกรธควันออกหู

    "มันแม่นมากที่เลยนะซิโดนหัวคนอื่นเต็มๆ
    แถมทำให้คนอื่นต้องเสียข้าวกลางวันด้วย"
    เจ้าตัวแหกปากอีกครั้งรีมายื่นที่หน้าต่างพลางยื่นบอลใส่หน้าคู่กรณีของตนเอง
    ที่ทำเป็นเก๊กหูทวนลมปล่อยให้คนแหกปากโวยปะทุหนักขึ้น
    ก็ยิ่งทำให้เจ็บแผลที่หัวจนต้องหยุดโวยวาย
    พอคู่กรณีเริ่มเหนื่อยร่างสูงก็หยิบบอลทำท่าเดินจากไป
    แต่ด้วยความโมโหที่เหมื่อนโดนหยามนั้น
    บวกกับความโกรธที่มีจนทนไม่ไหวแล้วเหมื่อนปล่องภูเขาไฟระเบิดออกมา

    "เดี้ยวก่อนเว้ย!!!!" รีบคว้าผมไว้ได้ทันใด
    เจ้าของมีจะยอมหันมามองอย่างหงุดหงิด ส่วนพวกเพื่อนต่างอยากเค้าเต็มที่
    แต่ตอนนี้คงห้ามไม่ไหวแน่
    เพราะเจ้านารุโตะมันไปแหย่ใครไม่แหย่ดันไปยุ่งกับบุคลสุด Hot
    และอันตรายอย่าง ฮิวงะ เนจิ และ ล็อก ลี คิดได้เพียงอย่างเดียวชะตาขาด
    ตัวลีนั้นไม่เท่าไร แต่ถ้ามีเรื่องกับเนจิเรื่องมันไม่จบง่ายๆ
    แน่หมอนี้เล่นถึงที่สุด

    "ปล่อยซิไอ้เด็กบ้า" เนจิเริ่มตวาทที่คนมายุ่งกับผมสุดที่รัก

    "ขอโทษเดี้ยวนี้" หนุ่มน้อยกล่าวเสียงเบาแต่ที่แน่ๆ
    ตัวเค้าได้ยินด้วยนั้นยิ่งไม่ชอบใจใหญ่หันมาจับข้อแขนเจ้าตัวดีที่กำผมเค้าแน่น
    แต่ต้องตกใจกับข้อมือเรียวนั้นและเต็มไปด้วยผ้าพันแผล และรอยแดงเต็มไปหมด
    เค้าไม่เคยเห็นใครเหมือนเด็กคนนี้มาก่อนเลย
    เพราะทุกคนเห็นเค้าต่างนอบน้อมเค้าไม่มีใครหือกับเค้าเหมื่อนเจ้านี้มาก่อน...

    "ขอโทษพวกเราเดี้ยวนี้นะไอ้บ้า!" เด็กหนุ่มผมทองตวาดอีกครั้ง
    ทำเอาผู้คนรอบข้างอึ่งกันเป็นแถวๆ กับการกระทำอันนึกไม่ถึงจากอุซึมาคิ
    นารุโตะคนนี้

    "นะ...นายไม่รู้รึไงว่าชั้นเป็นใคร" เนจิเริ่มว่ากลับ

    "นายเป็นใครก็ชังหัวมัน
    แต่นายทำให้วั้นต้องอดข้าวกลางวันแถมทำใหหัวชั้นโนด้วย
    แถมห้องยังต้องรกเพราะฝีมือแก"
    คราวนี้ใช้มืออีกข้างกระคอเสี้ยกีฬาสีขาวที่มีตราโรงเรียนเข้ามาใกล้

    "แล้วนายจะเดินไปเฉยโดยไม่ขอโทษซักคำรึไงกันหา"
    เด็กหนุ่มพูดถึงมารยาทที่สำควรทำด้วยใบหน้าคลึงคังเต็มที่
    คู่กรณีถึงกับอึ่งเล็กน้อย

    "ขะ...ขอโทษ" เนจิล่ามือแต่โดยดีนั้น
    ยิ่งทำให้ลีเพื่อนหนุ่มแปลกใจอย่างยิ่ง แต่ว่ามันคงไม่จบแค่นี้แน่ๆ

    "ก้อแค่เนี้ย"
    เจ้าตัวดีว่าและปล่อยคอเสื้อและผมที่ดำคลำแต่มือใหญ่ที่กุมที่ข้อมือเรียวงามยังไม่ยอมปล่อยทำให้เจ้าตัวดีเริ่มบูดอีกครั่ง...จะเอาอีละเนี้ย
    ไอ้บ้าเนี้ย -_-*... เจ้าตัวดีคิดพลางบิดข้อมือไปมา
    เนจิเห็นดังนั้นยิ่งชอบใจยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

    "เจ้าหนูชื่ออะไร"

    "ใครเจ้าหนู ชั้นอุซึมาคิ นารุโตะเฟ้ยปล่อยซะที่เจ็บไอ้งั่ง"
    คำตอบตวาดกลับนั้นทำให้ได้เห็นยิ้มเจ้าเล่บนใบหน้าคู่กรณี
    เพื่อนหนุ่มรู้ทันทีว่าเด็กนี้ตกเป็นเป้าแล้วเรียบร้อย
    แต่ว่าขณะที่ร่างบางพยายามแกะมือใหญ่อยู่นั้น ก็ไม่วายด่าเป็นช่วงๆ จู่ๆ
    มือเรียวจากที่ไหนไม่รู้คว้าไปที่มือของเนจิ

    "เลิกแล้วต่อกันเถอะครับรุ่นพี่"
    เด็กหนุ่มพูดอย่างเหยียบเย็นพลางลงแรงบีบไปด้วย ทั้งคู่มองตากันซักครู่ก่อน
    เนจิจะย่อมปล่อยและเดินจากไปไม่พูดอะไร

    "ขอโทษแทนเจ้านั้นด้วยนะ" ลีหันมาขอดทาก่อนจะวิ่งตามเนจิไป
    ซึ่งลีสังเกตุเห็นยิ้มบนใบหน้าคมคายขอวเพื่อนนั้นก็ยิ่งสงสารเด้กหนุ่มเมื่อกี้เหลือเกิน
    ที่ตกมาเป็นเป้าของเนจิ พอทั้งคู่เดินลงไปที่สนามแล้ว
    เจ้าตัวดีก็หมดแรงลงไปนั่งกลับพื้นหายใจแรงที่นึงอย่างโล่งอก

    "แค่นี้ถึงกับหมดแรงเลยรึไง"
    คำพุดที่เล่นนั้นทำเอาเจ้าตัวดีหน้าเบ้ทันที

    "แค่มันหิวไม่มีแรงต่างเฟ้ยเจ้าบ้าซาสุเกะ" ว่าไปก็กุมท้องไป
    ร่างสูงมองก่อนถอนหายใจโยนขนมปังใส้กรอกให้

    "หิวไม่ใช้เหลอชั้นกินแล้ว ชั้นซื้อมาเกินเอาไปซิ"
    เจ้าตัวดียิ้มร่าแกะกินอย่างเอร็ดอร่อยเขี้ยวตุ้ยๆ
    ซาสุเกะมองอย่างพอใจจนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างมีความสุข
    พวกเพื่อนต่างเดินมาจับบ่ามองอย่างปลงแทน

    "ถามหน่อยนายรู้ไหมว่าเจ้านั้นเป็นใคร" ชิกามารุถามขึ้นอย่างเหนียยใจ

    "แอนไออะ(แล้วใครอ๊ะ)"

    "เฮ้ยหมอนั้นชื่อฮิวงะ เนจิเป็นตัวอันตรายนะจะบอกให้" คิบะอธิบาย

    "แล้วไงถ้าอยากมีเรื่องก็ยินดีเลย" พลางยิ้มร่าไม่สถบสะท้าน

    " 'ตัวอันตราย' ที่ว่าคือถ้าต้องตาใครแล้วจะต้องให้ได้นะซิ..."
    ชิโนะเริ่มอธิบายเจ้าตัวดีชิงตัดบทก่อน

    "คงเป็นพวกมีอิตธิพลหรือไม่ก่อนลูกคนรวย
    สำหรับชั้นไม่หวันอยู่แล้วถ้าอยากมีก้อมีได้เลย"
    ว่าแล้วเจ้าตัวกำหมัดขึ้นอย่างหมั้นใจเต็มที่
    ทำพวกเพื่อนต่างถอนหายใจอย่างหนักอก
    เจ้าตัวมองอย่างงงกับอากับกิริยาของพ้วงเพื่อน

    "เอาน่า...ฉันไม่เป็นไรหลอกอีกอย่างอีกวิชาก็จบของวันนี้แล้วซินะ"
    เจ้าตัวว่าพลางเก็บของลงกระเป๋าถือก่อนพลางหันมายิ้มร่าให้

    "กลับก่อนนะพรรคพวกชั้นติดนัดสำคัญนะ" นารุโตะว่าแล้วก็รีออกจากห้องไป

    "เฮ้ย~เจ้านั้นก็เป็นซะแบบนี้"
    ชิกามารุเอ่ยอย่างรำคาญพลางหนักอกแทนที่ไม่ค่อยคิดอะไรของเจ้าตัวดี

    "นั้นซิถ้าเจ้านั้นรุ้ว่าไปยุ่งกับ 'ตัวอันตราย'
    แบบนั้นจะเจอกับอะไรจะพูดแบบนี้อีกไหมเนี้ย" คิบะเริ่มออกความคิดเห็นบ้าง

    "ก็คงจะ 'ไอ้บ้านั้นจะยังไงก็ช่างถ้ามายุ่งจะซัดกระเด็นเลยคอยดูซี' แน่ๆ"
    ทุกคนพูดแทบพร้อมกัน

    "ก็เจ้านั้นคือนารุโตะนี้"
    เสียงบ่งบอกที่นึกเอ่ยออกจากปากเรียวงามของวาสุเกะ
    ยื่นมองออกที่นอกหน้าต่างท้องฟ้าที่แจ่มใส เค้ากับเด็กหนุ่มผมทองประกาย
    ดวงตาสีฟ้าแลดุสดใส แต่เจื่อไปด้วยความเสล้าลึกๆ
    ที่วิ่งออกไปก่อนกำลังวิ่งออกนอกประตูไป
    พอทุกคนหันมานั้นไม่มีร่างสูงยื่นอยู่แล้ว...

    ....อย่าลืมนะนารุโตะ....

    ...ว่าที่นี้คือสถานที่รวมความสุขของนาย...
    ....และฉันจะปกป้องรอยยิ้มนั้นให้ได้แน่นอน.....
    ...นารุโตะ...


    //โปรดติดตามตอนต่อไป//
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×