คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ชีวิตที่แสนธรรมดา
ความมืดที่น่ากลัว...กลิ่นคาวเลือดลอยมาติดจมูก จนน่าเวียนหัว อยากอาเจียน มาจากชายหญิงที่ดูคุ้นเคย...ใช่แล้วมันคือศพของพ่อแม่ของเขา...
“อ้า!!!!!!!!” เสียงร้องดังขึ้นพร้อมการลุกขึ้นพรวดจากที่นอนของเด็กหนุ่มผมทองซอย ดวงตาสีฟ้า ที่กำลังสั่นระริกด้วยความกลัว ดวงหน้าหวานดังหญิงสาวจมูกโด่งกำลังฉายแววความตื่นกลัว เม็ดเหงื่อตามร่างกายที่บอกบาง เมื่อมองไปรอบๆ ห้องกว้างนั้นก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยอ่อน
“...ฝันนั้นอีกแล้ว...แย่จริงเชียว” เสียงแหบพร่าดังขึ้นพร้อมก้มหน้าลงซุกกับเข่าก่อนส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ความฝันไป ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงทำความสะอาดร่างกายเสร็จ ก็ออกมาพร้อมชุดนักเรียนคอปิดสีดำและเก็บที่นอนจนเรียบร้อย ก่อนจะออกจาห้องลงมาเพื่อจะตรงไปยังห้องกินข้าว เมื่อมาถึงก็จัดแจงใส่ผ้ากันเปื้อน เริ่มลงมือทำข้าวเช้า และปิ่นโตจนเสร็จ
"โห~ข้าวเช้าวันนี้น่ากินดีนะ" ชายชราประมาณ 50 กว่าเดินเข้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ พลางนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
"อรุณสวัสดิ์ครับปู่ วันนี้มีปลาย่างกับซุบมิโซะของโปรดปู่ด้วยนะครับ" เด็กกล่าวทักพร้อมยกกับข้าวมาเสิร์ฟ ซึ่งชายชราต่างยิ้มอย่างดีใจ
"โฮะๆ ดีจริงๆงั้นทานละ" ว่าแล้วก็ลงมือทานอาหารของหลานชายสุดที่รัก อย่างเอร็ดอร่อย รวมถึงเจ้าตัวที่เริ่มนั่งปุ๊ปก็มีเสียง ตึงๆ มาทางประตูห้องกินข้าว
"ไง~วันนี้มีอะไรกินมั่งจ๊ะไคจัง" เสียงเด็กหนุ่มจอมทะเล้นพร้อมเดินเข้ามาประจำที่นั่งของตนเอง
"อรุณสวัสดิ์ยูกิ วันนี้มีปลาย่างกับซุบมิโซะของโปรดปู่นะ" เด็กหนุ่มผมทองเอ่ยทักพร้อมชามข้าวที่พูนส่งให้เด็กหนุ่มผู้มาใหม่ที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกัน รูปร่างสูงโปร่งผิวออกคล้ำเล็กน้อย ใบหน้าติดหล่อคม ผมสีเทาออกขาวซอยสั้น ดวงตาสีเทาฉายแววขี้เล่น
"ของชอบปู่ก็ของชอบชั้นเหมือนกัน"
"เหอะ...ยูกิเจ้านะชอบทุกอย่างที่กินได้ทั้งนั้นแหละเจ้าตะกละ" เจอคุณปู่แขวะเข้าไปทำเอายูกินั่งจ๋อยไปเลย เรียกเสียงหัวเราะจากไคและคุณปู่ได้เป็นอย่างดี เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ยูกิก็เก็บจานมาล้างส่วนไคนั้นเอาผ้าไปตาก ก่อนที่ทั้งคู่จะไปโรงเรียนด้วยมอเตอร์ไซค์ของยูกิเพียง 15 นาทีก็ถึงที่หมาย ซึ่งเป็นชีวิตประจำวันของ ฮิวามากิ ไค และ ยามาชิตะ ยูกิ เมื่อทั้งคู่เดินเขาห้องเรียน ก็มีพวกเด็กหนุ่มออกห้าวๆ มาพูดคุยกับยูกิ เพราะเขานั้นเก่งด้านกีฬาต่างๆ ไม่ว่าฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล บาสฯ ฯลฯ แต่เจ้าตัวไม่ยอมเข้าชมรมไหนซักอัน เพียงเพราะจะได้กลับบ้านเร็วเท่านั้น แต่ก็ยอมช่วยลงให้แล้วแต่ชมรมไหนขาดคนก็จะมาช่วย ส่วนเขานั้นไม่ได้ดีเด่นอะไรในเรื่องนี้กีฬารึการเรียน แต่ยูกิกลับบอกว่าไคนั้นมีดีมากกว่าที่เห็น ทำให้เขาใจชื้นมาก
หลังจากเรียนจบภาคเช้า นักเรียนหลายคนต้องรีบออกจากห้องไปที่โรงอาหารเพื่อซื้อของกิน ก่อนที่จะหมด บางคนก็ออกไปซื้อที่ซุบเปอร์ฯ รึว่าเอามากินกันเอง ซึ่งมันก็รวมเขาอยู่ในนั้น เวลาพักไคจะมาชมวิวที่ดาดฟ้าพร้อมทั้งกินข้าวที่นี้ เป็นประจำ
“ไงไคจังรอนานไหม” เสียงเรียกจากเด็กหนุ่มจอมกวนที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลัง
“ไม่หรอก...ว่าแต่วันนี้ไม่เยอะกว่าปรกติเหรอ” เด็กหนุ่มว่าพลางชี้ไปที่ปิ่นโตของเพื่อนสนิทที่วันนี้ไปซื้อขนมปังที่โรงอาหาร แบบเยอะมากกว่า 10 ถุงได้
“ก็ขนมป้าเข้าอร่อยนี่...อีกอย่างต้องตุนไว้สำหรับงานสำคัญ” คำอธิบายในตอนท้ายที่เบามาก
“เอ๊ะ
เมื่อกี้ว่าไงนะ” ร่างบางเอ่ยถามขึ้น แต่ยูกิกลับยิ้มให้ก่อนจะโยนขนมปังมาให้พร้อมนมกล่องมาให้ ก่อนที่จะลงมือทานข้าวกลางวัน หลังจากที่กินกันไปได้หน่อย ยูกิก็เอยทักขึ้นมา
“ไคจัง...เมื่อเช้าได้ยินเสียงร้องฝันร้ายอีกแล้วเหรอ” คำถามที่ถามมาทำให้เพื่อนหนุ่มหยุดกินหันมาพยักหน้ารับ
“ฝันถึงตอนคุณพ่อคุณแม่ตายน่ะ...” ดวงตาสีฟ้าฉายแววเศร้าสร้อยขึ้นมาทันที
“งั้นเหรอ...นี่ก็ผ่านไป10ปีแล้วซินะที่พวกท่านจากไป” เสียงบอกเริ่มอ่อนลงเป็นการรู้สึกผิดที่ไปถามเรื่องไม่ควร
“อืม...นั่นซินะ” ใช่แล้วเขาเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ 4 ขวบจึงต้องอยู่กับปู่แค่สองคน ต่อมาได้รู้จักกับยูกิและก็มาอยู่ด้วยกัน เนื่องจากคุณปู่และเขาไปเจอที่ลานหน้าวัด สลบไม่ได้สติจึงช่วยกันดูแลพอฟื้นขึ้นมาถามความก็เลยรู้ว่าเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติ คุณปู่สงสารเลยให้มาอยู่ด้วยกัน แต่กลับตัวเขาแล้วรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ราวกลับว่ารู้จักมาก่อนแล้ว
“ไงพวก...รอนานไหม” เสียงเอ่ยทักจากกลุ่มเด็กหนุ่มที่มาใหม่ดังขึ้นด้านหลังของไค
“ไม่นานหรอกเพราะพวกเราพึ่งกินกันไปนี่เอง” ไคว่าพลางส่งยิ้มให้ ทำเอาคนทักหัวใจเต้นตึกตัก ก่อนจะลงมานั่งใกล้ๆ
“เฮ้ย...ยูกิช่วงนี้แกกินเยอะไปป่ะวะ” เสียงในกลุ่มชายหนุ่มที่ออกแนวท้อมหน่อยๆ เอยทักมีนามว่า
ยามาจิ โจซึ
“นั่นสิกินแต่แป้งจะได้แต่คาร์โบไฮเดตร กับไขมันระวังจะเป็นเบาหวาน...บลาๆๆ...” เด็กหนุ่มอีกคนสูงโปร่งสวมแว่นกรอบเทา ใบหน้าติดน่ารัก แต่ยังน้อยกว่าไค ผมสีน้ำตาลเข้มสั้นดวงตาสีดำ อธิบายยาวเหยียดจนคนฟังเริ่มเบื่ออาหารแทบทันที จึงต้องรีบขัดก่อนจะทานอะไรไม่ลง
“รู้แล้วจ้า...รู้แล้วคร้าบท่านโมโตมิจิ ชินยะขอล่ะอย่าพูดอีกเลยเดี๋ยวจะกินไม่ลงเสียดายของนะ” ยูกิว่าพลางยกมือไหว้ขอร้องตามแบบฉบับคนกวน แต่เป็นที่รู้กันว่ายูกินะกำลังคบกับชินยะ เป็นที่รู้กันในกลุ่มเท่านั้น
“เอ้า!ว่าไงท่านภรรยาจะทำตามที่สามีขอร้องไหมเอ่ย” เสียงกวนโอ๊ยจากเด็กหนุ่มที่เหมือนเด็กเกเรหัวสีชาอมแดง ตาสีเทาเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ แต่คนที่ถูกแต่งตั้งเป็นภรรยาหันมาพร้อมรังสีมาคุเต็มที่ ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเขินอาย
“พูดแบบนี้อยากกินบาทาข้าแทนข้าวใช่ไหมไอ้คุณ มิซึคาจิ เคนจิ” เจ้าตัวว่าพลางหักนิ้วกร๊อบๆ เข้ามาใกล้ เมื่อเคนจิเห็นท่าไม่ดีรีบไปหลบหลังไคที่อยู่ใกล้ๆ
“ใจเย็นก่อนซิวะแค่ขำๆเองนะ ยูกิช่วยที่ซิวะเมียแกนะจะฆ่าข้าแล้ว” นั่น...ปากหาเรื่องอีกครั้งทำเอาบรรดาเพื่อนฝูงต้องเอือมกับปากไม่มีหูรูด ส่วนคนถูกแต่งตั้งยิ่งย่างสามขุมเข้าไป ทำเอาผู้ถูกเป็นโล่เริ่มสยองเอง
“จะ...ใจเย็นก่อนนะชินยะ” ไคพยายามเกลี้ยกล่อมเพราะว่าเขายังถูกใช้เป็นโล่อยู่
“ไค...อย่ามาขวางวันนี้ตูจะเอาหมาออกจากมันหน่อยบางทีอาจจะดีขึ้น” พลางหักนิ้วอีกครั้ง เรียกความน่ากลัวขนหัวลุก
“ชั้นไม่ว่าหรอกนะเชิญเลย
” ไคใช้โอกาสที่เคนจิเผลอรีบลุกหนี้ เมื่อไม่มีโล่ก็ถึงคราวหายนะมาเยือน ก็รีบลุกวิ่งหนีทันที แต่มีรึจะยอม
“เฮ้ย!!แน่จริงอย่าหนีซิวะ!!” ชินยะไล่กวดเคนจิไปมา เป็นที่สนุกสนานของบรรดาเพื่อนๆ เป็นความสุขของเด็กหนุ่มนักเรียนม.ต้นปี 3 ที่อีกไม่นานก็อาจจะจากกันไปต่อม.ปลายกัน
หลังจากที่ไล่ฆ่ากันจนแทบไม่ได้กินข้าวกลางวัน ก็ต้องมานั่งอ่านหนังสือกันเองเพราะครูมีประชุม ซึ่งเด็กคนอื่นๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมต่อม.ปลาย
“เฮ้ย...พวกนายตั้งเป้าอยากเข้าที่ไหนกันบ้างวะ” เคนจิว่า
“ชั้นก็ตั้งใจอยากเข้าโรงเรียนโจนันไดนะ” โจซิว่า
“พวกชั้นก็ตั้งใจไปที่นั่นเหมือนกัน” ไคว่าพลางโอบคอชินยะมาใกล้เป็นคู่
“แล้วยูกิล่ะว่าไง” เคนจิหันมาถามเพื่อนจอมกวนอีกคน
“อ๋อ...เรื่องนั้นนะ
”แต่ก่อนจะได้อธิบายอะไร ครูประจำวิชาก็เข้ามาซะก่อน จึงต้องแยกย้ายกันไป
หลังจากจบการเรียนการสอน ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับส่วนพวกไคนั้นตั้งใจจะไปคาราโอเกะกันเพื่อฉลองให้ให้ไคในวันเกิดพรุ่งนี้ เพราะวันเกิดของไคนั้นคือวันตายของพ่อแม่จึงต้องไปเยี่ยมหลุมศพเลยจัดงานไม่ได้
“เอาสุขสันตร์วันเกิดครบ15ปีนะไค...คัมปาย~!!” เคนจิเอ่ยขึ้นเป็นพิธีพร้อมยกแก้วขึ้นสูงและทุกคนก็ทำตาม
"คัมปาย~!!" เมื่อพูดพร้อมกันจบ ก็ยกดื่มขึ้นไปแต่แล้วก็...
//พรวด!!!//
บรรดาเพื่อนๆ พ่นออกมาใส่กันเองจนกระจายเต็มหน้า ยกเว้นแต่ยูกิกับเคนจิที่ยิ้มแก้มปริอยู่
"เฮ้ย!!นี้มันเหล้านะโว๊ย...เคนจิเอามาได้ไง" โจซึเริ่มโวยหลังจากพ่นใส่กันเองจนเต็มหน้า จึงต้องเช็ดกันอย่างอุตะรุด
"ก็ใช่ไง...วันเกิดทั้งทีต้องเอาให้สุดๆไปเลย" เจ้าตัวเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน
"แล้วรู้ไหมว่าเขาห้ามเด็กที่ยังบรรลุนิติภาวะกินเหล้านะ" ชินยะเอ่ยบอกพร้อมเช็ดหน้าตาจนสะอาดแล้ว
"ก็ไม่เห็นเป็นอะไรแค่แก้วเดียวเอง" เจ้าตัวยังไม่ยอมแพ้หันมาเจ้าของงาน พร้อมส่งอีกแก้วให้ พร้อมสายตาอ้อนหน่อยๆ
"จะบ้ารึไง!!ไม่เอาหรอก!" ไคเอ่ยว่าพร้อมปฎิเสทเสียงแข็ง แต่เจ้าตัวนั้นรู้ว่าต้องเป็นแบบนี้จึงงัดไม้เด็ดมาใช้
"แหมแก้วเดียวเอง...รึไม่กล้าละเจ้าหญิง" เคนจิว่าพลางยักไหล่ เรียกน้ำโหจากร่างบางได้ทันที เพราะว่าเขาไม่ชอบให้ใครเรียกว่า 'เจ้าหญิง' นัก
"ก็ได้อีกแค่แก้วเดียวนะ" ว่าแล้วก็รับมาพร้อมกระดกหมดแก้วในคราวเดียว เป็นที่ตกตะลึกและเฮของบรรดาเพื่อนรวมก๊วน
"เป็นไงก็แค่นี้ล่ะไม่เห็นน่ากลัวเลยเนอะ...มีแต่พวก ปอดแหก ละที่กลัว" เคนจิว่าและเน้น ปอดแหก อย่างชัดเจน และสายตาดูถูกมาทางโจซึ และชินยะ ทำให้ทั้งคู่ฮึดขึ้นมาทันใด คว้าแก้วยกซดอึก...อึก...ในคราวเดียว ทำให้ยูกิที่ห้ามไม่ทันหน้าเริ่มถอดสี กับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดต่อไปนี้....
//ตึง!!//
“เอื๊อก...” ชินยะกับโจซึเรอออกมาพร้อมกัน ก่อนที่เด็กหนุ่มร่างท้วมจะกลิ้งลงไปนอนกรน เพราะพิษสุรา ส่วนอีกคนนั้นนิ่งเงียบซะจนน่ากลัว จนไคต้องเอ่ยทักอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เอ่อ...ท่าน...โมโตมิจิ ชินยะครับ...เอ่อ...” ยังไม่ทันได้พูดต่อเด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนแต่ยังไม่พูดอะไร
“อารายวะ...ทำไมถึงร้อนอย่างงี้นะ” เจ้าตัวว่าด้วยความหงุดหงิด แต่บรรดาเพื่อนๆ ต่างอยากตอกกลับไปว่าหวานจนจะแข็งตาย ยังบอกมาได้ว่าร้อน แต่ไม่มีใครพูดออกไป เพราะว่าเจ้าตัวกำลังหน้าแดงเพราะพิษสุราและถอดเสื้อผ้าชุดนักเรียนจนยูกิแทบถามไม่ทัน
“ว๊าก!!!!!!สต๊อป!!!!” ยูกิเอ่ยขึ้นพร้อมรวบตัวไว้ได้ทัน ไม่งั้นได้เลือดพุ่งเพราะความเซ็กซี่ของร่างบางตรงหน้าแน่ แต่ว่าเจ้าตัวดีกลับหันมาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีขี้เถ้า ก่อนจะยิ้ม อย่างมีเล่ห์ในลูบใบหน้าคมสันพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ริมฝีปากเรียวนั้น ยิ้มเหยาะไปมาคล้ายหยอกเหย้า ทำเอาบรรดาเพื่อนๆ ที่ดูอยู่อึ้งและทึ่ง นึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ดูเรียบร้อย ฉลาดและกัดเจ็บที่สุดในกลุ่ม จะมีอีกด้านที่คาดไม่ถึงแบบนี้ เมื่อยูกิเห็นคนในเห็นเหตุการณ์อึ้งไปแล้ว เขาเองก็สุดทนแล้วเช่นกันจึงอุ้มร่างบางพาดบ่าขึ้นมาทันที ก่อนจะได้เห็นอะไรหวาดเสียว (รู้กันอยู่แล้ว)
“เฮ้ย...ชั้นเอาเจ้านี้กลับก่อนนะพวกนายฉลองกันต่อเถอะ” ยูกิว่าก่อนจะออกจากห้อง แต่ถูกเสียงหวานดักไว้ก่อน
“ยูกิ...ฝากชินยะด้วยนะแล้วก็อย่ากลับเกิน4ทุ่มนะปู่เขาฝากมา” ยูกิเอ่ยขึ้น หลังจากได้สติแล้ว
“อืม...รู้แล้วยังไงก็ไม่ดึกหรอกเพราะได้เวลาทำงานที่แท้จริงแล้วน่ะสิ” คำพูดตอนท้ายที่เบามากจนไคคิดว่าหูฝาดคิดไปเอง เพราะยูกิหันมายิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้พวกเขาฉลองกันต่อ โดยที่ไคไม่รู้ว่านี้อาจจะเป็นคืนที่แสนธรรมดาของเด็กม.ต้นปี 3 จะเป็นคืนสุดท้ายเพราะวันใหม่ที่กำลังมาถึงจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล...
//TBC.//
ความคิดเห็น