ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Centaurea ยามดอกไม้เบ่งบาน

    ลำดับตอนที่ #4 : วันที่ 12 - 05 - 661 : Because ----> 100%

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 53


    บทที่ 2 ------------------------------



    อากาศตอนกลางวันนี้ช่างร้อนอบอ้าวเสียเหลือเกิน   ผมว่าตัวผมเองสามารถทนได้ทุกสภาวะแล้วนะแต่เจอเข้าไปยังงี้ก็ไม่ไหวเหมือนแหะ

    ห้องเรียนของผมนั้นไม่ได้ติดแอร์คอนเทนเนอร์เย็นๆ  มีแต่พัดลมเก่ากึก  แม้จะเปิดเบอร์แรงสุด   ยังสู้นำพัดขึ้นมาพัดไม่ได้เลย

    ระหว่างที่คุณครูกำลังสอนประวัติศาสตร์ที่น่าเบื่ออยู่นั้น    ผมได้หันออกไปโดยที่มือยังคงเท้าคางอยู่มองเศษใบไม้ที่หลุดร่วงปลิวว่อนไปตามกระแสลมที่โบกผัดผ่านช่างดูมีอิสรภาพดี   

    ความคิดของผมในตอนนั้นแทบอยากจะเป็นเศษใบไม้นั้นในทันที

    “เฮ้อ...”  ผมถอนหายใจยาวออกมา   ก่อนจะปล่อยตัวนอนราบไปกับโต๊ะแล้วจ้องมองกระดานที่ครูสอน

    เป็นเวลามากกว่าหกร้อยปีแล้วนะ  นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์  มหาวิบัติที่ทำให้ทั้งโลกต้องตกอยู่ในมหาสมุทรที่กลืนกินแผ่นดินไปอย่างรวดเร็วและน่ากลัว   แต่ละประเทศต่างเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาใหม่โดยเริ่มนับตั้งแต่ศูนย์   วิทยาการต่างๆจึงได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง

    ตึกรามบ้านช่องต่างๆก็ได้ปรากฏขึ้นบนผิวโลกอีกครั้ง   รวมถึงการใช้ชีวิตใหม่ๆของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกแห่งนี้

    แต่ว่า...   เรื่องราวนี้ผมฟังมาเป็นร้อยรอบแล้ว   ใครๆก็รู้ว่าหากมีใครมาพูดให้เราฟังเรื่องซ้ำๆซากๆที่แม้ว่ามันจะสำคัญมากแค่ไหนก็ตาม  เป็นคุณคงเบื่อสินะ

    เมื่อผมหมดความสนใจกับกระดานไวท์บอร์ดที่มีตัวหนังสือขึ้นมามากมาย   ผมจึงลองหันไปมองโดยรอบซึ่งเพื่อนๆของผมทั้งชายและหญิงจะนั่งคละเคล้ากันไป  ก็เว้นแต่เพียงเด็กจากต่างประเทศ 3 คนที่นั่งอยู่ข้างหลังห้องแปลกกว่าคนอื่นนั่งเชิดหยิ่งโดยไม่สนใจ   แหม่...สวยเลือกได้  หล่อเลือกได้กันทั้งนั้น...

    หากจะมีสิ่งที่แตกต่าง  ก็มีเด็กสาวรูปร่างบอบบางที่ไว้ผมยาวนามว่านีเวียร์   ทั้งกิริยาท่าทางดูเป็นผู้มีสกุล   ปากที่เรียวได้ที่    มือที่อ่อนช้อยและดูไร้เรี่ยวแรงวางพาดบนตัก   ช่างเป็นเด็กสาวที่ดูเรียบร้อยเสียจริง

    จนถึงตอนนี้เธอก็ยังหลับตาไม่เปิดให้ใครเห็นดวงตาของเธอเลย   ทำให้เธอเหมือนกับมีความลับบางอย่าง

    แปบเดียวนั้น สาวสวยอีกคนนามว่าลิซ่า จ้องเขม็งมายังผมที่สายตากำลังมองเพื่อนสาวของเธออยู่   โอ้...ช่างงามจับใจจริงๆเลยนะลิซ่า... และไม่เกินจากนั้น เสียงแห่งสวรรค์ได้ดังขึ้น ครูรีบสั่งการบ้านอย่างเฉื่อยช้าแก่นักเรียนในห้องก่อนจะเดินออกไป
    ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพักแม้เพียง 15 นาทีก็พอแล้วล่ะ
    ผมฟุ่บหน้าลงไปอย่างเหน็ดเหนื่อย   เหงื่อไหลโชกโชน   ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นเลยแหะ...
    ในตอนนั้นเอง จังหวะเดียวกับที่ผมฟุ่บหน้าลงไปนั้น ก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นมาเข้าสู่โสตประสาทหูอย่างจัง จนผมต้องหันไปมองหน้ามันด้วยสายตาบอกบุญไม่รับ
    “ไง   เกลอเพื่อนยาก”
    “เป็นแกทุกทีเลยน้า   ที่ชอบเข้ามารบกวนช่วงเวลาแห่งความสุขของชั้นทุกที”
    “แหมๆ   พูดยังงี้กับเพื่อนที่คบแกมาตั้งแต่สมัยม.ต้นได้ไงวะ” ว่าแล้วเพื่อนผมก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าผมซึ่งเจ้าของที่นั่งนี้สะบัดก้นไปไหนแล้วก็ไม่รู้
    ในตอนนั้นเองที่สายตาอันชาญฉลาดของผม   มองปราดเดียวก็รู้แล้ว
    เพื่อนของผมคนนี้กำลังจ้องมองไปยังนีเวียร์ที่ไม่ได้เปลี่ยนกิริยาท่าทางไปจากเมื่อกี้นี้เลย   เธอเป็นหุ่นยนต์รึไงกัน   ไม่รู้เหรอว่า มีคนตั้งคนหนึ่ง... พูดผิด หลายสายตาจับจ้องเธออยู่ อยากจะรู้จักเธอมากแค่ไหน
    จะว่าไปเพื่อนผมก็ไม่ได้แย่อะไร   หน้าตาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรชอบไว้ผมเกรียนเหมือนพวกเด็กเรียน   ตรงเสื้อหน้าอกข้างขวาเหนือกระเป๋าเสื้อของเขาปักชื่อไว้ว่า ‘พิทักษ์ เรืองวรชัย’ ส่วนของผมปักไว้ว่า ‘วาสินันท์   ตรรกะเมธานี’
    “เฮ้ย !! โฉมงามนั้นมีนามว่าอะไรหรือ”   มาแบบหนังจีนเชียวนะเพื่อน....
    “นามหญิงนั้นคือ นีเวียร์   ฟอร์เมน พระเจ้าค่ะ” เล่นตามมันอีกต่างหาก....
    “โห... เธอเกิดมาเพื่อผู้ชายเหรอ” ดันไปแปลนามสกุลเขาอีก....
    “จะบ้าเรอะ !!! ดูไม่ออกรึไง ทั้งชื่อและนามสกุลของเธอ มันยี่ห้อโลชั่นชัดๆ!!” ผมตะโกนโวยวายประท้วงความจริงออกไป   แต่ว่า...มันเคลิ้มจนไม่ได้ยินที่ผมพูดแล้วมั้ง
    “เจ้าหญิงหนอ...ช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน   เธอเกิดมาเพื่อคู่ควรกับเราตามสวรรค์ประทานมา หากแต่พ่อแม่ของเธอกลับขัดขวางทำให้เธอเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วไป ทั้งๆที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า เธอคนนี้คิดถึงเราเพียงคนเดียว”   เยี่ยม...เพ้อไปเรียบร้อย
    ผมปล่อยให้พิทักษ์คนนี้หลงมัวเมาไปกับความฝันที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมา จะทำลายมันก็ยังไงอยู่ จึงเดินออกไปจากห้องที่ฟุ้งด้วยสายตาที่มัวแต่จับจ้องมองกลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยนอย่างไม่ละสายตา


    -----------------------------------



    เมื่อผมทำธุระเสร็จ ล้างมือและกำลังจะเดินกลับห้องไปนั้น
    “เฮ้ย !!!” เสียงก้องเต็มแก้วหูผม จนผมต้องเล่นท่าลิงหลอกเจ้าอีกรอบกลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ 
    และผมก็ได้เห็นหน้ามันอีกครั้ง หน้าของลอร์ดฟอลคอนผู้รูปหล่อลากไส้จนน่าหมั่นไส้มายืนพิงกำแพงอย่างเงียบสงบจนน่าตกใจ ที่สำคัญมายืนพิงข้างๆห้องน้ำเนี่ยนะ !!
    ดูเหมือนว่าฟอลคอนกำลังถือซองจดหมายบางอย่างอยู่
    “เข้าไปทำอะไรในห้องน้ำตั้ง 10 นาที เป็นผู้หญิงรึไง” โดนชาวต่างชาติมาสั่งสอนนี่มันรู้สึกโกรธตงิดๆยังไงชอบกลนะ
    ช่างเป็นการพบกันครั้งแรกที่น่าประทับใจเสียเหลือเกิน....
    “แล้วมันเรื่องอะไรของแกล่ะ” ผมบ่นใส่มันอย่างน่ารำคาญที่ทำเหมือนเป็นคนดูแลผม   แต่ว่า มันพูดภาษาไทยได้คล่องเลยนี่หว่า ใช่พวกอัจฉริยะรึเปล่าเนี่ย
    ในตอนนั้นเอง ฟอลคอลเลิกทำท่าพิงผนังอย่างเท่ของมัน แล้วมายืนใกล้ชิดผมจนลมหายใจแทบจะพ่นใส่หน้ากัน...
    เรียกยังงั้นก็ไม่ได้ เพราะมันสูงกว่าผมเยอะเหมือนกันซัก 185 เซนติเมตรได้มั้ง
    “รับนี่ไป” จู่ๆมันก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วหย่อนซองจดหมายที่มันถืออยู่ใส่ในกระเป๋าเสื้อของผม   ในตอนนั้นหัวใจของผมมันเต้นแรงตึกตักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนผมเองยังตกใจกับอาการที่ปรากฏขึ้นมา
    เพราะอะไรกันนะ !!!
    “มะ...มัน...คือ...” ผมรู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนขึ้นเรื่อยๆ พูดคำออกมาตะกุกตะกักขัดกับที่ผมพูดอย่างเป็นประจำ แล้วชี้ที่ซองจดหมายนั้น
    เฮ้ย ! อย่าบอกนะว่า...
    “แล้วแต่แกจะคิด...”   ฟอลคอนพูดออกมาได้อย่างเรียบง่ายอย่างไม่คิดมากอะไร
    แต่ปัญหามันคือ ผมคิดนะสิ...
    เฮ้ !! นี่เป็นวิธีสารภาพรักของแกเรอะ !! เห็นเป็นผู้ชายหล่อแล้วคิดว่าจะกล่อมกูได้เรอะ !!! ฝันไปเถอะ   เชอะ... ว่าแต่เมื่อกี้เราใจเต้นแรงนิดหน่อยด้วยสิ... หรือว่า...
    “อ้ากกก !!!” ผมโวยวายหน้าห้องน้ำอย่างไม่เกรงใจใคร   โอ้ไม่นะ...รักแรกของผมเป็นผู้ชาย !!!
    “ตะโกนพ่อมึงเรอะ !!!” และแล้ว ผมก็ได้รับคำด่าทอจากทั่วสารทิศเพียงชั่วพริบตา   แต่สิ่งที่ทำให้บาดใจผมมากกว่านี้ คือ เจ้าบ้าฟอลคอน มันยังไม่กลับห้องไปอีกเรอะ !!
    “อย่าลืมอ่านก่อนเวลาที่จะอยู่ในโรงเรียนได้หมดไปนะ... ผมจะรอ” ว่าแล้วฟอลคอนมันก็เดินจากไป โดยไม่เหลียวแลเด็กหนุ่มผู้น่าสงสารเช่นผมที่กำลังถูกสายตาแรงอาฆาตแค้นจากหญิงสาวทั้งชั้น   แล้วยังงี้ผมจะไปมีหน้าจีบผู้หญิงคนอื่นยังไงเนี่ย
    เพราะแก !! ไอ้...ไอ้...ไอ้วิปริตมนุษย์ !!! มึงทำกูเผย...เอ้ย !! ไม่ใช่ ทำกูเสียนิสัยชายชาติทหารที่อุตส่าห์สะสมมานานหมดเลยเว้ย !!!   ไม่ต้องไปรอให้เมื่อยหรอก !!! กะจะฉีกทิ้งลงถังให้เป็นขยะไร้ค่าไปเลยล่ะ !!!
    “โอ๊ะโอ่... โฉมงามของแกก็รออยู่เหมือนกันนะ”   กะจะเอาผมถึงตายเลยใช่ไหมเนี่ย
    แล้วทำเป็นไม่มองเดินจากไปอย่างเท่ พร้อมทำนิ้วชี้ส่ายไปมาเหมือนกับจะบอกว่า ‘อย่าลืมล่ะ เพื่อนยาก’ อีก  
    ในเวลาต่อมา แรงอาฆาตแค้นหาได้เป็นของฝ่ายหญิงแต่อย่างเดียวไม่   ผู้ชายเองก็มีแรงอาฆาตแค้นไม่น้อยไปกว่าเลย   
    เฮ้อ... ขอไว้อาลัยให้ตัวเอง 1 นาที...


    -----------------------------------------


    ใจฉันเต้นตึกตักไปหมดเลย   ไม่นึกว่าเขาจะเอาไปให้จริงๆ
    ฉันนำมือขึ้นมาแนบอกเพื่อสัมผัสแรงเต้นของหัวใจที่ไม่ยอมสงบตั้งแต่เมื่อกี้นี้   รู้สึกว่าหน้าฉันจะแดงเรื่อด้วยนะ (เห็นลิซ่าบอก)
    ฉันรู้สึกกระวนกระวายจังเลย   ไม่รู้ว่าถ้าเขามาพบกับฉันแล้วเขาจะพูดอะไรกับฉันเป็นอย่างแรกแม้ว่าจะฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ
    ถ้าภาษาไทยของฉันดีมากกว่านี้ ฉันอาจจะขอร้องไปมอบให้เขาเองก็ได้ แต่เวลามันก็ผ่านไปแล้ว ฉะนั้น ตอนนี้ฉันจึงทำได้เพียงแต่รอ...
    รอ...และรอ...


    ------------------------------------


    ป่าทางตอนเหนือของแถบไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย
    กองกำลังทหารแถบหนาวได้กระจายกำลังเพื่อต้านทานจากการโจมตีและการรุกรานจากกองทัพเยอรมันที่บุกเข้ามาอย่างเฉียบพลัน จนรัสเซียแทบจะวางแผนกันไม่ทัน และทหารที่ออกมาป้องกันนั้นก็เป็นการรับมือที่ฉับพลันที่สุดจนแทบจะไม่ต้องคิดเลยว่าฝ่ายใดได้เปรียบกว่า
    กระสุนปืนจากรถถังถูกยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังไม่อาจหยุดการเคลื่อนของกองทัพเยอรมันได้เลยแม้แต่น้อย   เหล่าทหารราบของทั้งสองฝ่ายได้สู้กับกองทัพของศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่หวาดหวั่นกับความตายที่จะเกิดขึ้น
    เสียงกระสุนสาดกระหน่ำใส่กันไม่หยุดยั้ง ไม่มีเสียงอื่นใดที่จะดังไปกว่าเสียงเฮเรียกความฮึกเหิมกับเสียงปืนที่ถูกยิงออกมาจากทั้งสองฝ่ายและเสียงพังทลายของสิ่งของซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    “รายงานถึงศูนย์บัญชาการใหญ่ กองทัพเยอรมันเข้าโจมตีมามากมายเหลือเกิน ไม่อาจต้านทานไว้ได้อย่างแน่นอน” ระหว่างการรายงานของแม่ทัพ ได้มีการระเบิดของกระสุนปืนจากรถถังและระเบิดที่ขว้างปากันมา จนทำให้แม่ทัพที่รายงานต้องเคลื่อนที่หลบอยู่ตลอดเวลา
    จนในที่สุดทหารรัสเซียก็มิอาจต่อสู้ได้ จึงได้มีคำสั่งจากแม่ทัพให้ถอยทัพกลับไปยังฐานบัญชาการลับที่ได้สร้างไว้
    เมื่อคำสั่งนี้ถูกกระจายไปให้ทุกนายทราบอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดจึงได้วิ่งหนีกลับฐานที่ได้บอกไว้อย่างทันทีทันใด
    เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ในอาณาเขตของรัสเซีย ทำให้ทหารรัสเซียดูมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนตัวมากกว่า ผืนป่าไม้ที่เต็มไปด้วยกองหิมะจากการที่หิมะตกหนักเมื่อ 3 วันก่อน จึงกลายเป็นภาระให้กับกองทัพเยอรมันที่กำลังเจ็บใจเมื่อคิดว่าจะฝ่าเข้ามาได้แค่นี้หรือ
    แม่ทัพที่วิ่งคุ้มอยู่ทางข้างหลังได้ลองมองหันกลับไปจึงบังเกิดรอยยิ้มขึ้น เมื่อเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าของกองทัพเยอรมัน และการเคลื่อนไหวของรถถังฝ่ายเยอรมันที่หยุดลงจากการที่รถถังของรัสเซียยิงต่อเนื่องมาต้านทานไว้
    ทหารรัสเซียทั้งหมดรีบวิ่งด้วยกำลังขาเท่าที่มีมาเรื่อยๆโดยไม่สนใจข้างหลังเลย   จนถึงฐานทัพของตัวเองที่เพียบพร้อมด้วยอาวุธและเหล่ารถถังซึ่งกำลังยิงต้านทานอยู่
    เมื่อทั้งหมดมาถึงก็รีบเข้าประจำตำแหน่งตามที่ได้ตระเตรียมไว้อย่างทันที   อาวุธทุกกระบอกถูกบรรจุกระสุนด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่อาวุธทั้งหมดนั้นจะหันไปทางที่ทหารทั้งหมดเพิ่งวิ่งฝ่ามาและรอบทิศทางที่คิดว่าศัตรูจะฝ่าเข้ามาได้
    ...................
    เสียงต่างๆเริ่มเงียบลง เข้าสู่ภาวการณ์กดดันของสมาธิอย่างสมบูรณ์
    ..................
    ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น   ทั้งหมดเงียบสงัดราวกับไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นจนสามารถได้ยินหยดน้ำที่ไหลจากปลายก๊อกอย่างชัดเจน   สายตานับร้อยจ้องมองไม่ลดละ หัวใจของทหารรัสเซียแต่ละคนเต้นอย่างแรงจนคนข้างเคียงต่างได้ยินกันชัดเจน
    สถานการณ์นิ่งเงียบมาเป็นเวลาเกือบ 20 นาทีแล้ว   ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวทั้งที่มันควรจะมีเสียงการเดินจากกองทัพเยอรมันเพียงเล็กน้อยบ้าง
    มันช่างเงียบสงบมาก   ไม่สิ... มันเงียบเกินไปด้วยซ้ำ
    หรือว่าเยอรมันได้ถอยทัพกลับแล้วยังงั้นหรือ....
    ทหารรัสเซียต่างคลายตัวจากท่าที่ตั้งไว้แล้วมองหากันด้วยสีหน้าเดียวกัน มันเป็นสีหน้าของคนที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัย
    เมื่อทั้งหมดต่างไม่อาจหาคำตอบให้กันและกันได้ มีทางเดียวที่จะรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนั้นคือ การให้คนๆหนึ่งเป็นตัวแทนเข้าไปสำรวจ
    ซึ่งทางที่ทุกคนพร้อมใจกันสงสัย คือ ทางที่พวกเขาพึ่งฝ่ามา
    ทหารแต่ละนายต่างคะยั้นคะยอให้คนที่ไม่ใช่ตัวเองออกไปสำรวจ   แต่ละคนต่างส่ายหน้าแล้วค่อยๆถอยหลังเข้าใกล้ฐานทัพกันไป  
    แต่ก็ยังมีคนหนึ่งที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดจนลืมมองสถานการณ์ที่ได้เปลี่ยนไป
    ทหารคนนี้ได้ตั้งท่านอนยิงซึ่งมีข้างตัวเป็นปืนกลหนักที่เอาไว้ถล่มเฮลิคอปเตอร์ได้   และเมื่อเขาคนนี้รู้ตัวว่าได้นั่งเก้ออยู่ตัวคนเดียว จะกลับไปก็สายไปเสียแล้ว แต่ละคนชูนิ้วโป้งเหมือนจะพูดว่า ’ขอให้โชคดี ไปสำรวจให้หน่อยนะ’ 
    สุดท้ายเขาก็จำใจต้องสละปืนกลสุดที่รักมาเป็นปืนพกแทน ก่อนจะลุกขึ้นอย่างช้าแล้วเดินหน้าตรงไป
    ทั้งๆที่ถ้าวิ่งออกไปก็เป็นเพียงระยะทางที่สั้นแท้ๆ   แต่ทหารคนนี้กลับเลือกที่จะเดินอย่างช้าๆ   เดินไปอย่างมั่นใจจึงเป็นเหตุให้ระยะทางมันช่างอยู่ห่างไกลเหลือเกิน
    เสียงหายใจหอบออกมาเกิดเป็นควันลอยขึ้น   สายตามองผ่านแว่นกั้นลมเพื่อให้เกิดความมั่นใจ   แม้ว่ารองเท้าคอมแบทจะสร้างความรำคาญให้เขาพอสมควร แต่เขาก็ย่ำก้าวออกไปอย่างสม่ำเสมอ
    จนในที่สุดก็ถึงชายป่าที่เพิ่งวิ่งฝ่ามา....
    ตัวแทนหันมามองเพื่อนของพวกเขาด้วยท่าทีที่สั่นอย่างหวดกลัว   ทั้งหมดต่างพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกัน   ทหารคนนี้จึงหายใจสูดเข้าไปให้เต็มปอดเรียกความกล้าออกมา ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปในพงไพร่
    ทุกคนคงเคยคิดว่าความเงียบมันช่างสงบเหลือเกิน   แต่เมื่ออยู่ในสนามรบความเงียบคือสิ่งที่อันตรายที่สุด และสถานการณ์นี้ก็เช่นกัน
    ..........เวลาผ่านไป 10 นาทีอย่างรวดเร็ว.........
    เพียงแค่นี้ก็สร้างแรงกดดันมหาศาลได้พอสมควร   คราวนี้แม่ทัพถึงกับติดต่อกลับไปยังศูนย์บัญชาการใหญ่ผ่านทางวิทยุสื่อสารทันที
    “หน่วย โจเซฟ รับทราบ”
    “ฐานบัญชาการรับทราบ” เมื่อได้ยินเสียงตอบรับกลับมา   โจเซฟซึ่งเป็นแม่ทัพในตอนนี้ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกดปุ่มแล้วพูดออกไป
    “ส่งกองทัพภาคอากาศมาเป็นกำลังเสริมด้วย   เกรงว่าศัตรูอาจดักซุ่มซ่อนอยู่มากมายตามจุดต่างๆ”
    เพิ่งจะขอกำลังเสริมไปได้ไม่นาน  แต่ขวัญกำลังใจก็ยังไม่มาเต็มร้อย ยิ่งสิ่งที่กำลังปรากฏเบื้องหน้าถึงกับทำให้โจเซฟเบิกตาโตอย่างตกใจ
    ทหารตัวแทนเมื่อกี้นี้กำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย   เสียงขอความช่วยเหลือของเขาดังตลอดเวลา ระหว่างนั้นเขาได้ทั้งปาระเบิด   ยิงปืนพกพร้อมกับวิ่งหนีมาอย่างขลาดกลัว
    ทำให้ทั้งหมดลงมือยิงกระหน่ำไปทางนั้นทันที
    แต่ทหารตัวแทนนั้นเพิ่งออกมาจากป่าได้ไม่กี่เมตรเท่านั้น
    ฟึ่บ !!!
    มีบางสิ่งที่เหมือนเส้นเลือดที่รวกันอย่างมหาศาลพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงได้รัดร่างทหารตัวแทนคนนั้น   ทหารผู้โชคร้ายร้องโวยวายและโอดครวญ   ก่อนที่ตัวเขาจะถูกยกเหนือพื้นท่ามกลางความตกใจของเพื่อนพ้องที่มองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกตะลึง
    “ชะ...ช่วย...ดะ...” นั้นคงเป็นคำสุดท้ายที่เพื่อนของเขาจะได้ยินเสียงของเขา   ก่อนที่ทหารผู้โชคร้ายจะโดนดึงเข้าไปในพงไพร่อีกครั้ง
    คราวนี้ทหารรัสเซียถึงกับความตายขึ้นมาอย่างทันที ส่งเสียงโหยหวนพร้อมกับยิงสาดกระหน่ำไปทางศัตรูที่พึ่งจับตัวเพื่อนไปไม่เว้นแม้กระทั่งรถถัง
    แม่ทัพที่ชื่อโจเซฟถึงกับเสียความเยือกเย็นตะโกนเหวกเหวกใส่เครื่องมือสื่อสารอย่างบ้าคลั่ง
    “ส่งทัพเสริมมาด่วน !! ได้ยินไหม...ได้ยินไหม !!!” คำหยาบกรานถูกพ่นออกมาจากปากของโจเซฟไม่ขาดสาย ทั้งหน้าอกของเขาคงอัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัวอย่างท่วมท้นเมื่อได้เห็นภาพของเพื่อนทหารที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาต่างถูกสิ่งที่เหมือนเส้นเลือดนั้นสังหารอย่างไร้ความปรานีเหมือนเป็นสิ่งของ
    สิ่งนั้นไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียว แต่พวกมันมากันนับสิบกลุ่ม
    หลายคนพยายามหลีกหนีเอาตัวรอดก็ไม่อาจพ้นเงื้อมมือได้   หลายคนพยายามจะวิ่งเข้ามาฐานทัพก็ถูกจับไปเป็นดั่งทหารผู้โชคร้าย   รถถังต่างๆก็ถูกทำลายไปเหมือนกับเศษเหล็กธรรมดา
    ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว   จนยากที่สายตาของคนปกติจะเชื่อในสิ่งที่เห็นทั้งหมดได้
    โจเซฟถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงไป จนไม่ได้ยินเสียงของฐานบัญชาการที่พูดออกมาจากเครื่องมือสื่อสารที่กำลังถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    “ฮะ...ฮะ...   หายนะชัดๆ ใครจะไปสู้ไหววะ...ใครจะไปสู้ไหว” น้ำเสียงที่เคยเข็มแข็งกลับดูอ่อนแรงลงอย่างชัดเจน  สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด   กองทัพของโจเซฟหมดทางโต้ตอบกลับมาอย่างสิ้นเชิง
    โจเซฟที่เป็นถึงทหารกล้าแห่งสนามรบถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับความตายข้างหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตน
    จรวดปรากฏขึ้นเหนือป่าไซบีเรียอย่างมหาศาล ก่อนที่มันจะมีเป้าหมายพุ่งถล่มใส่ฐานทัพลับของรัสเซียจนสิ้นซาก
    ไม่มีเสียงใดเกิดขึ้นอีกเลยนอกจากเสียงระเบิดของจรวด และเงียบสงัดไปอย่างรวดเร็ว
    เหลือเพียงเศษซากของเหล่าทหารรัสเซียและรถถังที่พ่ายแพ้อย่างราบคาบต่อหน้ากองทัพเยอรมัน


    ---------------------------------------


    เย้!!  เสร็จไปอีกหนึ่งบทแล้ว   ถ้าอ่านแล้วรู้สึกยังไง  มีความคิดเห็นยังไง  หรือเห็นข้อบกพร่องสามารถให้คำแนะนำได้นะครับ  


    ขอบคุณทุกคนที่กรุณาเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×