คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : มาติเคิล ปฐมบทแห่งการเดินทาง
สามวันแรกกับชีวิตการเป็นโจรสลัดของมือใหม่ไม่ดีมากนัก แต่ถือว่ากรีส เจอร์ไน ปรับตัวได้ดีมากทีเดียว
เริ่มจากบังคับเรือเป็นในเวลาเพียงสามสิบนาที ทั้งๆที่ในชีวิตไม่เคยจับพังงามาก่อน แต่ถ้าแรงเยอะกว่านี้จะดีมาก
ทาร์คาร์รัสก็เป็นต้นหนที่ดีมาก ถ้าไม่กลัวความสูง
กัปตันแบล็ค แจ็คก็นับเป็นกัปตันชั้นยอด ถ้าไม่ติดที่เอาแต่เมาเรือ
สรุป ...นี่เป็นโจรสลัดที่กิ๊กก๊อกที่สุดในกาแล็กซี
แล้วทั้งสามคนก็ไม่สามารถสลับตำแหน่งกันได้ด้วย
แบล็ค แจ็คต้องอยู่ที่กราบเรือเพื่ออวกตลอด
เจมซ์ ทาร์คาร์รัสบังคับเรือไม่เป็น ส่วน...
กรีส เจอร์ไนไต่เชือกไม่เป็น
ที่ทั้งสามรอดมาได้สามวันก็นับว่าเซียนมากแล้ว
"เราต้องไปที่มาติเคิล" แจ็คกล่าวกับเจอร์ไน หลังจากเริ่มระงับอาการเมาเรือได้แล้ว
"ไม่!!!" เจอร์ไนกล่าวเสียงแข็ง "เราจะตามเมอร์คิวรี่ไปเดี๋ยวนี้"
"เมอร์คิวรี่บรรทุกหนักขนาดนั้น มันแล่นไม่เร็วเหมือนแต่ก่อนหรอก"
"เจ้าแน่ใจได้ยังไงแจ็ค" เจอร์ไนถาม
"ข้ารู้ของข้าก็พอแล้ว แต่ว่าตอนนี้เราต้องไปที่มาติเคิล"
"อะไรคือมาติเคิล" ผู้บังคับเรือถาม
"มาติเคิลคือเมืองท่า แต่มันเป็นเมืองท่าที่มีค่ามากสำหรับข้า ลูกเรือชั้นเยี่ยมอยู่ที่นั่น" กัปตันเรือยิ้ม
"มันออกนอกทางมากมั้ย" ผู้บังคับเรือเริ่มไม่แน่ใจ
"ไม่... อีกอย่าง ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากจับพังงาไปตลอดชีวิตหรอก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อให้เมอร์คิวรี่เป็นเรือแจว...เราก็ไล่ไม่ทัน"
เจอร์ไนทำตาโตใส่ "เจ้าหมายความว่าไง"
แจ็คมองเข็มทิศ "เลี้ยวไปที่สิบนาฬิกา"
"นี่บ่ายสองแล้วนะ" เจอร์ไนตอบเคืองๆ
ก็อย่างนี้ไงล่ะถึงต้องไปที่มาติเคิล
"เลี้ยวซ้ายนิดนึง ...อีกนิด ...ไม่ๆๆขวาหน่อย ...ขวาเว้ยฟังยังไงเป็นซ้าย ...เอ้าขวาเกินไปแล้วซ้ายมั่ง ...เจ้าออกมาดีกว่าเดี๋ยวข้าบังคับเอง"
และแล้วแจ็คก็ต้องบังคับเรือเองไปโดยปริยาย
----------
เดลัสแห่งราชนาวีท่องไปบนมหาสมุทรอย่างดีเยี่ยม เรือสีน้ำตาลเข้ม ตัดกับใบเรือสีขาว ที่ท้ายเรือมีธงสามเหลี่ยมรูปงูสองตัวที่หางพันกัน ตัวหนึ่งคายดาบออกจากปากลงพื้น อีกตัวหนึ่งคายไม้กางเขนขึ้นฟ้า ดูผ่านๆเหมือนตัว N แหวกผ่านท้องสมุทร ราวคมมีดตัดผ่านวารี
หลังจากรอนแรมกลางท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เป็นระยะเวลากว่า 8 วัน เรือรบแห่งราชนาวี ซึ่งตอนนี้ต้องเรียกว่าเรือโจรสลัด ก็ได้พานพบกับเมืองท่าที่พวกเขาเฝ้ารอ
มาติเคิลอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
กัปตันเรือเดลัสต่อยหมัดใส่มือซ้ายของตนเอง ริมฝีปากฉีกยิ้มออกด้วยความพอใจทันทีที่ทาร์คาร์รัสตะโกนบอก เจอร์ไนที่ตอนนี้มีหน้าที่ลับอาวุธกับทำอาหาร ถึงกับวางมือจากงานที่แสนน่าเบื่อหน่ายทันที
"ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย ตอนนี้ข้าขอแนะนำให้รู้จัก..." กัปตันเรือผ่ายมือไปที่ฝั่ง "...มาติเคิล ราชินีแห่งท้องสมุทร"
"พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง" ทาร์คาร์รัสบ่น
"ลงมาทาร์คาร์รัส" แจ็คสั่ง
โจรสลัดมือใหม่ทำตามแต่โดยดี
"เจอร์ไนไปเอาสมอลง ทาร์คาร์รัสเอาเรือบดลง"
"เรืออะไรนะ" ต้นหนถาม
"ที่มันแขวนอยู่ข้างเรือน่ะ" แจ็คกล่าวเซ็งๆ
และแล้ว... ภารกิจแรกของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น
ภารกิจที่ยากที่สุด...
นั่นคือหาลูกเรือ
----------
"ไม่ผ่าน" แจ็คเริ่มตวาด
เจอร์ไนเบิกตากว้างมองกัปตันกิ๊กก๊อก "มีคนสมัครใจก็บุญโขแล้ว เจ้าอย่าเลือกมากเลยน่า"
"ไม่เคยออกทะเล ไม่เคยขึ้นเรือ ดูดาวไม่เป็น จับทิศทางลมไม่ได้ เป็นโรคประจำตัว ไต่เชือกไม่เป็น เพลงดาบไม่เอาถ่าน ที่ขอไปเพราะอยากไปตายในทะเล เจ้ายังจะให้เอาขึ้นเรือหรือไง" กัปตันพลามยาว
"เจ้าทาร์คาร์รัสก็ยังไม่กลับมาซะที ...แต่จะว่าไป ถ้ากัปตันผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจ้า ออกไปช่วยหาลูกเรือด้วย มันคงไม่น่าเบื่อขนาดนี้"
"เจ้านี่กระแนะกระแหนเก่งจังนะ แต่ถ้าเจ้ามีเวลามากระแนะกระแหนข้า ข้าว่าเจ้าเอาเวลาที่เจ้ากระแนะกระแหน ไปทำอย่างอื่นที่มันดีกว่ากระแนะกระแหน ไม่ดีกว่าเหรอ... อย่างเช่นหาลูกเรือ แทนที่เจ้าจะมากระแนะกระแหน เพราะการ..."
"มีคนตีกัน"
พรึบ
ประโยคแค่ "มีคนตีกัน" ได้พาร่างที่พูดจาเพ้อเจ้อ พรุ่งตรงไปตาเจ้าของเสียง ฉุดให้ชายหนุ่มผู้กำลังมึนกับคำว่า "กระแนะกระแหน" ตามไปเกือบไม่ทัน
เมือไปถึงที่มาของเหตุ สลัดทั้งสองก็พบกับ ชายร่างยักษ์คนหนึ่ง กับชายฉกรรจ์ที่ดูไม่ต่างอะไรกับเด็กอีกคน
ร่างใหญ่สีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามมีรอยห้อเลือดเป็นแถบๆ เหมือนถูกฟาดด้วยของแข็ง หน้าทรงสี่เหลี่ยมที่ดูสงบ เป็นอะไรที่ขัดแย้งกับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ดูโหดอย่างน่าพิศวง ผมสีน้ำตาลที่ตัดสั้นมีคราบเลือดติดเป็นหย่อมๆ ทำให้ผู้พบเห็นหันมาสนใจชายอีกฝ่ายทันที
"นั่น... ทาร์คาร์รัส...เหรอ" แจ็คกล่าวเหมือนอุทาน
ใช่แล้ว ...ชายอีกคนคือทาร์คาร์รัส มือขวาของเขากำท่อนไม้ขนาดพอดีมือไว้แน่น ที่ต้นไม้แถวนั้นมีดาบของเขาวางอยู่
"เจ้าจะแพ้มันเหรอฮัคส์" ผู้คนตะโกน
"เจ้าแน่มาก" ฮัคส์พูดกับทาร์คาร์รัส
"ข้าเริ่มเจ็บมือแล้วนะ เจ้าก็รีบๆยอมได้แล้ว" ทาร์คาร์รัสกล่าวเสียงนิ่ง ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้ม
ฮัคส์ยกมือทั้งสองขึ้นตั้งการ์ด
"ข้าพนันเจ้ายักษ์นั่นแพ้สองพันบิลลิ่ง" ชายคนหนึ่งกล่าว เรียกสายตาจากคนโดยรอบได้เป็นอย่างมาก
"ไม่มีใครโง่เล่นกับเจ้าหรอกไมเนอร์"
"ใช่ ไม่มีใครเล่นกับเจ้าหรอก"
แจ็คเอี้ยวคอมองไมเนอร์ ภาพของชายผิวสีแทนปรากฏอยู่ในนัยน์ตาเขาทันที ผมสีแดงในทรงหางม้าเหมือนทาร์คาร์รัสปลิวตามแรงลม ขณะที่นัยน์ตาสีแดงจับจ้องไปที่ฮัคส์เป็นนิจ รอยยิ้มที่แสยะนิดๆดูน่ากลัว
"เจ้าเล่นพนันเก่งขนาดไหน ไมเนอร์" แจ็คกล่าว
สายตาของไมเนอร์ย้ายมาหยุดอยู่ที่กัปตันเรือเดลัสแทน "กว่าเจ้าละกัน"
ผู้ถูกสบประมาทยิ้มอย่างพอใจ "งั้นมาพนันกัน"
คราวนี้ทุกสายตาหันมาหยุดที่แจ็กแทน แม้แต่ทาร์คาร์รัสกับฮัคส์ก็ไม่ยกเว้น ความมืดเข้ามากลืนกินมาติเคิลในบัดดล แล้วยังคงยืดยาวอย่างนั้นไปอีกหลายนาที เซียนพนันเองก็มีอาการช็อกเหมือนกัน ปากที่อ้าน้อยๆนั้นเป็นหลักฐานที่ชัดเจน
"ไงกล้ามั้ย" โจรสลัดทำลายความเงียบ
"แล้วเจ้าจะใช้อะไรพนัน"
"ไพ่"
""อ๋อ... โป๊กเกอร์สินะ"
"อีแก่ ต่างหาก"
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เสียงหัวเราะดังสนั่นลั่นมาติเคิล
ลูกเรือทั้งสองอดที่จะอายแทนไม่ได้
ก็โจรสลัดท้าพนันไพ่อีแก่นี่นา
"แล้ว... หึ ฮะๆ โทษที เจ้าจะใช้อะไรเดิมพัน ก๊ากกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกก" ไมเนอร์กลั้นหัวเราะจนกล่าวจบ แล้วจึงหัวเราะต่อ
"เรือของข้า"
...
...
...
...
เงียบ...
เงียบ...
เงียบจริงๆ
ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่นั้นโดยทันที เงียบจนน่ากลัว เงียบเสียยิ่งกว่าเงียบ เงียบจริงๆ เงียบชนิดที่เสียงลมพัดเบาๆยังได้ยิน ความเงียบที่สยบเสียงหัวเราะได้สมบูรณ์แบบที่สุด หรือนี่อาจเป็นที่มาของคำว่า เงียบสงบสยบความเคลื่อนไหว
"แต่ถ้าข้าชนะ ข้าขอให้เจ้าเป็นลูกเรือของข้า" แจ็คทำลายความเงียบอีกครั้ง
"ได้ ว่าแต่เจ้าเป็นใคร" ไมเนอร์ถาม
"กัปตันแบล็ค แจ็ค เป็นโจรสลัด"
----------
"ข้าขอเริ่มก่อน" โจรสลัดกิ๊กก๊อกกล่าวกับเซียนพนัน
ผู้ฟังเพียงแค่ยื่นไพ่ในมือให้ แต่ทว่านัยน์ตาสีแดงเพลิงจ้องเข้าไปในดวงตาของแจ็ค ราวกับจะทะลุทะลวงเข้าไปให้ถึงแก่นสมองอันกลวงโบ๋ของโจรสลัดตรงหน้า แม้ว่าเจ้าโจรสลัดตรงหน้าจะไม่ได้สนใจเขาเลยก็ตาม
"ฮึบ" แจ็คฉกไพ่จากมือไมเนอร์ไปหนึ่งใบแล้วทำหน้าเหยเก
"ห้าข้าวหลามตัด" เซียนไพ่กล่าวอย่างสงบ
"เออ ข้ารู้น่า"
"เป็นเรื่องเลยเจอร์ไนเอ๋ย" ทาร์คาร์รัสกล่าวเสียงเครียด
"ใช่ ว่าแต่เจ้าเถอะไปต่อยกับไอ้ยักษ์นั่นได้ไง" เจอร์ไนถามกลับ
ทาร์คาร์รัสยิ้ม "ฮัคส์น่ะเหรอ ก็ลูกเรือไง"
สหายจำเป็นทำตาโตใส่อย่างไม่เชื่อหู "แหล"
"เจ้าอยากตายขนาดนั้นเชียวเหรอ" ทาร์คาร์รัสกล่าวพร้อมขยับดาบที่เอว
"โว่ๆๆ" เสียงร้องดังมาจากว่าไพ่ ทำให้ทาร์คาร์รัสละมือจากดาบ แล้วหันมาปาดเหงื่อแทน
"จะเอายังไงต่อดีล่ะ กัปตัน" เซียนไพ่ยิ้มเยอะ ในมือเพิ่งปราศจากห้าข้าวหลามตัด
"พูดมาก รีบๆหยิบไปเร็ว" แจ็คร้องเซ็งๆ หลังจากสลับไพ่สองใบในมือแล้ววางลงกับโต๊ะ ความเครียดเข้าปกคลุมทุกคนในที่นั้น
ไมเนอร์เปิดไพ่เอโพธิ์ดำให้อีกฝ่ายดู เปลือกตาคูนั้นเลื่อนลงมาปิดนัยน์ตาสีแดงเพลิง และนิ่งอย่างนั้นไปอีกหลายนาที ต่างกับแจ็คที่งึมงำบทสวดแปลกๆ ดวงตาสีดำหม่นเพ่งไปที่มือขวาของที่เลื่อนตรงมาที่ไพ่ของเขา ในใจภาวนาขอให้ได้พานพบกับเอดอกจิกอีกครั้ง
ไมเนอร์ฉกไพ่ที่วางอยู่ด้านซ้ายของเขา แล้วเอาเอโพธิ์ดำวางทับ ขณะที่แจ็คเลื่อนไพ่ใบสำคัญมาวางไว้บนมือเขา อาการลุ้นสุดชีวิตของทั้งคู่ถือกำเนิดขึ้นมาทันที่ แต่ทั้งสองคนคงไม่มีโอกาสรู้เลยว่าคนที่ลุ้นยิ่งกว่าพวกเขาคือผู้ชมโดยรอบ แน่นอนว่าที่โกงตัวที่สุดคือทาร์คาร์รัสกับเจอร์ไน โจรสลัดมือใหม่ทั้งสองคงไม่รู้ว่า พวกเขาได้ทำลายสถิติการกลั้นหายนานที่สุดในโลกลงแล้ว
ไมเนอร์ได้พบสัจธรรมอีกข้อคือ ไพ่อีแก่นี่ลุ้นจริงๆ
"เอดอกจิก!!!" เซียนไพ่ร้องเบาๆ
โจรสลัดทั้งสามตาโต แจ็คเลิกลุ้นแล้วฟาดไพ่ลงกับโต๊ะ และ...
เอดอกจิก
"อะปะจิเฮ่" แจ็คร้องลั่นและกระโดดลอยตัว ลูกเรือทั้งสองมีอาการเข่าอ่อนขึ้นมาทันที กะบังลมภายในร่างกายเริ่มทำงานปั้มออกซิเจนเข้าปอดอีกครั้ง เช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นถี่ขึ้นเพราะหยุดไปชั่วคราว
"โห่เว้ย" เจ้าของนัยน์ตาสีเพลิงสบถ
"โอ๋ๆ อย่าเครียดๆ" แจ็คบิดมือไปมาเหมือนเล่นกับทารกที่กำลังร้องไห้
เซียนไพ่ตบมือนั้นทิ้งไปแล้ววางไพ่ไว้บนโต๊ะบ้าง
ความเงียบปกคลุมอีกครั้ง แจ็คเอาไพ่เอดอกจิกของเขาสอดไปใต้ไพ่ใบทางซ้ายของไมเนอร์ ซึ่งบัดนี้มันเป็นของเขาแล้ว แจ็คหมุนไพ่เอาเอดอกจิกขึ้นแล้วเลื่อนออก
เอโพธิ์ดำ!!!!! ไม่ได้อยู่กับไมเนอร์อีกแล้ว
เสียงเฮดังสนั่นโต๊ะพนัน ทาร์คาร์รัสกับเจอร์ไนกระโดดกอดกันโดยลืมเรื่องบาดหมางไปชั่วคราว ไมเนอร์ช็อกนิดๆ ขณะที่แจ็คเอาแต่เต้นแร้งเต้นกา แล้วก็ลงไปดิ้นอยู่กับพื้นด้วยความดีใจ ชาวบ้านโดยรอบบางคนก็กระโดดลอยตัว แต่ก็แค่บางคนเท่านั้น ขณะที่ส่วนใหญ่ช็อกกับผลการพนัน เซียนไพ่ไมเนอร์แพ้!!! แถมยังแพ้ให้กับโจรสลัดกิ๊กก๊อกอย่างกัปตันแบล็ค แจ็ค
"หวังว่าคงรักษาสัญญานะ ไมเนอร์" แจ็คกล่าวเสียงเข้ม แววขี้เล่นสลายหายไปในบัดดล
"เอางั้นก็ได้ กัปตัน" ไมเนอร์กล่าวเสียงสลด
"เฮ่ ทาร์คาร์รัส" เสียงหนักๆเสียงหนึ่งเรียกช่างตีเหล็ก
"อ้าแจ็ค ขอแนะนำให้รู้จักฮัคส์ ...คือ ข้ามีปัญญาหาลูกเรือได้แค่นี่แหละ"
กัปตันเรือเดลัสเอี้ยวคอมองชายร่างยักษ์นามฮัคส์ ริมฝีปากเผยอออกพร้อมกับเปล่งเสียงออกมา "เคยเดินเรือมั้ยฮัคส์"
ชายร่างยักษ์ส่ายหน้า
"อยากเดินเรือมั้ย"
ส่ายหน้า
"แล้วเจ้าจะมาเป็นลูกเรือทำไม" แจ็คเริ่มอารมณ์เสีย
"หึๆ" ฮัคส์หัวเราะในลำคอ "รู้จักราอู เดออองซาร์มัวร์มั้ยครับ ...กัปตัน"
แจ็คเงียบทันที รอยยิ้มเผยอขึ้นที่มุมปาก "ขอต้อนรับสู่เดลัส เจ้าโจรสลัด"
ฮัคส์ยิ้มให้
"เจอร์ไนไปหาห้องพัก ทาร์..." แจ็คออกคำสั่ง แต่ยังไม่ทันสั่งจบก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา
"ถ้าจะหาที่พักกับอาหารข้ามีให้ทั้งคู่"
โจรสลัดมือใหม่ทั้งห้าหันไปหาต้นเสียง
ก็ประสบพบกับสตรีนางหนึ่ง
ผิวนวลเนียน ขนตางอน ตาสีฟ้าสวย ผมสีบลอนด์ปล่อยสยาย ริมฝีปากบางมีเสน่ห์ ดวงหน้ารูปไข่ หน้าตาน่ารัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่สลัดหน้าใหม่ทั้งห้าจะมองตาค้าง
"เจ้าคือ..." กัปตันเอ่ย
"ท่านเรียกข้าว่า ...มิเกล"
ความคิดเห็น