คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9
เถี่ยอิงเมื่อเห็นการการแต่งกายของหญิงสาวตรงหน้าจึงเบือนใบหน้าหนี
"แม่นาง" เถี่ยอิงเอ่ยขึ้นเพื่อหวังจะเตือนนาง
"ข้าชื่อเฉียวซิน เป็นคนสนิทของท่านหญิงหลี่เซียชิง" เฉียวซิน เอ่ยพลางเดินเข้าไปใกล้โต๊ะ
"ขออภัยที่ข้าเข้ามาในห้องของแม่นางเฉียวซินโดยพละการ"
"ข้าทราบดี ท่านหญิงให้ข้าฝากของสิ่งนี้ไปให้ท่านอ๋อง" เฉียวซิน กล่าวพลางหยิบดอกกุหลาบสีเลือดที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอมม่วงของหลี่เซียชิงพร้อมด้วยจดหมายยื่นให้เถี่ยอิง
"ข้าบอกชื่อของข้าให้ท่านได้ทราบแล้ว ท่านช่วยแจ้งชื่อของท่านให้ข้าทราบได้หรือไม่"
"ข้าเถี่ยอิง"
"ท่านคงจะเป็นองครักษ์คนสนิทของท่านอ๋องมู่จั่นเหยียนกระมัง"
"ข้าไม่นึกเลยว่าแม่นางเฉียวซินจะรู้จักข้าด้วยหรือ"
"ก็ข้าเป็นคนสนิทที่ติดตามท่านหญิงมานานนี่ค่ะ" เฉียวซิน กล่าวเพียงเท่านั้นแล้วจึงเดินกลับยังหลังฉากบังตาเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายอีกครั้ง
ณ ตำหนักอ๋องมู่จั่นเหยียน
"นางว่าอย่างนั้นหรือ" อ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ยกันเถี่ยอิง
"ขอรับท่านอ๋อง เมื่อข้าน้อยเข้าไปดูสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะนางก็เดินเข้ามาหาข้าโดยไม่มีทีท่าตกใจที่เห็นข้าน้อยอยู่ในห้องของนางเลยแม้แต่น้อย แถมข้าน้อยยังไม่รู้สึกถึงฝีเท้าตอนที่นางเดินเข้ามาหาเลย" เถี่ยอิง กล่าวรายงานท่านอ๋อง
"นางคงจะมีวรยุทธ์อยู่ไม่น้อย หากคนสนิทมีวรยุทธ์ถึงเพียงนี้แล้วเจ้านายของนางจะมีวรยุทธ์ขนาดไหนกันนะเถี่ยอิง" อ๋องมู่จั่นเหยียน อดที่จะหวนคิดถึงท่านหญิงที่แลดูงดงามหากยังแฝงไม่ด้วยความลึกลับหน้าสงสัยอยู่ไม่น้อย "เจ้าไปพักเถอะ"
"ขอรับ" เถี่ยอิง ก้าวออกจากห้องหนังสือปล่อยให้ท่านอ๋องได้อยู่ตามลำพัง
เมื่อองครักษ์เถี่ยอิงออกจากห้องไปแล้วท่านอ๋องได้นำสิ่งที่อยู่ในห่อผ้าเช็ดหน้าปักลายงดงามขึ้นมาเปิดดูจึงพบว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคือดอกกุหลาบที่กลีบทำขึ้นมาจากอัญมณีสีแดงเข้มก้านดอกทำจากโลหะสีเงินที่งดงาม แล้วจึงหยิบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือที่งดงามขึ้นมาเปิดอ่าน 'เรียนท่านอ๋อง หม่อมฉันหลี่เซียชิงเนื่องด้วยเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่คนขอหม่อมฉันได้นำของสิ่งหนึ่งมามอบให้แล้วหม่อมฉันเรียบขอตัวกลับจวนโดยทันทีอาจจะทำให้ท่านอ๋องรู้สึกเคลือบแคลงอยู่ไม่น้อย คนของหม่อมฉันจึงเสนอว่าหากท่านอ๋องได้ส่งคนมาดูสิ่งที่นางได้มามอบให้หม่อมฉันก็ขอให้หม่อมฉันเขียนจดหมายแจ้งให้ทรงทราบ ซึ่งของที่หม่อมฉันได้รับนั้นเป็นสิ่งที่พี่ชายร่วมสาบานของหม่อมฉันได้ส่งมาให้เป็นของขวัญย้อนหลังเนื่องในโอกาสที่หม่อมฉันมีอายุครบยี่สิบปีของหม่อมฉัน และที่หม่อมฉันต้องเรียบกลับจวนเพราะอยากทราบอาการของหลานสาวที่ป่วยอยู่ หลี่เซียชิง'
เมื่อท่านอ๋องได้อ่านจดหมายจบได้หยิบดอกกุหลาบสีเลือดขึ้นมาดูพลันได้กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาจากผ้าเช็ดหน้าจึงได้หยิบขึ้นมาสูดดม
"เรื่องแค่นี้เองหรือท่านหญิงหลี่เซีย แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้คาดการณ์ได้ถูกต้องว่าข้าจะส่งคนไปคอยดูเจ้าได้อย่างแม้ย่ำขนาดนี้เล่า"
ตอนเช้าตรู่เฉียวซินเข้ามาจัดเตรียมน้ำสำหรับอาบให้หลี่เซียชิง
"เฉียวซิน เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้างเรียบร้อยไหม" หลี่เซียชิง เอ่ยขณะสางผมเพื่อเตรียมอาบน้ำ
"เมื่อคืนท่านอ๋องได้ส่งองครักษ์เถี่ยอิงมาเจ้าค่ะ"
"งั้นหรือ แล้วเจ้าคิดว่าวรยุทธ์ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง"
"ถ้าข้าไม่รู้มาก่อนว่าท่านอ๋องจะส่งคนมาข้าก็ไม่ทราบว่าเขาแอบอยู่ในห้องของข้าเป็นได้" เฉียวซิน เอ่ยขณะช่วยหลี่เซียชิงปลดเสื้อผ้าออกเพื่อลงอาบน้ำ
"แล้วท่าทีของเขาตอนที่รู้ว่าเจ้าทราบถึงตัวตนของเขาเล่า"
"ก็ดูเหมือนจะตกใจอยู่ไม่น้อยค่ะ"
"ไม่ใช้เขาตกตะลึงรูปร่างของเจ้าหรอกหรือ"
"ข้าเรียบจนมิทันได้ได้จัดการกันตัวเองนี่ค่ะ" เฉียวซิน เอ่ยไปหน้าก็แดงระเรื่อขึ้น
"เขาคงมิได้ใช้สายตา...ไม่ดีต่อเจ้านะ"
"มิได้ค่ะ เขาเบือนหน้าหนีซะด้วยซ้ำไปเจ้าค่ะ"
วันนี้หลี่เซียชิงแต่งตัวด้วยชุดสีขาวดำโดยที่ชุดด้านในเป็นสีขาวขอบสีดำแล้วสวมเสื้อคลุมสีดำรัดด้วยสายรัดเพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง ทั้งคู่ออกเดินทางจากจวนแต่เช้าเพื่อที่จะได้ถึงเขาเทียนซานให้ถึงก่อนเที่ยงวัน
เมื่อมาถึงทั้งสองควบม้าเข้าไปที่ป้อมในส่วนที่เป็นคอกม้าโดยทันที เวรยามซึ่งทำหน้าที่เฝ้าคอกม้ากุลีกุจอเข้ามา
"ข้าน้อยคารวะจอมนาง ท่านประมุขกำลังรออยู่ขอรับ"
"ขอบใจมาก" หลี่เซียชิง เอ่ยขณะลงจากม้า
หลี่เซียชิง เดินทางออกมาจากกคอกม้าแล้วจึงเรียบเดินไปยังที่พำนักของหลานสาวตัวน้อยวัยสี่ขวบ เมื่อก้าวเข้าไปในห้องปรากฏเสียงร้องของเด็กน้อย
"อี๋เอ๋อร์หลานน้าเป็นอะไรไปจ๊ะ" หลี่เซียชิง เอ่ยถามหลานสาวตัวน้อยที่ร้องไห้สะอื้นอยู่บนเตียงโดยมีมารดาคอยปลอบ
"ท่านน้า ก็...ก็ท่านพ่อไม่ยอมให้ข้าไปหาท่านที่วังจันทรา" เฟิงซูอี๋เอ่ยฟ้องท่านน้า
"น้าไม่ได้อยู่ที่วังจันทรา น้าไปเมืองหลวงมา แล้วอี๋เอ๋อร์ก็ป่วยอยู่ท่านพ่อไม่ยอมให้อี๋เอ๋อร์เดินทางไกลหรอกนะ"
"ก็ข้าอยากไปหาท่านน้านี่"
"อี๋เอ๋อร์ของแม่ต้องทานยาก่อนซิจ๊ะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยกับบุตรสาว
"อี๋เอ๋อร์ทานยาก่อนนะแล้วน้าจะพาไปวังจันทรา"
"จริงๆนะค่ะท่านน้า ท่านแม่" เฟิงซูอี๋ขอการยืนยันจากน้าสาวและมารดา
"จริงจ๊ะ แม่จะพาไปหาท่านตากับท่านยายที่วังจันทรานะ"
"แล้วท่านพ่อ" เฟิงซูอี๋หันไปหาบิดา
"พ่อขัดได้หรือ แต่ซูอี๋ทานยาก่อนนะพอหายพ่อจะพาไปวังจันทรา" เฟิงอู๋จีเอ่ยบอกบุตรสาวตัวน้อย
"แต่ยามันขม"
"แม่ให้ผสมน้ำผึ้งลงไปแล้ว" เยี่ยจี เอ่ยกับบุตรสาวให้ทานยาพักผ่อน
"นับวันซูอี๋ยิ่งจะดื้อขึ้นทุกวัน" เยี่ยจี เอ่ยกันหลี่เซียชิงเมื่อพากันออกมาจากห้องของบุตรสาวแล้ว
"นางเป็นไข้อยู่ย่อมงอแงเป็นธรรมดา" หลี่เซียชิง เอ่ยพลางรินน้ำชาให้เยี่ยจีและเฟิงอู๋จี
"ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงเดินทางมาช้านัก" เฟิงอู๋จีเอ่ยถาม
"ข้าก็ว่าข้ามาเร็วแล้วนะ"
"ถ้าเร็วเจ้าก็สมควรมาถึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"ข้าสะสางงานที่จวนอยู่ แล้วนี้ถามซูอี๋หายเมื่อไหร่คงต้องพานางไปวังจันทรา" หลี่เซียชิง เอ่ยตอบเฟิงอู๋จี
"ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น" เฟิงอู๋จีเอ่ย
"ข้าส่งข่าวไปบอกให้วังจันทราทราบแล้ว แล้วยังให้อู๋จีส่งข่าวไปบอกให้หงเหลียนพาลู่ซินไปที่วังจันทราด้วย" เยี่ยจีเอ่ย
"พี่สะใภ้ชั่งรอบคอบยิ่งนัก"
"แล้วครั้งนี้เจ้าจะอยู่ที่เทียนซานนานเท่าใด" เฟิงอู๋จีเอ่ย
"คงจะไม่นานค่ะ พอซูอี๋หายดีข้าต้องเรียบกลับเมืองหลวง"
"เข้าว่าพรุ่งนี้ซูอี๋คงจะหายไข้ แล้วจะได้เดินทางไปวังจันทราเลย" เยี่ยจีเอ่ย
"ข้าขอไปตรวจดูงานก่อนนะค่ะ"
"จะไม่พักสักหน่อยหรือ" เฟิงอู๋จีเอ่ยถามน้องสาวร่วมสาบาน
"ไม่หละค่ะ ช่วงนี้กิจการของเรากำลังไปได้ดีต้องดูแลใกล้ชิดหน่อย" หลี่เซียชิง เอ่ยขอตัวไปทำงาน
"อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะอาเซีย" เยี่ยจีเอ่ยบอก
"ทราบแล้วค่ะพี่สะใภ้"
เช้าวันต่อมาเฟิงซูอี๋อาการดีขึ้นตามที่คาดการ ผู้เป็นบิดาจึงได้จัดเตรียมรถม้าเพื่อออกเดินทางไปยังวังจันทราโดยที่ให้บุตรสาวนั่งไปในรถม้าไปกับผู้มารดา ส่วนตนและหลี่เซียชิงขี่ม้านำหน้า การไปครั้งนี้มีเฉียวซินและยอดฝีมือของหุบเขาเทียนซานตามไปเพียงสิบคน
ความคิดเห็น