ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค้นลวงรัก (จีนโบราณ)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 53




             






              วันงานชมดอกไม้ 

              ณ จวนตระกูลหลี่ 

              "หลี่เซียงานจะจัดช่วงบ่าย แต่ว่าลุงต้องเข้าวังไปดูความเรียบร้อยก่อน ซือฉีกับเจี้ยนหัวจะมารับพวกเจ้าไปงาน" ใต้เท้าหลี่กล่าวกับหลานสาว 

              "ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคะ เดี๋ยวทางนี้ข้าจัดการให้เอง" หลี่ซันเหนียงบอกแก่พี่ชาย 

              "ขอบใจเจ้ามากซันเหนียง มีงานทีไรถ้าไม่ได้เจ้ามาช่วยคงแย่" 




              ณ จวนตระกูลซือหม่า
     
              อีกหนึ่งชั่วยามจะถึงเวลางาน ใต้เท้าซือหม่านั้นแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยนั่งรอภรรยาและลูกอยู่ที่ห้องโถงของบ้าน บุตรชายทั้งสองเดินผ่านมาพอดีจึงเรียกไว้ 

              "ซือฉี เจี้ยนหัวพวกเจ้าไม่ออกไปพร้อมพ่อหรือ" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามบุตรชาย 

              "คงไม่ละขอรับ พอดีท่านลุงวานให้ข้าช่วยไปรับหลานสาวของท่านไปงานครั้งนี้ด้วย" ซือหม่าซือฉี เป็นผู้ตอบบิดา 

              "อย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปเถอะ" 

              "ขอรับ" ทั้งสองจึงออกไป 



              เมื่อลูกชายทั้งสองออกไปซือหม่ากว้านเซียงก็คบคิดว่าหลานสาวของใต้เท้าหลี่เป็นใคร 'หลานสาวของท่านหลี่ก็มีแต่เล็กๆ หลานสาวที่โตพอจะออกงานก็มีแต่ลูกของซันเหนียง' ซือหม่ากว้านเซียงเมื่อคิดย้อนไปถึงชื่อของคนรักและภรรยาคนแรกของตนก็มีสีหน้าครึมลง 



              "ท่านพี่คะ ข้าเสร็จแล้วขอโทษที่ต้องให้ท่านคอยเสียนาน" ซือหม่าจิงเหล่ยกล่าวในขณะที่เดินเข้ามาพร้อมบุตรสาวทั้งสอง 

              "เซียงผิงลูกจะไม่ไปด้วยกันจริงหรือ" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามบุตรสาวคนเล็ก 

              "ข้าไม่ชอบไปที่ที่ผู้คนมากท่านพ่อก็ทราบดี" ซือหม่าเซียงผิงบอกแก่มารดา 

              "นางไม่ไปก็ชั้งนางเถอะคะ ข้าว่าเราเรียบไปกันดีกว่า" ซือหม่าพูเหม่ยไม่พอใจที่บิดาให้ความสำคัญแก่น้องสาว 

              "ถ้าเช่นนั้นพ่อไปก่อน เจ้าอยู่บ้านดีๆล่ะ" 

              "คะท่านพ่อ" ซือหม่าเซียงผิงเดินมาลงบิดา มารดา และพี่สาวที่หน้าบ้าน 

              เมื่อทั้งหมดออกไปแล้วนางจึงกลับไปปักผ้าที่ทำค้างอยู่ต่อ 






              เมื่อออกจากบ้านมาซือหม่าซือฉีและซือหม่าเจี้ยนหัวก็เดินทางมาที่จวนตระกูลหลี่ทันที 

              "มาแล้วหรือคะ" หลี่เหมยหลิง ออกมาต้อนรับพี่ชายทั้งสอง ซึ่งตอนนี้นางอยู่ในชุดที่ด้านในเป็นเสื้อเกาะอกสีเขียวอมฟ้า เสื้อคลุมด้านนอกเป็นสีของท้องฟ้าและปักลายดอกไม้ตรงขอบเสื้อ ผมบางส่วนกล้าวขึ้นมาครึ่งศีรษะอีกส่วนหนึ่งปล่อยยาวลงมา ประดับด้วยปิ่นปักผมรูปดอกไม้พร้อมดอกกุหลาบสีขาวช่อเล็ก ต่างหูเป็นตุ้มพลอยสีฟ้าอ่อนสายสั่น เข้าชุดกันสร้อยคอเส้นเรียบร้อยเข้ากับจี้พลอยเม็ดสีฟ้าขนาดกลาง วันนี้หลี่เหมยหลิงแต่งหน้าอ่อนๆด้วยสีฟ้าทาปากด้วยสีชมพูอ่อน 

              "วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลยนะ" ซือหม่าเจี้ยนหัว เอ่ยชมน้องสาว 

              "ข้าสวยไม่เท่าพี่รองหรอกคะ ท่านแม่กำลังดูความเรียบร้อยให้พี่เซียชิงอยู่ เชิญท่านพี่เข้ามารอข้างในก่อน" หลี่เหมยหลิง เอ่ยชวนพี่ชายทั้งสองซึ่งอยู่ในชุดข้าราชการฝ่ายบู๊ ที่มีผ้าคุมไหล่สีแดงเลือดหมูคลุมทับชุดที่สวมใส่อีกทีหนึ่ง 


              "ขอโทษที่ทำให้รอนานค่ะ" หลี่เซียชิงกล่าว บัดนี้นางอยู่ในชุดปักลายงดงาม เสื้อด้านในเป็นเสื้อเกาะอกสีม่วงกลางๆ เสื้อคลุมด้านนอกเป็นสีชมพูกลีบกุหลาบสีอ่อนและปักลายดอกไม้ตรงขอบเสื้อ ผมบางส่วนกล้าวขึ้นมาครึ่งศีรษะอีกส่วนหนึ่งปล่อยยาวลงมา ประดับด้วยปิ่นปักผมรูปดอกไม้และผีเสื้อ พร้อมปักดอกกุหลาบสีชมพูม่วงช่อเล็ก ต่างหูเป็นตุ้มพลอยสีม่วงอมชมพูสายยาว เข้าชุดกันสร้อยคอเส้นน้อยร้อยเข้ากับจี้พลอยกลางสีชมพูอมม่วงฟ้าเม็ดขนาดกลาง เข้ากับการแต่งหน้าอ่อนๆด้วยสีชมพูปากด้วยสีชมพูอ่อนดูเข้ากันเป็นอย่างยิ่ง 

              "น้องแต่งตัวอย่างนี้ดูเป็นยังไงลูก" หลี่ซันเหนี่ยงเอ่ยถามลูกชาย 

              "สวยที่สุดเลยขอครับท่านแม่" ซือหม่าเจี้ยนหัวเป็นผู้ตอบ 

              "พี่ว่าเรารีบไปที่งานกันดีกว่าจะได้ให้ท่านลุงได้อวดหลานสาวคนสวยทั้งสอง" ซือหม่าซือฉี กล่าว 

              "ถ้าเช่นนั้นข้าไปก่อนนะคะ" ทั้งหมดเดินทางไปที่วังหลวงโดยชายหนุ่มทั้งสองขี่ม้าตามแบบข้าราชการฝ่ายบู๊ ฝ่ายหญิงสาวนั่งรถม้า 





              วังหลวง 

              บรรดาข้าราชการทุกฝ่ายเริ่มทยอยเข้ามาในงานพร้อมด้วยฮูหยินที่แต่งตัวประชันกันอย่างหรูหรา สองแม่ลูกซือหม่าจิงเหล่ยและซือหม่าพูเหม่ยก็เดินเฉลิดฉายอวดบรรดาฮูหยินของใต้เท้าท่านอื่นๆ 


              เมื่อรถม้าของหลี่เซียชิงจอดสนิมซือหม่าซือฉีเป็นผู้ประคองหลี่เซียชิงลงมา ส่วนซือหม่าเจี้ยนหัวเป็นผู้ประคองหลี่เหมยหลิงลงมาทั้งหมดเดินตรงไปหาผู้เป็นลุงใหญ่ 


              เมื่อหญิงสาวทั้งสองเดินผ่านบุตรชายขุนนางหรือแม้แต่ขุนนางหนุ่มๆตามเหลียวมองตามทั้งสองด้วยสายตาหลงใหลในความงามของทั้งสอง 

              "มากันแล้วหรือ" หลี่เหยียนเสียเอ่ยถามหลาน 

              "ขอโทษที่ทำให้ท่านลุงต้องคอยค่ะ" หลานสาวคนโตเป็นผู้เอ่ย 

              "ซือฉีเจ้าพาน้องสาวไปเดินชมดอกไม้ก่อนเถอะ ลุงจะไปดูความเรียบร้อยอีกหน่อย" เมื่อหลี่เซียชิงกับหลี่เหมยหลิงปรากฎกายผายในงานความสนใจของบรรดาหนุ่มๆที่เคยให้ความสนใจต่อซือหม่าพูเหม่ยจึงพุ่งความสนใจไปที่ทั้งสองแทน 

              "ดูเหมือนสาวๆของเราจะเรียกความสนใจจากบรรดาหนุ่มๆในงานมาจากพูเหม่ยได้หมดเลยนะ" ซือหม่าเจี้ยนหัวเอ่ยหยอกพี่และน้องสาว 

              "ของมันแน่นอยู่แล้วนี่ค่ะ" หลี่เหมยหลิงกล่าวกันพี่ชายก่อนจะหันไปสนทนากันบรรดาชายหนุ่มที่เข้ามาพูดคุยกันพี่สาวและตนเอง 




              ซือหม่าพูเหม่ยมองดูทั้งสองด้วยความริษยา 

              "ท่านแม่ นางสองคนนั้นมันเป็นใครกันบังอาจมาแย่งความสนใจไปจากข้า แถวยังมากันพี่ซือฉี พี่เจี้ยนหัวอีก" ซือหม่าพูเหม่ยกล่าวอย่างเป็นเดือดเป็นร้อน 

              "แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านพี่ค่ะคนที่มากับซือฉีแล้วก็เจี้ยนหัวเป็นใครกันหรือค่ะ" ซือหม่าจิงเหล่ยเอ่ยถามผู้เป็นสามี
     
              "เห็นซือฉีบอกว่าเป็นหลานสาวของใต้เท้าหลี่" 

              "ท่านแม่ว่าใช้เจ้าของผ้าที่ข้าอยากได้ไหมค่ะ" ซือหม่าพูเหม่ยกระซิบกับมารดา 

              "อาจจะเป็นไปได้" 






              เมื่อได้กำหนดเวลาทุกคนในงานได้รับเสด็จองค์จักรพรรดิ พระราชชนนี และบรรดาเชื่อพระวงศ์ทั้งหลาย งานครั้งนี้พระมเหสีมิได้โดยเสร็จมาร่วมงานด้วย 


              เมื่อสบโอกาสใต้เท้าหลี่ได้พาหลานสาวทั้งสองไปถวายบังคม 

              "แม่นางน้อยทั้งสองเป็นใครกันหรือใต้เท้าหลี่" พระราชชนนีทรงตรัสถาม 

             "นางทั้งสองเป็นหลานสาวของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ" 

              "งั้นหรือ เจ้าทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาให้ข้าได้มองชัดๆหน่อยสิ" เซียชิงและเหมยหลี่เงยหน้าให้พระราชชนนีทอดพระเนตร 



              เมื่อพระราชชนนีทอดพระเนตรเห็นใบหน้าของทั้งสองว่ามีความงดงามจึงได้ตรัสชม 

              "เจ้าทั้งสองมีใบหน้าที่งดงามดีแท้ เจ้าว่าเป็นเช่นไรจั่นเหยียน" บุคคลที่พระราชชนนีทรงเอ่ยถามคืออ๋องมู่จั่นเหยียนผู้เป็นองค์ชายสิบห้าโอรสในองค์จักรพรรดิพรองค์ก่อน 

              "พ่ะย่ะค่ะ" 

              "แล้วอัยพ่ะย่ะค่ะของเจ้ามันแปลว่าอะไร" องค์พระจักรพรรดิทรงตรัสถามน้องชายผู้แสนจะเย็นชาของพระองค์ 

              "ก็...สวยไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป" ท่านอ๋องเอ่ยตอบไปเท่านั้นเพราะรู้ดีว่าพระราชชนนีและองค์พระจักรพรรดิกำลังพยายายจะจับคู่ให้เขา หากจะว่าไปแล้วชายหนุ่มที่อายุยี่สิบห้าอย่างเขาล้วนแต่งงานมีบุตรไปแล้วกันทั้งนั้น เมื่อเห็นว่าพระอนุชาในพระองค์ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเลยแม้แต่น้อยองค์พระจักรพรรดิจึงหันไปสนใจหญิงสาวทั้งสองแทน 

              "แล้วนี้พวกเจ้าอายุกันเท่าไหร่แล้วล่ะ" 

              "หม่อมฉันยี่สิบปีเพคะ ส่วนน้องสาวพึ่งจะสิบแปดปีเพคะ" หลี่เซียชิง เป็นผู้เอ่ยตอบคำถามขององค์พระจักรพรรดิ 

              "ยี่สิบแล้วหรือนี้ แล้วเหตุใดเจ้ายังไม่ได้แต่งงานออกจากจวนหลี่อีกเล่า หรือใต้เท้าหลี่ไม่ยอมให้ชายใดเข้าใกล้หลานสาว" องค์จักรพรรดิทรงตรัสถามใต้เท้าหลี่ผู้เป็นลุงของทั้งสอง 

              "หม่อมฉันยังอยากช่วยงานท่านลุงอยู่เพคะ" 

              "เป็นเด็กที่ขยันจริงนะ เอาเป็นว่าแล้วข้าจะช่วยมองหาผู้ชายที่เหมาะสมให้กับพวกเจ้าแล้วกัน" พระราชชนนีเอ่ย 

              "ขอบพระทัยเพคะ แต่หม่อมฉันยังไม่คิดที่จะแต่งงานตอนนี้เพคะ หากยังไม่ได้...จัดการบางอย่างให้เรียบร้อยซะก่อน" หลี่เซียชิง เอ่ยสะดุดไปเล็กน้อยท้ายๆประโยคหลี่เซียชิงเบาเสียงลง การกระทำเช่นนี้สร้างความสงสัยให้กับท่านอ๋องมู่จั่นเหยียนที่จับตามองหลี่เซียชิงเป็นอย่างมาก 







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×