ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่11
"เจ้าลองชิมดูสิ" พระมเหสีชวนให้หลี่เซียชิงดื่มน้ำชา
"หากหม่อมฉันจำไม่ผิดนี้คงเป็นชาชั้นดีจากเปอร์เซียใช้หรือไม่เพคะ"
"ใช้จ๊ะนี้เป็นชาชั้นดีจากเปอร์เซีย ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าท่านหญิงมีความรู้เรื่องชาด้วย" พระมเหสีเอ่ยชม
"หาไม่เพคะ พอดีเพื่อนหม่อมฉันชอบสะสมชาชั้นดีไว้ เมื่อหม่อมฉันไปเยี่ยมหนใดชอบชงชาชนิดนี้ให้ดื่มจนหม่อมฉันต้องหาซื้อมาดื่มเองแล้วเพคะ"
"อย่างงั้นเองหรอกหรือ แล้วตอนนี้ยังเหลืออยู่อีกไหม"
"หมดไปได้สักพักแล้วเพคะ ช่วงนี้ชาชนิดนี้หาซื้ออยากสักหน่อยเพราะมีราคาแพงอยู่พอสมควร ร้านขายจึงนำมาขายจำนวนน้อย"
"แล้วข้าจะให้ทางห้องเครื่องแบ่งมาให้เจ้าบ้างแล้วกัน" พระราชชนนีเอ่ย
"ขอบพระทัยเพคะ"
"เห็นว่าเจ้าดีดพิณไพเราะยิ่งนัก" พระมเหสีเอ่ย
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเพคะ แค่พอบรรเลงเป็นเพลงได้"
"ถ้าเช่นนั้นให้ข้าได้ฟังเจ้าดีดก่อนแล้วจะบอกว่าฝีมือของเจ้าอยู่ในระดับไหน" พระราชชนนีเอ่ยกับหลี่เซียชิงก่อนที่จะหันไปสั่งนางกำนัลให้ไปนำพิณมา
ระหว่างนั้นนางกำนัลได้มากราบทูลพระราชชนนีว่าท่านอ๋องมู่จั่นเหยียนมาขอเข้าเฝ้า
"หลานคนนี้มันอะไรกัน บอกให้มาหาเมื่อวานกลับมาหาวันนี้ ไปบอกให้เข้ามาได้" พระราชชนนีเอ่ยสั่งนางกำนัลให้ไปเชิญเสด็จท่านอ๋องมู่จั่นเหยียนมาที่ศาลาในอุทยาน
"กระหม่อมจั่นเหยียนถวามบังคมเสด็จแม่ พี่สะใภ้" อ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ยถวายบังคมทั้งสองพระองค์
"ตามสบายเถอะ" พระราชชนนีเอ่ย
"หม่อมฉันถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ" หลี่เซียชิง เอ่ยถวายบังคมท่านอ๋อง
"จั่นเหยียนเจ้ามาได้จังหวะพอดี แม่กำลังจะให้ท่านหญิงหลี่เซียเล่นพิณให้ฟัง" พระมเหสีเอ่ย
"อย่างงั้นหรือพะย่ะค่ะ" อ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ยอย่างไม่ใยดี เมื่อนางกำนัลนำพิณมา หลี่เซียชิง ถอยออกมาเล่นพิณตรงด้านข้างของศาลา เสียงพิณของนางนั้นบรรเลงได้นุ่มนวลอ่อนหวานหากยังแฝงไปด้วยร่องรอยของความเศร้าแต่ยังดึงเพลงกลับมาในแนวหวานอีกครั้ง
"เป็นเพลงที่ไพเราะมาก" พระมเหสีทรงตรัสเอ่ยชม
"ขอบพระทัยที่ชมเพคะ" "เพลงที่เจ้าเล่นชื่อเพลงอะไรกันข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน" พระราชชนนีทรงเอ่ยถามหลี่เซียชิง หลี่เซียชิง มีท่าทีอึดอัดอยู่บ้างเมื่อพระราชชนนีทรงเอ่ยถามถึงชื่อเพลง หากก็ยอมที่จะตอบคำถามในที่สุด
"เพลงรักระทมเพคะ" "เหตุใดจึงตั้งชื่อเพลงว่ารักระทมเล่าท่านหญิง" ท่านอ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ยถามหลี่เซียชิงขึ้นอีกคน
"เพราะถึงเพลงจะกล่าวถึงความรักหากแต่ว่ามันก็แฝงไปด้วยความเศร้าตรม"
"แล้วท่านหญิงได้บทเพลงเพลงนี้มาจากที่ใดกัน" อ๋องมู่จั่นเหยียนยังเอ่ยถามหลี่เซียชิงต่อ
"เป็นบทเพลงที่ท่านแม่ของหม่อมฉันชอบบรรเลงเพคะ"
"อะไรกันจั่นเหยียนแม่ไม่เคยเห็นเจ้าจะสนใจเรื่องดนตรีเลยสักครั้ง แล้วเหตุใดวันนี้ดูจะสนใจเพลงที่ท่านหญิงหลี่เซียบรรเลงถึงเพียงนี้กันเล่า" พระมเหสีเอ่ยถามพระโอรส
"ก็หม่อมฉันมิเคยได้ยินเพลงที่ท่านหญิงบรรเลงมาก่อนนี้พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่"
"เอาล่ะนี้ก็ใกล้ถึงเวลาตั้งเครื่องกลางวันแล้วจั่นเหยียนเจ้าอยู่ทานกลางวันเป็นเพื่อนย่าก่อน เจ้าก็ด้วยนะหลี่เซีย" พระราชชนนีเอ่ยบอก อ๋องมู่จั่นเหยียนและหลี่เซียชิง
"พะย่ะค่ะ/เพคะ" อ๋องมู่จั่นเหยียน และ หลี่เซียชิง เอ่ยรับคำชวนของพระราชชนนี
"โต๊ะเสวยตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วเพคะ" นางกำนัลเข้ามารายงานพระมเหสี
"ถ้าเช่นนั้นเราไปทานอาหารกันดีกว่า" พระราชชนนี กล่าวพลางเสด็จลุกจากที่ประทับแล้วพระราชดำเนินเข้าไปข้างในตำหนัก
"ท่านหญิงเจ้าลองชิมอาหารพวกนี้ดูสิ" พระมเหสีเอ่ยชวน
"เพคะ" การรับประทานอาหารดำเนินไปอย่างเรียบร้อย
พระราชชนนีทรงพาหลี่เซียชิงไปที่ห้องทรงพระสำราญเพื่อทรงเลือกเครื่องประดับที่ระลึกให้หลี่เซียชิง สิ่งที่ทรงเลือกคือกำไลหยกที่ทำจากหินโมราสีแดงให้คู่หนึ่ง
"หม่อมฉันรับไว้ไม่ได้หรอกเพคะ เครื่องประดับพวกนี้เป็นของที่ส่งมาเพื่อถวายให้พระราชชนนีโดยเฉพาะหม่อมฉันมิอาจเอื้อม" หลี่เซียชิง เอ่ยปฏิเสธกำไลหยกคู่งามที่ราชทานให้เป็นของที่ระลึก
"ก็ในเมื่อพวกเขาถวายให้ข้าแล้วข้าก็มีสิทธิที่จะให้ใครก็ได้ตามแต่ที่ข้าต้องการ" พระราชชนนีเอ่ยเมื่อเห็นว่าหลี่เซียชิงจะไม่รับกำไลหยกที่ประทานให้
"แต่ว่า..."
"ก็ในเมื่อเสด็จแม่ข้าประทานให้แล้วมันจะมีผู้ใดกล้าว่า" อ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ยพลางฉวยข้อมือของหลี่เซียชิงไปสวมกำไลหยกให้ทั้งสองข้าง โดยไม่สนว่าหลี่เซียชิงจะทำหน้าเช่นไร
"จั่นเหยียนเบาๆสินางเป็นผู้หญิงนะ" พระมเหสีทรงเอ่ยบอกอ๋องมู่จั่นเหยียนเมื่อเห็นว่าท่านอ๋องฉวยข้อมือของหลี่เซียชิงไปอย่างแรง
"เห็นไหมข้าว่าแล้วว่ากำไลคู่นี้ต้องเหมาะกันเจ้า" พระราชชนนีเอ่ยเมื่อทอดพระเนตรมองกำไลหยกที่บัดนี้สวมอยู่บนข้อมือของหลี่เซียชิง
"ถ้าหากไม่มีอะไรแล้วหม่อมฉันขอทูลลา" อ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ย
"แล้วนี้จะไปไหนต่อ" พระมเหสีเอ่ยถาม
"กระหม่อมจะไปหาใต้เท้าหลี่ที่จวน"
"ถ้าเช่นนั้นย่าฝากท่านหญิงหลี่กลับไปกับเจ้าด้วยแล้วกัน" พระราชชนนีเอ่ย
"ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันก็ทูลลาเพคะ" หลี่เซียชิง เอ่ยพลางก้าวออกจากตำหนักพระราชชนนี
"เจ้าเห็นว่าเด็กคนนี้เป็นเช่นไรบ้าง" พระราชชนนีทรงเอ่ยถามพระมเหสีเมื่ออ๋องมู่จั่นเหยียนและหลี่เซียชิงก้าวออกไปจากตำหนัก
"หน้าตาก็สะสวยไม่เป็นรองใคร กิริยามารยาทก็เรียบร้อย ชาติตระกูลก็ดี หม่อมฉันว่านางก็เหมาะกับตำแหน่งชายาดีนะเพคะ"
"นั้นสิข้าก็พึ่งเห็นเจ้าจั่นเหยียนมันจะสนใจผู้หญิงที่ข้าเลือกให้ก็คราวนี้แหละ"
"หม่อมฉันว่าท่านหญิงหลี่เซียคนนี้คงมีดีมากกว่าที่หน้าตาเป็นแน่น ไม่อย่างนั้นจั่นเหยียนไม่มีวันที่จะสนใจหรอกเพคะ"
เมื่อกลับมาถึงจวนหลี่เซียชิงก็พบว่าท่านลุงใหญ่มารอรับตนและท่านอ๋องอยู่ก่อนแล้ว
"เชิญไปท่านอ๋องที่ห้องหนังสือเลย อาเซียเจ้าไปชงชาแล้วยกไปให้ท่านอ๋องที่ห้องหนังสือด้วย" ใต้เท้าหลี่หันมาสั่งหลานสาว
"ได้ค่ะ"
"ท่านอ๋องวันนี้เห็นที่กระหม่อมจะอยู่ช่วยท่านอ๋องไม่ได้เสียแล้ว"
"ไม่เป็นไรใต้เท้า วันนี้ข้าว่าจะมาอ่านบันทึกเฉยๆยังมิได้รบกวนท่านในตอนนี้" ท่านอ๋องกล่าว
"แล้วกระหม่อมจะให้หลี่เซียคอยช่วยท่านอ๋อง"
"ขอบคุณมาก" เมื่อหลี่เซียยกน้ำชาและของว่างเข้ามาท่านอ๋องมู่จั่นเหยียนก็กำลังนั่งอ่านบันทึกทางการทหารอยู่ก่อนแล้ว
"ใต้เท้าหลี่ให้ท่านหญิงอยู่ช่วยข้าค้นหาบันทึกต่างๆหากข้าต้องการ" อ๋องมู่จั่นเหยียน เอ่ยขึ้นมาโดยที่สายตายังไม่ละไปจากบันทึกตรงหน้า
"ท่านลุงได้แจ้งแก่หม่อมฉันแล้วเพคะ"
"ถ้าเช่นนั้นรบกวนท่านหญิงช่วยหาบันทึกของจำนวนเงินงบประมาณทางทหารเมื่อห้าปีก่อนให้ข้าด้วย"
"ไม่ทราบว่าท่านอ๋องต้องการบันทึกจำนวนทหารและอาวุธทางการทหารที่เบิกจ่ายในช่วงห้าปีที่ผ่านมาด้วยหรือไม่" หลี่เซียชิง เอ่ยถามท่านอ๋องในขณะที่หยิบบันทึกของจำนวนเงินงบประมาณทางทหารเมื่อห้าปีก่อนออกมา
"เหตุในท่านหญิงจึงคิดว่าข้าต้องการ"
"หากดูจำนวนเงินของทางทหารแล้วเหตุใดจะไม่ต้องการจำนวนทหารที่มีอยู่และจำนวนอาวุธที่ทหารจำเป็นต้องใช้ละเพคะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น