ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Light : ตำนานนิทานผู้กล้าข้ามมิติ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่หนึ่ง : วันธรรมด๊าธรรมดา { 100 % }

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 58


     

    บทที่หนึ่ง

    วันธรรมด๊าธรรมดา

     

     

     

                ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ขณะนี้เวลาสิบหกนาฬิกาสิบห้านาที ขณะนี้เวลาสิบหกนาฬิกาสิบหานาที หมดเวลาเรียนคาบที่แปดแล้วค่ะ ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ้ง

              เสียงตามสายดังไปทั่วอาคารเรียน เหล่านักเรียนต่างกรูออกมาจากตึกราวกับฝูงมดแตกออกจากรัง ท่ามกลางนักเรียนมากมาย เด็กหนุ่มคนหนึ่งก้มหน้าลงที่จอพีเอสพีเครื่องโปรดอย่างไม่สนใจโลกภายนอก เรือนผมสีน้ำตาลเข้มบวกกับผมทรงรากไทรสั้นเลยติ่งหูลงมานิดหน่อยนั้นไหวอ่อนๆ รับลมหนาวนัยน์ตาสีน้ำตาลสว่างยังคงไม่ละสายตาออกจากเกมกดคู่ใจ เขายังคงกดมันไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจรอบข้าง

                “ไอ้กวิน – ไม่รอเลยวะ” เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำขลับเดินมาตบบ่าอย่างคุ้นเคย ร่างโปร่งที่โดนทักสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

                “รอจนรากงอกละไอ้บอส” เกิดเสียงซุบซิบนินทาขึ้นมารอบตัวพวกเขา แต่กวินไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบข้างเท่าไหร่นัก ตั้งแต่เป็นเพื่อนกับบอสมานั้น ชีวิตของเขาก็ถูกเปรียบเทียบมาโดยตลอด แต่ใครจะสน!! กวินไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะหันหลังไปสบตากับกลุ่มเด็กสาวประมาณสี่ห้าคน

                “ป่านนี้พวกนั้นคงรอเราแย่เลยว่ะ ป่ะเหอะ” บอสเห็นท่าไม่ดีจึงรีบทำลายบรรยากาศ ก่อนจะวิ่งนำหน้าไป

                “รีบไปไหนของมันฟระ” กวินเก็บเกมคู่ใจลงก่อนจะหันหลังแลบลิ้นใส่กลุ่มเด็กสาวและวิ่งตามเพื่อนสนิทไป

               


                แสงอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้า ฝูงนกน้อยๆต่างพากันบินกลับรังตามสัญชาตญาณ เด็กหนุ่มร่างโปร่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางเดิน พลันต้องหันหลังกลับตามเสียงที่ไล่หลังมา

                “ไอ้บอส!!! จะให้วิ่งตามไปถึงไหน” กวินก้มตัวลงพร้อมกับหายใจหอบถี่

                “วิ่งแค่นี้เองเหนื่อยซะแล้วเหรอวะ” ร่างหนายิ้มก่อมจะยื่นมือออกไป

                “ชิ” กวินเดาะลิ้นก่อนจะรับมือหนานั้น พร้อมกับดันตัวเองขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

                ทั้งสองเดินเข้ามาในสถานที่ที่พวกเขาคุ้นเคย มันดูเหมือนเป็นบริเวณใช้เก็บวัตถุดิบอุปกรณ์การก่อสร้าง ทั้งท่อ ปูน หรือไม่ว่าจะเป็น กองทรายใหญ่โต ดูเหมือนว่าจะถูกเพิกเฉยมานาน สถานนี้จึงการเป็นแหล่งกบดาน ไม่ใช่สิ! เป็นที่ประชุมของกลุ่มเพื่อน

                สภาพแวดล้อมโดยรอบถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่เป็นที่สังเกตจากภายนอกได้ยาก ทั้งสองเดินไปที่สังกะสีที่เป็นกั้นป่าไม้กับบริเวณลานพร้อมกับมุดออกไปอีกทาง

                “ไง!! เซอร์ไพท์ มีความสุขมากๆ นะกวิน” หญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงกลางเอ่ย นัยน์ตาสีเขียวเพราะคอนแท็กส์เลนส์นั้นเปล่งประกายเพราะความดีใจ ริมฝีปากอมชมพูกับใบหน้าได้รูปของเธอจัดได้ว่าเธอเป็นคนสวยเลยทีเดียว เค้กขนาดสองปอนด์ถูกยกออกมาพร้อมรอยยิ้มของเพื่อนอีกสองคน

                “ขอบคุณนะนินต์ซึ้งเลยว่ะ...เพื่อน” กวินทำท่าจะเดินไปกอดเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกับทำปากเหมือนกำลังจะจูบ

                “อีตาบ้า!!” ขาเล็กเรียวเหวี่ยงออกไปเต็มแรงกระแทกเข้ากับเจ้าโลกของเด็กหนุ่มตรงหน้า

                “อ้ากกกกกก!!!” เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงเหมือนไก่โดนเชือด เด็กสาวตรงหน้าเขาทำได้เพียงหัวเราะอย่างสะใจ พร้อมกับเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ที่ดังขึ้นตามมา ก่อนที่บอสจะประคองกวินขึ้น

                “ยัยตัวแซบ...อูยยย อย่าพาเดินเร็วดิวะ” กวินร้องโอดอวยด้วยความทรมาณ

                “ทำตัวเองเองนะเพื่อน” บอสพูดติดตลกพร้อมกับพยุงเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ที่มีลูกโป่งผูกไว้ เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นมาจากเด็กสาวมัดผมแกะข้างๆ ที่เหมือนพึ่งรู้สึกตัวว่าต้องหัวเราะ

                “ยัยกรีนเขาหัวเราะกันตั้งแต่ชาติปางไหนแล้วคะ?” นินต์ว่า

                 ”ก็ฉันลืมนิหน่า” เธอแก้ตัว

                “ช่างเถอะแต่ก็น่าขำจริงๆ และ ฮ่าๆๆ” เด็กสาวผมยาวยังคงหัวเราะชอบใจ

                “ฝากไว้ก่อนเหอะ” กวินทำหน้าเหยเกก่อนจะถอนหายใจ

                “ก็ไปแกล้งนินต์เค้าก่อนทำไมล่ะกวิน” กรีนป้องปากหัวเราะ

                “ก็แหม่....” เขาเกาหัวแก้อาย

                บรรยากาศโดยรอบเป็นไปด้วยความครึกครื้น ทุกคนกำลังตักกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย เสียงหัวเราะดังเป็นระยะๆ ท่ามกลางความวุ่นวายบอสเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน เขาเดินมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม

                “นี่กรมากินเค้กด้วยกันดิวะ” บอสร้องเรียกเด็กหนุ่มร่างโปร่งวัยเดียวกัน ในมือของเขามีแมวน้อยตัวสีดำ มันกำลังคลอเคลียเขา นัยน์ตาสีน้ำทะเลมองดูมันอย่างอ่อนโยน ก่อนใช้มือเรียวยาวสัมผัสขนสีดำของมันเบาๆ

                “ให้เจ้านี่กินด้วยได้มั้ยบอส?” ชายร่างโปร่งยิ้มละไมก่อนที่จะใช้มือของเขาเขี่ยหูตัวเล็กที่อ้อมแขนเบาๆ

                “เอาสิ มันคงหิวแย่” บอสยิ้มบาง

     

    ­­­________________________________

               

                “ท่านยายเคยบอกข้า... ใช่ท่านเคยบอกข้า” เสียงของหญิงสาวปริศนาที่อยู่ในห้องทึบที่มีเพียงไฟจากตะเกียงโบราณให้แสงสว่างไปทั่วทั้งห้อง เธอยังคงเปิดตำราเก่าๆ พลิกไปพลิกมาด้วยท่าทีร้อนรน หญิงสาวกุมขมับพร้อมยีหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เรือนผมสีขาวยุ่งเหยิงเหมือนกับจิตใจของเธอในตอนนี้

     

                “ข้าต้องทำได้สิ--ทำไม ทำไม!!!!!!

     

                  ตะวันลับขอบฟ้าได้เวลาของดวงจันทร์ออกมาทหน้าที่ให้แสงสว่าง กวินนั่งมองหินสีฟ้าสะอาดตา ดูเหมือนมันวิ่งไปมา แต่นั้นก็แค่ความคิดของกวิน หลังจากกินข้าวเย็นกับครอบครัวเสร็จแล้ว ร่างสูงโปร่งก็นอนแพละอยู่บนที่นอนด้วยท่าทีหน่ายเหนื่อย

                “ทัศนศึกษางั้นเหรอ”

                “ก่อนจบ ม.6 ขี้เกียจฉิบ”

                กวินบ่นอุบอิบก่อนที่จะถอนหายใจยาว แน่ละทุกชั้นปีต้องไปทัศนศึกษาตามมารตรากระทรวงศึกษาธิการ แต่กวินก็ไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่ เขาคิดว่าเอาเวลามานั่งเล่นเกมจะดีกว่า ร่างสูงดีดตัวจากที่นอนพร้อมกับตรงมาที่โต๊ะอเนกประสงค์คู่ใจ มันมีกระดาษ เปลือกขนม จานข้าวที่กินหมดแล้ว และอะไรต่อมิอะไรมากมาย

                กวินหยิบดินสอขึ้นมาหมุนเล่นก่อนที่จะวาดบางอย่างใส่ลงไปกระดาษ ดูเหมือนจะเป็นรูปคน ไม่สิคล้ายๆ กับรูปหญิงสาวเรือนน้ำตาลเข้ม กวินยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนที่จะวาดแผ่นอื่นต่อไปจนเขาง่วง เด็กหนุ่มนำผลงานที่เขาวาดเสร็จทั้งหมดใส่ไว้ในกล่องคล้ายหีบเก่าๆ และมีกุญแจเก็บ

              ชุดวรรณกรรมเยาวชนแฮรี่พอตเตอร์

                กล่องบล็อกเซ็ดนิยายวรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง บัดนี้กลายเป็นกล่องเก็บแผ่นกระดาษและสิ่งของที่คล้ายว่าจะเป็นขยะ กวินจัดทุกอย่างลงไปอย่างใจเย็น ในกล่องนั้นเต็มไปด้วยรูปและสิ่งของไร้ประโยชน์ มันถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผิดกับห้องนอนของเขาที่ดูเหมือนที่ซ่องสุมเชื้อโรค

                “เรียบร้อย!!” กวินยิ้มก่อนที่จะทิ้งตัวลงเตียงเล็กๆ สีน้ำของเขา ร่างสูงปล่อยให้ตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้แสงจันทร์ส่องแสงลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านลายลูกไม้ เข้ากระทบกับใบหน้าทะเล้นนั้น เด็กชายหลับอย่างสบายใจโดยที่ไม่รู้ว่าการไปทัศนาศึกษาในวันพรุ่งนี้ของเขาจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

     

     

              ปัง ปัง ปัง

                “กวิน ตื่นได้แล้วลูก” เสียงหวานใสของหญิงสาววัยสามสิบหก มาพร้อมกับเสียงเคาะเพื่อปลุกคนที่กลังฝันหวานอยู่ ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาอยู่ที่ 7.45 น ซึ่งมันสายมากแล้ว

                “หาวววว.... ครับแม่” เด็กชายตอบในขณะที่ยังไม่ตื่น เขายังคงมุดตัวอยู่ในผ้าห่มพื้นนุ่ม

                เสียงของหญิงสาวเงียบไปสักครู่ ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกช้าๆ หญิงสาวมุ่งตรงไปที่ร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังงัวเงียอยู่ในผ้าห่ม

                “กวินไปโรงเรียนได้แล้ว!!

                “ผมลุกแล้วคร้าบบบ... ผมลุกแล้ว เนี่ยกำลังเก็บที่นอนอยู่เลย”

                “เก็บที่นอนเหรอจ๊ะ?

                “คร้าบบบบ....แม่ หาววววว เนี่ย กำลังพับผ้าห่มเลยครับ” กวินว่าในขณะที่ร่างโปร่งนั้นยังอยู่ในผ้าห่ม หญิงสาวผู้เป็นแม่กอดอกนิ่งก่อนที่จะกระชากผ้าห่มพร้อมเปิดผ้าม่านออกจนแสงแดดร้อนๆ เข้ามาในห้องของกวิน

                “อะ....จ้ากกกกก”

                “จะตื่นมั้ย??? เจ้าตัวแสบ” ผู้เป็นแม่ยืนค้ำส่ายเอว

                “คร้าบ....คุณแม่ แหะๆ”

               

                ชีวิตของผมก็เป็นงี้ ออกจากบ้านเกือบจะไม่ทันเข้าแถว คือเอาตรงๆ ก็ไม่ทันและ แต่ที่มันสายแบบไม่น่าให้อภัยเพราะผมมีภารกิจที่ทุกเช้าจะต้องทำ มีที่ที่หนึ่งที่ผมจะต้องไปทุกเช้า สถานที่ลับๆ ของพวกผมนั่นเอง หรือจะเรียกว่าที่กบดานก็ได้ (หัวเราะ) ผมเดินลัดเลาะไปตามทางเดิน ผู้คนเดินกันควักไขว้

                ให้ตายเหอะ วันนี้สายเป็นพิเศษเลย

                ผมรีบมุดช่องแคบของสังกะสีเข้าไป และเจอกันซากงานวันเกิดของผม มันดูน่ารักดี น่ารักเหมือนกับเพื่อนๆ ของผม พูดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ชีวิตนี้จะมีเพื่อนดีดีแบบนี้อีกมั้ยนะ

                ผมรีบนำกระดาษวาดรูปที่เก็บใส่แฟ้มมาด้วยยัดลงไปในหีบเก่าๆ ประจำกลุ่ม พร้อมกับล็อกกรแน่นหนา ตั้งไว้ใต้ต้นไม้ต้นเดิมและเดินจากไปโดยที่ไม่ลืมปิดทางเข้าให้สนิท

     

    เมื่อผมหอบร่างของผมมาถึงโรงเรียนนั้น ก็ผมกับสัญญาณบอกเวลาว่าคาบเรียนแรกมาถึงแล้ว  ตอนนี้ผมกำลังเดินหลบเข้ามาทางพุ่มไม้หลังโรงเรียนก่อนที่จะมุ่งตรงไปที่อาคารเรียนสี่ ห้อง 431 คือเป้าหมายของผม

    ทันเวลาพอดี

    ฟู่ววว.....

    โล่งอก

    ผมเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับสายตานับร้อยจากเพื่อนๆ ในห้อง ทุกคนต่างมองมาที่ผมเหมือนตัวประหลาด ดูเหมือนจะเป็นคาบโฮมรูมของวันอังคารซะด้วย

    ผมเดินเข้ามานั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ บอสริมหน้าต่าง มีกรนั่งเยื้องไปจากด้านหน้าพร้อมกับกรีนที่กำลังฟุบอยู่บนโต๊ะ นินย์นั่งเยื้องออกไปอีกพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน

    _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

    “เอาล่ะ เลิกสนใจก่อน!” คุณครูที่ปรึกษาสาวทุบโต๊ะ และมองลอดผ่านกรอบแว่นหนาเพื่อดูปฏิกิริยาของเหล่านักเรียน เมื่อเห็นว่าเหล่าเด็กนักเรียนเงียบแล้ว เธอจึงว่าต่อ

    “วันพรุ่งนี้จะเป็นการทัศนาศึกษาประจำปี” ยังไม่ทันจะพูดจบเสียงพูดคุยก็ดังขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย

    “ไปคราวนี้ฉันต้องรวบหัวรวบหางบอสให้ได้”

    “โอ้ยยยย – อย่าเลย ฉันว่านางต้องเป็นเกย์แน่”

    “ฉันจะต้องช็อปให้กระจาย”

    บลา บลา บลา สารพัด

    ซุบซิบ ซุบซิบ ซุบซิบ ซุบซิบ

    “หยุดดดดดดดด!!!” ครูสาวทุบโต๊ะพร้อมกับก้มหน้าลง เธอแหงนหน้าขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับกระดกแว่น

    “เอาล่ะ เราจะมาพูดกันให้ชัดเจนอีกที และครั้งนี้ห้ามแทรก เข้าใจมั้ย?!” หญิงสาวเน้นตรงคำว่า ห้ามแทรกจนบรรดาเด็กนักเรียนถึงกับกลืนน้ำลายไปตามๆ กัน

    “พรุ่งนี้ให้นักเรียนเตรียมกระเป๋าสัมภาระพอดีไม่ต้องเยอะมาก” เสียงของนักเรียนทุกคนเริ่มเงียบลงไป ก่อนที่ครูสาวจะพูดต่อ

    “เพราะพรุ่งนี้เราจะไปทัศนาศึกษากันที่ระยอง ทราบนะ นักเรียน!!!”

     

              ณ โรงอาหาร

                “ดีจัง จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนครั้งสุดท้าย” นินต์ว่าในขณะที่กำลังตักสลัดเข้าปาก

                “อื้อ... ฉันก็ดีใจเหมือนกัน” กรีนยิ้มก่อนที่จะดูดนมจนหมดกล่อง  

                “แล้วนายล่ะ กวิน?” นินต์หันไปถามเพื่อนหนุ่มที่ก้มหน้ากดเกม

                “ก็... ไม่ดีเท่าไหร่ เอาเวลาไปเล่นเกมดีกว่า” กวินว่า

                “นี่ปีสุดท้ายแล้วนะเว้ย ไอ้กวินแกยังจะหวงเกมอยู่เหรอวะ?” บอสมองหน้ากวินที่ไม่สนโลก เขายังคงกดเกมอยู่อย่างนั้น

                “ช่างเขาเถอะ บอสเราว่าถึงทะเลจริงๆ อาจจะเจอคนแถวนี้วิ่งรถน้ำตั้งแต่รถจอดก็ได้” กรยิ้มบางๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มของทุกคน

                “อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ” นินต์ยิ้มพร้อมกับมองๆ รอบๆ โรงอาหาร

    “อีกหน่อยพวกเราก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะเว้ย โรงเรียน โรงอาหาร วิ่งหนีครู หลบเรียน กินขนม เจอกันหลังเลิกเรียน อาจจะไม่มีอีกแล้วนะ” นินต์ว่า

    “ไม่หรอก – เชื่อฉันสิ” กรีนยิ้มพร้อมกับวางมือบางลงที่ไหล่เพื่อนสาว

    “อย่ามาก่อดราม่านะเฟ้ยยย!!! เข้ากับบรรยากาศป่ะ?” กวินพูดด้วยน้ำเสียงยียวน

    “ก็มันจริงนี่” นินต์ไม่เถียงต่อ แต่ยังคงยิ้ม ยิ้มให้กับที่ที่หนึ่งที่ทุกคนผูกพัน ตั้งแต่เล็กจนโตต้องตื่นมาและใช้ชีวิตในหนึ่งส่วนสี่ของเวลาทั้งหมดอยู่กับมัน โรงเรียน นี่คงเป็นนิยามของบ้านหลังที่สองโดยแท้จริง

    ในขณะที่พวกเขากำลังมีความสุขอยู่นั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

    “สวัสดี...” ชายหนุ่มเรือนผมสีดำสนิท รองทรงสูง รูปหน้าหล่อเหลาแต่ดูเย็นชา นัยน์ตาสีดำสงบจับจ้องมาที่พวกเขา บัดนี้เขายืนเยื้องห่างออกไปไม่ไกลนักพร้อมกับเพื่อนนักเรียนชายอีกสามคน

    “ไอ้ทศ!!!” กวินกัดฟันด้วยความโกรธ ดูๆ แล้วเหมือนสองคนนี้มีเรื่องค้างคากันเมื่อนานมาแล้ว และตอนนี้เหมือนจะปะทุขึ้นอีกครั้ง

    “ชูววว... อย่าทักทายเพื่อนด้วยคำหยาบคายแบบนั้นสิ ฉันมาหาดีดีเองนะ ....หึหึ” ทศทำท่าทียียวนพร้อมกับหัวเราะในลำคอน้อยๆ

    “แกมาทางไหน ไสหัวไปทางนั้นเลยนะว้อยย!!” กวินเริ่มเสียงดัง

    “โถ่ว... กวินผู้น่าสงสาร ยังไม่ลืมเรื่องราวงี่เง่าๆ ไม่ใช่สิ เรื่องราวของเพื่อนตัวแสบของแกอีกเหรอ” เพื่อนที่มากับชายหนุ่มหน้าหล่อ เริ่มส่งเสียงหัวเราะเหยาะเย้ย

    “ที่รันกับไนซ์ต้องเจ็บตัวเพราะพวกแก พวกเวรเอ้ย!!” กวินยังคงตะโกนดังขึ้นไปอีก ตอนนี้อารมณ์ของเขาเดือดยิ่งกว่าลาวาซะอีก แม้นินต์กับกรีนจะพยายามดึงเขาไว้ก็ตาม

    “จุ๊ๆ.... ก็พวกนั้นมันทำตัวสาระแน สอดไม่เข้าเรื่องเอง”

    “แต่แกทำผิด!! แกก็ต้องได้รับผิด นี่แกเล่นซ้อมเพื่อนพวกฉัน เพื่อไม่ให้พูดอะไรงั้นเหรอ ตอนนี้น่ะได้ แต่สองคนนั้นหายเมื่อไหร่ แกโดนดีแน่”

    “หึ... มั่นใจจัง ไหนล่ะหลักฐาน มีรูปมั้ย? เหอะ ไปกันเถอะพวกเราเสียเวลา” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะจากไป หมัดของกวินตรงไปที่ใบหน้านั้นอย่างจัง ร่างสูงเซไปสักครู่

    “โง่ แกนี่มันโง่จริงๆ” ร่างสูงไม่มีท่าทีว่าจะโต้ตอบ แต่เพื่อนตัวใหญ่ข้างๆ ชกเข้าที่หน้าของกวินอย่างจัง

    “อ้ากก!!” กวินถอยไปด้วยความเจ็บ

    “ไอ้หมาหมู่” บอสทำท่าจะเข้าไปช่วย

                “นักเรียนครับ!!” ทันใดนั้นเสียงร้องของคุณครูคนหนึ่งก็ดังขึ้น พร้อมกับฝีเท้าที่ตรงมาจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

                “ทำไมทำแบบนี้ นายกวิน” ผู้เป็นครูถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า

                “ผมอธิบายได้นะครับ” กวินว่าพร้อมกับใช้มือแตะๆ ที่ปาก ของเหลวสแดงไหลออกมาน้อยๆ พร้อมกับแก้มที่บวมเตงขึ้น

                “พวกผมเป็นพยานให้ได้นะครับ” บอสส่งเสียงด้วยความร้อนใจพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่พยักหน้าให้ครู

                “เรื่องนี้ต้องคุยกันในสภานักเรียน” สิ้นเสียงผู้เป็นครู ทศก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะเดินตามครูไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ทศเป็นหนึ่งในกลุ่มประธานนักเรียน รุ่นที่ 87 ของโรงเรียน ที่มีชื่อกลุ่มว่า เดอะแมน

                กลุ่มประธานนักเรียนที่มีผู้หญิงเพียงคนเดียว เธอชื่อ ฮานะ ส่วนคนอื่นๆ นั้นไซร้เป็นผู้ชายทั้งสิ้น เดอะแมนจะคัดแต่คนมีอธิพลในโรงเรียนเท่านั้น บอสก็โดนทาบทามไปหลายครั้งหลายหน แต่เขายืนยันว่าจะไม่ร่วมกลุ่มเด็ดขาด ทำให้บอสถูกกลุ่มเดอะแมนหมายหัวทันที ส่วนเหตุผลที่ฮานะได้เป็นเลขานุการก็ยังเป็นเรื่องที่คุมเครืออยู่

     

                “เป็นไง เจ็บมั้ย? มีเรื่องอีกแล้วนะกวิน” เด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงนิดๆ ว่า เธอมีหน้าตาน่ารักราวกับเด็กอายุสิบห้า นัยน์ตาของเธอนั้นฉายความสงสารออกมาเต็มประดา เธอหยิบผ้าชุบน้ำซับที่มุมปากของกวินเบาๆ

                “โอ๊ยย ฉะ... ฉันเจ็บนะ รุ่งสาง” กวินทำหน้าเหยเก

                “เจ็บก็อดทนสิ!!” รุ่งสาง เด็กสาวหัวหน้าแผนกงานโภชนาการและการบริบาลของโรงเรียน เธอเป็นเด็กสาวที่หน้าตาน่ารักและเรียบร้อย เป็นที่หมายปองสำหรับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่

                “ใช่กวิน เจ็บนายก็ต้องอดทน” นินต์ยืนมองพร้อมกับอารมณ์บูดๆ

                “ไม่ต้องมาทำสงทำเสียงเลยนะเว้ยยย! ก็คนมันโกรธอ่ะ” กวินเถียงหน้าตาเฉย แม้เขากำลังโดนเช็ดแผลอยู่ก็ตาม

                “โกรธเป็นหมาบ้า ไม่รู้ทำอะไร ก็รู้ว่าไอ้ทศมันอยู่ในเดอะแมน ถ้ามันจะเล่นนายก็ทำได้ นายทำกับมันไว้กี่ครั้งฉันถามเลยอ่ะ? ถ้าเกิดนายโดนโทษหนักล่ะ” นินต์กอดอกพร้อมกับส่ายหน้า

                “.......”

                “มันก็จริงของนินต์นะกวิน” บอสเสริม ในตอนนี้เพื่อนของเขาเดินเข้ามาในห้องพยาบาลกันครบแล้ว

                “นายหุนหันพลันแล่นเกินไปนะกวิน” กรยิ้มยกตาให้หายไป ราวกับว่าเป็นการตักเตือน

                “ใช่ๆ” กรีนเสริม

                “ดะ.... ดะ เดี๋ยวก่อน ทำไม ทุกคนต้องว่าฉันด้วย” กวินยีผมอย่างหัวเสีย

                “ฉันทำเพื่อความถูกต้อง พวกเราทุกคนก็รู้ ไอ้สภานักเรียนเฮงซวยมัน เป็นเพียงฉากหน้า ไอ้พวกขายหน้าตา ทำร้ายคนอื่น นิสัยแย่ๆ พวกเราก็รู้ มันทำอะไร แล้วมันทำอะไรกับเพื่อนเราอีกสองคน จะให้ฉันอยู่เฉยๆ จะให้ฉันไม่รู้สึกอะไรเหรอ?!?” กวินระเบิดความรู้สึกออกมา จนตอนนี้คนในห้องได้แต่เงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรไปสักพัก

                “กรีน... พาฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ” นินต์ตาแดงก่ำเหมือนกำลังจะร้องไห้พร้อมกับดึงมือเพื่อนสาวอีกคนออกไป

                “อะ...อื้อ” กรีนตอบในขณะที่โดนลาก

                “เดี๋ยวฉันไปดูนินต์เอง ฝากกวินด้วยนะคะ” รุ่งสางที่ดูเหมือนจะรู้เหตุการณ์ เดินตามออกไปเงียบๆ บอสและกรนั่งลงข้างๆ กวินพร้อมกับถอนหายใจในนิสัยของเพื่อนสนิท

                “ฉันรู้ว่านายเป็นหวงเพื่อนนะเว้ยไอ้กวิน แต่ว่า สิ่งที่ทำไปวันนี้ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา ถึงนายจะได้ต่อยหน้าไอ้ขี้เก็กนั่นก็จริง แต่ผลลัพธ์ล่ะ? นายต้องเจออะไร มันไม่ได้ช่วยให้เพื่อนเราอีกสองคนหายหรอกนะ”

                “ใช่ ฉันเห็นด้วย ทำอะไรรู้จึกตึกตรองบ้างสิกวิน” กรว่าพร้อมกับรอยยิ้มให้กำลังใจ

                “อื้อ.....” กวินก้มหน้าอย่างเจ็บใจ เขาทำอะไรไม่ได้เลย การที่เพื่อนของเขาต้องนอนโรงพยาบาลสองคืนกับไม่ได้มาโรงเรียนสองอาทิตย์มันทำให้เขารู้สึกไม่ชอบทศมากไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะเรื่องเลวร้ายอะไร มักมีทศอยู่ในนั้นเสมอ

              ไอ้เวรตลัยเอ้ย

                เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนประมาณสองถึงสามคนมุ่งตรงมาที่ห้องพยาบาลอย่างเร่งรีบ

                “กลับมาเร็วกันจริงๆ สาวๆ” บอสว่า

                “ฉะ... ฉันว่าไม่นะ” กรเหงื่อตกนิดๆ บัดนี้ห้องพยาบาลถูกครอบงำด้วยรังสีแห่งความน่ากลัวของชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตู ทุกคนอ้าปากค้าง

                “สวัสดี นายกวิน เชื้อสะอาด นักเรียนชั้น ม. 6 / 1 เลขที่ 1 ฉันว่าเรามีอะไรต้องคุยกันนะ”

                “ครูนำชัย....!!!!

     

     

    สวัสดีครับรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน

    ครบร้อยกันแล้ว อยากจะขอโทษทุกคนเลยที่ไม่ได้อัพยังไงก็เต็มร้อยแล้วเนอะ สนุกไม่สนุกยังไงบอกเม้นต์เลย ช่วงนี้อาจจะดูเอื่อยๆ เรื่อยๆ แต่รับลองหลังจากตอนที่สองไปสนุกแน่ หึหึ (?) คือไรต์ก็อยากรู้ว่ามันโอเคเปล่าและเนอะ คุณผปค. คนไหนยังไม่เม้นต์เม้นต์หน่อยนะ รูบี้น้อยใจแย่ (?) เดี๋ยวก่อน #โดนเตะ ยังไงคิดว่า บทที่สองจะมาลงเร็วๆ นี้เลยเพราะไม่อยากดองพลอตตอนนี้พลอตเด้งไปมาในหัวเยอะมาก ติดอย่างเดียว เวลา 555555 5. ตอนแรกไรต์อยากเปิดอีกเรื่องอยู่นะ (?) อีกแล้ว แต่ไม่ได้หรอก รอเรื่องนี้จบก่อน จะพยายาม รักรีดเดอร์ทุกคนนะครัชชช บาย  

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×