ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สมุดเก็บความคิด

    ลำดับตอนที่ #2 : ลำดับตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 57


     ปลายใบเคียวสีดำที่ส่องแสงละอองเวทย์สีขาวเหมือนหิ่งห้อย ได้คว้านลงที่คอของผมอย่างรวดเร็ว ผมถอยหลังทิ้งระยะห่างออกมาเพื่อที่จะหลบปลายเคียวนั้น

     

              ฉึบ!

     

              เลือดสีแดงฟุ้งกระจายออกจากร่างการ ( กาย ) แม้ว่าจะหลบเลี่ยงจุดตายได้แต่ก็หลบเคียวไม่พ้น ปลายเคียวกวาดลงไปผ่านหน้าอกของผมแม้ไม่ลึกแต่ก็สร้างความเสียหายให้กับผมไม่น้อย

              แถบเส้นเรียว ๆ สีเขียวทางซ้ายบนสุดของจอภาพ มันถูกบีบ ให้ ) แคบลงกว่าเดิมจนเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง ซึ่งแสดงถึงค่า HP ของผมที่เหลืออยู่น้อยกว่า 30% 

              เส้นแถบสีขาวตรงด้านข้างมีตัวเลขบอกค่าพลังชีวิต(เว้นวรรค)ทำให้ผมสามารถคำนวณพลังที่เหลืออยู่ได้ และถ้าสังเกตดี ๆ ก็จะสามารถคำนวณพลังโจมตีของชายตรงหน้าผมได้

               เขาซึ่งมีค่า HP เหลืออยู่เต็มเปี่ยม 100% ในชุดคลุ่ม (คลุมฮู้ดสีดำยาวถึงพื้น ดูเหมือนมัจจุราช  ในมือของเขาถือเคียวเล่มใหญ่สีดำ

              ถ้าหากเขาเป็นมัจจุราชจริง ๆ ละก็ คงมาเพื่อล่าวิญญาณของผมอย่างแน่นอน ก็เพราะว่าตอนนี้  ผมกำลังสู้กับเขาผู้ เปลี่ยนเป็นคนจะดีกว่าตัดผู้ออก )นี้อยู่ และผมกำลังจะตาย...ตามค่าพลังชีวิตที่เหลือไม่ถึง 30% ยิ่งค่าพลังชีวิตน้อยลงเท่าไหร่  ผมก็จะใกล้เข้าสู่เหวแห่งความตายลงไปทุกที แม้ว่าจะไม่ได้ตายจริง ๆ ก็เถอะ อยากจะบอกท่านพี่ว่างงมาก เราจะแก้ใหม่กันตรงนี้ )

    เหวแห่งความตายก็เปิดประตูรอรับผมอยู่ร่ำๆ แม้ว่าผมจะไม่ได้ตายจริงๆ ก็เถอะ

    แบบนี้จะดีกว่ามั้ยครับ ?

     

     

              แต่การถูกฆ่าตายเเล้ว ความรู้สึกเหล่านั้นมีอยู่จริง มันก็เจ็บปวดไม่ใช่เล่น ๆ ใครมั้งละที่ยากถูกฆ่า ผมคนหนึ่งเเหละที่ไม่

    ประโยคงงมาเต็มขั้นแล้วสินะ

                แก้ใหม่เป็นเชิงแบบนี้นะครับ

                ถ้าการถูกฆ่าตายไม่มีผลอะไรก็ดีสิครับ แต่เผอิญว่าในเกม ชื่อเกมของพี่ 555 จำมิได้ การตายหรือการโดนมอสเตอร์โจมตีนั่นระบบได้สร้างโปรแกรมที่ทำให้เรามีความรู้สึกในเกมจริงๆ เพื่อเป็นการที่ให้ผู้เล่นทุกคนรักชีวิตของตนมากขึ้น เพราะฉะนั้นผมคนหนึ่งล่ะครับที่ไม่อยากโดนฆ่า

    งงจริงอะไรจริง.... 55555



               “ฟู้ด....ฮึบ

               ผมสูดอากาศรอบตัวเข้าสู่ร่างกาย  ปรับเปลียน ไม้เอกตรงเปลียน หายไปไหน จังหวะการหายใจพร้อมกับการเคลื่อนไหว  ถือว่าสละสลวยนะประโยคนี้ )

              ในโลกแห่งความจริงร่าง ของผมในตอนนี้คงกำลังหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดเฮือกใหญ่อยู่แน่ ๆ

                คำว่าร่างกับคำว่าของทำไมห่างกันครับ -0- ที่ถูกต้องเป็น

    ในโลกแห่งความเป็นจริง ร่างของผมในตอนนี้คงกำลังหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดเฮือกใหญ่อยู่แน่ ๆ เพิ่มเป็นก็ได้ ไม่เพิ่มก็ได้ แต่แนะให้เพิ่ม )

     

     

     มือที่เย็นเฉียบเหวี่ยงดาบยักษ์สีดำตั้งท่าเตรียมโจมตี แม้จะรู้ว่าหนทางชนะนั้นริบหรี่เพียงใด
    ประโยคด้านบนขอชม ลื่นสลวยอย่างที่ไม่เคยเห็น

               ถึงผมตอนนี้กำลังอยู่ในโลกแห่งเวอร์ชวล  แต่ความรู้สึกเหนื่อยล้าและเจ็บก็เกิดขึ้นจริง ๆ ในโลกนี้ความรู้สึกต่างๆ(เว้น)รวมไปถึงการรับรู้ถึง กลิ่น  หรือ  รส อื่น ๆ ก็มีอยู่ไม่ต่างจากโลกแห่งความจริงเลย  ใช่แล้วทุกอย่างมันช่างสมจริง

    สีม่วงคือ คำตก ควรเติมนะ มันดูงงๆ อ่ะ


              ตัวเลขค่า HP ของผมกำลังลดลงเรื่อย ๆ เพราะเลือดที่ไหลออกมาจากปากแผลไม่ยอมหยุด

              ถ้าหากผมไม่รีบรักษาแผลด้วย Red Potion ละก็ ผมคงตกลงสู่เหวแห่งความตายในไม่ช้า
              ตาย คำ ๆ นี้ผุดขึ้นอยู่ในหัว  การตายในเกมส์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สำหรับผมแล้ว   ผมยังตายไม่ได้  นั้นก็เพราะว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าผมนี้มันเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริง ๆ และมันก็คือบอสที่หาได้ยาก โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกเป็นครั้งที่(ชิด)
    สอง บอสผู้เฝ้าสะพานแห่งการสิ้นสุด บอสตัวแรกของเกมส์นี้ซึ่งไม่สามารถเกิดได้อีกเหมือนบอสทั่ว ๆ ไป 

              (อ่านมาสะดุดคำว่าสอง จะเว้นออกทำไม ) 5555
               ประโยคนี้ไม่มีข้อผิดพลาด แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นแต่ 2.... เท่านั้นแล ต่อๆ

               
    เรียกได้ว่าเป็นบอสที่มีเพียงตัวเดียวในแต่ละแอเรีย(ชิด)ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด(เว้น)ทรัพยากรต่าง ๆ ของเกมส์นี้ก็มีอยู่อย่างจำกัด  

    สีส้มควรเติม


     

              ผู้เล่นจะต้องแย่งชิงกันเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นแล้วก้าวข้ามสะพานแห่งการสิ้นสุด  เพื่อไปยังแอเรียถัดไป ของที่ได้จากการโค่นบอสประจำแอเรียได้นั้นไม่มีใครรู้ ก็เพราะไม่มีใครเคยพบบอสประจำสะพานแห่งการสิ้นสุดเลยสักคน

              และบอสที่อยู่หน้าผมนี้ก็คือบอสประจำสะพานแห่งการสิ้นสุด

              บอสตัวเเรกและบอสตัวสุดท้ายของแอเรียนี้ซึ่งตายเเล้วเกิดมาอีกไม่ได้ ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องชนะ ....ไอเทมที่ได้จากบอสจะเป็นอะไรกันนะ ความคิดของผมที่อยากจะชนะบอสที่เก่งที่สุดในแอเรียแรก   ความรู้สึกของเกมส์เมอร์คนหนึ่ง  ผมคือเกมส์เมอร์คนหนึ่งที่อยากจะชนะอยากแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะไปยังจุดที่สูงที่สุดของโลกใบนี้

    WOW!!.... -- อ่านมาจนถึงตอนนี้ยังไม่สะดุดเยอะ เหมือนแรกๆ ดีดี สู้ต่อไป


              แต่ดูเหมือนความคิดที่จะเอาชนะคงต้องหยุดไว้ก่อน เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ค่าพลังชีวิตของผมลดลงเรื่อย ๆ การจะเอาชนะบอสที่เหมือนมัจจุราชนี้  ไม่สมควรจะมาด้วยตัวคนเดียว

              การจะโค่นบอสด้วยตัวคนเดียวสำหรับเกมส์นี้คงเป็นได้แค่ฝันเท่านั้น แล้วยิ่งเป็นบอสที่เก่งที่สุดในแอเรียนี้อีกยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
              ความคิดที่จะหนีออกจากที่นี้แล้วไปรวบรวมเพื่อนกลับมาสู้ใหม่ก็ได้ มันดังก้องออกมาในห้วงแห่งความคิด มันเป็นความคิดที่ไม่เลวเลยจริง ๆ ตามสัญชาตญาณของมนุษย์

              แต่ปัญหาคือผมไม่สามารถออกจากที่นี้ได้นั้นก็เพราะนี้เป็นฟิลด์พิเศษไม่สามารถใช้ไอเทมวาปได้ ดังนั้นจะต้องออกจากฟิลด์นี้ให้ได้ก่อน  แล้วใช้ไอเทมวาปกลับเมืองไปตามทุกคนมาช่วย
              ชายใบหน้าเรียวดวงตาสีอำพันดำสวมคลุมฮู้ดสีดำกำลังควงเคียวไปมา ซึ่งดูเหมือนคนจริง ๆ แต่เป็นมอนสเตอร์ เดินเข้ามาหาผม ก่อนจะพูดถึงสิ่งที่ผมคิด
               "
    หนี้ออกไปไม่ได้หรอก ในระยะ กิโลเมตรรอบฟิดล์จะถูกตัดการเชื่อมต่อทั้งหมด"
     
             
    อ่ะ !! พระเอกเป็นหนี้มอนตอนไหน ? 5555555555555 -0- ไม่ควรใช้ 1 แบบนี้นะ หนึ่งกิโลเมตรจะดีกว่า 1 2 3ควรใช้เมื่อ ประมวลดาเมจมอนเตอร์

              ความหวังในการหนีไปตั้งหลักของผมถูกทำลายลงในชั่วแห่งการนึกคิด หากคำพูดจากเขาคนนี้เป็นความจริง  แปลว่าประตูที่ผมเข้ามาก็จะถูกตัดออกไปด้วย

    เห็นตรงดำๆ มั้ย? ฝากแก้ด้วย คือไม่รู้เต๊ะจะแก้ยังไง

              ผมไม่อาจจะออกไปจากที่นี้ได้เลย หนทางเดียวที่ผมจะรอดตายจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ก็คือต้องฆ่ามัจจุราชผู้นี้ให้ได้

    ควรแก้เป็นตนนะครัช 


              การจะเอาชนะในสถานการณ์ที่เสียเปรียบสุด ๆ ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก แต่ก็ใช่ว่าไม่มีหนทางชนะ 
            Critical Point ตรงจุดตาย

              สำหรับเกมส์แนว MMORPG เกมส์อื่น คริติคอลจะสร้างความเสียหายที่รุนแรงกับมอนสเตอร์แต่สำหรับเกมส์ Spectre หากโจมตีที่จุดตายได้เเก่ ตัดคอ หัว  หัวใจ หรือจุดอ่อนของมอนสเตอร์นั้น ๆ แล้วติดคริติคอลจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ตัวนั้นได้เลยโดยไม่มีเงื่อนไขแม้กระทั่งบอสเองก็ด้วย 

    อ่านมาถึงตรงนี้ โกงโครตตตตตตตตตตตตตตตต............
        
               สำหรับเกมส์แนว MMORPG ที่ชื่อว่า Spectre นี้ ผู้เล่นจะได้รับบทบาทที่แตกต่างไปตามอุปนิสัยของผู้เล่นนั้น   ผู้เล่นจะถูกเรียกว่าเพลย์เยอร์   และเพลย์เยอร์ก็จำเป็นจะต้องเลือก รูท  สำหรับตัวละครของผู้เล่น   คอยปลุกปั้นร่างอวาตาร์ที่เหมือนร่างเงาตัวเองในอีกโลกหนึ่ง   โลกที่ปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเราคือใคร   และผมคนหนึ่งที่เป็นเพลย์เยอร์ คอยปั้นร่างอาวาตาร์ของตัวเองให้เหนือกว่าผู้เล่นคนอื่น  

              เพื่ออะไรนะหรอ ? 

    แก้เป็น น่ะเหรอ นะครับ หรอ ภาษาวิบัติ อย่าใช้ นะ จะเป็นเสียงสูง น่ะ จะเป็นเสียงต่ำ เช่น นะคะ 
    คุณครูคะ หนูขอไปเข้าห้องน้ำนะคะ
    ครูคะ หนูไปห้องน้ำมาก็เลยเข้าเรียนช้าน่ะค่ะ 


    เข้าใจมั้ยครัชช !!!

     

               เหตุผลง่าย ๆ ที่ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้ว อยากจะเก่งขึ้นยากจะเก่งกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ไม่ยากจะเเพ้ใครทั้งนั้น นี้คือโลกของฉัน โลกแห่งเกมส์ โลกที่สามารถทำทุกอย่างได้ตามต้องการ   โลกที่ตอบสนองเราได้

    อ อ่างตกไปไหน

     

              ซึ่งต่างจากความเป็นจริง เหนือสิ่งอื่นใดโลกใบนี้คือความจริงสำหรับผม  

              บทบาทที่ผมได้รับในโลกแห่งนี้หรือเรียกว่า คลาสอาชีพ ก็คือ MBS <Magical black Sword>เมจิคอล แบล๊ค ซอร์ด อาชีพพิเศษที่มีเพียงคนเดียวในเกมส์เป็น  อาชีพลับ  ที่ได้จากภารกิจสุดโหด   นั้นก็คือการโค่นบอสตัวแรกแห่งเมืองเริ่มต้นด้วยตัวคนเดียว ถึงมันจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง   เเต่ผมก็ได้มันเป็นรางวัลสำหรับฆ่าบอสตัวแรกของเกมส์    แต่นั้นก็ไม่ใช่เงื่อนไขทั้งหมดของมัน เรียกได้ว่าอาชีพที่ได้รับมานี้มันมากับ ดวง ซึ่งเป็นสกิล Passive ที่ติดตัวมาตั้งแต่สร้างอวาตาร์และสกิล Passive ที่เรียกว่า ดวง นี้ก็มาจากการสุ่มสกิลพิเศษที่ได้รับอีกทีหนึ่ง เรียกได้ว่า ดวงทั้งนั้น

              เคียวสีดำถูกวาดออกมาเป็นวง มันกวาดผ่านสายลมตรงมาที่ผม

       

              เคร้ง!

     

              ผมยกดาบเหวี่ยงรับแรงปะทะกับเคียว ละอองเวทย์ฟุ่งกระจายเหมือนเกล็ดหิมะสีขาว และนั้นคือสกิลคอมโบโมชั่นของอาชีพผม ดาบเวทย์ ไว้สำหรับตั้งหลักพร้อมกับสวนกลับ ในชั่วพริบตาสกิลคอมโบโมชั่นถูกเซตสวนกลับทันที

              ร่างกายของผมถูกดีดออกมาอัตโนมัติ   เพื่อตั้งหลักก่อนจะพุ่งเข้าสวนกลับกับศัตรูตรงหน้า   ตามสกิลโมชั่นที่ถูกเซตไว้ การเคลื่อนไหวของผมจะเป็นแบบอัตโนมัติซึ่งเร็วกว่าความเป็นจริงหลายเท่า

              ร่างที่ขยับรวดเร็วราวกับมีสปริงคอยแอคถีบการเคลื่อนไหวอยู่

    พรู๊ดดดดดดดดดดดด--- ถีบ จะถีบอะไร แอคทีฟ ครับคุณพี่ ถีบ แบบนี้มันถีบแบบ นะ 5555555 
    โห่ววว เก่งๆ หาจุดบอดยากขึ้นเยอะ 

     

              ทันทีที่ร่างกายทำการเคลื่อนไหวถูกต้อง  ตามโมชั่นที่เซตไว้สกิลคอมโบก็จะออกมาทันทีตามที่เราต้องการ ในขณะเดียวกันเราก็ไม่สามารถยกเลิกการเคลื่อนไหวนั้นได้จนกว่าจะจบโมชั่น

              ดาบสีดำยักษ์พุ่งตรงเข้าหาชายสวมคลุมฮู้ดถือเคียวอย่างรวดเร็วและผมมั่นใจว่าจะเเทงตรงจุดหัวใจตามที่ผมคาดไว้

              "เก่งดีนิ แต่ยังเก่งไม่พอนะ"

              คำพูดที่ดูเหมือนเหยียดหยามสำหรับเกมส์เมอร์มือโปรอย่างผม

              การได้ฟังคำพูดนี้จากมอนเตอร์ซึ่งถูกสร้างขึ้นทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีชีวิตจริง ๆ คงทำให้ใครหลายคนแปลกใจไม่น้อย พร้อมกับความสงสัยว่าเจ้านี้เป็นคนหรือเปล่า ไม่น่าจะมีคำพูดแบบนี้มาจากมอสเตอร์ได้ มันเกินกว่าระบบAIจะแสดงผลได้แล้ว
              ทั้งที่ผมคิดว่าคงไม่พลาดแล้วแท้ๆ เคียวสีดำที่ถูกกวาดออกไปย้อนกลับมาเหมือนมีสปริงดีด

     

              เพร้ง!

     

              เสียงเหมือนกระจกนับร้อยถูกก้อนหินใหญ่ยักษ์ปาแตกกระจายรวดเดียว   นั้นคือสัญญาณที่บอกว่าสกิลคอมโบโมชั่นของผมถูกยกเลิก ด้วยสกิลขัดขวางการโมชั่นที่หาได้ยาก  

              การใช้สกิลของผมล้มเหลวเป็นไปได้ยังไง  สกิลหยุดการโมชั่นงั้นหรอ ?    
              เพื่อความแน่ใจว่าผมถูกสกิลอะไรเข้าไป   ผมหันสายตาไปยังภาพหน้าจอทางเกท HP ซึ่งขึ้นสถานะแปลกประ
    หลายเป็นรูปหัวกระโหลกอยู่เสี้ยววินาทีแล้วก็หายไป

    หลาด


              หัวกระโหลก ?
              สกิลพิเศษเฉพาะบอสสินะ คงรวมอยู่กับจำพวกสกิลใบ้ สตัน ไม่ก็สกิลที่สร้างความวุ่นวายอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยพบ

              ถ้าเป็นสกิลพิเศษของบอสละก็ คงเป็นไม้เด็ดของบอสสินะ ในที่สุดก็เผยสกิลเจ๋ง ๆ ออกมาสักที

              สายลมเย็นพัดมาจากไหนไม่รู้เข้ามาในระหว่างการต่อสู้ ทำให้คบเพลิงที่ติดกับผนังหินปูนดับลงไปหนึ่ง
              "หึ ๆ น่าเสียดายนะที่ข้ามีสกิลทำลายคอมโบโมชั่น"


    แค่นี้ก่อน ไม่ไหว พักตาแล้ววววว -0- เก่งๆ จุดผิดเท่าที่หาไม่เจอ แต่อาจจะหลบใน ขอโทษด้วยถ้าไม่ละเอียดจริงๆ เอาล่ะ เจอกัน พน - นะครับ


              คำพูดของชายสวมคลุมฮู้ดพร้อมกับหัวเราะเยาะเหมือนกับกำลังจะบอกว่านายไม่มีความสามารถพอจะต่อกรกับฉันได้  เขาเหวี่ยงเคียวไปมาก่อนวางเคียวทาบไว้บนบ่า   แล้วหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนเด็ก ๆ เจอของเล่นที่ถูกใจเป็นดวงตาของความสนุก...
              แต่สำหรับผมตอนนี้มันเริ่มไม่สนุกแล้ว HP ที่ลดลงตลอดเวลา เพราะปากแผลที่มีเลือดไหลออกมา  ต่อให้ไม่ถูกเขาฆ่า  ผมก็คงได้ตายเพราะค่าพลังพลังชีวิตที่ลดลงเรื่อย ๆ หมดก่อน  ในช่วงเวลาแบบนี้  แสงแห่งความสิ้นหวังกำลังสาดส่องลงมา ก็มีภาพของชายคนหนึ่งถูกฉายขึ้นมาในห้วงแห่งจิตวิญญาณ
              จะยอมแพ้ไม่ได้ มายอมแพ้ตรงนี้ก็ไม่มีวันก้าวต่อไปอีกได้

              เมื่อหยุดเดินแล้วครั้งหนึ่งการจะเดินตามให้ทันคนที่ก้าวไปก่อนนั้นมีเพียงต้องวิ่งเท่านั้นเพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อที่จะก้าวไปให้ถึงคน ๆ นั้น ผมจะต้องวิ่ง  วิ่งต่อไปจะหยุดไม่ได้ นั้นคือความคิดของผมในตอนนี้

              เพื่อที่จะตามหาชายคนนั้น ผู้ซึ่งสร้างเกมส์นี้ขึ้นมา แล้วหายตัวไปแบบไม่มีวันกลับ ผมเชื่อว่าคน ๆ นั้นต้องอยู่ในโลกแห่งนี้ผมจะต้องวิ่งต่อไป   ตามหาเขาให้เจอ แล้วเคลียร์เกมส์ที่เขาคนนี้เป็นคนสร้างขึ้นมาให้ได้ เพื่อที่จะนำเขากลับมาในโลกแห่งความจริงและทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้
              "หึๆ"
              ผมหัวเราะเยาะเย้ยหยันดูถูกตัวเองแค่บอสแอเรียแรกก็อยู่ในสภาพทรุดโทรมแบบนี้   แล้วยังจะคิดเคลียร์เกมส์ที่ไม่รู้ว่าสิ้นสุดที่ไหนอีก ช่างเป็นความคิดที่ไม่รู้จักประมาณตนเลย
              ผมยกดาบขึ้นเหนือไหล่ขวาอีกครั้งตั้งดาบไว้กับระนาบสายตา  ปลายดาบชี้ไปทางศัตรู   ผมมองมันด้วยสายตาที่มุ่งมั่น พร้อมกับชี้ปลายดาบไปท้าทายบอสประจำแอเรีย อย่างไม่กลัวตาย
              "หึ ๆ นายมันทำให้สนุกได้ถึงกึ๋นจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เจอกันครั้งแรกแต่ข้ารู้สึกถูกชะตากับเจ้าจริง ๆ "
               ชายสวมคลุมฮู้ดยกเคียวขึ้นมาเหวี่ยงปลายเคียวชี้มาทางผม สายตาของเขายังคงเหมือนเดิมกับตอนแรกไม่เปลียนแปลง 

              คำพูดที่ไม่สมควรหลุดออกมาจากปากของมอนสเตอร์อีกครั้ง คำพูดนี้ควรจะเป็นของเพลย์เยอร์เสียมากกว่า  ผมรู้สึกตะลึงกับระบบ AI และภาพเวอร์ชวลนี้ไม่น้อย  ดูยังไงเขาก็เหมือนเพลย์เยอร์ทั่วไป  ไม่น่าจะมาเป็นบอสได้  หรือไม่ก็เป็น NPC ถึงแม้ว่ามอนสเตอร์บางประเภทจะมีหน้าตาเหมือนมนุษย์จริง ๆ และ  พูดภาษาได้แต่มันก็แค่พูดตาม Voice Automatic ที่ถูกตั้งไว้ซึ่งสังเกตุได้ง่าย แต่นี้มันไม่ใช่ นี้มันคือเพลย์เยอร์ผู้เล่นทั่วไปอย่างแน่นอน   ผมคิดอย่างนั้น แต่ยังไงเขาก็คือมอนสเตอร์เป็นบอสประจำแอเรียที่มีตัวตนและสกิลเป็นปริศนา เป็นผู้เฝ้าสะพานแห่งการสิ้นสุดนี้....
              "...ฮึบ"
              ผมสูดลมเข้าจนเต็มปอด ตั้งสมาธิและคิดหาโอกาสสวนกลับ ต่อให้ต้องเจอความมืดแบบไหน   ความกลัวแบบไหนก็จะยอมเเพ้ไม่ได้
              สมองของผมเริ่มประมวลผลสกิลของฝ่ายตรงข้ามและวิธีการต่อสู้

              บอสตนนี้มีสกิลอยู่เยอะก็จริงแต่ส่วนใหญ่เป็นสกิลระยะกลางซึ่งแพ้การประชิดติดตัว  เคียวเองก็เป็นอาวุธโจมตีระยะกลาง  สกิลทำลายคอมโบโมชั่นน่าจะ  คูลดาวน์อยู่  ไม่น่าจะใช้ต่อติด ๆ กันได้ สำหรับระบบของ Spectre นั้นยุติธรรมมาก ยิ่งมีความเป็นไปได้มาก ก็จะมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนมากตามไป และนั้นแหละคือระบบของเกมส์นี้
              ผมคิดการใช้งานเรียงคอมโบโมชั่นภายในหัว พร้อมกับสั่งใช้งานสกิลที่มีคูลดาวน์ถึง 7 วัน ด้วยความรู้สึกเสียดาย
              "Speed urge"

              ผมกระซิบกับตัวเองเบา ๆ เพื่อสั่งใช้งานสกิลเสริมพลังประจำอาชีพระดับแรร์  สกิลนี้จะทำให้ความเร็วของผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มากสุดสามเท่า อยู่ได้นานเพียง 3 วินาที ปกติแล้วสกิลนี้ผมจะไม่นำมาใช้หากไม่จำเป็น

              เพราะความเร็วที่ได้จากสกิลคอมโบโมชั่นมันก็เร็วอยู่แล้ว ถ้าบวกกับสกิลเสริมอย่าง Speed urge ที่เสริมเข้าไปอีกถึง 3 เท่า เรียกได้ว่าเป็นสกิลท่าไม้ตายสายเสริมพลังของผมเลยก็ว่าได้
              อากาศธาตุเริ่มหมุนรอบตัวอย่างเงียบงัน   นี้คือสัญญาณบอกว่าสกิลได้เริ่มทำงานแล้ว เท้าขวาก้าวออกไปด้านหน้าก่อนที่เท้าซ้ายจะทรงตัวดันถีบพื้นพุ่งไปยังศัตรูด้านหน้า  ด้วยความเร็วอันหน้ากลัว

              '1!'

              ผมนับเลขแสดงถึงชั่วพริบตาสกิลในใจ

              ดาบสีดำเปล่งหมอกสีแดงออกมา   มันคือละอองเวทย์ผสานกับกำลังภายใน   ที่ออกมาจากร่างกายถูกเรียกว่า   'พลังยุทธ'   เสริมพลังในการทำลายและโอกาศในการโจมตีติดคริติคอล

              ดาบที่ชุ่มไปด้วยละอองสีเลือดถูกเหวี่ยงจากมือขวาเข้าใส่ชายสวมคลุมฮู้ดโดยไร้ความปราณี
              ชายสวมฮู้ดไม่ได้ขยับร่างกายแต่อย่างใด เขายังคงอยู่ในท่าเดิม    ไม่รู้สึกตัวเลยว่าดาบเล่มดำ   ที่มีพลังเปี่ยมล้นกำลังฟาดเข้าหาร่างของเขา

              เขาหันสายตามามองผมพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก นั้นทำให้ผมคิดว่าเขาอาจจะรู้อยู่แล้วว่าการโจมตีด้านหน้าเป็นแค่ตัวหลอก   เขาจึงไม่จำเป็นต้องขยับตัวและ   ความจริงแล้วผมกำลังลอบโจมตีเขาจากด้านหลังด้วยสกิลโมชั่นประจำอาชีพ 

              'แย่แล้ว!ผมได้แต่คิดในใจ ซึ่งไม่ได้พูดออกมา
              ผมไม่อาจหยุดสกิลโมชั่นที่กำลังใช้งานอยู่ได้นี้คือจุดอ่อนของอาชีพสายคอมโบโมชั่น   ซึ่งการเคลื่อนไหวทุกอย่างหลังจากเปิดใช้สกิลคอมโบโมชั่นร่างกายจะขยับไปตามสกิลนั้น  

              เคียวสีดำไม่ได้ฟันลงมาที่ผม เขาหันกลับไปด้านหลังซึ่งทำให้ผมแน่ใจขึ้นว่าเขารู้จักสกิลโมชั่นที่ผมใช้อยู่
              บ้าจริง ! เจ้านี้มันปีศาจชัด ๆ จะโกงเกินไปแล้วรู้จักแม้กระทั้งประเภทสกิลที่เราใช้
              ในชั่วพริบตานั้นเองร่างกายของผมถูกหมอกสีดำคลุมร่างก่อนจะหายไปอยู่ด้านหลังเขา นี้คือสกิลวาปสายเวทย์มนต์ดำสร้างหมอกขึ้นปกคลุมตัวเองแล้วย้ายตัวเองไปอีกที่หนึ่ง ก่อนที่ตัวเองจะโผล่ออกมาพร้อมกับหมอกดำที่จางลงไป

              '2!'

              เคียวสีดำถูกกวาดผ่านอากาศโค้งตรงมายังร่างกายของผม  ที่โผล่มาด้านหลังเขา หากโดนเคียวเล่นงานตรง ๆ แบบนี้คงได้ตายแน่ ค่า Hp ที่เหลือไม่ถึง  25%  ถ้าถูกโจมตีด้วยอาวุธของบอสเต็ม ๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะรอดหรือตาย  ต้องหยุดสกิลโมชั่น!! 

               เพื่อป้องกันการโจมตีครั้งนี้ในระหว่างห้วงของความคิดการจะยกเลิกสกิลโมชั่นที่สั่งใช้งานไปเเล้ว  และกำลังโมชั่นอยู่นั้น ไม่มี เหมือนลูกธนูที่ถูกยิงออกไปแล้วไม่อาจย้อนกลับมามาเเก้ไขใหม่ได้

              '3!'

               สิ้นเสียงวินาทีสุดท้ายปลายดาบสีดำถูกฟาดจนหักกระเดนลอยคว้างอยู่บนอากาศ   และสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนหายไป ความอึดอัดและความตึงเครียจกับเสียงซาวด์เอฟเฟคของลมที่อยู่รอบ ๆ ตัว   ถูกพัดออก สกิล Speed urge หยุดทำงานแล้ว ผมทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น ร่างกายอ่อนยวบไม่มีแรง มันช่างเป็นวินาทีที่เเสนลุ้นจริง ๆ
              ผมเงยหน้ามองชายสวมคลุมฮู้ดสีดำเขาถือเคียวที่มือซ้ายมองลงมาที่ผม  รอยยิ้มสนุกและดวงตาที่เต็มไปด้วยความเริงร่า ทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจได้แต่ขมวดคิ้วยุ่งไปตามอารมณ์
              "หยุดคอมโบโมชั่นด้วยคอมโบโมชั่นอีกอันที่สามารถโจมตีและหยุดเคียวของข้าได้พร้อมกันเก่งมาก คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีวิธีแบบนี้ด้วยเจ้าทำได้ยังไงกัน ? "
              ชั่ววินาทีที่สองผมเปลี่ยนโมชั่นจากการโมชั่นฟันรัวด้านหลังตามที่เซตไว้ เปลี่ยนเป็นสกิลโมชั่นของอาชีพดาบโค้งซึ่งเป็นอาชีพพื้นฐาน

              ดาบถูกกวาดหมุนออกเป็นวงตัดร่างกายของบอสผ่านทะลุไปถึงขั้วหัวใจและแน่นอนว่าติดคริติคอลด้วย หลังจากนั้นดาบก็วาดผ่านร่างของบอสออกไปเเล้วย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้นซึ่งเคียวได้พุ่งเข้ามาที่ร่างของผมพอดี
              ด้วยแรงปะทะและวิถีโค้งที่ต่ำกว่าทำให้ผมต้องเสียไอเทมอาวุธระดับแรร์ไปอีกหนึ่งชิ้น   นั้นก็คือดาบดำของผมนั้นเอง ถึงแม้จะเสียไอเทมระดับแรร์ไป   แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้ถือว่าคุ้มค่ามาก
               "...สนุกมากฮ่า ๆ หลังจากนี้ฝากตัวด้วยนะ"
              คำพูดแปลก ๆ ของชายสวมคลุมฮู้ดที่เหมือนมัจจุราชนี้ทำให้ผมไม่เข้าใจว่าเขาอยากจะบอกอะไร

              แต่เมื่อมีหน้าต่างพร้อมกับเสียงเอฟเฟคเหมือนพลุวันเกิดระเบิดออกมากับตัวอักษรและหน้าจอระบบสีสี่เหลี่ยมพื้นผ้าสีฟ้าซึ่งมีด้านยาวมากกว่าด้านกว้างพร้อมกับอักษรสีม่วงที่เขียนว่า     

    Victory

    ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ

    ???

    จำนวนเงินที่ได้รับ

    ???

    ไอเทมที่ได้รับ

    การ์ดมัจจุราชแห่งความมืด

    ได้รับภารกิจลับ

    ตามล่าบาปทั้ง 7 บทที่ 1 ราคะ

    <ติดตามลายละเอียดทั้งหมดดูได้ที่หน้าต่างวินโดว์คะ>
    ประกาศจากระบบ : แอเรียซีเเครทวันเดอร์ เมืองแห่งการเริ่มต้นถูกเคลียร์แล้ว

              ผมได้ปลดล๊อคแอเรียใหม่แล้ว ถึงจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันที่มาพร้อมกับความฟลุคก็เถอะ  แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือบอสที่อยู่ด้านหน้าผม เกท HP ของเขาหายไป แต่เขากลับไม่หายไป ปกติถ้ามอนสเตอร์ถูกฆ่าตาย มันก็หายไปด้วยพร้อมกับซาวด์เอฟเฟคที่ฟังเหมือนกระจกแตก ถึงจะพูดยังงั้นแต่บอสตนนี้ไม่ได้หายไปทันทีอย่างที่ควรจะเป็น
              "อย่ามองกันด้วยสายตาเหมือนเห็นผีสิ" ชายสวมฮู้ดกล่าวขึ้นมาแถมยังทำท่าทางเขินอาย ๆ ความอึดอัดและน่ากลัว ก่อนหน้านี้หายไปเสียจนหมดไม่มีเหลือ 
              ผมก็ไม่ได้ใส่ใจท่าทีแบบนั้นเท่าไหร่หรอกนะ  แต่ที่ผมแปลกใจคือทำไม บอสนี้  ถึงเหมือนเพลย์เยอร์ทุกกระเบียดนิ้วอย่างนี้  

              แถมการตอบสนองก็ไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป คำพูด คำจา ก็แตกต่างจากมอนสเตอร์ตนอื่น คิ้วของผมขมวดยุ่งขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ หน้าของผมตอนนี้คงไม่ต่างจากเห็นผีจริงละมั้ง
               "...@#$%^..." สิ้นเสียงบ่นงุบงิบที่ไม่เป็นประสาคนของเขา ร่างกายของเขากลายเป็นโพลิกอนแตกกระจายหายไป  พร้อมกับซาวด์เอฟเฟคที่ควรจะเป็น ถึงผมจะยังรู้สึกงง ๆ อยู่มั้งน่ะ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมัน อาจจะเป็นบอสอีเว้นท์แบบใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จก็ได้หรือไม่ก็อาจจะเป็นบัค
              ผมลุกขึ้นจากพื้นเมื่อค่า Energy ฟื้นตัว  ขยับบิดร่างกายไปมาปรับสภาพก่อนจะหยิบ Red Potion มาดื่มโชคยังดีที่ค่าพลังชีวิตเหลืออยู่มากถึง 17% หลังจากรักษาเบื้องต้นเรียบร้อย  ผมก็เริ่มการสำรวจมองไปรอบตัว ห้องมืด ๆ ที่มีความสว่างจากคบเพลิงเท่านั้น

              เสียงประตูเปิดดังขึ้นด้านหน้าผม  ซึ่งเป็นทางยาวที่มืดมิด มองไปยังไงก็มองไม่เห็นว่าข้างหน้ามีอะไร
              "...ลองไปดูก็แล้วกัน" 
              ผมเดินตรงเข้าไปพร้อมกับร่ายเวทย์แสงนิมิต มีแสงจุดเล็กลอยนำหน้าผม คอยเปิดเส้นทางที่มืดจนมองไม่เห็น

              เมื่อผมเดินไปสุดทาง ประตูเหล็กแวววาวบานใหญ่สูงถึง 1 กิโลเมตร เปิดอยู่ ลวดลายของประตูนั้นเป็นรูปนางฟ้าถูกโซ่ตรวนรัดไว้  ถึงจะดูสวยงามแต่ให้ความรู้สึกที่ไม่ดีเท่าไหร่มันดูหน้ากลัวเสียมากกว่า  ภายในประตูที่เปิดออก   มีแต่หมอกสีดำมองไม่เห็นเลยว่าด้านในมีอะไร 
              "...นี้นะหรอ...ประตูที่เชื่อมโยงกับแอเรียใหม่...น่ากลัวแฮะ"
              ผมพูดพึมพำกับตัวเอง แล้วค่อย  ๆ  เดินเข้าไปสู่แอเรียใหม่ รอยยิ้มที่มุมปากปรากฏขึ้น ในที่สุดก็เข้าใกล้จุดหมายอีกนิดแล้ว ความสนุกของโลกใบนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×