ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    •.★*...Purple World ...*★.•

    ลำดับตอนที่ #2 : ทำไมเกย์ต้อง "สีม่วง"

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 58


    ทำไมเกย์ต้อง "สีม่วง"

     

    “ทำไมเกย์...ต้องสีม่วง?” จึงเป็นคำถามยอดฮิตลำดับต้นๆว่าเพราะเหตุใดสีม่วงถึงเป็นตัวแทนเต็งหนึ่งสะท้อนความเป็นเกย์

     

     

    จริงๆ การฝังความเชื่อเรื่องสีเป็นสัญลักลักษณ์ทางเพศ มีมาตั้งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2ืืโดยสีที่แทนเพศที่สามอย่างเราๆ ในตอนแรกไม่ใช่สีม่วง แต่เป็น "สีชมพู"

     

     

    เมื่อค่ายกักกันนาซีของอีตาฮิตเลอร์@เยอรมันตะวันออกแบ่งจำแนกนักโทษหรือเชลยทางการเมืองโดยการใช้ “สี” กำหนดกลุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการบดบี้จี้ตัวมาลงโทษ&เป็นเครื่องมือสนองอารมณ์  และที่สำคัญเพื่อสร้างความอับอาย ให้ “เหล่านักโทษ” สูญเสียอิสระภาพความเป็น “คน” เพราะทั้ง 7 กลุ่มที่แบ่งจัดเป็นพวกที่อุดมการณ์ขัดแย้งแนวคิด “นาซี” ทั้งสิ้นเช่น กลุ่มนักโทษบูชาระบอบประชาธิปไตย ,กลุ่มอารยัน ยิวกลุ่ม คาทอลิกนอกรีต และ กลุ่มเกย์ (HOMOSEXUAL) !!!!

     

     

     

    ลักษณะของแถบป้ายมีรูปทรง 3 เหลี่ยม

    ฐานอยู่ด้านบน-หัวแหลมอยู่ด้านล่างโดย “ชาวเกย์” จัดให้อยู่ในหมวดสี “ ชมพู” ดูเหมือนจะลัลล้าแต่แสลงใจยิ่งนักว่ากันว่านักโทษชาวเกย์มีมากถึง 25,000 ตนเลยทีเดียว...BIG COMMUNITY!

     

     

    ซึ่งก่อนหน้านี้.....

    “นาซี” รังเกียจเดียดพวก"จีจี้" ประหนึ่ง “นรกชิงมาเกิด”ขนาดทหารต้องเดินขบวนต่อต้าน&โน้มน้าวกล่าวหาชาวเราให้จมธรณี

    จากนั้นเป็นต้นมา...

    “ สีชมพู” ก้อกลายเป็นหนึ่งในสีตัวแทนชาวเราที่มาจากการจองจำ “จิตวิญญาณ&ตัวตน”ชาวเราในช่วงยุค 30

     

     

    ส่วนสี “ม่วง” จะเรียกว่า VIOLET หรือ PURPLE ก็เถอะเป็นที่โจษจันสนั่นเมืองและกลายเป็นสีประจำตัวชาวเรา

    เริ่มจากตรงนี้  เมื่อยุค 60 สังคมชาวเพศทางเลือกทั้ง “เกย์ ทอม ดี้” ถูกต่อต้านอย่างออกรสทั้งรสหวานก้อต้านนิ่มๆ , รสเปรี้ยวก้อแกล้งชาวเราสารพัดหรือแต่รสเผ็ดก้อต้องออกฏกหมายไม่ให้ “พวกเรา” ผุดเกิดเหมือนเช่นที่ซานฟานซิสโก@สหรัฐอเมริกา...เมืองเสรีภาพที่ปากกะใจบิดเบี้ยว

    และที่ “สโตนวอลล์ STONEWALL ”  ที่แห่งนี่เกิดปรากฏการณ์น้ำผึ้งหยดเดียวระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ผู้ที่เกลียดเกย์เข้าใส้ VS ชาวเราเพศทางเลือกเมื่อตำรวจบุกตรวจบาร์เกย์..ปะทะ&ทำร้ายเกินกว่าเหตุ  จนเพื่อน“ ทอม” ของเราถึงกับหมดลมหายใจจากนั้นชาวเราจึงรวมพลัง “เพศที่ 3 ” ต่อสู้เรียกร้องความไม่เป็นธรรมเรื่อยมา

     

     

    จนกระทั่ง …“the San Francisco Examiner ” หนังสือพิมพิ์ค่ายยักษ์ออกข่าวจิกกัดด่าประณาม “ พวกเรา” เป็นซี่รี่ส์ชุดใหญ่อย่างมีอคติประมาณหายใจก้อยังหาว่าผิด (มนุษย์) ...พวกเราอดทนจนถึงขีดสุด

    และในวันที่ “31 ตุลาคม 1969”

    วันปรากฏการณ์สีม่วงบันลือโลกจึงเริ่มขึ้นชาวเรากว่า 60 ชีวิตเดินขบวนต่อต้านการนำเสนอข่าวสารไร้มนุษยธรรมหน้าอาคาร “the San Francisco Examiner” อย่างสงบนิ่งแต่พนักงานหนังสือพิมพิ์ผู้หิวกระหายความเกลียดชังสาดหมึกโครมใหญ่ใส่ผู้ประท้วงจากชั้น 2 และน้ำหมึกนั่นเองที่มีสี “ ม่วง ”จากนั่นพวกเรานำมือน้อยๆแปะ “หมึกม่วง” ที่เจิงนองระเรี่ยระราดทั่วท้องถนนไปพิมพิ์-แปะประทับประจานความอัปยศของผู้กดขี่ศักดิ์ศรีเพศเราโดยรอบบริเวณอาคาร “the San Francisco Examiner”

    กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของชาวเรากลายเป็นที่มาของวัน “Bloody Friday of the Purple Hand. ”

    และในที่สุดสี “ ม่วง” ก้อกลายมาเป็น SYMBOL

    การเรียกร้องจิตวิญญาณของ “ เพศที่ 3 ” นับแต่นั้น

     

     

     

    จากที่เราพอรู้ว่า “ สีม่วง ”

    เป็นสีมี 2 วรรณะระหว่างร้อนและเย็นเป็นสีที่ก้ำกึ่งครึ่งกลาง...อาจเป็นอีกที่มายของสัญลักษณ์ “เพศสายกลาง”นอกจากนี้ยังมีความหมายแฝงซุกซ่อนตามวัฒนธรรมต่างๆอีกมากมาย

     

    1. ม่วงอ่อน ๆ บ่งบอกถึงความโรแมนติกที่ชวนคิดถึง

     

     

    2. ม่วงเข้มๆ DARK หม่นอารมณ์...

    สื่อความมืดมน หดหู่ ..หมดหวัง

     

     

    3.หรือแม้แต่ภูเขาก้อยังซึมเศร้า เช่น “ PURPLE MOUTAIN”@CHINA

     

     

    4. แต่ถ้าผู้หญิงช้ำรักจนชิน...

    ก้อต้องเป็น “ ม่วงแม่หม้าย ”

     

     

    5. ในอียิปต์โบราณ “ม่วงแดง” เป็นสีแห่งราชวงค์

     

     

    6. ขณะที่พระสังฆราช..ก้อยังต้องมีสี “ ม่วงชุ่มแดง”

     

     

    7.แม้แต่โหราศาสตร์ “อาเมทีสต์” พลอยสีม่วงตัวแทนอิสระแห่งชาวกุมภ์

     

     

    8. เรื่องลึกลับอำนาจดำมืดมี “ สีม่วง” เป็นสีคู่ตำนาน

     

     

    9.ในญี่ปุ่น... “ สีม่วง” คือสีแห่งความตาย!!

     

     

    10. แล้วใครจะเชื่อว่า “ สีม่วง” จะเป็นสัญลักษณ์ของบาปอัคคาร้ายลึก

     

     

    11.แต่ในสหรัฐมีการมอบเข็ม “หัวใจสีม่วง” สดุดีทหารกล้า

     

     

    12.ส่วน “ลีโอนาโด นาวินซี” จิตรกรเอกเชื่อสี “ม่วง”ทำให้ IDEA บรรเจิด

     

     

    13. มีดอกไม้สีม่วงชื่อว่า GAY FEATHER ด้วยนะเค่อะ

     



    ที่มา : http://gay-dontmiss.exteen.com/20100725/entry B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×