ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {1D fic} Winter love -Larry/Zouis

    ลำดับตอนที่ #1 : - part 1 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 58


     








    สวัสดีครับ

    .

    .

    .

    .

     

    ผม แฮร์รี่ สไตล์ส

     

     

    ผมอายุยี่สิบเอ็ดปี อยู่ปี3  กำลังศึกษาอยู่ในคณะแพทย์ฯ ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศครับ

     

    ไม่หน่า คุณอย่ามองผมเป็นไอแว่นหนา วันๆอ่านแต่หนังสือสิวะครับ

     

    คนเรียนหมอ ไม่จำเป็นต้องดูเรียนขนาดนั้นนี่นา  แต่ละวันของผมแสนสบายครับ ไปเรียนสักห้าหกชั่วโมง แล้วพาสาวไปเดินเล่น  ตกดึกเหล้าก็ถึงคอ หลังจากนั้นก็หิ้วผู้หญิงกลับหอครับ

     

     

    ชีวิตดูเรื่อยๆเอื่อยๆ ไร้อนาคตเอามากๆ พ่อแม่เคยขู่ผมว่าหากผมไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ จะส่งผมไปต่างประเทศ ซึ่งคำขู่นั่น ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ

     

    ผมรู้ว่าพวกท่านทำอะไรผมไม่ลงหรอก ผมเป็นลูกคนเล็ก พวกท่านก็ย่อมเอาใจเป็นพิเศษ ไหนจะพี่สาวแสนสวยที่ตอนนี้ดูแลเรื่องบริษัทในเครือของตระกูลอยู่

     

     

    ตระกูลของผมทำงานเกี่ยวกับยาและโรงพยาบาลครับ ผมเลยต้องเรียนแพทย์ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะ ผมชอบ แต่โดยนิสัยผมมันขัดกับลุคแพทย์นั่นโดนไร้ข้อกังขา

     

     

    เลียม ว่าที่หมอหมาก็บอกแบบนั้น เขาบอกว่าผมไม่น่าเป็นหมอ น่าจะเรียนคณะวิศวะฯหรืออะไรเถื่อนๆพวกนั้น

     

    ลู! มึงนี่ ลุกขึ้นเลย!  นั่น ไอสัส อย่าอ้วก

     

    .

    .

     

    เอ่อ..แฮร์รี่ ฉันขอโทษนะ ไอลูมันอ้วกเลอะเต็มหน้าห้องนายเลย

     

     

    เสียงตระโกนของใครสักคนดังขึ้น ผมยันตัวลุกขึ้นแล้วเปิดประตูไปมองพวกมัน

     

    ร่างสูงๆของใครสักคน ที่ผมก็จำไม่ได้กำลังหิ้วปีกคนตัวเล็กอยู่  ใบหน้าเมาๆแดงๆนั่นผมจำได้ทันที ว่ามันคือเพื่อนข้างห้องของผมเอง

     

     

    ไม่เป็นไร รีบพาเข้าไปเช็ดตัวเถอะ

     

    ผมว่าปัดแล้วจะเดินหันหลังไปรองน้ำใส่ถัง เพื่อจะมาถูหน้าห้อง แต่เสียงของไอสูงคนเดิมมันทำให้ผมชะงักฝีเท้าแล้วหันไปมองมัน

     

    คือ ลูมันทำกุญแจหายว่ะ ฝากมันไว้ก่อนได้มั้ยวะ

     

    แล้วห้องมึง?..

     

    คือ แฟนกูไม่ชอบให้ใครมานอนในห้องกูว่ะ แล้ววันนี้แฟนกูก็มาด้วยแล้ว..

     

    โอเค กูเข้าใจแล้ว เอามันเข้ามาดิ

     

    ว่าเสร็จก็เดินไปหยิบถังน้ำมาทำความสะอาดอ้วกหน้าห้อง กลิ่นเหล้างั่งๆนั่นโชยอบอวนไปทั่ว  หลังจากผมทำความสะอาดเสร็จ ก็พบว่าไอสูงนั่นพาไอเตี้ยนามลูอิสมานอนแผ่ที่กลางห้องของผม

     

    ผมใช้ขาเขี่ยมันนิดๆ แต่ก็โดนมันปัดออกแล้วหันไปนอนตะแคง

     

     

    กลิ่นเหล้านี่โชยชิบหายเลยครับ

     

    ขาของผมก้าวไปหยิบกะละมังใส่น้ำแล้วมาวางข้างๆตัวมัน บิดผ้าเตรียมจะเช็ดตัวให้มัน มือเล็กๆนั่นปัดมือผมไปมาเหมือนไม่ต้องการให้มายุ่งกับร่างกายมันเท่าไหร่

     

     

    ตาสีเขียวของผมลอบมองใบหน้าของมัน ที่ตอนนี้เริ่มมีไรหนวดขึ้นที่คาง เริ่มเป็นเคราไรหนวดนิดๆ ผมสีน้ำตาลดูยุ่ง เปลือกตาบางๆที่ปิดลง ในเวลาปกติ ผมไม่ได้มองหน้ามันใกล้ๆขนาดนี้หรอกครับ ถึงจะอยู่ห้องตรงข้ามกันก็ตาม

    ใครๆก็รู้ว่า ลูอิส ทอมลินสัน  เข้าถึงยาก ปากร้ายมาก แต่ละคำที่ด่านี่เฉือดเฉือนหัวใจเลยครับ  แต่เห็นแบบนี้มันก็เพื่อนเยอะนะ มันโด่งดังไปทั่วมหาวิทยาลัยพอๆกับผม

     

     

    ผมพยายามจะเช็ดตัวให้ไอตัวดีนี่หลายครั้ง แต่ก็ฤทธิ์มันก็เยอะเสียมากมาย  ขนาดเมายังฤทธิ์มากขนาดนี้ คิดสิครับ ตอนมันปกติ จะเป็นยังไง  ตัวมันนี่ ถ้าไม่ใช่คนรู้จักมาแตะโดนตัว ตาคมๆนั่นจะตวัดจิกมองจนรู้สึกผิดเลยครับ แต่นี่เพราะมันเมา มันเลยไม่รู้เรื่อง ผมพูดเลย ว่าถ้าเป็นเวลาปกติ ผมโดนมันใช้ตาจิกมองผมจนผมดำดินหายไปแล้ว

     

     

     

    มึงจะนิ่งได้ยัง

     

     

     

    ผมว่าพลางกอดอกมอง คิ้วเข้มนั่นที่โด่งรั้นเหมือนนิสัยดื้อรั้นของไอเจ้าตัว   มือมันก็ปัดป่ายรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่มโมโห รวบข้อมือมันแล้วคลานไปคร่อมมันด้านบน เพื่อที่จะได้เช็ดตัวมันง่ายๆ เพราะไอตัวเล็กนี่ก็เอาแต่ดิ้นไปดิ้นมา ไม่ยอมให้เช็ดคราบอ้วกเสียที

     

     

    ผมรวบสองมือมันไว้บนหัวมันแล้วจับ มันนอนนิ่งเหมือนหมดแรง ปากนั่นพูดเสียงอู้อี้ออกมา แต่ผมก็ฟังไม่ออกเท่าไหร่ เพียงแต่รู้ว่า ในความฝันของมัน มันต้องมีความสุขมากแน่ๆ เพราะปากบางของมันนี่คลี่ออกยิ้มกว้าง

     

     

    ค่อยๆกลั้นหายใจแล้วก้มลงไปเช็ดใบหน้ามันทีละนิด จนหน้าของผมกลับมันห่างกันเพียงนิดเดียว ขนาดเมา ผมของมันยังหอมมากๆ จมูกโด่งนั่นมันโด่งจนจะเสียดสีกับปลายจมูกผมอยู่แล้ว ไรหนวดสีน้ำตาลเข้มนิดๆ มันทำให้ลูอีดูเป็นไอเถื่อนซะเมื่อไหร่

     

     

     

     

    สะบัดหัวแล้วรีบลุกขึ้นมาจากตัวมัน จัดการเช็ดตัวให้เรียบร้อยแล้วลากมันมาบนเตียงนอน จัดการห่มผ้าให้มันหลับสบาย

    แล้วลงมานอนที่พื้นกระเบื้องเย็นๆ แขนแกร่งของผมทำหน้าที่เป็นหมอนหนุนหัว  หมอนใบเดียวในห้องก็ถูกไอคนบนเตียงมันแย่งไปโดยที่มันเองก็ไม่รู้ตัว

     

     

    จริงๆผมไม่จำเป็นต้องเสียสละห่าเหวนี่เท่าไหร่ แต่ผมคิดไม่ออกว่า แค่มันมานอนในห้องผม พรุ่งนี้เช้ามันต้องอาละวาดแรงแน่ๆ แล้วถ้าผมไปนอนข้างๆมัน โดยสภาพแก้ผ้า(ด้านบน) มันต้องด่ายันโคตรเหง้าผมแน่ๆ และก็เป็นผมเองที่รู้สึกผิด ..

     

     

     

    แต่ละครั้งที่มันด่าผม ผมรู้สึกผิดมาก ทั้งๆที่มันนั่นแหละเป็นคนผิด แต่เจ้าตัวก็ดูไม่แคร์อะไรใครอยู่แล้ว

    ขนาดตอนนั้น มันเปิดเพลงดังลั่นเพราะห้องมันมีปาร์ตี้ แต่ผมกำลังอ่านหนังสือสอบ ผมเสนอหน้าไปด่ามัน มันกลับบอกว่า มาอ่านหนังสือสอบอะไรตอนชาวบ้านเขาจะปาร์ตี้กัน ผมนี่รู้สึกผิดมากๆ นั่นดิ ทำไมคณะผมมันสอบช้ากว่าคณะอื่นวะ

     

     

    นึกถึงใบหน้าเล็กที่โกรธกริ้วนั่นก็ตลกพิลึก รู้จักกันมาสามปี มันทำหน้าบึ้งบ่อยกว่ายิ้มอีก เห็นกันอยู่ทุกวัน  แต่ปากของมันไม่ค่อยจะยิ้มสักเท่าไหร่ มีบางทีที่ผมแอบไปเห็นว่าลูอียิ้มเฉพาะกับคนสนิทๆ  เขากับมันไม่ได้คุยกันมาสักพักใหญ่แล้ว แต่เหมือนพรุ่งนี้จะได้คุยกันเยอะแยะเลย..

     

     

     

    ฝันดีนะมึง

     

     

     

     




     

     

     

     

    ไอเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”

     

     

    มึงตื่นเลยนะ

     

     

    ไอแฮร์รี่ มึงตื่น!!”

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

    กูบอกให้มึงตื่น  กูรู้ว่ามึงแกล้งหลับ มึงตื่นเดี๋ยวนี้!!!”

     

     

     

     

     

    นั่นแหละครับ

     

     

    ผมแกล้งหลับจริงๆ

     

    ผมไม่อยากจะตื่นมาเจออะไรแบบนี้ เมื่อคืนเหมือนทำใจได้ แต่เปล่าเลย

     

    เออ

     

     

    เอออะไร มึงทำอะไรกู  ทำไมกูใส่เสื้อมึง ทำไมมึงแก้ผ้า มึงพูดดีๆนะ!”

     

     

    ผมถอนหายใจแรงๆแล้วยันตัวลุกขึ้น พร้อมๆกับที่ลูอีรีบลุกขึ้นประจันหน้ากับผม ตานั่นจิกผม กดให้ผมต่ำลงจนอยู่ๆผมก็รู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ

     

    ก็ร้อน เลยไม่ใส่เสื้อ

     

    กูไม่สนว่ามึงร้อนไม่ร้อน แต่ทำไมกูใส่เสื้อมึง!”

     

    พอผมตอบคำถามมัน มันกลับบอกว่ามันไม่สนว่าทำไมผมถอดเสื้อ เห็นมั้ยครับ ยังไงมันทำอะไรไม่เคยผิด

     

     

    ก็เสื้อมึงเลอะอ้วก  ไปดูเสื้อก็ได้ไป อยู่ที่พื้นห้องน้ำ

     

    ขาของผมเตรียมจะก้าวหนีออกจากห้องนอน แต่แล้วเหมือนอะไรหนักๆมากระแทกโดนหัวผม นิ้วเรียวแตะที่กลางหัวเบาๆ พบว่ามีของเหลวสีแดงติดอยู่

     

    มันคือเลือด

    ..

    .

    .

    .

     

     

    แล้วรอยที่มือกูนี่ล่ะ!!!”

     

     

    มันว่าพลางชูมือของมันให้ผมดู เป็นรอยมือจ้ำๆ ที่ผมรวบมือเช็ดตัวให้มันนั่นแหละ ไม่คิดเหมือนกันว่าแรงของผมจะทำให้มันเป็นรอยขนาดนี้

     

     

    พยายามจะเช็ดตัวให้ แต่มึงดิ้น กูเลยรวบไว้

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    มันไม่ว่าอะไร  ขาสั้นนั่นพาตัวเองไปนั่งที่โซฟาแล้วเปิดดูทีวีดู สายตาที่จ้องทีวี ดูเหมือนไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่ ปากบางสีสดเม้มแน่นเหมือนกลั้นอารมณ์อะไรสักอย่าง

     

    จะไม่ขอโทษรึไง

     

    .

    .

    .

    ไม่น่ารักเลยนะ ลูอีส ทอมลินสัน

     

     

    ผมเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเมื่อไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากนั่น ผมกุมถุงน้ำแข็งที่ผมประคบอยู่กางกบาลผมแน่น  ขายาวเดินมาที่ระเบียงพร้อมกับเบียร์กระป๋องในมือแล้วนั่งดื่มเงียบๆ

     

    บรรยากาศมันช่างน่าอึดอัด มันเหมือนมีเมฆสีดำลอยไปมาอยู่เหนือยหัวของผมกับมัน  มันก็คงรู้สึกแบบเดียวกับผม เพราะครั้งล่าสุดที่ผมคุยกับมัน มันจบไม่ดีเท่าไหร่

     

    หลังจากวันนั้น  ไอตัวเล็กนี่จากที่เห็นผมไม่มีตัวตนแล้ว ผมยังเหมือนฝุ่นเหมือนเงาเข้าไปใหญ่ 

     

    เหมือนเงาในที่ที่ไม่มีแสง ..

     

     

    .

    .

    .

    .

    จากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวัน ลูอีมันเดินไปมาอยู่ในห้องผมจะครบวันอยู่แล้ว มันเองก็ดูอึดอัดจนผมรู้สึกได้

     

    ผมหยิบสเต๊กชิ้นหนาจากเตาอบใส่จาน วางข้างสลัดสีเขียวที่มีน้ำสลัดสีขาวราด แล้วเดินไปวางไว้บนเคาร์เตอร์ ตรงหน้าที่มันนั่งอยู่

     

    มันเงยมองหน้าผมหน่อยๆแต่ก็ยอมกินแต่โดยดี

     

    ตอนมันก้มกินอยู่ ก็เหมือนมีออร่าทะมึงๆลอยไปมาทั่วห้อง มันดูครื้ม ดูเหมือนเมฆที่ฝนใกล้ตกเต็มที

     

     

    ถ้าอึดอัดมาก ทำไมไม่ไปอยู่กับไอเซนมันล่ะ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

    ลูอีที่นั่งกินสเต็กเงียบๆนั่นชะงักแล้วเงยมองหน้าผมนิ่งๆ แต่ผมรู้ว่าสีหน้า การกระทำแบบนั้นของมันคือ โมโหมากๆ มือของมันกำแน่น จนเล็บจิกเนื้อที่มือมันแล้วมั้ง

     

    ทำไมไม่ไปหาเซน แฟนของมึงซะล่ะ

    .

    .

    .

     

    โอเค

     

    มันว่าพลางวางซ้อมที่จิ้มเนื้อสเต๊กกระแทกลงจานกระเบื้องดังลั่น ขาของมันยืดตรงเต็มส่วนสูงแล้วทำท่าจะเดินออกไป

     

    เดินออกไปเหมือนที่มันเคยเดินออกไปจากห้องนี้นั่นแหละ

     

    หลังเล็กนั่นค่อยๆไกลผมไปเรื่อยๆ ใบหน้าเล็กๆของมันก้มงุด เสียงถอนหายใจหนักๆดังขึ้น ร่างกายของผมเหมือนเซถอยหลังไปติดตู้เย็น เมื่อไอคนตัวเล็กที่ถอนหายใจวิ่งมาชกหน้าผมแรงๆ มือของมันยังกระหน่ำชกลงมาที่ใบหน้าผม เสยคางผม จนเลือดไหลลงมาตามใบหน้าทีละหยด ทีละหยด

     

    ผมนั่งพิงกับตู้เย็น ชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นอย่างหมดสภาพ ปล่อยให้ไอคนข้างหน้าชกหน้าของผมให้มันหนำใจ นั่งนิ่งๆเป็นกระสอบทรายเหมือนที่เคยทำ

     

     

    มึงอย่ามานิ่ง! ตอบโต้กูสิวะ!! คิดว่าเท่มากรึไง ปล่อยให้กูต่อยอยู่แบบนี้!!”

     

     

    เสียงแหบๆนั่นตวาดใส่ผมดังลั่น เสียงเหมือนคนวิ่งมาร้อยกว่ากิโล เหงื่อเม็ดแล้วเม็ดเล่าไหลลงมาจากใบหน้าของมัน  ค่อยๆไหลลงคางทีละเม็ด ผสมรวมกับน้ำตาที่ไหลอยู่ ..

     

     

    มันร้องไห้..

     

     

    ร้องทำไมกัน..

     

     

    มือที่เจ้าตัวเคยบอกว่ามันหยาบนั่นกำลังกำกางเกงตัวเองแน่น  มันไถลมานั่งคุกเข่าข้างหน้าผม ปากแดงๆที่มีแผลเหมือนถูกฟันกัดมาตลอดทั้งวันนั้น เม้มเป็นเส้นตรง เหมือนพยายามกลั้นเสียงสะอื้น ไหล่เล็กสั่นเทาด้วยความโกรธหรืออะไรผมก็ไม่แน่ใจ

     

    นิ้วเรียวของผมเชยปลายคางมันให้เชิดขึ้น สบตากับดวงตาสีอความารีน เหมือนมีม่านน้ำบางๆที่ก่อขึ้นเอ่อในดวงตานั่น เหมือนกำแพงที่จะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ หากผมเผลอไปแตะมันเข้า

     

    ร้องทำไม

     

     

     

    มึง..

     

     

    ทำไม กูทำไม..

     

    มันไม่ตอบอะไร  แขนที่มีแต่รอยสักของมันยันตัวเองลุกขึ้น มือหยาบนั่นปาดน้ำตาตัวเองแรงๆแล้วถอนหายใจอีกรอบ หัวเล็กนั่นพยักหน้าให้ตัวเองแล้วรีบเดินออกไปจาก เสียงปิดประตูดังลั่นเหมือนครั้งล่าสุดที่มันปิด  ผมมองภาพนั้นที่ค่อยๆเลือนหายไป หลังเล็กที่ค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆ เหมือนวันนั้น ที่มันเดินห่างผมไปทีละก้าว ทีละก้าว จนระยะทางผมกับมันห่างกันมากขึ้น จากหนึ่งก้าว เป็นสองก้าว จากสองก้าวเป็นสาม สี่ และห่างจนไม่มีหน้าจะกลับไปคุยกันอีก

     

     

     

     

     

    Writer talk :

     

    สวัสดีค่า  ฟิคนี้เป็นชายรักชาย Larry Zouis มั่วๆปนกันไป สุดท้ายลูมันจะได้กับใครต้องคอยดู....

    คำหยาบ มีบ้าง เพราะลูอีในฟิคของเราเป็นคนนิสัยดื้อรั้นแบบนั้นค่ะ เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่าน

    ลูอีหยาบคายบ้าง แต่เวลาน่ารักนี่ก็น่ารักสุดๆนะเอออออออออ /อวยเมนทำไม

     

    ฟิคนี้คิดว่าจะเป็นฟิคเรื่องแรกที่จะแต่งให้จบค่ะ เพราะเคยแต่งไว้หลายเรื่องมาก ไปกันครึ่งเรื่องแล้วเลิกแต่ง (อ้าว)

    ดีหรือไม่ดี คอมเม้นท์มาเถอะค่ะ อ่านทุกอัน  จะทวงฟิคจะทวงจะด่าจะติ คอมเม้นต์มาเลย ชอบอ่านมาก 5555555555555555555555555555555555555555

     

    ภาษาไม่ดี ไม่สวย แต่อยากแต่งค่ะ 

     

    Vote – comment  ให้ด้วยนะคะ เลิ้บ / ปาหัวใจใส่รัวๆ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×