คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ประกาศฉบับที่ 1 จากประธานชมรมรักษ์ภาไทยใช้ให้ถูก
ประกาศฉบับที่ 1 จากประธานชมรมรักษ์ภาไทยใช้ให้ถูก
รหัส 001-111151-02
จุดประสงค์
ประการที่หนึ่ง
เนื่องจากภาษานั้น เป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร ในแต่ละวัฒนธรรมท้องถิ่นก็มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ภายใต้เวิ้งฟ้ากว้างใหญ่แห่งนี้ ปัจจุบันกลับแคบเพียงหนึ่งหน้ากระดาษเท่านั้น ด้วยระบบการสื่อสารสมัยใหม่ เชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าด้วยกัน ภาษาซึ่งเป็นสื่อที่ใช้ส่งสารรับสารนั้น ย่อมเกิดการแลกเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจผิดเพี้ยนไปจากเดิม หรืออาจเกิดสิ่งใหม่ขึ้น
ประการที่สอง
เพื่อประกาศจุดยืนของชมรม
ความว่า
ก่อนอื่นจะขอกล่าวถึงความเป็นไปของภาษานั้น จะขอแบ่งเป็น 2 ประเภท
1.ภาษาตาย
ภาษาที่ตายนั้น คือภาษาที่หยุดนิ่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการ หรือไม่มีการใช้ในชีวิตประจำวันอีก อาจถึงขั้นสูญหาย
2.ภาษาเป็น
ภาษาที่ยังมีการใช้อยู่อย่างต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการ ที่เปลี่ยนแปลงง่ายที่สุดคือ เสียง เนื่องจากการที่คำใดคำหนึ่งมีการเปล่งเสียงออกไปหลายๆ ครั้งจะเกิดการเพี้ยนของเสียงได้ เช่น เพราะฉะนั้น เป็นเพราะงั้น
ภาษาไทยเองก็เช่นกัน เมื่อยังคงธำรงอยู่นั่นหมายถึง ยังคงมีการใช้ และคงมีการเปลี่ยนแปลงไป ถ้าลองนึกย้อนไป สมัยพ่อขุนรามคำแหง คำว่า มึง กู นั้นถูกใช้โดยทั่วไปไม่เว้นแม้แต่เจ้าบ้านเจ้าเมือง ทว่าในปัจจุบัน กลับกลายเป็นคำหยาบคาย นี่จึงเป็นข้อเท็จจริงในปัจจุบันว่า ภาษาไทยได้วิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน และยังคงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ทางชมรมจึงมีมติที่จะประกาศจุดยืนว่า
1.ชมรมรักษ์ภาษาไทยใช้ให้ถูกนี้ มิได้ตั้งขึ้นเพื่อสร้างความแตกแยกในสังคมแต่อย่างใด
หากผู้ใดมีความเห็นเป็นอย่างอื่น ซึ่งอาจสวนทางกับเรา ทางชมรมฯก็เคารพในความคิดเห็นของผู้อื่นตามหลักการประชาธิปไตย อนึ่ง ขณะเดียวกันก็พร้อมยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ส่วนการตัดสินใจปฏิบัติตามหรือไม่นั้น เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของทางชมรมที่จะกระทำการใดก็ตาม ที่เห็นว่าเหมาะสม
2.ชมรมรักษ์ภาษาไทยใช้ให้ถูกนี้ ตั้งขึ้นเพื่อถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับภาษา
3.ชมรมรักษ์ภาษาไทยใช้ให้ถูกนี้ มีการจำกัดความคำว่า ภาษาวิบัติ ส่วนตัว ซึ่งระบุใน “ประกาศว่าด้วยเรื่อง ภาษาวิบัติ” ซึ่งไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตของประกาศฯ
ความคิดเห็น