คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ❀ LACUNA | Part 3
LACUNA
-a blank space, a missing part-
จริงๆวันนี้ชานยอลก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาเช้าหรอกนะ แต่เขาอายเกินกว่าจะอยู่ตอนที่เซฮุนเปิดกระดาษที่เขาเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อคืนเขากังวลเกี่ยวกับอีกฝ่ายจนแทบนอนไม่หลับแต่ก็ไม่กล้าปลุกมาพูดตรงๆ เขาเลยนั่งเขียนกระดาษให้ตอนกลางคืน ทำเอาเขาไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว เขาหวังว่าเซฮุนจะได้อ่านมันและเข้าใจพ่อแม่ของตัวเองมากขึ้น ส่วนบรรทัดสุดท้ายเขาลบทิ้งตอนอ่านทวนซ้ำ เขาคิดว่ามันเป็นประโยคที่น่าอายเอามากๆ เขาคิดอยู่สองนาน ก่อนจะใช้น้ำยาลบคำผิดลบมัน และหวังว่าเซฮุนจะไม่ได้อ่านบรรทัดนั้น
วันนี้ทั้งวันเขาไม่ได้รับข้อความจากเซฮุนเลย เขาสงสัยว่าเขาเขียนอะไรผิดไปหรือเปล่า บางทีเขาอาจจะทำให้เซฮุนโกรธโดยที่ไม่รู้ตัว แต่สมองกลับพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่าเซฮุนกำลังเรียนอยู่
เมื่อถึงเวลาเลิกคลาส ชานยอลก็รีบเดินออกจากตึกเรียน เพื่อกลับคอนโด แต่แล้วเขาก็พบกับคนที่เขารอรับข้อความมาทั้งวัน
“พี่ชานโยลลลลลล” เสียงเรียกจากคนที่ร้องห่มร้องไห้เมื่อคืน ตอนนี้อารมณ์ดีแล้วงั้นหรอ
“มาที่นี่ได้ไง” เขาค่อนข้างตกใจกับการที่เซฮุนมายืนรอเขาหน้าคณะ
“ก็ผมออกจากโรงเรียน แล้วก็เดินไปซื้อบัตรรถไฟฟ้า เพราะว่าผมลืมพกบัตรมา แล้วก็เดินขึ้นรถไฟขบวนที่...”
“เดี๋ยว เดี๋ยว พอเลย ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น” เขารีบหยุดก่อนที่อีกฝ่ายจะพล่ามยาวไปมากกว่านี้ เขารู้ดีว่าเซฮุนกำลังกวนเขาอยู่
“แล้วหมายถึงอะไรล่ะครับ” ทำเป็นมาถามเด็กนี่!!!
“หมายถึงมาทำอะไรที่นี่” เขาทำหน้าจริงจังใส่เซฮุน
“ก็เห็นว่า มีใครบางคนแถวนี้ต้องการสีสันในชีวิต คิคิคิ” เดี๋ยวนะ เขาลบไปแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมเด็กนี่ถึงรู้ได้ล่ะ
“ม-ไม่ใช่สักหน่อย” เขารีบปฏิเสธ
“ไปกันเถอะครับพี่ชานยอล สัปดาห์หน้าผมมีสอบ พี่ต้องรีบติวให้ผม” แต่เซฮุนไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของเขาเลยแม้แต่น้อย ว่าแล้วเซฮุนก็ดึงแขนเขาให้เดิน
เขาเดินไปตามแรงที่เซฮุนลาก ระหว่างทางเซฮุนก็เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง บางเรื่องก็ตลกจนเขาหลุดขำออกมา แต่เซฮุนก็ยังชอบล้อเขาเวลาเขาขำ เขาไม่เข้าใจว่าเขาขำแล้วมันผิดตรงไหนกัน
จนกระทั่งถึงคอนโดของเขา เซฮุนก็จัดการเปิดประตูห้อง พร้อมถอดรองเท้าเก็บเข้าตู้เป็นที่เรียบร้อย เรียบร้อยมาก ชานยอลล่ะปลื้มจริงๆ เซฮุนเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะพร้อมกางสมุดจด และกล่องดินสอขึ้นมา เขาพบว่าในกล่องดินสอของเซฮุนนั้นเต็มไปด้วยเครื่องเขียนสีชมพู คงจะชอบสีชมพูเอามากเลยสินะ เพราะตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเซฮุนก็ใส่เสื้อสีชมพูและเด็กนี่ก็กินนมชมพูปั่น คุมโทนชีวิตจริงๆ
“นี่ นี่พี่ชานยอลอย่ามัวแต่เหม่อสิครับ” เซฮุนใช้ปากกาจิ้มแขนเขาที่กำลังยืนอยู่หน้ากระดาน
“พี่ไม่ได้เหม่อสักหน่อย งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า”
ชานยอลบรรยายเรื่องสงครามโลกไปเรื่อยๆ เขาสังเกตว่าอีกคนตั้งใจจดเนื้อหาที่เขาพูดลงสมุดด้วยความบรรจง จนบางทีก็จดไม่ทันที่เขาพูด ทำให้เขาต้องพูดช้าลงเพื่อให้อีกฝ่ายจดทัน
หลังจากที่เขาสอนเรื่องสงครามโลกจบแล้ว
“จบแล้วล่ะ” ชานยอลพูดขึ้นเมื่อสอนเนื้อหาจนจบ
“ขอบคุณครับ”
“สอบแค่นี้ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“แค่นี้แหละ อ่านที่จดไปก็ทำได้แน่นอน” เขามั่นใจมาก ว่าเนื้อหาที่เขาสอนนั้นครบถ้วน
“ถ้าผมสอบได้คะแนนเต็ม ผมขอรางวัลได้ไหม” เซฮุนเงยหน้าขึ้นมาพูดพร้อมส่งสายตาเป็นประกายมาให้เขา
“ก็ได้นะ” กล้าขอ พี่ปาร์คก็กล้าให้
“สัญญาก่อนว่าต้องให้ผม ห้ามปฏิเสธ” ทำไมต้องมาสัญญงสัญญาอะไรกัน เขาไม่เข้าใจ
“อะอะก็ได้ สัญญา”
“ถ้าผมได้เต็มนะ...พี่ต้องไปเดทกับผมวันนึง” เซฮุนพูดพร้อมยิ้มกว้าง
“ห้ะ เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วยเนี้ย”
“พี่สัญญาแล้วนะ แค่นี้แหละ คิคิ ผมกลับก่อนนะ”
“ด-เดี๋ยวสิ..” ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรต่อเซฮุนก็โค้งลา แล้ววิ่งออกไปจากห้องเขาเป็นที่เรียบร้อย
อะไรของเด็กนั่น แต่ว่าเซฮุนน่ะหรอจะทำได้เต็ม เขาส่ายหัวแล้วขำเบาๆกับข้อเสนอของเด็กนั่น
-LACUNA-
20%
เซฮุนรีบวิ่งออกมาก่อนที่พี่เขาจะได้ทันค้านอะไร ฮ่าฮ่าฮ่า เขาคิดข้อเสนอนี้มาทั้งวัน โดยมีแบคฮยอนเป็นคนช่วยเขาคิด ขอบคุณมากนะแบคฮยอนเพื่อนรัก นี่มันข้อเสนอที่ดีที่สุดในสามโลก
ครั้งนี้เซฮุนต้องได้เต็มโว้ย เขารีบตรงดิ่งกลับบ้าน โดยไม่ลืมที่จะซื้อขนมกับข้าวเย็นติดไม้ติดมือ คืนนี้เขาจะอ่านหนังสือถึงตี 2 !!!!! เพราะของรางวัลมันช่างล่อตาล่อใจเหลือเกิน
นี่คงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ที่เขากางหนังสือประวัติศาสตร์มาอ่านเลยก็ว่าได้ เขาแทบจะต้องปัดฝุ่นออกจากหนังสือกันเลยทีเดียว ถึงแม้เขาจะเกลียดวิชาประวัติศาสตร์มากแค่ไหน แต่ครั้งนี้เขาจำใจอ่านมันด้วยความตั้งใจ ถ้าเพื่อนของเขามาเห็นเขาสภาพนี้คงต้องพากันหัวเราะแน่ๆ
กาแฟกระป๋องที่สามถูกยกขึ้นดื่ม เพื่อต่อสู้กับหนังตาที่หนักอึ้ง หนังสือนี่อย่างกับยานอนหลับ แค่เปิดก็ง่วงได้ เขาหาวออกมาประมาณรอบที่ร้อยได้แล้ว พอไม่มีพี่ชานยอล ประวัติศาสตร์ก็กลายเป็นวิชาที่น่าเบื่อเหมือนเดิม
“ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย” เขาพูดขึ้นมาลอยๆใส่หนังสือเล่มหนา
ขอหลับสักงีบล่ะกันนะ เดี๋ยวมาอ่านต่อ ว่าแล้วเซฮุนก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะ
.
.
.
.
.
‘….Hey hey hey hey
Hey hey hey hey
Hey hey hey hey
뜨거운 리듬에 가슴이 뛰잖아
달아올라 지금 내 심장이
Come on shake it 너의 본능을 깨워
이 시간이 지나가기 전에
A-ya-ya 오늘 밤 나는 Dancing King
나에게 빠져들어
A-ya-ya 오늘 밤 나와 Dance all night…’
เดี๋ยวนะ เดี๋ยว เสียงนี้มันคุ้นๆ เหมือนอะไรสักอย่าง ที่เขาได้ยินมันทุกเช้า เห้ยยยยย เสียงนาฬิกาปลุก เซฮุนรีบเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะที่ฟุบนอนมาทั้งคืน ตายจริง นี่เช้าแล้วหรอเนี้ย
“และแล้วก็อ่านไม่จบ...” เซฮุนอยากจะเอาหนังสือฟาดหัวตัวเองให้ความรู้เข้าหัว แต่ติดที่ว่ามันหนาจนถ้าเขาทำจริงๆ เขาไม่น่าฟื้นขึ้นมาได้อีก
เหลือเวลาอีก 4 วันในการอ่านหนังสือ เนื้อหามันดูเยอะไปหมดจนตีกันในหัว
สิ่งที่เขาควรทำตอนนี้คือแต่งตัวแล้วออกไปโรงเรียน หลังจากบ่นกับตัวเองเรียบร้อย เขาก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างหน้า และออกมาแต่งตัว
ระหว่างทางไปโรงเรียน เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อฟังเสียงที่เขาอัดตอนพี่ชานยอลสอนไว้
เมื่อเขาเดินมาถึงหน้าโรงเรียน เขาก็เจอแบคฮยอน
“นี่ยิ้มบ้าอะไรแต่เช้า” แบคฮยอนเพื่อนตัวเล็กของเขาเดินเข้ามาตบหัวเขาเบาๆ เพื่อทักทาย นี่หรือคือการทักทาย
เขาไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มที่ยิ้มออกมาเหมือนคนบ้านี้ เกิดจากการที่ได้ยินเสียงทุ้มๆของพี่เขาหรือเปล่า
“เปล่าโว้ย ไม่ได้ยิ้ม” เขาเถียงพลางถอดหูฟังออก
“แหน่ะ เออแล้วข้อเสนอที่ให้ช่วยคิดเมื่อวานเป็นไง พี่เขาโอเคป่ะ” มาถึงก็เผือกเลยนะเพื่อนรัก
“พี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ จริงๆแล้วฉันรีบวิ่งออกมาก่อนที่พี่เขาจะค้านอะไรต่างหาก คิคิคิ”
“ร้ายนัก” แบคฮยอนหัวเราะให้กับความร้ายกาจของเพื่อนตัวเอง
จากนั้นเราสองคนเดินคุยกันไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียน
“คาบแรกเรียนไรวะ?” เสียงถามขึ้นมาจากทางโต๊ะด้านหลัง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคิมจงอิน เพื่อนสนิทสุดขี้เซาที่เตรียมตัวนอนได้ทุกคาบ
“ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยดูตารางสอน” เขาตอบจงอินไป
“งั้นก็หัดดูตารางสอนกันบ้างนะคุณคิม คุณโอ” โอ้มายก๊อตตตตตตตต เซฮุนอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เพราะเสียงที่บอกให้พวกเขาสองคนดูตารางสอนนั้น คือเสียงของอาจารย์วิชาประวัติศาสตร์ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าคาบแรกเรียนอะไร...เขาสัญญาว่าจะดูตารางสอนไปตลอดชีวิต
“ครับ คราวหน้าผมจะดูครับ” จงอินตอบอาจารย์แบบไม่สะทกสะท้าน ช่างกล้า
“ขอโทษครับ” เขาก้มหน้าสำนึกผิด
อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์โบกมือให้อย่างไม่สนใจ คล้ายว่าจะสื่อว่าไม่เป็นไร
เซฮุนกึ่งหลับกึ่งตื่นขณะที่อาจารย์สอน คงเป็นเพราะเมื่อคืนเขาพยายามที่จะอ่านหนังสือจนดึก
จนกระทั่ง...
“คำถามนี้ใครตอบบวกไปเลย 1 คะแนนของควิซอาทิตย์หน้า” เซฮุนตื่นสิครับรอไร เขาต้องได้คะแนนนี้มาอยู่ในมือเขาให้ได้
“หลังสงครามโลกครั้งที่1 สนธิสัญญาที่ผู้แพ้สงครามต้องทำมีอะไรบ้าง?” เขาฟังที่อัดเสียงพี่ชานยอลมาเมื่อเช้า เขาจำได้ เขาจำได้ เขาจำได้โว้ยยยยยยยย
“เซฮุน” เขาถูกเรียกหลังจากเป็นคนที่ยกมือไวที่สุดในห้อง
“ครับ...สนธิสัญญาแวร์ซาย เนยยีเซอร์ไซน์ แซ็งแฌร์แม็งอ็องแล ตริอานอง และเซเวร์ ครับ” เขาไล่ตามที่พี่ชานยอลได้สอนเขามา เป๊ะ!
“ดีมาก บวก 1 คะแนนรอไว้เลย”
เพื่อนๆในห้องพากันปรบมือให้เขา เพราะมันเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีที่เซฮุนสามารถตอบคำถามวิชาประวัติศาสตร์ได้ ต้องขอบคุณชายหนุ่มคณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย H เขาขอยกความดีให้เลย
เขานึกอยากจะอวดพี่ชานยอลว่าตอนนี้เขาได้มา 1 คะแนนแล้วนะ เซฮุนจึงเปิดโปรแกรมแชทขึ้นมาแล้วทักอีกฝ่ายไป
Hunhunnee:
นี่ พี่เตรียมคิดสถานที่เดทได้เลย คิคิ
Chanyeol:
อะไรกันยังไม่ทันสอบเลยอย่าอวดเก่งสิ
Hunhunnee:
วันนี้ผมได้คะแนนโบนัสก่อนสอบมาตั้ง 1 คะแนน
Chanyeol:
แค่ 1 คะแนนทำเป็นคุย
-LACUNA-
วันนี้เซฮุนทักไลน์เขามาแต่เช้า ปกติอีกฝ่ายมักทักเขามาตอนเที่ยงๆเวลาพักของเด็กมัธยม แต่เขาพอจะรู้เหตุผลแล้วล่ะว่าทักมาทำไม ‘วันนี้ผมได้คะแนนโบนัสก่อนสอบมาตั้ง 1 คะแนน’ เขาหัวเราะในลำคอให้กับอีกฝ่ายที่ดูตื่นเต้นมากในการได้คะแนนมา 1 คะแนน บ๊องจริงๆ
Hunhunnee:
ตั้ง 1 คะแนนต่างหากเล่า
Chanyeol:
แล้วทำไมถึงได้มาง่ายๆแบบนี้ล่ะ?
Hunhunnee:
ง่ายที่ไหนกัน
ผมต้องไล่ชื่อสนธิสัญญาของสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยนะ
Chanyeol:
ยากพอตัว
แล้วไล่ถูกหรอ?
Hunhunnee:
ระดับผมแล้ว ถูกสิครับบบบบ
เออพี่ เย็นนี้ไปอ่านหนังสือห้องพี่นะ อ่านที่บ้านน่าเบื่อ
Chanyeol:
พี่ปฏิเสธได้ด้วยหรอ
Hunhunnee:
ไม่ได้!!!!
ชานยอลปิดโปรแกรมแชทลงพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้า เขาไม่เข้าใจว่าการอ่านที่ห้องเขากับอ่านที่บ้านมันต่างกันตรงไหน แต่แน่นอนเขาไม่มีปัญหาอะไร ดีเสียอีก ห้องจะได้ไม่เงียบจนเกินไป เด็กนั่นมาทีไรก็เสียงดังตลอด เขาชักชอบความเสียงดังของเซฮุนเข้าแล้วล่ะ
.
.
.
.
.
.
.
.
2 วันผ่านไป
วันนี้เป็นวันเสาร์ แต่เป็นเสาร์ที่ต่างจากทุกเสาร์ที่ผ่านมา
“พี่ชานโยลลลลลลล” นั่นไง แทนที่มันจะเป็นวันเสาร์ที่เงียบสงบ แต่ทว่าคนที่มาขอเขานอนค้างด้วยเมื่อคืนกลับเป็นคนทำลายความเงียบสงบ
เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ลงคอ เพราะอีกฝ่ายได้แบกเป้เสื้อผ้ามาเตรียมพร้อมสำหรับการมาปักหลักตั้งถิ่นฐานในห้องเขาแล้ว ‘ผมมาเติมสีสันในชีวิตให้พี่ฟรีๆเลยนะ พี่ควรจะขอบคุณผม’ และนั่นคือข้ออ้างของเซฮุนในการจะมานอนค้างกับเขา บางทีเขาก็ชักเกลียดลิขวิดห่วยๆนั่นที่ลบรอยปากกาไม่สะอาด ทำให้เซฮุนได้อ่านบรรทัดสุดท้ายนั่น เซฮุนมักใช้ประโยคนั้นมาเป็นข้ออ้างอยู่บ่อยๆ
“…” ชานยอลไม่สนใจเสียงปลุกของอีกฝ่ายแล้วพลิกตัวเข้าไปในโซฟาที่เขาต้องย้ายมานอน เนื่องจากอีกฝ่ายได้ยึดครองเตียงนอนเขาไปแล้ว
“ผมหิวข้าว ตื่นนนน!!!!” หิวข้าวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา เขาไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจจจจจจ
“…”
“งั้นผมจะไปทำอาหารเองล่ะน้าาาา” เซฮุนพูดพลางเดินเข้าไปในครัว เขาเข้าใจแล้วว่าเกี่ยวกับเขาอย่างไร
ประโยคนี้ทำให้ชานยอลเด้งตัวลุกขึ้นมาจากโซฟา เขาจะไม่ปล่อยให้ครัวเขาไฟไหม้เด็ดขาด!!!!
“เดี๋ยวววววว หยุดๆๆๆ” ชานยอลรีบเดินเข้าไปห้าม
“…”
“เดี๋ยวพี่จัดการเองครับ กรุณาไปนั่งรออย่างสงบเสงี่ยม” เขาพูดสุภาพเพื่อกวนอีกฝ่ายพร้อมกับผลักตัวเซฮุนเบาๆให้ออกไปนั่งข้างนอกห้องครัว
เดี๋ยวนะ นี่เขาหัดกวนคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นี่มันนิสัยเซฮุนชัดๆ มันเป็นโรคติดต่อหรืออย่างไรชานยอลนึกสงสัย
“ให้ผมช่วยไหม ผมทำเป็นนะ ผมทำเป็น” เซฮุนพูดพร้อมกับทำท่าทางผัดกับข้าว
“…” นั่นดูจะเป็นอันตรายกับกระทะของชานยอล
“ให้ผมหั่นผักก็ได้”
“…” นั่นก็ดูจะเป็นอันตรายกับมีดของชานยอล
“ให้ผมล้างผักก็ได้”
“…” นั่นก็ดูจะเป็นอันตรายกับผักสดของชานยอล
“งั้นให้ผมยืนเฉยๆคอยให้กำลังใจพี่ก็ได้” นั่นก็ยิ่งจะเป็นอันตรายกับใจของชานยอล เอ้ยยย
“โอเค ปลอดภัยที่สุด”
ระหว่างที่ทำกับข้าว เซฮุนก็ไม่อยู่เฉยตามที่บอกเอาไว้ เซฮุนคอยมาก่อกวนเขา ทั้งจะใส่เกลือในข้าวที่กำลังหุงอยู่ จะเติมพริกลงในแก้วชา เอามือไปจิ้มถุงเนื้อให้มันเละ และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้เขาต้องคอยห้ามปราม เรียกได้ว่า แทนที่จะได้กินข้าวเช้าตรงเวลา กลายเป็นว่าช้าไปอีกมาก
เสร็จสักที ในที่สุดอาหารก็เสร็จแล้ว นับว่าเป็นมื้ออาหารที่วุ่นวายที่สุดในชีวิตชานยอลเลยก็ว่าได้ เขาและเซฮุนช่วยกันยกอาหารไปวางที่โต๊ะ พร้อมกับกินอาหารด้วยกัน
-LACUNA-
หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อย พวกเขาสองคนก็เตรียมตัวออกไปห้องสมุดตามคำชวนของพี่ชานยอล แต่ทว่า...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ใครเคาะประตูกันนะ? เซฮุนซึ่งว่างอยู่จึงเดินไปเปิดประตูแทนพี่ชานยอลที่กำลังไล่รายชื่อหนังสือที่จะไปยืมที่ห้องสมุด
“…” แล้วเขาก็พบคำตอบ หญิงสาวตัวเล็กในชุดเดรสสีแดงกับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าจิ้มลิ้มเหมือนสาวญี่ปุ่นไม่มีผิด คือคนที่เคาะประตู
“ข-ขอโทษค่ะ สงสัยจำเบอร์ห้องผิด” หญิงสาวทำหน้าเลิ่กลั่กพร้อมกับก้มดูหน้าจอโทรศัพท์
“ใครมาอ่ะ เซฮุน” พี่ชานยอลเดินมายังประตู
“พี่ชานยอลลลลลล” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบพี่ชานยอล หญิงสาวคนนั้นก็กระโดดโผเข้ากอดพี่ชานยอล
“อ้าวจังมิ มาทำอะไรที่นี่” ใบหน้าของพี่ชานยอลดูเต็มไปด้วยความประหลาดใจปนกับความสุข
“จังมิคิดถึงพี่” หญิงสาวที่ชื่อจังมิเอ่ยพร้อมกับยิ้มตาหยี
เซฮุนรับรู้ได้ถึงความอึดอัดของตัวเองหากเขายังยืนตรงนี้ต่อไป
“ผมกลับก่อนนะครับ พอดีนัดเพื่อนไว้” เขาอ้าง เพื่อที่จะได้ออกไปจากสถานการณ์นี้
“อ้าวเซฮุน...” ยังไม่ทันที่พี่ชานยอลจะได้พูดอะไรต่อ เขาก็รีบคว้ากระเป๋าหนังสือพร้อมกับเดินออกจากห้อง
-LACUNA-
TBC.
ความคิดเห็น