ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF) APRICITY♡ | CHANHUN

    ลำดับตอนที่ #4 : ❀ LACUNA | Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 60


    LACUNA


    -a blank space, a missing part-





    วันจันทร์


    วันนี้เป็นวันที่เซฮุนมีนัดติวกับพี่ชานยอลหลังเลิกเรียนที่คอนโดของพี่ชานยอล จริงๆแล้วเขากะจะให้พี่ชานยอลไปติวให้เขาตามร้านกาแฟจะได้ไม่เป็นการรบกวนพี่ชานยอลมากเสียจนเกินไป แต่พี่เขาบอกว่าพี่เขาไม่ชอบความวุ่นวาย ให้มาติวที่ห้องพี่เขาน่ะ ดีแล้ว เขาจึงไม่อยากจะขัดใจพี่ชานยอลสักเท่าไหร่ บวกกับการที่เขาก็อยากจะไปห้องพี่ชานยอลเหมือนกัน จึงตอบตกลงไป


    คาบเรียนสุดท้ายได้จบลงแล้ว เขารีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเป้นักเรียนของเขา ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมที่จะโบกมือลาเพื่อนสนิทของเขาทั้งสองคน 


    เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเปิดดูที่อยู่ของคอนโดที่พี่ชานยอลส่งมาให้ มันค่อนข้างที่จะใกล้กับโรงเรียนเขาทีเดียวเลยแหละ เพียงแค่นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีที่ใกล้โรงเรียนเขาไป 3 สถานีก็ถึงที่ตั้งของคอนโดพี่ชานยอล เขาเดินเข้าไปในตัวอาคาร แล้วกดลิฟท์ไปยังชั้น 25 ตามที่พี่ชานยอลได้บอกเขาไว้ในไลน์ ‘ชั้น 25 ค่ะ’ เสียงลิฟท์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นจุดหมายที่เซฮุนจะไปแล้ว เข้าเดินออกจากลิฟท์แล้วหาห้องหมายเลข 2501 ซึ่งเขามารู้ภายหลังจากที่เดินวนอยู่ตั้งนาน ว่าห้องหมายเลข 2501 อยู่ริมซ้ายสุดของชั้น และไม่มีห้องอื่นรอบข้างเลย อะไรพี่เขาจะรักความเป็นส่วนตัวขนาดนี้

    “นี่เซฮุนเอง เปิดประตูๆๆๆๆๆๆ” เขาตะโกนไปด้วย พร้อมกับเคาะประตู 


    เขาได้ยินเสียงเหมือนพี่ชานยอล วิ่งมาเปิดประตูให้เขา สิ่งแรกที่พี่เขาทำหลังจากเปิดประตูให้เขา คือการเอามือปิดปากเขา เขาตกใจจนทำตาโต


    “เบาๆหน่อยสิ ชู่วววว รบกวนคนอื่นหมด” 


    “ขอโทษครับ..” เขาถอดรองเท้าก่อนจะเดินเข้าไป พี่ชานยอลรีบหันกลับมาเก็บรองเท้าเขาเข้าตู้ ระเบียบจัดจริงๆ


    “วันหลังเก็บรองเท้าให้เรียบร้อยด้วยนะ” พี่เขาบอกพร้อมทำหน้าดุๆใส่


    “ครับ” เขาจะจำไว้ว่าวันหลังต้องเก็บรองเท้าเข้าตู้ให้เรียบร้อย 


    ห้องพี่ชานยอลค่อนข้างกว้าง และเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เขานึกสงสัยในใจเล่นๆว่าหากเขาทำรกพี่ชานยอลจะฆ่าเขาไหม แค่คิดก็ขนลุกแล้ว เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้ห้องพี่เขาสกปรกแม้แต่นิดดดดเดียว


    “มานี่สิ” พี่ชานยอลเรียกเขาเข้าไปที่ห้องรับแขก ในนั้นมีโต๊ะเขียนหนังสือกับกระดานพร้อม ทุกอย่างดูใหม่มากจนเขาอดถามไม่ได้ 


    “โอโห้ นี่พี่ลงทุนซื้อโต๊ะกับกระดานใหม่เลยหรอเนี้ย?” เขาถามพร้อมอ้าปากกว้าง


    “ประมาณนั้น.. อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยเรามาเริ่มติวกันเถอะ” 


    “ครับ”


    เวลาผ่านไปพี่เขาก็พูดไปเรื่อยๆ พี่เขาดูมีความสุขกับการได้เล่าเนื้อหาประวัติศาสตร์ ดูเป็นคนละคนเลยกับที่เจอในตอนแรก เขาจดตามที่พี่ชานยอลสอนไปเรื่อยๆ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีเลยก็ว่าได้ ที่เขารู้สึกสนุกกับการเรียนประวัติศาสตร์ เขาไม่แน่ใจว่านั่นเป็นเพราะวิธีการสอนของพี่ชานยอลหรือเป็นเพราะพี่ชานยอลเป็นคนสอนกันแน่


    “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้” พี่ชานยอลพูดพร้อมกับทำท่าจะลบกระดาน


    “…” เขายังคงวุ่นอยู่กับการจดตามเนื้อหาที่พี่ชานยอลเพิ่งเล่าจบเมื่อกี้


    “พี่สอนน่าเบื่อไหม?” 


    “ไม่ ไม่เลยครับ” สนุกมากๆเลยต่างหาก 


    “งั้นก็ดีแล้ว” พี่ชานยอลยิ้มกว้าง


    “งั้นผมกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่” 


    “อ-เอ่อ ให้พี่เดินไปส่งที่รถไฟฟ้าใต้ดินไหม พอดีจะไปซื้อของสำหรับมื้อเช้าวันพรุ่งนี้” พี่ชานยอลจะไปส่งเขา พี่ชานยอลจะไปส่งเขา พี่ชานยอลจะไปส่งเขา พี่ชานยอลจะไปส่งเขาด้วยแหละ!!!!! 


    “เย้ พี่จะไปส่งผม ปะ ปะ ปะ ไปกันเร็วๆ” 


    เขาดีใจมาก จนเผลอไปเกาะแขนพี่ชานยอลอีกแล้ว เขามักติดนิสัยเกาะแขนคนอื่นเวลาดีใจ จนบางครั้งเพื่อนๆก็รำคาญเขา เขาลืมตัวไป จึงเอามือที่เกาะแขนออก 


    “ผมขอโทษครับ ลืมตัวไปหน่อย” 


    พี่ชานยอลไม่ได้ว่าอะไร พี่เขาเพียงส่งยิ้มมาเล็กน้อย ก่อนจะก้มไปหยิบรองเท้าในตู้มาใส่แล้วเดินออกจากห้องไปด้วยกัน ระหว่างทางเซฮุนก็ชวนคุยนู่นนี่ พี่ชานยอลยิ้มและขำเล็กน้อยเป็นบางครั้ง พี่เขาพูดน้อยมากจนสามารถนับคำเลยก็ว่าได้ 


    “เออ เซฮุนคือว่าพรุ่งนี้พี่มีเรียนคลาสดึกจะยังอยู่รอให้พี่ติวอยู่ไหม?” พี่ชานยอลถามขึ้นตอนที่พวกเขาเดินมาจะถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 


    “ครับ ผมจะรอ งั้นผมขอไปรอที่ห้องพี่ได้ไหม? คือผมไม่รู้จะไปรอที่ไหนอ่ะครับ” เขาตอบไปอย่างนั้นเพราะเขาไม่รู้จริงๆว่าจะไปไหนช่วงรอพี่เขาเลิกเรียน


    “อ่า ได้สิ เอ้านี่คีย์การ์ด” พี่ชานยอลยื่นคีย์การ์ดมาให้เขา เขารับมาไว้ในมือ


    “แล้วพี่ไม่ต้องใช้หรอครับ?”


    “มีสองอันน่ะ” พี่เขาพูดพร้อมกับชูคีย์การ์ดอีกใบขึ้นมา เขานี่โง่จริงๆถามอะไรออกไป


    “อ่อครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ บ้ายบาย บ้ายบาย บ้ายบายยยย” เขาพูดพร้อมกับหันหลังไปโบกมือให้พี่ชานยอลจนพ้นสายตาแล้ว เขาจึงเลิกโบกมือ 



    -LACUNA-



    ชานยอลยกนิ้วชี้ขึ้นมาไว้ที่กลางริมฝีปาก พร้อมทำหน้าดุใส่ เพื่อเป็นการบอกเซฮุนไม่ให้ทำเสียงดังรบกวนคนอื่น เด็กนี่มักส่งเสียงดังเสมอไม่ว่าจะทำอะไร แต่บางทีนี่แหละเป็นสิ่งที่ทำให้เขายิ้มได้


    เมื่อเขาเห็นเซฮุนเดินไปจนลับตาเขาแล้ว 


    “กลับบ้านดีดีนะ” เขาพูดออกไปถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถรับรู้ได้ก็ตาม


    เช้าวันต่อมา เขาถูกปลุกด้วยเสียงของโทรศัพท์ที่เซฮุนเป็นคนบอกให้เขาเปิดโทรศัพท์ไว้ ซึ่งปกติเขาจะปิดโทรศัพท์ก่อนนอนเพราะเขาเชื่อว่าคลื่นจากโทรศัพท์จะไปทำลายเซลล์สมอง เขาใช้มือคว้านหยิบโทรศัพท์ที่ข้างเตียงก่อนจะสไลด์รับสาย โดยที่ตายังคงลืมไม่เต็มที่


    “พี่ชานยอลลลลลลล ตื่นได้แล้วครับ เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก” เสียงเจื้อยแจ้วของเซฮุนดังลั่นมาจากโทรศัพท์ ทำให้เขาต้องยกมือถือให้ห่างออกจากหูของเขา ก่อนที่หูของเขาจะดับเสียก่อน 


    “อื้ออ” 


    “ตื่นเร็วลุกๆๆๆๆๆ” เขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาลุกจากเตียงตามที่เด็กนั่นบอก 


    “ตื่นแล้ว มีอะไรโทรมาแต่เช้า”


    “ก็แค่จะโทรมาปลุกพี่ แค่นั้นเอง พี่ตื่นแล้วใช่ไหมงั้นผมวางล่ะนะ บ้ายบายยย” เขานึกว่ามีเรื่องอะไรด่วนเสียอีก แค่โทรมาปลุกเนี้ยนะ ยังไม่ทันที่เขาจะได้บ่นเซฮุน แต่เซฮุนก็ชิงวางสายไปก่อน 


    เขาเดินไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะมาชงกาแฟ และเปิดแล็ปท็อปเพื่อเช็คข่าวสารอย่างที่เขาทำอยู่เป็นประจำทุกวัน จากนั้นเขาก็เก็บข้าวของแล้วออกจากห้องเพื่อเดินทางไปเรียน 


    ระหว่างที่เขาเรียนอยู่นั้น เสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมแชทสีเขียวก็ดังขึ้น 


    Hunhunnee:

     

    เบื่อมากเลยวันนี้ครูมีประชุมคาบว่างเกือบทั้งวัน ผมมาโรงเรียนทำไมกันนี่


                ชานยอลอมยิ้ม พลางนึกถึงหน้าอีกคน เขาพอนึกหน้าเซฮุนตอนพูดประโยคนี้ออก แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ตอบข้อความอีกคนกลับไป 


    “คุณปาร์คครับ เก็บโทรศัพท์ด้วยครับ” อาจารย์หน้าห้องประกาศออกไมค์ เขารีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแทบไม่ทัน โดยไม่ลืมที่จะกดปิดเสียง เขาโค้งให้อาจารย์ที่อยู่หน้าห้องเล็กน้อย เพื่อแสดงความขอโทษ 




    -LACUNA-



    ทำไมพี่ชานยอลอ่านไม่ตอบเขากันนะ เซฮุนกำลังทำหน้ามุ่ยแล้วนอนพลิกหน้าไปมาอยู่บนโต๊ะ ทำไม ทำไมยังไม่ตอบ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอยู่หลายครั้ง ก่อนจะคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เพื่อเขาจะได้ไม่รอดูอีกคนตอบกลับมาอีก แต่ก็นั่นแหละ เซฮุนก็คือเซฮุน เขาหยิบขึ้นมาดูอยู่อีกหลายรอบ จนเพื่อนสนิทตัวเล็กของเขาอย่างแบคฮยอนทักเขา 


    “พี่เขาเรียนอยู่รึเปล่า นายเอาโทรศัพท์ขึ้นๆลงๆจนฉันชักจะเวียนหัวแล้วนะ”


    “ก็พี่เขาอ่านไม่ตอบนี่นา”


    แบคฮยอนส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ก่อนจะหันกลับไปดูซีรี่ย์ในโทรศัพท์ของตัวเองต่อ 


    เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาภาวนาขอให้เป็นพี่ชานยอลเถอะ 




    50%



            LINE GIFTSHOP:


    กรอบอร่อยเข้มข้นถึงใจกับไก่ทอดBONCHON ส่งให้เพื่อนวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 10%...


    .


    .


    .


    .


    มันใช่เวลาไหม เซฮุนไม่ได้อยากส่งไก่ทอดให้ใคร เข้าใจไหม เซฮุนอยากให้พี่ชานยอลตอบ!!!! ตอบสิ ตอบสิ ตอบสิ ตอบสิ ตอบเร็วววววววว 


    คำขอร้องเขาเป็นจริง ในที่สุดพระเจ้าก็ได้ยินเขา พี่ชานยอลตอบเซฮุนแล้ววววว 


    Chanyeol:


    โทษที เมื่อกี้พี่เรียนอยู่เลยตอบไม่ได้ โดนอาจารย์ว่าด้วย 


    นี่เซฮุนทำให้พี่ชานยอลโดนว่างั้นหรือนี่... 


    Hunhunnee:


      ผมขอโทษนะครับ ที่ทำให้พี่โดนว่า


    Chanyeol: 


    ไม่เป็นไรหน่า 


    Hunhunnee:


    ผมเลิกเรียนแล้ว กำลังจะไปรอที่ห้องพี่นะครับ 


    Chanyeol:


    ถ้ารอไม่ไหวก็กลับก่อนได้นะ พี่ไม่รู้ว่าจะเลิกดึกแค่ไหน


    Hunhunnee:


    ผมรอได้อยู่แล้ว พี่ไม่ต้องห่วง


    พี่ชานยอลไม่ได้อ่านข้อความสุดท้ายของเขา เขาคิดว่าพี่ชานยอลคงมีเรียนต่อ 


    เมื่อออดเลิกเรียนดังขึ้นเขาบอกลาเพื่อนๆแล้วรีบตรงดิ่งไปยังร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของสำหรับทำอาหารมื้อเย็น เขากะจะทำอาหารมื้อเย็นให้เขาและพี่ชานยอลกินหลังจากที่ติวเสร็จแล้ว 


    เซฮุนหอบของพะรุงพะรังไปยังคอนโดของพี่ชานยอล เขาใช้คีย์การ์ดที่พี่ชานยอลเอาให้เขาไว้ เปิดประตู ก่อนจะถอดรองเท้าเก็บเข้าตู้อย่างเรียบร้อย เพราะเขากลัวว่าหากไม่ทำแบบนี้ อีกฝ่ายคงต้องบ่นเขาจนหูชา เขานำถุงที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตไปวางไว้ในห้องครัว ก่อนจะเดินวนไปวนมาในห้อง เขากระโดดขึ้นไปนอนกดโทรศัพท์บนเตียง กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอยู่สักพักใหญ่ เมื่อไหร่พี่ชานยอลจะมานะ นานจริงๆเลย ว่าแต่แอร์ก็เย็น เตียงก็นุ่ม งั้นเซฮุนขอหลับสักงีบนะพี่ชานยอล เขาพูดขออนุญาตพี่ชานยอลในใจ ก่อนจะดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา 



    -LACUNA-



    กว่าชานยอลจะเลิกเรียนคลาสสุดท้ายก็ปาไปหนึ่งทุ่มแล้ว ชายหนุ่มก้มมองนาฬิกาเรือนเล็กบนข้อมือ สีหน้าบ่งบอกถึงความกังวลเล็กน้อย เขากำลังคิดว่า ดึกป่านนี้แล้ว เซฮุนยังจะรอเขาอยู่ไหม..


    นี่เขาคิดอะไรอยู่เนี้ย เขาไม่ได้อยากจะเจอเด็กนั่นสักหน่อย เขาสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระ ก่อนจะเก็บหนังสือกับอุปกรณ์เครื่องเขียนลงกระเป๋า เขารีบสะพายกระเป๋าออกจากห้องเรียน แล้วเดินกึ่งวิ่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อเดินทางกลับคอนโดของตัวเอง 


    เขาถึงห้องของตัวเองแล้ว ห้องของเขาถูกปิดไฟมืด สงสัยเซฮุนคงกลับไปแล้วแน่ๆ เขาพึมพำเบาๆ แต่เมื่อเปิดตู้รองเท้าก็พบว่ารองเท้าเซฮุนยังอยู่ แล้วเด็กนั่นทำไมปิดไฟซะมืดแบบนี้ เขาเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะพบว่าเซฮุนนอนหลับอยู่บนเตียงเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่ปกติเขาจะโกรธ เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเตียงนอนของตัวเอง แต่ครั้งนี้เขากลับคลี่ยิ้มบางๆออกมา ก่อนจะห่มผ้าให้ เขาเลือกที่จะไม่ปลุกเซฮุน ปล่อยให้นอนไปอีกสักพักแล้วกัน 


    เขาค่อนข้างตกใจกับกองถุงอาหารสดและผักที่วางเต็มไปหมดในห้องครัว เด็กนั่นคิดจะทำอาหารงั้นหรอ แต่ก็มาหลับแบบนี้เนี้ยนะ เขาส่ายหัวเบาๆ พลางคิดว่างั้นเขาคงต้องลงมือทำเองแล้วล่ะ ชานยอลพอทำอาหารเป็นอยู่บ้าง เนื่องจากต้องอาศัยอยู่คนเดียว เลยต้องฝึกทำบางอย่างไว้บ้าง ไหนดูสิมีอะไรบ้าง เขาค่อยๆเปิดถุงเพื่อดูว่าอีกฝ่ายซื้ออะไรมา


    กลิ่นกับข้าวที่ชานยอลทำลอยฟุ้งหอมไปทั่วห้อง เมื่อทำเสร็จแล้วเขาจึงยกกับข้าวไปวางบนโต๊ะ เขาได้ยินเสียงเปิดประตูมาจากห้องนอน เซฮุนกำลังเดินมาด้วยความสะลึมสะลือ


    “กลิ่นอะไรหอมจัง” เซฮุนพูดทั้งๆที่ยังลืมตาตื่นไม่เต็มที่ 


    “อาหารไง ที่ใครบางคนแถวนี้ซื้อมาแล้วไม่ทำ”


    “อ๊ะ ผมลืมไปสนิทเลย ขอโทษนะครับ” เซฮุนก้มโค้งให้เขาเล็กน้อย 


    “ไม่เป็นไรหน่า มาๆ มากินเร็วเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” เขายิ้มให้เซฮุนเล็กน้อย


    .


    .


    .


    .


    .


    “อร่อยมากเลยครับพี่” เซฮุนพูดเสียงดัง พร้อมทำตาลุกวาว


    “ทำยังกับแม่ไม่ทำอาหารให้กินแหน่ะ” 


    “เอ่อ คือ...ผมลืมรสชาติอาหารที่แม่ทำไปแล้ว พ่อกับแม่ผมไม่ค่อยได้กลับบ้านหรอกครับ” เซฮุนว่าพลางก้มหน้า


    “…” ชานยอลรู้สึกผิดมากที่พูดอย่างนั้นออกไป


    “พวกท่านต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ จะกลับมาก็แค่ปีละครั้งเท่านั้นแหละครับ”


    “พี่ขอโทษนะที่พูดอย่างนั้นออกไป” สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกผิด


    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ฮ่าๆ ผมชินแล้วล่ะ” ถึงแม้ปากของเซฮุนจะมีรอยยิ้มอยู่แต่ใบหน้าของเซฮุนกลับเต็มไปด้วยความเศร้า


    พอเซฮุนพูดจบ พวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกในระหว่างกินข้าว ต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง 


    จนกระทั่งกินเสร็จ...


    “วันนี้ดึกมากแล้ว งั้นผมไม่รบกวนพี่แล้วครับ” ใช่ มันดึกมากแล้วสำหรับการติว


    “งั้นให้พี่ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าไหม”


    “ม-ไม่เป็นไรครับ” เซฮุนโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปยังประตูห้อง 


    ชานยอลสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติของเซฮุน ปกติเซฮุนมักจะร่าเริงตลอดเวลา แต่หลังจากที่เขาพูดเรื่องพ่อแม่ เซฮุนก็เอาแต่เงียบ 


    ถึงเซฮุนจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เขาไม่นึกเชื่อ เขาแอบเดินตามเซฮุนออกจากคอนโด โชคดีที่เซฮุนยังเดินไปได้ไม่ไกล เขาสังเกตเห็นเซฮุนเอามือปาดหน้าไปมา เขาจึงเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ แล้วก็พบว่าเด็กนั่นกำลังร้องไห้ เขาไม่รู้วิธีการปลอบคนสักเท่าไหร่ เขาต้องทำอย่างไรน้องถึงจะหยุดร้องไห้ 


    “นี่” เขาเอื้อมมือไปแตะไหล่ของอีกฝ่ายที่กำลังสั่นเทา 



    -LACUNA-



    เซฮุนมักหวั่นไหวกับเรื่องพวกนี้เสมอ พ่อแม่ของเขาไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศมาหลายปีแล้ว หลายปีที่เขาต้องอยู่บ้านคนเดียว เขาเหงา บางทีเขาก็อยากมีคนให้ปรึกษาบ้าง เขาอยากได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่บ้าง เขาคิดถึงพ่อแม่ที่จะกลับมาหาเขาแค่ในวันคริสต์มาสเท่านั้น หรือแย่กว่านั้นหากว่าพวกท่านติดงาน ปีนั้นเขาก็จะไม่ได้เจอพวกท่าน


    นั้นสินะ เขาไม่ได้กินข้าวฝีมือแม่มานานเท่าไหนกัน นานจนเขาลืมไปแล้วว่าแม่ของเขาทำกับข้าวอร่อยขนาดไหน 


    ความคิดถึงมันทำให้เขาน้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว 


    “นี่” ใครสักคนที่เสียงเหมือนพี่ชานยอลมาแตะไหล่เขา


    เขาหันหลังไปโผเข้ากอดแบบแทบไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้เขาแค่ต้องการใครสักคนที่เขาสามารถร้องไห้ใส่ได้ 


    “ผ-ผมคิดถึงพ่อแม่”


    “ไม่เป็นไรๆ ร้องออกมาเท่าที่อยากร้อง” อีกฝ่ายลูบหัวเขาอย่างแผ่วเบา


    เสียงปลอบของพี่ชานยอลยิ่งทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิม 


    เมื่อเขาเริ่มมีสติเขาก็ค่อยๆหยุดร้อง


    “คืนนี้ผมขอค้างกับพี่ได้ไหมครับ ผมนอนโซฟาก็ได้” เขาไม่แน่ใจหรอกว่าพี่ชานยอลจะให้เขาค้างไหม แต่ที่เขาแน่ใจคือเขาไม่อยากอยู่คนเดียว 


    “คือ ผมยังไม่อยากอยู่คนเดียวตอนนี้น่ะครับ” เซฮุนรีบพูดเสริมต่อ 


    “ได้สิ พี่ไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก”


    “ขอบคุณนะครับ” ขอบคุณมากๆ


    เขาและพี่ชานยอลเดินกลับมาที่คอนโด โดยพี่ชานยอลอาสาไปนอนที่โซฟาแทนเขา เขาค่อนข้างเกรงใจพี่ชานยอล แต่พี่ชานยอลก็ยังคงยืนยันคำเดิมให้เขานอนบนเตียง 


    เขารีบอาบน้ำแต่งตัว โดยยืมชุดนอนของพี่ชานยอล ถึงมันจะดูใหญ่ไปสำหรับเขาเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เขาไม่แน่ใจว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ว่าสีหน้าของพี่ชานยอลบ่งบอกถึงความเป็นห่วงเขา


    ถึงตอนนี้จะยังไม่ดึกมาเท่าเวลาปกติที่เขานอน แต่เซฮุนกลับรู้สึกอ่อนเพลีย จนเขาผล็อยหลับไป


    เช้าวันต่อมา


    เซฮุนตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกของพี่ชานยอลที่ตั้งอยู่ริมหัวเตียง เขายันตัวลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ ก่อนจะมองหาพี่ชานยอลที่นอนอยู่บนโซฟา แต่ทว่าพี่ชานยอลไม่อยู่แล้ว เนื่องจากคอนโดพี่ชานยอลไม่ไกลจากโรงเรียนของเขามาก ทำให้เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบ เขาเปิดโทรศัพท์เช็คโปรแกรมแชทต่างๆของเขา พลางเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำ โชคดีที่เสื้อนักเรียนตัวเมื่อวานของเขาไม่เหม็นมาก จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับการใส่ซ้ำ 


    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เขาก็เดินมาที่ห้องครัว โดยบนโต๊ะมีอาหารวางอยู่ พร้อมกระดาษโน๊ตเล็กๆเขียนว่า ‘กินสิ ทำเอาไว้ให้’ เขาอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะลงมือกินอาหารฝีมือพี่ชานยอลอีกมื้อ 


    เมื่อเขากินเสร็จ เขาจึงลุกขึ้นแล้วยกจานไปล้าง แต่แล้วเขาก็กลับพบกระดาษแผ่นใหญ่ที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆของพี่ชานยอล มันถูกวางอยู่ใต้จาน เขาวางจานไว้ข้างๆ แล้วหยิบมันขึ้นมาอ่าน ‘ขอโทษนะที่พี่ปลอบอะไรไม่ได้ พี่พูดไม่ค่อยออก ก็เลยเขียนใส่กระดาษเอา หวังว่าเซฮุนจะได้อ่านนะ พี่อาจจะไม่เข้าใจเซฮุนสักเท่าไหร่ เพราะเซฮุนไม่เคยเล่าเรื่องพ่อแม่ให้พี่ฟัง แต่พี่มั่นใจว่าพ่อแม่ของเซฮุนก็อยากอยู่กับเซฮุนเหมือนกับที่เซฮุนอยากอยู่กับพ่อแม่นั้นแหละ ที่พวกท่านติดงาน ที่พวกท่านทำงานอย่างหนัก ก็เพื่อให้เซฮุนมีเงินใช้ มีความเป็นอยู่ที่ดี พวกท่านรักเซฮุนมากนะ พี่เชื่ออย่างนั้น พวกท่านอยากให้เซฮุนมีความสุข พี่อยากให้เซฮุนเข้าใจตรงนี้ด้วย...’ เมื่ออ่านถึงตรงนี้ เขาก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา ใช่ เขาไม่เคยคิดถึงตรงนี้เลย เขาเอาแต่ทำตัวงี่เง่างอแงอยากเจอพ่อแม่ แต่เขาไม่เคยนึกเลยว่าพวกท่านต้องเหนื่อยขนาดไหน เพื่อเขา เขารู้สึกขอบคุณพี่ชานยอลที่ทำให้เขาเข้าใจพ่อแม่มากขึ้น 


    และแล้วเขาอ่านกระดาษลงไปอีกแต่กลับพบว่ามันมีรอยน้ำยาลบคำผิด เขาจึงยกกระดาษขึ้นส่องทางด้านหลัง แล้วจับใจความได้ว่า ‘ถ้าเหงาก็มาอยู่กับพี่ได้นะ พี่ก็อยู่คนเดียว บางทีมันก็เงียบไป พอมีเซฮุนก็มีสีสันดี’ เขาแทบจะเอาหน้ามุดผ้าห่ม ถึงแม้อีกฝ่ายจะลบมันก็เถอะ 



    -LACUNA-


    TBC.





    Talk : 


    มาร่วมลุ้นกับเซฮุนกันค่ะ ว่าใครกันนะที่ทักมา 

    จะใช่พี่ชานยอลหรือไม่ 55555555


    มาต่อแล้วค่ะ พี่ชานยอลก็มีมุมน่ารักๆเหมือนกันนะเนี้ย

    แต่พี่แกไม่พูดค่ะ ทำขรึมๆต่อไป 

    แต่พี่ชานยอลนั่นแหละค่ะ ที่จุดประเด็นขึ้นมา

    น้องงุนเลยร้องห่มร้องไห้ 


    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ



     
    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×