คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ❀ LACUNA | Part 1
LACUNA
-a blank space, a missing part-
กริ๊งงงงงงง!!!
เสียงสวรรค์ของนักเรียนมัธยมปลายได้ดังขึ้น เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าการเรียนของสัปดาห์นี้ได้จบลงแล้ว คนในห้องทยอยกันเก็บข้าวของลงในกระเป๋า บางคนก็ยกเก้าอี้รอไว้แล้ว คงมีเพียงแค่หัวหน้าห้องกับรองหัวหน้าห้องที่เดินออกไปลบกระดานที่อาจารย์ประวัติศาสตร์ได้ขีดเขียนไว้เต็มไปหมด แต่แทบไม่มีใครในห้องได้จดบันทึกไว้เลย ประวัติศาสตร์มักน่าเบื่ออย่างนี้แหละ แต่จริงๆแล้ววันนี้เขาแทบไม่ได้เรียนเลยด้วยซ้ำไป เพราะเขามัวแต่ชวนแบคฮยอนเพื่อนตัวเล็กของเขาคุยทั้งคาบ เซฮุนชอบคุยในคาบเรียน เขาไม่ชอบความเงียบเสียเท่าไหร่ การที่จะให้เขาอยู่นิ่งๆเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก อาจารย์ในห้องมักจะว่าเขาเรื่องคุยในห้อง แต่ให้ทำไงได้ล่ะครับ เขาหยุดพูดไม่ได้จริงๆ ในกลุ่มของเซฮุนนั้นมีกันอยู่สามคน ส่วนอีกคนนึงน่ะหรอ หลับไปตั้งแต่ต้นคาบแล้ว เซฮุนหันไปโต๊ะข้างหลังพร้อมกับเขย่าตัวเพื่อนอีกคนอย่างแรง เพื่อให้มันตื่น
“จงอิน ตื่นได้แล้วเลิกเรียนแล้วโว้ยยย” จงอินมักหลับในคาบเรียนอยู่บ่อยๆ แถมมันยังปลุกยากอีกต่างหาก คนอะไรขี้เซาเหลือเกิน
“…” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียก
“จงอิน ไปกินไก่ทอดกันนนนนน” คราวนี้แบคฮยอนใช้ไก่ทอดเป็นตัวล่อ
“ไหน ไหน ไหนไก่ทอด” แหม ของกินนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ พวกเห็นแก่กิน
“นี่ไง กำลังจะชวนไปกิน” เขาบอกกับจงอิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ทำให้พวกเขามีเวลาว่างตอนเย็น กลุ่มของเขามักจะไปหาอะไรกินในห้างแทบทุกศุกร์เลยก็ว่าได้
“ไปสิ รีบๆเลย” เมื่อพูดถึงไก่ทอด สติของจงอินก็ได้หลุดลอยไปแล้ว จงอินไม่สนอะไรทั้งนั้น นอกจากการไปกินไก่ทอด
พวกเขานั่งแท็กซี่กันไปที่ห้าง เมื่อถึงแล้วพวกเขาก็รีบตรงดิ่งไปที่ร้านไก่ทอดเจ้าประจำ เนื่องจากทุกคนหิวมากทำให้พวกเขาก้มหน้าก้มตากินโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แม้แต่หนังสือที่เจ้าของโต๊ะคนเก่าลืมไว้พวกเขาก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น
จนกระทั่งกินเสร็จ
“เอ๊ะ ใครลืมหนังสือไว้เนี้ย” หลังจากการก้มหน้าก้มตากินอย่างตั้งใจจนอิ่มแล้ว เซฮุนก็ได้มีโอกาสเงยหน้าขึ้นมองดูสิ่งรอบข้าง เขาเห็นหนังสือประวัติศาสตร์หนาปึกวางอยู่ที่ที่นั่งว่างข้างๆเขา
“หนังสือเล่มตั้งใหญ่ยังอุตส่าห์ลืม คนเรา” แบคฮยอนกล่าวพร้อมส่ายหน้าเบาๆ
เมื่อเปิดหน้าปกไปก็พบชื่อของเจ้าของหนังสือ ‘Park Chanyeol’ แล้วด้านล่างก็พบตราประทับของมหาวิทยาลัย H
“มหาวิทยาลัย H ซะด้วย” จงอินเอ่ยแซวถึงเจ้าของหนังสือขึ้นมา มหาวิทยาลัย H เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงมาก และเป็นมหาลัยที่สอบเข้ายากมาก แสดงว่าเจ้าของหนังสือเล่มนี้จะต้องเรียนเก่งแน่ๆเลย เขาคิดในใจ
“แล้วนี่เราต้องทำยังไงกับหนังสือเล่มนี้ล่ะ” แบคฮยอนถามขึ้น พร้อมทำหน้าคิดหนัก
“ก็คงต้องเอาไปคืนเจ้าของล่ะมั้ง...ป่านนี้คงตามหาจนวุ่นแล้ว” เซฮุนมักเป็นคนมีน้ำใจเสมอ เขาคิดว่าหากหนังสือเขาหายเขาก็คงต้องตามหาจนวุ่นเช่นกัน เขาจึงหยิบหนังสือเล่มหนาเตอะใส่กระเป๋าเป้เขากลับไปโดยหวังว่าจะนำไปคืนเจ้าของ
หลังจากนั้นพวกเขาก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน แล้วเขาจะเอาไปคืนได้อย่างไรกัน เซฮุนคิดไม่ตก ถ้าลองค้นหาในกูเกิ้ลจะมีทำเนียบนักศึกษาของมหาวิทยาลัย H ไหมนะ ‘ปาร์ค ชานยอล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาประวัติศาสตร์‘ ว้าว มีซะด้วยแต่แล้วเขาจะติดต่อกับปาร์ค ชานยอลคนนี้ได้อย่างไรกัน ไม่สิต้องเรียกว่าพี่ปาร์ค ชานยอลถึงจะถูก พี่ปาร์ค ชานยอลจะเล่นเฟสบุ๊คไหมนะ ไวกว่าความคิด มือของเซฮุนก็กดเข้าโปรแกรมเฟสบุ๊คพร้อมค้นหาชื่อ ‘Park Chanyeol’ เขาคลิ๊กเข้าไปที่ผลลัพธ์ที่ขึ้นบนสุด แต่เพื่อความแน่ใจว่าไม่ผิดคน เขาจึงกดเข้าไปเช็คประวัติการศึกษาของเจ้าของเฟสบุ๊ค ‘คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย H’ ถูกคนซะด้วย เฟสบุ๊คของพี่ปาร์ค ชานยอลไม่มีความเคลื่อนไหวมาค่อนข้างนานพอสมควร ถ้าทักไปพี่เขาจะตอบไหมเนี้ย ก่อนที่เซฮุนจะคลิ๊กที่ช่องกล่องข้อความ เขาก็ไปสะดุดตาเข้ากับรูปโปรไฟล์ของพี่ปาร์ค ชานยอล ปาร์ค ชานยอลเป็นหนุ่มที่ค่อนข้างหน้าตาดีเลยทีเดียว เรือนผมสีน้ำตาลถูกเซ็ตอย่างเรียบร้อย แว่นกลมสีดำที่ตัดกับสีผิวทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากเลยทีเดียว เขาชักอยากเจอตัวจริงแล้วสิ นี่เขาคิดบ้าอะไรอยู่เนี้ย เซฮุนจึงสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดเพ้อเจ้อก่อนจะกดทักข้อความไป
-LACUNA-
หลังจากเลิกเรียนที่มหาวิทยาลัย ชานยอลก็ได้แวะไปห้างเพื่อหาอะไรใส่ท้องก่อนกลับคอนโด เมื่อกินเสร็จแล้วเขาจึงรีบบึ่งรถกลับคอนโด ด้วยความเหนื่อยล้า แม้จะยังไม่ได้อาบน้ำแต่ชานยอลกลับสลบไสลบนเตียงนอนกว้างของตัวเอง
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาหลับไปนานแค่ไหน รู้เพียงแค่ว่าความเหนื่อยล้าได้หายไปแล้ว ชายหนุ่มร่างโปร่งถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ด้วยความที่ทนกลิ่นเหงื่อของตัวเองไม่ไหว น้ำเย็นถูกสาดใส่หน้าอยู่หลายรอบ มันทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบโดยตัวเขาเอง เขาไม่ชอบความไม่เป็นระเบียบ เขาหยิบเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่ถูกพับไว้ขึ้นมาใส่ จากนั้นเดินไปที่ห้องครัวที่ถูกแยกออกมาจากห้องนอนเพื่อชงกาแฟดื่มยามเช้า ชานยอลไม่ชอบไปดื่มกาแฟตามร้านกาแฟซักเท่าไหร่ เขาไม่ชอบความวุ่นวาย
ชานยอลเปิดแล็ปท็อปคู่ใจขึ้นมาเพื่อเช็คข่าวสารรายวันพร้อมกับจิบกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จ กลิ่นหอมของกาแฟทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แต่เขาก็พบสิ่งที่แปลกไปจากวันอื่นคือโปรแกรมสีน้ำเงินที่มีสัญลักษณ์ตัวเอฟสีขาวอยู่ตรงกลางกลับมีแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า ปกติแทบไม่มีใครส่งข้อความถึงเขาเลย นอกจากเวลาทำรายงานกลุ่ม แต่ช่วงนี้ก็ไม่มีรายงานกลุ่มนิ เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนนิ้วเรียวยาวจะเลื่อนเมาส์คลิ๊กไปที่กล่องข้อความ
Oh Sehunnee:
พี่ครับ พี่ลืมหนังสือประวัติศาสตร์ไว้ที่ร้านไก่ทอดเมื่อวานครับ ผมเก็บไว้ให้พี่
ข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่เมื่อคืนเขาเหนื่อยล้าจนกว่าจะเปิดแล็ปท็อปมาเล่นได้ ชานยอลค่อนข้างตกใจพอสมควร เขาแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาลืมหนังสือไว้ เขารีบไปเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง แล้วก็พบความจริงอย่างที่คนที่ชื่อ โอ เซฮุนนี่ ทักมาบอกเขา เขาไม่พบหนังสือประวัติศาสตร์ในกระเป๋าเป้ของเขา ทั้งๆที่เขาคิดว่าเขาหยิบกลับมาแล้ว
Park Chanyeol:
อ่า ขอบคุณครับ แล้วพี่จะสามารถไปเอาคืนได้ยังไงครับ?
เขานี่สะเพร่าจริงๆ แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณเด็กผู้ชายเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน กับใบหน้าที่มีผิวสีเหมือนน้ำนมที่ชื่อ โอ เซฮุนนี่ ที่อุตส่าห์ใจดีเก็บมาคืนเขา แล้วยังตามหาช่องทางการติดต่อเขาเจออีก เขานั่งรอหน้าแล็ปท็อปอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอ โอ เซฮุนนี่ ตอบกลับมา
Oh Sehunnee:
นัดเจอกันที่สวนสาธารณะ A พี่สะดวกไหมครับ?
จริงๆแล้วสวนสาธารณะ A ค่อนข้างไกลจากคอนโดของเขา แต่อย่างไรเสียวันนี้เขาก็ว่างทั้งวันอยู่แล้ว การเดินทางไกลหน่อยเพื่อไปเอาหนังสือคืนคงไม่ลำบากเท่าไหร่
Park Chanyeol:
สะดวกครับ
Oh Sehunnee:
งั้น 10:30 เจอกันนะครับ
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบกลับอีกฝ่ายนั้นก็ได้ออฟไลน์ไปเสียแล้ว
-LACUNA-
หลังจากนัดแนะกับพี่ปาร์ค ชานยอลเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เซฮุนก็เดินไปหยิบขนมปังปิ้งร้อนๆจากเครื่องปิ้งขนมปังมากินรองท้องเป็นมื้อเช้า สวนสาธารณะ A ไม่ไกลจากบ้านของเขาเท่าไหร่ เพียงแค่ปั่นจักรยานไป 10 นาทีก็ถึงแล้ว ทำให้เขาไม่ต้องรีบร้อนเท่าไหร่นัก ทานมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเดินกลับขึ้นไปที่ห้องนอนของเขา หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำ
เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เปิดตู้เสื้อผ้าที่สุดแสนจะรกของเขา เพื่อรื้อหาเสื้อยืดสีชมพูที่ค่อนข้างดูดีที่สุดในตู้มาใส่ พร้อมกับกางเกงขาสั้นสีขาวที่ช่วยขับสีผิวที่ขาวอยู่แล้วให้ดูขาวยิ่งขึ้นไปอีก จะเจอคนใหม่ๆทั้งทีต้องดูดีให้สุด ฮ่าฮ่าฮ่า เขาคิดในใจ เขาหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะกดเข้าไปที่โปรแกรมแชทสีเขียว แบคฮยอนทักมาพอดี
Byun baekbaek:
พี่เขาตอบมาหรือยัง?
เขาเล่าให้แบคฮยอนฟังตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ว่าเขาเจอเฟสบุ๊คของเจ้าของหนังสือแล้ว พร้อมกับส่งรูปของพี่ปาร์ค ชานยอลไปให้แบคฮยอนได้ชมความหล่อของพี่ปาร์ค ชานยอล
Hunhunnee:
ตอบมาแล้ว วันนี้จะนัดเจอที่สวนสาธารณะ A จะได้เอาหนังสือไปคืนพี่เขาซักที
Byun baekbaek:
อยากไปเชยชมความหล่อของพี่เขาจังเลย แต่เสียดายสุดๆวันนี้ไม่ว่าง ฝากจีบพี่เขาได้ไหม
Hunhunnee:
เสียใจด้วยนะ คิคิ
เขาตอบก่อนจะปิดโปรแกรมแชทลงพร้อมล็อคหน้าจอก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเป้สีฟ้าของเขา เขาเดินลงบันไดจากชั้น 2 ของบ้านเพื่อลงไปข้างล่าง และออกบ้านไปยังสวนสาธารณะ A โชคดีของเขาที่อากาศวันนี้ค่อนข้างเย็น ทำให้เขาสามารถปั่นจักรยานไปอย่างช้าๆ เพลิดเพลินกับบรรยากาศได้
30%
เซฮุนมาก่อนเวลานัดหมายประมาณ 10 นาที หลังจากจอดจักรยานไว้เป็นที่เรียบร้อย เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นฝน เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วก็พบว่าท้องฟ้าที่ตอนแรกแจ่มใส ได้เต็มไปด้วยเมฆฝนเสียแล้ว ถ้าหากฝนตกลงมาจริงๆต้องยุ่งแน่ๆ เขาจะกลับบ้านได้อย่างไรกัน ยังไม่ทันได้คิดต่อฝนก็เทลงมาแล้ว เขาวิ่งไปหลบในศาลาที่ใกล้ที่สุดในสวนสาธารณะ เขานั่งรอข้างๆเสาริมศาลา พลางจินตนาการว่าพี่ปาร์ค ชานยอลจะสูงสักเท่าไหร่ จะหน้าตาเหมือนในรูปโปรไฟล์ไหมนะ สักพักเขาก็พบคนตัวสูง สูงประมาณ 185 เซ็นติเมตร เดินตรงมาทางเขา ชายหนุ่มคนนั้นกางร่มคันใหญ่มา เรือนผมสีน้ำตาลได้ถูกเซ็ตมาอย่างดี เหมือนในรูปโปรไฟล์ไม่มีผิด แต่ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นดูดีกว่าในรูปโปรไฟล์เสียอีก
คนนี้แหละพี่ปาร์ค ชานยอล
-LACUNA-
ฟ้าครึมๆเหมือนฝนจะตก ยังโชคดีที่ชานยอลพกร่มคันใหญ่มา นี่แหละสิ่งที่เขากำลังจะบอกกับเด็กที่ชื่อ โอ เซฮุนนี่ ก่อนที่เด็กนั่นจะออฟไลน์ใส่เขาไปเสียก่อน ชานยอลมักเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะว่าวันนี้กรมอุตุบอกว่าฝนจะตกลงมาช่วงสายๆ เขาเชื่อว่าเด็กมัธยมปลายอย่าง โอ เซฮุนนี่ คงไม่ได้ฟังกรมอุตุมาหรอก เขาจึงพกร่มคันใหญ่มา ชานยอลเป็นคนรอบคอบเสมอ ฝนเทลงมาในตอนที่เขากำลังจะเดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เขากางร่มแล้วรีบเดินไปยังสวนสาธารณะ สวนสาธารณะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แถมฝนยังตกอีก ทำให้เขาพอจะรู้ว่าจะไปตามหา โอ เซฮุนนี่ ได้ที่ไหน เขาตรงไปยังศาลาที่ตั้งอยู่ตรงกลางของสวนสาธารณะ
เมื่อไปถึงศาลาเขาก็พบเด็กหนุ่มที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่เสาริมศาลา เด็กหนุ่มคนนั้นมีผมสีดำ และใช่ เด็กหนุ่มคนนั้นมีผิวเหมือนน้ำนมไม่มีผิด
ถ้าจะให้เขาเดา
คนนี้แหละโอ เซฮุนนี่
“พี่ปาร์ค ชานยอลรึเปล่าครับ?” เด็กหนุ่มคนนั้นชิงทักเขาก่อน พร้อมโบกมือไปมา เหมือนลูกหมาที่สั่นหางเวลาดีใจไม่มีผิด
“ใช่ครับ น้องคือ...โอเซฮุนนี่ ใช่ไหมครับ”
“โอ เซฮุนพอครับ หรือเรียกว่าเซฮุนก็ได้” เด็กหนุ่มคนนั้นตอบพร้อมกับหันหลังไปหยิบหนังสือประวัติศาสตร์จากกระเป๋าเป้สีฟ้าข้างหลังเขา
“ขอบคุณนะครับ” เขาพูดพร้อมโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะหยิบหนังสือจากมือของอีกฝ่ายที่ยื่นหนังสือมาคืนให้เขา
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจความรู้สึกเวลาทำของหายดี ผมมักทำของหายบ่อยๆน่ะครับ แหะๆ ผมคงจะอยากได้คืน” เซฮุนตอบพลางเกาท้ายทอย
“อ่า... งั้นให้พี่เลี้ยงข้าวตอบแทนไหมครับ” เขาเอ่ยขึ้น เขาคิดว่าเขาควรจะตอบแทนน้ำใจของคนตรงหน้า
“จริงหรอครับ ดีใจจัง!!! พี่ชานยอลใจดีที่สุดเลย” เซฮุนกล่าว แล้วกระโดดเกาะแขนเขา
“…” เขาค่อนข้างอึดอัด เพราะปกติเขาไม่ค่อยได้เข้าสังคมสักเท่าไหร่ แต่ช่างเถอะเขาสนใจเพียงแต่จะรีบเดินไปร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด
“พี่ชานยอลกรุ๊ปเลือดอะไรหรอครับ” นี่มันคือคำถามของคนที่เจอกันครั้งแรกงั้นหรอ
“Aครับ” เขาตอบกลับไปด้วยความงุนงง
“พี่ลองทายกรุ๊ปเลือดผมสิครับ” นี่เขาต้องทายกรุ๊ปเลือดของคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกหรอ เขาเคยอ่านบทความเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดแล้วนิสัยอยู่บ้าง แต่เขาไม่เชื่อว่ามันจะสัมพันธ์กัน
“Bหรอ”
“ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ!!” เดามั่วๆก็ถูกซะด้วย
เมื่อเดินมาถึงร้านอาหาร ชานยอลก็ยืนหุบร่มพร้อมสลัดน้ำฝนออกจากร่มเพื่อไม่ให้ร่มเปียกมาก ก่อนจะหยิบถุงใส่ร่มที่ตั้งไว้อยู่หน้าร้านมาใส่ร่มที่เปียก เขาเช็ดรองเท้าที่พรมหน้าร้านก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน เซฮุนเข้าไปนั่งโต๊ะในสุดเป็นที่เรียบร้อย เขาเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเซฮุน ก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมากาง
ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดว่าจะกินอะไรดี เซฮุนก็ชี้มาที่เมนูของเขา
“เซ็ตนี้อร่อยนะ เซ็ตนี้ด้วย เซ็ตนี้เผ็ดดี พี่ทานเผ็ดไหมล่ะครับ?” เซฮุนพูดไม่หยุดพลางชี้รูปอาหารในเมนูของเขา
“ไม่ พี่ไม่ทานเผ็ดเท่าไหร่”
“งั้นก็เซ็ตนี้เลย อร่อยเด็ด ผมรับประกัน!!!” เซฮุนชูนิ้วโป้งขึ้น ชานยอลลอบขำเบาๆ เด็กนี่มันพลังเหลือจริงๆ
“พี่ขำแล้วววววว” เซฮุนทำเป็นเรื่องประหลาดไปได้ ก็แค่เขาขำ แต่ก็จริงอยู่ที่เขาไม่ได้ขำแบบนี้มานานมากแล้ว
“พี่ขำแล้วมันแปลกตรงไหนหรอ” เขากลับไปตีหน้าขรึมใส่
“ก็พี่อ่ะ ทำหน้าดุมาตลอดทาง หมาที่บ้านตายหรอพี่”
“พี่ไม่มีหมาที่บ้าน” เขาตอบไปตามความเป็นจริง เขาไม่ได้เลี้ยงหมา หมาที่บ้านเขาจะตายได้อย่างไรกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่นี่ซื่อจริงๆเลย” เซฮุนขำเขา มีอะไรน่าขำนักหนา เขางงเหลือเกิน
ไม่นานมากนักพนักงานก็มารับออเดอร์ เขาสั่งแบบเดียวกับเซฮุน จะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ส่วนเครื่องดื่มเขาสั่งเป็นชาเขียวร้อน ส่วนเซฮุนสั่งเป็นนมชมพูปั่น เขาคิดเล่นๆว่าเซฮุนต้องการจะคุมโทนเครื่องดื่มให้เหมือนกับเสื้อที่ใส่อยู่รึเปล่านะ
-LACUNA-
เครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้ว เขาเหลือบมองชานยอลที่กำลังเป่าแก้วชาเขียวร้อน ก่อนจะค่อยๆจิบปากแก้วสีครีม เขาพูดได้เต็มปากเลยว่าชานยอลดูดีมากจริงๆ แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือชานยอลเงียบมาก ดูพี่เขาไม่ค่อยสุงสิงหรือเข้าสังคมสักเท่าไหร่
“มองอะไร?” เขาถูกจับได้เสียแล้ว สงสัยเขาจะจ้องนานเกินไป... โอ เซฮุนเอ้ย โอ เซฮุน
“ผมแค่กำลังคิดว่าพี่ก็หล่อดีเหมือนกัน” เมื่อเขาพูดจบ พี่ชานยอลแทบจะสำลักชาเขียว เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบกล่องทิชชู่ที่วางอยู่ใกล้เขาแล้วยื่นไปให้พี่ชานยอล
มือพวกเขาชนกันครู่หนึ่ง
“อ-เอ่อ ขอโทษ” พี่ชานยอลกล่าวขอโทษเมื่อมือของพี่เขามาชน
“ม-ไม่เป็นไรครับ” เขาก้มหน้าชิดอก เพื่อหลบสายตาของพี่ชานยอล
เมื่ออาหารที่สั่งถูกวางบนโต๊ะครบแล้ว พวกเขาทั้งสองก็ต่างก้มหน้าก้มตากินด้วยความหิวโหย เขากินเสร็จก่อนพี่ชานยอล เขาจึงนั่งรอ พร้อมชวนพี่ชานยอลคุย
“พี่หน้าตาดีแบบนี้ต้องมีแฟนแล้วแน่ๆเลยใช่ไหมครับ?” ถึงแม้เขาจะเป็นคนถามอย่างนั้นออกไป แต่เขากลับภาวนาอยู่ลึกๆให้พี่ชานยอลตอบว่าไม่มี
“ไม่ พี่ยังไม่มี แทบไม่ได้สนใจเรื่องนั้นด้วยซ้ำ” พี่ชานยอลพูดระหว่างดูดเส้นราเมงเข้าปากต่อ พี่เขาแทบไม่ได้เงยหน้ามามองคนที่ถามอย่างเขาด้วยซ้ำ
“ดีจังเลยครับ!!!” แย่แล้วเขาหลุดพูดความในใจออกไปเสียแล้ว เขาจึงรีบเอามือทั้งสองปิดปากตัวเอง
“…”
“คือ คือ คือ...ผมหมายถึง...ดีแล้วที่พี่สนใจการเรียนมากกว่าน่ะครับ” แก้ตัวแทบไม่ทัน เซฮุนเอ้ยเซฮุน
“…” พี่ชานยอลยังคงก้มหน้าก้มตากินต่อไป
หลังจากที่ทั้งคู่กินเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็เดินออกมาหน้าร้าน ฝนได้หยุดตกไปสักพักแล้ว พี่ชานยอลอาสาเดินมาส่งเขาที่สวนสาธารณะ ก่อนจะบอกลาเขา แต่เขาไม่อยากให้มันจบแค่นี้เลย พี่ชานยอลเป็นคนที่น่าค้นหามาก คิดสิคิด ทำอย่างไรถึงจะได้เจอพี่เขาอีกนะ
“เดี๋ยวครับ” เขาเรียกอีกฝ่าย ตอนที่อีกฝ่ายกำลังหันกลับไป
“ว่าไง” พี่ชานยอลหันกลับมาตามเสียงเรียกของเขา
“คือว่า...พี่ช่วยติวประวัติศาสตร์ให้ผมได้ไหมครับ?” จริงๆแล้วเขาเกลียดวิชาประวัติศาสตร์เอามากๆเลยแหละ แต่เขาคิดไม่ออกแล้วว่าจะทำอย่างไรให้เขาได้เจอกับพี่ชานยอลอีก วิธีนี้ก็เนียนไม่ใช่เล่น ถ้าเขาเอาไปเล่าให้แบคฮยอนฟัง เพื่อนสนิทตัวเล็กของเขาคงต้องมอบโล่ความตีเนียนให้เขาแน่ๆ
“…” พี่ชานยอลเงียบไป
“คือว่าถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ”
-LACUNA-
ตอนแรกชานยอลอยากจะตอบปฏิเสธไป เขาไม่เคยติวให้ใครเลย เขากลัวว่าเขาจะทำได้ไม่ดีพอ แต่ติดตรงที่เซฮุนทำหน้าเศร้าสร้อยใส่เขา เหมือนเด็กที่โดนแย่งขนมอย่างไรอย่างนั้น จริงๆเขาก็ไม่ได้ติดอะไรอยู่แล้ว การจะไปช่วยติวให้เซฮุนก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเท่าไหร่
“ได้สิ” เขาตอบตกลงไป จะว่าไปการติวให้เซฮุน อาจจะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเขาอีกด้วย เพราะในอนาคตเขาตั้งใจจะเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์
“งั้นผมขอไลน์พี่จะได้ไหมครับ จะได้นัดวันเวลาติวน่ะครับ”
“อ่าได้สิ”
หลังจากเขาให้ไลน์เซฮุนไปเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาทั้งสองจึงต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
เมื่อถึงคอนโดแล้ว ชานยอลก็ถอดรองเท้าเก็บเข้าไว้ในตู้รองเท้า อย่างที่เคยกล่าวไว้ ชานยอลชอบความเป็นระเบียบ เขามักหงุดหงิดเสมอเวลาเห็นอะไรที่ไม่เป็นระเบียบ เขาเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง เพื่อความสบาย จากนั้นเขาก็เปิดไฟอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เล่มเดียวกับที่เขาเพิ่งได้คืนมาจากเซฮุน
เวลาผ่านล่วงเลยจนมาถึงเวลาหัวค่ำแล้ว เขาละสายตาจากหนังสือ โดยไม่ลืมที่จะเอาที่คั่นหนังสือมาคั่น ไว้กันลืมว่าเขาอ่านถึงตรงไหนแล้ว ก่อนจะปิดหนังสือลง เขารู้สึกปวดร้าวที่คอเล็กน้อยจากการที่ก้มอ่านหนังสือเป็นเวลานาน จริงสิ เขานึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย เมื่อชานยอลนึกขึ้นได้ก็รีบคว้ากระเป๋าสตางค์ แล้วลงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ข้างๆคอนโดของเขา
หลังจากชานยอลทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน ตอนนี้ก็ใกล้เวลานอนของเขาแล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะล้มตัวลงนอนนั้น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
Hunhunnee:
ฝันดีนะครับพี่ชานยอล
ไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่กลับเป็นเด็กหนุ่มที่เขาเจอวันนี้
Chanyeol:
อืม
เขาไม่รู้จะตอบอะไรด้วยซ้ำ ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีใครเคยส่งข้อความฝันดีมาให้เขา
Hunhunnee:
หยิ่งหรอ
พี่ต้องตอบกลับมาว่าฝันดีเช่นกันสิครับ
Chanyeol:
ฝันดีเช่นกัน
เขาทำตามที่เซฮุนบอก วันนี้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือเมื่อมีคนบอกฝันดี เขาต้องตอบกลับว่าฝันดีเช่นกัน ทั้งๆที่เขาทำตัวไม่น่าเข้าหาแท้ๆ แต่เซฮุนกลับยังคุยกับเขา เขาอมยิ้มเบาๆ ก่อนจะปิดไฟ ปิดโทรศัพท์นอน
-LACUNA-
เซฮุนยังคงไม่หลับ หลังจากที่เขารวบรวมความใจกล้าหน้าด้านทักไปบอกพี่ชานยอลว่าฝันดี เขาพยายามข่มตาหลับ แต่เขากลับรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าเกินกว่าจะหลับลงได้ ยิ่งเมื่อพี่เขาตอบกลับมาว่าฝันดีเช่นกัน ยิ่งทวีคูณความเขินให้เขาอีก ถึงเขาจะเป็นคนบอกให้พี่ชานยอลพิมพ์แบบนั้นเองก็เถอะ
“พี่นี่มันซื่อจริงๆเลย” เซฮุนพูดกับตุ๊กตาหมีที่อยู่บนเตียงของเขา
สงสัยเขาจะเป็นเอามาก ความคิดหลุดลอยคิดถึงแต่ใบหน้าอันหล่อเหลาและดูเป็นผู้ใหญ่ของพี่ชานยอล
เขาผล็อยหลับไป โดยที่ยังคงถือโทรศัพท์อยู่ในมือไว้
-LACUNA-
TBC.
Talk:
สวัสดีค่ะ ไม่ได้มีโอกาสเขียนถึงรีดเดอร์ในตอนแรก
มาเขียนตอนนี้คงไม่สายไปใช่ไหมคะ 555555
ฟิคที่เราเขียนเรากะจะให้ดำเนินเรื่องละมุนๆไปเรื่อยๆ
ไม่ได้มีจุดพีคอะไรมาก บางทีอาจจะน่าเบื่อไปหน่อย
ต้องขอโทษด้วยนะคะ มีอะไรก็คอมเม้นท์ติชมได้ค่ะ
เราจะได้นำไปปรับปรุง สำหรับเรื่องสั้นเรื่องต่อๆไปค่ะ
ไว้มาต่ออีก 70% ที่เหลือนะคะ
สำหรับฟิคเรื่อง LACUNA เราได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
หนังญี่ปุ่นเรื่อง My Rainy Days ค่ะ อาจจะมีเหมือนบ้างในบางจุดนะคะ
เพราะเราชอบหนังเรื่องนี้มากเหลือเกิน555555
มาต่อที่เหลือแล้วนะคะ ขอให้สนุกกับการอ่าน
หวังว่าจะชอบกันนะคะ คิคิ
ความคิดเห็น