คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ❀ ECCEDENTESIAST | Part 2 (END)
ECCEDENTESIAST
-someone who hides pain behind a smile-
3เดือนผ่านไป
ตอนนี้เซฮุนได้เป็นช่างภาพสมใจแล้ว หลังจากวันที่ได้คุยกับพี่ชานยอลวันนั้นก็ทำให้เขาตัดสินยื่นใบลาออก เขารู้ว่ามันเป็นการกระทำที่เสี่ยง แต่เขาไม่อยากจมปรักอยู่กับอะไรที่ไม่ใช่ตัวเขาเอง ถึงแม้รายได้จะไม่มากเท่าแต่ก่อนที่เขานั่งทำบัญชี แต่เขาก็โอเค เขามีความสุขในการได้ถ่ายรูปวิว ถ่ายรูปผู้คน ได้ท่องเที่ยวบ้างเป็นบางครั้งที่ต้องไปถ่ายงานที่ไกลๆ ถึงกระนั้นเขายังคงแวะเวียนไปร้านกาแฟของพี่ชานยอลอยู่เกือบทุกเย็นเลยก็ว่าได้ เขาเปลี่ยนจากการจิบกาแฟยามเช้ามาเป็นจิบกาแฟตอนเย็นแล้ว เพราะตอนเย็นมักไม่ค่อยมีคนทำให้เขากับพี่ชานยอลได้มีเวลาคุยเล่นกัน
วันนี้ก็เช่นกันหลังจากถ่ายงานแถวสวนสาธารณะเสร็จเขากะจะแวะเข้าไปที่ร้านกาแฟเหมือนที่เขาทำอยู่เกือบทุกวัน วันนี้อากาศแจ่มใส แดดไม่ร้อนมาก พอมีลมพัดมาไม่ให้เหงื่อไหลเท่าไหร่ เหมาะกับการถ่ายรูปจริงๆ
ตอนนี้ก็ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาดีใจที่ถ่ายงานเสร็จพอดี เขาเป็นคนจริงจังกับงานเสมอเขาอยากทำงานให้เสร็จเป็นอย่างๆ จะได้ไม่ต้องรบกวนนายแบบนางแบบให้มาหลายๆวัน เอ๊ะ พี่ชานยอลจะปิดร้านหรือยังนะ ทุกๆวันพี่ชานยอลมักจะยังไม่ปิดร้านจนกว่าเซฮุนจะมา ยกเว้นเสียแต่ เซฮุนติดงานที่ต่างจังหวัด เขาก็จะโทรบอกพี่ชานยอลก่อน กลัวพี่เขารอเก้อ เขารีบเดินไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใกล้ที่สุด เพื่อนั่งไปลงที่แถวร้านกาแฟของพี่ชานยอลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับที่ทำงานเก่าของเขา
ถึงร้านกาแฟของพี่ชานยอลแล้ว เขาจึงผลักประตูเข้าไป ถึงแม้ป้ายหน้าร้านจะเขียนว่าปิดแล้วก็เถอะ แต่จุดประสงค์เขาไม่ได้มากินกาแฟ เพียงแต่จะมาหาเจ้าของร้านก็เท่านั้นเอง ตอนนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่มแล้ว ร้านเงียบมาก ได้ยินเพียงเสียงเพลงเปียโนคลอเบาๆที่พี่เขาเปิดไว้ เขามองไปหลังเคาท์เตอร์ก็พบพี่ชานยอลนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ สงสัยจะเหนื่อยมากสินะ เขาเดินไปนั่งข้างๆพี่ชานยอลที่หลับอยู่ เขาจ้องมองใบหน้าของอีกคนแล้วอมยิ้ม เขารู้สึกขอบคุณคนตรงหน้ามากที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ ผ่านไปนานเท่าไหร่เซฮุนก็ไม่รู้ แต่รู้ตัวอีกทีเขาก็นอนอยู่ตรงโซฟาของร้านแล้ว แถมยังมีผ้าห่มมาจากไหนไม่รู้
“ตื่นแล้วหรอ คนขี้เซา” เสียงของพี่ชานยอลร้องทักคนที่ยังคงไม่ลุกออกจากโซฟา
“ใครกันแน่ที่ขี้เซา ตอนผมมาเห็นพี่หลับอยู่ ผมเลยไม่กล้าปลุก” เขาว่าพลางยันตัวขึ้นมานั่งบนโซฟา
“เลยหลับตามพี่เลยเนี้ยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” พี่ชานยอลเดินหันหลังไปเคาท์เตอร์
“…” เถียงไม่ออกเลย
“วันนี้พิเศษหน่อยพี่ทำขนมเค้กมาให้เรากินด้วย” ไม่ยักรู้ว่าทำเค้กเป็นด้วย ดีจริงๆเขาชอบกินเค้กเอามากๆเลย
“พี่ทำเค้กเป็นด้วยหรอครับ ผมไม่เห็นจะรู้เลย”
“ก็เห็นคนบางคนแถวนี้ชอบซื้อเค้กมากินกับกาแฟน่ะ” คนแถวนี้ที่ว่าไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่คือเขาเอง เขามักแวะซื้อเค้กแถวๆสถานีรถไฟใต้ดินมากินกับพี่ชานยอล
“ก็ผมชอบกินนี่นา” เซฮุนพูดจบก็ยู่ปาก
“เลยต้องเรียนรู้วิธีทำไง วันนี้พี่ลองทำมาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว อยากทำให้เซฮุนกิน” พี่เขายิ้มกว้าง โชว์ฟันขาวๆของพี่เขา พี่ชานยอลมักใจดีกับเขาเสมอ พี่ชานยอลใส่ใจแทบทุกรายละเอียดของเขา บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เขาเองยังไม่รู้ตัวเลย แต่พี่ชานยอลก็รู้เสมอ อย่างวันก่อนที่เขาไปห้างกับพี่ชานยอล เขาไปลองเสื้อแขนยาวมาแต่บังเอิญแขนมันยาวไปหน่อยเลยไม่ได้ซื้อมา พอวันถัดมาพี่ชานยอลก็เอากล่องของขวัญมาให้เขา เมื่อแกะออกมาก็พบว่าเป็นเสื้อที่เขาไปลองแต่ได้ตัดแขนเสื้อให้สั้นลง พอดีกับตัวเขาเรียบร้อยแล้ว
“กินได้แน่ใช่ไหมพี่ ไม่ใช่กินแล้วท้องเสียนะ” เขาพูดพลางตักเค้กสตรอเบอร์รี่เข้าปาก
“กินได้หน่า ระดับนี้แล้ว ท้องเสียก็ท้องเสียด้วยกัน ฮ่าฮ่าฮ่าา” พี่เขาพูดพร้อมตักเค้กคำโตเข้าปาก
“พี่ชานยอล!!!!!”
“เรียกทำไม หรืออยากจะให้พี่ป้อนงั้นหรอ ได้เลย” ไม่ทันได้คัดค้านช้อนพร้อมเค้กชิ้นใหญ่ก็ได้เข้าปากเขาไปแล้ว พี่นะพี่ แกล้งกันได้ลงคอ
“ไอ่ใอ่แอบอั้นนนนนน” เขาพูดทั้งๆที่เค้กยังเต็มปาก ทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง
“อะไรนะอยากให้ป้อนอีกหรอ ได้ๆ” ถ้าเขาเค้กติดคอตาย ทุกคนต้องไปเป็นพยานให้เขานะว่าพี่ชานยอลจงใจฆาตกรรมเขา
“อี่อานออลลลลลลลลลลลลลลลลลลล” หลังจากนั้นเขาก็ต้องรีบเคี้ยวเค้กชิ้นโตในปากก่อนที่มันจะติดคอเขาตาย โดยมีพี่ชานยอลนั่งขำท้องแข็งอยู่เก้าอี้ตรงข้ามเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่าาาๆๆๆๆๆ” ยัง ยังไม่หยุดขำอีก
“นี่แหน่ะ!!!!”เมื่อพี่เขายังขำไม่หยุด น่าหมั่นไส้นัก เอาเค้กป้ายหน้าเลย
“จะเล่นยังงี้หรอเซฮุน”
“ย้าาาาาา อย่าเอาเค้กมาป้ายหน้าผมสิ พี่ชานยอลหยุดดดดด”
สงครามเค้กป้ายหน้าเพิ่งจะเริ่มขึ้น.. ตอนนี้หน้าเราสองคนเต็มไม่ด้วยครีมของหน้าเค้ก ถ้าปักเทียนบนหน้านี่กลายเป็นเค้กวันเกิดเลยนะเนี้ย เขาเหนื่อยเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะงานนะ แต่เป็นเพราะเขาทั้งต้องเอาครีมหน้าเค้กป้ายหน้าพี่ชานยอลกลับ ทั้งต้องขำ เหนื่อยมาก เป็นสงครามที่กินพลังงานเขาเหลือเกิน
-ECCEDENTESIAST-
หลังจากสงครามเค้กป้ายหน้าได้จบลง เขากับเซฮุนก็ต้องเก็บกวาดกันยกใหญ่เลย เค้กเลอะไปทั่วทั้งโต๊ะ พื้น โซฟา และที่สำคัญที่สุดเค้กเลอะไปทั่วทั้งหน้าเลย ถ้าเขาทาจมูกสีแดงคงกลายเป็นตัวตลกตามสวนสนุกที่เด็กๆพากันไปขอลูกโป่ง เซฮุนยังคงขำไม่หยุด ขำจนแทบลงไปกลิ้ง เด็กนี่นะ!! แต่เขาดีใจที่ทำให้เซฮุนมีความสุขได้
เมื่อทำความสะอาดเสร็จกันยกใหญ่แล้ว เซฮุนก็ช่วยเขาล้างจาน เก็บร้านและปิดร้าน เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ ร้านของเขานั้นปิดวันเสาร์กับวันอาทิตย์ทำให้เขาต้องเคลียร์บิล ทำรายรับรายจ่ายประจำสัปดาห์ ยังดีที่มีเซฮุนคอยช่วยเขา หลังจากปิดร้านแล้วเขาและเซฮุนเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยกัน ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เขาไปส่งเซฮุนที่บ้านแทบทุกวันเลยก็ว่าได้ เราสองคนจะฟังเพลงด้วยหูฟังคนละข้าง และเซฮุนก็ยังคงนอนพิงไหล่เขาตลอด เขาไม่เคยเบื่อเลย กลับรู้สึกชอบซะด้วยซ้ำไป แต่ครั้งนี้เขาเองก็นอนซบหัวเซฮุนกลับ เขาเหนื่อยจากสงครามดูดพลังนั้นมาก ไหนจะต้องเคลียร์บิล ทำความสะอาดอีก เขาเลยผลอยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เวลาผ่านล่วงเลยไปเท่าไหร่เขาก็ไม่รู้ เขายังคงดำดิ่งในห้วงนิทรา
“พี่ครับ พี่ชานยอล” จนกระทั่งเซฮุนปลุกเขา
“เรานั่งเลยป้ายมาไกลมากแล้วครับพี่” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร เซฮุนก็รัวคำพูดใส่เขาพร้อมทำหน้าแตกตื่น เนื่องจากเขาสองคนหับมาตลอดทางทั้งคู่ เลยไม่ได้ลงสถานีที่ต้องลง
“อ้าวหรอ” ถึงจะยังไม่ตื่นเต็มที่แต่เขาก็ค่อนข้างตกใจเช่นกัน
“ยังมีรถอีกขบวนนึงครับ รีบไปกันเถอะครับเดี๋ยวไม่ทันขบวนสุดท้าย” พวกเขารีบวิ่งมาที่ชานชาลาอีกฝั่งนึงเพื่อนั่งรถไฟกลับไป เมื่อมองขึ้นไปที่นาฬิกาก็พบว่านี่มัน 5 ทุ่ม กว่าแล้ว เหลืออีกไม่ถึง15นาที รถไฟฟ้าใต้ดินก็จะปิดแล้ว
“พี่ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพี่กลับไปไม่ทัน พี่มานอนที่บ้านผมก่อนก็ได้” ในขณะที่เขากำลังคิดหาวิธีกลับบ้านอยู่นั้น ก็มีเสียงสวรรค์ของเซฮุนดังขึ้น ทำให้เขาไม่ต้องกังวลหาทางกลับบ้าน
“รบกวนด้วยนะ”
“ไม่รบกวนเลยครับ ผมหาเพื่อนดูดาวคืนนี้พอดี” เขายิ้มร่าให้กับเซฮุน รู้สึกขอบคุณเซฮุนที่มีน้ำใจกับเขา
เมื่อถึงสถานีที่ต้องลงแล้ว ทั้งคู่ก็ก้าวออกมาจากรถไฟ โดยมีเซฮุนคอยชวนคุยเล่าเรื่องวันนี้ที่เซฮุนไปเป็นช่างภาพที่สวนสาธารณะ เซฮุนดูมีความสุขมาก ต่างจากตอนแรกที่เขาทำงานที่บริษัทนั้น เขารู้สึกดีใจที่เซฮุนได้ทำตามความฝันของตัวเองซักที
ก่อนจะออกไปจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเขาก็เรียกเซฮุน
“เซฮุน” ก่อนจะดึงตัวเซฮุนที่หันมาพอดีเข้ามากอด วันนี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน ลูกค้าเข้ามาทั้งวันเลย ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาพัก ไหนจะต้องลองทำเค้กให้เซฮุนอีก การกอดเซฮุนเหมือนกับเป็นการชาร์จแบตตัวเองเลย เขาชอบกอดเซฮุนทุกครั้งที่เขาเหนื่อย เหมือนความเหนื่อยมันได้หายเป็นปลิดทิ้งเลย
เซฮุนกอดตอบเขากลับช้าๆ
“วันนี้เหนื่อยหรอครับ”
“นิดหน่อย...” เขาตอบไปอย่างแผ่วเบา
หลังจากที่ผละตัวออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่ายแล้ว พวกเขาสองคนก็เดินจับมือกันไปบ้านของเซฮุน
-ECCEDENTESIAST-
ระหว่างทางมีลมพัดเล็กน้อย แต่ที่ดีคือวันนี้บนท้องฟ้ามีดาวด้วย เซฮุนชอบดูดาวมาก เขาจึงมาซื้อบ้านไกลตัวเมืองหน่อย เพื่อจะได้เห็นดาวชัดๆในยามค่ำคืน เขาชอบฟังเสียงเปียโนเพลงเดียวกับที่พี่ชานยอลเปิดที่ร้านกาแฟของพี่เขา และนอนดูดาว เขาเคยหวังว่าซักวันพี่ชานยอลจะมานอนดูดาวเป็นเพื่อนกับเขา
เมื่อถึงบ้านของเซฮุนแล้วเขาทั้งสองคนจึงแยกย้ายกันไปอาบน้ำ ล้างหน้าที่ยังคงมีคราบครีมเค้กติดอยู่บ้างเล็กน้อยให้สะอาด เขาชวนพี่ชานยอลขึ้นไปบนดาดฟ้าของบ้าน เพื่อไปนอนดูดาวด้วยกัน เมื่อก่อนตอนที่นอนดูดาวคนเดียวบางทีเขาก็เล่าเรื่องระบายให้ดวงดาวฟัง บางทีเขาก็ร้องไห้ให้ดวงดาวได้ยินแต่ตั้งแต่ได้รู้จักพี่ชานยอลเขาก็ไม่เคยมาบ่นกับดวงดาวอีกเลย ปาร์ค ชานยอลเปรียบเสมือนเป็นดวงดาวของเขาเลย คอยส่องสว่างชี้ทางให้เขา คอยรับฟังเขา คอยดูแลเขา ดีกว่าดวงดาวอีกนะเนี้ย คิดแล้วเขาก็อมยิ้มเบาๆ
“ยิ้มอะไรกันเซฮุน” ระหว่างที่นอนดูดาวอยู่พี่ชานยอลก็ถามขึ้นมา
“ผมแค่ดีใจที่ได้พี่มานอนดูดาวเป็นเพื่อน ผมอยากให้พี่มานอนดูดาวเป็นเพื่อนผมมานานแล้ว” เขาพูดพร้อมยิ้มร่า
“ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ครั้งหน้าไม่มาดูดาวเป็นเพื่อนแล้ว” อ้าวอะไรกัน ทำไมพี่เขาพูดอย่างนี้
“…” เซฮุนเงียบเพราะตกใจคำพูดของพี่ชานยอล
“…ครั้งหน้าพี่อยากมาดูดาวเป็นแฟนมากกว่า” เขาเขินมาก จึงพลิกตัวไปอีกทางเพื่อไม่ให้พี่ชานยอลเห็นใบหน้าแดงฉ่าของเขา
“…” ยัง ยังเขินอยู่
“อย่าเงียบสิ เป็นแฟนกันนะ เซฮุน”
เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้ซะแล้ว บางทีเขาก็แอบคิดนะว่ามีแต่เขาคนเดียวรึเปล่าที่รู้สึกกับอีกฝ่ายมากกว่าคำว่าพี่น้อง แต่วันนี้พี่ชานยอลได้ทำให้เขาได้รู้แล้วว่าเขาไม่ได้คิดไปเองเพียงคนเดียว
“ป-เป็นสิครับ” เขารีบตอบโดยไม่ต้องคิดเลย
.
.
.
.
เขารู้สึกขอบคุณวันโชคร้ายในวันนั้น ที่ทำให้เขาโชคดีได้เจอกับคนดีๆอย่างพี่ชานยอล
-ECCEDENTESIAST-
END.
ความคิดเห็น