คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ❀ ABDITORY | Part 2
ABDITORY
-a place into which you can disappear; a hiding place-
ออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น เปรียบเสมือนเสียงสวรรค์ของนักเรียน ในที่สุดการเรียนของวันนี้ก็จบลงแล้ว นักเรียนในห้องพากันเก็บกระเป๋า ยกเก้าอี้ขึ้นบนโต๊ะ แล้วค่อยๆทยอยเดินออกจากห้องกันไป พร้อมกับเสียงคุยกันที่ดังและฟังไม่ได้ศัพท์เหมือนเสียงนกกระจอก
ตัวเซฮุนเองก็สะพายกระเป๋าพร้อมกับยกเก้าอี้อย่างเชื่องช้าด้วยความที่ไม่ได้อยากกลับบ้านสักเท่าไหร่
“กลับดีดีน้าาา” มินซอกเพื่อนสนิทตัวกลมของเขาโบกมือลาเขา
“บ้ายบายยย” เซฮุนโบกมือกลับ ก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้องเรียน และลงจากตึกเรียน
เขาไม่ได้รีบกลับบ้านหรอก แต่จะรีบไปวางของและไปที่บ้านไม้กลางป่านั่นต่างหาก
เขาคงไม่โง่ทนอยู่บ้านฟังพ่อบ่นเรื่องวันนี้หรอก เพราะพ่อก็ไม่เคยฟังเขาเลย ไม่ว่าเขาจะแก้ตัวอย่างไรพ่อกลับไม่เคยฟังเลย
วันนี้เซฮุนเตรียมตัวมาดี เขาพกไฟแช็กที่แวะซื้อจากร้านสะดวกซื้อแถวโรงเรียนมาเพื่อที่จะจุดเตาผิง เพราะเขาไม่แน่ใจว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมาจุดไม้ขีดให้เขาอีกหรือไม่
เขาเดินผ่านระเบียงหน้าบ้านไปยังประตูพร้อมกับหมุนลูกบิดและผลักประตูเข้าไป แล้วพบว่าคนที่จุดไม้ขีดให้เขายังไม่มา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เพราะวันนี้เขามีไฟแช็กแล้ว เขาเดินไปจุดเตาพิงก่อนจะล้มตัวลงนอนบนฟูกเก่าๆ
หลังจากที่เขานอนเล่นอยู่สักพักใหญ่ ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาในบ้าน เขาแทบไม่ต้องลุกขึ้นมาดูก็สามารถเดาได้ว่าเป็นใคร
“อ-เอ่อ ฉันมากวนนายหรือเปล่า” เสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์แบบนี้
“ไม่หรอก เข้ามาสิ” เขาตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นมาจากฟูกนอนเล็กๆ
อีกฝ่ายล้มตัวมานอนข้างๆเขา แล้วความเงียบก็กลับมาปกคลุมเหมือนเดิม ถึงมันจะเป็นความเงียบแต่น่าแปลกมันกลับไม่ทำให้เซฮุนรู้สึกอึดอัด
“อ-อ-เอ่อ วันนี้นายโดนดุเรื่องอะไรหรอ” ชานยอลถามขึ้นทำลายความเงียบนั้น
“มีเรื่องน่ะ”
“เรื่องอะไรเล่าให้ฉันฟังได้ไหม”
“ถ้าเล่าไปนายจะเชื่อฉันไหม” เพราะไม่ว่าเขาจะไปเล่ากับใครก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลย เอาแต่หาว่าเขาเป็นอันธพาลมีเรื่องชกต่อยตลอด
“อื้อ เชื่อสิ”
คงจะเป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกแปลกที่จะเล่าเรื่องของเขาให้คนที่ไม่รู้จักฟัง เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าสนใจที่จะฟังจริงๆ ไม่ใช่แค่ถามไปอย่างนั้นแบบที่คนอื่นๆเคยทำกับเขา
เซฮุนเล่าตามความเป็นจริงว่าเขาพยายามที่จะปกป้องเพื่อนเขา เพราะเพื่อนเขาไม่สู้คน
“...แค่มินซอกไม่รับรัก ถึงกับต้องมากลั่นแกล้งกันทุกวันแบบนี้ ฉันว่ามันไม่ถูกต้อง จะให้ฉันทนเห็นเพื่อนโดนแกล้งทุกๆวันโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้หรอกนะ”
“…” ชานยอลเงียบและตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด
“บางวันก็เอารองเท้าไปทิ้ง บางวันก็เอาอาหารเน่าๆไปยัดใส่ล็อคเกอร์ ยังมีอย่างอื่นอีกนะ ฉันว่ามันเกินไปจริงๆ” เซฮุนพูดระบายความในใจออกมาเรื่อยๆ โดยตายังคงจ้องมองที่เพดาน
ชานยอลตั้งใจฟังเขาจนจบโดยไม่ได้ทักท้วงอะไรขึ้นมาระหว่างที่เขาพูด
“...สิ่งที่นายทำมันก็ไม่ผิดนะเซฮุน นายเพียงแค่อยากปกป้องเพื่อน แต่มันน่าจะมีวิธีแก้ที่เด็ดขาดกว่านี้ไม่งั้นนายก็จะต้องเจ็บตัวไปเรื่อยๆอย่างนี้หรอ พวกนั้นก็ยังคงแกล้งเพื่อนนายไปเรื่อยๆไม่มีวันจบ” สิ่งที่ชานยอลพูดมันช่างแทงใจดำเขาเหลือเกิน มันเป็นความจริงที่เขาไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้
“…” เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร
“….อืม เอางี้ไหมเราก็หาหลักฐานแล้วเอาไปฟ้องอาจารย์ให้อาจารย์จัดการพวกที่กลั่นแกล้งมินซอกเพื่อนนาย”
“ฉันเคยเล่าให้เขาฟังแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อฉัน ทุกคนบอกว่าฉันเป็นคนเริ่มเรื่อง”
“ฉันถึงบอกว่า ‘เรา’ ไง ถ้าเรามีหลักฐาน ฉันก็สามารถเอาผิดพวกนั้นได้ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นรองประธานนักเรียนนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” ครับ พ่อรองประธานนักเรียนนนน
“นายจะช่วยฉันจริงๆหรอ” เขารู้สึกแปลกใจที่มีคนยื่นมือมาช่วยเขา ทั้งๆที่เราเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่
“จริงสิ ฉันไม่โกหกนายหรอก” สีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายทำให้เขามั่นใจมากขึ้น
“ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก” เขาหันไปกล่าวคำขอบคุณให้อีกฝ่าย
เสียงเตือนจากโทรศัพท์ของชานยอลดังขึ้น
“ฉันต้องกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านแล้วล่ะ ไปก่อนนะ” ชานยอลพูดพลางยันตัวลุกขึ้น และเดินออกไปจากบ้านไม้
เซฮุนยิ้มจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินพ้นประตูไป ก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินกลับบ้านเช่นกัน บ้านที่เขาไม่อยากจะเรียกมันว่าบ้านสักเท่าไหร่
-ABDITORY-
วันนี้เป็นอีกวันที่เขารับเซฮุนขึ้นมาซ้อนท้ายจักรยานของเขา เนื่องจากเขาเห็นเซฮุนถูกใครสักคนไล่ลงจากรถ เขาเลยขี่จักรยานตามแล้วเรียกเซฮุนขึ้นมา
อีกแล้ว ทำไมเซฮุนถึงโดนไล่ลงจากรถแบบนี้อีกแล้ว
“นี่ นายติดจักรยานฉันมาได้ทุกวันเลยนะ”
“อันเองใอ” เซฮุนที่กำลังกินแซนวิชอยู่เต็มปากพูดตอบเขา
“อะไรนะ” เต็มปากอยู่อย่างนี้ ใครมันจะไปฟังรู้เรื่องครับ
“ฉันเกรงใจนาย” เซฮุนพูดย้ำอีกทีหลังจากกลืนแซนวิชลงคอไปแล้ว
“ไม่ต้องเกรงใจหน่า ทางเดียวกันอยู่แล้วนิ”
“อะ นี่ค่าให้ติดรถ” แซนวิชอีกครึ่งนึงถูกยื่นมาจ่อปากเขา เขาอ้าปากแล้วงับแซนวิชชิ้นโตเข้าปาก
“อื้มมมม อะอ่อยอีอะ”
“อร่อยดีนะ หรอ” ขอบคุณที่แปลภาษาแซนวิชให้เขา เป็นพระคุณมาก
“อื้อ”
“อานออนนๆๆ” เขาชักสงสัยแล้วว่าโดราเอม่อนจะมีวุ้นแปลภาษาแซนวิชให้เขาไหม
“ฉันฟังนายไม่รู้เรื่องหรอกนะเซฮุนน”
“อันอะออกอ่าอายอับเอยโองเอียนแอ้ววววววว” เขาเครียดเหลือเกิน
“อะไรนะเซฮุน” การพยายามฟังภาษาแซนวิชของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่มีสมาธิในการปั่นจักรยานเอาเสียเลย
“ฉันจะบอกว่านายขับเลยโรงเรียนแล้ว!!!!”
ตายแล้ว เขาขับเลยโรงเรียนหรอเนี้ย
“ขี่เพลินไปหน่อยโทษๆ”
แล้วเขาก็ต้องขี่วนกลับไป สติ!
หลังจากที่ขี่จักรยานเข้ามาจอดในโรงเรียนแล้ว เซฮุนก็เรียกเขาก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปห้องเรียนของตัวเอง
“น-นี่ถ้าไม่เป็นการรบกวน งั้นฉันขอติดจักรยานนายมาทุกวันได้ไหม.. แล้ว..แล้วฉันจะทำมื้อเช้ามาเผื่อ...ตะ...แต่ถ้านายไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ” เซฮุนพูดตะกุกตะกัก
“ได้สิ สบายมาก ดีเลยฉันไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าเท่าไหร่” จริงๆแล้วเขาไม่ได้ต้องการอะไรจากอีกฝ่ายหรอก แต่ถ้ามันจะทำให้อีกฝ่ายลำบากใจน้อยลงก็โอเค
ถึงในใจชานยอลจะเต็มไปด้วยคำถามว่าทำไมเซฮุนถึงถูกไล่ลงจากรถทุกวันแบบนี้ แต่เขาคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่อีกฝ่ายอยากเล่าก็คงเล่าให้เขาฟังเอง
-ABDITORY-
เซฮุนยังไม่ทันได้ยกเก้าอี้ลงจากโต๊ะ คิมมินซอกเพื่อนสนิทของเขาก็รีบวิ่งเข้ามาเขย่าไหล่เขา พร้อมกับตะโกนโหวกเหวกใส่หน้าเขา เรื่องซุ้มงานกิจกรรมรุ่นที่ทุกรุ่นต้องจัดเป็นประจำทุกปี
“นี่เซฮุน นายรู้ไหมเรื่องซุ้มกิจกรรมที่เราต้องจัดน่ะ” เซฮุนไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่ามันมีอะไรน่าตื่นเต้นด้วยหรืออย่างไร งานนี้พวกเขาก็ต้องทำเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
“มันน่าตื่นเต้นตรงไหนหรอมินซอก จัดอยู่แล้วทุกปี น่าเบื่อจะตาย”
“ก็ ปีนี้เราต้องไปทำซุ้มกับห้องAน่ะสิ”
“แล้วมันน่าตื่นเต้นตรง..นะ...ไหนกัน เดี๋ยวนะ นายว่าไงนะ”
“ฉันบอกว่าเราต้องทำซุ้มกับห้องA!!!” มินซอกตะโกนเสียงดัง
ห้องA งั้นหรอ...
ป-ปาร์คชานยอล อยู่ห้องAนี่นา
“นายรู้ได้ไงกัน?” เขาไม่อยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่
“หัวหน้าห้องเพิ่งบอกเมื่อกี้น่ะ”
“ปกติเราทำกับห้อง D มาตลอดนี่นา”
“เห็นเขาบอกว่าอยากให้นักเรียนรู้จักกันทั่วๆรุ่น แต่ก็ดีเหมือนกันฉันเบื่อพวกห้อง D จะแย่อยู่แล้ว” เพื่อนสนิทตัวกลมเขาพูดพลางเบะปากแบบทีเล่นทีจริง
“ย้า ย้า ย้าาาา นี่มินซอกนายเบื่อฉันหรอ” เสียงของบุคคลผู้เพิ่งเดินเข้ามาในห้องคนใหม่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก บยอน แบคฮยอน ห้อง D ผู้คอยสร้างเสียงหัวเราะให้โต๊ะอาหารในตอนกลางวันอยู่เสมอ
“อายุยืนจริงๆเลย นินทาปุ๊บก็มาปั๊บ” มินซอกผลักหัวแบคฮยอนที่เข้ามาบีบแก้มเขาเบาๆ
ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ เพลงประจำโรงเรียนก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาเข้าแถวตอนเช้าแล้ว เซฮุนมองออกไปนอกระเบียงตึกเรียน แล้วพบว่าวันนี้อากาศร้อนมากเลยทีเดียว แดดร้อนขนาดนี้ เขาได้แต่ภาวนาให้อาจารย์พูดหน้าเสาธงน้อยๆทีเถอะ
.
.
.
.
.
.
พระเจ้าไม่เคยฟังคำภาวนาของเขาสักเท่าไหร่ เซฮุนก้มมองดูนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลา ‘8:23’
ถึงแม้ตอนนี้เวลาจะล่วงเลยไปถึงแปดโมงกว่าแล้ว แต่การเข้าแถวตอนเช้าของเขายังคงไม่จบ อาจารย์แต่ละคนผลัดกันมาพูดถึงเรื่องที่ต้องแจ้ง เขาสัมผัสได้ว่าไม่มีทีท่าว่าจะได้เลิกแถวเร็วๆนี้เลย
และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“มีคนเป็นลม!!!!!!” เสียงหัวหน้าห้องของเซฮุนดังขึ้น
ด้วยความที่ตกใจมาก เซฮุนลุกยืนขึ้นแล้ววิ่งไปที่หัวแถว
เขาพบว่าคนที่เป็นลม เนื่องจากอากาศที่ร้อนนั้น เป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง
“มินซอก!!!!” เขาพยายามที่จะประคองเพื่อนของเขาเพื่อที่จะพาไปที่ห้องพยาบาล
ในที่สุดเขาก็พามินซอกมาห้องพยาบาลอย่างทุลักทุเล
ไม่กี่นาทีต่อมา คนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างปาร์ค ชานยอล ก็ปรี่เข้ามาประคองมินซอกไปนอนที่เตียง พร้อมกับวิ่งไปหยิบแอมโมเนียมาถือให้เพื่อนเขาดม พร้อมกับปลดกระดุมเม็ดบนๆออกเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น
หลังจากเซฮุนทำหน้างงมาสักพักใหญ่ ชานยอลก็ปริปากพูดขึ้นมา
“อ-เอ่อ วันนี้เราอยู่เวรห้องพยาบาลน่ะ”
“อ-อ่อ” เขาหยุดทำหน้างงใส่อีกฝ่าย
“เซฮุน...” เจ้าซาลาเปาที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มได้สติแล้ว เซฮุนเดินเข้าไปนั่งข้างๆเตียง พร้อมกับกุมมือเพื่อนเขาอย่างหลวมๆ
“นอนพักก่อนเถอะ ฉันเฝ้านายเอง” มินซอกพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหลับตา
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
เซฮุนเงยหน้าขึ้นมาแล้วบังเอิญสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเขาพอดี
“ขอบคุณนะ” เขาเอ่ยปากขอบคุณชานยอล
“ไม่เป็นไรหน่า มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” ชานยอลพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่อยู่ๆก็ทำให้ใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ
นี่! มันชักจะดังเกินไปแล้วนะคุณหัวใจ
-ABDITORY-
TBC.
Talk:
หายไปนานเลย คิดถึงกันไหมคะ? 5555555 ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ยังรอ;-; ที่หายไปนานเพราะกำลังปรับตัวกับมหาลัยอยู่ค่ะ ปรับตัวซะนานเลย
พอเข้ามหาลัยก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่ แล้วก็ปรับตัวกับสังคม การใช้ชีวิตอยู่สักพักใหญ่เลยค่ะ TT เรียนก็ยากขึ้น งอแงๆ55555 รู้สึกเหนื่อยๆเศร้าๆอยู่บ่อยๆ
แต่พอได้เห็นโมเม้นชานฮุนก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ จะพยายามมาเขียนบ่อยๆแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ เป็นกำลังให้เราเยอะมากๆเลย
ติชมเราได้ตลอดเลยนะคะ จะได้รู้ว่าควรปรับปรุงอะไรตรงไหน เพราะช่วงนี้ไม่ได้เขียนนานรู้สึกทักษะการเขียนหายไปเยอะมากๆเลย ;-;
เขียนในแท็กก็ได้นะคะ จะเข้าไปอ่าน คิคิ #APRICITYCHANHUN
Talk(2):
ในที่สุดก็มีคนใช้แท็กในทวิตแล้ว ดีใจมากเลยค่ะ ฮี่ฮี่ รักทุกคนมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่ยังคอยติดตามกันอยู่นะคะ
ความคิดเห็น