ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF) APRICITY♡ | CHANHUN

    ลำดับตอนที่ #14 : ❀ ABDITORY | Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 61


    ABDITORY


    -a place into which you can disappear; a hiding place-







         ออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น เปรียบเสมือนเสียงสวรรค์ของนักเรียน ในที่สุดการเรียนของวันนี้ก็จบลงแล้ว นักเรียนในห้องพากันเก็บกระเป๋า ยกเก้าอี้ขึ้นบนโต๊ะ แล้วค่อยๆทยอยเดินออกจากห้องกันไป พร้อมกับเสียงคุยกันที่ดังและฟังไม่ได้ศัพท์เหมือนเสียงนกกระจอก


    ตัวเซฮุนเองก็สะพายกระเป๋าพร้อมกับยกเก้าอี้อย่างเชื่องช้าด้วยความที่ไม่ได้อยากกลับบ้านสักเท่าไหร่


    กลับดีดีน้าาามินซอกเพื่อนสนิทตัวกลมของเขาโบกมือลาเขา


    บ้ายบายยยเซฮุนโบกมือกลับ ก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้องเรียน และลงจากตึกเรียน


    เขาไม่ได้รีบกลับบ้านหรอก แต่จะรีบไปวางของและไปที่บ้านไม้กลางป่านั่นต่างหาก


    เขาคงไม่โง่ทนอยู่บ้านฟังพ่อบ่นเรื่องวันนี้หรอก เพราะพ่อก็ไม่เคยฟังเขาเลย ไม่ว่าเขาจะแก้ตัวอย่างไรพ่อกลับไม่เคยฟังเลย 


    วันนี้เซฮุนเตรียมตัวมาดี เขาพกไฟแช็กที่แวะซื้อจากร้านสะดวกซื้อแถวโรงเรียนมาเพื่อที่จะจุดเตาผิง เพราะเขาไม่แน่ใจว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมาจุดไม้ขีดให้เขาอีกหรือไม่ 


    เขาเดินผ่านระเบียงหน้าบ้านไปยังประตูพร้อมกับหมุนลูกบิดและผลักประตูเข้าไป แล้วพบว่าคนที่จุดไม้ขีดให้เขายังไม่มา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เพราะวันนี้เขามีไฟแช็กแล้ว เขาเดินไปจุดเตาพิงก่อนจะล้มตัวลงนอนบนฟูกเก่าๆ 


    หลังจากที่เขานอนเล่นอยู่สักพักใหญ่ ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาในบ้าน เขาแทบไม่ต้องลุกขึ้นมาดูก็สามารถเดาได้ว่าเป็นใคร 


    -เอ่อ ฉันมากวนนายหรือเปล่าเสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์แบบนี้


    ไม่หรอก เข้ามาสิเขาตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นมาจากฟูกนอนเล็กๆ


    อีกฝ่ายล้มตัวมานอนข้างๆเขา แล้วความเงียบก็กลับมาปกคลุมเหมือนเดิม ถึงมันจะเป็นความเงียบแต่น่าแปลกมันกลับไม่ทำให้เซฮุนรู้สึกอึดอัด 


    --เอ่อ วันนี้นายโดนดุเรื่องอะไรหรอชานยอลถามขึ้นทำลายความเงียบนั้น


    มีเรื่องน่ะ


    เรื่องอะไรเล่าให้ฉันฟังได้ไหม” 


    ถ้าเล่าไปนายจะเชื่อฉันไหมเพราะไม่ว่าเขาจะไปเล่ากับใครก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลย เอาแต่หาว่าเขาเป็นอันธพาลมีเรื่องชกต่อยตลอด


    อื้อ เชื่อสิ


    คงจะเป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกแปลกที่จะเล่าเรื่องของเขาให้คนที่ไม่รู้จักฟัง เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าสนใจที่จะฟังจริงๆ ไม่ใช่แค่ถามไปอย่างนั้นแบบที่คนอื่นๆเคยทำกับเขา


    เซฮุนเล่าตามความเป็นจริงว่าเขาพยายามที่จะปกป้องเพื่อนเขา เพราะเพื่อนเขาไม่สู้คน 


    “...แค่มินซอกไม่รับรัก ถึงกับต้องมากลั่นแกล้งกันทุกวันแบบนี้ ฉันว่ามันไม่ถูกต้อง จะให้ฉันทนเห็นเพื่อนโดนแกล้งทุกๆวันโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้หรอกนะ


    “…” ชานยอลเงียบและตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด


    บางวันก็เอารองเท้าไปทิ้ง บางวันก็เอาอาหารเน่าๆไปยัดใส่ล็อคเกอร์ ยังมีอย่างอื่นอีกนะ ฉันว่ามันเกินไปจริงๆเซฮุนพูดระบายความในใจออกมาเรื่อยๆ โดยตายังคงจ้องมองที่เพดาน


    ชานยอลตั้งใจฟังเขาจนจบโดยไม่ได้ทักท้วงอะไรขึ้นมาระหว่างที่เขาพูด


    “...สิ่งที่นายทำมันก็ไม่ผิดนะเซฮุน นายเพียงแค่อยากปกป้องเพื่อน แต่มันน่าจะมีวิธีแก้ที่เด็ดขาดกว่านี้ไม่งั้นนายก็จะต้องเจ็บตัวไปเรื่อยๆอย่างนี้หรอ พวกนั้นก็ยังคงแกล้งเพื่อนนายไปเรื่อยๆไม่มีวันจบสิ่งที่ชานยอลพูดมันช่างแทงใจดำเขาเหลือเกิน มันเป็นความจริงที่เขาไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ 


    “…” เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร


    “….อืม เอางี้ไหมเราก็หาหลักฐานแล้วเอาไปฟ้องอาจารย์ให้อาจารย์จัดการพวกที่กลั่นแกล้งมินซอกเพื่อนนาย


    ฉันเคยเล่าให้เขาฟังแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อฉัน ทุกคนบอกว่าฉันเป็นคนเริ่มเรื่อง


    ฉันถึงบอกว่าเราไง ถ้าเรามีหลักฐาน ฉันก็สามารถเอาผิดพวกนั้นได้ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นรองประธานนักเรียนนะ ฮ่าฮ่าฮ่าครับ พ่อรองประธานนักเรียนนนน 


    นายจะช่วยฉันจริงๆหรอเขารู้สึกแปลกใจที่มีคนยื่นมือมาช่วยเขา ทั้งๆที่เราเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่


    จริงสิ ฉันไม่โกหกนายหรอกสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายทำให้เขามั่นใจมากขึ้น 


    ขอบคุณนะ ขอบคุณมากเขาหันไปกล่าวคำขอบคุณให้อีกฝ่าย 


    เสียงเตือนจากโทรศัพท์ของชานยอลดังขึ้น


    ฉันต้องกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านแล้วล่ะ ไปก่อนนะชานยอลพูดพลางยันตัวลุกขึ้น และเดินออกไปจากบ้านไม้


    เซฮุนยิ้มจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินพ้นประตูไป ก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินกลับบ้านเช่นกัน บ้านที่เขาไม่อยากจะเรียกมันว่าบ้านสักเท่าไหร่ 



     

    -ABDITORY-



    วันนี้เป็นอีกวันที่เขารับเซฮุนขึ้นมาซ้อนท้ายจักรยานของเขา เนื่องจากเขาเห็นเซฮุนถูกใครสักคนไล่ลงจากรถ เขาเลยขี่จักรยานตามแล้วเรียกเซฮุนขึ้นมา 


    อีกแล้ว ทำไมเซฮุนถึงโดนไล่ลงจากรถแบบนี้อีกแล้ว  


    นี่ นายติดจักรยานฉันมาได้ทุกวันเลยนะ” 


    อันเองใอเซฮุนที่กำลังกินแซนวิชอยู่เต็มปากพูดตอบเขา 


    อะไรนะเต็มปากอยู่อย่างนี้ ใครมันจะไปฟังรู้เรื่องครับ


    ฉันเกรงใจนายเซฮุนพูดย้ำอีกทีหลังจากกลืนแซนวิชลงคอไปแล้ว 


    ไม่ต้องเกรงใจหน่า ทางเดียวกันอยู่แล้วนิ


    อะ นี่ค่าให้ติดรถแซนวิชอีกครึ่งนึงถูกยื่นมาจ่อปากเขา เขาอ้าปากแล้วงับแซนวิชชิ้นโตเข้าปาก


    อื้มมมม อะอ่อยอีอะ


    อร่อยดีนะ หรอขอบคุณที่แปลภาษาแซนวิชให้เขา เป็นพระคุณมาก


    อื้อ


    อานออนนๆๆเขาชักสงสัยแล้วว่าโดราเอม่อนจะมีวุ้นแปลภาษาแซนวิชให้เขาไหม


    ฉันฟังนายไม่รู้เรื่องหรอกนะเซฮุนน


    อันอะออกอ่าอายอับเอยโองเอียนแอ้วววววววเขาเครียดเหลือเกิน


    อะไรนะเซฮุนการพยายามฟังภาษาแซนวิชของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่มีสมาธิในการปั่นจักรยานเอาเสียเลย


    ฉันจะบอกว่านายขับเลยโรงเรียนแล้ว!!!!”


    ตายแล้ว เขาขับเลยโรงเรียนหรอเนี้ย 


    ขี่เพลินไปหน่อยโทษๆ


    แล้วเขาก็ต้องขี่วนกลับไป สติ!


    หลังจากที่ขี่จักรยานเข้ามาจอดในโรงเรียนแล้ว เซฮุนก็เรียกเขาก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปห้องเรียนของตัวเอง

    -นี่ถ้าไม่เป็นการรบกวน งั้นฉันขอติดจักรยานนายมาทุกวันได้ไหม.. แล้ว..แล้วฉันจะทำมื้อเช้ามาเผื่อ...ตะ...แต่ถ้านายไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะเซฮุนพูดตะกุกตะกัก


    ได้สิ สบายมาก ดีเลยฉันไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าเท่าไหร่จริงๆแล้วเขาไม่ได้ต้องการอะไรจากอีกฝ่ายหรอก แต่ถ้ามันจะทำให้อีกฝ่ายลำบากใจน้อยลงก็โอเค


    ถึงในใจชานยอลจะเต็มไปด้วยคำถามว่าทำไมเซฮุนถึงถูกไล่ลงจากรถทุกวันแบบนี้ แต่เขาคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่อีกฝ่ายอยากเล่าก็คงเล่าให้เขาฟังเอง




    -ABDITORY-




                เซฮุนยังไม่ทันได้ยกเก้าอี้ลงจากโต๊ะ คิมมินซอกเพื่อนสนิทของเขาก็รีบวิ่งเข้ามาเขย่าไหล่เขา พร้อมกับตะโกนโหวกเหวกใส่หน้าเขา เรื่องซุ้มงานกิจกรรมรุ่นที่ทุกรุ่นต้องจัดเป็นประจำทุกปี


    นี่เซฮุน นายรู้ไหมเรื่องซุ้มกิจกรรมที่เราต้องจัดน่ะเซฮุนไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่ามันมีอะไรน่าตื่นเต้นด้วยหรืออย่างไร งานนี้พวกเขาก็ต้องทำเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว


    มันน่าตื่นเต้นตรงไหนหรอมินซอก จัดอยู่แล้วทุกปี น่าเบื่อจะตาย” 


    ก็ ปีนี้เราต้องไปทำซุ้มกับห้องAน่ะสิ” 


    แล้วมันน่าตื่นเต้นตรง..นะ...ไหนกัน เดี๋ยวนะ นายว่าไงนะ” 


    ฉันบอกว่าเราต้องทำซุ้มกับห้องA!!!” มินซอกตะโกนเสียงดัง


    ห้องA งั้นหรอ... 


    -ปาร์คชานยอล อยู่ห้องAนี่นา


    นายรู้ได้ไงกัน?” เขาไม่อยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่ 


    หัวหน้าห้องเพิ่งบอกเมื่อกี้น่ะ


    ปกติเราทำกับห้อง D มาตลอดนี่นา


    เห็นเขาบอกว่าอยากให้นักเรียนรู้จักกันทั่วๆรุ่น แต่ก็ดีเหมือนกันฉันเบื่อพวกห้อง D จะแย่อยู่แล้วเพื่อนสนิทตัวกลมเขาพูดพลางเบะปากแบบทีเล่นทีจริง


    ย้า ย้า ย้าาาา นี่มินซอกนายเบื่อฉันหรอเสียงของบุคคลผู้เพิ่งเดินเข้ามาในห้องคนใหม่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก บยอน แบคฮยอน ห้อง D ผู้คอยสร้างเสียงหัวเราะให้โต๊ะอาหารในตอนกลางวันอยู่เสมอ 


    อายุยืนจริงๆเลย นินทาปุ๊บก็มาปั๊บมินซอกผลักหัวแบคฮยอนที่เข้ามาบีบแก้มเขาเบาๆ


    ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ เพลงประจำโรงเรียนก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาเข้าแถวตอนเช้าแล้ว เซฮุนมองออกไปนอกระเบียงตึกเรียน แล้วพบว่าวันนี้อากาศร้อนมากเลยทีเดียว แดดร้อนขนาดนี้ เขาได้แต่ภาวนาให้อาจารย์พูดหน้าเสาธงน้อยๆทีเถอะ 


    .


    .



    .



    .



    .




    .




    พระเจ้าไม่เคยฟังคำภาวนาของเขาสักเท่าไหร่ เซฮุนก้มมองดูนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลา ‘8:23’ 


    ถึงแม้ตอนนี้เวลาจะล่วงเลยไปถึงแปดโมงกว่าแล้ว แต่การเข้าแถวตอนเช้าของเขายังคงไม่จบ อาจารย์แต่ละคนผลัดกันมาพูดถึงเรื่องที่ต้องแจ้ง เขาสัมผัสได้ว่าไม่มีทีท่าว่าจะได้เลิกแถวเร็วๆนี้เลย 


    และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น


    มีคนเป็นลม!!!!!!” เสียงหัวหน้าห้องของเซฮุนดังขึ้น 


    ด้วยความที่ตกใจมาก เซฮุนลุกยืนขึ้นแล้ววิ่งไปที่หัวแถว 


    เขาพบว่าคนที่เป็นลม เนื่องจากอากาศที่ร้อนนั้น เป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง


    มินซอก!!!!” เขาพยายามที่จะประคองเพื่อนของเขาเพื่อที่จะพาไปที่ห้องพยาบาล


    ในที่สุดเขาก็พามินซอกมาห้องพยาบาลอย่างทุลักทุเล


    ไม่กี่นาทีต่อมา คนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างปาร์ค ชานยอล ก็ปรี่เข้ามาประคองมินซอกไปนอนที่เตียง พร้อมกับวิ่งไปหยิบแอมโมเนียมาถือให้เพื่อนเขาดม พร้อมกับปลดกระดุมเม็ดบนๆออกเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น


    หลังจากเซฮุนทำหน้างงมาสักพักใหญ่ ชานยอลก็ปริปากพูดขึ้นมา


    -เอ่อ วันนี้เราอยู่เวรห้องพยาบาลน่ะ” 


    -อ่อเขาหยุดทำหน้างงใส่อีกฝ่าย


    เซฮุน...” เจ้าซาลาเปาที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มได้สติแล้ว เซฮุนเดินเข้าไปนั่งข้างๆเตียง พร้อมกับกุมมือเพื่อนเขาอย่างหลวมๆ 


    นอนพักก่อนเถอะ ฉันเฝ้านายเองมินซอกพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหลับตา


    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ 


    เซฮุนเงยหน้าขึ้นมาแล้วบังเอิญสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเขาพอดี


    ขอบคุณนะเขาเอ่ยปากขอบคุณชานยอล


    ไม่เป็นไรหน่า มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วชานยอลพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่อยู่ๆก็ทำให้ใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ 


    นี่! มันชักจะดังเกินไปแล้วนะคุณหัวใจ 



    -ABDITORY-



    TBC.



     Talk:


         หายไปนานเลย คิดถึงกันไหมคะ? 5555555 ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ยังรอ;-; ที่หายไปนานเพราะกำลังปรับตัวกับมหาลัยอยู่ค่ะ ปรับตัวซะนานเลย 

     

         พอเข้ามหาลัยก็ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่ แล้วก็ปรับตัวกับสังคม การใช้ชีวิตอยู่สักพักใหญ่เลยค่ะ TT เรียนก็ยากขึ้น งอแงๆ55555 รู้สึกเหนื่อยๆเศร้าๆอยู่บ่อยๆ 


         แต่พอได้เห็นโมเม้นชานฮุนก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ จะพยายามมาเขียนบ่อยๆแล้วค่ะ 


        ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ เป็นกำลังให้เราเยอะมากๆเลย 


         ติชมเราได้ตลอดเลยนะคะ จะได้รู้ว่าควรปรับปรุงอะไรตรงไหน เพราะช่วงนี้ไม่ได้เขียนนานรู้สึกทักษะการเขียนหายไปเยอะมากๆเลย ;-;

         เขียนในแท็กก็ได้นะคะ จะเข้าไปอ่าน คิคิ #APRICITYCHANHUN


     


       Talk(2):

         

         

         ในที่สุดก็มีคนใช้แท็กในทวิตแล้ว ดีใจมากเลยค่ะ ฮี่ฮี่ รักทุกคนมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่ยังคอยติดตามกันอยู่นะคะ


         


         



    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×