คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ❀ ABDITORY | Part 1
ABDITORY
-a place into which you can disappear; a hiding place-
ร่างสูงในโค้ทสีเทาตัวหนาเดินออกมาจากบ้านอย่างไม่รีบร้อนในมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยถุงใส่อุปกรณ์วาดรูป เขากำลังมุ่งหน้าไปยังป่าที่ห่างจากตัวบ้านของเขาไม่ถึงกิโลอย่างที่เขาทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ทำไมเขาจะต้องไปในป่าน่ะหรอ เพราะที่บ้านเขามีคนอาศัยเยอะเสียจนมันวุ่นวายไปหมด เขาแค่อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเงียบๆบ้างก็เท่านั้นเอง และอีกอย่างเขาชอบวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ การมาอยู่ที่เงียบๆทำให้เขามีสมาธิในการวาดรูป
ตรงหน้าของเขาคือบ้านไม้หลังเล็กๆที่เขาสรุปเอาเองว่ามันร้าง เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาอาศัยเลย
เขาเดินผ่านระเบียงหน้าบ้านไปยังประตูพร้อมกับหมุนลูกบิดและผลักประตูเข้าไป ทุกอย่างยังคงวางอยู่ที่เดิมเหมือนอย่างที่เขามาครั้งที่แล้ว เขาวางของที่แบกมาทั้งหมดไว้บนโต๊ะตัวเก่า ข้างๆโซฟาที่ตั้งอยู่หน้าเตาผิง ก่อนจะโยนกิ่งไม้ที่เขาเก็บมาเผื่อไว้ในสัปดาห์ก่อนใส่เตาผิงและหยิบไม้ขีดมาจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นสู้กับอากาศหนาวเย็นข้างนอก
เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในบ้านไม้ไปกับการนอนคิดนู่นคิดนี่และวาดรูปเล่น มันเป็นวันที่เขาชอบมากที่สุดของสัปดาห์
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาอาหารเย็นของครอบครัวเขา เขาจึงรีบเก็บข้าวของที่นำมาแล้วเดินกลับบ้านของตัวเอง
ที่บ้านเขาไม่เคยถามเขาสักครั้งว่าเขาไปไหนมา และนั่นถือเป็นข้อดีของการที่เขาจะไปเล่นที่บ้านไม้ร้างกลางป่านานแค่ไหนก็ได้ แค่เขากลับมากินข้าวเย็นพร้อมกับครอบครัวให้ตรงเวลาก็พอ
.
.
.
.
.
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เป้าหมายของเขาคือบ้านไม้กลางป่า
แต่ทว่าครั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านไม่ได้อยู่ในสภาพเดิม ทั้งเศษไม้ขีดที่ดูเหมือนพยายามจุดแต่ไม่สำเร็จ เศษกระดาษทิชชู่ที่ดูเหมือนว่าเผาไหม้ไม่หมดในเตาผิง และที่สำคัญรูปภาพที่เขาวาดก็ได้หายไปบางส่วนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนมาเจอที่นี่เข้าแล้ว
ใครกันที่มาทำให้พื้นที่ส่วนตัวของเขารกได้ขนาดนี้ เขาบ่นพลางเก็บทำความสะอาดเศษซากที่ใครอีกคนได้มาทำเลอะเทอะเอาไว้
และอีกอย่างคือภาพวาดของเขาได้ถูกเอาไปแล้ว พื้นที่ส่วนตัวของเขาชักไม่ปลอดภัยซะแล้วสิ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร
เขาใช้เวลานานนับหลายวันในการซุ่มดูอยู่ข้างๆบ้านไม้ แต่ทว่ากลับไม่พบอีกฝ่าย
เขาคิดว่าวันนี้อีกฝ่ายคงไม่มาเสียแล้วจึงลุกขึ้นและเตรียมตัวเดินกลับบ้าน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูไม้ ใช่แน่ๆคนนี้แหละ
เขากำลังจะพุ่งไปเปิดประตูบ้าน แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ครวญครางออกมาจากตัวบ้าน เขาจึงเลือกที่จะแอบดูอีกฝ่ายผ่านทางหน้าต่างที่ขุ่นมัว
“ฮืออออ ฮืออออ ฮึกกก...”
“ฮืออออ แม่ครับ ฮึกก แม่...”
“ผ-ผมคิดถึงแม่ ฮึก”
เสียงร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ ถึงเขาจะอยากเข้าไปดูว่าเป็นใครมากแค่ไหน แต่เขาก็คิดว่าควรจะปล่อยให้อีกคนร้องไห้จนกว่าจะพอใจเสียก่อน
เสียงร้องไห้เงียบไปได้สักพักแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปในตัวบ้าน สภาพบ้านถูกทำเลอะเทอะโดยฝีมือของคนที่นอนขดตัวหลับอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิง แต่เป็นเตาผิงที่ไม่ถูกจุดไฟ เขาแทบไม่ต้องเดาเลยว่าอีกฝ่ายจุดไม้ขีดไม่เป็น เนื่องจากเศษไ้ม้ขีดไฟถูกว่าเกลื่อนอยู่เต็มพื้น ‘โว๊ะ แค่ไม้ขีดไฟยังจุดไม่เป็นเลย แล้วจะไปทำอะไรกินวะ’ เขานึกในใจพลางมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่เขาคาดว่าน่าจะอายุพอๆกันกับเขา อีกทั้งยังใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกับเขาอีกด้วย
เขาจุดเตาผิงเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตัวบ้าน และคนที่นอนอยู่บนโซฟา
เขานั่งจ้องหน้าอีกฝ่ายที่ถึงแม้จะเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่ก็ยังคงดูดีอยู่ จุดเด่นของใบหน้าอีกฝ่ายคงจะเป็นสันกรามที่คมกริบนั่น เขานึกสงสัยเล่นๆว่าหากเขาไปจับมันจะบาดมือเขาไหม เขามองไล่ลงไปยังอกข้างขวาของอีกฝ่าย และก็พบป้ายชื่อเขียนว่า ‘Oh Sehun’ ชื่อโอเซฮุนงั้นหรอ
เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วพบว่ายังเหลือเวลาอีกมากก่อนจะถึงเวลาอาหารค่ำ เขาจึงนึกสนุกหยิบเศษกระดาษฉีกและดินสอที่เขาเคยทิ้งไว้ ก่อนจะเริ่มลงมือวาดใบหน้าของอีกคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา
เสียงเตือนจากโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นว่าถึงเวลาอาหารค่ำของที่บ้านเขาแล้ว แต่ถึงกระนั้นอีกฝ่ายก็ยังไม่ตื่น เขาจึงวางรูปวาดไว้บนโต๊ะ โดยไม่ลืมที่จะเซ็นชื่อตัวเองไว้ที่รูป ‘Park Chanyeol 5A ยินดีที่ได้รู้จัก’
-ABDITORY-
20%
โอ เซฮุนสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับโดยไม่รู้ตัวไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ เขาตกใจที่ไฟในเตาผิงถูกจุดขึ้น ใครกันที่มาจุดไฟ? แต่แล้วเขาก็พบคำตอบวางอยู่บนโต๊ะมันเป็นเศษกระดาษที่มีรูปวาดเขาอยู่ในนั้นส่วนด้านล่างของกระดาษนั้น ‘Park Chanyeol 5A ยินดีที่ได้รู้จัก’
“ป-ปาร์ค ช-ชานยอล” ถึงแม้เขาจะเพิ่งย้ายมาโรงเรียนนี้กลางคันก็ตาม แต่เขากลับรู้จักอีกฝ่ายอยู่พอสมควรจากที่ได้ยินคนอื่นพูดมา เพราะปาร์ค ชานยอลเป็นคนดังประจำโรงเรียน
เขานึกถึงคำพูดที่คนอื่นเอ่ยถึง
‘ชานยอลกัปตันทีมบาส’ กีฬาก็เก่ง
‘ชานยอลรองประธานนักเรียน’ นักเรียนดีเด่นอีก
‘ชานยอลมือกีต้าร์ของวง’ ดนตรีก็รุ่ง
‘ชานยอลห้อง 5A’ เรียนห้องคิงอีกต่างหาก
คนบ้าอะไรมันจะเพอร์เฟคขนาดนี้วะ โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมกับเซฮุน
เขาหยิบกระดาษแล้วพับใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินกลับบ้านอย่างไม่เร่งรีบ บ้านที่เขาไม่ค่อยอยากจะกลับสักเท่าไหร่ ตั้งแต่คุณแม่เสียบ้านก็ไม่ใช่ที่ที่น่าอยู่สำหรับเขาอีกต่อไป
“ไปไหนมา?” น้ำเสียงดุของพ่อดังขึ้นจากโต๊ะทำงานที่เขาต้องเดินผ่านตอนเข้าบ้าน
“ป-ไปเดินเล่นมาครับ”
“เหลวไหล หัดทำตัวดีๆให้เหมือนพี่แกบ้าง”
“…” พี่งั้นหรอ เขาแทบจะไม่นับอีกฝ่ายเป็นพี่เสียด้วยซ้ำ พี่ที่พ่อพูดถึงคงจะหมายถึง มินแจ ลูกติดของภรรยาใหม่พ่อ
หลังจากที่คุณแม่ของเขาเสียไปไม่ทันไร พ่อของเขาก็รีบย้ายบ้านมาอยู่กับคุณนายคิมอินฮยอง และที่เขาไม่ชอบที่สุดคงเป็นการที่พ่อและคุณนายคิมรักแต่มินแจกระมั้ง กลายเป็นว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ดูเลวร้ายไปเสียหมด
เฮ้อ เขาคิดถึงแม่
“ถ้าแม่ยังอยู่ แม่จะปกป้องผมใช่ไหมครับ?” เขาพูดกับกรอบรูปข้างหัวเตียงที่มีรูปคู่ของเขาและแม่
เขาหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะเก็บมันใส่กล่องที่มีรูปวาดใบอื่นๆอีก เขาชอบสะสมรูปวาดเพราะแม่ของเขาท่านชอบวาดรูป เห็นรูปวาดทีไรเขาก็อดคิดถึงแม่ไม่ได้ทุกที
เช้าวันถัดมา
เขาแต่งตัวเรียบร้อยและเดินลงบันไดเตรียมพร้อมที่จะไปโรงเรียน
“ยองแจไปส่งน้องสิ ไปทางเดียวกันใช่ไหม?” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นมา ขณะที่ยังคงก้มหน้าทำบัญชี
“ได้ครับ” ยองแจตอบขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันร้ายกาจที่มองมาทางเขา
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับผมปั่นจักรยานไปเองได้” เพราะเซฮุนรู้ดีว่ายองแจไม่เคยไปส่งเขาถึงโรงเรียนสักครั้ง อย่างมากสุดก็แค่ครึ่งทางที่เหลือเขาก็ต้องเดินทนหนาวไปเองจนถึงโรงเรียน
“อย่าปฏิเสธพี่เขาสิเซฮุน ไม่มีมารยาทเอาซะเลยลูกคนนี้”
“ครับ ไปกับยองแจก็ได้ครับ”
“เรียกพี่เขาว่าพี่สิเซฮุน!!!” เสียงของพ่อดังขึ้นจากเดิม
“ครับ พี่ยองแจ”
.
.
.
.
ยังไม่ทันถึงครึ่งทางเซฮุนก็ถูกไล่ลงจากรถ
“ลงไปได้ล่ะ เดินเยอะๆจะได้ออกกำลังกายไง ฮ่าฮ่าฮ่า” ยองแจไล่เขาลงจากรถ
ใจร้ายที่สุด ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาไม่ต้องเดินไปโรงเรียนเอง บางทีเขาก็สงสัยว่าเขาไปทำเวรกรรมอะไรไว้เยอะแยะมากมายหรืออย่างไร ถึงต้องมาเจอกับอะไรอย่างนี้
แต่พระเจ้าก็ไม่ใจร้ายเสียจนเกินไป
“นาย!!! ขึ้นมาสิ” เสียงเรียกจากทางข้างหลัง ทำให้เขาหันไป
“ป-ปาร์ค ชานยอล”
“มัวยืนนิ่งอยู่ทำไม เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนไม่ทันหรอก”
เขาตัดสินใจโดดขึ้นซ้อนจักรยานของอีกคน
“โอเซฮุนใช่ไหม? ฉันเจอนายเมื่อวานที่บ้านร้าง”
“ช-ใช่” เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เห็นตอนเขาร้องไห้หรอกนะ มันเป็นเรื่องที่น่าอายสุดๆ
“นายเอารูปวาดฉันไปใช่ไหม?” นั่นรูปของชานยอลหรอกหรอ เขาคิดว่าเป็นรูปที่ไม่มีเจ้าของเสียอีก
“ฉันขอโทษ ฉันนึกว่ามันไม่มีเจ้าของซะอีก เห็นว่าสวยดีเลยหยิบกลับมาที่บ้าน เดี๋ยวฉันจะรีบเอากลับมาคืนให้นายเลยนะ อย่าว่าฉันเลย..ฉัน...” เขาร่ายยาวใส่คนที่ปั่นจักรยานอยู่
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอก ร่ายซะยาวเชียว ยังไงซะฉันก็ไม่ได้ใช้มัน ถ้านายชอบก็เก็บไว้เถอะ”
“ขอบคุณนะ” เขาอมยิ้มให้กับความใจดีของอีกคน
“…”
“…”
“…”
“…”
“ถึงแล้วล่ะ” ชานยอลจอดจักรยานที่หน้าโรงเรียน
“ขอบคุณที่ให้ฉันติดมาด้วยนะ รบกวนนายจริงๆ”
“บ้าหน่า ไม่รบกวนหรอก เออไปล่ะนะเดี๋ยวไว้เจอกัน” ชานยอลโบกมือลาเขาก่อนจะเดินไปกับเพื่อน
-ABDITORY-
“เฮ้ย ไรว่ะมึง มีเด็กใหม่ก็ไม่บอกซ้อนท้ายกันมาโรงเรียนด้วย” นั่นไอ่คริสอู๋เจ้าของส่วนสูง 190 ซม.
“แบ่งปันกันมั่งดิว่ะ” ส่วนไอนี่ลู่หานคนแมนประจำกลุ่ม ฉายาคนแมนนี่คือมันตั้งเอาเองนะ แต่จริงๆแล้วมันช่างห่างไกลจากคำว่าแมน
“บ้านใกล้กันโว้ย รู้จักไหม carpool ไปทางเดียวกันให้ไปด้วยกัน อีพวกไม่รักโลก”
“มึงเพิ่งจะมารักโลกอะไรตอนนี้” คำตอบของเขาทำให้เขาโดนคริสเพื่อนรักโบกหัวให้ทีนึง
ครับ เพื่อนรัก
รักกูมาก
เขาและเพื่อนๆพากันเดินขึ้นห้องก่อนที่คาบ 1 จะเริ่มขึ้น ถึงแม้หน้าตาของพวกเขาจะไม่ให้เป็นเด็กเรียนก็เถอะ แต่นี่ห้อง A นะครับ ห้องคิงนะครับ ชานยอลไม่อยากจะคุย แต่คุยไปแล้ว
“ขออนุญาตครับ ปาร์คชานยอลอาจารย์เรียกไปห้องกิจการ” เสียงของคิมจุนมยอนเจ้าของตำแหน่งประธานนักเรียนที่โผล่หน้าเข้ามาในห้องเขาเตือนสติว่าเขามีงานต้องทำ เขาลืมไปเสียสนิทว่าต้องไปเคลียร์เอกสารที่ห้องกิจการนักเรียน
เขาก้มโค้งเพื่อเป็นการขออนุญาตอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“เนียนเลยนะมึง นี่ถ้ากูไม่มาตามก็กะจะไม่มาเลยใช่ไหม” จุนมยอนทักท้วงเขาระหว่างทางไปห้องกิจการนักเรียน
“ใจเย็นครับบ กูลืมครับ” ก็คนมันลืมจริงๆนิ
พวกเขาเดินเข้าห้องกิจการมาพร้อมกัน แต่ชานยอลกลับชะงักเมื่อเห็นใครอีกคนที่คุ้นเคย เซฮุน อาจารย์หัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนกำลังว่ากล่าวอีกฝ่ายอยู่ เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไรแต่เขาสังเกตเห็นร่องรอยบาดแผลตามตัวของอีกฝ่าย เขาเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องชกต่อย
“ชานยอล” เสียงเรียกของจุนมยอนดึงสติเขากลับมา ก่อนที่เขาจะละสายตาจากเซฮุน แล้วเดินไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งของตัวเองเพื่อเคลียร์เอกสารเกี่ยวกับกิจกรรมโรงเรียนที่จะจัดขึ้นในไม่ช้า
“มึงรู้จักเซฮุนหรอ” จุนมยอนถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยระหว่างที่กำลังเรียบเรียงเอกสาร
“บ้านใกล้กันน่ะ”
“อย่าไปยุ่งกะมันมาก ได้ข่าวว่ามีเรื่องชกต่อยไม่เว้นแต่ละวัน”
“เซฮุนเนี้ยนะ” จุดไม้ขีดไฟยังไม่เป็นเลย จะไปหาเรื่องอะไรชาวบ้าน เขาทักท้วงอยู่ในใจ
“เออสิ เห็นเด็กห้องอื่นเขาว่างั้น”
เขาไม่ได้สนใจคำพูดของจุนมยอนสักเท่าไหร่ เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ถึงแม้เขาจะยังไม่รู้จักอีกฝ่ายดีนัก แต่คนลักษณะอย่างเซฮุนไม่น่าใช่คนที่จะไปหาเรื่องใครก่อน
อาจารย์หัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนเดินเข้ามาในห้องเพื่อสั่งงานเพิ่มเติมระหว่างที่พวกเขากำลังหัวหมุนกับงานเอกสารอยู่
“ปีนี้ที่ประชุมเขาสรุปกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย”
“เปลี่ยนแปลงอะไรหรอครับ?” ประธานนักเรียนผู้กระตือรือร้นถามขึ้นก่อนอาจารย์จะพูดจบ
“ปกติเราจะให้ห้อง A ทำซุ้มกับห้อง B และห้อง C ทำซุ้มกับห้อง D แต่ปีนี้เราจะจับคู่ใหม่เพื่อที่นักเรียนจะได้รู้จักกันทั่วถึงมากขึ้น โดยห้อง A ทำซุ้มกับห้อง C ส่วนห้อง B ทำซุ้มกับห้อง D” หลังจากที่สั่งงานเสร็จแล้วอาจารย์ก็เดินออกจากห้อง ทิ้งไว้แต่ความงงงวยของเขาทั้งสองคน
“งี้ก็ต้องรื้อกิจกรรมใหม่หมดเลยดิ” เขาหันไปถามเชิงบ่นกับจุนมยอน
“เออ ทำไมไม่บอกแต่แรกวะ” จุนมยอนว่าพลางดึงผมตัวเอง
แต่ในความหงุดหงิดของชานยอล กลับมีความดีใจผสมปนอยู่เล็กน้อยเมื่อเขาหยิบใบรายชื่อของนักเรียนห้อง C ขึ้นมาแล้วพบชื่อของคนที่เขาอยากรู้จักให้มากกว่านี้ ‘เลขที่ 20 โอ เซฮุน’
-ABDITORY-
100%
TBC.
Talk:
มาลงอินโทรแล้วนะคะ
ชอบกันไหมเอ่ย
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ♡
ความคิดเห็น