คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : When you love me, I will love you 2/2 | Percy/Harry (PWHP)
title: when you love me, i will love you. 2/2
au: hanahaki disease
pairing: percy weasley/harry potter, pwhp
rate: pg
note: /ปาดเหงื่อ ยังยืนยันค่ะว่าเรื่องนี้แต่งออกมาได้ยาวกว่าที่คิดมาก ไม่นึกว่าจะแต่งจบได้ แต่ก็จบกันไปแล้วค่ะกับเรื่องนี้! เรื่องต่อไปจะเป็นคู่ไหนก็ติดตามได้นะคะ ลัฟ
วันถัดมา ทุกอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างปกติผิดแปลกไปจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แฮร์รี่กับพ้องเพื่อนไม่เป็นเช่นนั้นแน่ พวกเขากำลังคุยกันว่าเย็นนี้ศาสตราจารย์จะอนุญาตให้เข้าพบแล้วหรือยังระหว่างกินมื้อเช้า จนกระทั่งเสียงเท้ากระทบกับพื้นด้านหลังดังขึ้นพร้อมห้องอาหารที่เงียบกริบ เรียกให้พวกเขาทั้งหลายหันไปสนใจก็พบกับคนที่ไม่คิดว่าจะมาเดินเข้าห้องโถงมาอย่างสบายใจได้
แฮร์รี่อึ้งปากค้าง รีบหันไปมองสเนปที่นั่งอยู่ด้านหน้า เจ้าตัวเพียงแค่มองมาที่เขานิ่งๆ ก่อนพริมตาลง
มันไม่ควรเป็นเช่นนี้
เขาคิดว่านั่นคงเป็นสิ่งที่สเนปต้องการจะสื่อ
แฮร์รี่ข่มตาลงข่มสิ่งที่กำลังรู้สึกในจิตใจและเกินกว่าจะอธิบายออกมาได้ แล้วลืมตาขึ้นมองตามร่างนั้นอย่างที่เด็กหลายๆ คนในห้องอาหารก็ทำมันเช่นกัน แม้จะเป็นห่วงจับใจ แต่มันก็เกินกว่าที่เขาจะเรียกทักออกไป
" นี่รอน เธอไม่ยอมทำรายงานที่ศาสตราจารย์สั่งไว้เหรอ? "
" ก็ดูสิ มันเยอะจะตาย ฉันทำไม่ไหวหรอก "
" แต่เธอก็ควรเริ่มทำนะ "
และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างปกติ แฮร์รี่เดินฟังเพื่อนสนิททั้งสองเถียงกันเช่นทุกวัน พอทั้งสองกันมาถามความเห็น ก็ตอบแค่ไม่รู้สิ
สายตามรกตสบกับคนที่เดินสวน เพอร์ซี่ วีสลี่ย์ เขาเหลี่ยวหลังไปมองตามแผ่นหลังนั้นแล้วหยุดเดิน นั่นทำให้เพื่อนทั้งสองหยุดเถียงกันหันมาสนใจเขา เหลี่ยวหลังมองตามคนที่เขากำลังมองอยู่
" เห็นว่าเพอร์ซี่ต้องไปตรวจที่ห้องพยาบาลทุกวันล่ะ "
เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น แฮร์รี่ได้ยินก็กลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก อึกอักอยู่ในใจแต่ก็คิดว่าไม่ควรพูดออกมา
" อืม...อาการเขาเหมือนจะค่อยๆ แย่ลงด้วย "
รอนหลุบตาลงดูซึมขึ้นทันตา ทั้งสามหันไปเดินต่ออย่างเชื่องช้า
" พี่เขาไม่ค่อยพูดเลย ดูเหมือนป่วยตลอดเวลา แถมในห้องก็มีแต่กลีบดอกไม้จนฉุนไปหมด "
แฮร์รี่ผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา
" ฉันหวังว่าเพอร์ซี่จะไม่เป็นไร "
มือเล็กถูกยกขึ้นวางบนบ่าเด็กหนุ่มผมแดงคล้ายการปลอบประโลม รอนพยักหน้ารับ
" มาดามพอมฟรีย์ กับสเนปช่วยได้อยู่แล้ว "
รอนหันขวับมาหาด้วยใบหน้าเหยเกกับชื่อคนที่สองที่ออกมาจากปากเขา แฮร์รี่ไหวไหล่ และกลับไปสนใจเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่กับรอนเถียงกันก่อนหน้านี้ต่อ
" เพอร์ซี่ นายไหวนะ? "
" ชู่ว เดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นหรอกเฟร็ด "
" แต่นายเสียงดังก่อนนะ "
" ไม่เท่านายหรอก "
" นายนั่นแหละที่เสียงดังกว่า "
" เฮ้ย!? "
เสียงกระซิบวุ่นวายจากภายนอกเรียกให้เด็กชายผู้รอดชีวิตลุกขึ้นมาด้วยท่าทีสะลึมสะลือ เกาหัวแก๊กๆ พยายามปรับสายตากับความมืด คว้าหาแว่นตาที่ตัวเองวางไว้มาสวม เขามองไปที่รอนที่ยังนอนกรนอย่างสบายก่อนหันไปสนใจแสงจากโถงห้องนั่งเล่นที่ลอดผ่านประตูมา
นั่นเสียงเฟร็ด กับจอร์จ
เกิดอะไรขึ้น?
แฮร์รี่ก้าวลงจากเตียงย่องไปที่ประตูแล้วค่อยๆ แง้มประตูออกให้พอเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
" ค่อยๆ พี่ชาย นายต้องใจเย็นๆ "
ภาพตรงหน้าเล่นเอาแฮร์รี่ช็อค ตาโตเบิกกว้างกับสิ่งที่ได้เห็น
" แค่...อ๊อก— "
สิ่งที่เกิดขึ้น คือเฟร็ดและจอร์จกำลังพยุงร่างของเพอร์ซี่ ขณะที่เจ้าตัวกำลังสำลักและไอออกมาเป็นกลีบดอกไม้ผสมกับเลือด และไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ด้วยจากมุมนี้อาจเห็นไม่ชัด แต่มากพอที่จะเห็นว่าเพอร์ซี่ไอออกมาจนน้ำหูน้ำตาไหล เห็นแบบนั้นแล้วก็ทำแฮร์รี่ปวดใจแปลกๆ
" คราวนี้กล้วยไม้เหรอ "
" มีความหมายว่าอะไรน่ะ "
เฟร็ดโดนพี่ชายมองค้อน เจ้าตัวรีบหุบปากทันทีเปลี่ยนไปตั้งใจพาร่างของพี่ชายตนไปยังห้องพยาบาล แฮร์รี่ยังได้ยินเสียงกระซิบของพี่แฝดเถียงกัน พร้อมเสียงไอของเพอร์ซี่ตลอดทาง ไม่นานทั้งร่างและเสียงนั้นก็ลับไปทิ้งไว้เพียงช่องโหว่ในหัวใจเด็กหนุ่ม
แฮร์รี่ปิดประตูเดินกลับไปยังที่เตียงของตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนด้วยความรู้สึกตื่อๆ ในหัวว่างเปล่าและสับสนไปหมด เขาพริมตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พอลืมตาขึ้นก็รู้สึกถึงบางอย่างที่เอ่อล้นที่ดวงตา
ไม่เข้าใจเลย เขาไม่เข้าใจอะไรกับสิ่งที่เห็นทั้งนั้น
แฮร์รี่เผลอหลับไปอีกครั้ง และตื่นขึ้นมาด้วยเสียงร้องของเฮ็ดวิก สายตามองไปรอบๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนเป็นเพียงเช้าอีกวันนึง แม้แต่รอนเองก็ยังนอนกรนอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เขาเห็นตอนที่ตื่นมาในตอนแรก
เด็กหนุ่มลุกขึ้นปาดน้ำตา ปลุกรอนเตรียมตัวที่จะไปทานมื้อเช้าและเรียนต่อเหมือนทุกวัน
" ฉันยังไม่เห็นเพอร์ซี่เลย "
คนถามหันไปรอบๆ เฝ้าหาคนที่นึกถึง ช่วงนี้เพื่อนสนิทของเขามักจะมองหาพี่ชายของตัวเองเสมอ โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่แฮร์รี่กับเฮิร์มก็เลือกที่จะไม่เอ่ยทักถึงมัน รวมถึงจะไม่บอกในสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเช้าด้วย
" เขาอาจจะไปห้องพยาบาลเหมือนเคยก็ได้นะ "
โชคดีที่บางครั้งเฮอร์โมโอนี่มักคาดการณ์ให้รอนสบายใจ
พวกเขาทั้งสามเริ่มกินมื้อเช้ากัน สักพักเสียงของพี่แฝดที่กำลังเถียงบางอย่างกันก็ดังขึ้นในโถง ทั้งสองพากันเดินเข้ามาทั้งที่ยังเถียงบางอย่างกันอยู่
" ตอนแรกนายยังเชียร์อยู่เลย "
" ใครจะคิดว่าหมอนั่นจะหงุดหงิดเล่า "
" ต้องพูดว่าหมอนั่นไม่หงุดหงิดใครบ้างดีกว่า "
" ...แฮร์รี่ไง! "
" เฮ้! "
เฟร็ดกับจอร์จคุยซุบซิบกันเหมือนกำลังขบขันเอ็นดูบางคน จู่ๆก็พากันปิดปากมองมารอบๆ แล้วหันกลับไปสนใจกันเองเหมือนเดิม
" แต่นั่นบ้าชะมัด "
" ฉันเห็นด้วย "
พี่แฝดเดินไปนั่งที่ตัวเองก็เริ่มชวนกันคุยเรื่องอื่น แต่เรื่องก่อนหน้านั้นทำให้เขาคาใจมากๆ ว่าที่ทั้งสองพูดหมายถึงใคร และเขาเกี่ยวข้องอะไรด้วย
แต่จะมาหาคำตอบตอนนี้ก็ไม่ได้ แฮร์รี่หยิบอาหารเข้าปากขณะที่ยังมองพี่แฝดอยู่ ดวงตาก็ไปสบกับสเนปที่พึ่งเดินมานั่งก็แปลกใจที่อีกฝ่ายมาช้าขนาดนี้ ก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพอร์ซี่แน่ๆ
แฮร์รี่เหม่อได้ไม่นาน เสียงฝีเท้าหนึ่งก็พาความสนใจเขาไป
" เพอร์ซี่? "
รอนเป็นคนแรกที่เอ่ยทัก แฮร์รี่หันไปตามเสียง สายตาสำรวจไปทั่วกายที่กำลังสาวเท้ามา ก็สังเกตถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ลักษณะท่าทางที่ผิดแปลก ถ้าเขาดูไม่ผิด เพอร์ซี่กำลังเดินกระเพก?
" แฮร์รี่ ที่ตรงนายพอจะเขยิบได้ไหม? "
รอนถามด้วยความร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด เขาพยักหน้าและอีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบ แฮร์รี่เริ่มขยับที่นั่งของตนเองเผื่อให้อีกคนนั่ง
" เพอร์ซี่! "
เด็กหนุ่มผมแดงยกมือขึ้นเรียกพี่ชายของตนเอง เพอร์ซี่ดูพินิจชั่วขณะก่อนที่จะเดินมานั่งข้างแฮร์รี่ ในตอนนี้ถือเป็นโอกาสของเขาที่จะขยับสายตาสำรวจไปทั่วชายข้างๆ ให้ละเอียดมากขึ้น
" อรุณสวัสดิ์ฮะ "
แต่คำทักทายแรกกลับเป็นคำปกติทั่วไป เพอร์ซี่หันมามองและพวกเขาก็จ้องตากัน แฮร์รี่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น
" อรุณสวัสดิ์ "
เสียงที่ออกมาทำให้หัวใจเด็กหนุ่มบีบรัด มันแผ่วและแหบพร่า
" นี่! "
" ทำไมวันนี้พี่มาช้า หายไปไหนมา "
รอนเริ่มสอบสวนพี่ชายตัวเองด้วยการตีใบหน้าเคร่งขรึม แต่เพอร์ซี่ก็ดูไม่แยแสเท่าไหร่นัก
แฮร์รี่เหลือบมองข้างๆ เพราะรู้สึกได้ถึงความวุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ ก็เห็นว่าพวกเฟร็ดและจอร์จค่อยๆ ขอสลับที่เข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อยๆ คงอยากรู้เรื่องเพอร์ซี่เหมือนกัน
" ไม่มี...อะไรทั้งนั้น ฉันแค่มีหน้าที่ที่ต้องทำ "
แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น เขาเห็นมากับตา ทั้งท่าทางและเสียงเหมือนคนที่กำลังฝืนตัวเองให้ทำตัวปกติ แต่มันไม่ปกติเอาเสียเลย
" พี่แน่ใจนะคะ? "
เหมือนเฮิร์มก็คงคิดเหมือนกัน ใบหน้าสวยของเด็กสาวฉายแววเป็นห่วงอย่างมาก เพอร์ซี่ไม่ได้พูดตอบอะไร แค่พยักหน้าให้
และในที่สุดสองแฝดก็ขยับมานั่งข้างๆ สำเร็จ
" เฮ้ เพอร์ซี่! "
เฟร็ดทักคนแรกพร้อมกอดคอเจ้าของหัวข้อสนทนา
" เป็นยังไงบ้าง? "
และจอร์จเป็นคนเอ่ยถามอาการ ไม่แปลกที่สองคนนี้จะเป็นห่วงนอกจากเหตุที่ว่าเป็นคนในครอบครัว สองคนนี้รู้ว่าเพอร์ซี่เป็นอะไร เพราะพวกเขาเป็นคนพาไปห้องพยาบาลด้วยตัวเอง
เพอร์ซี่ขมวดคิ้วมุ่ยหน้าใส่ เฟร็ดกับจอร์จจึงมองหน้ากัน
" แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ "
" ไม่ อาจจะดีก็ได้นะ "
" ก็เห็นๆ กันอยู่! "
ทั้งสองพูดถามความเห็นกันเอง แก๊งส์สามเกลอเงียบทันที เพราะต้องการจะรู้ว่าเพอร์ซี่เป็นอะไร
" อย่าให้ฉันต้องพูดมาก "
เพอร์ซี่เค้นเสียงออกมา พวกเขาทั้งสามเลิกคิ้วขึ้นกำลังสงสัยว่าที่พูดมานั้นเพราะอาการที่เป็นอยู่ หรือรำคาญกันแน่ แต่เหมือนพี่แฝดจะรู้
" จะกำเริบเหรอ? "
" เห็นว่าเริ่มเดินไม่ไหวแล้วนี่ "
" แต่ตอนนี้ยังพอพูดได้นี่น่า "
" ทำไมนายไม่สารภาพบอกไปเลยล่ะ "
สามเกลอยิ่งงงเข้าไปกันใหญ่ ว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร บอกอะไร และบอกใคร?
คนถูกบอกส่งเสียงคำรามออกมาในลำคอ พวกเขาคิดว่าเพอร์ซี่คงเริ่มรำคาญแล้ว แต่เฟร็ดและจอร์จก็ยังดูพยายามพูดให้อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องนั้น
จนเพอร์ซี่ตวัดตาขึ้น
" พอ "
นั่นทำให้เหล่าแฝดตาตื่นเหมือนกำลังตื่นเต้น หันไปคุยกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกันอยู่สองคน ปล่อยให้เขาทั้งสามงงกับสถานการณ์ตรงหน้า
" ... "
เพอร์ซี่ถอนหายใจหันมามองแฮร์รี่แล้วใบหน้าก็เริ่มอ่อนลง ริมฝีปากนั้นอ้าออกกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ไม่กล้ามากพอ
" เอาสิเพอร์ซี่ บอกเลย "
" แฮร์รี่ตอบรับแน่ เชื่อพวกฉัน "
แฮร์รี่สับสนไปหมด นี่เป็นครั้งที่สองคนเขาได้ยินพี่แฝดพูดถึงเขา ในขณะที่เฮิร์มรู้สึกเริ่มรู้แล้วว่านี่มันเรื่องบ้าอะไร จนกระทั่งประโยคต่อมา
" นายต้องไม่ตายอย่างที่สเนปบอกแน่ อุ๊บ— "
เพอร์ซี่รีบหันไปปิดปากเฟร็ด นั่นทำให้เหล่าสามเกลอตาตื่นทันที ถึงทั้งสองจะกระซิบบอกแต่มันดังพอที่จะให้คนใกล้ๆ ได้ยินชัด
" ...นี่มัน บ้าอะไรเนี่ย?! "
" เคราเมอร์ลิน บอกทีว่าเมื่อกี้พี่พูดเล่น "
รอนระเบิดสิ่งที่อัดอั้นมานานออกมาในทันทีหลังจากที่อึ้งกับสิ่งที่ได้ยินไปสักพัก เฮอร์ไมโอนี่รีบห้ามรอนทันที ตอนนี้กลุ่มก้อนของพวกเขากำลังกลายเป็นจุดสายตาของทุกคนในห้องโถง รวมทั้งเหล่าศาสตราจารย์
" ฉันเป็นน้องพี่นะ บอกฉันทีว่าพี่เป็นอะไรกันแน่ "
เฟร็ดกับจอร์จพยายามกันเพอร์ซี่จากรอน แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ก็ช่วยพูด แม้ใจตัวเองจะหล่นไปตาตุ่มแล้วก็ตาม
" อ่ะ แค่ก— "
" ค...แค่ก อั๊ก "
จู่ๆ เพอร์ซี่ก็เริ่มสำลักไอออกมา มือเจ้าตัวรีบปิดป้องปากไว้แต่มันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนร่างงอ พี่แฝดทั้งสองรีบพยุงตัวร่างนั้นไว้และหมายจะพาออกไปด้านนอก
ท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุกคน ศาสตราจารย์สเนปและมาดามพอมฟรีย์ก็รีบลุกขึ้นตรงมาหาพวกเขา
" พ...เพอร์ซี่? "
รอนช็อคทันทีที่เห็นสิ่งที่พี่ชายตนเป็น และไม่นานสเนปก็มาถึง
" พาคุณวีสลี่ย์ไปห้องพยาบาล "
เสียงเย็นพูดกับสองแฝดแล้วเดินนำไปก่อน ทั้งสองก็รีบพยุงร่างที่ยังไอไม่หยุดตามไปและตามด้วยมาดามพอมฟรีย์ที่ดูอาการของเพอร์ซี่ระหว่างทางไปห้องพยาบาล
และตามทางเดินฝั่งโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ก็เต็มไปด้วยกลีบดอกทิวลิปและคัตเตอร์ที่ร่วงโรยรา
" นายไม่เป็นไรนะ รอน? "
ทั้งสามเดินออกมานั่งที่โต๊ะข้างทางเดินภายนอก หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพอร์ซี่พวกเขาก็ลงมติกันว่าอาหารที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่น่ารับประทานอีกต่อไป
" อืม... "
จึงมานั่งซึมกันอยู่ตรงนี้คอยปลอบเพื่อนผมแดงกันอยู่ตรงนี้
" แต่ฉันไม่เข้าใจ "
" จะว่าป่วยหรืออะไรก็ไม่ใช่ เพอร์ซี่โดนคำสาปเหรอ? "
รอนเอ่ยถามความเห็นจากเพื่อนทั้งสอง ก็มีเพียงความเงียบของแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ที่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ
" ไม่หรอก...ไม่สิไม่แน่ ฉันไม่กล้าพูดแบบนั้น "
" นายคิดว่าเขาเป็นอะไร "
" ไม่รู้สิ ฉันเองก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน "
สองหนุ่มหันไปหาเด็กสาว รอความเห็นจากเธอที่ฉลาดที่สุด
" ฉันก็เหมือนกัน "
และบรรยากาศก็เงียบไปชั่วขณะ ก่อนสามเกลอจะถอนหายใจออกพร้อมกัน
" ดูแล้วพวกเขาคงไม่ยอมบอกด้วยว่าเพอร์ซี่เป็นอะไรกันแน่ "
" บางทีเราคงต้องหาทางรู้เอง? "
รอนและเฮอร์ไมโอนี่หันไปมองแฮร์รี่ผู้เสนอความเห็น ถึงแม้วิธีการนั้นจะดูจุ่นจ้านไปเสียหน่อย
แต่พวกเขาสน?
" แล้วจะทำยังไง "
" ...ผ้าคลุมล่องหน "
" ใช่ เราต้องใช้ผ้าคลุมล่องหน! "
แฮร์รี่เผยรอยยิ้มกว้างเมื่อคิดความคิดสุดบรรเจิดออก เฮิร์มดูไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องแอบออกมายามดึกและแอบเข้าห้องพยาบาลด้วย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไหนล่ะ
" เข้าไปพร้อมกันเลยไหม? "
" ไม่ แบบนั้นจะวุ่นวายไป "
เด็กสาวเริ่มพูดน้ำเสียงกระซิบพอเริ่มคุยกันเรื่องแผนการ
" งั้นฉัน— "
" แฮร์รี่ เธอ "
" ห้ะ? "
แฮร์รี่และรอนต่างทำสีหน้าไม่เข้าใจกับความคิดของเพื่อนสาว แต่ถ้าเขาดูไม่ผิด เธอดูเหมือนรู้อะไรบางอย่างจริงๆ ตั้งแต่ที่โต๊ะนั่น
" ทำไมล่ะ ก็ฉัน— "
" รอน "
เฮิร์มส่งเสียงให้เงียบลง เสียงโวยวายของรอนใช่ว่าจะเบาซะที่ไหนและตอนนี้คนในโถงก็เริ่มพากันเดินออกมาแล้ว
" เอาเถอะน่ะ ฉันว่าแบบนั้นก็ไม่แย่เท่าไหร่ "
และเด็กสาวก็ส่งสายตามาให้เขา ถึงจะยังไม่เข้าใจ แต่
" ถ้าเธอว่างั้น ก็คงใช่ "
แต่รอนดูจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ คงจะเป็นช่วยเพอร์ซี่มากจริงๆ และต้องการข้อเท็จจริงมาบอกว่าพี่ชายของตัวเองไม่เป็นไร
" ก็ได้ "
" คืนนี้ฉันจะดูต้นทางให้ "
พวกเขารวมหัวกระซิบกระซาบกันอยู่สามคน ท่ามกลางฝูงชนนักเรียนที่เดินผ่านไปมา มีบางคนที่มองพวกเขาบ้างแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่แล้วเดินผ่านไป แต่ที่ทุกคนรู้แน่ๆ คือ สามแสบวางแผนจะทำบางอย่างกันอีกแล้ว และคงไม่พ้นเรื่อง เพอร์ซี่ วีสลี่ย์
" แฮร์รี่ "
เจ้าตัวละออกหันไปตามต้นเสียงก็เจอเข้ากับวู้ด
" สวัสดีฮะวู้ด "
อีกฝ่ายพยักหน้าและกล่าวกลับ พวกเขามองกันสักพักแล้วเขารู้ได้ในทันทีว่าแววตานั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
" เอ่อ ฉันแค่จะมาบอกว่าเย็นนี้นายจะพักก็ได้ "
" เอ๊ะ? "
" ...นายสมควรพัก "
" แต่สุดสัปดาห์นี้เราก็จำเป็นต้องซ้อมแข่งแล้วนะวู้ด "
" ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าซีกเกอร์ของเราเก่งอยู่แล้ว "
" แต่แบบนั้น— "
" อืม...รู้อะไรไหม นี่อาจเป็นการพักที่มีประโยชน์ก็ได้นะ "
แฮร์รี่ที่ยังดูงงๆ หันกลับไปมองเพื่อนของตัวเอง ก่อนกลับไปมองวู้ดอีกครั้ง แล้วเผยรอยยิ้ม
" ได้เลย ฉันจะพัก "
คำตอบของเขาทำให้อีกฝ่ายยิ้มออก
" เยี่ยม "
" พักให้เต็มที่ พรุ่งนี้เจอกันนะ "
พอเห็นท่าทีแบบนั้นก็ทำเอารู้สึกผิด ขอโทษนะวู้ด คืนนี้เขาคงไม่ได้พักจริงๆ หรอก แต่ในใจเขาก็เชื่อว่าอีกฝ่ายคงรู้อยู่แล้ว
" จริงสิแฮร์รี่ วันนี้ก็มีดอกไม้มาวางนะ "
แฮร์รี่พลิกดอกคัตเตอร์ที่ได้รับมาไปมา เขาเหม่อมองมันเหมือนกำลังตั้งใจระบายสิ่งที่อยู่ในใจกับดอกไม้ดอกเล็กๆ
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเพอร์ซี่ทำให้แฮร์รี่ลืมเรื่องคนที่ชอบเอาดอกไม้มาให้ไปเสียสนิท แต่มานั่งคิดๆ ดู ดอกไม้พวกนี้เริ่มมาแปลกที่แปลกเวลาไปตั้งแต่ที่เพอร์ซี่เริ่มต้องเข้าห้องพยาบาลทุกวัน แต่คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็พลันคิดถึงศาสตราจารย์สเนป คนที่เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายสามารถช่วยพี่ชายเพื่อนสนิทได้ คงได้แต่หวังว่าพวกเขาจะรู้แล้วว่าสิ่งที่เพอร์ซี่เป็นคืออะไร
" ฮึ้บ! "
แฮร์ลุกพรวดขึ้นส่งเสียงให้กำลังใจตัวเอง คืนนี้เขาต้องทำให้เต็มที่ ทันใดก็มีสันหนังสือถูกวางบนศรีษะ
ตุบ
" ... "
" คุณพอตเตอร์ หวังว่าการที่คุณลุกขึ้นมาทำท่าทางเช่นนี้จะเป็นการบอกว่าคุณสามารถตอบคำถามข้อนี้ได้นะ? "
โอเค แต่ตอนนี้เขาคงต้องลงสนามรบกับสเนปเสียก่อน
" ครับศาสตราจารย์ "
แต่แผนที่วางไว้คืนนี้ดันพังไม่เป็นท่า ทุกอย่างดูไม่เป็นใจไปหมด ทั้งเฟร็ด ทั้งจอร์จ ทั้งศาสตราจารย์ ทำให้เขาหรือแม้แต่เพื่อนทั้งสองไม่สามารถละตัวออกมาได้เลย
ในใจอยากจะขอโทษวู้ดเป็นพันครั้ง ทั้งๆ ที่พยายามช่วยแท้ๆ
ถึงอย่างน้อยเขาก็ได้พักจริงๆ ก็ตาม
วันต่อมา และต่อๆ มา พวกเขาก็ไม่เห็นเพอร์ซี่อีกเลย เขาทั้งสามโดยเฉพาะรอนใจคอไม่ดี แฮร์รี่เริ่มมั่นใจว่าดอกไม้ที่ตนได้รับทุกๆ วันนั้นมาจากพี่ชายเพื่อนสนิท แม้มันจะถูกส่งมาให้ทุกวันเหมือนปกติ แต่มันเริ่มดูแย่ลงเรื่อยๆ เหมือนขาดการดูแล แฮร์มองดอกไม้เหล่านั้นก่อนที่จะวางมันลง และก้าวฝีเท้าเดินออกไปจากห้องตัวเองตรงไปยังสถานที่ที่เพอร์ซี่ได้ปลูกดอกไม้มากมายหลากหลายไว้
" ... "
ดวงตาสีมรกตจดจ้องพวกมัน แล้วมองไปรอบๆ หาอุปกรณ์และหยิบสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา ทำการรักษาให้กับเหล่าดอกไม้ที่เริ่มเหี่ยวเฉา เหมือนอย่างที่อยากทำให้กับเพอร์ซี่
" แฮร์รี่! "
" แฮร์รี่ เธออยู่นี้นี่เอง "
เสียงคุ้นเคยของเพื่อนสาวปลุกเขาขึ้นจากภวังค์ นี่ผ่านไปไม่รู้เท่าไหร่ที่ตนเอาแต่สนใจพวกไม้ดอกตรงหน้า
" ฉัน...ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่าพี่ชายของรอนเป็นอะไร "
เธอหอบหายใจพยายามพูดออกมาให้รู้เรื่อง แฮร์รี่ตาโตปล่อยมือจากเสียมในมือ ก้าวตรงไปหาเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยดวงตาที่ดูเปี่ยมไปด้วยความหวัง
" ตามมาสิ "
พวกเขาพากันเดินไปยังห้องน้ำหญิงที่เคยไปปลุกน้ำยาสรรพรส และเฮอร์ไมโอนี่ก็หยิบหนังสือท่าทางประหลาดออกมาแล้วเริ่มเปิดหน้าที่มีจำนวนมหาศาลออก
" ในตอนแรกฉันก็คิดว่ามันบ้ามาก "
" แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเพอร์ซี่มันแทบทำให้ฉันไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อ่านไป "
เด็กสาวยื่นหนังสือหน้านึงให้กับเขา แฮร์รี่มองมันโดยรวมเสียก่อน และเริ่มแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ มันอธิบายถึงโรคบางอย่างที่แปลกประหลาดอย่างกับคำสาป
" ฮานะฮากิ คือสิ่งที่เขาเป็น? "
เฮิร์มพยักหน้าตอบรับ เธอดูยังไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่ก็เชื่อสิ่งที่อยู่บนหน้าหนังสือไปเสียแล้ว
" หนังสืออธิบายว่ามันคือโรคของคนแอบชอบ จะมีเมล็ดพันธุ์เติบโตอยู่ในหัวใจ และกลืนกินผู้ที่เป็น "
" อาการของมัน คือการสำลอกหรือไอออกมาเป็นกลีบดอกไม้ต่างๆ เพื่อสื่อความหมายบางอย่าง และอาการของมันจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งตาย "
แฮร์รี่กลืนน้ำลายกับสิ่งที่ได้ฟัง มันเหลือเชื่อ แต่อาการของเพอร์ซี่ตรงกับสิ่งที่เฮิร์มพูดออกมา
" วิธีแก้ล่ะ? "
เด็กสาวหลุบตาลงแล้วพลิกหน้ากระดาษอีกใบให้
" สารภาพรักกับคนที่ชอบ "
" ถ้าอีกฝ่ายรับรักเขาจะหาย แต่ถ้าไม่... "
แฮร์รี่ลืมหายใจ เขารู้คำต่อมาที่จะออกจากริมฝีปากสวยนั้นดี
" เขาจะตายทันที แต่ถ้าไม่สารภาพ เขาก็จะตายอย่างช้าๆ "
เด็กชายผู้รอดชีวิตข่มตาลง และผ่อนลมหายใจออกอย่างยากลำบาก ความรู้สึกบางอย่างมันปวดหนึบขึ้นในจิตใจมากเกินทน
" ฉันอยากรู้แฮร์รี่ "
" เธอชอบเพอร์ซี่หรือเปล่า? "
" ห้ะ— เดี๋ยว ทำไม!? "
แฮร์รี่สับสนตาตื่นใบหน้าร้อนขึ้นสีระเรื่อ ปรับอารมณ์ไม่ทัน
" ...จำที่พี่แฝดคุยกันได้ไหม "
" ฉันคิดว่าคนที่เพอร์ซี่ชอบคือเธอ แฮร์รี่ "
แฮร์รี่นอนไม่หลับ
โดยปกติหลังจากที่ได้ทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้เหนื่อยหรือเสียเหงื่อ อย่างควิดดิช หรือการดูแลสวนดอกไม้ ควรที่จะทำให้ยิ่งหลับสนิท แต่ไม่ใช่หลังจากที่เขาได้รู้ทั้งเรื่องโรคที่เพอร์ซี่เป็น และทั้งเรื่องที่อีกฝ่ายอาจจะชอบเขา
พรึบ
กายบางพลิกหันข้างมองไปยังเพื่อนสนิทตนที่นอนหลับสบายกรนไปตามประสา
เฮอร์ไมโอนี่บอกว่ารอนต้องไม่รู้เรื่องนี้
คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ นึกถึงรอนตอนรู้เรื่องทุกอย่างและรู้ว่าพวกเขาพยายามจะปิดบังแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมา รอนห่วงพี่ชายของตัวเองมาก แต่ดันเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
พรุ่งนี้เขามีแข่ง ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ก็รู้ตัวดีว่าไม่ดีแน่ แต่ในค่ำคืนนี้มันทำใจให้ข่มตาหลับยากเสียเหลือเกิน
" เพอร์ซี่ "
เด็กหนุ่มพร่ำเพ้อถึงชายที่ตอนนี้ก็คงยังนอนอยู่ที่ห้องพยาบาล
แต่มีเรื่องนึงที่แฮร์รี่ยอมรับ เขาสับสน เขาไม่ต้องการให้พี่ชายของเพื่อนตาย ไม่ใช่เพราะเหตุผลกลัวเพื่อนเสียใจหรืออะไร แต่เพราะหากอีกฝ่ายตาย จะเป็นตัวเขาเองที่เสียใจ
และแล้วการซ้อมแข่งก็มาถึง
แฮร์รี่มาด้วยสภาพที่ไม่ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ถึงกับดีมากเหมือนครั้งก่อนๆ วู้ดพูดปลุกใจเหมือนทุกครั้ง ทำให้เต็มที่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันจะไม่เป็นไร
แฮร์รี่ลอบมองเฟร็ดและจอร์จ ก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่วางลงบนหลัง
" แฮร์รี่ นายทำได้อยู่แล้ว "
เป็นวู้ดที่เข้ามาปลอบประโลม อีกฝ่ายไม่รู้อะไรเลยแต่กลับเหมือนรู้ถึงทุกอย่าง
" ขอบคุณวู้ด "
เขาได้รอยยิ้มตอบกลับมา เป็นรอยยิ้มแสนอบอุ่นที่ทำให้สบายใจทุกครั้งที่ได้รับ และในไม่ช้าการแข่งขันควิดดิชก็เริ่มต้นขึ้น
ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยด้วยดี การซ้อมแข่งครั้งนี้ทั้งสองเล่นกันอย่างแฟร์ๆ ถือเป็นการแข่งขันที่ดี นั่นคือความคิดของทุกคน ก่อนที่ทีมฝั่งตรงข้ามจะตีลูกบลัดเจอร์ใส่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เข้าอย่างจัง มันไม่ผิดกฎก็จริง แต่นั่นทำให้เด็กหนุ่มบาดเจ็บจนสามารถทำให้เล่นต่อไม่ได้
คนที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนคนแรกคือวู้ด แต่การแข่งขันก็ยังต้องดำเนินต่อไป เขาต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
แล้วร่างของแฮร์รี่ก็ผ่านตา เด็กหนุ่มเล่นและทำหน้าที่ของซีกเกอร์ต่อทั้งที่ตัวยังบาดเจ็บ สายตาพร่าพยายามปรับโฟกัสมองหาลูกโกลเด้นสนิช มันบินรอบตัวและพยายามหยอกล้อซีกเกอร์ทีมตรงข้าม ซีกเกอร์ทั้งสองมองตามก่อนบินไล่จับมัน มีครั้งสองครั้งที่ลูกบลัดเจอร์ลอยมาทางแฮร์รี่อีกครั้ง โชคดีที่คราวนี้มีเฟร็ดและจอร์จคอยกันไว้ แต่เป็นโชคร้ายของซีกเกอร์ฝั่งตรงข้าม เพราะมันดันไปโดนอีกฝ่ายจนล่วงลงไปแทนโดยไม่ได้ตั้งใจ
แฮร์รี่ผู้บาดเจ็บก็ไม่มีเวลามากพอจะเอ็ดพี่แฝดทั้งสองบินไล่ลูกสนิชฝ่าฝูงคนในสนาม
เขายื่นมือไปจนสุดแขนจนอาการบาดเจ็บปวดแปร๊ดขึ้นมา แต่เขาก็คว้ามันไว้จนแรงเหวี่ยงพาให้ไม้กวาดหมุน แฮร์รี่กอดด้ามไม้ไว้แน่นจนมันหยุดคงที่ เด็กหนุ่มหอบหายใจก่อนที่จะค่อยๆ เงยใบหน้าขึ้นมองลูกสนิชในมือ รอยยิ้มที่ไม่ได้ปรากฏมานานเผยออก พร้อมมือที่ชูลูกโกลเด้นสนิชขึ้นฟ้า
" เฮ้!!! "
เสียงร้องตะโกนดีใจดังขึ้นพร้อมเสียงนกหวีดบอกจบการแข่งขัน ฮอกวอตส์เป็นฝ่ายชนะ
แฮร์รี่รู้สึกสบายใจขึ้นมาก็สลบลงไปเกือบจะทันที แล้วไม้กวาดของเขาก็ล่วงลงจากท้องฟ้า โดยดีที่ตอนล่วงลงมาไม่มีบาดแผลเพิ่มเติม แต่เขาก็ยังคงบาดเจ็บมากพอที่จะต้องไปห้องพยาบาล
เมื่อลืมตาตื่น สิ่งแรกที่เห็นก็เป็นเพียงเพดานของห้องพยาบาลที่คุ้นชิน ความมืดที่มีแสงสลัวสีส้มทำให้เขารับรู้ว่านี่คงตกดึกแล้ว เขาลุกขึ้นหยิบแว่นตามองไปรอบๆ แล้วไม่เจอใคร จึงล้มตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมถอดถอนหายใจ และรอยยิ้มก็ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
" ฟื้นแล้วเหรอ— แค่กๆ "
เสียงทักแหบพร่าทำให้แฮร์รี่รีบหันขวับไปหา ก็เจอกับ เพอร์ซี่ วีสลี่ย์ คนที่เขาอยากเจอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ และถ้าตาเขาไม่ฝาด แฮร์รี่เหมือนเห็นดอกไม้กระดาษที่ตัวเองเคยทำให้อีกฝ่ายกำลังถูกใช้เป็นที่คั่นหนังสือ
แต่ตอนนี้ชายตรงหน้ากลับกำลังไอออกมาพร้อมกลีบกุหลาบสีเหลือง
" เพอร์ซี่!? "
ใบหน้าเคร่งขรึมที่มักขมวดคิ้วจนใบหน้าย่นหยุดไอและหันมามองเด็กหนุ่ม
อ่า...คิดถึงใบหน้าย่นๆ นี่จัง
" เห็นว่านายเป็นคนช่วยดูแลดอกไม้ของฉัน? "
แต่เสียงนั้นแหบและแผ่วลงกว่าเดิมจากที่เคยได้ยินครั้งล่าสุดมากจนทำให้เขาใจหวิวตามจนต้องลอบกลืนน้ำลาย และความรู้สึกอื่นที่ตีขึ้น
" พี่...พูดเยอะๆ จะดีเหรอ? "
เพอร์ซี่ขมวดคิ้วลงจดจ้องมาที่แฮร์รี่
" นายรู้ "
แฮร์รี่เพียงพยักหน้า ทันใดคนตรงหน้าก็ไอออกมาอย่างหนักเป็นกลีบดอกบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก มันเป็นสีขาวแต่ส่วนโคนถูกไล่ด้วยสีเหลืองอ่อนๆ
" ... "
และเพอร์ซี่ก็หยุดไอ ยกแขนขึ้นเช็ดริมฝีปากและก็เงียบไปเลย
" เฟร็ดกับจอร์จบอก? "
" เปล่า เฮอร์ไมโอนี่หาเจอในหนังสือน่ะ "
ใบหน้าของอีกฝ่ายดูเคร่งเครียดถนัดตา ถึงปกติจะชอบขมวดคิ้วอยู่แล้วก็ตาม มือหยิบน้ำขึ้นดื่มก่อนเอ่ยต่อ
" งั้นพวกนายคงรู้แล้วว่าฉันอยู่ได้อีกไม่น— "
" พูดออกไปสิฮะ "
" ห้ะ "
" คำสารภาพรักน่ะ "
เพอร์ซี่อ้าปากค้าง สิ่งที่ได้ยินมันทำให้หัวสมองของเขาประมวลผลไม่ทัน เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม
" กับใคร "
" พี่ชอบใครล่ะ? "
ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน เขาสะอึกไปหลังคำถาม ไม่กล้ามากพอที่จะตอบออกไป สายตาเริ่มไม่อยู่สุขมองไปรอบๆ ถึงจะรู้ตัวดีว่ามีแต่พวกเขา
" ...ไม่ "
" ไม่จำเป็นต้องบอก "
และบรรยากาศรอบด้านก็เงียบลง เพอร์ซี่เริ่มรู้สึกคันคอ นั่นเป็นสัญญาณว่ามันกำลังเกิดขึ้น
" ไม่ได้นะ! "
รู้สึกตัว ร่างเล็กของเด็กหนุ่มก็ลุกจากเตียงตัวเองโดยไม่สนอาการบาดเจ็บ และระเบิดออกมาด้วยใบหน้าแข็งกร้าวที่เหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ
" จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ "
" ผมรู้ว่าถ้าคนที่ชอบปฏิเสธจะเป็นยังไง "
" แต่ถ้าพี่ตายไปทุกคนจะรู้สึกยังไง ทุกคนจะเป็นยังไง ดอกไม้ของพี่จะเป็นยังไง และความฝันของพี่ล่ะ "
ผมจะเป็นยังไง
เขาไม่กล้ามากพอที่จะพูดมัน
แฮร์รี่สูดกายใจเข้าลึกๆ เดินไปข้างๆ เตียงเพอร์ซี่ เท้าตัวเองไว้ระหว่างตัวอีกฝ่าย รัวคำถามมหาศาลที่อยู่ในใจ คำตอบแบบนั้นเหมือนเป็นตัวจุดชนวนระเบิดอารมณ์ของเขาออกมาจนคนตอบเหวอไปเลย
" พี่จะทิ้งมันจริงๆ เหรอ "
" ถึงพี่จะรู้สึกว่าไม่มีโอกาส แต่มันก็ดีกว่าที่ได้บอกมานะ "
เพอร์ซี่ยกหลังมือขึ้นป้องปากไว้ กักเก็บความคันคอแต่มันก็ล้นถลักออกมา เขาเริ่มไอหนักอีกครั้งจนแฮร์รี่ผงะ เปลี่ยนไปโอบคนตรงหน้าไว้ ลูบหลังช่วยให้ผ่อนคลาย เสียงไอของเพอร์ซี่มันรุนแรงจนทำให้หัวใจของแฮร์รี่กระตุกขึ้นๆ ลงๆ ทุกครั้งที่ส่งเสียงออกมา เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดี
" ไม่ ไม่ได้...ฉันบอก อ๊อก ไปไม่ได้ "
" แค่กๆ เป็นแบบนี้ ดีที่สุดแล้ว— "
" เพอร์ซี่ "
แฮร์รี่เรียกด้วยความเป็นห่วง แต่คนในอ้อมแขนกลับกำลังพยายามผลักไสเขาออกให้ห่าง
" ออก...ออกไป ปล่อยฉัน ไป— "
" ฉันไม่อยากให้นายเห็น "
เพอร์ซี่ยังคงไอออกมาอย่างหนักหน่วง กลีบดอกก็ไหลทะลักออกมาจากปากคนตรงหน้า มันมากมายหลายชนิดจนพาสับสนว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไง ความรู้สึกเพอร์ซี่คงกำลังสับสนตามดอกไม้พวกนั้น
" ไม่เพอร์ซี่ ผมจะไม่ปล่อยพี่ไว้ "
ยิ่งไอออกจนตัวงอ ร่างกายที่สั่นเทานั้นเกาะเตียงไว้แน่น แค่เห็นก็รู้ว่าทั้งกายนั้นเกร็งไปหมด แฮร์รี่เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังคลอเบ้า เขาเองก็ตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากเห็นคนตรงหน้ากำลังทรมาณเช่นนี้ มันทำหัวใจเขาเจ็บปวดไปหมด
" พ...พอตเตอร์ "
" ออก— "
" ไม่ "
" —ไป "
" เพอร์ ได้โปรด "
" แค่ก— ไปซะ! "
" พี่เพอร์ซี่! "
ริมฝีปากเขาทั้งสองแนบชิดกัน แฮร์รี่จับตัวคนตรงหน้าไว้ไม่ให้ขยับหนี แต่ก็คงหนีไม่ได้เพราะร่างตรงหน้านิ่งช็อคไปเสียแล้ว เขาค้างไว้เช่นนั้นสักพักก่อนที่จะขยับตัวโอบรอบคอและยิ่งย้ำจูบให้แนบชิดขึ้นและมากขึ้น จูบนั้นกลิ่นเหมือนดอกไม้ผสมสนิม แต่เขาก็ไม่คิดจะรังเกียจมัน สักพักแฮร์รี่ถึงจะผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
มันช่างเป็นจูบหอมหวานที่แสนมหัศจรรย์
เพียงแค่จุมพิตเดียวเท่านั้น อาการไอของเพอร์ซี่หายไปทันตา
" ผมชอบพี่ "
" ฉัน...ก็ชอบนาย "
พวกเขาสบตากันอย่างมีความหมาย จ้องลึกลงไปในนัยน์ตาของกันและกัน แล้วเขาทั้งสองก็จูบกันอีกครั้ง และอีกครั้ง
" ได้ข่าวว่าพี่เพอร์ซี่เขาหายป่วยแล้ว "
คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงเป็นคนเปิดหัวข้อสนทนา ส่วนรอนกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วและกำลังยัดไก่เข้าปาก มากจนเหมือนแฮมเตอร์ที่กำลังยัดเมล็ดทานตะวัน
" อ๋อใอ่ อ่างอับอนอะอนอับออนอ่วยแอ่ะ "
" โรนัลด์ กินให้เสร็จก่อน "
เฮิร์มเอ็ดรอนด้วยอาการปลง แต่เจ้าตัวกินไก่หาสนใจไม่ เด็กสาวจึงละความสนใจมาสนใจเพื่อนชายอีกคนแทน
" แถมฉันก็ได้ข่าวว่านายกับเพอร์ซี่เป็นแฟนกันแล้ว คงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดหรอกนะแฮร์รี่? "
" อะไร? "
" ก็เธอคงไม่ได้บอกชอบแค่เพราะกลัวพี่เขาตายหรอกนะ! "
แฮร์รี่กระพริบตามองเพื่อนสาวตาปริบๆ ก่อนที่จะยกรอยยิ้มและหัวเราะออกมาคิกคักกับความเป็นห่วงของเธอ
ก่อนจะถอนหายใจออกทั้งรอยยิ้ม และเด็กชายผู้รอดชีวิตก็หันไปหาแฟนหนุ่มจอมเคร่งครัดที่ยังสนใจแต่หนังสือและดอกไม้กระดาษของเขา แฮร์รี่เท้าคางมองเพอร์ซี่ด้วยความหลงใหล แล้วส่ายหน้าตอบเบาๆ
" ...ไม่หรอก ไม่มีวัน "
@roseMary_88
ความคิดเห็น