ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Harry Potter ]​ everyone's​ CUTE cat (allharry)​

    ลำดับตอนที่ #2 : When you love me, I will love you 2/2 | Percy/Harry (PWHP)​

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 63


    title: when you love me, i will love you. 2/2

    au: hanahaki disease

    pairing: percy weasley/harry potter, pwhp

    rate: pg

    note: /ปาดเหงื่อ ยังยืนยันค่ะว่าเรื่องนี้แต่งออกมาได้ยาวกว่าที่คิดมาก ไม่นึกว่าจะแต่งจบได้ แต่ก็จบกันไปแล้วค่ะกับเรื่องนี้! เรื่องต่อไปจะเป็นคู่ไหนก็ติดตามได้นะคะ ลัฟ

     


     

     

    วันถัดมา ทุกอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างปกติผิดแปลกไปจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แฮร์รี่กับพ้องเพื่อนไม่เป็นเช่นนั้นแน่ พวกเขากำลังคุยกันว่าเย็นนี้ศาสตราจารย์​จะอนุญาตให้เข้าพบแล้วหรือยังระหว่างกินมื้อเช้า จนกระทั่งเสียงเท้ากระทบกับพื้นด้านหลังดังขึ้นพร้อมห้องอาหารที่เงียบกริบ เรียกให้พวกเขาทั้งหลายหันไปสนใจก็พบกับคนที่ไม่คิดว่าจะมาเดินเข้าห้องโถงมาอย่างสบายใจได้

    แฮร์รี่อึ้งปากค้าง รีบหันไปมองสเนปที่นั่งอยู่ด้านหน้า เจ้าตัวเพียงแค่มองมาที่เขานิ่งๆ ก่อนพริมตาลง

    มันไม่ควรเป็นเช่นนี้

    เขาคิดว่านั่นคงเป็นสิ่งที่สเนปต้องการจะสื่อ

    แฮร์รี่ข่มตาลงข่มสิ่งที่กำลังรู้สึกในจิตใจและเกินกว่าจะอธิบายออกมาได้ แล้วลืมตาขึ้นมองตามร่างนั้นอย่างที่เด็กหลายๆ คนในห้องอาหารก็ทำมันเช่นกัน แม้จะเป็นห่วงจับใจ แต่มันก็เกินกว่าที่เขาจะเรียกทักออกไป

     

    " นี่รอน เธอไม่ยอมทำรายงานที่ศาสตราจารย์สั่งไว้เหรอ? " 

    " ก็ดูสิ มันเยอะจะตาย ฉันทำไม่ไหวหรอก " 

    " แต่เธอก็ควรเริ่มทำนะ " 

    และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างปกติ แฮร์รี่เดินฟังเพื่อนสนิททั้งสองเถียงกันเช่นทุกวัน พอทั้งสองกันมาถามความเห็น ก็ตอบแค่ไม่รู้สิ

    สายตามรกตสบกับคนที่เดินสวน เพอร์ซี่ วีสลี่ย์ เขาเหลี่ยวหลังไปมองตามแผ่นหลังนั้นแล้วหยุดเดิน นั่นทำให้เพื่อนทั้งสองหยุดเถียงกันหันมาสนใจเขา เหลี่ยวหลังมองตามคนที่เขากำลังมองอยู่

    " เห็นว่าเพอร์ซี่ต้องไปตรวจที่ห้องพยาบาลทุกวันล่ะ "

    เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น แฮร์รี่ได้ยินก็กลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก อึกอักอยู่ในใจแต่ก็คิดว่าไม่ควรพูดออกมา

    " อืม...อาการเขาเหมือนจะค่อยๆ แย่ลงด้วย " 

    รอนหลุบตาลงดูซึมขึ้นทันตา ทั้งสามหันไปเดินต่ออย่างเชื่องช้า

    " พี่เขาไม่ค่อยพูดเลย ดูเหมือนป่วยตลอดเวลา แถมในห้องก็มีแต่กลีบดอกไม้จนฉุนไปหมด " 

    แฮร์รี่ผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา

    " ฉันหวังว่าเพอร์ซี่จะไม่เป็นไร " 

    มือเล็กถูกยกขึ้นวางบนบ่าเด็กหนุ่มผมแดงคล้ายการปลอบประโลม รอนพยักหน้ารับ

    " มาดามพอมฟรีย์ กับสเนปช่วยได้อยู่แล้ว "

    รอนหันขวับมาหาด้วยใบหน้าเหยเกกับชื่อคนที่สองที่ออกมาจากปากเขา แฮร์รี่ไหวไหล่ และกลับไปสนใจเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่กับรอนเถียงกันก่อนหน้านี้ต่อ

     

    " เพอร์ซี่ นายไหวนะ? " 

    " ชู่ว เดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นหรอกเฟร็ด " 

    " แต่นายเสียงดังก่อนนะ "

    " ไม่เท่านายหรอก "

    " นายนั่นแหละที่เสียงดังกว่า " 

    " เฮ้ย!? " 

    เสียงกระซิบวุ่นวายจากภายนอกเรียกให้เด็กชายผู้รอดชีวิตลุกขึ้นมาด้วยท่าทีสะลึมสะลือ​ เกาหัวแก๊กๆ พยายามปรับสายตากับความมืด คว้าหาแว่นตาที่ตัวเองวางไว้มาสวม เขามองไปที่รอนที่ยังนอนกรนอย่างสบายก่อนหันไปสนใจแสงจากโถงห้องนั่งเล่นที่ลอดผ่านประตูมา

    นั่นเสียงเฟร็ด กับจอร์จ

    เกิดอะไรขึ้น? 

    แฮร์รี่ก้าวลงจากเตียงย่องไปที่ประตูแล้วค่อยๆ แง้มประตูออกให้พอเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

    " ค่อยๆ พี่ชาย นายต้องใจเย็นๆ " 

    ภาพตรงหน้าเล่นเอาแฮร์รี่ช็อค ตาโตเบิกกว้างกับสิ่งที่ได้เห็น

    " แค่...อ๊อก— " 

    สิ่งที่เกิดขึ้น คือเฟร็ดและจอร์จกำลังพยุงร่างของเพอร์ซี่ ขณะที่เจ้าตัวกำลังสำลักและไอออกมาเป็นกลีบดอกไม้ผสมกับเลือด และไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ด้วยจากมุมนี้อาจเห็นไม่ชัด แต่มากพอที่จะเห็นว่าเพอร์ซี่ไอออกมาจนน้ำหูน้ำตาไหล เห็นแบบนั้นแล้วก็ทำแฮร์รี่ปวดใจแปลกๆ

    " คราวนี้กล้วยไม้เหรอ " 

    " มีความหมายว่าอะไรน่ะ " 

    เฟร็ดโดนพี่ชายมองค้อน เจ้าตัวรีบหุบปากทันทีเปลี่ยนไปตั้งใจพาร่างของพี่ชายตนไปยังห้องพยาบาล แฮร์รี่ยังได้ยินเสียงกระซิบของพี่แฝดเถียงกัน พร้อมเสียงไอของเพอร์ซี่ตลอดทาง ไม่นานทั้งร่างและเสียงนั้นก็ลับไปทิ้งไว้เพียงช่องโหว่ในหัวใจเด็กหนุ่ม

    แฮร์รี่ปิดประตูเดินกลับไปยังที่เตียงของตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนด้วยความรู้สึกตื่อๆ ในหัวว่างเปล่าและสับสนไปหมด เขาพริมตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พอลืมตาขึ้นก็รู้สึกถึงบางอย่างที่เอ่อล้นที่ดวงตา

    ไม่เข้าใจเลย เขาไม่เข้าใจอะไรกับสิ่งที่เห็นทั้งนั้น

     

    แฮร์รี่เผลอหลับไปอีกครั้ง และตื่นขึ้นมาด้วยเสียงร้องของเฮ็ดวิก สายตามองไปรอบๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนเป็นเพียงเช้าอีกวันนึง แม้แต่รอนเองก็ยังนอนกรนอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เขาเห็นตอนที่ตื่นมาในตอนแรก

    เด็กหนุ่มลุกขึ้นปาดน้ำตา ปลุกรอนเตรียมตัวที่จะไปทานมื้อเช้าและเรียนต่อเหมือนทุกวัน

    " ฉันยังไม่เห็นเพอร์ซี่เลย " 

    คนถามหันไปรอบๆ เฝ้าหาคนที่นึกถึง ช่วงนี้เพื่อนสนิทของเขามักจะมองหาพี่ชายของตัวเองเสมอ โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่แฮร์รี่กับเฮิร์มก็เลือกที่จะไม่เอ่ยทักถึงมัน รวมถึงจะไม่บอกในสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเช้าด้วย

    " เขาอาจจะไปห้องพยาบาลเหมือนเคยก็ได้นะ "

    โชคดีที่บางครั้งเฮอร์โมโอนี่มักคาดการณ์ให้รอนสบายใจ

    พวกเขาทั้งสามเริ่มกินมื้อเช้ากัน สักพักเสียงของพี่แฝดที่กำลังเถียงบางอย่างกันก็ดังขึ้นในโถง ทั้งสองพากันเดินเข้ามาทั้งที่ยังเถียงบางอย่างกันอยู่

    " ตอนแรกนายยังเชียร์อยู่เลย "

    " ใครจะคิดว่าหมอนั่นจะหงุดหงิดเล่า " 

    " ต้องพูดว่าหมอนั่นไม่หงุดหงิดใครบ้างดีกว่า " 

    " ...แฮร์รี่ไง! " 

    " เฮ้! " 

    เฟร็ดกับจอร์จคุยซุบซิบกันเหมือนกำลังขบขันเอ็นดูบางคน จู่ๆก็พากันปิดปากมองมารอบๆ แล้วหันกลับไปสนใจกันเองเหมือนเดิม

    " แต่นั่นบ้าชะมัด "

    " ฉันเห็นด้วย "

    พี่แฝดเดินไปนั่งที่ตัวเองก็เริ่มชวนกันคุยเรื่องอื่น แต่เรื่องก่อนหน้านั้นทำให้เขาคาใจมากๆ ว่าที่ทั้งสองพูดหมายถึงใคร และเขาเกี่ยวข้องอะไรด้วย

    แต่จะมาหาคำตอบตอนนี้ก็ไม่ได้ แฮร์รี่หยิบอาหารเข้าปากขณะที่ยังมองพี่แฝดอยู่ ดวงตาก็ไปสบกับสเนปที่พึ่งเดินมานั่งก็แปลกใจที่อีกฝ่ายมาช้าขนาดนี้ ก็พอคาดเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพอร์ซี่แน่ๆ 

    แฮร์รี่เหม่อได้ไม่นาน เสียงฝีเท้าหนึ่งก็พาความสนใจเขาไป

    " เพอร์ซี่? " 

    รอนเป็นคนแรกที่เอ่ยทัก แฮร์รี่หันไปตามเสียง สายตาสำรวจไปทั่วกายที่กำลังสาวเท้ามา ก็สังเกตถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ลักษณะท่าทางที่ผิดแปลก ถ้าเขาดูไม่ผิด เพอร์ซี่กำลังเดินกระเพก? 

    " แฮร์รี่ ที่ตรงนายพอจะเขยิบได้ไหม? " 

    รอนถามด้วยความร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด เขาพยักหน้าและอีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบ แฮร์รี่เริ่มขยับที่นั่งของตนเองเผื่อให้อีกคนนั่ง

    " เพอร์ซี่! "

    เด็กหนุ่มผมแดงยกมือขึ้นเรียกพี่ชายของตนเอง เพอร์ซี่ดูพินิจชั่วขณะก่อนที่จะเดินมานั่งข้างแฮร์รี่ ในตอนนี้ถือเป็นโอกาสของเขาที่จะขยับสายตาสำรวจไปทั่วชายข้างๆ ให้ละเอียดมากขึ้น

    " อรุณสวัสดิ์ฮะ " 

    แต่คำทักทายแรกกลับเป็นคำปกติทั่วไป เพอร์ซี่หันมามองและพวกเขาก็จ้องตากัน แฮร์รี่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น

    " อรุณสวัสดิ์ " 

    เสียงที่ออกมาทำให้หัวใจเด็กหนุ่มบีบรัด มันแผ่วและแหบพร่า

    " นี่! "

    " ทำไมวันนี้พี่มาช้า หายไปไหนมา " 

    รอนเริ่มสอบสวนพี่ชายตัวเองด้วยการตีใบหน้าเคร่งขรึม แต่เพอร์ซี่ก็ดูไม่แยแสเท่าไหร่นัก

    แฮร์รี่เหลือบมองข้างๆ เพราะรู้สึกได้ถึงความวุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ ก็เห็นว่าพวกเฟร็ดและจอร์จค่อยๆ ขอสลับที่เข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อยๆ คงอยากรู้เรื่องเพอร์ซี่เหมือนกัน

    " ไม่มี...อะไรทั้งนั้น ฉันแค่มีหน้าที่ที่ต้องทำ " 

    แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น เขาเห็นมากับตา ทั้งท่าทางและเสียงเหมือนคนที่กำลังฝืนตัวเองให้ทำตัวปกติ แต่มันไม่ปกติเอาเสียเลย

    " พี่แน่ใจนะคะ? " 

    เหมือนเฮิร์มก็คงคิดเหมือนกัน ใบหน้าสวยของเด็กสาวฉายแววเป็นห่วงอย่างมาก เพอร์ซี่ไม่ได้พูดตอบอะไร แค่พยักหน้าให้

    และในที่สุดสองแฝดก็ขยับมานั่งข้างๆ สำเร็จ

    " เฮ้ เพอร์ซี่! " 

    เฟร็ดทักคนแรกพร้อมกอดคอเจ้าของหัวข้อสนทนา

    " เป็นยังไงบ้าง? "

    และจอร์จเป็นคนเอ่ยถามอาการ ไม่แปลกที่สองคนนี้จะเป็นห่วงนอกจากเหตุที่ว่าเป็นคนในครอบครัว สองคนนี้รู้ว่าเพอร์ซี่เป็นอะไร เพราะพวกเขาเป็นคนพาไปห้องพยาบาลด้วยตัวเอง

    เพอร์ซี่ขมวดคิ้วมุ่ยหน้าใส่ เฟร็ดกับจอร์จจึงมองหน้ากัน

    " แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ "

    " ไม่ อาจจะดีก็ได้นะ " 

    " ก็เห็นๆ กันอยู่! " 

    ทั้งสองพูดถามความเห็นกันเอง แก๊งส์สามเกลอเงียบทันที เพราะต้องการจะรู้ว่าเพอร์ซี่เป็นอะไร

    " อย่าให้ฉันต้องพูดมาก " 

    เพอร์ซี่เค้นเสียงออกมา พวกเขาทั้งสามเลิกคิ้วขึ้นกำลังสงสัยว่าที่พูดมานั้นเพราะอาการที่เป็นอยู่ หรือรำคาญกันแน่ แต่เหมือนพี่แฝดจะรู้

    " จะกำเริบเหรอ? " 

    " เห็นว่าเริ่มเดินไม่ไหวแล้วนี่ " 

    " แต่ตอนนี้ยังพอพูดได้นี่น่า "

    " ทำไมนายไม่สารภาพบอกไปเลยล่ะ " 

    สามเกลอยิ่งงงเข้าไปกันใหญ่ ว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร บอกอะไร และบอกใคร? 

    คนถูกบอกส่งเสียงคำรามออกมาในลำคอ พวกเขาคิดว่าเพอร์ซี่คงเริ่มรำคาญแล้ว แต่เฟร็ดและจอร์จก็ยังดูพยายามพูดให้อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องนั้น

    จนเพอร์ซี่ตวัดตาขึ้น

    " พอ "

    นั่นทำให้เหล่าแฝดตาตื่นเหมือนกำลังตื่นเต้น หันไปคุยกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกันอยู่สองคน ปล่อยให้เขาทั้งสามงงกับสถานการณ์ตรงหน้า

    " ... " 

    เพอร์ซี่ถอนหายใจหันมามองแฮร์รี่แล้วใบหน้าก็เริ่มอ่อนลง ริมฝีปากนั้นอ้าออกกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ไม่กล้ามากพอ

    " เอาสิเพอร์ซี่ บอกเลย " 

    " แฮร์รี่ตอบรับแน่ เชื่อพวกฉัน " 

    แฮร์รี่สับสนไปหมด นี่เป็นครั้งที่สองคนเขาได้ยินพี่แฝดพูดถึงเขา ในขณะที่เฮิร์มรู้สึกเริ่มรู้แล้วว่านี่มันเรื่องบ้าอะไร จนกระทั่งประโยคต่อมา

    " นายต้องไม่ตายอย่างที่สเนปบอกแน่ อุ๊บ— " 

    เพอร์ซี่รีบหันไปปิดปากเฟร็ด นั่นทำให้เหล่าสามเกลอตาตื่นทันที ถึงทั้งสองจะกระซิบบอกแต่มันดังพอที่จะให้คนใกล้ๆ ได้ยินชัด

    " ...นี่มัน บ้าอะไรเนี่ย?! "

    " เคราเมอร์ลิน บอกทีว่าเมื่อกี้พี่พูดเล่น " 

    รอนระเบิดสิ่งที่อัดอั้นมานานออกมาในทันทีหลังจากที่อึ้งกับสิ่งที่ได้ยินไปสักพัก เฮอร์ไมโอนี่รีบห้ามรอนทันที ตอนนี้กลุ่มก้อนของพวกเขากำลังกลายเป็นจุดสายตาของทุกคนในห้องโถง รวมทั้งเหล่าศาสตราจารย์

    " ฉันเป็นน้องพี่นะ บอกฉันทีว่าพี่เป็นอะไรกันแน่ "

    เฟร็ดกับจอร์จพยายามกันเพอร์ซี่จากรอน แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ก็ช่วยพูด แม้ใจตัวเองจะหล่นไปตาตุ่มแล้วก็ตาม

    " อ่ะ แค่ก— " 

    " ค...แค่ก อั๊ก " 

    จู่ๆ เพอร์ซี่ก็เริ่มสำลักไอออกมา มือเจ้าตัวรีบปิดป้องปากไว้แต่มันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนร่างงอ พี่แฝดทั้งสองรีบพยุงตัวร่างนั้นไว้และหมายจะพาออกไปด้านนอก

    ท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุกคน ศาสตราจารย์​สเนปและมาดามพอมฟรีย์ก็รีบลุกขึ้นตรงมาหาพวกเขา

    " พ...เพอร์ซี่? "

    รอนช็อคทันทีที่เห็นสิ่งที่พี่ชายตนเป็น และไม่นานสเนปก็มาถึง

    " พาคุณวีสลี่ย์ไปห้องพยาบาล " 

    เสียงเย็นพูดกับสองแฝดแล้วเดินนำไปก่อน ทั้งสองก็รีบพยุงร่างที่ยังไอไม่หยุดตามไปและตามด้วยมาดามพอมฟรีย์ที่ดูอาการของเพอร์ซี่ระหว่างทางไปห้องพยาบาล

    และตามทางเดินฝั่งโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ก็เต็มไปด้วยกลีบดอกทิวลิปและคัตเตอร์ที่ร่วงโรยรา

     

    " นายไม่เป็นไรนะ รอน? "

    ทั้งสามเดินออกมานั่งที่โต๊ะข้างทางเดินภายนอก หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพอร์ซี่พวกเขาก็ลงมติกันว่าอาหารที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่น่ารับประทานอีกต่อไป

    " อืม... " 

    จึงมานั่งซึมกันอยู่ตรงนี้คอยปลอบเพื่อนผมแดงกันอยู่ตรงนี้

    " แต่ฉันไม่เข้าใจ "

    " จะว่าป่วยหรืออะไรก็ไม่ใช่ เพอร์ซี่โดนคำสาปเหรอ? " 

    รอนเอ่ยถามความเห็นจากเพื่อนทั้งสอง ก็มีเพียงความเงียบของแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ที่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

    " ไม่หรอก...ไม่สิไม่แน่ ฉันไม่กล้าพูดแบบนั้น "​

    " นายคิดว่าเขาเป็นอะไร " 

    " ไม่รู้สิ ฉันเองก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน " 

    สองหนุ่มหันไปหาเด็กสาว รอความเห็นจากเธอที่ฉลาดที่สุด

    " ฉันก็เหมือนกัน "

    และบรรยากาศก็เงียบไปชั่วขณะ ก่อนสามเกลอจะถอนหายใจออกพร้อมกัน

    " ดูแล้วพวกเขาคงไม่ยอมบอกด้วยว่าเพอร์ซี่เป็นอะไรกันแน่ "

    " บางทีเราคงต้องหาทางรู้เอง? "

    รอนและเฮอร์ไมโอนี่หันไปมองแฮร์รี่ผู้เสนอความเห็น ถึงแม้วิธีการนั้นจะดูจุ่นจ้านไปเสียหน่อย

    แต่พวกเขาสน? 

    " แล้วจะทำยังไง " 

    " ...ผ้าคลุมล่องหน "

    " ใช่ เราต้องใช้ผ้าคลุมล่องหน! "

    แฮร์รี่เผยรอยยิ้มกว้างเมื่อคิดความคิดสุดบรรเจิดออก เฮิร์มดูไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องแอบออกมายามดึกและแอบเข้าห้องพยาบาลด้วย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไหนล่ะ

    " เข้าไปพร้อมกันเลยไหม? "

    " ไม่ แบบนั้นจะวุ่นวายไป "

    เด็กสาวเริ่มพูดน้ำเสียงกระซิบพอเริ่มคุยกันเรื่องแผนการ

    " งั้นฉัน— " 

    " แฮร์รี่ เธอ " 

    " ห้ะ? " 

    แฮร์รี่และรอนต่างทำสีหน้าไม่เข้าใจกับความคิดของเพื่อนสาว แต่ถ้าเขาดูไม่ผิด เธอดูเหมือนรู้อะไรบางอย่างจริงๆ ตั้งแต่ที่โต๊ะนั่น

    " ทำไมล่ะ ก็ฉัน— "

    " รอน "

    เฮิร์มส่งเสียงให้เงียบลง เสียงโวยวายของรอนใช่ว่าจะเบาซะที่ไหนและตอนนี้คนในโถงก็เริ่มพากันเดินออกมาแล้ว

    " เอาเถอะน่ะ ฉันว่าแบบนั้นก็ไม่แย่เท่าไหร่ " 

    และเด็กสาวก็ส่งสายตามาให้เขา ถึงจะยังไม่เข้าใจ แต่

    " ถ้าเธอว่างั้น ก็คงใช่ " 

    แต่รอนดูจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ คงจะเป็นช่วยเพอร์ซี่มากจริงๆ และต้องการข้อเท็จจริงมาบอกว่าพี่ชายของตัวเองไม่เป็นไร

    " ก็ได้ " 

    " คืนนี้ฉันจะดูต้นทางให้ "

    พวกเขารวมหัวกระซิบกระซาบกันอยู่สามคน ท่ามกลางฝูงชนนักเรียนที่เดินผ่านไปมา มีบางคนที่มองพวกเขาบ้างแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่แล้วเดินผ่านไป แต่ที่ทุกคนรู้แน่ๆ คือ สามแสบวางแผนจะทำบางอย่างกันอีกแล้ว และคงไม่พ้นเรื่อง เพอร์ซี่ วีสลี่ย์​

    " แฮร์รี่ "

    เจ้าตัวละออกหันไปตามต้นเสียงก็เจอเข้ากับวู้ด

    " สวัสดีฮะวู้ด " 

    อีกฝ่ายพยักหน้าและกล่าวกลับ พวกเขามองกันสักพักแล้วเขารู้ได้ในทันทีว่าแววตานั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

    " เอ่อ ฉันแค่จะมาบอกว่าเย็นนี้นายจะพักก็ได้ " 

    " เอ๊ะ? "

    " ...นายสมควรพัก "

    " แต่สุดสัปดาห์นี้เราก็จำเป็นต้องซ้อมแข่งแล้วนะวู้ด " 

    " ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าซีกเกอร์ของเราเก่งอยู่แล้ว " 

    " แต่แบบนั้น— " 

    " อืม...รู้อะไรไหม นี่อาจเป็นการพักที่มีประโยชน์ก็ได้นะ "

    แฮร์รี่ที่ยังดูงงๆ หันกลับไปมองเพื่อนของตัวเอง ก่อนกลับไปมองวู้ดอีกครั้ง แล้วเผยรอยยิ้ม

    " ได้เลย ฉันจะพัก " 

    คำตอบของเขาทำให้อีกฝ่ายยิ้มออก

    " เยี่ยม " 

    " พักให้เต็มที่ พรุ่งนี้เจอกันนะ "

    พอเห็นท่าทีแบบนั้นก็ทำเอารู้สึกผิด ขอโทษนะวู้ด คืนนี้เขาคงไม่ได้พักจริงๆ หรอก แต่ในใจเขาก็เชื่อว่าอีกฝ่ายคงรู้อยู่แล้ว

    " จริงสิแฮร์รี่ วันนี้​ก็มีดอกไม้มาวางนะ "

     

    แฮร์รี่พลิกดอกคัตเตอร์ที่ได้รับมาไปมา เขาเหม่อมองมันเหมือนกำลังตั้งใจระบายสิ่งที่อยู่ในใจกับดอกไม้ดอกเล็กๆ

    เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเพอร์ซี่ทำให้แฮร์รี่ลืมเรื่องคนที่ชอบเอาดอกไม้มาให้ไปเสียสนิท แต่มานั่งคิดๆ ดู ดอกไม้พวกนี้เริ่มมาแปลกที่แปลกเวลาไปตั้งแต่ที่เพอร์ซี่เริ่มต้องเข้าห้องพยาบาลทุกวัน แต่คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็พลันคิดถึงศาสตราจารย์​สเนป คนที่เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายสามารถช่วยพี่ชายเพื่อนสนิทได้ คงได้แต่หวังว่าพวกเขาจะรู้แล้วว่าสิ่งที่เพอร์ซี่เป็นคืออะไร

    " ฮึ้บ! " 

    แฮร์ลุกพรวดขึ้นส่งเสียงให้กำลังใจตัวเอง คืนนี้เขาต้องทำให้เต็มที่ ทันใดก็มีสันหนังสือถูกวางบนศรีษะ

    ตุบ

    " ... " 

    " คุณพอตเตอร์ หวังว่าการที่คุณลุกขึ้นมาทำท่าทางเช่นนี้จะเป็นการบอกว่าคุณสามารถตอบคำถามข้อนี้ได้นะ? " 

    โอเค แต่ตอนนี้เขาคงต้องลงสนามรบกับสเนปเสียก่อน

    " ครับศาสตราจารย์​ " 

     

    แต่แผนที่วางไว้คืนนี้ดันพังไม่เป็นท่า ทุกอย่างดูไม่เป็นใจไปหมด ทั้งเฟร็ด ทั้งจอร์จ ทั้งศาสตราจารย์​ ทำให้เขาหรือแม้แต่เพื่อนทั้งสองไม่สามารถละตัวออกมาได้เลย

    ในใจอยากจะขอโทษวู้ดเป็นพันครั้ง ทั้งๆ ที่พยายามช่วยแท้ๆ

    ถึงอย่างน้อยเขาก็ได้พักจริงๆ ก็ตาม 

     

    วันต่อมา และต่อๆ มา พวกเขาก็ไม่เห็นเพอร์ซี่อีกเลย เขาทั้งสามโดยเฉพาะรอนใจคอไม่ดี แฮร์รี่เริ่มมั่นใจว่าดอกไม้ที่ตนได้รับทุกๆ วันนั้นมาจากพี่ชายเพื่อนสนิท แม้มันจะถูกส่งมาให้ทุกวันเหมือนปกติ แต่มันเริ่มดูแย่ลงเรื่อยๆ เหมือนขาดการดูแล แฮร์มองดอกไม้เหล่านั้นก่อนที่จะวางมันลง และก้าวฝีเท้าเดินออกไปจากห้องตัวเองตรงไปยังสถานที่ที่เพอร์ซี่ได้ปลูกดอกไม้มากมายหลากหลายไว้

    " ... "

    ดวงตาสีมรกตจดจ้องพวกมัน แล้วมองไปรอบๆ หาอุปกรณ์และหยิบสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา ทำการรักษาให้กับเหล่าดอกไม้ที่เริ่มเหี่ยวเฉา เหมือนอย่างที่อยากทำให้กับเพอร์ซี่

    " แฮร์รี่! " 

    " แฮร์รี่ เธออยู่นี้นี่เอง " 

    เสียงคุ้นเคยของเพื่อนสาวปลุกเขาขึ้นจากภวังค์ นี่ผ่านไปไม่รู้เท่าไหร่ที่ตนเอาแต่สนใจพวกไม้ดอกตรงหน้า

    " ฉัน...ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่าพี่ชายของรอนเป็นอะไร " 

    เธอหอบหายใจพยายามพูดออกมาให้รู้เรื่อง แฮร์รี่ตาโตปล่อยมือจากเสียมในมือ ก้าวตรงไปหาเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยดวงตาที่ดูเปี่ยมไปด้วยความหวัง

    " ตามมาสิ " 

    พวกเขาพากันเดินไปยังห้องน้ำหญิงที่เคยไปปลุกน้ำยาสรรพรส และเฮอร์ไมโอนี่ก็หยิบหนังสือท่าทางประหลาดออกมาแล้วเริ่มเปิดหน้าที่มีจำนวนมหาศาลออก

    " ในตอนแรกฉันก็คิดว่ามันบ้ามาก " 

    " แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเพอร์ซี่มันแทบทำให้ฉันไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อ่านไป " 

    เด็กสาวยื่นหนังสือหน้านึงให้กับเขา แฮร์รี่มองมันโดยรวมเสียก่อน และเริ่มแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ มันอธิบายถึงโรคบางอย่างที่แปลกประหลาดอย่างกับคำสาป

    " ฮานะฮากิ คือสิ่งที่เขาเป็น? "

    เฮิร์มพยักหน้าตอบรับ เธอดูยังไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่ก็เชื่อสิ่งที่อยู่บนหน้าหนังสือไปเสียแล้ว

    " หนังสืออธิบายว่ามันคือโรคของคนแอบชอบ จะมีเมล็ดพันธุ์​เติบโตอยู่ในหัวใจ และกลืนกินผู้ที่เป็น " 

    " อาการของมัน คือการสำลอกหรือไอออกมาเป็นกลีบดอกไม้ต่างๆ เพื่อสื่อความหมายบางอย่าง และอาการของมันจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งตาย " 

    แฮร์รี่กลืนน้ำลายกับสิ่งที่ได้ฟัง มันเหลือเชื่อ แต่อาการของเพอร์ซี่ตรงกับสิ่งที่เฮิร์มพูดออกมา

    " วิธีแก้ล่ะ? "

    เด็กสาวหลุบตาลงแล้วพลิกหน้ากระดาษอีกใบให้

    " สารภาพรักกับคนที่ชอบ "

    " ถ้าอีกฝ่ายรับรักเขาจะหาย แต่ถ้าไม่... "

    แฮร์รี่ลืมหายใจ เขารู้คำต่อมาที่จะออกจากริมฝีปากสวยนั้นดี

    " เขาจะตายทันที แต่ถ้าไม่สารภาพ เขาก็จะตายอย่างช้าๆ " 

    เด็กชายผู้รอดชีวิตข่มตาลง และผ่อนลมหายใจออกอย่างยากลำบาก ความรู้สึกบางอย่างมันปวดหนึบขึ้นในจิตใจมากเกินทน

    " ฉันอยากรู้แฮร์รี่ "

    " เธอชอบเพอร์ซี่หรือเปล่า? " 

    " ห้ะ— เดี๋ยว ทำไม!? " 

    แฮร์รี่สับสนตาตื่นใบหน้าร้อนขึ้นสีระเรื่อ ปรับอารมณ์ไม่ทัน

    " ...จำที่พี่แฝดคุยกันได้ไหม " 

    " ฉันคิดว่าคนที่เพอร์ซี่ชอบคือเธอ แฮร์รี่ "

     

    แฮร์รี่นอนไม่หลับ

    โดยปกติหลังจากที่ได้ทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้เหนื่อยหรือเสียเหงื่อ อย่างควิดดิช หรือการดูแลสวนดอกไม้ ควรที่จะทำให้ยิ่งหลับสนิท แต่ไม่ใช่หลังจากที่เขาได้รู้ทั้งเรื่องโรคที่เพอร์ซี่เป็น และทั้งเรื่องที่อีกฝ่ายอาจจะชอบเขา

    พรึบ

    กายบางพลิกหันข้างมองไปยังเพื่อนสนิทตนที่นอนหลับสบายกรนไปตามประสา

    เฮอร์ไมโอนี่บอกว่ารอนต้องไม่รู้เรื่องนี้

    คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ นึกถึงรอนตอนรู้เรื่องทุกอย่างและรู้ว่าพวกเขาพยายามจะปิดบังแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมา รอนห่วงพี่ชายของตัวเองมาก แต่ดันเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    พรุ่งนี้เขามีแข่ง ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ก็รู้ตัวดีว่าไม่ดีแน่ แต่ในค่ำคืนนี้มันทำใจให้ข่มตาหลับยากเสียเหลือเกิน

    " เพอร์ซี่ " 

    เด็กหนุ่มพร่ำเพ้อถึงชายที่ตอนนี้ก็คงยังนอนอยู่ที่ห้องพยาบาล

    แต่มีเรื่องนึงที่แฮร์รี่ยอมรับ เขาสับสน เขาไม่ต้องการให้พี่ชายของเพื่อนตาย ไม่ใช่เพราะเหตุผลกลัวเพื่อนเสียใจหรืออะไร แต่เพราะหากอีกฝ่ายตาย จะเป็นตัวเขาเองที่เสียใจ

     

    และแล้วการซ้อมแข่งก็มาถึง

    แฮร์รี่มาด้วยสภาพที่ไม่ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ถึงกับดีมากเหมือนครั้งก่อนๆ วู้ดพูดปลุกใจเหมือนทุกครั้ง ทำให้เต็มที่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันจะไม่เป็นไร 

    แฮร์รี่ลอบมองเฟร็ดและจอร์จ ก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่วางลงบนหลัง

    " แฮร์รี่ นายทำได้อยู่แล้ว " 

    เป็นวู้ดที่เข้ามาปลอบประโลม อีกฝ่ายไม่รู้อะไรเลยแต่กลับเหมือนรู้ถึงทุกอย่าง

    " ขอบคุณวู้ด " 

    เขาได้รอยยิ้มตอบกลับมา เป็นรอยยิ้มแสนอบอุ่นที่ทำให้สบายใจทุกครั้งที่ได้รับ และในไม่ช้าการแข่งขันควิดดิชก็เริ่มต้นขึ้น

    ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยด้วยดี การซ้อมแข่งครั้งนี้ทั้งสองเล่นกันอย่างแฟร์ๆ ถือเป็นการแข่งขันที่ดี นั่นคือความคิดของทุกคน ก่อนที่ทีมฝั่งตรงข้ามจะตีลูกบลัดเจอร์ใส่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เข้าอย่างจัง มันไม่ผิดกฎก็จริง แต่นั่นทำให้เด็กหนุ่มบาดเจ็บจนสามารถทำให้เล่นต่อไม่ได้

    คนที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนคนแรกคือวู้ด แต่การแข่งขันก็ยังต้องดำเนินต่อไป เขาต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

    แล้วร่างของแฮร์รี่ก็ผ่านตา เด็กหนุ่มเล่นและทำหน้าที่ของซีกเกอร์ต่อทั้งที่ตัวยังบาดเจ็บ สายตาพร่าพยายามปรับโฟกัสมองหาลูกโกลเด้นสนิช มันบินรอบตัวและพยายามหยอกล้อซีกเกอร์ทีมตรงข้าม ซีกเกอร์ทั้งสองมองตามก่อนบินไล่จับมัน มีครั้งสองครั้งที่ลูกบลัดเจอร์ลอยมาทางแฮร์รี่อีกครั้ง โชคดีที่คราวนี้มีเฟร็ดและจอร์จคอยกันไว้ แต่เป็นโชคร้ายของซีกเกอร์ฝั่งตรงข้าม เพราะมันดันไปโดนอีกฝ่ายจนล่วงลงไปแทนโดยไม่ได้ตั้งใจ

    แฮร์รี่ผู้บาดเจ็บก็ไม่มีเวลามากพอจะเอ็ดพี่แฝดทั้งสองบินไล่ลูกสนิชฝ่าฝูงคนในสนาม

    เขายื่นมือไปจนสุดแขนจนอาการบาดเจ็บปวดแปร๊ดขึ้นมา แต่เขาก็คว้ามันไว้จนแรงเหวี่ยงพาให้ไม้กวาดหมุน แฮร์รี่กอดด้ามไม้ไว้แน่นจนมันหยุดคงที่ เด็กหนุ่มหอบหายใจก่อนที่จะค่อยๆ เงยใบหน้าขึ้นมองลูกสนิชในมือ รอยยิ้มที่ไม่ได้ปรากฏมานานเผยออก พร้อมมือที่ชูลูกโกลเด้นสนิชขึ้นฟ้า

    " เฮ้!!! " 

    เสียงร้องตะโกนดีใจดังขึ้นพร้อมเสียงนกหวีดบอกจบการแข่งขัน ฮอกวอตส์เป็นฝ่ายชนะ

    แฮร์รี่รู้สึกสบายใจขึ้นมาก็สลบลงไปเกือบจะทันที แล้วไม้กวาดของเขาก็ล่วงลงจากท้องฟ้า โดยดีที่ตอนล่วงลงมาไม่มีบาดแผลเพิ่มเติม แต่เขาก็ยังคงบาดเจ็บมากพอที่จะต้องไปห้องพยาบาล

     

    เมื่อลืมตาตื่น สิ่งแรกที่เห็นก็เป็นเพียงเพดานของห้องพยาบาลที่คุ้นชิน ความมืดที่มีแสงสลัวสีส้มทำให้เขารับรู้ว่านี่คงตกดึกแล้ว เขาลุกขึ้นหยิบแว่นตามองไปรอบๆ แล้วไม่เจอใคร จึงล้มตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมถอดถอนหายใจ และรอยยิ้มก็ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง

    " ฟื้นแล้วเหรอ— แค่กๆ "

    เสียงทักแหบพร่าทำให้แฮร์รี่รีบหันขวับไปหา ก็เจอกับ เพอร์ซี่ วีสลี่ย์ คนที่เขาอยากเจอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ และถ้าตาเขาไม่ฝาด แฮร์รี่เหมือนเห็นดอกไม้กระดาษที่ตัวเองเคยทำให้อีกฝ่ายกำลังถูกใช้เป็นที่คั่นหนังสือ

    แต่ตอนนี้ชายตรงหน้ากลับกำลังไอออกมาพร้อมกลีบกุหลาบสีเหลือง

    " เพอร์ซี่!? " 

    ใบหน้าเคร่งขรึมที่มักขมวดคิ้วจนใบหน้าย่นหยุดไอและหันมามองเด็กหนุ่ม 

    อ่า...คิดถึงใบหน้าย่นๆ นี่จัง

    " เห็นว่านายเป็นคนช่วยดูแลดอกไม้ของฉัน? " 

    แต่เสียงนั้นแหบและแผ่วลงกว่าเดิมจากที่เคยได้ยินครั้งล่าสุดมากจนทำให้เขาใจหวิวตามจนต้องลอบกลืนน้ำลาย และความรู้สึกอื่นที่ตีขึ้น

    " พี่...พูดเยอะๆ จะดีเหรอ? "

    เพอร์ซี่ขมวดคิ้วลงจดจ้องมาที่แฮร์รี่

    " นายรู้ " 

    แฮร์รี่เพียงพยักหน้า ทันใดคนตรงหน้าก็ไอออกมาอย่างหนักเป็นกลีบดอกบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก มันเป็นสีขาวแต่ส่วนโคนถูกไล่ด้วยสีเหลืองอ่อนๆ

    " ... "

    และเพอร์ซี่ก็หยุดไอ ยกแขนขึ้นเช็ดริมฝีปากและก็เงียบไปเลย

    " เฟร็ดกับจอร์จบอก? " 

    " เปล่า เฮอร์ไมโอนี่หาเจอในหนังสือน่ะ " 

    ใบหน้าของอีกฝ่ายดูเคร่งเครียดถนัดตา ถึงปกติจะชอบขมวดคิ้วอยู่แล้วก็ตาม มือหยิบน้ำขึ้นดื่มก่อนเอ่ยต่อ

    " งั้นพวกนายคงรู้แล้วว่าฉันอยู่ได้อีกไม่น— " 

    " พูดออกไปสิฮะ " 

    " ห้ะ " 

    " คำสารภาพรักน่ะ " 

    เพอร์ซี่อ้าปากค้าง สิ่งที่ได้ยินมันทำให้หัวสมองของเขาประมวลผลไม่ทัน เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม

    " กับใคร " 

    " พี่ชอบใครล่ะ? " 

    ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน เขาสะอึกไปหลังคำถาม ไม่กล้ามากพอที่จะตอบออกไป สายตาเริ่มไม่อยู่สุขมองไปรอบๆ ถึงจะรู้ตัวดีว่ามีแต่พวกเขา

    " ...ไม่ "

    " ไม่จำเป็นต้องบอก " 

    และบรรยากาศรอบด้านก็เงียบลง เพอร์ซี่เริ่มรู้สึกคันคอ นั่นเป็นสัญญาณว่ามันกำลังเกิดขึ้น

    " ไม่ได้นะ! " 

    รู้สึกตัว ร่างเล็กของเด็กหนุ่มก็ลุกจากเตียงตัวเองโดยไม่สนอาการบาดเจ็บ และระเบิดออกมาด้วยใบหน้าแข็งกร้าวที่เหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ

    " จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ " 

    " ผมรู้ว่าถ้าคนที่ชอบปฏิเสธจะเป็นยังไง " 

    " แต่ถ้าพี่ตายไปทุกคนจะรู้สึกยังไง ทุกคนจะเป็นยังไง ดอกไม้ของพี่จะเป็นยังไง และความฝันของพี่ล่ะ " 

    ผมจะเป็นยังไง

    เขาไม่กล้ามากพอที่จะพูดมัน

    แฮร์รี่สูดกายใจเข้าลึกๆ เดินไปข้างๆ เตียงเพอร์ซี่ เท้าตัวเองไว้ระหว่างตัวอีกฝ่าย รัวคำถามมหาศาลที่อยู่ในใจ คำตอบแบบนั้นเหมือนเป็นตัวจุดชนวนระเบิดอารมณ์ของเขาออกมาจนคนตอบเหวอไปเลย

    " พี่จะทิ้งมันจริงๆ เหรอ "

    " ถึงพี่จะรู้สึกว่าไม่มีโอกาส แต่มันก็ดีกว่าที่ได้บอกมานะ "

    เพอร์ซี่ยกหลังมือขึ้นป้องปากไว้ กักเก็บความคันคอแต่มันก็ล้นถลักออกมา เขาเริ่มไอหนักอีกครั้งจนแฮร์รี่ผงะ เปลี่ยนไปโอบคนตรงหน้าไว้ ลูบหลังช่วยให้ผ่อนคลาย เสียงไอของเพอร์ซี่มันรุนแรงจนทำให้หัวใจของแฮร์รี่กระตุกขึ้นๆ ลงๆ ทุกครั้งที่ส่งเสียงออกมา เขาไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดี

    " ไม่ ไม่ได้...ฉันบอก อ๊อก ไปไม่ได้ " 

    " แค่กๆ เป็นแบบนี้ ดีที่สุดแล้ว— " 

    " เพอร์ซี่ " 

    แฮร์รี่เรียกด้วยความเป็นห่วง แต่คนในอ้อมแขนกลับกำลังพยายามผลักไสเขาออกให้ห่าง

    " ออก...ออกไป ปล่อยฉัน ไป— " 

    " ฉันไม่อยากให้นายเห็น " 

    เพอร์ซี่ยังคงไอออกมาอย่างหนักหน่วง กลีบดอกก็ไหลทะลักออกมาจากปากคนตรงหน้า มันมากมายหลายชนิดจนพาสับสนว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไง ความรู้สึกเพอร์ซี่คงกำลังสับสนตามดอกไม้พวกนั้น

    " ไม่เพอร์ซี่ ผมจะไม่ปล่อยพี่ไว้ " 

    ยิ่งไอออกจนตัวงอ ร่างกายที่สั่นเทานั้นเกาะเตียงไว้แน่น แค่เห็นก็รู้ว่าทั้งกายนั้นเกร็งไปหมด แฮร์รี่เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังคลอเบ้า เขาเองก็ตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากเห็นคนตรงหน้ากำลังทรมาณเช่นนี้ มันทำหัวใจเขาเจ็บปวดไปหมด

    " พ...พอตเตอร์ " 

    " ออก— " 

    " ไม่ " 

    " —ไป " 

    " เพอร์ ได้โปรด " 

    " แค่ก— ไปซะ! " 

    " พี่เพอร์ซี่!

    ริมฝีปากเขาทั้งสองแนบชิดกัน แฮร์รี่จับตัวคนตรงหน้าไว้ไม่ให้ขยับหนี แต่ก็คงหนีไม่ได้เพราะร่างตรงหน้านิ่งช็อคไปเสียแล้ว เขาค้างไว้เช่นนั้นสักพักก่อนที่จะขยับตัวโอบรอบคอและยิ่งย้ำจูบให้แนบชิดขึ้นและมากขึ้น จูบนั้นกลิ่นเหมือนดอกไม้ผสมสนิม แต่เขาก็ไม่คิดจะรังเกียจมัน สักพักแฮร์รี่ถึงจะผละจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง

    มันช่างเป็นจูบหอมหวานที่แสนมหัศจรรย์

    เพียงแค่จุมพิตเดียวเท่านั้น อาการไอของเพอร์ซี่หายไปทันตา

    " ผมชอบพี่ "

    " ฉัน...ก็ชอบนาย " 

    พวกเขาสบตากันอย่างมีความหมาย จ้องลึกลงไปในนัยน์ตาของกันและกัน แล้วเขาทั้งสองก็จูบกันอีกครั้ง และอีกครั้ง

     

    " ได้ข่าวว่าพี่เพอร์ซี่เขาหายป่วยแล้ว "

    คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงเป็นคนเปิดหัวข้อสนทนา ส่วนรอนกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วและกำลังยัดไก่เข้าปาก มากจนเหมือนแฮมเตอร์ที่กำลังยัดเมล็ดทานตะวัน

    " อ๋อใอ่ อ่างอับอนอะอนอับออนอ่วยแอ่ะ "

    " โรนัลด์ กินให้เสร็จก่อน "

    เฮิร์มเอ็ดรอนด้วยอาการปลง แต่เจ้าตัวกินไก่หาสนใจไม่ เด็กสาวจึงละความสนใจมาสนใจเพื่อนชายอีกคนแทน

    " แถมฉันก็ได้ข่าวว่านายกับเพอร์ซี่เป็นแฟนกันแล้ว คงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดหรอกนะแฮร์รี่? "

    " อะไร? "

    " ก็เธอคงไม่ได้บอกชอบแค่เพราะกลัวพี่เขาตายหรอกนะ! "

    แฮร์รี่กระพริบตามองเพื่อนสาวตาปริบๆ ก่อนที่จะยกรอยยิ้มและหัวเราะออกมาคิกคักกับความเป็นห่วงของเธอ

    ก่อนจะถอนหายใจออกทั้งรอยยิ้ม และเด็กชายผู้รอดชีวิตก็หันไปหาแฟนหนุ่มจอมเคร่งครัดที่ยังสนใจแต่หนังสือและดอกไม้กระดาษของเขา แฮร์รี่เท้าคางมองเพอร์ซี่ด้วยความหลงใหล แล้วส่ายหน้าตอบเบาๆ

    " ...ไม่หรอก ไม่มีวัน "

     

    @roseMary_88

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×