ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] SuJu Yaoi

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] >KiHae< My Everything Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 51


    .

    .

    .

     

                คิบอม

     

                ตึง!

     

                เสียงสะท้อนดังก้องไปทั่วห้อง ชายหญิงคู่ที่กำลังนัวเนียกันอยู่ก็ผละออกจากกัน กระเป๋าสีฟ้าของทงเฮตกลงบนพื้นไม้ เนื่องจากทงเฮได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแล้ว คิบอมไม่ได้ทำอะไรนอกจากจะนั่งอยู่ที่เดิมและมองทงเฮอย่างเฉยชา ทงเฮอยากจะเดินออกไปจากห้องนี้ใจแทบขาด แต่ขาเจ้ากรรมก็ดันก้าวไม่ออก นอกจากจะก้มหน้าลงมองพื้น น้ำตาที่ไม่ควรจะไหลคลออยู่ในดวงตา

     

                เอ่อ... ขอโทษนะที่ขัดจังหวะ ขอตัว แล้วทงเฮก็รีบคว้ากระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้นและวิ่งออกไปทันที

     

                ตึก ตึก ตึก

     

                ฮือ พี่ฮีชอล ทงเฮวิ่งเข้ามากอดพี่ชายหน้าสวยที่กำลังนั่งสบายอยู่บนโซฟา น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย

     

                เฮ้ย ทงเฮ เป็นอะไร ใครทำอะไรแก ฮีชอลร้องตกใจที่เห็นทงเฮร้องไห้แล้ววิ่งเข้ามากอดตน

     

                ฮึก รู้อะไรมั้ย ฮึก ผมน่ะ ฮือ ผมน่ะ ...เจ็บ อึก ทงเฮกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้น พยายามบอกกับฮีชอลให้เป็นคำพูดที่ฟังรู้เรื่องมากที่สุด

     

                พี่รู้ ทงเฮ พี่รู้ พูดพลางกอดปลอบน้องชายในอ้อมอกของตัว

     

                ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่ไม่ได้เช็ดล้างมันออกไป ดวงตากลมโตหม่นหมองและขนตาเป็นแพเปียกชื้น ทงเฮนั่งสงบอยู่บนโซฟาเดียวกับฮีชอล หลากหลายคำถามที่ฮีชอลถาม ทงเฮไม่ได้แม้แต่ปริปากตอบเลยซักนิด และตอนนี้ก็มีเพียงฮีชอลและทงเฮเท่านั้นที่อยู่ในห้องนี้

     

                พี่คิดว่าแกคงไม่พร้อม พร้อมเมื่อไหร่ บอกพี่ด้วยนะ

     

                วันนี้ผมคงอยู่ที่นี่ทั้งวันนะพี่ ไม่อยากเรียน หลังจากเงียบมานาน ทงเฮก็เอ่ยปากพูด

     

                อืม

     

                เจ๊!!!” เสียงตะโกนดังมาจากนอกห้อง ไม่นานต้นเสียงก็โผล่หน้าเข้ามา

     

                อ้าว มีอะไรหรอเรียววุค

     

                แฮ่ๆ ไม่มีอะไร ผมแค่จะมาอยู่ที่นี่อ่ะ พอดีวันนี้ไม่มีเรียนแต่อยากจะมา ว่าแล้วก็เดินมานั่งที่โซฟาที่ทงเฮกำลังนั่งเหม่ออยู่

     

                คิมเรียววุค ชายหนุ่มตัวเล็กเสียงดี เล่นดนตรีเก่ง แต่งเพลงเยี่ยม ผมซอยสั้นเปิดหูย้อมเป็นสีน้ำตาล เป็นอีกคนที่หน้าค่อนข้างจะหวาน แถมยังตัวเล็กอีกต่างหาก ทำให้ดูเหมือนผู้หญิงไปใหญ่ ปี 2 คณะดนตรีสากล เอกเปียโน มีพี่ชายคนละแม่อยู่หนึ่งคน

     

                งั้นแกก็อยู่เป็นเพื่อนทงเฮมันด้วยแล้วกัน คาบนี้ฉันมีเรียนอ่ะ เดี๋ยวมาใหม่ หลังจากกล่าวจบฮีชอลก็เดินออกไป

     

                พี่ทงเฮ เป็นอะไรรึเปล่าครับ เรียววุคถาม

     

                หือ? พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่คิดอะไรนิดหน่อย

     

                แล้วพี่ไม่มีเรียนหรอครับ

     

                จะว่ามีมันก็มีนะ แต่วันนี้พี่ไม่มีอารมณ์จะเรียน

     

                เรียววุค!” เสียงนุ่มดังขึ้นอีกครั้งจากหน้าห้อง ทั้งผู้ถูกเรียกและผู้ที่ไม่ได้ถูกเรียกต่างก็หันไปมอง ก็พบกับร่างสูง

     

                อ้าว ซีวอน!”

     

                ชเว ซีวอน ชายหนุ่มรูปหล่อบ้านรวย รูปร่างสูงโปร่ง ปี 2 คณะธุจกิจการบิน และยังพ่วงท้ายการันตีความหล่อด้วยการเป็นเดือนคณะ

     

                พี่ฮีชอลไม่อยู่หรอ ถามพลางกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง

     

                เพิ่งออกไปเมื่อกี้ เห็นว่ามีเรียน

     

                งั้นเหรอ ขอบใจ ว่าแต่พี่ทงเฮเค้าเป็นอะไรไปน่ะ ดูเหม่อๆ ซีวอนบอกประโยคแรกด้วยเสียงปกติ แต่ประโยคหลังหันมากระซิบกับเรียววุคแล้วก็มองเหล่ๆไปยังทงเฮ

     

                ไม่รู้อ่ะดิ แต่เห็นบอกว่าไม่อยากจะเข้าเรียน เรียววุคบอกแล้วยิ้มแห้งๆให้

     

                อ๋อ เอ่อ พี่ทงเฮครับ ไปทานข้าวกันเถอะ นะๆ หลังจากที่ซีวอนตอบเรียววุคแล้วก็หันหน้ามาสะกิดทงเฮแล้วชวนไปทานข้าว

     

                ไปสิ กำลังหิวพอดี ทงเฮตอบแล้วเดินนำออกไปก่อน ซีวอนก็ต้องรีบดึงเรียววุคตามไปด้วยทันที

     

                โรงอาหาร

     

                เฮ้! ซีวอน เรียววุค ทงเฮ ทางนี้ๆ เสียงคนร้องบอกแล้วโบกมือหยอยๆให้

     

                อ้าวเจ๊ ไหนว่าจะไปเรียนไง เรียววุคถามแล้วนั่งลงบนโต๊ะที่มีพี่ๆเค้านั่งอยู่ก่อนแล้ว

     

                พอดีห้องพี่อาจารย์เค้าไม่สอน เลยลงมากินข้าวกัน ลีทึกตอบแทนฮีชอลที่กำลังนั่งโซ้ยรา มยอนอยู่

     

                ลีทึก หรือ ปาร์ค จองซู เพื่อนสนิทของฮีชอล ชายหนุ่มตาสวยราวนางฟ้า ปี 4 คณะเดียวกับฮีชอล

     

                ว่าจะโทรไปเรียกแล้วล่ะ แต่ก็ดี ลงมาเจอกันก่อน ไม่เปลืองตังค์ ว่าเสร็จก็ก้มหน้าโซ้ยรามยอนต่อ ฮีชอลก็ยังเป็นฮีชอลอยู่วันยันค่ำ งกยังไงงกอย่างงั้น

     

                พี่ทงเฮ ไปซื้อข้าวกัน เรียววุคฉุดทงเฮให้ลุกไปซื้อข้าวด้วยกัน ทงเฮพยักหน้าน้อยๆ

     

                อ๊า~ กินซุปดีกว่าเนอะ พี่เอามั้ย เรียววุคเดินมาถึงหน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง และชะโงกหน้าดูรายการอาหาร จากนั้นก็หันหน้าไปถามทงเฮ

     

                เอาสิ แต่ของพี่ไม่ใส่...

     

                ต้นหอม!” ยังไม่ทันที่ทงเฮจะพูดต่อให้จบ ก็มีเสียงคุ้นหูดังขึ้นมาข้างหลัง ทงเฮและเรียววุคต่างหันไปมองก็ต้องตกใจ ชายหนุ่มที่ทงเฮไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด

     

                คิบอม!” เป็นเรียววุคซะเองที่พูดอย่างตกใจ ทงเฮเพียงแต่เสหน้าไปทางอื่นเพื่อทำเป็นไม่สนใจ

     

     

                คิบอม ซุปของฉันไม่ใส่ต้นหอมนะ มันเหม็นเขียวอะ

     

                ถึงว่าตัวยังเล็กอยู่เหมือนเดิม เพราะไม่กินผักนี่เอง ฮะๆ

               

                คิบอม อย่าล้อฉันสิ เดี๋ยวงอนซะเลย

     

                โอ๋ๆ คร๊าบ ไม่แกล้งแล้วคร๊าบ

     

    ...

     

                ทำไม... ต้องมาทำเป็นรู้เรื่องเค้าด้วย

     

                หลังจากที่ทงเฮและเรียววุคได้ซุปที่สั่งไว้แล้ว ทงเฮก็รีบจ้ำอ้าวมาที่โต๊ะทันที ทำเอาเรียววุคต้องรีบวิ่งตามมา

     

                พี่อ่ะ เดินเร็วชะมัด ผมวิ่งตามยังแทบจะไม่ทัน เรียววุคบ่น ทงเฮหัวเราะน้อยๆแล้วก้มหน้าลงทานซุป

     

                วิ่งหนีอะไรหรอทงเฮ ลีทึกถาม

     

                อ๋อ เปล่าหรอกครับ แหะๆ

     

                ตึง!

     

                เสียงถ้วยกระทบลงบนโต๊ะ พร้อมกับคิบอมที่กระแทกตัวลงตาม มองทงเฮด้วยสายตาที่เฉยชา ทงเฮไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเพราะรู้ว่าน่าจะเป็นคิบอม เลยเอาแต่นั่งทานซุปอยู่เฉยๆ

     

                ไม่คิดจะทักกันหน่อยหรอทงเฮ คิบอมพูด ทงเฮเงยหน้าและมองคิบอมอย่างเงียบๆ

     

                สายตาที่ทงเฮมองคิบอม ... ยังหลงเหลือความไม่เข้าใจ

                สายตาที่คิบอมมองทงเฮ ... ยังหลงเหลือความเมินเฉย

     

                ทั้งโต๊ะ ไม่มีใครพูดอะไร ลีทึก ฮีชอล ซีวอนและเรียววุคต่างมองหน้ากันและกันอย่างเลิ่กลั่ก ส่วนคิบอมและทงเฮจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครคิดจะละสายตา

     

                ~You are my everything, nothing your love won't bring ~

     

                ฮัลโหล... ครับ... ได้เลย... ครับ แล้วเจอกัน

     

                คงจะดีที่เสียงโทรศัพท์ช่วยให้ความอึดอัดบนโต๊ะน้อยลง และเสียงโทรศัพท์นั้นเป็นของทงเฮ ลีทึก ฮีชอล ซีวอนและเรียววุคค่อยๆถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอก ส่วนทงเฮก็ไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มให้ฮีชอลและลุกออกไป คิบอมจิ๊ปากอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนจะปรายตามองร่างบางอย่างเหยียดหยาม เพราะคิดว่าร่างบางคงจะต้องนัดผู้ชายไว้อีกแน่ จนพี่ๆและเพื่อนๆกำลังคิดอยู่ว่า ...

     

                ทงเฮไปทำอะไรให้มันนักหนาว่ะ!?

     

                แล้วมันจะมายุ่งกับทงเฮให้ได้อะไรขึ้นมาเนี่ย!

     

                ฉันล่ะสับสนกับใจแกจริงๆคิบอม

     

                สรุปแกคิดยังไงกับทงเฮกันแน่

     

    .

    .

    .

     

                ณ ศูนย์การค้าย่านเมียงดง

     

                ผู้คนเดินขวักไขว่สวนกันไปมามากมาย ทงเฮก็เป็นหนึ่งที่เดินไปมาในนั้นเช่นกัน เมื่อได้รับโทรศัพท์เมื่อสักครู่แล้ว ทงเฮก็รีบขึ้นรถมาที่นี่ เพื่อที่จะมาหาใครคนหนึ่ง ไม่นานทงเฮก็มาถึงยังสถานที่นัดหมาย นั่นคือร้านไอศกรีมร้านหนึ่ง ตกแต่งด้วยแนวน่ารัก ประดับด้วยลูกกวาดหลากหลายสีสัน โต๊ะที่ใช้นั่งทานเครื่องดื่มและของหวานเป็นโต๊ะกระจกกลม กลางโต๊ะถูกวางด้วยแจกันดอกทิวลิปโต๊ะล่ะหนึ่งดอกและโต๊ะล่ะสี สร้างความประทับใจให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ไม่น้อย เพราะแต่ละสี จะบอกถึงสีละความหมายเลยทีเดียว

     

                หวัดดีฮะพี่แจจุง เสียงทงเฮทักบุคคลที่นัดเค้ามาเจอ

     

                ยองอุน แจจุง หรือ คิม แจจุง ชายหนุ่มหน้าหวาน ผิวขาวเปล่งประกาย(เพราะใช้ลักส์..ไม่เกี่ยว!) ผมสีดำยาวประบ่า ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านไอศกรีมแห่งนี้

     

                มาแล้วหรอทงเฮ มานั่งนี่ๆ แจจุงหันไปตามเสียงเรียก เมื่อเห็นว่าเป็นทงเฮก็รีบกวักมือเรียกให้มานั่งกับตนที่โต๊ะมุมร้าน

     

                มีอะไรให้ช่วยหรอพี่

     

                คือว่า... พี่อยากจะจัดรูปแบบร้านใหม่ เห็นเราเป็นคนสร้างสรรค์เลยอยากจะให้ช่วยออกความคิดหน่อย แจจุงพูดยิ้มๆ

     

                อ๋อ ได้เลยพี่ พี่ต้องการแบบไหนล่ะ

     

                อืม... พี่อยากได้แบบ... คลาสสิคๆหน่อยๆอะ แต่ขอปนหวานๆด้วยนะ เพราะร้านพี่ขายพวกของหวาน แล้วดอกไม้ก็อยากได้ที่มันดูมีความหมาย

     

                เอ๋? คลาสสิคงั้นหรอ? ทงเฮพูดพลางทำท่าใช้ความคิด

     

     

                นี่ทงเฮ รู้มั้ย? ผมน่ะ ชอบสีขาว น้ำตาลมากเลยนะ

     

                ทำไมหรอคิบอม

     

                มันเหมือนเอาของที่ไม่เหมือนกันมารวมกันน่ะ

     

                ของที่ว่านั่นคืออะไร

     

                ความอบอุ่น และความคลาสสิคไงล่ะ ดูดีใช่ม้า?

     

                ฉันว่าเอาลองเอาสีชมพูมาใส่ด้วยท่าจะสวยนะ

     

                เพราะมันหวานเหมือนทงเฮใช่มั้ย?

     

                บ้าหรอคิบอม

     

    ...

     

                ทงเฮ ทงเฮ! ไอ้น้องบ๊อง!” แจจุงร้องเรียกทงเฮที่กำลังเหม่ออยู่

     

                ห๊ะ หา อะไรพี่ ทงเฮทำหน้าเหรอหรา ทำให้แจจุงต้องหัวเราะออกมาน้อยๆ

     

                สรุปคิดออกรึยัง เห็นเงียบซะตั้งนาน

     

                อืม ผมคิดว่า.... ส่วนดอกไม้ ไม่ว่าจะใช้ดอกอะไร มันก็สวยเหมือนกันหมด อยู่ที่ว่าเราจะให้ความหมายกับมันได้ดีแค่ไหนทงเฮพูดออกมาตามความคิด แจจุงนั่งคิดตามและยิ้มอย่างดีใจ

     

                ขอบคุณนะทงเฮ พี่ว่าจะปิดร้านซัก2อาทิตย์ เพื่อทำร้านใหม่นี่แหละ แต่ว่างๆก็เข้ามาหาได้นะ แจจุงกล่าวขอบคุณทงเฮและจัดแจงโทรไปบอกกับทางร้านที่รับตกแต่งสถานที่เพื่อที่จะทำรูปแบบร้านใหม่

     

                งั้นผมไปแล้วนะพี่ นี่ก็ออกมานานแล้ว พี่ๆคงเป็นห่วง บ๊ายบายพี่แจจุงว่าเสร็จทงเฮก็เดินออกจากร้าน และขึ้นรถกลับมหาลัย

     

                มหาวิทยาลัยซึลกิ ห้องของฮีชอล

     

                ตอนนี้เป็นเวลาเรียนชมรมของมหาลัย นักศึกษาทุกชั้นปีต่างก็เข้าชมรมของตัวเอง ชมรมของฮีชอลก็มีคนเข้าไม่น้อย เหตุเพราะหน้าตาของประธานชมรมและรองประธานชมรมที่หน้าตาสวย นั่นคือฮีชอลและลีทึกนั่นแหละ นอกจากนั้นแล้ว ฮีชอลยังลงชื่อให้เพื่อนๆและน้องๆที่อยู่ในกลุ่มเค้าให้เข้าชมรมนี้ให้หมด จนทำให้ทุกคนที่ว่านั่นไม่ต้องกระวีกระวาดหาชมรมเอง แต่มีบางคนที่อยากจะอยู่ชมรมอื่นด้วย เลยไปลงชื่อ ฮีชอลก็ไม่ว่าอะไร ส่วนฮันกยองก็มารวมอยู่ที่ชมรมของฮีชอลด้วย ทั้งๆที่มีชมรมเป็นของตัวเอง แต่เค้าก็ไปเยี่ยมและแวะดูช่วยเหลือบ่อยๆ

     

                ทงเฮ ไปไหนมาห๊ะ ไม่ยอมเข้าเรียน เมื่อทงเฮเดินเข้ามาในห้อง ฮยอกแจที่เรียนห้องเดียวกันก็ปรี่เข้ามาถามทงเฮ

     

                โทษๆ พอดีวันนี้ฉันไม่อยากเรียนอะ แล้วฉันก็เพิ่งไปหาพี่แจจุงมา ทงเฮตอบแล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็ก

     

                ไปทำไม?” ซองมินที่นั่งอยู่ด้วยถาม ซองมินสมัครชมรมทำอาหารด้วย เพราะเค้าชอบทำอาหาร (ที่เกี่ยวกับฟักทอง)

     

                หลังจากนี้สองอาทิตย์เดี๋ยวพวกนายก็รู้เอง ทงเฮตอบแบบมีเงื่อนงำทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องเล็กนั่งมองหน้ากันไปมา แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร (ชมรมฮีชอลมี2ห้อง ห้องหนึ่งเป็นของฮีชอลเอง ส่วนอีกห้องเป็นของสมาชิกชมรม)

     

                อะไรของมัน ฮีชอลและคนอื่นๆที่อยู่ในห้องนี้ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียว

    2BC

    - - - - - - - - - -

    คุยกันหน่อยยยยย

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

    เราคิดว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้ว

    เราขอตอนต่อไปถึงเม้นที่ 10 นะคะ

    เจอกันน๊า~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×